[ล่าสุด!!] แนะนำเอกภาษาศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยรุ่นพี่ปี 59!! (ข้อมูลแน่นมาก! ห้ามพลาด!)

[twaanve]

สวัสดีครับน้องๆ #Dek60 หรือรุ่นถัดๆไป ที่สนใจในสาขาวิชาภาษาศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พี่มั่นใจว่าน้องหลายคนอาจจะมีคำถามอยู่ในใจว่าสาขานี้มันเรียนเกี่ยวกับอะไรอ่ะ ? เรียนยากไหม ? จบไปแล้วทำอะไรได้ ? ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่จะน่าสงสัยเพราะว่าสาขานี้ไม่ได้แพร่หลายในประเทศไทยมากกว่าพวกภาษาทั่วๆไป อาทิ อังกฤษ จีน, เอาล่ะเข้าเรื่อง! พี่ก็เป้นตัวแทนของรุ่นที่จะมาคลายข้อสงสัยของน้องๆทุกคนนะครับ เริ่มกันเล้ยยย!!!!
 

สาขาวิชาภาษาศาสตร์ คืออะไร ? เรียนเกี่ยวกับอะไร ?
1) สาขาวิชาภาษาศาสตร์เป็นการศึกษาลักษณะของภาษาโดยอาศัยหลักทฤษฏีและวิธีการทางวิทยาศาสตร์ จะเป็นการศึกษาธรรมชาติของภาษา เราจะไม่ได้ศึกษาภาษาโดยการมุ่งฝึกทักษะทักษะกับภาษาใดภาษาหนึ่งโดยตรง เช่น การฟังพูดอ่านเขียนอังกฤษ เป็นต้น แต่เราจะเรียนรู้ทฤษฏีทางภาษาเพื่อนำความรู้มาประยุกต์ใช้กับภาษาใดๆก็ตาม เพราะทุกภาษาล้วนมีความเป็นสากลและมีคุณลักษณะบางประการที่ร่วมกัน ซึ่งน้องๆ ไม่ต้องตกใจตรง "วิธีการทางวิทยาศาสตร์" นะครับ เพราะเราไม่ได้เรียนเชิงวิทยาศาสตร์แบบนั้นนะเออ เพียงแค่มีส่วนเกี่ยวข้องเล็กน้อย จำพวกอวัยวะที่ใช้ในการออกเสียง การรับรู้ภาษาของมนุษย์โดยสมองของคนเรา รวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ ที่สามารถพิสูจน์ได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ กล่าวคือจะมีหลักฐานหรือข้อสนับสนุนที่เป็นเหตุและผลตามหลักวิชาการนั่นเองครับ 
2) เราจะเรียนพวกทฤษฏีทางภาษาศาสตร์ต่างๆ ที่มีประโยชน์ในการเรียนรู้ภาษาต่างๆ มากมายครับ อาทิ
    - วิชาสัทศาสตร์และสัทวิทยา (Phonetics and Phonology)  ที่จะศึกษาระบบเสียงของมนุษย์ อวัยวะที่ใช้ออกเสียง ได้ฝึกออกเสียงและเรียนรู้สัญลักษณ์สัทอักษร (IPA) ต่างๆที่ใช้แทนการอ่านออกเสียง ซึ่งจะไปประยุกต์กับระบบการออกเสียงของภาษาใดภาษาหนึ่ง อาทิ ไทย อังกฤษ โดยวิชานี้จะช่วยให้เราอ่านออกเสียงและพูดในภาษานั้นๆได้อย่างถูกต้องครับ
    - วิชาวากยสัมพันธ์ (Syntax) น้องๆ จะได้ศึกษาพวกทฤษฏีโครงสร้างภาษา วิเคราะห์ระบบคำ ไวยากรณ์โครงสร้าง ซึ่งส่วนมากในการเรียนจะอิงของภาษาอังกฤษและไทยเป็นหลักครับ โดยวิชานี้เองจะสามารถนำไปใช้ประยุกต์กับพวกโครงสร้างไวยากรณ์ในภาษาต่างๆ ได้ครับ 
    - วิชาอรรถศาสตร์ (Semantics) เป็นวิชาที่เราจะได้ศึกษาทฤษฏีต่างๆเพื่อใช้เรียนรู้ความหมายในภาษาครับ จำพวก ระบบความคิดกับการใช้ภาษา ความหมายระดับคำ/ประโยค/ข้อความ ทฤษฏีภาษากับสิ่งอ้างอิง(กล่าวคือ คำในภาษาจะต้องมีสิ่งที่อ้างถึง) หรือ สภาวะเกิดก่อนหรือความเชื่อขั้นพื้นฐาน (Presupposition) โดยปรากฏการณ์ทางภาษาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันเราอาจจะไม่ได้ตระหนักถึงหรือสังเกตได้ครับหากเราไม่รู้ทฤษฏีเหล่านี้ 

