How to...นักเรียนแลกเปลี่ยน AFS ทุนเต็มจำนวน(Needy) +แชร์ประสบการณ์สุดพีค (ต่อ 2)
ตั้งกระทู้ใหม่
ด่านที่ 3 การทำ Portfolio และ การตรวจเยี่ยมบ้าน
เรื่องพอร์ตนั้นเป็นอีกหนึ่งอย่างที่นักเรียนทุนเต็มจำนวนจะต้องทำส่งค่ะ เพราะเขาจะเน้นเรื่องความเป็นผู้นำ เป็นผู้มีจิตอาสา การเรียน การช่วยเหลือสังคม โดยต้องเตรียมหลักฐานประกอบในการขอรับทุน (แยกหลักฐานชุด ก และชุด ข ไม่ปะปนกัน) ดังนี้
ชุด ก
1. รูปถ่ายครอบครัวและบ้านของเยาวชนที่พำนักอยู่จริงตามสภาพจริง อย่างน้อย 2 ภาพ
2. สำหรับนักเรียนที่ผู้ปกครองที่มีเงินเดือน จะต้องแนบสำเนาสลิปเงินเดือนของผู้ปกครอง 2 เดือนย้อนหลังนับตั้งแต่เดือนที่ยื่นหลักฐานการขอรับทุน หรือสำเนา ภงด.90 หรือ ภงด.91 หรือสำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ ในกรณี ที่รายได้ต่ำกว่าเกณฑ์การเสียภาษี ให้ผู้อานวยการโรงเรียน หรือสถานศึกษารับรองโดยใช้แบบฟอร์มของเอเอฟเอส หรือของโรงเรียน
3. หนังสือรับรองความประพฤติ และเหตุผลสนับสนุนในการขอรับทุนของผู้สมัคร โดยใช้แบบฟอร์มของเอเอฟเอส หรือของโรงเรียน
ชุด ข
แฟ้มสะสมผลงาน 1 เล่ม ที่จัดแยกเป็นหมวดหมู่อย่างมีระบบระเบียบ มีแบบสรุป หรือ สารบัญ เพื่อความสะดวกในการพิจารณา
ของคณะกรรมการโดยแสดงคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- ความขยันหมั่นเพียรในการเรียน
- ความเป็นผู้ประพฤติดี
- ความเสียสละต่อส่วนรวม
- ความสามารถในการเผยแพร่ความเป็นไทย (เน้นอันนี้เป็นพิเศษเลยจ้า)
(ในกรณีที่เป็นเกียรติบัตร ประกาศนียบัตรหรือภาพถ่าย ให้ส่งมาเฉพาะสำเนาเท่านั้น)
***มีกิจกรรมอะไรใส่ไปให้หมดนะคะ ให้มีครบตามหัวข้อ พอร์ตดีมีชัยไปกว่าครึ่งค่า***
สำหรับความพีคของตัวเราเองนั้น เราลืมว่าจะต้องทำ เลยไม่ได้เตรียม สุดท้ายมานั่งอ่านระเบียบการอีกที เอ้า!! ซวยละ เหลือเวลา 1 วันในการส่งพอร์ตให้ครู เราก็นั่งปั่นน ปั่นแบบติดเทอร์โบเลย กลับมาถึงบ้าน 18.00 น. นั่งทำพอร์ตจนถึงตี 4.30 โชคดีที่มีรูปมีอะไรที่เคยเตรียมไว้บ้างแล้ว ก็ใส่ไปทุกอย่าง ได้นอนครึ่งชม.ก็ต้องไปโรงเรียนต่อ แบบบบบบ! โอ้โหหเกือบไม่เสร็จ เกือบไม่ได้ส่งแล้ว 555555 คือมันพีคจริงๆสุดท้ายก็ได้ส่งพอร์ตครบทุกหัวข้อ ภายในเวลา 10 ชม. อื้อหือออออ 55555
ต่อมาเรื่องการตรวจเยี่ยมบ้าน
