ทุนญี่ปุ่น ทุนรัฐบาล(ทุนคิง ธปท กระทรวงฯ) [การเตรียมตัว+ที่เรียนพิเศษ+หนังสือ]
ปฐมบท : สืบเนื่องจากกระทู้ที่แล้ว ที่เขียนเกี่ยวกับการสอบแพทย์ไป [https://www.dek-d.com/board/view/3749022/ ] มีน้องๆหลายคนรีเควสมาในกระทู้+ไลฟ์ [ใน ig : ffim.medcu60 ของเพื่อนพี่]ว่าอยากให้เขียนกระทู้เกี่ยวกับการเตรียมตัวสอบทุนฯ ประจวบเหมาะกับช่วงที่กลับมาจากญี่ปุ่นพอดี เลยมานั่งเขียนกระทู้นี้ เพื่อเป็นแนวทางให้กับน้องหลายคนที่อยากไล่ล่าความฝันของตัวเองในต่างแดน
ปรับความเข้าใจ : ในกระทู้นี้จะเขียนเกี่ยวกับการเตรียมตัวสอบทุน 2 ประเภท ได้แก่
1. ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น
2. ทุนรัฐบาลไทย ที่จัดโดยสำนักงาน กพ (เช่น ทุนเล่าเรียนหลวง ทุนธนาคารแห่งประเทศไทย ทุนกระทรวงต่างๆ) http://scholar2.ocsc.go.th/Main/FrmAnnounce.aspx?TestTypeId=iep%2frNIfLH0%3d&Year=qbGV1RDISO0%3d&PeriodNo=iep%2frNIfLH0%3d
หาญกล้าเพียงใดมาเขียนกระทู้นี้ : ไม่ได้หาญกล้าเลย แม้ว่าตัวเองจะได้รับทุนธปท แต่ก็ไม่ได้มีทักษะ หรือความสามารถเพียงพอที่จะมาโอ้อวดอะไรได้ แต่ที่มาเขียนกระทู้นี้ ประกอบขึ้นจากสองเหตุผล
1. ตัวเองไม่ใช่คนฉลาด จึงคิดว่าพอรู้วิธีการเตรียมตัวแบบคนไม่ค่อยฉลาด และน่าจะมีประโยชน์กับน้องๆหลายๆคน
2. ตัวเองเป็นคนที่ไม่ค่อยได้รู้ช่องทางการเตรียมตัวพวกนี้เท่าไหร่ จะมีแต่พี่ๆใจดีมาให้คำแนะนำในช่วงใกล้สอบบ้าง จึงเห็นว่าการให้โอกาส/เปิดช่องทางเป็นสิ่งสำคัญ จึงอยากกระจายโอกาส/แรงบันดาลใจนี้ ไม่ใช่แค่ให้มันกระจุกอยู่ในสายรุ่นพี่รุ่นน้องในโรงเรียนเตรียม หรือโรงเรียนดังอื่นๆ แต่อยากให้โอกาสและแรงบันดาลใจแก่ทุกคนผ่านช่องทางนี้ เท่าที่ทำได้
เมื่อเข้าใจกันดีแล้ว มาเริ่มกันเลยดีกว่า !!!
