นักเขียนหน้าใสปี9 มันเกิดอะไรขึ้น?
ตั้งกระทู้ใหม่
มีเปลี่ยนกฏใหม่หมด
มีคนถอนตัว สละสิทธิ์
วันแรกที่ลงผลงานครบ 20 เรื่องมีหลายผลงานโดนตำหนิว่าไม่ดี
มีคนทำผิดกฏโดนตัดสิทธิ์
มีนักเขียนที่โดนด่าว่าก็อปแต่ความจริงไม่ได้ก็อป
ไหนจะรางวัลที่เหลือสองอันดับ
พร้อมทั้งคำชี้แจ้งที่บอกว่าไม่มีผลงานไหนผ่านเกณฑ์ชนะเลิศได้
ไม่มีเรื่องไหนขึ้นมาเป็นที่หนึ่งได้เลยงั้นเหรอ?
#ศูนย์รวมแห่งความดราม่า
19 ความคิดเห็น
แอบรู้สึกแปลกๆเรื่องรางวัลที่ 1 ไม่มีใครผ่านเกณฑ์นะคะ เพราะกรณีนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เเละจำได้ลางๆว่า ตอนอ่านกติกาไม่เคยมีใครมาชี้เเจงว่า "เกณฑ์" คืออะไรอย่างเป็นรูปธรรมอ่ะ
ต้องได้คะเเนนเท่านี้ๆคือผ่านเกณฑ์อะไรเเบบนี้ก็แปลกๆนะ เพราะมันไม่มีกฏข้อนี้มาตั้งเเต่เเรก
ต่อให้กรรมการมาเปิดคะเเนนให้ดูทีหลังก็เถอะ มันก็ยัง 'แปลกๆ' อยู่ดี
เราลงความเห็นว่าผลการตัดสินคลุมเครือค่ะ ไม่ make sense
นักเขียนเองยังงงเลยค่ะ ตอนนี้ช็อกมาก อยากรู้คำว่าเกณฑ์เหมือนกันค่ะ T_____T
ใช่ไหมคะ? คือถ้าจะเอามาตัดสินกันอย่างโปร่งใส
เราลงความเห็นว่า "เกณฑ์" ที่เอามาอ้างว่าเป็นตัววัดเนี่ย....จะต้องบอกกันตั้งเเต่เเรกนะคะ
อันนี้เป็นเรื่องสากลมากๆ
เราเองก็ไม่ทราบมาก่อนเหมือนกันค่ะว่ามี "เกณฑ์" นี้
เราอยากทราบความจริงมากค่ะ อยากให้มันกระจ่างกว่านี้
ฟังดูแล้วเหมือนจะเอางานเด็กๆ ไปเป็นไกด์งานงัยไม่รู้อ่ะ
ตกลงเอาเกณฑ์หรือโหวดเป็นตัวตัดสินอ่ะ จะใช้เกณฑ์ก็น่าจะกำหนดออกมาให้ชัดเจน ส่วนผลโหวดให้เป็นเพียงแค่ไม่ประดับให้ดูดีหรือมีคนติดตาม(ธุรกิจเยอะไปป่ะ) เราเชื่อว่าผู้ส่งผลงานเขาประกวดทุกคนก็หวังชนะอ่ะ แล้วอยู่ๆ มาบอกว่าไม่มีรางวัลที่หนึ่งเนื่องจากผลงานไม่ถึงเกณฑ์ งงหนักมากกกกกกกก เพราะไม่รู้ว่าต้องไปอ่านหลักเกณฑ์ตรงไหน เงิบซิค่ะ
