Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

โครงงานคอมพิวเตอร์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

โครงงานคอมพิวเตอร์

การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เรื่อง ชนิดของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล

 

 

 

 

ผู้ทำโครงงาน

 

 

1. เด็กชายจิรพันธ์      ใจปลา                ม.3/8              เลขที่ 14

2. เด็กหญิงขวัญข้าว   พิลาวรรณ         ม.3/8              เลขที่ 15

 

 

 

 

นางนิจกาญจน์  พ้องพงษ์ศรี

อาจารย์ที่ปรึกษา

 

 

 

 

 

 

 

โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์ ง.23101

ประจำปีการศึกษาที่ 1/2560

โรงเรียนดาราวิทยาลัย  จังหวัดเชียงใหม่

ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เรื่อง ชนิดของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล

ชื่อผู้ทำโครงงาน 1. เด็กชายจิรพันธ์     ใจปลา                          ม.3/8              เลขที่ 14

              2.เด็กหญิงขวัญข้าว   พิลาวรรณ                    ม.3/8              เลขที่ 15

 

ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา นางนิจกาญจน์  พ้องพงษ์ศรี

ระยะเวลาดำเนินงาน 4 เดือน ภาคเรียนที่  1      ปีการศึกษา  2560

รายละเอียดเกี่ยวกับโครงงาน

1.              แนวคิดที่มาของโครงงาน

                    เนื่องจากในปัจจุบัน มีการใช้เทคโนโลยีมากขึ้นมากขึ้น มีการศึกษาหาความรู้ผ่านอินเตอร์เน็ตมาก มีการทำสื่อการสอนผ่านอินเตอร์เน็ตมาก เพราะเข้าถึงได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว

                     สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นสัตว์ที่มีอยู่ทุกแห่งบนโลก และมีอยู่ในทะเลหลายชนิด หลายชนิดเริ่มที่จะสูญพันธ์ เพราะมนุษย์จับหรือฆ่าเพื่อประโยชน์ของตน ในขณะนี้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมทางทะเลร้อยละ 23 มีจำนวนประชากรลดลง เนื่องจากการคุกคามโดยมนุษย์ เช่น การล่าวาฬมาทำเป็นอาหาร การล่าวอลรัสเพื่อเอาหนังมาทำเป็นเครื่องนุ่งห่มโดยคนในพื้นที่ เป็นต้น และสภาวะโลกร้อนก็มีผลเช่นกัน เช่น แผ่นน้ำแข็งละลาย ทำให้หมีขั้วโลกไร้ที่อยู่อาศัยและจมน้ำตายทุกปี เป็นต้น  

                      จึงจัดทำโครงงานนี้ขึ้นเพื่อให้รู้ว่ามีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดใดบ้างในทะเล และมีกี่ชนิดบ้างที่กำลังจะสูญพันธ์

 

 

 

2.   วัตถุประสงค์

2.1 เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บบล็อก เรื่อง ชนิดของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล

2.2 เพื่อเป็นสื่อทางการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

2.3 เพื่อเป็นประโยชน์กับบุคคลที่สนใจทั่วไป

3. หลักการและทฤษฎี

      การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เรื่อง ชนิดของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใต้ทะเล 

คณะผู้จัดทำได้ศึกษาค้นคว้าเสนอเอกสารที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้

  ชนิดของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใต้ทะเล

       1.  ความหมายของชนิดของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใต้ทะเล

           ชนิดของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใต้ทะเล หมายถึง สัตว์เลี้ยงลูกด้วยที่อาศัยอยู่ในทะเลหรืออาศัยอยู่ใกล้ทะเล โดยสัตว์ในกลุ่มนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 129 ชนิด (Species) ตัวอย่างของสัตว์ในกลุ่มนี้ ได้แก่ แมวน้ำ วาฬ วอลรัส หมีขั้วโลก ฯลฯ โดยสัตว์เหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยอยู่ใกล้ทะเลหรืออาศัยอยู่ในทะเล เพราะจำเป็นต้องพึ่งพาสิ่งแวดล้อมทางทะเลในการดำรงชีวิต เช่น การหาอาหาร การขยายพันธุ์ ถิ่นที่อยู่ เป็นต้น