ทุนญี่ปุ่น Monbukagakusho
ทุนนี้จริงๆแล้วประกอบด้วยหลายประเภททุนมาก เช่น
1. สายวิศวะ(undergraduate) สอบ math eng chem phy
2. สายแพทย์(undergraduate) สอบ math eng chem bio
3. สายเทคโน สอบ math(คนละฉบับกับข้างบน) eng phy/chem (optional)
อ้างอิง : http://www.studyjapan.go.jp/en/toj/toj0302e-10.html
แต่ที่เราจะแนะนำให้คือสาย วิศวะ เพราะเป็นสายที่เราสอบ (ผ่านรอบเขียน แต่ไม่ไปสัมภาษณ์)
MATH : วิชานี้ไม่ยากเลย แต่คนที่มีหัวสร้างสรรค์ หรือทำเลขมาจะได้เปรียบหน่อย หากปีนั้นมันดันออกข้อแปลกๆมา (ปกติไม่ออกข้อแปลก และเตรียมตัวง่าย) สิ่งที่ต้องย้ำก่อนเลยคือ
“ไม่ต้องเรียนพิเศษ เปลืองตัง” โหลดข้อสอบได้ในเน็ต เอามาทำ เช็คแลย ทำไม่ได้ถามเพื่อน/อาจารย์/ผู้รู้ ที่มีมากมาย
บทที่ต้องเตรียมตัว :
1. จำนวนจริง เอาจริงคือมันง่าย คล้ายๆม.ต้น พวกเช็คแอพ, รูท หาคำตอบ แก้สมการธรรมดา เน้นพวก พหุนาม
2. เรขาวิเคราะห์+เรขาธรรมดา(เด็กค่าย 1 สอวนอาจได้เปรียบ) ปีล่าสุดออกมาเป็นข้อยากในข้อสุดท้าย ทำเอาเด็กที่ไม่ได้ฝึกการมอง 3 มิติมาตายเป็นแถว แต่ปกติจะออกง่ายเช่นกัน
3. จำนวนเชิงซ้อน
4. ลำดับ อนุกรม อันนี้เคยออกข้อยาก แต่ข้อสอบใจดี (ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของข้อสอบญี่ปุ่น) คือข้อย่อยก่อนหน้าจะสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในข้อย้อยถัดไป
5. ตรีโกณ
6. แคล (อันนี้ต้องเก็บให้ได้)
ENG : อันนี้ยากจริง มีเพื่อนพี่เคยนิยามว่าเขาไปเอาบทความมาพร้อมเปิด synonym เอามาตัดแปะ ซึ่งเออ อาจจะจริง คือศัพท์แสงอะไรมันยาก เพราะงั้นพาร์ทที่ต้องเก็บให้ได้คือ grammar เพราะมันออกเรื่องเดิมๆ เช่น used to /be used to , S-V agreement , preposition , ving/ed etc. และเช่นเคย ข้อสอบเก่าครับ ดีสุด http://www.studyjapan.go.jp/en/toj/toj0302e-32.html#1 แต่ถ้าอยากเรียน แนะนำสองที่
1. Jigsaw English มันมีคอร์สสอบทุน ลองไปเรียนดูได้ พี่ว่าอันนี้ใช้เตรียมทุนอื่นๆได้ด้วย
2. พี่อ๊อฟ (ที่เด็กสยามรู้จักดี) เขามีคอร์สเฉพาะทุนนี้อยู่
ตัวอย่างข้อสอบ error ที่เป็นที่เลื่องลือ
เคมี : วิชานี้ดีอย่างครับ ทุกคนแทบจะเสมอภาค เพราะมันยากมากกกก จริงๆไม่เชิง ถ้ารู้คือตอบ ไม่รู้บ้ายบาย
บทที่ออกประจำ :
1. Organic บทนี้ดีตรงที่ว่ามันมักออก mechanism เดิมๆ เพราะงั้นข้อสอบเก่าจะช่วย แต่ต้องจำ+เซ้น เยอะอยู่
2. กรดเบส ออกแบบว่าง่ายเลยก็มี แต่ตัวเฉพาะ หรือข้อควรทราบเพิ่มเติมก็มีโผล่ๆมาบ้าง แนะนำให้เก็บ(เพราะช่วยกับการสอบสนามอื่นๆมากด้วย)
