Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

คนดลใจ : เรื่องราวของ ลุกวิก ฟาน บีโทเฟ่น อัจฉริยะนักดนตรี

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ลุกวิก ฟาน บีโทเฟ่น เป็นชื่อที่ใครๆก็ต่างก็รู้จักกันในนาม คีตกวีเอกของโลก แต่ก็ใช่ว่าชีวิตของเขาจะโรยไปด้วยกลีบกุหลาบเพราะชื่อเสียงและความสำเร็จที่เขาได้มานั้น ต้องใช้ความพยายามและอดทนอย่างมาก ไปดูกันเลย!!
 
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ บีโธเฟน
(เครดิตภาพ:http://www.clipmass.com)
         ลุกวิก ฟาน บีโทเฟ่น เกิดที่กรุงบอนน์ ประเทศเยอรมณี ปี ค.ศ.1770 
เขาฝึกเปียโนตั้งแต่เด็ก และเริ่มออกแสดงเปียโนตอยอายุ8 ขวบ หลังจากนั้นเขาก็ได้ย้ายไปเวียนนา และมีโอกาสได้เล่นเปียโนต่อหน้าโมสาร์ท(ซึ่งพอโมสาร์ทได้ฟังถึงกับชมว่า เด็กคนนี้จะยิ่งใหญ่ในโลกดนตรี)
           


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ บีโธเฟน
          (เครดิตภาพ:https://sites.google.com)
 เขาประสบความสำเร็จอย่างมากในฐานะนักเปียโนในวัย30ปี เขาจึงหันมาเป็นผู้ประพันธ์เพลงแทน โดยที่ไม่สนเลยว่าจะโดนใครด่าว่าเพลงของเขานั้นไร้แบบแผนและเป็นอันตรายต่อศิลปะทางดนตรี
            จนกระทั่งอายุ31ปี หูของเขาเริ่มผิดปรกติ มีอาการอื้อและเจ็บปวด สุดท้ายก็ไม่สามารถได้ยินเสียงใดๆได้อีก ไม่ว่าจะเป็นเสียงของโน๊ตตัวไหนจากเครื่องดนตรีชนิดใดก็ล้วนเป็นเสียงที่เงียบงัน
             ในตอนแรกเขาท้อแท้และสิ้นหวังจนคิดจะฆ่าตัวตาย เพราะคิดว่านักดนตรีที่ไม่อาจได้ยินเสียงดนตรีก็ไม่ควรมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่สุดท้ายเขาก็คิดได้(ว่ายังมีลูกมีเมียต้องดูแล แค่ก ผิดคิวๆ)และหันมาสู้อีกครั้งแม้ว่าการสูญเสียการได้ยินจะเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดสำหรับชีวิตนักดนตรี
"เราจะไม่ยอมสยบให้กับความเคราะห์ร้ายเป็นอันขาด จะปล่อยให้ความพิการดึงเราให้ตกต่ำไม่ได้"นั่นคือสิ่งที่เขาเตือนตัวเองเสมอ

         
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ บีโธเฟน
 (เครดิตภาพ:https://www.youtube.com/watch?v=TMkwESfQFjM)
        แม้หูของเขาจะฟังเสียงดนตรีไม่ได้แต่เขาก็สามารถฟังได้ด้วยฌาณของนักดนตรี และถ่ายทอดทุกสิ่งที่เขาประสบเป็นเสียงดนตรี เขาใช้ความอดทนและพยายามอย่างมากจนสามารถสร้างผลงานชิ้นเยื่ยมให้กับโลกแห่งเสียงเพลง และประพันธ์เพลงไปเรื่อยๆจนถึงวันที่เสียชีวิต

เบื้องหลังจุดเริ่มต้นเส้นทางนักดนตรีของบีโทเฟ่น

ที่บีโทเฟ่นเริ่มเล่นดนตรีตั้งแต่เด็กๆเพราะว่าคุณพ่อของเขาอยากให้ลูกของตัวเองเป็นนักดนตรีอัจฉริยะเหมือนโมสาร์ท เลยบังคับ  ย้ำว่าบังคับ บีโทเฟ่น
อย่างเข้มงวด เช่น ขังไว้ในห้องกัเปียโนเเม่มเลย(เถื่อนมาก) ห้ามให้เล่นกับน้องๆและถ้าเล่นดนตรผิดก็จะถูกทำโทษ(สงสัยพ่อของบีโธเฟ่นจะไม่รู้จักคำว่า ผิดเป็นครู)

กำลังใจที่ทำให้บีโทเฟ่นสู้ต่อไป
หลังจากที่โดนพ่อกดดันอย่างหนัก บีโทเฟ่นของเราก็เกิดความท้อแท้บ้าง แต่เมื่อคิดถึงเเม่ของตนที่ป่วยอยู่ เขาเลยทุ่มเทฝึกเรียนดนตรีจนมีชื่อเสียง

ที่มาของการเป็นคีตกวีเอกคนหนึ่งของโลก
บีโทเฟ่นเคยถูกกลั่นแกล้งจากผู้ไม่ประสงค์ดีจนครั้งหนึ่งต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่เพราะเขาเป็นคนมีความสามารถทางด้านดนตรีอย่างแท้จริง จึงมีคนที่ชื่นชมและสนับสนุนทางการเงิน แลกกับสัญญาว่าบีโทเฟ่นต้องไปอยู่ที่เวียนนา นั่นเเหละคือที่มาของคีตกวีเอก

         ทั้งนี้ทั้งนั้น จขกท ก็ขอฝากไว้นะคะ ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงดนตรี จงดีใจที่ยังโชคดีได้ฟังเพลงเพราะๆ และได้ส่งต่อความสุขผ่านเพลงนั้นให้ผู้อื่นฟัง แล้วก็โปรดอย่าลืมว่า อัจฉริยะผู้หนึ่งซึ่งมีผลงานอมตะ ไม่อาจได้ยินเสียงดนตรีที่เขาประพันธ์ด้วยซ้ำ แต่เขาก็ยังตั้งใจสร้างสรรค์งานดีๆ เพื่อให้เป็นสมบัติของโลกสืบไป^----^

ที่มา:หนังสือคนดลใจ
  ถ้าชอบก็ช่่วยคอมเมนต์บอกกันด้วยนะคะ เราจะได้มีกำลังใจทำงานต่อไป

แสดงความคิดเห็น

>