Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิวสอบตรงยังไงให้ติด เวอร์ชั่นคนขี้เกียจมาก

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคน อันนี้เราขอเขียนซ้ำนะคะเพราะเขียนผิดบอร์ดละมันละมันไม่เปลี่ยน ขออภัยในคำพูดที่ไม่ค่อยสุภาพในบางทีนะคะ 555
เราขอมารีวิวการสอบตรงติดสำหรับคนที่ขี้เกียจแบบเรา ก่อนอื่นเราต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนผลัดวันประกันพรุ่ง และขี้เกียจมากถึงมากที่สุด 
ขนาดเปิดพัดลมเรายังใช้เท้าเปิดขี้เกียจก้ม555 และแน่นอนว่าเราขี้เกียจขนาดนี้ทำให้เราไม่ติดคณะและมหาลัยที่อยากเข้า เรียกได้ว่าคะแนนห่างไกลไม่มาก ถ้าไม่ขี้เกียจ เราเลยฮึดกลับมาช่วงเทอมสุดท้าย ชนิดที่ว่าคนที่นอนตี1ตี2ตื่นบ่าย2โมงเป็นประจำเอาเวลาที่ไหนไปอ่านหนังสือ 

เราเป็นเด็กสอบเทียบ GED เราเรียนแค่ม.5เทอม1แล้วลาออกเทอม2เนื่องจากเราอยากเข้ามหาลัยแล้วขี้เกียจไปโรงเรียนเพราะเราขี้เกียจตื่นเช้า ตอนเราลาออกมาแล้วเราคิดแค่ว่า เออเราจะได้นอนเต็มที่ซักที เหนื่อยไม่อยากไปโรงเรียน ตอนนั้นเราไม่ได้นึกถึงเพื่อนเลยว่าถ้าเราออกมาเราจะเหงาขนาดไหน วันเวลาผ่านไปจนถึงช่วงเดือนธันวา คนอื่นคะแนนแกทแพทก็ออกมา บางคนถึงกับบอกว่า คะแนนถึงมหาลัยที่อยากเข้าแล้วโว้ย บางคนมีที่เรียนแล้ว เราก็เริ่มมานึกว่า ถ้าเราขี้เกียจแบบนี้ต่อไปเราก็จะไม่มีที่เรียน เราเลยมานั่งวางแผนใหม่ว่า เหลือเวลาอีกกี่วันที่จะสามารถสมัครคณะต่างๆได้

เราเริ่มจากขั้นตอนต่อไปนี้ (เพื่อนๆสามารถนำไปใช้ได้)
1.ลิสท์คณะที่เราอยากเข้ามาทั้งหมด โดยไม่ดูความสามารถว่าตัวเองวาสนาถึงไหม 
2.หามหาวิทยาลัยไหนที่เปิดคณะที่เราชอบ
ในขั้นตอนที่2เรามีการแอบเข้าไปดูหลักสูตรเฉพาะด้านที่มหาวิทยาลัยเปิดสอนว่าอันไหนที่เราสนใจ
3.เริ่มหาระเบียบการทั้งของปีนี้และปีที่แล้ว ถ้ายังไม่ออกก็เอาของปีที่แล้ว หาจากกูเกิ้ลเสิร์จไปให้สุดจนเจอ ไม่เจอก็หาเฟสรุ่นพี่ ไม่รู้จักก็ทักไปถาม 
4.หาว่าสอบเข้ายังไงใช้คะแนนอะไร แล้วก็ต้องไปสอบอะไรเพิ่มไหม เช่น คะแนนวัดระดับภาษาอังกฤษ คะแนนSAT ถ้ามีคะแนนที่ต้องไปสอบเพิ่มเติมเราก็หาข้อมูลการสอบเพิ่มเติม ภายในเดี่ยวนั้น 
5.หาประสบการณ์รุ่นพี่ที่เคยสอบโดยไม่ว่าจะกระทู้ในPantip Dek-d หรือหาคำตามทวิตเตอร์เราก็หาทุกอย่าง แม้แต่Tagในเฟสบุ๊ค

