เพื่อนๆคิดว่าตัวเองกับนิยายที่แต่งมีความสัมพันธ์แบบไหนกัน (ไรท์Xนิยายของตัวเอง)
ตั้งกระทู้ใหม่
-บางท่านอาจจะบอกว่าตัวเองเป็นพระเจ้าและนิยายที่ตัวเองแต่งเป็นโลกที่เราจะกำหนดอะไรก็ได้ จะสั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำ หรืออื่นๆ
แล้วเพื่อนๆล่ะคะ คิดว่าตัวเองกับนิยายมีความสัมพันธ์แบบไหน ลองบอกกันหน่อยสิคะ
42 ความคิดเห็น
ส่วนตัวมองว่านิยายเหมือนเพื่อนค่ะ อยู่กับเรานานมากและไม่เคยบ่น 55555
แต่พวกตัวละครจะมองว่าเขาเป็นคนนอก เราเข้าใจเขารักเขาแต่ก็นะ เวลาตายก็ต้องฆ่าอ่ะ ;w;
อ่า ส่งตัวละครไปสู่สุขคติ อาเมน
ผมคิดกับนิยายตัวเองเหมือน ครก ครับ เพราะต้องเข็นมัน ขึ้นภูเขา ต้องใช้แรงกายแรงใจอย่างมาก กว่าจะถึงยอดเขาที่เป็นตอนจบของเรื่อง แม้จะต้องใช้เวลา ทุ่มเท เหน็ดเหนื่อยแค่ไหน แต่เมื่อสำเร็จ มันก็คือความภาคภูมิใจครับ
ขอให้ครกไม่หนักจนเกินไปนะคะ // โดนครกทับ
มีความสัมพันธ์แบบไหนกับนิยายตัวเองเหรอ?
อืมม.. คงเหมือนโลกอีกโลกนึงที่เราสร้างขึ้นมา
ส่วนตัวละครหลักก็เอามาจากตัวผมเองแหละ แต่ว่าแตกนิสัยของตัวเองมาออกมาเป็น 3 ตัวอ่ะนะ แถมแต่ละตัวก็เอานิสัยบางอย่างมาเพิ่มในส่วนที่ขาดไปอีกเพื่อสร้างคาร์แรคเตอร์ของเค้า ก็นะมันดูออกได้อยู่ว่าแบบไหนจริงแบบไหนเท็จ...
ถ้าจะให้ผมสรุปให้เข้าใจ คงเหมือนชิ้นส่วนของจิตวิญญาณนั่นแหละครับ ^^)/
ช่างลึกซึ้งยิ่งนัก //จับมือ
นิยายเราคือเหตุการณ์แนวๆ เดจาวูงับ 555555
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นเพราะเราชอบใส่เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองบางส่วนลงไป
เป็นโรคอะไรสักอย่างที่ชอบใช้ชีวิตแบบรีรันในนิยายตัวเอง ฮ่าๆ
เป็นหมี
ที่เสี่ยงคุก
ได้แต่ยืนน้ำลายไหลมองนิยายของตัวเอง
//นิยายผม ตัวละครมีแต่เด็ก
ตัวของเราอีกมุมหนึ่งค่ะ...
