Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เด็กซิ่วจาก 59 ไป 60

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เราตั้งกระทู้เพราะว่า เราท้ออ่ะ แล้วพอเปิดๆหาพวกให้กำลังใจเกี่ยวกับเด็กซิ่วแทบไม่เจอเลย เลยอยากตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นกำลังใจให้คนที่จะซิ่ว  ' ซิ่ว ' 'เด็กซิ่ว ' 'สอบใหม่ ' ประโยคที่หลายคนฟังแล้วนำไปเล่าเป็นเรื่องขำขัน พูดปากต่อปาก พูดแบบไม่คิด พูดเป็นเรื่องเชิงตลกไปเลย เมื่อก่อนเราก็คิดนะ " ทำไมต้องสอบใหม่อ่ะ " แต่เราไม่ได้ดูถูกดูแคลนพวกเขาเหล่านั้น เราแค่งงว่า ที่สอบตอนนี้มันไม่ดีเหรอ แค่นั้นเอง เอาล่ะ...ตอนนี้เราอยู่ในจุดตรงนี้แล้ว เราจะเล่าในมุมมองของเด็กซิ่ว มุมมองของคนรอบข้าง และมุมมองที่อยากให้คิดใหม่สำหรับคนที่มองคนที่ซิ่วในด้านลบ ในด้านของเด็กซิ่วอย่างเรา นับตั้งแต่วันที่ตัดสินใจว่าจะซิ่ว คือเรารอหลายที่มากๆ แต่เราไม่ได้แอด เพราะตัดสินใจเอา ม.แห่งหนึ่งใกล้บ้าน ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ค.รู้สึกเราตอนนั้นไม่อยากไปไกลบ้าน แต่ม.ที่ได้ ไม่ใช่คณะที่เวิร์คเท่าไหร่ เราเลยตั้งกำแพงกับมันไว้ก่อน  วันที่ตัดสินใจว่าจะซิ่วจริงๆก็คือวันที่ประกาศผลสอบของม. รัฐที่เราสมัครไปเป็นม.สุดท้ายรอบหลังแอดมิดชั่น เราไม่ติดที่นี่ วันที่ประกาศผล เราจำได้ เราเสียใจหนักมาก ร้องไห้ แล้วตั้งคำถามกับตัวเองว่า ถ้าสมมติว่าได้แล้วอ่ะ จะเรียนจริงหรอ ? ภาษาจีนนะเว้ย เอาจริงไม่ชอบมันเลยนะ จะไปเรียนได้หรอ เลยบอกที่บ้านว่าจะสอบใหม่นะ เขาก็โอเค  แต่...เราต้องไปเรียนรอ อ่ะโอเค ก็ได้ เพราะจะได้ลดค.กดดันของเราด้วย อย่างน้อยเวลาใครๆถามก็จะได้บอกว่า ไปเรียน ไม่ได้มานั่งเฉื่อยๆที่บ้าน  ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี จนเปิดเทอมเทอม 2 ได้ 2 สัปดาห์ เราก็นั่งดูตารางสอบ ตารางเรียนเสร็จ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ตารางสอบแกทแพท + ตารางสอบมหาลัยตรงกัน คือเอาจริงเอาคะแนนรอบ1ก็ได้ แต่เราอยากสู้ให้สุดอ่ะ ยังไงก็จะซิ่วอยู่แล้ว เลยกลับมาคุยกับที่บ้านว่ามันตรงกันนะ จะกลับไปอยู่บ้าน ไฟท์กับมันให้สุดๆก่อน จะได้ไม่เสียใจทีหลัง  แต่ขอเล่าก่อนบ้านเราเป็นร้านขายของซึ่งก่อนเราไปเรียนเราต้องทำ อันนี้เราไม่ได้ว่าพวกเขานะ แต่ในความคิดเรา บางทีก็เกินไปอ่ะ ช่วงที่เราจะสอบ แล้วเราตั้งใจจะอ่านหนักๆ ก็ใช้เรา ใช้แบบว่า ทำนู้นนี่นั่น ทั้งๆที่ก็มีน้อง แต่กลับใช้เราอ่ะ เวลาจะอ่านหนังสือทีต้องไปอ่านที่อื่นหรือไม่ก็ไปโรงเรียนเพื่อไปอ่าน พูดเรื่องนี้ทีไรเราโคตรรู้สึกแย่ เราเคยร้องไห้เพราะเราอยากอ่านหนังสือ ในขณะที่เพื่อนหลายคนมีเวลาอ่านหนังสือ ทำการบ้าน แต่เราต้องมาขายของช่วยที่บ้าน หลายคนบอกเราแบ่งเวลาไม่เป็น โดยเฉพาะที่บ้าน เราเลยบอก ลองให้น้องมาทำแบบเราดูมั้ย วันๆน้องทำไรบ้างอ่ะ ขายของช่วยก็ช่วยแป้บเดียว แถมมีเวลาไปวิ่งที่สวนสาธารณะอีก แล้วให้พ่อไปรับ ซึ่งแม่งขนาดเราไปเรียนยังต้องนั่งรถประจำทางอ่ะ 