      นอกจากนี้แล้วยังมีวิชาทางภาษาศาสตร์เชิงทฤษฏีทางภาษาที่น่าสนใจอีกมากมายให้น้องได้เลือกศึกษากันครับ เช่น วิชา ภ.319 ภาษาศาสตร์กับจิตวิทยา ที่จะได้ศึกษากระบวนการรับรู้ภาษาของมนุษย์, วิชา ภ.326 ภาษากับการสื่อสาร ที่จะได้เรียนรู้ว่าภาษามีอิทธิพลต่อการสื่อสารของคนเราอย่างไร ซึ่งวิชานี้สามารถนำความรู้ไปประยุกต์กับพวกวิชาวารสารหรือนิเทศฯได้ด้วยครับผม! เป็นต้น
 

NOTE: วิชาภาษาศาสตร์อื่นๆสามารถดูได้ที่ http://arts.tu.ac.th/course/c005.pdf (ดูเฉพาะวิชาที่ขึ้นต้นด้วย LG/ภ. นะครับผม เพราะพวกวิชาพื้นฐานเป็นของหลักสูตรเก่า เขาพึ่งปรับปรุงเมื่อปีการศึกษา 2558 ครับ)

มีคลิปวิดีโอแนะนำเอกประกอบด้วยครับผม ^^
https://youtu.be/fwYOZQcud3I
 

เกณฑ์การรับสมัครเข้าสาขาวิชาภาษาศาสตร์ ผ่านระบบ Admission กลาง
การที่น้องๆจะสามารถเข้ามาเป็นนักศึกษาสาขาวิชาภาษาศาสตร์แบบพวกพี่ๆ ได้ สามารถทำได้ 2 แบบครับผม 
1) น้องๆ อาจเลือก Admission ของ สอท. ตรงเข้าเอกภาษาศาสตร์ ไว้ในตัวเลือก 4 อันดับได้เลยครับ โดยทางคณะจะรับเพียง 20 คนเท่านั้น ซึ่งน้องๆต้องมีคุณสมบัติและเกณฑ์คะแนนดังนี้ครับ

 

GPAX 20%
ONET 30%
GAT 30%

PAT 20%
*****มีเงื่อนไขโดยคะแนน ONET วิชาภาษาอังกฤษต้องได้ 60% ขึ้นไปเท่านั้น*****
(PAT สามารถใช้ทั้งความถนัดทางคณิตศาสตร์หรือความถนัดทางภาษาต่างประเทศได้ทุกภาษาเลยครับ)

 

โดยภาควิชาของเราได้เปิดให้นักเรียน ม.6 ได้มีสิทธิเลือก Admission ตรงเข้าสาขาวิชาเลยนับตั้งแต่ปีการศึกษา 2557 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันครับ ซึ่งพี่ได้รวบรวมคะแนนสูงต่ำไว้ให้ครบเลย ดังนี้ครับ



***หมายเหตุ***  น้องๆ จะเห็นได้ว่าแนวโน้มของคะแนนนั้นจะสูงขึ้นทุกปีนะครับ เพราะเอกเราเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มนั้นเองเอง ^-^ บวกกับเขารับแค่ 20 คน โดยในปีการศึกษา 2559 น้องๆจะพบว่าคะแนนขั้นต่ำของการยื่น Admission เข้าสาขาวิชาภาษาศาสตร์โดยตรงนั้นโดยทุก PAT นั้นจะอยู่ที่ 2x,xxx จากเต็ม 30,000 และจากการคาดการณ์ของพี่นะครับ คะแนนในปีของน้อง #Dek60 ต้องเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีกแน่นอน ดังนั้นสำหรับน้องๆ ที่สนใจเลือก Admission ตรงเข้าสาขานี้เลยควรได้คะแนนรวมในระบบแอดมิชชั่นแบบมี PAT ถ่วง ไม่ต่ำกว่า 20K ครับ ถ้าจะดีมากเลยควรให้ถึง 20,5xx ครับผม แต่อย่างไรก็ดีมันก็ไม่แน่นอนเสมอไปนะครับ แนวโน้มอาจลดลงก็เป็นได้ครับ

        นอกจากจะมีการเข้าสาขาวิชาภาษาศาสตร์โดยตรงแล้วยังมีอีกทางเลือกหนึ่ง ดังนี้ครับ

2) น้องๆ อาจะเลือก Admission ผ่านระบบของ สอท. เข้าคณะศิลปศาสตร์ เอกรวม ของ มธ. (ในระบบแอดมิชชั่นมันจะเขียนว่า "คณะศิลปศาสตร์ สาขาจิตวิทยา, ภาษาศาสตร์, สาขาภาษาและวรรณคดีอังกฤษ, ภาษาจีน, ภาษาญี่ปุ่น...") เข้ามาก่อนครับโดยเมื่อน้องเข้ามาแล้วจะยังไม่มีเอกสังกัดครับ โดยเกณฑ์การรับสมัครก็จะคล้ายๆกับแบบแรกครับ 