ผู้กำหนดโชคชะตากับลูกๆที่น่าสงสารค่ะ เราไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งพวกเขาเลยนะ มันแค่เป็นพล็อต55555--
วิญญาณล่องลอยกับเหตุการณ์เกินตัวค่ะ 555
ถึงจะรู้สึกเหมือนตัวเองสร้างโลกอยู่ในที แต่บางครั้งก็เหมือนแค่เป็นวิญญาณที่เผญิอหลุดมิติไปอยู่ในหัวของใครก็ไม่รู้ บางเหตุการณ์ก็ชัดเจนอย่างกับวีดีโอ บางเหตุการณ์ก็เบลอจัดอย่างกับภาพถ่ายที่ลืมตั้งโฟกัส แถมยังความลับเยอะซับซ้อน จนไม่รู้ว่าจะเรียงลำดับเล่ายังไงก่อนดี
รู้สึกเหมือนนิยายเป็นลูกของเราค่ะ 555555
รู้สึกรักตัวละครทุกตัวค่ะ ไม่อยากใช้ทิ้งใช้ขว้าง พยายามให้ทุกตัวมีบทของตัวเอง
แล้วก็อยากจะพาลูกๆ ไปให้ถึงเป้าหมาย(ตอนจบ) น่ะค่ะ
เพิ่งจะแต่งฟิคของตัวเองจบไป ใช้เวลาตั้ง 5 ปี
รู้สึกดีมากค่ะ แล้วก็ใจหายมากด้วยเมื่อแต่งจบ
คิดว่าตัวเองเป็นน้ำและปุ๋ยและคิดว่านิยายเป็นต้นกล้าน้อยๆ พอเราทุ่มเทใส่ปุ๋ยใส่น้ำ เหมือนต้นกล้ามันจะแสดงความสวยงามตามแบบของเรา ตามความตั้งใจที่เราทุ่มเทไป ต้นกล้าเราก็จะผลิดอกออกผล แล้วก็จะมีแมลง ผีเสื้อก็คือคนอ่านทุกคนมาดอมดมต้นกล้าของเรา มันภูมิใจตรงนี้ละค่ะ โลกสวยไปอีกกกก
สวัสดีค่ะ
นักเรียนหัดเขียน(คือเจ้าของเม้นต์นะคะ)ตอบว่า...การแต่งนิยายกับความรู้สึกที่ตนมีอยู่นั้น...ไม่ต่างจาก...การที่ตนเล่นเกมสนุกเกอร์ค่ะ
หากจะเปรียบความสัมพันธ์ระหว่างการเขียนนิยายและความรู้สึกที่ตนมีนั้นคงจะเปรียบได้กับการเล่นเกมสนุกเกอร์ รู้สึกแบบนั้นค่ะ
เพราะเข้าใจว่า...
...กลเกมการเล่นสนุกเกอร์...คือต้องขึั้นอยู่ที่ฝีมือจริงๆนะถึงจะชนะได้...ฝีมือในที่นี้แน่นอนว่าหากจะเก่งได้จริงต้องฝึกๆๆๆๆ ที่จะหัดตีลูก(สีขาว)ด้วยไม้คิวนั้นเพื่อให้เจ้าลูกสีต่างๆลงในหลุม ในมุมที่เราต้องการ...และยังต้องวางแผนด้วยว่า...เจ้าลูกสีขาวนั้นมันจะต้องกลิ้งไปไหนหรือทิศทางใดต่อ...และจะทำเช่นไรมันจึงไปหยุดในจุดที่ผู้เล่นต้องการให้ได้ด้วย
มันจะกลิ้งไปไหนต่อ...และหยุดลงที่จุดไหน...นั้นก็ต้องอยู่ที่ฝีมืออีกด้วย..เพราะจะต้องทำให้มันหยุดอยู่ในจุดที่จะสามารถตีลูกต่อไปให้ได้อีกด้วย...หากไม่แล้ว...จะเป็นทีของคู่แข่งมีโอกาสเข้ามาเปิดเกมของตนเอง...ซึ่งนั้นอาจจะเป็นโอกาสที่ตนต้องแพ้(แบบต้องปิดตัวลง จะอันตรายมากต่อการสูญเสียโอกาสนะ)
