Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

My memory ของเด็กผู้หญิงคนนึง

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เคยได้ยินคำว่า ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายไหม  มันคือเรื่องราวของฉันนี่แหล่ะ
ทุกคนล้วนมีความฝัน ทุกคนล้วนมีสิ่งที่ต้องการ และทุกคนมีจุดมุ่งหมายแต่กว่าจะถึงจุดมุ่งหมายระหว่างทางมันคงไม่ง่าย  หรือโรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างในนิยาย….
และฉันก็มีความฝันที่หลากหลาย มากมายตามสถานการณ์ไปเรื่อยๆ
จนอยากจะสำเร็จสักความฝัน และทำให้ครอบครัวสบาย  และไม่เหนื่อยอีกต่อไป
 
สวัสดีค่ะ  ฉันเป็นเด็กผู้หญิงคนนึงที่ลืมตาดูโลกในวันที่ 28 สิงหาคม 2543 เวลา 11.58
 อุแว้ อุแว้ โว้โว เยเย๊  !!! นั่นแหล่ะค่ะ เสียงฉันเอง ฮ่าฮ่า  อาจจะฟังดูตลกถ้าร้องจริงๆ แต่ฉันชอบร้องเพลงหนิ !!
ฉันลืมตาขึ้นมาเห็นผู้คนมากมายล้อมรอบตัวฉัน  ทุกคนยิ้มแย้ม ขำขันกันใหญ่ และมีผู้หญิงคนนึงที่อยู่ใกล้ฉันที่สุด
ยิ้มแก้มแทบปิ และมีหยดน้ำตาไหลมาที่แก้มของฉัน นั่นคือ แม่ของฉันเอง
ฉันมีพี่ชายต่างพ่อ 1คน  อายุห่างจากฉันประมาน 7-8ปี  นับถือศาสนาอิสลาม  พี่ของฉันหรอก็จะเป็นคนกวนๆ ขำๆ
เกเร พูดจาหยาบๆ ฮ่าฮ่า แต่มันใจดีนะ
ฉันเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย ไม่ได้ยากจน  เอ้ะ!! ตกลงยังไงแน่ ??? แต่ก็เป็นครอบครัวที่ดี แปลก ๆและผ่านเรื่องราวมากมาย ไม่ว่าจะตัดยังไง ก็ตัดไม่ขาด 
 

แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

MILD_AKE 2 มิ.ย. 60 เวลา 22:04 น. 1

ฉันมีตายาย ป้า น้า แม่ พ่อ พี่ชาย ส่วนตัวของฉันจะอยู่ที่บ้านฝั่งตายายซะมากกว่า เพราะเกิดที่นั่น แม่ของฉันเป็นลูกสาว คนกลาง ที่แม่ชอบจะพูดเสมอว่า ยายจะไม่ค่อยรักเท่าไหร่ ฮ่าฮ่า !!! ซึ่งมันก็อาจจะจริง

แม่พบรักกับพ่อของฉันตอนอายุ 20กว่าๆ พ่อเจอแม่ที่ทำงานกลางคืนแห่งนึง ซึ่งพ่อมาเที่ยวแล้วก็ตกหลุมรักนักร้องคาเฟ่ คนนึง ซึ่งก็คือแม่ของฉัน กว่าแม่จะผ่านอุปสรรคมา แม่ต้องเจอกับแม่ยาย หรือเรียกง่ายๆว่าย่าของฉันนั่นแหล่ะ

ย่าเป็นคนขี้งก งกมากกกกกกกกก (ก ล้านตัว) ย่าข่มเหงทุกสิ่งอย่าง ทำงานบ้านแลกข้าวโดยมีฉันอยูในพุงของแม่

จนแม่พ่อทนไม่ไหวหนีกลับมาอยู่กลับยายที่สระแก้ว (บ้านเกิดฉันเอง) ตอนกลับไปที่บ้านของยาย ยายเห็นก็ตกใจเดิน พุงใหญ่มาแต่ไกล แล้วก็ด่าลั่นบ้าน ด้วยเพราะพี่ชายคนเดียวก็เลี้ยงยากพอตัว เอาฉันไว้อีกคนก็ถึงกลับจนดักดานเลยจ้า