       2.   การแบ่งกลุ่มของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

           2.1 Cetaceans คือ วาฬกับ พอร์พอยส์

           2.2 Pinnipeds คือ แมวน้ำ สิงโตทะเล และวอลรัส

           2.3 Sirenians คือ พะยูน

           2.4 Fissipeds  คือ หมีขั้วโลก และ นกทั้ง 2 พันธุ์

      3.  สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์

        3.1. การล่าวาฬมาทำเป็นอาหาร

        3.2. การฆ่าวอลรัสเพื่อเอาหนังไปเป็นเครื่องนุ่งห่ม

        3.3. ผลของโลกร้อนส่งผลทำให้สัตว์หลายชนิดสูญพันธุ์

    

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

4.  ยกตัวอย่างของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใต้ทะเล

 

 

ว2#main" height="174" sizes="(max-width: 290px) 100vw, 290px" src="https://anocha01.files.wordpress.com/2013/01/e0b8a72.jpg" width="290" />ว1               

 

 

         

 

 

4.1 วาฬ Whale เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่อาศัยอยู่แต่เฉพาะในทะเลหรือมหาสมุทร เป็นสัตว์ที่มีรูปร่างคล้ายปลา คือ รูปร่างเพรียวยาว มีครีบและมีหางเหมือนปลา แต่หางของวาฬจะเป็นไปในลักษณะแนวนอน มิใช่แนวตั้งเหมือนปลา วาฬมิใช่ปลา แต่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีสายรก ที่จัดอยู่ในอันดับวาฬและโลมา (Cetacea)

บรรพบุรุษของวาฬ เป็นสัตว์กินเนื้อบนบกมี 4 ขา ในยุคพาลีโอจีน เมื่อประมาณ 65 ล้านปีก่อน มีชื่อว่า “มีโซนิก” จากนั้นก็วิวัฒนาการเริ่มใช้ชีวิตแบบสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำภายในเวลาเพียง 10 ล้านปีต่อมาในยุคอีโอซีน หรือเมื่อประมาณ 55 ล้านปีก่อน โดยจากสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำจากนั้นขาหลังก็ค่อยหดและเล็กลงจนต่อมาเมื่อประมาณ 24-26 ล้านปี ก่อนกระดูกและข้อต่อก็หดเล็กลงจนไม่มีโผล่ออกมาให้เห็น แต่ในปัจจุบันกระดูกส่วนของขาหลังก็ยังคงมีอยู่โดยเป็นอวัยวะภายในที่มีขนาดเล็ก และทำหน้าที่เพียงเป็นที่ยึดติดของอวัยวะสืบพันธุ์เท่านั้น

วาฬ เป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ นับเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แม้จะอาศัยอยู่แต่เฉพาะในทะเล มีรูปร่างคล้ายปลา แต่มิใช่ปลา ด้วยเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

วาฬ เป็นสัตว์ที่หายใจด้วยปอด เหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอันดับอื่น ๆ วาฬสามารถกลั้นหายใจใต้น้ำได้นานนับชั่วโมง (โดยเฉลี่ยประมาณ 20 นาที) ด้วยการเก็บออกซิเจนปริมาณมากไว้ในปอด เมื่อใช้ออกซิเจนหมด วาฬจะขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำเพื่อปล่อยลมหายใจออก ซึ่งขณะที่ปล่อยลมหายใจออกนั้นจะมีไอน้ำและฝอยน้ำพ่นออกมาจากอวัยวะพิเศษที่อยู่ตรงส่วนหัวเป็นรูกลม ๆ เหมือนน้ำพุด้วย

 

 

 

 

 

พย1
Easy prey ... dugong.