เพราะฉนั้น...กลเกมการเล่นสนุกเกอร์ที่สนุกหรือเล่นได้นานๆคือต้องเก่งจริง...คือต้องมีความสามารถที่จะเล่นเจ้าลูกสีขาวนั้นให้ได้ดังใจ หรือให้มันไปอยู่ในจุดที่เราต้องการ...ในทุกครั้งที่เราตี...หรือจะเรียกสั้นๆว่า...การควบคุมเจ้าลูกสีขาวนั้น..ให้ได้ หรือให้เป็นไปจงได้...ต้องให้มันเป็นได้ทั้งเป็นลูกล่อ และเป็นลูกชน...เพียงเท่านัั้น...ทุกกลเกม ทุกโต๊ะ...ผู้เล่นก็จะชนะได้ในรูปแบบกวาดเรียบทั้งโต๊ะ หรือชนะขาดทุกๆเกมได้เพียงผู้เดียว
(ตรงนี้นอกประเด็นค่ะ การละเล่นสนุกเกอร์นี้มีผู้เล่นเพียงคนเดียวต่อหนึ่งฝ่ายนะคะ กลเกมนี้หากอยากจะเรียกผู้เล่นหรือให้ชื่อให้สมเกียรติ์เราๆมาสารถให้ชื่อเขาได้ว่า...ข้า(หรือเขา)มาคนเดียว...ค่ะ55555 )
และที่สำคัญยิ่ง...ในการเล่นเกมดังกล่าวนี้...ที่จะสามารถชนะได้ง่ายๆคือ...การซ่อนลูกสีขาวนั้นต่อคู่แข่งขัน...เพื่อไม่ให้คู่แข่งขันมีโอกาสเปิดเกม...ของเขาได้...นั้นเป็นเทคนิคและกลเม็ดที่ยากมาก เพราะการที่จะตีเจ้าลูกสีขาวกลมๆให้มันกลิ้งไปอยู่...ในจุดที่ปลอดภัย(คือจุดซ่อน เจ้าลูกสีขาวนั้นนะคะ)
ซึ่งการซ่อน(หรือหลบมุม หรือการหลบเลี่ยงการเปิดโอกาสให้คู่แข่งขันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย แต่หากเก่งจริงเขาจะมีความสามารถทำได้ค่ะ)
เพราะฉนั้นเกมสนุกเกอร์นี้แท้จริงหากจะเก่งจริงแน่นอนขึ้นอยู่ที่ประสบการณ์(ต้องมีชั่วโมงฝึกซ้อมที่ชํ่าชอง)
และความไหวพริบนั้นก็เป็นสำคัญ ...การละเล่นเกมดังกล่าวนี้ขึ้นอยู่ที่ไหวพริบ... ขึ้นอยู่ที่การมองแง่มุมต่างๆที่จะสามารถเป็นโอกาสให้ผู้เล่น เห็นและรู้ได้ว่า...จะทำเช่นไรเจ้าลูกสีขาวนั้นมันจึงจะมีโอกาสกลิ้งไปอยู่ในจุดที่เป็นเส้นตรงหรือทางตรง...ที่มันจะสามารถมีหนทางวิ่งไปกระทบลูกซึ่งมีสีต่างๆ ลูกที่ผู้เล่นต้องการที่จะเล่นนั้นๆได้(เช่นเจ้าลูกสีดำเป็นต้นเป็นจุดมุ่งหมายของนักเล่นผู้มีฝีมือชอบตีนักหนาเพื่อเก็บคะแนนได้แต้มได้เร็วๆในเกมนั้นๆ)...