อันนี้คือคุณครูอาจารย์ระดับเขตก็จะมีการมาสัมภาษณ์เราที่บ้านเราเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวต่างๆนานา ก็ปกติค่ะ เป็นกันเอง สุดท้ายคุณครูก็จะส่งพอร์ตและรายงานการเยี่ยมครอบครัวเราส่งให้กับศูนย์ใหญ่AFS ค่ะ
สำหรับความพีคของเราอีกครั้ง คืออาจารย์เราไม่ทราบว่าทุนเต็มกับทุนทั่วไปจะประกาศผลกันคนละรอบ ตอนที่ประกาศทุนทั่วไปมันไม่มีชื่อเราอาจารย์เลยคิดว่าเราไม่ติด ก็เลยไม่ได้ดำเนินการส่งพอร์ตหรือเยี่ยมบ้าน สุดท้ายทางเอเอฟเอสเข้าโทรมาหาเราตอนเรียนอยู่ตอนแรกจะไม่รับสายด้วย ถ้าจำไม่ผิดเขาโทร2 ครั้ง เรามารับครั้งที่ 2 เขาบอกว่า ‘ทำไมน้องไม่ส่งพอร์ตมาค่ะ นี่ของคนอื่นเขาส่งมาหมดแล้วยกเว้นของน้อง มีอะไรผิดพลาดหรือปล่าว’ ตอนนั้นเราตกใจมากช็อคคคไปเลย เพราะเราว่าเราส่งไปแล้ว ทำไปทำมาเราก็ไปบอกอาจารย์ตอนนั้นนี่เครียดมากกลัวไม่ทัน อาจารย์เขายิ่งตกใจใหญ่รีบส่ง EMS ไปวันนั้นเลย แล้วเรื่องเยี่ยมบ้านของเราก็ส่งเลทไปทีหลัง คือโชคดีมากที่เขาโทรมาบอกและยืดหยุ่นให้ และโชคดีมากที่อาจารย์ก็รีบดำเนินให้ทันที คือเกือบส่งไปคัดเลือกไม่ทัน แต่สุดท้ายก็ผ่านมันมาได้ ด่านนี้ต้องกราบขอบพระคุณคุณครูโรงเรียนเรียนศรียาภัยจริงๆคะ
ด่านที่ 4 การสอบสัมภาษณ์รอบประเทศกับ AFS ที่กทม.
และแล้ววันประกาศผลก็มาถึง แถ่นแท้นนนนน !!!!
เชรดดดดดด คือติดแล้ว ดีใจที่สุดของที่สุดอะ คือลุ้นมากๆจริงๆเพราะอุปสรรคเยอะมาก
ทางAFS ก็จะคัดนักเรียนที่สอบจากทั่วประเทศมาสัมภาษณ์รอบ final จำนวน 48 คน โดยไม่ได้เรียงตามลำดับแต่จะเรียงตามภาค แล้วเขาก็จะแจ้งรายระเอียด สถานที่ วันเวลา นัดหมายให้เราทราบ
ในการสัมภาษณ์ก็จะแบ่งเป็นรอบเช้า-รอบบ่าย แต่ละรอบก็จะแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละ 6 คน ที่ต้องสอบสัมภาษณ์กลุ่มด้วยกัน ในรอบนี้แหละที่เราจะต้องเตรียมความสามารถพิเศษไปให้พร้อม เตรียมใจให้พร้อม สมองก็เช่นกัน 5555 เพราะมันจะเข้มข้นดุเดือดจนเลือดพุ่ง (ไม่ใช่ละ –“) ก็แค่มันจะกดดันมากหน่อย
เมื่อเริ่มกิจกรรมเขาก็จะให้เราเขียนเรียงความในหัวข้อ “เหตุผลที่รับทุน” ภายในเวลา 10 นาที ภาษาเป็นภาษาไทย-อังกฤษ ก็ได้ เราก็เลือกเขียนไทยสิ 5555 *ย้ำว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำในวันนี้ล้วนมีผลกับการคัดเลือก ดังนั้นต้องทำให้เต็มที่และดีที่สุด
