Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

MWITS โรงเรียนที่เป็นมากกว่าโรงเรียน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีครับ พี่ชื่อพี่อาร์มนะครับ เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์รุ่นที่ 24 ก็ไม่มีอะไรมาก แค่อยากแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ให้น้อง ๆ ได้อ่านกันนะครับบ















.......................................................................................................















          โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ “โรงเรียนวิทยาศาสตร์แห่งแรกของรัฐ” “โรงเรียนที่มีฐานะเป็นองค์การมหาชน” “โรงเรียนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างนักวิจัยให้แก่ประเทศ” “โรงเรียนประจำที่ศาลายา” “โรงเรียนที่นักเรียนหมื่นกว่าคนต้องสมัครสอบเข้า” “โรงเรียนที่นักเรียนจะได้รับทุนเรียนตลอดสามปี”








          สำหรับโรงเรียนแห่งนี้ แน่นอนว่าแต่ละคนก็อาจจะนิยามแตกต่างกันไป และสำหรับพี่ เมื่อสามปีที่แล้ว โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์แห่งนี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับโรงเรียนอื่นมากมายหรอก โรงเรียนแห่งนี้ก็โรงเรียนม.ปลายธรรมดา ๆ นี้แหละ







          ทว่าตลอดสามปีที่ผ่านมา โรงเรียนแห่งนี้กลับทำให้ความคิดของพี่เปลี่ยนไป







          โรงเรียนประจำแห่งนี้ ได้สอนหลายสิ่งหลายอย่างให้กับพี่







          โรงเรียนประจำแห่งนี้ ได้ทำให้พี่รู้จักเพื่อนสนิท ที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ  







          โรงเรียนประจำแห่งนี้ทำให้นิยามคำว่า โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ สำหรับพี่ คือ “โอกาส”







 







โอกาสในการเรียนเพื่อเป็นหัวรถจักรของประเทศ








          โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์มีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งขึ้นเพื่อสร้างนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์โดยการส่งเสริมนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาที่มีความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ ด้วยเหตุนี้หลักสูตรที่โรงเรียนแห่งนี้จึงเข้มข้นมากกว่าโรงเรียนอื่น ๆ







          หลักสูตรที่นี้ เราจะเรียนกันในระดับค่ายโอลิมปิก เน้นการเรียนเพื่อให้เข้าใจมากกว่าการเรียนแบบท่องจำ ผ่านกระบวนการเรียนแบบ Active learning ที่จะเน้นให้น้อง ๆ เกิดทักษะกระบวนการคิดด้วยตนเอง ขณะที่ครูคือผู้ที่กระตุ้นให้เกิดองค์ความรู้เหล่านั้น







          วิชาเรียนที่นี่จะสร้างทักษะการค้นหาความรู้ด้วยตัวเอง ฝึกให้รู้จักวิธีการนำเสนอ และเรียนให้เข้าใจถึงแก่นของวิชานั้นอย่างแท้จริง และยังมีวิชาสายวิทย์ที่เน้นกระบวนการคิดทางวิทยาศาสตร์ อย่างเช่น วิชาการสืบเสาะและธรรมชาติของวิทยาศาสตร์ วิชาความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม หรือจะเป็นการทำโครงงานวิทยาศาสตร์







          ไม่เพียงแต่วิชาสายวิทยาศาสตร์เท่านั้นที่เข้มข้น สำหรับวิชาอื่น ๆ ก็ไม่แพ้กัน เช่น วิชาสังคมศึกษาหรือวิชาศิลปะ ที่เน้นเรียนให้เข้าใจจริง ๆ เรียนถึงแก่นของวิชา ส่วนวิชาด้านภาษา น้อง ๆ ก็จะได้ฝึกเขียนตั้งแต่การเขียนจดหมายบันทึกข้อความไปจนถึงการเขียนบทความเชิงวิชาการ ฝึกพูดทั้งการพูดสุนทรพจน์ พูดโต้วาที ขณะที่ภาษาอังกฤษ จะได้ฝึกการใช้ภาษาอังกฤษอย่างรอบด้าน ฟัง พูด อ่าน เขียน เน้นการใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ฝึกการนำเสนอ เพื่อให้เกิดความกล้าแสดงออกในการใช้ภาษา และที่สำคัญคือ น้อง ๆ จะได้เลือกเรียนภาษาที่ 3 เป็นภาคบังคับอย่างน้อย 1 ภาษา เมื่อขึ้นชั้น ม.5 ซึ่งได้แก่ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเยอรมัน ภาษาฝรั่งเศส