เมื่อมีความสามารถที่จะส่งเจ้าลูกสีขาวไปอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการได้แล้ว...ไม่ว่าจะต้องใช้มุมไหนๆเพื่อไปชน(หรือกระแทก)...ให้เจ้าลูกสีต่างๆที่ต้องการ...วิ่งลงไปสู่หลุม...ให้ได้นั้นคือความสำเร็จ...คือฝีมือของการละเล่นในเกมดังกล่าวนี้
และ...การละเก่นกลเกมนี้...สิ่งที่ขาดไม่ได้...น่าจะเป็นคือ...เขาเหล่านี้...ผู้ที่มีฝีมือทั้งหลาย...น่าจะเกิดมามีพรสวรรค์...นั้นน่าจะมีส่วน เพราะหลายๆคนบอกว่าการเล่นสนุกเกอร์ได้แบบเยี่ยมยอดหรือเล่นได้ระดับเซียนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยทีเดียวค่ะ
และที่ขาดไม่ได้เป็นอย่างยิ่งเหนือสิ่งอื่นใดในการละเล่นกลเกมนี้...คือความสงบ และเยือกเย็นภายใน หรือที่เราๆเรียกว่า...ต้องมีความแกร่งหรือทรหดที่จะนิ่ง หรือสงบภายในเพื่อรอคอยโอกาสที่จะเปิดให้ในเกมต่อๆไป...นั้นก็เป็นสิ่งสำคัญด้วยเช่นกันค่ะ (เข้าใจแบบนั้นค่ะ)
บรรยายการละเล่น วิธีเล่นเสียยืดยาวเลยด้วย...เพื่อเปรียบเทียบ...ความสัมพันธ์ระหว่างการเขียนที่น่าจะมี...หรือของนักเขียนเองกับนิยาย...ค่ะ
สรุปเข้าใจและรู้สึกได้ราวกับว่า...หากที่จะต้องเขียนนิยายให้ได้เยี่ยมยอดหรือเป็นผลสำเร็จคงจะต้องเขียนให้เก่งๆ เช่น นักเล่นเซียนสนุกเกอร์ทั้งหลายค่ะ
คือ เข้าใจว่าการวางพล็อตให้ได้ดี ให้มีปม ให้มีมุข ให้มีเงื่อนต่างๆเพื่อให้นิยายเกิดเป็นอรรถรสที่ดีให้เกิดความสนุกสนาน ท้าทาย ตื่นเต้น น่าลุ้น น่าติดตามได้นั้นต้องมีกลยุทธหรือเทคนิคในการสร้างพล็อตค่ะ
และ การวางบทให้ตัวละคร...นั้นก็สำคัญ(หรือว่าการวางพล็อตกับการวางตัวละครนั้นเป็นสิ่งเดียวกันนะ)คือนักเขียนจะสามารถวางตัวละครต่างๆอย่างไร...ให้ผู้คน หรือนักอ่าน รัก เข้าใจ เห็นด้วยหรือไม่...กับบทบาทต่างๆของเขา...ในเรื่องนั้นๆ
หากจะเปรียบคือจะทำอย่างไรให้ตัวละคร(ตัวสำคัญ เช่นเจ้าลูกขาวนั้น)เกิดมีบทบาทเป็นเช่นลูกล่อและลูกชนในคนเดียวกันหรือในขณะเดียวกันได้
โดยเฉพราะบทบาทของตัวพระตัวนาง เพราะเธอและเขามีอิทธิพลต่อพล็อตมากมายนัก และมีอิทธิพลเรื่องราวที่จะดำเนินไปนั้น...เพื่อจุดมุ่งหมายที่นิยายเรื่องนั้นๆจะจบลงด้วยดี เหมาะสม สมควร หรือที่เราๆเรียกว่า...จะจบแบบ ปริ่ม อิ่มเอม หรือจะจบแบบอาดูร(ก็ตามที)
...ซึ่งจริงแล้วตอนจบของทุกๆเรื่องนั้นจะเป็นตัวตัดสิน...ว่านิยายเรื่องนั้นๆจะดีหรือไม่ดีค่ะ
เข้าใจว่าตอนจบ ผู้คน หรือนักอ่านจะจดจำ...ได้เป็นอย่างดี...นั้นเองค่ะ
คือเข้าใจและรู้สึกว่า...หากตนจะสามารถเขียนนิยายให้ดีได้ และจบลงด้วยสตอรี่ที่ดีมีเหตุผล มีที่ไปที่มาแบบลงตัวเป๊ะๆได้นั้น...คงจะรู้สึกว่า...ตนเองต้องเล่นกับพล็อตและการวางบทบาทของตัวละครได้...ราวกับตนนั้นกำลังเกมสนุกเกอร์อยู่ค่ะ
สรุปคือ...หากจะสามารถเขียนนิยายให้ดีคงต้องมีความสัมพันธ์กับนิยายราวกับตนนั้นต้องเป็นนักเล่นสนุกเกอร์ค่ะ คือคงต้องไม่ต่างกับตนนั้นกำลังละเล่นกลเกมนั้นอยู่...