ต่อไปก็จะทำกิจกรรมนันทนาการจากพี่ๆรีเทิร์นนีเพื่อให้เราหายตื่นเต้น แล้วก็เข้าเรื่องสัมภาษณ์ การสัมภาษณ์ก็จะแบ่งเป็น 2 รอบ คือ
1.การสัมภาษณ์กลุ่ม
จะบอกว่าอันนี้สนุกมากก เราจะได้อยู่ด้วยกันกับเพื่อนๆที่มาจากคนละจังหวัด มีสมาชิก 6 คนในกลุ่ม แล้วเขาจะให้เราร่วมกัน แสดงละครเรื่องหนึ่งโดยมีข้อแม้ว่าจะต้องมีคำที่เขากำหนดอยู่ในเรื่องด้วย ก็จะมีเวลาให้เราปรึกษากัน *จำไว้ว่าทุกช่วงเวลาคือคะแนนค่ะ ในช่วงปรึกษานี้ เราต้องมีส่วนร่วมให้ได้มากที่สุด กล้าที่จะออกความคิดเห็น กล้าคิด กล้าพูด แสดงออกถึงความเป็นผู้นำแต่ก็ต้องยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นในกลุ่ม แสดงออกถึงความร่าเริง ไม่เครียด สนุกสนานกับการวางแผน เป็นตัวของตัวเอง เมื่อถึงเวลาแสดงก็ต้อง แอคติ้งให้เต็มที่ ไม่ว่าจะได้รับบทใดๆก็ตาม ทำให้เต็มที่ ไม่ต้องเขินอาย ใส่ไหวพริบลงไปบ้าง ในการแสดง เข้ากับเพื่อนให้ได้ แล้วทุกอย่างจะผ่านไปได้สวยค่ะ
2.การสัมภาษณ์เดี่ยว
รอบนี้เราจะต้องมีความมั่นใจในตัวเอง มีสติ ให้มากที่สุด เพราะกรรมการเขาจะโยนคำถามที่สร้างความกดดันเรา หรือทำให้เรารู้สึกกลัว รู้สึกไม่มั่นใจ เพื่อจะทดสอบสภาวะทางใจของเราว่า เราจะยังควบคุมสถานการณ์ได้ดีแค่ไหน เราจึงต้องแสดงความมุ่งมั่นความตั้งใจของเราออกมาให้ได้แบบ100% แต่....ไม่ต้องกลัวและไม่ต้องเครียดนะค่ะ 555 ให้ใช้วิธีคิดว่าเราแค่ไปเม้ามอยกัน ชวนคุยง่ายๆ เราก็ให้เป็นตัวของตัวเองค่ะอย่าเฟค ตอนแรกเขาก็จะให้แนะนำตัวก่อน แล้วก็ถามคำถาม
คำถามที่จำได้ เช่น
- เคยไปต่างประเทศไหม
-อยากเรียนต่ออะไร ที่ไหน
-มีแฟนยัง ถ้าเราบอกว่ามีเขาก็จะถามต่อ 5555
-รู้อะไรเกี่ยวกับสถานการณ์ตอนนี้บ้าง
-บอกคำคุณศัพท์ที่ใช่เรามา 3 พยางค์ เพราะอะไรถึงต้องเป็นคำนี้
-สีอะไรที่บ่งบอกความเป็นตัวเรา เพราะอะไร
***ทุกคำตอบกรรมการจะดูทัศนคติ ดูความคิดของเรา ดังนั้นความคิดบวกและทัศนคติที่ดีจะช่วยเราได้สุดๆค่ะ ***
ในรอบนี้ความสามารถพิเศษเราคิดว่าสำคัญมากๆ เตรียมมาให้พร้อม ยิ่งจัดเต็มเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายมายิ่งดี ถ้าต้องใช้ดนตรีประกอบก็เตรียมดนตรีเตรียมใส่มือถือมาเลย อยากโชว์อะไรก็เตรียมมา