GPAX 20%

ONET 30%
GAT 30%

PAT 20%
(PAT สามารถใช้ทั้งความถนัดทางคณิตศาสตร์หรือความถนัดทางภาษาต่างประเทศได้ทุกภาษาเลยครับ)

ซึ่งน้องๆจะสามารถยื่นคำร้องขอเข้าเอกภาษาศาสตร์ได้เมื่อน้องอยู่ปี 1 เทอม 2 เพื่อให้ทางภาควิชาพิจารณาครับ โดยแต่ละปีทางภาควิชาจะรับนักศึกษาจากเอกรวมประมาณ 25-30 คนครับ ซึ่งสิ่งสำคัญมากที่น้องๆ ต้องทำคือตั้งใจเรียนครับ! เกรดปี 1 เทอม 1 ของน้องๆจะถูกใช้ประกอบการพิจารณาคัดเลือกนักศึกษาเข้าสาขาวิชาครับ พยายามตั้งใจเรียนทำให้เกรดให้ดีเข้าไว้ครับ โดยภาควิชาจะเน้นพิจารณาวิชาเหล่านี้เป็นหลักครับ

 

1. TU104 Critical Thinking, Reading and Writing (ภาษาไทย) ต้องไม่ต่ำกว่า B
2. TU105 Communication Skills in English หรือวิชาภาษาต่างประเทศอื่นๆ อาทิ จีน ญีปุ่น ต้องไม่ต่ำกว่า B  

- ทั้งนี้นั้นเกณฑ์นี้อาจหยืดหยุ่นได้ตามความเห็นของผู้พิจารณาครับ อาจลดหย่อนลงได้ในส่วนของวิชาภาษาต่างประเทศ (อย่างเพื่อนพี่ได้ภาษาไทย A แต่ภาษาอังกฤษได้ C+ ก็ผ่านการรับคัดเลือกเข้าเอกครับ)

                   โดยน้องๆที่อยากเข้าเรียนสาขาวิชานี้ แต่คะแนน ONET วิชาภาษาอังกฤษไม่ถึง 60 สามารถแอดเข้าเอกรวมก่อนได้ครับ แล้วค่อยรอยื่นเข้าเอกทีหลัง ^-^