แต่จะทำอย่างไร...ที่จะเขียนนิยายให้ได้ดีเช่นเซียนผู้ที่เล่นสนุกเกอร์ผู้ที่มีความสามารถกวาดได้ทุกโต๊ะแต่เพียงผู้เดียว...หรือเกมที่ตนเล่นอยู่นี้เราเองเป็นผู้คุมเกม...นั้นยังไม่ง่ายค่ะ
ในความเป็นจริงนะคะตอนนี้ ขณะนี้เจ้าของเม้นต์นี้...เป็นเพียงนักเรียนหัดเขียนค่ะ และก็มีความขี้เกียจรวมอยู่อีกด้วย...ค่ะ
สุดท้ายเม้นต์นี้ เป็นเม้นต์ของนักเรียนหัดเขียน...เป็นเม้นต์ที่ยาวๆด้วยเลยค่ะ หากเพื่อนๆนักเขียน ท่านใดไม่เข้าใจสิ่งที่เจ้าของเม้นต์พยายามจะสื่ิอนี้อาจจะเกิดขึ้นได้ (คือว่าตนเองนั้นไม่เก่ง และไม่มีประสบการณ์เป็นเหตุนั้นเองค่ะ)หรือว่ามีคำผิด ตก มากมายต้องขออภัยด้วยนะคะ ^____^
ลงคลิปการแข่งขันเกมสนุกเกอร์ให้เห็นการเล่นระดับแชมป์...ให้ดูด้วยเพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลินกับการละเล่นเกมดังกล่าวนี้ด้วยนะคะ(ได้เห็นภาพเหตุการณ์การเล่นของเซียน...ได้ชัดเจนด้วยค่ะ)
เป็นกำลังใจให้...กับเพื่อนๆนักเขียน เก่า ใหม่ นักเรียนหัดเขียน และมืออาชีพทุกๆคนด้วยค่ะ ^____^
นิยายสำหรับเราเหมือนกระจกค่ะ มันสะท้อนตัวตนของเราออกมาไม่มากก็น้อย
เนื้อเรื่องดำเนินไปโดยมีตัวเราเป็นตัวเอก จะบอกว่านิยายของเราแม้ว่าตัวเอกจะมีนิสัยแตกต่างกันไป
แต่ทุกนิสัยนั้นอยู่ในตัวเราเองทั้งหมด
ไม่ว่าจะร่าเริงสดใส หม่นหมอง และแอบจิต
และอีกอย่างนิยายคือโลกอีกใบที่เราสร้างขึ้น เพื่อสนองความต้องการที่แตกต่างไปจากชีวิตประจำวันค่ะ
เราคิดว่า เราเขียนนิยายคือ เหมือนเรากำลังฝันค่ะ ^^
เราอยากจะเขียนเรื่องให้มีพระเอกแบบนี้ แสนดีแบบนี้ หรือสิ่งที่เราอยากจะทำแต่ทำไม่ได้ สิ่งที่เราอยากจะเป็นแค่เราเป็นไม่ได้ หรือเขียนคนที่เราประทับใจ อยากให้มีคนแบบนี้ หรืออยากจะบอกความรู้สึกนึกคิดของตัวเองออกมา ประมาณนี้ค่ะ
สำหรับเรา นิยายคือคนสำคัญค่ะ เป็นหนึ่งในคนสำคัญที่สุดในชีวิต ถ้าไม่มีเขา ก็คงไม่มีตัวเราแบบวันนี้ และถ้าไม่มีเขา เราคงมีความสุขไม่ได้มากเท่าที่เป็นอยู่
จะกี่สิบตัวละครในนิยาย ทุกต่างก็เป็นคนสำคัญสำหรับเราหมดเลยค่ะ(แม้ว่าเราจะฆ่าเขาไปบ้าง ทำร้าย ทำให้เขาร้องไห้ ไม่มีความสุขตามเนื้อเรื่องไปบ้างก็ตาม... แงงง)
สัมพันธ์แบบ 'เกม' ค่ะ
