Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รอยเท้าในทะเลทราย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ผมเปิดหน้ากระดาษขาวๆหน้านี้ทุกวัน ครั้งละหลายชั่วโมง ผมเฝ้ารอเศษเสี้ยวความคิดเพื่อจะพิมพ์บางสิ่งลงไป บางสิ่งที่ดีพอ การเคยเป็นที่หนึ่งคงทำให้ผมต้องมองหาสิ่งที่ดีเท่าหรือดีกว่าเดิมเสมอ แต่มาเดี๋ยวนี้ผมไม่เคยไดักลับไปยืนที่เก่า ความภูมิใจที่เคยมีมาได้เลือนลางเหมือนรอยเท้าในทะเลทราย เมื่อมองดูโลกอย่างจริงจัง เราได้มองเห็นความโหดร้ายของกฏแห่งเวลา มันคือสิ่งเดียวบนโลกที่ไม่เคยปราณีใคร

  เมื่อปีก่อนผมอาจจะเคยเป็นที่หนึ่ง แต่วันนี้ผมไม่ใช่ ชื่อเสียง อำนาจบารมี หรือเงินทอง เป็นสิ่งที่เปราะบางเหลือเกิน มันพร้อมจะจากคุณไปได้เสมอ และเมื่อมันจากไปสิ่งที่ทิ้งไว้ให้คือความทุกข์ และตอนนี้มันก็เกิดขึ้นกับผม ผมคือคนเดียวในรุ่นที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัย ผมตัดสินใจลาออกตั้งแต่ปีหนึ่ง เพราะความหวังที่จะกลับไปสอบเข้าที่เดิม...ที่เคยพลาดมา มันคือที่ที่ผมทุ่มหมดทั้งตัก ผมเคยกล่าวต่อใครๆว่า มันคือฝัน มันคือชีวิต คืออนาคต และเมื่อถึงวันที่ผมต้องหมดตัวหมดใจไปกับสิ่งที่ทุ่มเทไป มันคือวันที่ตัวตนผมหายไปด้วย ผมไม่ต่างจากลูกหมาลอยคออยู่กลางทะเล มองไม่เห็นฝั่ง แต่ก็พบขอนไม้เล็กไว้ให้เกาะ นั่นคือมหาวิทยาลัยเล็กๆแห่งหนึ่งที่ผมตัดสินใจที่จะทนอยู่กับมัน และผมก็ทนได้ดีซะด้วย ในขณะเดียวกันเกาะแห่งความฝันก็ไกลออกไปเรื่อยๆ ผมไม่มีความสุขเลยตลอดหลายเดือน นอนหลับยากทุกคืนเพราะความผิดพลาดยังคอยหลอกหลอน เดินทางไปเรียนเช้า เย็นกลับมานอนเดียวดายในห้อง จนบางครั้งถามตัวเองว่าเรากำลังทำอะไรอยู่กันแน่ รู้สึกว่าชีวิตช่างว่างเปล่า แต่ผมก็กลัวที่จะกลับไปทำตามฝัน เพราะความเจ็บช้ำมันยังฝังใจ ประกอบกับการเรียนที่ตรงนี้ก็กำลังไปได้ดี แต่ยิ่งนานเข้าก็ยิ่งแย่ลง เมื่องย่างเข้าเทอมที่สอง ผมก็เริ่มหมดความสนใจในการเรียนทั้งสิ้น หลายครั้งที่นอนไม่หลับจนถึงเช้า ไปเรียนด้วยความง่วงซึมเป็นประจำ คิดถึงทุกอย่างที่เคยทำ ตัวตนที่เราเคยเป็น สิ่งดีๆที่เคยผ่านมาในชีวิต แต่บัดนี้มีแต่ความทุกข์ แต่มีอยู่วันหนึ่งผมมองกระจกแล้วสมเพชตัวเอง ผมบอกกับตัวเองว่า ทุกอย่างจะต้องเปลี่ยน สิ้นความคิดผมก็สวมรองเท้าแล้ววิ่งออกจากห้องไปด้วยความแน่วแน่ ไร้ความกลัวอีกต่อไป ผมไปที่ป้ายรถเมล์เพื่อรอรถซักสายหนึ่งซึ่งผมไม่สนใจว่าสายอะไร เมื่อรถมาถึงผมก็ขึ้นทันที พร้อมบอกพนักงานว่าผมขอไปสุดสาย ผมนั่งอยู่บนรถเมล์ด้วยใจกล้าหาญที่กลับคืนมา คืนนั้นผมตัดสินใจออกไปผจญภัยโดยจะไม่กลัวอะไรอีกต่อไป เมื่อถึงจุดหมายผมลงจากรถแล้วเดินกลับทางเดิมที่รถพาผมมา ซึ่งในขณะนั้นก็มืดค่ำแล้ว แต่ผมก็เดินไปอย่างมีความสุขและกลับบ้านอย่างปลอดภัย เรื่องในครั้งนั้นมันอาจดูไม่สำคัญเลยกับใครหลายคน แต่สำหรับผมมันคือการก้าวข้ามความกลัวที่ตัวเองมี ความกลัวที่จะก้าวต่อไป วันรุ่งขึ้นผมจึงได้เขียนใบลาออก และเดินออกมาจากมหาลัยโดยไม่มีพันธะอีกต่อไป สำหรับใครหลายๆคนวันที่ลาออกอาจเป็นวันแย่ๆวันหนึ่ง แต่วันนั้นเป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุดในรอบปี


  มันคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าผมเสียเวลาชีวิตไปปีกว่าอย่างไม่มีประโยชน์นัก แต่ผมตัดสินใจแล้วว่าเวลาที่เสียไปมันคงเทียบไม่ได้กับความเสียดายทั้งชีวิตที่ไม่ลุกขึ้นสู้อีกครั้ง เพราะสิ่งที่คนเราใฝ่ฝันนั้นจริงๆแล้วไม่ใช่ ชื่อเสียง อำนาจบารมี หรือเงินทองที่เลือนหายไปได้อย่างง่ายดายดั่งรอยเท้าในทะเลทราย แต่สิ่งที่เราค้นหาคือความสุขกับทุกวันในชีวิตที่เหลืออยู่ สร้างสรรค์สิ่งที่ดีและส่งต่อความดีต่อไปไม่ลดเลือน

แสดงความคิดเห็น

>