เรียนแต่ทฤษฏีภาษาอย่างเดียวหรือ ? แล้วทักษะภาษาต่างประเทศอื่นๆจะทำไงล่ะ!!
จากที่น้องๆ ได้อ่านตรงที่พี่เขียนไว้แล้วว่าภาษาศาสตร์มันไม่ได้ศึกษาภาษาโดยตรงอ่ะเนอะ แต่เรียนทฤษฏีภาษาเพื่อนำความรู้มาประยุกต์ใช้กับภาษาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด น้องอาจจะสงสัยว่า เอ๊าพี่! แล้วทักษะภาษาต่างประเทศของหนูจะมีหรอคะ ? เรียนแต่ทฤษฏีภาษาเนี่ย ไม่เห็นจะได้เรียนตัวภาษาที่เป็นทักษะเลย!
ตอบ: ในโครงสร้างหลักสูตรของภาควิชาภาษาศาสตร์ มธ. ได้เปิดโอกาสให้นักศึกษาภาษาศาสตร์ได้เรียนรู้ภาษาต่างประเทศด้วย! โดยในโครงสร้างจะแบ่งเป็นวิชาเอก วิชาโท และส่วนวิชาภาษาต่างประเทศด้วย รวมถึงส่วนเสรี ซึ่งจะแตกต่างจากสาขาวิชาอื่น โดยน้องๆสามารถเลือกเรียนภาษาต่างประเทศใดๆก็ตามที่ถนัดหรือสนใจละเก็บวิชาที่ลงไว้ใว้ในส่วนภาษาต่างประเทศ หรือวิชาโทก็ได้ ซึ่งเงื่อนไขการลงวิชาก็จะต่างกันไปโดยเฉพาะในส่วนของวิชาโทที่มีการกำหนดเงื่อนไขไว้ ทั้งนี้นั้นน้องๆต้องไม่เข้าใจวิชาโทว่าเป็นการลงเรียนภาษาเท่านั้นนะครับ เพราะวิชาโทนั้นมีให้เลือกหลากหลายมากใน มธ. อาทิ รัฐศาสตร์ การตลาด วารสารศาสตร์ สังคมและมานุษวิทยาเป็นต้น ดังนั้นจึงไม่ได้หมายถึงการเรียนภาษาเท่านั้น เพื่อไม่ให้เป็นการสับสนกับส่วนภาษาต่างประเทศของภาควิชาภาษาศาสตร์ พี่จะอธิบายเพิ่มเติมดังนี้ครับ
         การเลือกเรียนภาษาต่างประเทศในส่วนวิชาโทจะเป็นการทำให้มันขึ้นในใบ  Transcript ครับว่าน้อง Linguistics Major กับ English Minor อย่างนี้น่ะครับ แต่ถ้าเรียนภาษาเฉพาะในส่วนภาษาต่างประเทศก็จะไม่ขึ้นว่าเป็นโทภาษาอะไร ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรยกใหญ่ ถ้าหากน้องต้องการเรียนวิชาโทที่ไม่ใช่ภาษา เพราะเรายังได้เรียนภาษาและเก็บไว้ในส่วนภาษาต่างประเทศซึ่งมันบังคับอยู่แล้ว เช่น น้องเรียนโทวารสาร แต่ภาษาต่างประเทศเป็นภาษาอังกฤษ พอน้องจบว่าแล้วสอบ TOEIC ได้ตามแต่ที่หน่วยงานต้องการก็จะไม่เป็นอุปสรรค ถึงแม้จะไม่ได้โทภาษาโดยตรง เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลครับหากเข้ามาเรียนภาษาศาสตร์แล้วแต่ไม่ได้เรียนวิชาโทเป็นภาษา แถมยังดีเสียอีกที่ได้เรียนรู้ทฤษฏีภาษาเพื่อมาพัฒนาทักษะทางภาษาให้ดียิ่งขึ้น
        แต่หากน้องๆต้องการมุ่งเน้นแต่ทางด้านภาษาจริงๆ ก็อาจเลือกเรียนโทภาษาด้วย โดยมี 2 แนวทางดังนี้
1) โทภาษา A ส่วนภาษาต่างประเทศ B - หมายถึงส่วนภาษาในวิชาโทกับส่วนภาษาต่างประเทศเป็นคนละภาษากัน เช่น น้องอยากเรียนโทภาษาอังกฤษ แต่ส่วนภาษาต่างประเทศที่เพิ่มเข้ามาอยากเรียนสเปน ก็ย่อมทำได้ครับ ได้ความรู้ทางภาษาเพิ่มขึ้นด้วย (โดยส่วนมากเขาจะทำอย่างนี้กันเยอะครับ)
2) โทภาษา A  ส่วนภาษาต่างประเทศ A - หมายถึงการที่น้องเลือกเรียนภาษาในวิชาโทกับส่วนภาษาต่างประเทศเป็นวิชาเดียวกันเลย! เช่น อย่างตัวพี่เองเลย ชอบภาษาอังกฤษมาก และอยากฝึกฝนให้มันชำนาญ บวกกับมีวิชาที่อยากเรียนมาก จึงเลือกเรียนทั้งสองส่วนเป็นภาษาเดียวกันเลย ซึ่งย่อมทำได้ครับ ไม่มีปัญหาอะไรเลย ซึ่งแนวทางนี้เหมาะกับน้องๆที่ต้องการเรียนทฤษฏีภาษาด้วยและต้องการเน้นภาษาให้ชำนาญขึ้นด้วย เพราะถ้ารวมจำนวนวิชาในส่วนวิชาโท (24 หน่วยกิต) กับส่วนภาษาต่างประเทศ (18 หน่วยกิต) ก็จะเท่ากับว่าน้องหรือพี่ได้เรียนภาษานั้นอย่างต่ำ 14 ตัวเลยนะครับ! จึงเป็นทางเลือกที่ดีให้กับน้องที่ต้องการเน้นภาษาได้ครับ ไม่เฉพาะอังกฤษนะ จีน ญี่ปุ่น ก็มีคนทำกันจ้า ^^

ที่คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีเปิดสอนภาษาอะไรบ้าง ?
ที่ มธ. จะมีภาษาให้เลือกเรียนเยอะมาก อาทิ ภาษาอังกฤษ, ภาษาจีน, ภาษารัสเซีย, ภาษาญี่ปุ่น, ภาษาเยอรมัน, ภาษาฝรั่งเศส, ภาษาสเปน และยังมีภาษาอาเซียน เช่น เวียดนาม, พม่า, อินโดเนเซีย เป็นต้น และยังมีภาษาเกาหลี ให้เลือกเรียนเป็นต้น (กลุ่มวิชาภาษาอาเซียนจะเน้นทักษะการสื่อสารในชีวิตประจำวันเบื้องต้น แต่ละตัวจะมี 2 วิชาย่อย)