 

 

                                         

            

                   

 

 

 

4.2 พะยูน Sea cow   มีการศึกษาพะยูนในทางวิทยาศาสตร์เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1776 โดยได้ตัวอย่างต้นแบบจากที่จับได้จากน่านน้ำแหลมกู๊ดโฮปถึงฟิลิปปินส์ เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายโลมาและวาฬ เดิมพะยูนจึงถูกจัดรวมอยู่ในอันดับเดียวกันคือ Cetacea แต่จากการศึกษาลักษณะโครงสร้างโดยละเอียดพบว่า มีความแตกต่างกันมาก กล่าวคือ มีขนาดเล็กกว่า หัวกลม รูจมูกแยกจากกัน ปากเล็ก มีฟันหน้าและฟันกรามพัฒนาดี ไม่เป็นฟันยอดแหลมธรรมดาเหมือน ๆ กันอย่างวาฬ[4] และมีเส้นขนที่ริมฝีปากตลอดชีวิต ในปี ค.ศ. 1816 อองรี มารี ดูโครเตย์ เดอ แบล็งวีล นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ได้ทำการแยกความแตกต่างระหว่างพะยูนกับโลมาและวาฬ ออกจากกันและจัดพะยูนเข้าไว้ในกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีกีบ ในอันดับ Sirenia โดยนับว่าพะยูนมีบรรพบุรุษร่วมกันกับช้างมาก่อน รวมถึงการศึกษาซากโบราณของพะยูนในสกุล Eotheroidesในประเทศอียิปต์

ลักษณะพฤติกรรม

          พะยูนมีรูปร่างคล้ายแมวน้ำขนาดใหญ่ที่อ้วนกลมเทอะทะ ครีบมีลักษะคล้ายใบพาย ซึ่งวิวัฒนาการมาจากขาหน้าใช้สำหรับพยุงตัวและขุดหาอาหาร ไม่มีครีบหลัง ไม่มีใบหู ตามีขนาดเล็ก ริมฝีปากมีเส้นขนอยู่โดยรอบ ตัวผู้บางตัวเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นจะมีฟันคู่หนึ่งงอกออกจากปากคล้ายงาช้าง ใช้สำหรับต่อสู้เพื่อแย่งคู่กับใช้ขุดหาอาหาร ในตัวเมียมีนมอยู่ 2 เต้า ขนาดเท่านิ้วก้อย ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร อยู่ถัดลงมาจากขา คู่หน้า สำหรับเลี้ยงลูกอ่อน มีลำตัวและหางคล้ายโลมา สีสันของลำตัวด้านหลังเป็นสีเทาดำ หายใจทางปอด จึงต้องหายใจบริเวณผิวน้ำ 1-2 นาที อายุ 9-10 ปี สามารถสืบพันธุ์ได้ เวลาท้อง 9-14 เดือน ปกติมีลูกได้ 1 ตัว ไม่เกิน 2 ตัว แรกเกิดยาว 1 เมตร หนัก 15-20 กิโลเมตร ใช้เวลาตั้งท้องประมาณ 1 ปี กินนมและหญ้าทะเลประมาณ 2-3 สัปดาห์ หย่านมประมาณ 8 เดือน อายุประมาณ 70 ปี โดยแม่พะยูนจะดูแลลูกไปจนโต ขนาดเมื่อโตเต็มที่ประมาณ 2 เมตร ถึง 3 เมตร น้ำหนักเต็มที่ได้ถึง 300 กิโลกรัม

 

 

 

 

 

 

ลม2ลมๅ

 

                    4.3 โลมา Dolphin   เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำพวกหนึ่ง อาศัยอยู่ทั้งทะเล น้ำจืด และน้ำกร่อย มีรูปร่างคล้ายปลา คือ มีครีบ มีหาง แต่โลมามิใช่ปลา เพราะเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีรก จัดอยู่ในอันดับวาฬและโลมา (Cetacea) ซึ่งประกอบไปด้วย วาฬและโลมา ซึ่งโลมาจะมีขนาดเล็กกว่าวาฬมาก และจัดอยู่ในกลุ่มวาฬมีฟัน (Odontoceti) เท่านั้น