แสดงความคิดเห็น

>

7 ความคิดเห็น

thisismee 6 เม.ย. 60 เวลา 14:44 น. 1

อันนี้ต่อนะคะ ตอนนี้เราออกมาอยู่บ้านเรียบร้อย อย่าถามถึงแรงกดดันเลย 5555 วันๆเราแทบไม่คุยกับใคร กลายเป็นคนตั้งกำแพงกับทุกอย่าง โดนคนอื่นว่ามันยังพอทนพอปล่อยนะ เพราะเราไม่สนใจอยู่แล้ว เธอไม่ได้มาส่งฉันเรียนหนิ แต่พอเป็นคนในครอบครัวว่าให้ เรารู้สึกแย่หลายเท่าเลย คำบางคำ เราไม่รู้ว่าเขาพูดแบบไม่คิดหรือคิด แต่เราคิด เราไม่มีใครจะให้ระบาย เราไม่รู้ว่าถ้าพูดกับคนนอกบ้าน เขาจะห่วงเรามั้ย เรากลายเป็นคนพูดน้อยไปในตัวจากที่เราเคยร่าเริง สดใสมากๆ เราโคตรแบดในแต่ละวัน กว่าจะผ่านแต่ละวันไปได้ ต้องคอยนึกอยู่ตลอด พรุ่งนี้ต้องเจอกับอะไรอีกมั้ย ? จะมีใครว่าอะไรมั้ย ? เราจะรับได้มั้ยกับเรื่องที่มันจะเกิด ? คำพูดที่เขาพูดออกมา เขาพูดให้เราทำไม ? เขาไม่รู้หรอว่าเราจะปวดใจแค่ไหนอ่ะ ? คิดสารพัดอย่าง จนตอนนี้คิดว่าจะชินกับมัน แต่พอได้ยินมันก็รู้สึกแย่อีก เกลียดการเปรียบเทียบมากๆ เราไม่อยากได้ยินว่าน้องเรียนเก่งกว่าเรา หรือใครอะไรยังไงกว่าเรา เราไม่ใช่แค่เรียนกลับมาแล้วเข้าห้องอ่านหนังสือ เราต้องช่วยแม่อ่ะ เหนื่อยโว้ยยยยย พูดกับตัวเองแล้วทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปเรื่อยๆ เราอยากให้คนที่ซิ่วแบบเรา อย่ารู้สึกท้อ อย่าถอย ให้สู้ ใครจะพูดยังไงก็ช่างเขา ชีวิตเรา ให้คิดเสมอว่าเราทำเพื่ออนาคตของเรา สิ่งที่ทำให้เราก้าวเดินต่อคืออะไร วันที่ตัดสินใจจะซิ่วบอกตัวเองว่ายังไง อยากให้คำพูดนั้นมันอยู่ในใจตลอด ไม่ว่าจะซิ่วเพราะอยากเรียนคณะนี้ อยากเรียนที่นี่ เราไม่อยากให้คิดว่าเราเป็นเด็กซิ่วจะไม่มีทางเก่งได้ สู้ๆนะ มุมมองของคนรอบข้าง หลายคนคงคิดว่า แม่งโง่ สอบใหม่นู้นนั่นนี่ หลายคนที่มีเพื่อน คนรอบข้าง หรือคนรู้จักที่ซิ่ว เราอยากให้มองเด็กซิ่วในรูปแบบใหม่อ่ะ เราไม่รู้นะเมื่อก่อนมองยังไ ง ช่วงเวลาที่พวกเขาต้องสอบใหม่อ่ะ เราควรที่จะพูดแต่สิ่งดีๆ เพราะช่วงเวลาแบบนี้มันจิตใจอ่อนมากๆ คือมีเรื่องมากระทบก็ไปแล้วอ่ะ ความคิดอะไรทั้งปวง เราเป็นคนนึงที่เซนซิทีฟกับเรื่องพวกนี้มาก ตอนที่เราซิ่ว เราไปเรียนใช่ป่ะ เจอเพื่อนบอก -อ่ะโง่ ไงก็สอบไม่ได้หรอก เราน้ำตาคลออ่ะ มันเป็นความรู้สึกแบบโหหหหห นึกว่าจะไม่มีคนกล้าพูดแบบนี้กับเรานะเว้ย มันเป็นคำที่แรงมากๆ อ่ะ สำหรับผู้ชายมาว่าให้ผู้หญิง น้องเราเงี้ยะ ก็มาพูดแบบเด็กซิ่ว ถ้าเก่งคงไม่ต้งมาซิ่วหรอก คำพูดแบบดูถูกสุดๆอ่ะ เราแทบไม่มีกำลังใจเลย อยากให้คนรอบข้างเด็กซิ่ว เข้าใจเขาให้มากๆ นะ ยังไงก็คิดซะว่าพวกเขายังต้องการกำลังใจ สิ่งที่ทำให้ยังก้าวต่อไปของแต่ละคนไม่เหมือนกัน สำหรับเราคงเป็นการไปต่างประเทศ ถึงแม้ว่าที่บ้านจะไม่สนับสนุนเรื่องพวกนี้ก็ตาม เรายังคงสู้ต่อไป