มีการอธิบายให้ผู้เข้าประกวดรู้ก่อนหรือเปล่าว่ามีคะแนนซ้อนอยู่ ด้วย หรือว่ามีเกณฑ์การตัดสินเพิ่มขึ้นอีกสำหรับรางวัลที่ 1 ถ้าไม่มีการอธิบายถือว่าไม่มีสปริตริดเลย และใช้เหตุผล ไม่มีอันดับที่หนึ่งเนื่องจากไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานฟังดูเหมือนผู้เข้าประกวดทั้งหมดไม่มีมาตรฐานเลย แล้วกรรมการคัดเข้ามาได้อย่างไร ตั้ง 20 คน
ไม่มีค่ะ ทางนักเขียนก็เข้าใจว่าเอาสามอันดับที่คะแนนสูงสุด ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีเกณฑ์ของอันดับหนึ่ง
เอ้....ทำธุรกิจหรือเปล่า อ่ะ แจ่มใส หลอกให้คนเข้ามาโหวดหรือปั่นคิดธีมนิยายแล้วให้เด็กรุ่นใหม่มาเป็นไกด์ แล้วก็คัดทิ้ง น่าเกลียดอ่ะ
แจ่มใสให้เหตุผลว่านักเขียนไม่ผ่านมาตรฐานของแจ่มใส ก็แปลกใจในเหตุผลนี้ ผู้เข้าแข่งขันหน้าใหม่ทั้งนั้นบางคนอายุ 10ปีกว่าๆเอง จะวัดกันตรงไหนให้เข้าไปถึงขั้นนักเขียนทั่วไปไปเลย คงไม่ใช่แล้ว ประกวดเสร็จจะเอามาเขียนนิยายขายเลยรึงัย ไม่ต้องอบรมกันอีกเหรอ.... ก็ต้องเสียใจ และขอให้ผู้เข้าประกวดปลงกับการประกวดครั้งนี้ เพราะพูดอะไรไม่ได้ เนื่องจากไม่ผ่านมาตรฐาน งง...งง...งงงงงงกับ..งง
ขออนุญาตตอบนะคะ ที่ว่า 'ประกวดเสร็จจะเอามาเขียนนิยายขายเลยรึงัย ไม่ต้องอบรมกันอีกเหรอ.... ' หลังจากแข่งเสร็จคนที่ได้ตีพิมพ์หรือที่ได้เป็นนักเขียนไม่มีการอบรมหรือสอนอะไรทั้งสิ้นนะคะ คุณจะต้องปั่นต้นฉบับให้จบและส่งให้ทันตามกำหนด ปีเราถ้าจำไม่ผิดก็ให้เวลาปั่นหนึ่งเดือน (ถ้าปั่นไว้หลังแข่งจบก็มีเวลาเดือนนิดๆ) ถ้าไม่ส่งก็ถือว่าสละสิทธิ์ในการตีพิมพ์ค่ะ
ไม่เข้าใจแจ่มใส ประกาศว่าที่๑ ไม่มี เนื่องจากว่าไม่ได้มารตฐาน แล้วกรรมการมีมาตรฐานระดับไหน แล้วอะไรคือเกณฑ์มาตรฐานที่ทางแจ่มใสต้องการ ตัวกรรมการเองที่คัดเลือกนักเขียนหน้าใหม่เข้ามาก็คงจะไม่มีมาตรฐานเช่นเดียวกัน ถึงได้ออกมาประกาศฉีกหน้าบริษัทตัวเองแบบนี้ ไม่คิดเลยว่าแจ่มใสจะจัดการประกวดหลอกให้คนเข้ามาโหวต ธุรกิจป่ะเนี๊ยะ แต่ที่สุดคือนักเขียนที่เข้าร่วมประกวดต้องจุกอกไปตามๆกัน ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ผ่านมาตรฐาน....555 ตาหลก
เศร้าใจแทนด้วยนะ....