บรรยากาศการเรียนกับเพื่อนในเอกเป็นยังไงบ้าง ?
     เนื่องจากภาควิชาเรามีคนจำนวนไม่เยอะมาก ยิ่งในเทอมแรกที่เอกรวมยังไม่ได้เข้าเอกมานั้นจะมีเฉพาะน้องที่  Admission เข้าเอาโดยตรง 20 คน จึงทำให้สนิทกันไวมาก!! ย้ำนะไวมากจริง! ยิ่งปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวไกล พอผลแอดมิชชั่นประกาศปุ๊ปก็มีรุ่นพี่มาตามหารุ่นน้องตาม  Dek-D และ Twitter ทันทีเลยทำให้เรารู้จักเพื่อนได้ไวขึ้นมาก พอได้มาเจอหน้ากันวันสัมภาษณ์รวมถึงกิจกรรมต่างๆที่จัดขึ้นก่อนจะเปิดเทอมก็ยิ่งทำให้สนิทเลย เรียกได้ว่าบรรยากาศอบอุ่นตั้งแต่ยังไม่เปิดเทอมเลยทีเดียว
     ในขณะที่เรียนเราก็จะเหมือนครอบครัวอ่ะน้อง มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน ไปไหนไปกันเกือบตลอด ยิ่งการเรียนทฤษฏีภาษาศาสตร์นะ ตอนแรกจะต้องพยายามปรับตัวและตั้งใจเรียนอย่างมากเลยครับ เพราะเป็นสิ่งที่เราไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อน ซึ่งในกลุ่มเพื่อนนั้นก็จะมีทั้งคนที่เก่งเลยกับปานกลาง แต่เพื่อนที่เก่งก็จะคอยช่วยเหลือช่วยติวให้เพื่อนด้วยกันจนพี่ๆสามารถผ่านพ้นวิชาภาษาศาสตร์ต่างๆไปได้ครับ เรียนไปด้วยกัน ที่สำคัญคือตอนเรียนจะไม่ค่อยกดดันเลยครับ เพราะไม่มีการแข่งขันเรื่องการเรียนเท่าไหร่เลย เน้นช่วยกันเรียนมากกว่า แต่ในบางครั้งการเรียนก็จะทำให้เราท้อเพราะบางเรื่องก็มีความยากและซับซ้อนเพราะเป็นหลักการและทฤษฏี แต่พี่ๆทุกคนก็สามารถผ่านพ้นมันมาได้ครับ เพราะว่าเรามีเพื่อนในเอก :)) และเมื่อเพื่อนจากเอกรวมได้เข้าเอกแล้วก็จะมีแกนเอกของแต่ละปีไปตามหาเพื่อนเพื่อให้มาเข้ากลุ่มของชั้นปี ทำให้ทุกคนได้รู้จักกับเพื่อนที่ Admission ตรงเข้ามาก่อนอยู่แล้ว คอยแนะนำเกี่ยวกับการเรียนวิชาเอก ครอบครัวของเราจึงใหญ่ขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่พี่มั่นใจคือความอบอุ่นในเอกยังคงเหมือนเดิม ^^ (รุ่นพี่รวมเพื่อนจากเอกรวมแล้วราวๆ 47 คน

บรรยาการเรียนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
     น้องๆอาจจะเคยได้ยินคำเรียกขายของ มธ.ศูนย์รังสิต ว่า "ทุ่งๆ" 555 เพราะเมื่อก่อนมันเป็นพื้นที่แถวนี้มันเป็นทุ่งนาครับ แต่ใครอย่ามาหาว่าแถวนี้บ้านนอกนะ พี่จะต่อยให้ (?) 55555 พี่บอกเลยครับว่าบรรยากาศใน มธ.ศูนย์รังสิต คือร่มรื่นพอตัวเลยนะ ถึงอากาศจะค่อนข้างร้อนไปหน่อย (เอาจริงก็ไม่หน่อย) อาหารการกินก็อุดมสมบูรณ์มาก โดยเฉพาะตรงหน้า ม. แถวเชียงรากกับ U-Square คือดีย์ อาหารหลากหลายสุดๆ และยังมีท่ารถตู้ มธ-ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต, มธ.-จตุจักร, มธ-อนุสาวรีย์ฯ เพราะงั้นแบบมึ้งมันต่อ BTS โคตรสบายอ่ะ! เลิกเรียนละกลับบ้านหรือไปเที่ยวต่อในกรุงคือสะดวกมากเลยนะเออ ที่สำคัญคือสวัสดิการของ มธ. ที่นักศึกษาได้รับคือถือว่าเข้าขั้นโอเคเลยนะ ทั้งอินเตอร์เน็ต Wi-Fi ฟรี เร็ว? (ในห้องเรียนชอบหลุด5555) มีห้องคอมและเครื่องปริ้นท์ให้บริการพร้อมโควตาปริ้นท์ฟรี, รถโดยสาร NGV ภายใน ม., มีสถานที่ให้นั่งพักทำงานตากแอร์ก็เยอะ ไม่ว่าจะเป็น Student Lounge, หอสมุดป๋วย, ศูนย์การเรียนรู้ฯ แถมห้องสมุดนะมีบริการยืมหนังสือข้ามวิทยาเขตด้วยนะเออ สมมติหนังสือที่น้องต้องการยืมดันไปอยู่ลำปาง น้องก็ยืมได้แค่ต้องรอสักพัก เขาเอามาส่งให้ที่รังสิตฟรีด้วยนะ!  นอกจากนี้ยังไม่ไกลจากสนามบินดอนเมืองมากนักด้วย เหมาะกับน้องที่ไปกลับบ้านต่างจังหวัดโดยเครื่องบินมาก    - โดยรวมๆแล้วคือดี ต้องมาเรียน! - 