3. ตารางธาตุ สารประกอบ ครอบจักรวาล (ข้ามประเด็นนี้ไป ออกข้ามจักรวาลจริงๆ)
4. ไฟฟ้าเคมี เก็บให้ได้ -พวกดุลรีดอกซ์ไรงี้ แม่นๆเลย
หนังสือเตรียมสอบ : เหมือนสอบแพทย์อะครับ แต่เน้นเฉพาะข้อ 1,2,4 ก็พอ (ไปตามดูในกระทู้สอบแพทย์นะเด้อ)
ที่เรียนพิเศษ : แนะนำ A big ที่เดียวละกันครับ เพราะเขามีคอร์สที่มันเหมาะๆอยู่ แบบว่าเกินๆหน่อย ปล.เรียน org chem ไปเลยก้ได้ครับ สนุกดี (พวกแพทย์ก็ต้องใช้นะ ตอนเข้าไปมหาลัย)
ฟิสิกส์ : เก็บเต็มไปเลยยยย (แต่พี่ไม่เต็ม T^T) เพราะมันออกเหมือนเดิมทุกปี ไม่รู้ทำไม แต่เตรียมตัวง่ายมาก เพราะมันออกเรื่องเดิมทุกปี อันได้แก่
1. กลศาสตร์ ได้แก่
1.1 โปรเจคไท
1.2 แรงดึงดูดระหว่างมวล+เคลื่อนที่วงกลม (เรียกว่าเคลื่อนที่รอบโลกก็ได้ ไม่ค่อยออกตัวอื่น)
1.3 ซิมเปิลฮาโมนิก (สปริง เรียกงี้ดีกว่า)
2. แก็ส PV=nRT จบปิ้ง + กราฟ P-V ออกแมร่งแทบทุกปี
3. ไฟฟ้าสถิต ออกวนอยู่ 4 สูตร แรง,สนาม,ศักย์,พลังงาน
4. แม่เหล็กไฟฟ้า
5. แสง (หักเห)
6. คลื่น (ดอปเพลอร์ ออกแทบทุกปี) ไม่ก็ออกคลื่นอย่างง่ายมาก ถึงขั้นที่ตอนพี่เข้าสอบพี่ยังไม่แน่น พี่ใช้การวาดรูปไปเลย ว่าคลื่นกี่ลูก ไรงี้ ใช้ไม้บรรทัดตี
เพิ่มเติม คลิก http://www.studyjapan.go.jp/en/toj/toj0302e-32.html#1
ทุนรัฐบาลไทย
ในหัวข้อนี้ จริงๆแล้วมันจะมีประเภททุนหลักๆ สามแบบ
1. สายวิทย์ สอบ อิ้ง ไทย สังคม วิทย์ เลข
2. <!--[endif]-->สายศิลคำ สอบ อิ้ง ไทย สังคม essay เลข
3. สายศิลป์ สอบ อิ้ง ไทย สังคม essay translation
โดยพี่จะพูดถึงแค่การเตรียมตัวสอบสายที่พี่สอบ คือสายวิทย์ โดยทุนที่พี่เลือกคือ ทุนเล่าเรียนหลวง และทุนธนาคารแห่งประเทศไทย
คำถามที่พบบ่อย : พี่เลือกสองทุน สอบสองครั้งรึเปล่าคะ?
คำตอบที่ตอบบ่อย : เปล่าครับ สอบครั้งเดียว ข้อสอบชุดเดียวครับ
รายละเอียดทุนดูได้ใน http://scholar2.ocsc.go.th/Main/FrmAnnounce.aspx?TestTypeId=iep%2frNIfLH0%3d&Year=qbGV1RDISO0%3d&PeriodNo=iep%2frNIfLH0%3d นะครับ
มาเริ่มเลยดีกว่า
ENG : จุดบอดของฉัน จุดแข็งคนทั่วไป
บอกก่อนเลยว่าพี่ไม่ถนัดวิชานี้ แนวการสอบนั้นคล้ายกับการสอบ TU-get ของธรรมศาสตร์มากๆ ดังนั้นหนังสือเล่มเหลืองแดงที่พี่เคยแนะนำไปในกระทู้เตรียมตัวแพทย์จึงมีประโยชน์อย่างมาก [ https://www.dek-d.com/board/view/3749022/ ] เวลาที่ให้น้องนั้นมีเหลือเฝือ ดังนั้น มันวัดกันที่ความละเอียด