สำหรับความพีคของเราในวันนั้นคือ มันตรงกับวันเกิดเราพอดีเลย แล้วกรรมการก็อวยพรให้ด้วย >< ในตอนแสดงความสามารถอะ เราเต้นระบำพรานกับร้องเพลงฉ่อย แล้วกรรมการก็ให้ร้องแบบสดๆชมกรรมการให้ฟังด้วย เรานี้แทบช็อคเพราะต้องคิดสดๆ แต่แล้วก็ผ่านมาได้ 555 เราเองเตรียมจะรำโนราให้กรรมการดูอีกชุด แต่กรรมการบอกเราว่า “พอแล้วๆลูก แค่นี้ก็ดูรู้ว่ามีความสามารถแล้ว” แล้วเราก็บอกว่าเราจะโชว์อีกเพราะตั้งใจมาแล้ว เขาก็บอกว่า "ไม่เป็นไร ได้แล้วๆมานั่งลูกมานั่ง" เรานี้แบบเอ้า!!!ไอย๊ะ!! แล้วกัน 55555555555+
แล้วตอนตอบคำถามอะ เราตอบยาวจนกรรมการเขาบอกว่าพอแล้วๆ 5555 ฮา
ด่านนี้ขอบอกว่าเคล็ดลับ และวิธีคิดที่แม่เราสอนมาใช้ได้หมดเลยจริงๆ....รักแม่ที่ซู๊ดด
***กรรมการ 3 คน ต่อเรา 1 คน จะเป็นพี่รีเทิร์นนี้ 1 คน แล้วก็อาจารย์ของ AFS 2 คน****
***ตอนแนะนำตัวจะเป็นภาษาอังกฤษ นอกจากนั้นเขาอนุญาตให้พูดไทยได้หมดจ้า***
---------------------------------------------------------------------
รอประกาศผลประมาณ 1 อาทิตย์
และแล้วก็ แถ่นแท้นนนนน!!! ติดแล้วเว้ยเฮ้ยยย !! คือดีใจน้ำตาไหลจริงๆ
ทางAFS ก็จะคัดเลือกเป็นตัวจริง 10 คน ตัวสำรองอีก 10 คน ในรุ่นเรามีทุนพิเศษด้วย ก็นี่แหละจะคัดให้เหลือเป็นภาคละ 2 คน เรียงลำดับตามภาคไม่เรียงตามคะแนน
**ในแต่ละปีจำนวนนักเรียนตัวจริงจะไม่เท่ากันอาจจะน้อยกว่า หรือมากกว่า 10 คนขึ้นอยู่กับจำนวนทุนที่ได้ในปีนั้น ***
แล้วก็จะมีทุนพิเศษของประเทศญี่ปุ่นที่เรียกว่า ทุน Marching J ที่จะต้องมีคัดเลือกอีกที โดยรุ่นของเรา คนที่ได้ทุนนี้คือ สำรองที่ 5 พี่รัชกฤช ธัญจรัสพร จากสุพรรณบุรี ได้ไปประเทศญี่ปุ่น คนเดียวไปเลยจ้า ปรบมืออออ +++
----ทุกคนที่ผ่านมารอบนี้ได้นะเรายอมรับจริงๆ----
ด่านที่ 5 ปฐมนิเทศ
เมื่อประกาศผลแล้วทั้งตัวจริงและตัวสำรองจะต้องมาปฐมนิเทศตามที่เขานัดไว้ ตัวจริงที่มาถึงรอบนี้แล้วคงไม่มีใครสละสิทธิ์แน่ๆ ส่วนตัวสำรองให้ไปรายงานตัวทุกคนนะ อย่าหมดหวังนะค่ะ เพราะเรามีโอกาสจะได้ทุนเช่นกัน อย่านอยอย่าน้อยใจแต่ต้องสู้กันต่อไป
รอบนี้ก็จะมีการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการ แนะนำวิธีการทำเอกสารอย่างละเอียด และสุดท้ายจะเป็นการแชร์ประสบการณ์จากพี่ๆรีเทิรืนนีที่เคยไปแลกเปลี่ยนมาแล้ว เราชอบมากๆ
ด่านที่ 6 ทำเอกสารนานาชาติ