เข้ามาเรียนแล้วมีกิจกรรมอะไรให้ทำบ้าง ?
พอน้องผ่านการคัดเลือกเข้ามาเป็น นศ. ศิลปศาสตร์ มธ. แล้วก็จะมีกิจกรรมต่างๆ มากมายให้ทำด้วยกัน ทำให้น้องได้รู้จักและสนิทกับเพื่อนใหม่มากยิ่งขึ้น กิจกรรมต่างๆที่ว่ามีคร่าวๆ ดังนี้ครับ
- วันแรกพบ (TU First Meet) เป็นกิจกรรมแรกสุดเลยที่น้องจะได้เจอเพื่อนในคณะหรือในเอก โดยมาทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน สนุกมาก พี่คอนเฟิร์ม!
- วันสืบสานตำนานศิลป์ -  เป็นกิจกรรมที่เป็นจุดเด่นของคณะเลยน้า เราจะได้ทำกิจกรรมกับเพื่อนในคณะมากขึ้น ได้รู้จักความเป็น "เด็กสินสาด" มากยิ่งขึ้น 
- วันปฐมนิเทศใหญ่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ - เป็นการปฐมนิเทศอ่ะเนอะ แต่ไฮไล์ของงานคือการแสดงประวัติของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เลย น้องจะได้รู้ว่ามหาวิทยาลัยของเราก่อตั้งขึ้นมายังไง มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง รวมถึงมีการแสดงต่างๆที่สนุกมากมาย
- วัน Pre-TU - กิจกรรมของวันนี้ก็เป็นการทำประโยชน์ให้สังคม โดยมันจะมีฐานให้เราเลือกทำมากมายเลย เช่น ครูอาสา ทำเต้านมเทียม หมอนหลอด ส่วนตัวพี่ไปทำครูอาสามา สนุกมากเลยนะ ก็ได้ไปทำกิจกรรมกับน้องๆที่ รร จริงเลย คือได้ออกนอกสถานที่ ได้สร้างฐานที่เป็นความรู้ละน้องๆประถมก็จะมาเล่นกับเรา แถมได้เพื่อนต่างคณะกลับไปด้วย 
- วันเปิดโลกกิจกรรม (วันรับเพื่อนใหม่)
- งานวัน One Arts โดยจะเป็นงานรวม 4  สถาบันแห่งสายภาษา ได้แก่ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยนักศึกษาจากทั้ง 4 ม. จะได้มาทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน 

ในคณะศิลปศาสตร์มีอะไรที่เป็นหัวใจหรือจุดเด่นบ้าง ?
จุดเด่นของคณะเราจะอยู่ที่ "ตระกูล" โดยจะแบ่งเป็นตระกูลจิ๊งหน่อง, สวนศิลป์, น้ำพุ, ปากจอว์, ลานโพ และลายสือ ละแต่ละตระกูลนี้ก็จะแบ่งออกเป็นโต๊ะย่อยๆ เพื่อให้น้องๆ ในคณะต่างเอกหรือเอกเดียวกันได้มาอยู่รวมตัวกันเป็นโต๊ะและตระกูล ซึ่งก็จะมีกิจกรรมต่างๆมากมาย อาทิ การระบายสีโต๊ะ เชียร์โต้ เพื่อทำให้น้องได้รู้จักเพื่อนแลพี่ๆ ต่างสาขาวิชามากยิ่งขึ้นด้วย น้องๆทุกคนจะได้รู้ว่าตัวเองอยู่ตระกูลและโต๊ะย่อยเมื่อน้องได้มาวันงานแรกพบของคณะศิลปศาสตร์แล้วครับ และที่สำคัญคือกิจกรรมต่างๆนี้ไม่มีการบังคับเลยนะครับ ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของน้องๆเลยว่าจะร่วมหรือไม่ คณะของเราไม่มีการบังคับ หรือโซตัสเลยนะ 55555

ในสาขาวิชาภาษาศาสตร์ของเรามีแต่เรียนและก็เรียนรึเปล่า มีกิจกรรมอะไรของเอกบ้างไหม ?