และวิชานี้ห้ามทิ้งอย่างเด็ดขาด จริงๆคือห้ามทิ้งทุกวิชา แต่อันนี้ห้ามจริงๆ เพราะมันต้องคะแนนเกิน 60 เปอร์ ไม่งั้นเขาไม่ตรวจวิชาอื่น
ไทย : ดาบเล่มที่หนึ่ง
วิชานี้คือวิชาเฉือดเฉือนกันของเหล่าตัวท็อปๆของสนามนี้ เพราะส่วนใหญ่ทุกคนจะทำ อิ้ง เลข ได้แบบสบายๆ และได้ วิทย์ พอๆกัน และพี่ถนัดวิชานี้555 (โม้นิดนึง) ไม่ได้ถนัดแบบว่าเก่งด้านภาษาวรรณคดีไรงี้นะ เพราะข้อสอบมันคนละเรื่อง สิ่งที่พี่คิดว่าตัวเองถนัดคือ “การเขียน”
ตัวอย่างข้อสอบ : http://scholar2.ocsc.go.th/Main/FrmSimpleTest.aspx?TestTypeId=iep%2frNIfLH0%3d&Year=qbGV1RDISO0%3d&PeriodNo=iep%2frNIfLH0%3d
ข้อสอบจะประกอบด้วยหัวข้อดังนี้ (ข้อสอบมี 5 ข้อ ข้อละ 20 คะแนน)
1. เรียงความ / ความเรียง
2. ย่อความ
3. บทพูดอภิปราย
4. การใช้ภาษา
5. วรรณกรรม
หากถามว่า การเขียนแต่ละแบบมันต่างกันยังไง ให้ไปดูในแบบเรียนเล่มเขียวของกระทรวงครับ [เคยแนะนำในกระทู้เตรียมสอบแพทย์ https://www.dek-d.com/board/view/3749022/ ] อ่านตัวอย่าง แล้วจำรูปแบบคร่าวๆมา เพราะหากเขียนผิดรูปแบบ นั่นเท่ากับคุณไม่อ่านคำสั่ง คุณไม่รอบคอบ คะแนนหาย
ส่วนย่อความ เหมือนที่เคยบอกไปในไลฟ์ มันไม่ใช่การย่อแบบบันทึกการอ่านไร้สาระที่โรงเรียนชอบให้ทำนะครับ มันมีหลักการของมัน ที่ชัดเจน วิธีฝึกคือ อ่านข่าว/บทความ (แนะนำในหนังสือพิมพ์ หรือ facebookfanpage เช่น the matter หรือ the momentum แล้วสรุปบ่อยๆ)
การใช้ภาษา สิ่งที่ผิดกันบ่อยคือการใช้ภาษาต่างประเทศ ภาษาหนังสือพิมพ์ หรือภาษาในอินเตอร์เน็ต รวมถึงคำที่ซ้ำซ้อน เช่น พบเจอ ควรใช้ พบ หรือ เจอ อย่างใดอย่าหนึ่ง รวมถึงการสะกดคำ (ปีล่าสุดออกการผันวรรณยุกต์)
วรรณกรรม ข้อสอบมันไม่ใช่การ มาจำบทกลอนโอ้โลมปฏิโลมกวี ว่าแต่งดีอย่างงู้นอย่างงี้ มันคือการวิเคราะห์ น้อยต้องอ่าน เข้าใจวรรณคดี เข้าใจbackgroundของมัน เขียนวิเคราะห์เป็นระบบ และหากมีตัวอย่างเป็นบทกลอนด้วยจะดียิ่งขึ้น
ตัวอย่างข้อสอบวรรณกรรม :
สังคม : ดาบเล่มสุดท้าย
วิชาที่ยากที่สุด และเฉือดเฉือนกันมากที่สุด สิ่งที่น้องต้องทำคือแข่งกับเวลา ข้อสอบ 5 ข้อ 3 ชั่วโมง มันดูเหมือนสบายๆ แต่มันยากมาก น้องต้องบริหารเวลาดีเยี่ยม แนวข้อสอบเหมือนกับเด็กมหาลัยสอบกัน คือเขียนล้วนๆ สิ่งที่น้องจะเจอร่วมกันของไทยสังคมวิทย์เลข คือ เขาจะให้สมุดคำตอบมาข้อละเล่ม อ่านไม่ผิดครับ ข้อละเล่ม เป็นสมุดคล้ายสมุดโรงเรียน น้องห้ามเขียนผิดเล่มเด็ดขาด เพราะเพื่อนพี่โดนมาแล้ว มันฉิบหายมาก
ข้อสอบแบ่งเป็นหัวข้อดังนี้