0
auch mal 6 เม.ย. 60 เวลา 20:36 น. 2

สู้ๆนะคะ ถึงเราจะไม่ได้เป็นเด็กซิ่วแต่ก็เข้าใจค่ะ มันเป็นช่วงที่ต้องการกำลังใจอ่ะค่ะ ยิ่งซิ่วนี่กำลังใจต้องมาเลย รู้สึกว่าคนที่ซิ่วเนี่ยต้องใช้ความกล้ามากไหนจะคำพูดคนรอบข้างที่มากระทบคือมันเยอะจริงๆ กำลังใจเลยสำคัญมาก ยังไงก็อย่าเพิ่งท้อนะคะ นึกถึงวันที่เราจะได้เรียนในคณะในมหาลัยที่เราชอบ สู้ๆค่ะ เป็นกำลังใจให้ ฮึบบบ ยังไงก็คุยกันได้ปรึกษากันได้นะคะ ^^

1
เราเข้าใจนายนะบี๑ 7 เม.ย. 60 เวลา 22:14 น. 3

เราก็ซิ่วเหมือนกันจ้า ปีที่แล้วเราเรียนคณะหนึ่งในมหาลัยแถวสามย่านห้าห้า แต่เราเรียนไปเทอมเดียวก็ออก(ตอนนั้นแทบถูกตัดออกจากกองมรดกแหนะ) เราจะมาซิ่วกสพท. แล้วที่บ้านเราก็ขายของเหมือนกัน ตอนกลางวันนี่อย่าให้พูด ทั้งค.ร้อนจากอากาศ+เสียงรบกวนต่างๆนานา(จริงๆอันนี้เราว่าใครไม่ได้ มันอยู่ที่สมาธิเราเอง) แล้วก็ไปสอบ ปรากฏว่าหลุดจ้าาาาา ช้ำกว่าหวยแ_กก็อันนี้อ่ะ น้ำตานองเต็มตลิ่ง ทีนี้ทำไงก็ต้องมาอยู่บ้าน ปลายเดือนที่แล้วบ้านเราเช็งเม้ง(คนจีนรู้กันดีวันรวมญาตินั่นเอง)ญาติทั้งตระกูลแห่มาบ้านเรามีทั้งรู้ว่าออกแล้วกะที่ยังไม่รู้ว่าลาออก คือถามกันใหญ่ เรียนเป็นไงบ้าง จะเนี่ยนว่า เรียนสนุกค่าาาาก็กลัวโป๊ะ มันเป็นอะไรที่แบบ ฉันอยากบอกว่าไม่เผือกคือเค้าก็ไม่ผิดไง55555 ส่วนอิคนที่รู้ก็จะซิ่วไปไหน ซิ่วทำไม ฮืมมมมม ไม่เผือกค่ะ บาวคนก็เนี่ยะลูกบ้านนี้เรียนจบหมอแล้วบลาๆๆ โทดค่ะ ใครคะ ใครถามมมมม ปัดโถ่ป้า ฉันก็อยากเป็นเพคะ ฉันพยายามสอบอยู่ แต่ฉันมันนกจิ๊บๆ ฮื่ออยากร้อง เอาเป็นว่าระฆังดังเพราะคนตี เช็งเม้งทีขุดหลุมหลบญาติแทบไม่ทัน ซียูอะเกนเยสเตอร์เด เจอปืนครับ