เมือ่เราได้ข้อมูลมาแล้วเราก็วางแผนอ่านหนังสือ แรกๆตารางสวยงามมาก หลังๆเริ่มทำตามไม่ได้ เลยตัดสินใจว่า วิธีอ่านของเราคือ การอ่านแบบสบายๆ แต่ต้องอ่านได้ตามที่กำหนดแต่ละวัน  เราเป็นพวกที่ถ้าอยู่บ้านอ่านเป็นหลับ เราเลยเลือกที่จะออกมาอ่านข้างนอก + หาเรื่องเที่ยว (สายแตรก) ด้วยความขี้งกเลยเรื่องอ่านตามสถานที่ที่มีห้องสมุดหรือว่าร้านกาแฟราคาถูกแต่มีแอร์เพราะขี้ร้อน เวลาเราอ่านเราจะอ่านเหมือนปกติ อันนี้แล้วแต่คนนะ อ่านวนไป มีการช็อตโน้ตบ้างแต่หลังๆขี้เกียจ เลยเอาวิธีใหม่คือ 
1.อ่านออกเสียงอัดเสียงแล้วมาเปิดฟังเอา 
2. ดูคลิปสรุปตามยูทูป เสิร์จหาอะไรเจอก็ดูวนไปจนกว่าจะเข้าใจ ระหว่างดูก็เหมือนดูหนังนั่งฟังจนจำรายละเอียดได้ ไม่ได้เคร่งต้องนั่งดูตลอดเวลา
3.เราเป็นคนชอบเล่นทวิตเตอร์มาก เวลาเลื่อนท.ล.เราก็จะฟอลพวกแอคข่าวสารหรือข่าวเช่น ทวิตนักข่าว ทวิตพี่แนน ทวิตไทยรัฐ ทวิตว๊อยซ์ทีวี ทวิตBBC ทวิตเรื่องเล่าเช้านี้ เวลาอ่านข่าวจะได้เข้าไปอ่านได้ง่ายและผ่านตา นี่ก็คือวิธีการเก็บข่าวสารแบบนึงสำหรับคนที่ติดมือถือหรือไม่ชอบดูทีวี

บางทีเราก็อยากได้หนังสือเพิ่มเติม คือเราเป็นโรคชอบซื้อหนังสือมาแต่ไม่อ่าน ชอบเก็บไว้ เลยแก้ปัญหาวิธีโดยเข้าไปนั่งอ่านในร้านหนังสือจนจบเล่ม นอกจากอ่านฟรีและยังได้ความรู้ มันท้าทายตรงที่ มาอ่านได้แค่ไม่กี่ครั้งแต่ต้องจำให้ได้ ก็ท้าทายตัวเองระดับนึง 
อีกวิธีคือตอนที่เราต้องอ่านหนังสือจากเล่มนั้นจริงๆเราจะใช้วิธี 1หน้า1ชิ้น หรือ1ข้อ1ชิ้น เราเลยไปซื้อขนมมาจากแม็คโครมาไว้เยอะเลย พอราเริ่มทำวิธีพวกนี้ไปเราก็ไม่ต้องใช้ขนม จากคนขี้เบื่ออ่านๆไปนอนไป กลายเป็นอ่านได้มากกว่า1ชั่วโมง คือภูมิใจมาก5555555 บางวันเราก็ไปนั่งอ่านบ้านเพื่อน ระหว่างอ่านก็มีหยอกล้อกันบ้างแต่ทุกคนตั้งใจอ่าน เราว่าการอ่านกับเพื่อนคือการได้แลกเปลี่ยนความรู้ ทำให้เราได้วิธีการคิดเพิ่มขึ้น

ผลปรากฎออกมาว่าคะแนนถึงจะผ่านมาไม่ได้ตามที่ต้องการแต่อย่างน้อยก็ยังมีคะแนนที่ดีในระดับนึง พอผ่านมรสุมอ่านหนังสือก็คือมรสุมข้อสอบ ซึ่งข้อสอบมีความหลากหลายมากในคณะที่เราไปสอบ เราสอบทั้งภาคไทยและอินเตอร์  
ไม่ว่าเราจะสอบคณะอะไรเราจะเข้าไปดูในเว็บไซต์ข้อมูลหลักสูตร เพื่อเป็นข้อมูลในการสอบสัมภาษณ์ด้วย บางคณะสอบสัมภาษณ์เลยก็มี บางคณะใช้SOP(เรียงความทำไมอยากเรียนคณะนี้) แต่อย่างนึงที่เป็นประโยชน์กับเรามากคือ การไปOPEN HOUSEเพื่อเก็บข้อมูลและคำแนะนำจากรุ่นพี่ เราว่ามันช้วยได้มากโดยเฉพาะคณะใหม่ๆที่ไม่มีการรีวิวประสบการณ์สอบเข้าในเน็ต หรือนานๆทีจัดOpen house
หรืออีกวิธีคือ การไปเข้าค่ายของคณะนั้นๆ เราว่าทั้งได้เพื่อนร่วมเส้นทางเดียวกันกับเราและยังได้รู้อะไรเกี่ยวกับคณะนั้นทั้งวิชาการและสังคมอีก  