1. เศรษฐศาสตร์ (ปีล่าสุดไม่ออก ไปออกหัวข้อ 6 แทน)
2. การเมือง
3. ศาสนา(พุทธ)
4. ประวัติฯ
5. ภูมิศาสตร์
6. อาเซียน
การเตรียมตัว หนังสือกระทรวงครับ น้องต้องมีคลังข้อมูลในหัวเยอะมาก ไม่ใช่แค่รู้ข้อมูล แต่ต้องวิเคราะห์ หาทางออกที่สร้างสรรค์ด้วย + ติดตามข่าวสารบ้านเมืองตลอด(ใช้กับไทยได้ด้วย) เช่น Thailand 4.0, crowd funding, 3-d printing, death of print etc. หัวข้อที่น่าสนใจเหล่านี้จะช่วยยกระดับงานเขียนของน้อง ทั้งในวิชาไทยและสังคมครับ
ตัวอย่างข้อสอบ :
คณิต : เก็บให้เต็ม เขียนให้เป็นขั้นตอน
ข้อสอบมันไม่ยากครับ และออกค่อนข้างตายตัว สำคัญคือการเขียนและความละเอียด เพราะมีวิธีทำ
หัวข้อออก มันออกหมดครับ แต่ สถิติ มักออกเป็นข้อใหญ่ ต้องละเอียด ที่เหลือข้อเล็กไม่ยาก(ง่ายพอๆ 9 วิชา หรือง่ายกว่า)
ที่เรียนพิเศษ : ไม่ต้องเรียน มันไม่ยาก ฝึกเขียนบ่อยๆ เพื่อให้ชินมือ เข้าไปในห้องสอบจะได้ไม่เสียเวลา ง่ายกว่า 9 วิชา
หนังสือ : จำได้ว่า พี่ตุ้ยเคยเขียนหนังสือขายอยู่ ลองไปหามาดูก็ได้ครับ เล่มสีน้ำเงิน
วิทย์ : สามตัว ร้อยคะแนน
1. ชีวะ ออกครอบจักรวาล จ้า แต่มักอยู่ในหนังสือกระทรวง ตอนพี่เตรียมตัวพี่เอาหนังสือกระทรวงมาเปิด ที่เรียนพิเศษ พี่แนะนำพี่วิเวียนคอร์ส PAT2 เพราะครบถ้วนดี และละเอียด
2. เคมี อันนี้เก่งคำนวณได้เปรียบ เพราะมักออก 2 ข้อ คำนวณปริมาณสาร/กรดเบส/ไฟฟ้า 1 ข้อ แล้วก็ organic chem 1 ข้อ แนะนำ A big เลยจ้า พร้อมสุดละ เพราะ org นี่มีเกินบ้างเล็กๆ
3. ฟิสิกส์ กราบเพื่อนงามๆ (ก่อนสอบได้บูมที่ 3 ทุนคิง+เด็กโอลิมปิกฟิสิกส์ กับพี่ปั้นที่ใครตามไลฟ์ใน ig พี่ฟิม คงรู้จัก ช่วยไว้จริงๆ) คือมันออกไม่ยาก และออกเหมือนเดิมได้แก่
3.1 การเคลื่อนที่ 1-2 ข้อ
3.2 ของไหล 1 ข้อ
3.3 ความร้อน 1 ข้อ (เปลี่ยนสถานะ)
3.4 คลื่นเสียงแสง 2 ข้อ (ความเข้ม สลิต เลนส์)
3.5 ไฟฟ้าสถิต 1 ข้อ (ตัวเก็บประจุ แรง/สนาม/ศักย์/พลังงาน)
3.6 แม่เหล็กไฟฟ้า 1 ข้อ
3.7 พวกบทนิวเคลีย/กัมมันตภาพ อะตอม 2 ข้อ (โฟโตอิเล็กตรอน การสลายตัว)
เย่ จบละจ้าาาา อาจไม่ละเอียดมาก เพราะหลงลืมไปหลายอย่างแล้ว
ใครมีข้อสงสัยเพิ่มเติม เม้นไว้ข้างล่างเลยนะ หรือไม่ก็ dr ig มาก (follow กันด้วยก็จะดี 555)
ig : ydm.ts2020
ปล. ใครมีงานเขียนอยากให้ลองอ่าน/คอมเม้น ก็มาคุยกันใน ig นะ จะพยายามอ่านให้เวลาว่างคับผม
20 ความคิดเห็น
ได้ครับ เพื่อนๆพี่ก็ทำกันหลายคนเช่นปีนี้ คนที่ได้ทุนสายศิลป์คำของทั้งทุนคิงและแบงชาติก็เป็นสายวิทย์ครับ
ยินดีครับ
รบกวนถามหน่อยนะครับ