แม่ก็ต้องช่วยยายขายส้มตำ ไก่ย่าง ด้วยราคาไก่ไม้ล่ะ 7บาท ส้มตำ 10บาท คิดจำนวนเงินในตอนนี้ขาย100ไม้จะได้กำไรรึป่าวว ฮ่าฮ่า!!! พ่อแม่ก็ช่วยกันทำมาหากินจนวันที่ฉันเติบโตมาเป็นคนได้ จากที่เป็นวุ้นๆดิ้นอยู่ในท้อง แม่ต้องแบกของหนักๆไว้ที่พุงเป็นเวลาเกือบปี คิดดู …..

จนฉันอายุได้เกือบจะ 3 ขวบแล้ว กำลังน่ารัก น่าเอ็นดู ฟันหลอๆหน่อย พ่อกับแม่ก็มีอันเลิกรา และทิ้งฉันกับแม่ไปอย่างไม่ใยดี ด้วยเหตุที่ว่าย่าหาลูกสะใภ้คนใหม่ให้พ่อ เป็นนางพยาบาล แล้วพ่อก็ชอบเค้า แล้วจากไปไม่หวนมา

ในตอนนั้นฉันได้แต่นั่งร้องไห้ กอดพ่อแม่ว่าอย่าเลิกกันเลย กลับมาดีกันเถอะ ถ้าพ่อแม่ไม่อยู่ด้วยกันจะเรียกครอบครัวยังไง

แต่ด้วยเสียงน้อยๆ มันจะมีประโยชน์อะไร แล้วแม่ก็ตัดสินใจไปทำงานกรุงเทพ แล้วให้ฉันอยู่กับยาย

โดยเวลาผ่านไปเป็นปี ตอนนี้ก็จะ4ขวบแล้ว ฉันก็ได้เข้าอนุบาลเหมือนเด็กคนอื่นๆ ไปโรงเรียนวันแรกยายบอกว่า ร้องไห้ไม่อยากไป ฮ่าฮ่า มันก็เป็นกับเด็กทุกคนแหล่ะเนอะ แต่หลังจากนั้น ยายก็บอกอีกว่า… ไปแล้วไม่อยากกลับบ้านอีกเลย

ฉันเป็นเด็กที่หัวไว ฉลาด และมีความเป็นผู้นำ เป็นหัวหน้าห้องทุกปี ครูก็ชมตลอดด

จนเวลาผ่านไปอีกปี …. ตอนที่ฉันป.2 แม่ก็กลับมาหาฉัน ฉันคิดถึงแม่มากกกก แม่จะโอนเงินมาให้ยายทุกเดือน แล้วแม่ก็พูดเสมอว่า…

ให้เข็มแข็ง แล้วแม่พร้อมเมื่อไหร่ แม่จะเอาฉันไปอยู่ด้วย ฉันก็ตั้งตารอทุกวัน วันที่จะได้อยู่กับแม่ วันที่จะได้นอนกอดแม่ทุกคืน วันที่กินข้าวด้วยกัน จนถึงตอนนี้พ่ออยู่ที่ไหน ไม่เคยถามไถ่ ไม่เคยติดต่อมา แม่จะบอกตลอดว่าพ่อลืมเราไปแล้ว

พ่อมีครอบครัวใหม่ไปแล้ว ตอนนั้นฉันไม่เคยคิดแบบนั้นเลย ฉันคิดถึงพ่อเสมอ อยากให้พ่อกับแม่มาดีกันเหมือนเดิมอีกครั้ง แต่ก็เป็นไปไม่ได้อีกแล้ว

0
MILD_AKE 2 มิ.ย. 60 เวลา 22:05 น. 2

สิ่งที่ฉันกำลังจะบอก นั่นก็คือความฝัน ใช่ ฝัน จะเป็นจริงได้ต้องลงมือทำ เดี๋ยวนะตอนนี้พึ่งจะป.3 เองนะ ฮ่าฮ่า