และผลของความเหนื่อยก็ออกมาคือ เรามีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์คณะที่เราสมัครหลายคณะ พอต่อมาสถานีสัมภาษณ์ เราเป็นพวกชอบเสิจ์ชไปมั่ว หาทั้งคำถามสัมภาษณ์คณะนี้ๆ ไม่ว่าจะของมหาลัยไหน หรือสไตล์มหาลัยไหนเกี่ยวกับสัมภาษณ์ เราก็อ่านทุกตัวอักษรหามันให้หมด จากนั้นเราไม่ลืมที่จะย้อนกลับไปอ่านรายละเอียดหลักสูตรนั้นๆว่าที่มาคืออะไร และเราลองลิสท์แนวคำถามไป เราว่าการด้นสดก็ดีแต่มันลำบากถ้าเกิดเวลาไปเอ๋อแล้วตอบไม่ได้ การเตรียมตัวสำคัญที่สุด สิ่งที่กรรมการต้องการคือวัดทัศนคติและแนวความคิดเรา เราว่าอันนี้อาจดูวับซ้อนหน่อย บางคณะสัมภาษณ์เขาว่ายาก เราเลยนึกว่าเออคนสัมภาษณฺ์ต้องการอะไร เราเลยไปหาในพันทิปส่วนใหญ่นะว่า บุคลิกของคนที่จะทำงานอาชีพนี้ หรือเรียนคณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็ย้อนกลับมาที่แนวคำถามเรา คำถามทั่วๆไปจะถามว่า
1.แนะนำตัว
2.ทำไมอยากเข้าคณะนี้
3.โตขึ้นอยากเป็นอะไร
4.เวลาว่างชอบทำอะไร
5.กิจกรรมที่ผ่านมาเคยทำอะไรบ้าง
เกณฑ์การตอบหลายคณะไม่เหมือนกันแต่หลักๆเราอยากให้ยึดว่า
1.ตอบในแง่บวก ไม่โลกสวยเกินไป หรือโอเวอร์ แง่ลบเกินไป
2.ไม่พาดพิงบุคคลที่เช่นกล่าวหาว่าอีกสถาบันไม่ดี บุคคลนี้ไม่ดีเป็นต้น
3.แสดงความจริงใจและความต้องการที่อยากเข้าคณะนี้
4.ตอบให้ดูเป็นคนมีความรู้แนวคิดวิเคราะห์

เวลาเราตอบคำถามเราจะไม่ก็อปใครหรือเอาคำตอบใครมาเพราะกรรมการจะจับได้ ตอบให้เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด และพยายามตอบให้มีแนวคิดและคล้ายบุคลิกของคนที่จะประกอบอาชีพหรือเรียนคณะนั้นๆ การหาข่าวสารบ้านเมืองปัจจุบันก็สำคัญ เราว่าการมีความรู้รอบตัวนอกจากตำราก็สำคัญนะ ในตำราเราว่าบางทีมันน้อยไปสำหรับบางอาชีพ

เราอยากบอกอึกอย่างนึว่าอย่าทำอะไรใกล้ๆวันสุดท้ายมีบางคณะเราเพิ่งมารู้ว่าต้องโอนตังวันสุดท้าย เราเกือบโอนไม่ทันเพราะหาธนาคารไม่ได้ ถ้าจะทำอะไรก็ทำเดี่ยวนั้นให้เสร็จเลย จะได้ไม่ลืม 