หลังจากนั้นเราก็ต้องเตรียมเอกสารนานาชาติ เพื่อการคัดเลือกประเทศอุปถัมภ์+ โฮสกันต่อไป ขั้นตอนนี้จะยุ่งยากสักหน่อยเพราะต้องเตรียมเอกสารหลายอย่าง โดยเฉพาะคนที่อยู่ต่างจังหวัดแบบเรานี่ ขึ้น-ลง กรุงเทพเป็นว่าเล่นเลย วิธีทำเขาจะมีบอกในหนังสือคู่มือที่ได้มาในวันปฐมนิเทศค่ะ
ความพีคและอุปสรรคของเรานั้น ก็มีอีกจ้า เอกสารทรานสคริปต์ ของเราไปไม่ถึงมือเอเอฟเอสหรือไปแล้วหายยังไงสักอย่างนี่แหละ แล้วพี่เขาก็โทรมาบอกว่า "เอกสารทรานสคริปต์ของน้องยังไม่ได้เลย ทางประเทศปลายทางเขาจะคอนเฟิร์มเเล้วแต่ก็ยังขาดเอกสารนี้ ให้น้องรีบส่งมาด้วยน้า" เราก็แบบ หาาาา?? เพราะเราส่งไปนานแล้วอะ วันนั้นเราก็ติดค่ายที่กท.พอดี คราวนี้ก็ิธิบายให้พี่เขาฟัง แล้วเราก็รีบดำเนินการโทรไปหาให้ครูให้ญาติๆช่วยกันวุ่นไปหมดเลย และทุกอย่างก็เรียบร้อย
โล่งงงไป ด่านนี้ต้องกราบขอบพระคุณคุณครูปราณี ลุงสิทธิ์ ป้าอ้อย และลุงไก่บอกเลยว่าสุดๆ
แล้วก็ยังมีอีกเรื่องเกี่ยวกับเอกสารพี่่เขาโทรมาถามเรื่องสุขภาพ คือตอนที่เรากรอกน้ำหนักในใบสมัครอะ ช่วงนั้นน้ำหนักลดแล้วมันเลยดูน้อย พี่เขาเลยโทรมาว่า "ทางประเทศปลายทางเขาถามว่าน้องมีปัญหาอะไรเกี่ยวกับการกินหรือเปล่า หรือน้องเป็นโรคอะไรไหม ทำไมน้ำหนักมันน้อยจัง" เรานี้แบบ เป็นโรคคค? หาา? 555555555555555555555+ ฮากระจาย "หนูแข็งเเรงดีค่ะ กินได้หมดทุกอย่าง เพียงแต่ว่ากินแล้วไม่อ้วนเฉยๆค่ะ" เป็นไงลาา โดนเข้าแล้วไอแห้ง 555555+
ด่านที่ 7 เราจะได้ไปประเทศไหนกันนะ
ด่านนี้หละค่ะ ที่ต้องใช้คำว่า "อดทนอย่างสูงสุด" เลยทีเดียว เพราะเราจะต้องเจอกับคำว่า รอ รอ แล้วก็รอ รอแล้วก็รออีก เพื่อนเอยครูเอยก็ถามกันทุกวัน 'ได้ประเทศไหนหรอ' 'เอ้านานแบบนี้ไม่ได้ไปละมั้ง' ต่างๆนานา รอจนต้องสั่งตัวเองให้ลืม เช็คเมลกันทุกวัน บางทีก็หลอนไปเองว่าโทรศัพท์เข้า 555 นับวันแล้วนับวันเล่า 5555555 เพราะ ทาง AFS จะโทรมาบอกเราโดยตรง แล้วจะส่งอีเมลมาให้ทีหลัง ในที่นี้ตัวเราเองจะไม่รู้ว่าเราได้ไปภาคพื้นไหน ไม่รู้ว่าต้องรอกี่เดือน จะรู้ก็ต่อเมื่อเขาประกาศมาค่ะ
-- คนที่ไปภาคพื้นทวีปใต้ (เดินทางในช่วงเดือนมกราคม ถึง มีนาคม) ก็จะรอประเทศประมาณ 2 เดือน
-- คนที่ไปภาคพื้นทวีปเหนือ (เดินทางในช่วงเดือนกรกฎาคม ถึง กันยายน ) ก็จะรอประเทศประมาณ 6 เดือน !!!!!!!!