โลมา เป็นสัตว์ที่รับรู้กันเป็นอย่างดีว่าเฉลียวฉลาด มีความเป็นมิตรกับมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะช่วยชีวิตมนุษย์เมื่อยามเรือแตก จนกลายเป็นตำนานหรือเรื่องเล่าขานทั่วไป มีอุปนิสัยอยู่รวมกันเป็นฝูง บางฝูงอาจมีจำนวนมากถึง 100 ตัว ว่ายน้ำได้อย่างคล่องแคล่วรวดเร็ว รวมถึงสามารถกระโดดหมุนตัวขึ้นเหนือน้ำได้ ชอบว่ายน้ำขนาบข้างหรือว่ายแข่งไปกับเรือ

โลมานั้นเป็นสัตว์ที่มีความเฉลียวฉลาดมาก เชื่อว่า ความฉลาดของโลมานั้นเทียบเท่าเด็กตัวเล็ก ๆ เลยทีเดียว หรือเป็นไปได้ว่าอาจจะฉลาดกว่าชิมแปนซี ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีความใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุดด้วยซ้ำ ที่เป็นเช่นนี้เพราะโลมามีขนาดของสมองเมื่อเทียบกับลำตัวแล้วนับว่าใหญ่มาก แถมภายในสมองยังซับซ้อนอีกด้วย โดยเฉพาะโลมาปากขวดนั้นถึงกับมีขนาดของสมอง เมื่อเทียบกับลำตัวใหญ่แล้ว ถือเป็นสัตว์ที่มีขนาดสมองใหญ่เป็นที่สองรองจากมนุษย์ และสมองส่วนซีรีบรัม อันเป็นส่วนของความจำและการเรียนรู้ ก็มีขนาดใหญ่มาก เป็นศูนย์รวมของประสาทการรับกลิ่น, การมองเห็น และการได้ยิน จนอาจเชื่อได้ว่าแท้จริงแล้ว โลมาอาจมีความฉลาดเทียบเท่ากับมนุษย์ก็เป็นได้ ซึ่งจากความฉลาดแสนรู้ของโลมา จึงทำให้เป็นที่นิยมนำมาฝึกแสดงโชว์ต่าง ๆ ตามสวนสัตว์และสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำต่าง ๆ 

 

 

 

 มน1

มน2 

 

 

4.4 แมวน้ำ Seal   เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในวงศ์ Phocidae (ไม่มีใบ) และวงศ์ Otariidae (มีใบหู)มีตูดน่าเกียจชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Arctocephalus pusillus pusillu ลักษณะทั่วไป : ตัวผู้ใหญ่กว่าตัวเมีย โดยมีคอเป็นสันใหญ่ สีขนลำตัวของตัวผู้เป็นสีเทา-ดำ และมีสีน้ำตาลแซม น้ำหนักราว 247 กิโลกรัม ความยาว 2.15 เมตร ตัวเมียมีสีลำตัวเป็นสีน้ำตาล-เทา น้ำหนักราว 57 กิโลกรัม และมีความยาว 1.56 เมตร ถิ่นอาศัย, อาหาร : ออกจับปลาในทะเลใกล้เกาะเล็ก ๆ และขึ้นฝั่งบนเกาะบริเวณชายหาดที่เป็นโขดหินที่มีการขึ้นลงของน้ำทะเลในเขตแอฟริกาใต้ กินปลาเป็นอาหารหลักรวมทั้งปลาหมึกและหอย พฤติกรรม, การสืบพันธุ์ : แมวน้ำเคปเฟอร์ซีลเป็นสัตว์สังคม อยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ ชอบล่าเหยื่อและหากินตามผิวน้ำหรือน้ำตื้นๆ หากินปลาตามเรือของชาวประมง ในช่วงกลางเดือนตุลาคม ตัวผู้จะไปยังพื้นที่ผสมพันธุ์ซึ่งเป็นชายหาดที่เป็นโขดหินและประกาศอาณาเขต อีกหลายสัปดาห์ต่อมาตัวเมียจะตามเข้ามาเพื่อออกลูกจำนวน 1 ตัว ซึ่งจะมีตัวเมียหลายตัวเข้ามาในอาณาเขต ตัวผู้ที่ครองอาณาเขตจะไล่ตัวผู้ตัวอื่นออกนอกอาณาเขตหากล้ำเข้ามา จนกว่ามันจะได้ผสมพันธุ์กับตัวเมียทุกตัว ตัวเมียจะเป็น-หลังการออกลูก 5 – 6 วัน และมีระยะการตั้งท้องนานประมาณ 1 ปี สถานภาพปัจจุบัน : สถานที่ชม : สวนสัตว์เชียงใหม่ ข้อมูลเพิ่มเติม : UNEP-WCMC Species Database [1] แมวน้ำ