หนังสือพี่ตุ้ยเล่มสีน้ำเงินที่พี่แนะนำในพาร์ทคณิตของทุนคิงหน้าตาเป็นยังไงหรอครับ แล้วสามารถหาซื้อได้ที่ไหนอ่ะครับ
http://cw.lnwfile.com/_/cw/_raw/yp/56/po.jpg
ขอบคุณครับ
เพิ่มเติมเรื่องเลขครับ หนังสือเฉลยพี่ตุ้ยมีที่ห้องแนะแนวโรงเรียนเตรียม รุ่นพี่ทิ้งไว้ให้ครับ เผื่อรนไม่อยากลงกวดวิชา
ขอบคุณมากครับ //อยู่มาสามปีไม่รู้ว่ามี 555
ขอบคุณพี่ป่านมากเลยนะคะที่ตั้งกระทูกนี้ขึ้นมา ทำให้ได้รู้หลายเทคนิคที่ได้ไม่ได้เรียนในสถาบันใหญ่ๆ(ซึ่งมันน้อยมากแถว รร.ของหนูที่แทบจะรู้จักทุนแบบนี้และไม่มีคนให้คำแนะนำได้)หรืออยู่ใกล้ๆกับสถานที่เรียนพิเศษดังๆ พี่เขียนทำให้เห็นภาพรวมๆของการสอบทุน อธิบายแนะนำหนังสือได้เข้าใจมากๆเลยค่ะ หนูเป็นคนหนึ่งที่มีความฝันและไม่อยากให้มันเป็นแค่ฝันที่อยากสอบได้ทุนกระทรวง ขอบคุณกระทูกนี้มากๆเลยนะคะมีประโยชมากๆเลยค่ะ
*หนูติดตามพี่ในไอจีและได้รู้จักพี่จริงๆก็ไลฟ์ของพี่มะเฟื่อง #มีแอบจิ้นพวกพี่เบาๆ><
ขอบคุณน้องเช่นกันนะครับที่ติดตาม ให้กำลังใจกัน อยากให้ความฝันเป็นเพียงความเพ้อฝันครับ สู้ๆครับ พี่เป็นกำลังใจให้ครับ สงสัยเพิ่มเติมอะไรถามได้นะครับ //พี่มฟเขาบอกจิ้นได้ 1 เดือน 555
พี่ค่ะ ข้อสอบทุนญี่ปุ่นนี้ข้อสอบเปนภาษาอังกฤษหมดมั้ยค่ะแล้วเปนข้อช้อยหมดมั้ยค่ะ
เป็นข้อสอบภาษาอังกฤษหมดครับ มีแค่อังกฤษที่เป็นช้อยหมดครับ ที่เหลือมีเติมคำด้วยครับ
อ๋อ ขอบคุณค่ะ กระทู้พี่มีประโยชน์มากๆค่ะ ไม่ค่อยมีกระทู้ที่มาแนะนำการสอบทุนแบบละเอียดขนาดนี้เลยค่ะ ซึ่งหาได้ยากมากเลยค่ะ ขอบคุณน่ะค่ะ
อยากรู้อะไรเพิ่ม ถามได้เลยนะครับ //ดีก็ฝากแชร์ต่อด้วยเนาะ ช่วยๆกัน^^
โอเคคร้าาาา
พี่คะ ไม่ทราบว่าทุนมง พอจะมีแนะนำสำหรับสายศิลป์มั้ยคะ ที่สอบตัว คณิต2 อยากรู้ความยากง่ายของมันอ่ะค่ะ
พี่ไม่เคยเห็น สายศิลมาสอบนะ เลยไม่แน่ใจ คณิตมันจะไม่ยากมาก คือเขาออกข้อสอบสไตลเฉพาะตัวอะครับ คนไม่ชินก็อาจจะมึนๆเล็กน้อย แต่ไม่ใช่ปัญหาเพราะเวลาเยอะอยู่ //รวมๆง่ายกว่า 9 วิชาครับ
แล้วส่วนที่เป็นภาษาอังกฤษล่ะค่ะ อยากให้รีวิวให้นิดนึงนะคะ
ค่อนข้างยากครับ เหมือนที่เขียนในกระทู้ คือมันจะมีแนว error ที่เฉพาะตัว บทความอ่านยาก ส่วนพาร์ทพวกแกรมม่าต้องเก็บให้ได้ครับ //ไปดูตัวอย่างข้อสอบได้นะครับ ใน ลิงค์ในกระทู้
สงสัยของทุนมงที่มีให้เลือกสอบภาษาญี่ปุ่นเพิ่มด้วย การสอบหรือไม่สอบนี่มันแตกต่างกันยังไงหรอคะ แล้วถ้าเราใช้ผลวัดระดับภาษายื่นตอนสมัครด้วยอันนี้คือจำเป็นต้องสอบภาษาญี่ปุ่นเพิ่มใช่ไหมคะ?