ถึงเอกเราจะเรียนอะไรที่น่าปวดหัวแล้ว ยังมีกิจกรรมที่ทางสาขาวิชาจะจัดให้กับน้องใหม่ด้วย กิจกรรมต่างๆก็ล้วนจัดขึ้นมาเพื่อให้น้องได้กระชับความสัมพันธ์ในระหว่างเพื่อนในเอก โดยเฉพาะกับน้องๆที่มาจากเอกรวม โดยกิจกรรมของทางภาควิชาจะมีคร่าวๆ ดังนี้ครับ

- กิจกรรมรับน้อง <-- รุ่นพี่ปีสูงรวมถึงพี่บัณฑิตที่เรียนจบและทำงานแล้วก็จะจัดกิจกรรมรับน้องเพื่อที่จะได้รู้จักน้องๆแต่ละคนมากขึ้น ส่วนน้องๆก็จะได้รู้จักกับพี่ๆในเอกเพิ่มขึ้นมากครับ โดยจะเป็นการไปพักแรมนอกสถานที่ ทำกิจกรรมแต่ละฐานที่พี่ๆจัดไว้ ทุกฐานสนุกมากก สร้างรอยยิ้มให้กันโดยถ้วนหน้า 555555 และเนื่องจากคณะของเราไม่มีระบบโซตัสหรือบังคับน้อง ฐานกิจกรรมใดที่น้องไม่อยากเล่นก็ไม่มีใครว่าอะไรเลยครับ หรือถ้าน้องไม่สะดวกที่จะไปรับน้องก็ไม่มีปัญหา ทำให้เราได้สามัคคีกับเพื่อนจริงครับ คุ้มค่าแก่การไปมาก และยังมีการจับดาว เดือน ดิน รองแกนเอก และแกนเอกของสาขาวิชาด้วยครับ

- กิจกรรม Byenior <-- ก็จะเป็นงานเลี้ยงที่จัดขึ้นเพื่ออำลาพี่ปี 4 ที่จะสำเร็จการศึกษาออกไปครับ โดยละปีจะมีการกำหนด Theme ของงานละน้องๆก็ต้องแต่งตัวตามนั้น กิจกรรมสนุก กินฟรี ครับ

จบภาษาศาสตร์ไปแล้วทำอะไรได้บ้าง ?

สายงานของเรามันไม่ตายตัวนะครับ รวมถึงภาควิชาอื่นด้วย มันขึ้นอยู่กับน้องว่าเลือกที่จะทำอะไร แต่โดยรวมนั้นสายงานที่มีความเกี่ยวข้องภาษาจะได้หมดเลยครับ เพราะสาขาวิชาภาษาศาสตร์จะให้ความรู้ที่เราเอาไปประยุกต์ใช้กับภาษาที่เราจะใช้ในสายงานได้ จึงเป็นที่ยอมรับหมดครับ น้องๆไม่ต้องกังวลเลยครับ ซึ่งนอกจากจะทำงานทางด้านภาษาแล้วยังสามารถทำสายงานอื่นได้ถ้าหากน้องมีความรู้ในสาขานั้น เช่น การตลาด เพราะพี่บัณฑิตที่จบมาก็มีคนทำงานอยู่ในบริษัทที่ไม่ได้ใช้ภาษาโดยตรงก็มีจ้า  ถ้าสายงานภาษาโดยตรง รุ่นพี่เอกของเราก็มีคนเป็นแอร์โฮสเตต ครูสอนภาษา เป็นจำนวนมากเลยครับ ดังนั้นมีงานทำแน่นอน!

 

เอาล่ะครับ ขอบคุณน้องๆที่อ่านจนจบนะครับ พี่อาจจะเขียนไม่ได้ดีมาก อาจจะยาวมากไป แต่พี่อยากให้เห็นภาพรวมของสาขาวิชาเราจริงๆ โดยหากน้องๆคนไหนที่สนใจหรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถติดตาม Fan Page : TU Linguistics Major ได้ใน Facebook ได้นะครับ สามารถส่งข้อความถามพี่ได้เลยค้าบ ^^

ปล. น้อง #Dek60 ที่ Admission ตรงเข้าเอกของเราได้แล้ว รบกวนติด #LinguisticsTU2017 ด้วยค้าบ พี่ๆจะได้ตามหาน้องได้ง่ายขึ้น ขอบคุณมากครับ

 

Comments

[นายทานตะวัน]

เคยเลือกแอดเอกนี้อันดับหนึ่งแต่ไม่ติด Y_Y จริง ๆ โคตรหวังว่าจะได้เข้าเอกนี้นะ เพราะชอบหลักสูตรมาก โดนใจทุกวิชา คะแนนก็ติดลบนิดเดียว ตอนที่ใช้โปรแกรมจำลองคะแนนแอด ก็ติดอยู่ในจำนวนรับจำลองด้วย ไม่คิดว่าคนจะสนใจเอกนี้เยอะ มีคนซิ่วไหมครับ จขกท. คืออย่าให้รู้นะ 55+ // กัดฟันกรอด

[สาวสาวสาว]