OMG !! มันนานมากก็จริง แต่ในวันที่รู้นั้น เราร้องไห้เลย ดีใจมากจริงๆ 555555
ในรุ่นเรา ประเทศที่ได้ไปก็เน้นที่แถบละตินอเมริกาค่ะ
ชิลี : 1คน , บราซิล : 2 คน, โบลิเวีย : 1 คน, โคลอมเบีย : 1 คน, ปารากวัย : 2 คน, ตุรกี : 1 คน, อินเดีย : 1คน อเมริกา : 1 คน, และทุนพิเศษ ญี่ปุ่น 1 คน
ความพีคของเราอีกก็คือ เราจินตนาการไปแล้วว่า ...เราจะต้องได้ประเทศหนาวๆ จะมีหิมะตก เย็นๆ ชื่นฉ่ำใจ แม่กับน้องสาวเราไปเจอเสื้อกันหนาวสวยๆ เสื้อหนาวแฟชั่นก็เลยรีบซื้อมาฝากเลย แบบเออ เตรียมไว้ให้พร้อมไรงี้ พอประกาศออกมาได้ประเทศ "บราซิล" เท่านั้นแหละ ถึงกับ กร๊ากก 5555555555555555+
เอาไปไหนละคราวนี้ เก็บไว้ให้แม่ใส่ไปตัดยางแทนละกัน 5555
****ในแต่ละปีจะได้ประเทศไม่เหมือนกันน้า***
ด่านที่ 7 ฉันรักเธอ ค่าย AFS
โอโหยยย จะบอกว่า นี่คือค่ายที่ดีที่สุดที่เคยเจอมาในชีวิต มันดีมากจริงๆ ได้เจอเพื่อนใหม่จากทั่วประเทศ ได้เจอพี่รีเทิร์นนี ที่น่ารักมากๆถึงมากที่สุด พี่ๆเขาคือสุดยอดจริงๆ ค่ายนี้ก็จะเตรียมความพร้อมในการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน และภาษาพื้นฐานให้กับเรา เป็นเวลา 4 วัน 3 คืน ที่โรงแรมศรีอู่ทองแกรนด์ สุพรรณบุรี ค่ายนี้จะทำให้เรารู้ว่า AFS ไม่ใช่แค่โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน แต่ AFS คือครอบครัวที่อบอุ่น จริงๆค่ะ ใครได้มาถึงรอบนี้ทุกคนจะต้องตกหลุ่มรักค่าย AFS อย่างจริงจัง.
ด่านที่ 8 ทำวีซ่ากันนนน
ใกล้แล้ววว ใกล้จะได้ไปแล้ว ในรอบนี้คือการทำเอกสารวีซ่า โดยทาง AFS จะส่งอีเมลวิธีการเตรียมเอกสารมาให้เราก็ต้องดำเนินการแล้วส่งเอกสารตามวันเวลาทีกำหนดจ้า อันนี้เราก็ ขึ้น-ลง กรุงเทพบ่อยเหมือนกัน
ความพีคของเราก็มีอีกเช่นเคยค่าา ช่วงที่มีเมลบอกว่าให้เราเตรียมเอกสารช่วงนั้นคือแม่เราโหมงานหนักมาก สุขภาพก็เลยเเย่และต้องเข้าโรงบาลผ่าตัดด่วน
...แล้วคราวนี้ทำไงละ เราก็เลยต้องวางแผนทั้งหมดให้เป๊ะ ลิสรายละเอียดรายการวันเวลา สถานที่ เป็นข้อๆออกมาว่าต้องไปที่ไหนก่อนหลัง พอแม่ออกจากโรงพยาบาลปุ๊บ!! เท่านั่นแหละ ลุยกันแบบสุดๆ 8 วันเต็มๆ ด่านนี้สงสารแม่ที่สุดเลย T_T รู้นะว่าร่างกายแม่ไม่ไหว แต่พอถามทีไรก็ไหวตลอด เลือดนักสู้ของแม่จงซึมซับเข้ามาหาข้าทุกหยดด้วยเทอญ สาาธุ _/\_
------------------------------------------------------------------------------------
เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเราก็... เตรียมตัวโบยบินกันเล้ยยยยย!
ทั้งหมดนี้จะเป็นประสบการณ์การการสอบชิงทุนที่เข้าสนามสอบครั้งแรกและครั้งเดียวแต่สามารถพิชิตมันมาได้ เพราะมีความเชื่อที่ว่า
“ถึงแม้คนเราจะมีต้นทุนชีวิตไม่เท่ากัน แต่ถ้าเราพยายามและมุ่งมั่นกับเป้าหมายอย่าง 100% จริง ทุกความฝันก็ประสบความสำเร็จได้”
สู้ๆนะทุกคนนนน เย้!