ได้ยินมาว่ามีธุรกิจในการโหวตแต่ไม่คิดว่าจะเป็นแจ่มใส เพราะติดตามผลงานอยู่หลายเล่ม เอาจิงๆๆนะ คัดเข้ามาอบรมแล้วทุกคนก็มีควาหวัง แต่ทำไม่ถึงสรุปด้วยเหตุผลปัญญาอ่อนแบบนั้นออกมาก็ไม่รู้อ่ะ เหมือนประจานตัวเองว่าบริษัทไม่มีมาตรฐาน ทำไมไม่ปล่อยให้เป็นไปตามปกติ มี 1,2,3 ไปก่อน แล้วค่อยนำมาขัดเกลาก่อนทีจะแต่งนิยายขาย มันก้อเหมือนประกวดนักร้องติดเข้ามาแล้วก้อเอามาฝึกฝนจนได้ที่ ค่อยออกอัลบั้ม แต่นี่ไม่รู้ใช้สมอต่อมไหนคิด ผิดหวังจริงๆ และเสียใจกับผู้เข้าประกวดทุกท่านด้วยนะค่ะ .......... เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
....ถึงแจ่มใส.. แจ่มใสทำแบบนี้กลัวเสียรางวัลป่ะเนี๊ยะ ตลกอ่ะ... อย่าจัดประกวดอีกเลยปีหน้า นักเขียนหน้าใสคงขยาดไปอีกนาน เอาจิงๆนะเคยอ่าน ผลงานของแจ่มใสก็หลายเล่ม บางเล่มก้องั้นๆอ่ะ ขายแต่ตัวการ์ตูน ก็ยังพิมพ์ออกมาขายได้แล้วอะไรคือมาตรฐาน ในนิยามของแจ่มใสอ่ะค่ะ...ไปวัดมาตรฐานกับนักเขียนกับนักเขียนในบริษัทก่อนไหม ??? ขอให้ทุกคนมีขวัญกำลังใจกลับมาโดยเร็ว ไม่มีที่นี่ก็ยังมีที่อื่น อีกหลายสำนักพิมพ์จ้า สู้สู้สู้
ที่บ้านมีลูกหลานชอบแต่งนิยาย โชคดีนะที่ยังไม่มีใครเข้าประกวดกับแจ่มใสคับ....555....ไม่อย่างนั้นคงเสียความรู้สึกไปอีกนานนนนนนนนนนนนน
ถ้ารุว่าจะไม่มีอันดับที่ 1 ก็ควรยกเลิกการประกวดไปเลยตั้งแต่แรกไม่ดีกว่าหรือ ด้วยเหตุผลไม่พร้อมอะไรก็ว่าไป ไม่ใช่อยู่ๆก็ออกมาประกาศว่าไม่ได้มาตรฐานเป็นเหตุผลที่คนภายนอกจะรู้ได้ถึงกึ๋นของผู้บริหารแจ่มใสหรืออีกเหตุผลคือ ธุรกิจการโหวตไม่ลงตัวหรือป่าวววว(แบบว่าน้อยนิ๊ดส์ส์ว์รัยงี้)
- ตลกจังอ่ะ .... อะไรเข้ารอบมาถึงวินาทีสุดท้ายแล้ว ถึงมาประกาสว่าไม่มีอันอับที่หนึ่งหรือชนะเลิศ
- ขาดแคลนเงินรางวัลหรือป่าวอ่ะ
****กำลังใจคนเข้าประกวดและคนอ่าน แฟนคลับ แจ่มใสทั้งหลายคงจะงง และสงสัยกับเหตุผลนี้ ยังงัยก็อช่วยตอบให้คนรู้ด้วยน๊าาาาเผื่อเรทติ้งจะหวนคืน...อิอิอิอิ
ไว้อาลัยแป๊บบบบบ
ถ้ามีเพชรสำเร็จรูปวางขาย คงไม่มีใครอยากซื้อหินที่ยังไม่ได้เจียรไนหรอกค่ะ
ตอนนี้เราค่อนข้างผิดหวังกับการแก้ปัญหาของแจ่มใสค่ะ
ถ้าหาผู้ชนะไม่ได้ตั้งแต่เเรกควรล้มโครงการแล้วบอกกับนักเขียนแต่โดยดีนะคะ
เราเชื่อว่านักเขียนทุกคนยินดีที่จะยอมรับว่าผลงานของตัวเองเป็นอย่างไร
แต่ไม่ใช่การกระทำที่เหมือนจะฆ่ากันให้ตายทั้งเป็นอย่างนี้ค่ะ
คุณให้นักเขียนเครียดมาทำไมกันตั้ง7สัปดาห์
ถ้าใช้เกณฑ์พิจารณาแบบเดียวกับการส่งพิจารณาโดยตรงกับทางสำนักพิมพ์...
มันต่างกันนะคะ ความกดดันที่เขียนอาทิตย์ต่ออาทิตย์ กับเขียนจบแก้จนพอใจแล้วค่อยส่ง
คำอธิบายกับเหตุผลไม่โอเคเลยค่ะ
ปล. เรายังข้องใจจนถึงทุกวันนี้ ก่อนเริ่มการแข่งขัน ตอนที่เปลี่ยนปฏิทิน ทางเเจ่มใสแจ้งเองว่า "สามลำดับสุดท้ายที่มีคะแนนน้อย จะได้รับคอมเม้นท์ของกรรมการ 3 ท่าน จากเดิมเพียง 1 ท่าน" ... เรานั่งตามทุกอาทิตย์ ก็ยังเห็นว่ากรรมการเม้นท์ท่านเดียวเหมือนเดิมทุกอาทิตย์นะคะ...