สอบญี่ปุ่นไม่มีผลครับ //พี่ไม่ทราบเรื่องการยื่นผลวัดรดับเพิ่มเติมอะครับ
พี่คะ อยากทราบว่าตอนรอบสัมภาษณ์ทุนนี้สัมฯเป็นภาษาอังกฤษอย่างเดียว หรือทั้งไทยทั้งอังกฤษคะ
ตอบแทนพี่ป่าน
ทุนญี่สัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ
ทุนคิงสัมภาษณ์ทั้งสองภาษาจ้า
ขอบคุณค่า
พี่คะ ทุนทั้ง2ทุนนี้ เค้าใช้เกรดเฉลี่ย ม.4-ม.6 เท่าไหร่คะ
ตอบแทนพี่ป่าน
ทุนคิงใช้ 3.5
ทุนญี่ใช้ 3.8
ขอบคุณค่า
พี่พูดอังกฤษได้อยู่แล้วรึเปล่าคะ แล้วพี่ไปเรียนที่นั่นเค้าได้ให้ไปเรียนภาษาก่อนมั้ยคะ
ตอบแทนพี่ป่าน //น้องป่านอย่าหาว่าพี่แย่งงานนะ พี่ว่าง เดะเรามาเสริมก็ได้
ใช่ครับ พี่ป่านพูดภาษาอังกฤษพอได้อยู่แล้ว
พี่ป่านไปทุนปีแรกจะยังไม่ได้เข้ามหาลัย เพราะไม่ได้สมัครไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ดังนั้นเดือนมิถุนาปีนี้พี่ป่านจะไปเข้าค่ายซัมเมอร์ที่ Brewster Academy รัฐ New Hampshire เป็นเวลา 11 สัปดาห์ ระหว่างค่ายนักเรียนทุนรัฐบาลไทยทุกคนจะต้องใช้ภาษาอังกฤษตลอดเวลาและจะต้องเรียนเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ วัฒนธรรมอเมริกัน ระบบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย กีฬาอเมริกัน
หลังจากนั้นพอเดือนกันยายน พี่ป่านจะเดินทางไปยังเพรพสคูล เพื่อไปทำ Post Graduate Year
ซึ่งก็คล้ายๆกะการซ้ำชั้นม.6 ที่โรงเรียนประจำไฮสคูลของบ้านเค้านั่นล่ะ เป็นโอกาสในการฝึกภาษาไปพลางๆก่อนไปมหาลัย
เดือนธันวาคม พี่ป่านจะส่งใบสมัครเข้ามหาวิทยาลัย
ปลายเดือนมีนาคมปีหน้า พี่ป่านจะทราบผลมหาวิทยาลัย
กันยายนปีหน้า พี่ป่านจึงจะเข้ามหาวิทยาลัยจ้า
ขอบคุณมากครับพี่ ^^
ขอบคุณค่ะละเอียดมากกกกก
เคยสอบแต่ไม่ติด ยากมาก ตอนนั้นยังไม่รู้เรื่องเตรียมตัวมาไม่ดี แห้ว
ใช่ครับ ข้อมูลมันสำคัญมากจริงๆ
อยากรู้ว่าทุนรัฐบาลญี่ปุ่นนี่แนวข้อสอบอังกฤษนี่คล้ายๆข้อสอบอะไรเหรอคะ
พี่ว่าไม่คล้ายไรเลยครับ
เราอยู่สายศิลป์ค่ะ อยากลองสอบทุนมงสายSocial science ซึ่งมันต้องใช้เลขเนื้อหาของสายวิทย์ด้วยอ่ะค่ะ พอจะแนะนำหนังสือโจทย์เลขแนวที่คล้ายกับข้อสอบให้ได้มั้ยคะ TvT
จริงๆ ข้อสอบเก่าตรงสุดครับ แต่ถ้าอยากเพิ่มลองเล่มนี้ครับ http://ulib.roong-aroon.ac.th/ULIB5//_fulltext/cover/13399102293/20110303113211_653.jpg
เกรดที่ใช้สอบ 6 เทอมหรือ 5 เทอมคะพี่ป่าน
//แย่งงานพี่ป่าน
ทุนคิง 5 เทอมจ้า เพราะสอบเดือนตุลา ยังไม่ทันขึ้นหกเทอมสองเลย
(ทุนญี่ถ้าจำไม่ผิด 4)
ถ้าสอบตอนม.5 แล้วไม่ติดสามารถสอบตอนม.6อีกรอบได้ไหมค่ะ
เหมือนสอบได้แค่ม.6 นะคะ
ใช้ครับ ได้แค่ ม.6