> ขอบคุณเพื่อนๆ เอเอฟเอส นีดดี้รุ่น 56 ทุกคน ที่เป็นส่วนช่วยให้กระทู้นี้เสร็จสมบูรณ์ได้ *นิ้ง *ดิว *มาตา *รัชช่า *ฝ้าย *บุ๊ค *นาเรีย *ไหม *คิตตี้
> ขอขอบพระคุณคุณครูโรงสอาดเผดิมวิทยา จังหวัดชุมพร ทุกท่าน ที่ให้วิชาความรู้ทั้งด้านวิชาการและส่งเสริมด้านกิจกรรมมากมาย ทั้งเกียติบัตร เหรียญและเข็มรางวัล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในการพิจารณาทุนนี้
>ขอขอบคุณท่านผอ.และคณะครูอาจารย์คุณครูอาจารย์โรงเรียนศรียาภัย จังหวัดชุมพร ทุกๆท่าน คุณครูปราณี กาลพัฒน์ ครูวิชุนันท์ พิบูลย์ ครูลี่ และคุณครูห้องทะเบียนที่ให้คำแนะนำสนับสนุนและช่วยเหลือเรื่องเอกสาร
>ขอบคุณ น้าเอ้ น้าเอก ป้าหวี ลุงด้วง ป้าปู ลุงจิน พี่ตอง(โนรา)ที่ช่วยเหลือเรื่องที่พักตอนไปกรุงเทพฯ
>ขอบคุณ ลุงไก่ ลุงสิทธ์ป้าอ้อย ที่คอยสนับสนุนเบื้องหลังทุกๆอย่างเมื่อเบลล์กับแม่ลำบาก
>ขอบคุณ พี่เก๋ ที่ช่วยแปลและทำเอกสารนานาชาติต้องมาอดหลับอดนอนกันแบบสุดๆ
>ขอบคุณ และลูกศิษย์โนราของแม่ทุกๆคน ที่คอยให้กำลังใจตลอด
>ขอบคุณคุณครูโรงเรียนอนุบาลธรรมรัตน์ จังหวัดระนองและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านแม่มารี ทุกท่านที่เป็นจุดเริ่มต้นของการปลูกฝังลูกศิษย์คนนี้
> และสุดท้ายต้องขอขอบพระคุณคุณแม่ ที่ช่วยผลักดัน สนับสนุน ให้พลัง ให้คำสอน คอยอยู่เคียงข้างและผ่านความลำบากมาด้วยกันจนทำให้ตัวฉันมีทุกวันนี้ได้
[ศูนย์เอเอฟเอสเขตชุมพร โรงเรียนศรียาภัย]
>>> ขอบคุณโครงการมูลนิธิเอเอฟเอสที่มอบโอกาสให้กับเด็กทุนเต็มจำนวนทุกคนค่ะ
21 ความคิดเห็น
พี่อยู่รร.เดียวกับหนูเลยย หนูอยากไปเหมือนกันค่ะ แต่กลัวจะสอบได้ติด เพราะพูดไม่ค่อยคล่อง กลัวสัมภาษไม่ผ่าน
ความกลัวคืออุปสรรคแรก อย่าให้ความกลัวมาขวางทางและปิดโอกาสเราค่ะ สู้ๆ
พี่คะ ตอนกลับมาจะซ้ำชั้นมั้ย ตอน ม. 6 ตอบหน่อยนะค้าาา แล้วเรามีวิธีให้ไม่ซ้ำชั้นยังไง คือหนูวางเป้าไว้ว่าจะแลกเปลี่ยนที่เมกา แล้วใช้ทุนต่อที่นั่นเลยค่ะ ถ้ารู้บอกหน่อยนะค้าาา
เรื่องนี้พี่ยังไม่ค่อยแน่ใจน้า ถ้ามีประสบการณ์ ยังไงจะมาบอกกันอีกที
พี่อยู่รร.เดียวกับหนูเลย หนูอยากไปแลกเปลี่ยนบ้าง งื้ออออ ตอนนี้อยู่ม.2 แล้วกำลังตั้งใจอ่านหนังสืออยู่ค่ะ เพราะไม่ค่อยเก่งอังกฤษเท่าไหร่