พอมาถึงวันสอบสถานที่อะไรอีกอย่างนึงที่สำคัญคือ การสำรวจเส้นทาง ว่ารถจะติดไหมวันสอบ ตึกสอบอยู่ที่ไหน เพราะอย่างบางกรณีเราสอบแล้วรถติดมาก มีเส้นทางอื่นไหมที่ไปได้ บางคนถ้ามีทุนหน่อยก็ไปนอนโรงแรมใกล้ๆเลยระยะทางที่เดินไปได้จากโรงแรม ก่อนวันสอบพักผ่อนให้เต็มที่สมองจะได้สดชื่น ไม่ต้องอ่านอะไรแล้ว มันไม่ทัน 555 ทำให้เต็มที่ก็พอ เรื่องจำนวนคนสอบไม่ต้องไปสนใจ สุดท้ายเราก็ต้องแข่งกับตัวเอง แต่มีเป้าหมายไว้ก็ดีนะจะได้ไม่เขว้ 

ท้ายสุดท้าย ฝากเพจหน่อย เราไม่ได้เก่งเท่าเพื่อนเรา555555 เรามีหน้าที่แค่หาข้อมูลบลาๆให้พวกนั้นมาตอบ เพจสอบภาคอินเตอร์ให้คำปรึกษาฟรีๆ เพื่อนเราตั้งใจทำมาก เพราะมองว่าเส้นทางสายอินเตอร์ไม่ค่อยมีเพจอะไรพวกนี้ อยากให้เป็นข้อมูลให้น้องๆรุ่นต่อๆไป https://www.facebook.com/LearningCafebydom9914<< จิ้มเลย555 

อีกยอ่างนึงถ้ามีเพื่อนเดินเส้นทางสายเดียวกันช่วยๆกันไว้นะเรามองว่าเห็นแก่ตัวแล้วมันไม่ค่อยได้อะไรเท่ากับช่วยกันอ่ะ เข้ามหาลัยไปเราก็ต้องช่วยกันเรียนอยู่ดี สุดท้ายคู่แข่งที่น่ากลัวคือแข่งกับตัวเอง

ถ้าข้อมูลตกหล่นอะไรขออภัยนะคะ นี่คือเวอร์ชั่นคนขี้เกียจจริงๆ ถ้าใครอ่านกระทู้นี้เสร็จไปอ่านหนังสือได้แล้วน้า ตามความฝันให้ได้ :) 

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

เจนกิงก่องแก้ว 16 เม.ย. 60 เวลา 18:32 น. 2

โอ้ยย ทู้นี้มันดีมากค่ะ เคยจะลองทำตามประมาณนี้เลย แต่มาขัดๆไปตอนช่วงก่อนสงกรานต์จนวันนี้555

นี่เป็นคนวอกแวกมาก พอจะถึงเทศการชอบคิดแบบ โอ้ย เล่นเสร็จค่อยมาอ่านต่อ ตอนนี้ก็ยังไม่คิดจะอ่านต่อเลยค่ะขี้เกียจหนักมาก


ขอบคุณเจ้าของกระทู้นะคะ เริ่มมีไฟอยากกอ่านอีกแล้ว555

ปล. พอจะมีเฟสหรือทวิตเตอร์ไหมคะ อยากรู้จักค่ะ อยากมีเรื่องปรึกษาเยอะเลย555T__T


1
Canyonlox 16 เม.ย. 60 เวลา 20:33 น. 2-1

โห่ สู้ๆนะคะ ทำได้อยู่ละ แต่อย่าแบบขี้เกียจยาวไปเลยงี้ เดี่ยวยาวเกิน5555 เอาทวิตไปโล้ย @jk_taehyung จ้า

0
ggingnsp 12 ม.ค. 62 เวลา 14:57 น. 3

เราก็ดป็นคนนึงที่แบบนิสัยคล้ายกับจขกทมากกก ขก ไปสะทุกอย่างแตาถ้าจะอ่านนส ต้องออกมาข้างนอกเหมือนกัน5555555 เดี๋ยวเราจะลองนำวิธีเหล่สนี้ไปทำดูนะค้าบบบ

1
Canyonlox 16 ม.ค. 62 เวลา 19:33 น. 3-1

แต้งกิ๊วมากนะคุณกัปตันนี่เพิ่งมาเห็น สู้ๆนะค้าบบบ อิ้ิอิ้

0