เป็นจินตนาการ สร้างผ่านการเรียงร้อยเรื่องราว
เหมือนแกะสลักค่ะ ค่อยๆเคาะ แคะ แกะและบางทีทุบทิ้งถ้าไม่ได้ดังใจ
เป็นกระดาษกับปากกาค่ะ
เป็นพื้นที่ไว้คลายเครียดอ่ะค่ะ เอ๊ะ!! หรือจะทำให้เครียดกว่าเดิม
แต่ที่แน่ๆ เวลามีคนมาอ่านเพิ่มนี่มีความสุขค่ะ ถึงจะไม่มีเม้นท์เพิ่มแต่ก็ยิ้มได้ค่ะ (ยิ้มทั้งน้ำตาแล้วภาวนาอยู่ในใจว่า เม้นท์ทีเหอะ อยากรู้ว่าต้องปรับปรุงตรงไหนบ้างงงงง)
เราเข้าใจความรู้สึกคุณ // จับมือ
เป็นลูกๆของเราค่ะ
ทุกตัวละครที่สร้างขึ้นมาถือว่าเป็นลูกสาวลูกชายที่เราตั้งใจทำให้เขาหรือเธอเกิดมา(ฟังดูแหม่งๆแฮะ) ถึงจะฟังดูใจร้ายแต่ต่อไปนี้คือสิ่งที่เราคิดค่ะ
ลูกๆของเราคือคาร์แรคเตอร์ที่เราสร้างขึ้น ดังนั้นเด็กพวกนั้นก็เหมือนกับตุ๊กตาว่างเปล่า เราจึงต้องใส่บุคลิก ลักษณะนิสัยและอื่นๆเพื่อให้เด็กพวกนั้นมีชีวิชีวาขึ้นมา และต่อไปก็คือการกำหนดเส้นทางของเด็กๆเหล่านั้นว่าจะ"อยู่" หรือว่า "ตาย"ในนิยายเรื่องนั้นๆ ที่ให้ตายตอนจบไม่ใช่ว่าไม่รักตัวละครนั้นแต่เพื่อ"ความสะใจ"ส่วนตัวลึกๆ(โรคจิตไปอีก?)
อ่า บางทีการทำให้ตัวละครตายมันก็สนุกดีอ่ะนะ(?)
แต่ส่วนมากก็วางพล็อตให้จบแบบแฮปปี้น่ะนะ เพราะเราก็แค่ไรท์อายุสิบห้าปลายๆที่อยากมีมุมใสๆไรงี้(?)
แต่ไม่รู้ทำไมถึงแต่งคาร์แรคเตอร์ลูกๆได้ออกมาตรงข้ามกับที่อยากได้ก็ไม่รู้? แบบว่าอยากได้นางเอกน่ารักๆใสๆแต่พอแต่งไปแต่งมาไหงมันถึงโหดสัสแบบนี้?
บางทีเราก็เพลียจิตกับสกิลสร้างตัวละครเหมือนกัน
สรุปคือ ลูกๆที่น่ารักของเรานั่นแหละ :)
เข้าใจเลยค่ะ ตัวจริงเราเป็นคนแรงๆพอตัวเลยนะ แต่แต่งนิยายออกมานางเอกดันใสไปอีกกก(เบะปากมองบน 555)
เป็นตัวเราที่ไม่เป็นตัวเราค่ะ เป็นนิยายเรื่องแรก(รีบ่อยมว๊าก) เพื่อนที่เคยอ่านก็บอกว่านิสัยเหมือนเราเลย อารมณ์ประมาณ สิ่งที่เราอยากเป็น กับสิ่งที่เราถ่ายทอดออกมาจากความรู้สึก และจินตนาการของตัวเองอ่ะค่ะ แต่งมาก็หลายปี จนตอนนี้รู้สึก..เกลียดมัน ที่ทำให้เราต้องนั่งหน้าคอมทั้งวัน #ผิดๆ 555+
เหมือนเพื่อนรักที่บางครั้งเป็นเจ้ากรรมนายเวร แต่มีความสุขทุกครั้งที่เขียน แต่บางทีก็ขี้เกียจ------
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?