ส่วนใหญ่สายศิลป์คำนวณมีติดทุนของสายตัวเองมั้ยคะ หรือมีแต่สายวิทย์
ขออนุญาตตอบแทนนะคะ ถ้าทุนคิงแยกเป็นสายวิทย์ สายศิลป์ภาษา สายศิลป์คำนวณเลยค่ะ
เข้าใจว่าผู้ถามน่าจะหมายความว่า
ทุนคิงศิลป์คำนวณ มีเด็กศิลป์คำนวณได้บ้างไหม
เพราะปกติจะเป็นเด็กสายวิทย์ที่เก่งเลขกับอังกฤษย้ายมาเก็บไปทั้งสองที่ตลอด
ในช่วงสามปีที่ผ่านมา จากทุนคิงศิลป์คำนวณหกตำแหน่ง เป็นเด็กวิทย์คณิตเก็บไปซะห้า
ศิลป์คำนวณหนึ่ง(เป็นศิลป์คำห้องวิทย์กบฏ - ห้องศิลป์คำที่ย้ายมาจากวิทย์คณิตตอนม.6ของเตรียมฯ) ดังนั้นคำตอบคือยังมีบ้าง แต่ปกติเด็กศิลป์คำจะย้ายไปลงชิงกับศิลป์ภาษาเลยมากกว่า หายากที่จะลงสายตัวเอง ทั้งนี้เพราะสู้เลขเด็กวิทย์ย้ายมายาก เรียนภาษาละไปชนกะศิลป์ภาษาเลยดีกว่า
กระนั้น คนที่ได้ทุนคิงศิลป์คำ ถึงจะไม่ได้เรียนศิลป์คำ ส่วนมากก็เป็นพวกเด็กวิทย์หัวใจศิลป์คำอยู่แล้ว เท่าที่รู้จักมามีแต่คนไม่ชอบวิทย์ (แต่ก็ยังอยู่สายวิทย์ คะแนนก็โอเค แต่ไม่ชอบ เลยคิดจะสอบศิลป์คำกันตั้งแต่ม.4 )
ถ้างั้นถ้าตัวหนูเรียนสายวิทย์แล้วสามารถชอบทุนของสายศิลป์ภาษาได้ใช่ไหมคะ
ได้ครับ
พี่ป่านคะ คณิตศาสตร์ปกติหนูเรียน Sup'K อ่ะค่ะ แต่ไม่ชอบไม่เกลียด กำลังคิดจะเปลี่ยนไปเรียน The Tutor พอดี มันสอนเป็นแนวไหนอะคะ เร็วมากไหม คอร์สทุนคิงมีทวนนิยาม/สูตรไหม หรือโจทย์ล้วนๆ(พื้นฐานเลขหนูก็ไม่ค่อยเท่าไร ที่เตรียมตอนสอบเลขยากก็เจียนอยู่เจียนไป...)
แล้วฟิสิกส์นี่ถ้าจะเรียนพิเศษพี่แนะนำที่ไหนอะคะ(หรือถามเพื่อนพี่ก็ได้ค่ะ)
หนูเพิ่งมาตั้งใจสอบทุนไปตปท.ตอนม.6 นี่ล่ะค่ะ เครียดมากๆเลย จะทันมั้ยคะเนี่ย ดีที่ปีนี้น่าจะเลื่อนสอบไปกุมภา แต่ก็ต้องสอบพร้อมกสพทเลย
ถ้ายังไงขอไลน์หรือเมลไว้ได้มั้ยคะ อยากขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ หลังไมค์ก็ได้ค่ะ รบกวนไปหรือเปล่าคะ
คอร์สทุนคิงมีทวนนะครับ แต่จะทวนจากโจทย์ คือมีโจทย์มา แล้วเขาก็ทวนเนื้อหาที่ใช้เล็กน้อย(อันนี้คือคิง3นะครับ)
ไปเร็วไหม สำหรับพี่ พี่ว่าไม่เร็วครับ แต่ถ้าน้องไม่แน่นแล้วไปลงคิง3เลยอาจหนักไป
อาจต้องอ่านเองทบทวนก่อน หรือลงคิง1,2
ฟิสิกส์ แนะนำอ.ธวัชชัย กับพี่เซ้งครับ //พี่ไม่แน่ใจว่าทุนเขาเลื่อนนะครับ ไงก็ลองเช็คดีๆนะ
พี่ใช้ dek d ยังไม่ค่อยคล่อง
dr ig มากะได้ครับ parn_paniti
ละบอกว่าเป็นเจ้าของไอดี Siltera Minor ในเด็กดีที่มาถามพี่
A big พี่เรียนคอร์สไหนหรอคะ
A big จริงๆพี่เรียนหลายคอร์สนะครับ แต่พวกคอร์สม.ปลายส่วนใหญ่พี่เรียนตั้งแต่ม.ต้นแล้ว ก่อนจะสอบทุนญี่ปุ่น ถ้าจำไม่ผิดพี่เรียนแค่คอร์ส orgchem นะครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?
บทความที่คนนิยมอ่านต่อ