น้องสามารถแอดเข้าจากเอกรวมก็ได้นะคะ ถ้าอยากเข้าจริงๆ

[Moocute]

#2

พี่คะ เห็นเอกรวม ระเบียบการปีนี้ รับ20คนเองง่า เอกรวม มันจะรับเกิน120เหมือนทุกปีมั้ยคะ กัฃวลมากมายเลย

[twaanve]

มันไม่ชัวร์นะครับ แต่พี่ว่ารับจริง เขารับเยอะกว่านั้นแน่นอนครับ จากทุกปีที่ผ่านมานะ เพราะมีหลายเอกที่รอเด็กจากเอกรวมไปเข้าอยู่นะครับ

[สึกิจังไม่ใช่พระจันทร์!]

สวัสดีค่ะ เราเด็ก61 ปีนี้เรียนม.6 สายวิทย์-คณิต ค่ะ อยากเรียนม.นี้เอกญี่ปุ่นมากๆ แต่คงต้องเข้าผ่านเอกรวม เคยเห็นมาว่าถ้าจะเข้าเอกยุ่น ผ่านเอกรวมต้องห้ามมีคะแนนสอบ PAT 7.3 ใช่มั้ยคะ? เลยสงสัยว่าจะต้องสอบ PAT อะไร จำเป็นต้องเป็นเรื่องของภาษามั้ย หรือสอบ PAT คณิตเข้าไปก็ได้? แล้วเรื่องของ ONET จำเป็นต้องสอบวิชาไหนให้ได้เยอะเป็นพิเศษรึเปล่าคะ?

ขอโทษที่ถามเยอะค่ะ บางเรื่องอาจมีเขียนไว้แล้วแต่เราอ่านไม่เคลียร์เองก็ต้องขออภัยด้วยค่ะ ;---; จะขอบคุณมากถ้ามาตอบนะคะ ขอบคุณกระทู้ดีๆด้วยค่ะ

[ttndhs]

ในกรณีนี้พี่แนะนำให้น้องสอบแพทบาลีหรือไม่ก็แพทความถนัดทางคณิตศาสตร์หรือแพทภาษาอื่นที่ไม่ใช่ญี่ปุ่รเข้าศิลปศาสตร์ มธ.เอกรวม เข้าไปก่อนเลยนะครับ จากนั้นพอเข้ามาแล้วเทอมที่ 1 น้องต้องลงเรียนวิชา JP171 Japanese 1 และต้องสอบให้ได้เกรดไม่ต่ำกว่า B จึงจะมีสิทธิเข้าเอกญี่ปุ่นครับ พี่ขอแนะนำไม่ให้น้องสอบ PAT 7.3 เลยจะดีกว่านะครับ เพราะว่าทาวภาควิชาจะถือว่าน้องมีพื้นฐานทางภาษาญี่ปุ่นมาแล้ว อาจจะเป็นปัญหาตอนยื่นเรื่องเข้าเอกได้ครัย เพราะว่าศิลปศาสตร์ มธ. จะรับเอกญี่ปุ่นสำหรับคนที่มีพื้นคือยื่นแพท 7.3 เข้ามาโดยตรง และจะรับคนไม่มีพื้นผ่านเอกรวมโดยต้องไม่ได้สอบแพท 7.3 และไม่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นจริงๆ (เท่าที่พี่พอทราบนะครับ) ยิ่งน้องเรียน ม.ปลาย สายวิทย์มาด้วย วุฒิจบของน้องก็พอจะยืนยันคร่าวๆได้แล้วแหละครับ ว่าน้องไม่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นจริง จะยิ่งเป็นประโยชน์นะครับ :))

ส่วน ONET เนี่ยส่วนตัวพี่คิดว่าทุกวิชาสำคัญเท่ากันหมดครับ น้องควรจะตั้งใจทำข้อสอบวชาที่คิดว่าจะดึงคะแนนเราขึ้นได้เป็นพิเศษ แต่ก็ต้องไม่ละทิ้งวิชาอื่นด้วยนะครับ วิชาที่พอจะได้คะแนนง่ายสำหรับทุกสายการเรียนน่าจะเป็นภาษาไทยครับ ตั้งใจให้มากๆเลย ส่วนอังกฤษนี่พี่ว่าก็พอจะช่วยคะแนนได้อยู่นะครับ ถ้าเราตั้งใจ.

ยังไงพี่ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ ถึงระบบสอบปี 61 จะเปลี่ยน แต่ถ้าน้องตั้งใจจริงๆ ศิลปศาสตร์ มธ จะเป็นของน้องแน่นอนครับ ^^

ปล. ถ้าพี่ๆหรือเพื่อนๆเอกญี่ปุ่นคนไหนมีข้อเสนอแนะ หรือจะแก้ไขอะไร มาเม้นเพิ่มเติมได้เลยนะครับ น้องจะได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดด้วย