 

 

 

 

 

 

 

                    

 

 

5.  วิธีการป้องกัน การสูญพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใต้ทะเล        

5.1    งดล่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใต้ทะเลทุกชนิด

5.2    การตั้งเขตอนุรักษ์สัตว์ใต้ทะเลไว้

5.3    การตั้งศูนย์วิจัยสัตว์น้ำใต้ทะเล

 

ประโยชน์ที่ได้รับ

1. ทำให้อัตราเสี่ยงต่อสัตว์ศูนย์พันธุ์ลดลง

2. ทราบวิธีป้องกันสัตว์ศูนย์พันธุ์

3. ได้สื่อทางการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนมใต้ทะเล

 

โปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนา  

            1.  โปรแกรม Power Point

            2. โปรแกรม Microsoft Word 2013

            3. เว็บไซต์ที่ให้บริการคือ http://www.blogger.com/  

            4.  เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารคือ www.facebook.com  , www.gmail.com www.google.com

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สร้างกระทู้ใน Dek-D 

      1.  เข้าไปที่ https://www.dek-d.com/ จะเจอหน้าจอแบบนี้

 

      
2.  ให้ท่านคลิกที่ บอร์ด และกด ตั้งกระทู้ใหม่
3. ให้ใส่รายละเอียดดังรูป
               -ตั้งชื่อหัวข้อกระทู้
               -ใส่เนื้อหาของกระทู้
               -เลือกหมวดตามจุดประสงค์
               -พิมพ์ตามอักษรที่ปรากฎให้ถูกต้อง
                -คลิกดำเนินต่อไป
4.Copy ข้อมูลจากโปรแกรมที่ท่านทำนำลงไปในช่องเนื้อหากระทู้

 

         

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

4.      วิธีการดำเนินงาน

4.1      กำหนดปัญหา เพื่อที่จะศึกษาสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใต้ทะเล

4.2      ขอคำแนะนำจากครูที่ปรึกษาโครงงาน

4.3      ประชุมกลุ่มแบ่งหน้าที่การหาข้อมูล

4.4       ประชุมการวางแผนเบื้องต้น

4.5      ลงมือปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้

4.6      รวบรวมข้อมูล

4.7      ประเมินผลการศึกษา

 

 

 

 

 

 

 

5. ขั้นตอนการปฏิบัติ

    ระยะเวลาในการดำเนินงาน

             การดำเนินงานครั้งนี้ใช้ระยะเวลาตั้งแต่วันที่  15 มิถุนายน พ..2560  ถึง   30  มิถุนายน  .. 2560

 

ลำดับที่

กิจกรรม

ระยะเวลาในการดำเนินโครงงาน

สัปดาห์

ที่1

สัปดาห์

ที่2

สัปดาห์

ที่3

สัปดาห์

ที่4

สัปดาห์

ที่5

สัปดาห์

ที่6

สัปดาห์

ที่7

สัปดาห์

ที่8

1

กำหนดชื่อโครงงาน

/

2

กำหนดวัตถุประสงค์โครงงาน

/

3

กำหนดขั้นตอนในการทำโครงงาน

/

4

สืบค้นข้อมูลเพื่อจำทำโครงงาน

/

5

จัดทำโครงงาน

/

6

ลงมือทำโครงงาน

/

7

การเขียนรายงาน

/

8

การนำเสนอและแสดงผลงาน

/

 

6. ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1.ได้ทราบวิธีป้องกันสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใต้ทะเลลดลงหรือสูญพันธุ์

2. ได้ทราบวิธีอนุรักษ์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใต้ทะเล

3. ได้สื่อทางการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใต้ทะเล

 

7. เอกสารอ้างอิง

    https://anocha01.wordpress.com/category

    https://th.wikipedia.org/wiki    

    https://www.dek-d.com/

แสดงความคิดเห็น

>