จขกทเขียนได้ดีมากเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและแรงบันดาลใจนะคะ :)
ขอบคุณมากๆน้าาที่มาอ่าน..คือรู้สึกภูมิใจจริงๆที่อย่างน้อยก็มีคนได้แรงบันดาลใจจากกระทู้ของเรา สู้ๆน้าา
เราอ่านไป ยิ้มไปร้องไห้ไป ชอบมากๆ เป็นความฝันเราโล้ยยย เราเคยสอบมาเเล้วว เเต่ไม่ได้ไปสัมภาษ เสียดายมากๆ พ่อเราไม่อนุญาต เพราะตอนนั้นอยู่แค่ ม.3 เราอยากจะทำตามความฝันของเราให้สำเร็จ เเต่ตอนนี้ 20 ปีเเล้วว อยากไปเเลกเปลี่ยนเเถบยุโปร เมกาา ยังงี้อ่าา โอกาสนั้นยังมีอีกไหม *_*
หนูเชื่อว่าพี่ทำได้นะคะ ยังไม่สายเกินไป ลองหาทุนเรียนต่างประเทศฟรีแล้วลองสอบเลยค่ะ มีเยอะแยะเลย ไม่ลองเราก็ไม่รู้นาา
ถ้าเรารีเควสประเทศแล้วมีโอกาสได้มั๊ยคะ *-*
ทุนเต็มจำนวนรีเควสไม่ได้เลยค่ะ รอเขาเลือกให้อย่างเดียวจ้า แต่ไม่ว่าได้ประเทศไหนก็สุดยอดทั้งนั้นค่ะ
แล้วคนที่ได้สำรองได้ไปกี่คนค่ะ
ขอเคล็ดลับที่แม่ให้หน่อยได้เปล่า5555 หลังไมค์มาก็ได้ค่า อยากไปมากๆเหมือนกัน ตอนนี้อยุ่แค่ ม.1 แต่จะพยายามให้เต็มที่ที่สู๊ดดด
พี่ค่ะ หลังไมค์ได้มั้ยค่ะ อยากถามอะไรเยอะมากเลยค่ะ>////<
Facebook : Bell Nutjikan
พี่ครับ เขาจะไปเยี่ยมบ้านทุกคนที่สอบสัมภาษณ์ทุนเต็มเลยเหรอครับ หรือว่าคนที่ผ่านสัมภาษณ์ถึงจะไปเยี่ยมบ้านอ่ะครับ
คนที่เขตคัดเลือกให้ผ่านรอบเขตเท่านั้นค่ะ เขตละ 2 คนที่เขาจะไปเยี่ยมบ้านจ้า
พี่ค่ะ portfolio นี่เค้าส่งตอนสำภาษณ์รอบแรกหลังจากสอบผ่านข้อเขียนรึเปล่าค่ะ
โอ้ยยย พี่สุดยอดมากเหอะ คัดเหลือตัวจริง10คนนี่คงโหดเลือดตาแทบกระเด็นกันเลยทีเดียว พี่สุดยอดเก่งมาก!!
พี่คะ หนูขอcontact พี่ไว้ปรึกษาได้ไหมคะ._.
Facebook : Bell Nutjikan
IG : nutjibell
พี่คะ เราเลือกประเทสเองไม่ได้หรอคะ
ประกาศผลสัมภาษณ์ศูนย์ใหญ่นี่กี่วันหลังจากเยี่ยมบ้านค่ะ?
ในการสอบสัมภาษณ์นี่ถ้าเราบอกว่าอยากไปประเทศไหนกับเขา จะมีผลต่อประเทศที่ได้ไปไหมครับ
พี่ครับ ต้องไปสอบกรุงเทพอย่างเดียวเลยหรอคับ
พี่ยังจะเข้ามาอ่านเมนต์ในนี้มั้ยน้ออออ เรามีเรื่องอยากจะสอบถามมาก ๆๆๆๆๆ เลยค่าาาา
สอบถามหน่อยค่ะเรื่องPortfolio ถ้าแม่ทำค้าขายผลไม้ไม่มีใบเสร็จเรื่องเรื่องเดือนต้องทำอย่างไงค่ะ
อยากรู้ฮะว่า เราต้้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มไหม แบบค่าของส่วนตัวค่าอะไรแบบนี้
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?