5
อิ๊_อิ๊ 9 เม.ย. 60 เวลา 02:02 น. 3-2

ก็คิดว่าจะเรียนอันที่ใกล้เคียงกะหมอมากที่สุดไปก่อนอ่ะค่ะ เพราะอายุเราก็ไม่น้อยแล้ว(ถึงใครจะบอกว่าจะ20เองก็ตาม555555) เราคิดว่าอย่างน้อยควรมีปริญญาติดตัวไว้บ้าง พอจบมาค่อยตามฝันอีกทีก็ไม่เสียหาย ซิ่วอีกปีก็ไม่รู้จะนกจิ๊บๆอีกหรือป่าว เด็กๆก็เก่งกันเหลือเกิน555555(เราคิดแบบไม่อยากได้ปริญญาใบแรกตอนเพื่อนแต่งงานมีลูกแล้วไรงี้55555 เว่อออ)

0
ร้องไห้ 9 เม.ย. 60 เวลา 13:08 น. 3-4

รัฐค่ะ เอกชนเห็นค่าเทอมเอกชนแล้วแม่ไล่ออกจากบ้านแน่ๆ555555

0
เรื่อยๆ 11 เม.ย. 60 เวลา 09:58 น. 5

ซิ่วเหมือนกันครับติดมหาลัยเหมือนกันแต่ไม่เรียนเพราะไม่รู้จะเรียนอะไรก็เลยหยุดเรียนซะเลยที่บ้านก็ไม่ได้ว่าไรแต่ห้ามขอเงิน555ก็เลยทำงานpart timeบ้างนิดหน่อย ตอนนี้รู้ตัวเองแล้วก็เลยจะสอบอีกปี ไปเรียนกับdek61

1
BB>MT 11 เม.ย. 60 เวลา 23:03 น. 6

อย่าให้พูดถึงความชีช้ำเวลาโดนคนอื่นถ่ามว่า "ไม่ได้เรียนเหรอ" "เรียนอะรายอ่า" "เรียนที่ไหน" บลาๆๆๆๆ เราหมกตัวอยู่เเต่ในห้อง ไม่อยากเจอใครเลย คนที่ทำให้เราไม่รู้สึกเเย่ก็คือเพื่อนสนิทในกลุ่มเท่านั้น นอกนั้นนี่เหมือนทุกคนมีปืนอยู่ในมือเเละพร้อมจะยิงใส่ เเม้เเต่พ่อเเม่ เรา จากคำถามข้างต้นเราก็ยังหยวนๆยังโอเคอยู่ อ่ะๆยังเป็นเเค่การเสื_กธรรมดา เเต่พอเจอ "เเล้วทำไมถึงไม่เรียนอ่ะ".... บู้มมม!!! เรานี่หน้าชา เเต่คนถามนี่หน้าหนา เเรกๆก็อายอ่ะไม่รู้จะตอบว่าอะไรหัวหมุนไปหมด ได้เเต่คิดในใจว่า'ไม่ใช่เรื่องของมึ_!!' ก็ได้เเต่ยิ้มๆโลกสวยไป คนอื่นเห็นเราดูชีวิตไร้เเก่นสารเลื่อนลอย กังวลกับอนาคตเรายิ่งกว่าตัวเราหรือพ่อเเม่เราอีก เเต่ความจริงเเล้วตัวเรานี่เเหละที่รู้ตัวเองดีที่สุด เชื่อเถอะว่าคนอื่นที่ทำเป็นกังวลกับชีวิตซิ่วของเรา ไม่มีทางคิดเรื่องอนาคตของเราเเม้เเต่เวลาเข้าห้องน้ำหรอก(มีเเต่ตัวเราเเหละที่ทำ)

1
janee_schy 12 เม.ย. 60 เวลา 14:44 น. 6-1

จริงเลยย ตอนนี้เราเริ่มออกห่างจากเพื่อนในกลุ่มแล้วด้วย ทะเลาะกันนิดหน่อย คนที่เข้าใจเราก็มีเพื่อนที่ซิ่วด้วยกัน เป็นเพื่อนสนิทมาตั้งแต่ม.ต้น จะร้องงงฮืออ

0