ความน่าเชื่อถือของคุณอยู่ตรงไหนหรือคะ?
พูดแบบคนนอกมองนะคะ คิดว่าแจ่มใสพยายามแก้ปัญหาอย่างดีที่สุดแล้ว
ปีนี้มีปัญหาหลายอย่างเลยนะเท่าที่ตามมา (ส่วนหนึ่ง เช่น เราที่สละสิทธิ์)
หากแก้ปัญหาโดยการล้มปีนี้ไปเลยจะไม่ยิ่งแย่เหรอ เดี๋ยวก็มีกระแสว่าจะให้แข่งทำไมตั้งนานมาอีก
เรื่องหลักเกณฑ์ที่ทำให้ไม่มีรางวัลชนะเลิศ เราเชื่อนะว่ามีหลักเกณฑ์นี้จริงๆ
แต่แจ่มใสไม่ได้บอกเอาไว้จนมันเป็นช่องโหว่ให้ดราม่าได้เหมือนปีที่ 6
ซึ่งตอนนั้นเรื่องที่ได้รับการโหวตชนะไม่ได้รางวัล ทำให้รู้ว่าคะแนนโหวตมีผลแค่ 30% ต่อ 70%
หลังเกิดเรื่องปี6 แจ่มใสก็พยายามบอกหลักเกณฑ์ 70/30 อย่างชัดเจนมาตั้งแต่นั้น
ถ้าจะพลาดก็คงพลาดตรงไม่ได้บอกถึงเกณฑ์ที่กำหนดจนปีนี้ไม่มีที่หนึ่ง
คนไม่เคยรู้เพราะมันไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นคล้ายๆ ปีนั้นเลย
จริงๆ ก่อนเข้าแข่งสิ่งที่ควรเตรียมมานอกจากเรื่องนิยายแล้วคือจิตใจนะ
ตั้งแต่เริ่มส่งนิยายเข้าโครงการนี้ จนถึงตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในดุลยพินิจของแจ่มใสหมดเลยมาตั้งแต่ต้นเนอะ
สุดท้ายแล้ว เราว่ากลับไปใช้กฎแบบเดิมก็ดีอยู่แล้วนะคะในความคิดส่วนตัว 555555555555
สู้ๆ เด้อ ทุกอย่างไม่ได้จบลงแค่ตรงนี้เนอะ
นี่ไม่ได้เข้ามาด่าแจ่มใส
แต่เขามาบอกคนที่มาเม้นด่าเขา จะบอกว่าต่อให้คุณเปลี่ยนหลายชื่อ เลขไอพีมันก็ตรงกันบอกว่าคุณคือคนคนเดียวกันที่มาเม้น
นี่คือตลกอ่ะ ว่างเหรอ แค้นอะไรเบอร์นั้น455555
นี่ก็ว่าหน้าใสปีนี้ไม่โอเคนะ แต่คือก็ไม่ได้เบอร์นั้นอ่ะ ไม่บอกล่ะกันว่าใครที่นอนล็อคมาด่า
ดูเลขไอพีเอาว่าถ้าใช่ก็คนนั้นแหละ วันหลังถ้าจะด่าก็พิมในWord ก่อนนะแล้วค่อยก็อปวาง
นี่เห็นเม้นหลายๆอันแล้วเหมือนดันกระทู้อ่ะ ขำ55555555
เอาเป็นว่าโชคดีล่ะกัน
ถือว่าขำๆในชีวิต
ผ่านมาเห็น เลยอยากจะออกความเห็นหน่อยในฐานะเป็นคนหนึ่งที่วนเวียนอยู่ในวงการหนังสือ
ขอออกตัวก่อนว่า ผมไม่ได้อยู่ในวงนิยายแนวแจ่มใส และไม่รู้จักเจ้าของกระทู้ รวมถึงคนที่ตอบในเชิงลบๆ กับแจ่มใส
แต่อ่านแล้ว แบบ...