แต่ก็มีความฝันแล้วนะจ้า ฉันมีน้าสาวที่สวยที่สุดในครอบครัว น้าฉันจะปลื้มฉันมากๆเพราะน้าไม่มีลูก เค้าจะบอกว่าฉันพูดเก่ง ขี้อ้อน เค้าติดฉันจนมาหาฉันทุกอาทิตย์ กรุงเทพ สระแก้วก็ไม่ใช่ใกล้ๆนะ ด้วยความที่น้าสวย หุ่นดี เราก็จะพูดเสมอว่าจะเป็นนางแบบ จะสวยเหมือนน้า แต่สภาพในตอนนั้น คือตัวอ้วน กลม ดำปื้ดด มองยังไงนางแบบก็ไม่น่าใช่

ฉันเดินใส่ส้นสูง สพายกระเป๋า เอาหนังสือไว้ที่หัวตั้งแต่เด็กๆ แต่ยายจะชอบบอกว่าไปเก็บแชร์หรออ ยายยยยยย!!!!!

และอยากจะบอกว่าตอนนี้ไม่มีในหัวแล้วนะ นางแบบน่ะ อย่าหวังอีกเลย ฮ่าฮ่า

จนมาถึงตอนที่กำลังจะโต ป.4 ป.5 ความดราม่าก็เกิดขึ้น เพราะวันที่ฉันอายุ 11ปี 28 สิงหาคม 2554

เป็นวันเกิดของฉัน แม่ น้า ป้า ตา ยาย อยู่กันพร้อมหน้าเพื่อจัดวันเกิดอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต แต่ด้วยเซอร์ไพรแบบกระทันหัน เราก็ไม่รู้จะไปชวนใคร มาวันเกิดดี ดีใจก็ดีใจ จะเสียใจก็เสียใจเพราะเชิญใครไม่ทันสักคน มีน้องข้างบ้านมา

1คน โอ้ยย น้ำตาจะไหล…. เสียดายหมูกระทะเตาใหญ่ เค้กอีกเป็นปอนๆ ไม่ได้อวดใครเลย เห้อออ เมื่อถึงงานลี้ยงต้องเลิกรา ถึงเวลาเก็บจานไปล้างค่ะ ในตอนที่ล้างจานอยู่ กริ๊งง กริ๊งง เสียงโทรศัพท์โทรเข้ามา…

(ตอนป.5มีโทรศัพท์ใช้แล้วนะเออ โนเกียปุ่มกด)

ฉัน : ฮัลโหล

ปลายสาย : แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะลูก

ฉัน : พ่อ!!

ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนโลกหยุดหมุน เหมือนอยากจะกรี๊ดดังๆ ดีใจจนน้ำใสๆไหลออกจากตาแบบไม่รู้ตัว โดยเวลาหลาย ปีที่ผ่านมา เฝ้ารอเสียงนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ วันนี้ก็ได้ยินสักที

ฉัน : พ่อสบายดีนะ ไม่เห็นติดต่อหนูมาเลย หนูคิดถึงพ่อมากเลยนะ

พ่อ:พ่อสบายดี พ่อติดธุระไม่ค่อยว่าง มีความสุขมากๆนะลูก โตแล้วอย่าดื้อ พ่อรักหนูนะ

ฉัน:จ้ะ พ่อ หนูก็รักพ่อนะ

ตู้ด ตู้ดด จบบทสนทนา!!

ฉันวิ่งหน้าตาตื่นไปหาทุกคนในบ้าน แล้วบอกพ่อโทรมาหา ทุกคนก็บอกว่าดีแล้ว แต่ทำหน้าแปลกๆ เหมือนมีลางสังหรณ์

แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจ เพราะมัวแต่ดีใจจนพูดไม่ออก แล้ววันเกิดตอนนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่พ่อโทรมาหา !!

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น