"หูว นักเขียนรุ่นๆ ใหม่เดี๋ยวนี้ ทำไมแรงดีแท้"
ผมไม่ได้เข้าข้างแจ่มใสนะ แต่บอกได้ว่า การที่บางคนคอมเมนต์ด้วยท่าทีเป็นปฏิปักษ์กับ สนพ. แบบนี้ ถ้าเป็นคนที่ประกวดหรือคิดจะส่งนิยายในอนาคต...ก็ถือว่าไม่ดีเลย ไม่ว่าจะพูดถึงแจ่มใสหรือสนพ.ไหนก็ตาม เป็นการปิดโอกาสในการร่วมงานกันในอนาคตไปเลยก็ว่าได้
ส่วนข้อครหาต่างๆ ที่เจ้าของกระทู้สงสัย ขออนุญาตตอบแบบคนนอกโดยหลักการทั่วๆ ไปละกัน
1. การประกาศว่าไม่มีใครได้ที่ 1 เพราะงานของทุกคนไม่ถึงเกณฑ์ที่ควรจะได้
- อันนี้เป็นเรื่องปกติเลยครับ เวทีประกวดใหญ่ๆ ระดับประเทศก็มีกันบ่อยๆ เช่น ปีนี้ที่หนึ่งไม่มีเพราะงานไม่ถึงเกณฑ์ มีแค่ที่สองร่วม อะไรอย่างนี้
2. มีคนประกวดสละสิทธิ์,ถูกตัดออก
- มีใครสละสิทธิ์มั้ย ผมไม่รู้ แต่คิดว่าถ้ามีก็เป็นเหตุผลส่วนตัวของเจ้าตัว
- มีคนถูกตัดออก เพราะทางกรรมการเห็นว่าลอกงานคนอื่นมา ซึ่งเจ้าของกระทู้บอกไม่ได้ลอก อันนี้ใครก็พูดได้ว่าไม่ได้ลอกๆๆๆ ฉะนั้น ผมเชื่อทางกรรมการดีกว่า ถ้าเค้าพิจารณาแล้วว่าเข้าข่ายลอก ก็ตามนั้น
3. บอกงานไม่ถึงเกณฑ์, ไม่ได้มาตรฐาน แล้วถามย้อนว่า แล้วกรรมการล่ะใช้มาตรฐานอะไรมาวัด
- ก็มาตรฐานของกอง บ.ก. ของแจ่มใสนั่นแหละ มาตรฐานที่ทำให้แจ่มใสเค้ายืนหยัดมาได้จนทุกวันนี้
- เรื่องการโหวต ผมไม่แน่ใจมีสัดส่วนยังไง แต่เข้าใจว่า การเปิดให้โหวตเป็นแค่ส่วนประกอบเล็กๆ เท่านั้นแหละเพื่อให้คนอ่านมีส่วนร่วม ได้รับรู้ความเป็นไปของโครงการ หลักๆ แล้วคงต้องใช้ความเห็น บ.ก. ตัดสิน เพราะถ้าเอาคะแนนโหวตเป็นหลัก งานก็อาจจะไม่ได้มาตรฐานที่น่าจะตีพิมพ์ก็ได้
- การเปิดให้โหวต ผมไม่รู้นะว่าแจ่มใสได้ประโยชน์อะไร แต่ที่แน่ๆ ถ้างานไม่ได้มาตรฐานของกอง บ.ก. แล้วปล่อยออกไป...ชื่อเสียงแจ่มใสก็มัวหมองแน่ๆ มูลค่าตรงนั้นมันไม่ใช่แค่ลงทุนพิมพ์นิยายให้ 1 เรื่อง แต่คนอ่านของ สนพ. จะเสียความรู้สึกไป แถมบางคนอาจเหมาเอาว่า เดี๋ยวนี้แจ่มใสพิมพ์นิยายงี้เหรอ!
4. บางคนว่า งานของนักเขียนประจำของแจ่มใสบางเล่มก็งั้นๆ งานน้องที่ประกวดดีกว่า
- ไม่พาดพิงใครนะครับ เพราะผมไม่มีความรู้พอจะเปรียบเทียบ แต่...
- นักเขียนประจำน่ะ เค้ามีแฟนคลับอยู่แล้ว มีนักอ่านรออ่าน ถ้ากอง บ.ก. เห็นว่าเรื่องประมาณนี้ๆ เหมาะกับคนที่รออ่าน คิดว่าขายได้ เขาก็ตีพิมพ์
- แต่นักเขียนหน้าใหม่ยังไม่มีแฟนคลับอะไร ฉะนั้น ถ้าจะตีพิมพ์เรื่องต้องดีจริงๆ เจ๋งจริงๆ ซึ่งงานประกวดก็เหมือนกัน มันต้องดีซึ่งควรจะเกินมาตรฐานด้วยซ้ำ เพราะสนพ.ก็ต้องแบกรับความเสี่ยงตรงนั้น
- ประเด็นนี้สอนให้รู้ว่า ก้าวแรกยากเสมอ ยากตอนประกวดดีแล้ว ถ้าผ่านไปได้ก็ภูมิใจได้ว่างานเรามีกึ๋นพอ 5. คนประกวดอายุน้อย ไม่มีอบรมอะไรเลยเหรอ
- เวทีประกวดทั่วไป ส่วนมากก็ชนะปุ๊บ ตีพิมพ์ให้เลยนะ เพราะคนที่เข้าสู่สนามแข่งก็ย่อมมีการฝึกฝนกันมาบ้างแล้ว ก่อนจะฟาดฟันกับคู่แข่งคนอื่น
- ส่วนแจ่มใสมีอบรมอะไรมั้ย ผมไม่แน่ใจ แต่เข้าใจว่าเขาก็มีเปิดให้น้องๆ ที่เข้ารอบประกวดได้พบปะพูดคุยกับนักเขียนรุ่นพี่หรือเปล่า ไม่แน่ใจ ซึ่งถ้ามีแบบนั้น นั่นก็เป็นประสบการณ์ที่คุ้มอยู่ จะได้เก็บเกี่ยวเอาความรู้มาพัฒนาต่อ
6. เวทีนี้เปิดโอกาสให้นักเขียนหน้าใหม่ ซึ่งส่วนมากก็อายุยังน้อย
- ข้อดีของอายุยังน้อยคือ ยังลองผิดลองถูกได้อีกเยอะ จะประกวดอีกก็ได้ หรือจะเขียนจนจบเรื่องแล้วส่งตรงก็ได้
- อยู่ที่ว่าจะตั้งใจและไม่ทิ้งมันจริงๆ มั้ย หรือ...จะปิดประตูความฝันตัวเองด้วยการด่าทอคนที่เราหวังจะร่วมงานในอนาคต
สุดท้ายนี้ก็อยากจะพูดว่า "ก้าวแรกยากเสมอ และอาจเป็นก้าวที่ตัดสินชะตาชีวิตเราเลยก็ได้"
เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ
สู้ๆ
ตอนแถลงโครงการ
มีกติกาหนึ่งที่ทำเอาเราเครียดมาก
คือกรรมการจะไม่พิจารณาผลงานที่มีเพียงบทนำ
ไม่ว่าบทนำจะยาวจะสั้น ให้แนบส่งไปพร้อมกับตอนที่หนึ่ง
มันเป็นกติกาที่มีมานานละ
ด้วยความที่เราเขียนบทนำยาว
เราเลยเปลี่ยนบทนำเป็นบทที่หนึ่ง
จะได้ไม่ถูกตัดสิทธิ์
แต่พอประกาศผล กลับมีผลงานที่มีเพียงบทนำผ่านเข้ารอบ
และบทนำก็สั้น ที่น่าจะเรียกได้ว่าไม่ถึงหนึ่งหน้าเอสี่
เราเลยทักแชทไปบอกแอดมินโครงการ
ผลที่ได้คือ เขาลบกติกานั้นบนหน้าเว็บออก
นี้คือจุดที่เราเฟลที่สุดสำหรับการประกวดนักเขียนหน้าใสปีนี้
กติกาไม่เป็นกติกา
นั้นคือสิ่งที่รับไม่ได้
อยากติดแฮชแท็กว่ารู้สึกหมดศรัธทากับโครงการนักเขียนหน้าใสมาก
และเผื่อกรรมการมาเห็น เม้นนี้ยังต้องการคำอธิบาย
แม้การประกวดนักเขียนหน้าใสจะจบไปแล้วก็ตาม
#JLS14 Voiceless Love รักนี้ที่ไร้เสียง
ตอนต้นโครงการไม่อยากทัก เพราะเราคือหนึ่งในผู้ที่ไม่ติด
กลัวเจอฟีดแบ็คกลับมาว่าอิจฉา
ส่วนตัวชอบเรืองนี้ค่ะ เเต่ข้องใจกับกติกาเหมือนกัน
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?