          อีกสิ่งสำคัญที่ทำให้โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์แตกต่างจากโรงเรียนอื่น คือ สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียน อย่างเช่น ห้องสมุดที่จะมีการเปิดในช่วงค่ำ ตั้งแต่ 19.00 น. – 22.00 น. เพื่อให้น้อง ๆ ได้เข้าไปอ่านหนังสือหรือทำงานในห้องสมุด อีกทั้งยังมีบรรยากาศที่ช่วยกระตุ้นการเรียน มีคอมพิวเตอร์ที่พร้อมใช้งานเกือบหกสิบเครื่อง หนังสือที่รวบรวมความรู้ทุกสาระไว้ และความกว้างขวางของห้องสมุดที่กินพื้นที่ถึงสองชั้นของตึก







          นอกจากนี้ ที่นี้ยังมี Wi-Fi ที่ครอบคลุมทั้งโรงเรียนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้น้อง ๆ สามารถค้นคว้าข้อมูลและทำงานได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังได้มีความร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยมหิดลเพื่อให้น้อง ๆ สามารถเข้าใช้ฐานข้อมูลวารสารวิชาการทั่วโลกของทางมหาวิทยาลัยได้โดยไม่เสียเงินอีกด้วย







          ส่วนสำคัญอีกอย่างที่ช่วยพัฒนาในด้านการเรียน คือ สภาพสังคม สังคมที่อุดมไปด้วยคณะอาจารย์ที่มีความสามารถ อาจารย์หลายท่านจบปริญญาเอกด้วยซ้ำ และอาจารย์เองก็คอยให้คำแนะนำด้านการเรียนต่าง ๆ อย่างเป็นกันเอง มีการเปิดคลินิกวิชาการในช่วงค่ำเพื่อสอนให้กับนักเรียนที่ไม่เข้าใจในเนื้อหา ขณะที่เพื่อน ๆ เอง ก็ช่วยเหลือกันด้านการเรียน ช่วยกันติวช่วงใกล้สอบ ไม่แข่งกันเรียน รุ่นพี่จัดกิจกรรมช่วยเหลือรุ่นน้อง ทำให้ที่นี่เปรียบเสมือนเป็นสังคมที่พร้อมสำหรับการเรียนรู้ เพื่อที่จะพัฒนาให้น้อง ๆ ได้เป็นหัวรถจักรของประเทศ หัวรถจักรที่จะนำพาประเทศให้ก้าวหน้าทัดเทียมนานาชาติ







 







โอกาสในการทำกิจกรรมเพื่อเป็นอนาคตของชาติ







          นอกจากการเรียนแล้ว โรงเรียนแห่งนี้ยังมีการพัฒนาน้อง ๆ ให้มีความเพียบพร้อมในทุก ๆ ด้าน ทั้งด้านร่างกายและด้านจิตใจเพื่อสร้างบุคลากรที่ดีของประเทศ ผ่านกิจกรรมที่เรียกว่า กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ซึ่งกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของที่โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ไม่ใช่มีแค่การเข้าชุมนุมต่าง ๆ แต่ยังมีกิจกรรมมากมาย ซึ่งน้อง ๆ จะต้องเข้าร่วมให้ครบตามที่กำหนดตลอด 3 ปีในการใช้ชีวิตที่โรงเรียนแห่งนี้ เช่น







          กิจกรรมศึกษาดูงาน การศึกษาดูงานเปรียบเสมือนการไปทัศนศึกษา ที่จะไปเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ สถานที่ราชการ โรงงานประกอบรถยนต์ กรมแผนที่ทหาร เป็นต้น







          กิจกรรมฟังบรรยายพิเศษ ที่โรงเรียนจะเชิญวิทยากรมาบรรยายในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งวิทยากรที่มีชื่อเสียงและเคยมาบรรยายที่โรงเรียน เช่น Charles Bolden อดีตผู้บริหาร NASA, นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, พญ.พรทิพย์ โรจนสุนันท์, ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์, พิรดา เตชะวิจิตร์ นักบินอวกาศคนแรกของไทย, แม่ขวัญจิต ศรีประจันต์ ศิลปินแห่งชาติ, นิ้วกลม, ศุ บุญเลี้ยง เป็นต้น







          กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ที่น้อง ๆ จะได้โอกาสในการออกไปจัดค่ายบำเพ็ญประโยชน์ให้แก่น้อง ๆ ระดับชั้นประถมในละแวกใกล้เคียง หรือได้เข้าไปดูแลคนชราในบ้านพักคนชรา ซึ่งจะช่วยทำให้น้องรู้จักการทำงานร่วมกับผู้อื่น รู้จักวางแผน อีกทั้งยังทำให้น้องได้รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ อีกด้วย







          นอกจากตัวอย่างของกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่ว่ามาแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีก เช่น กีฬาสี หรือศรีตรังเกม ในช่วงเทอม 1 ที่น้อง ๆ จะได้ทำงาน แสดงละคร เป็นแสตนด์เชียร์ เป็นเชียร์ลีดเดอร์ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมใหญ่ของโรงเรียน หรืองานค่าย PRE-MWITS ที่น้อง ๆ ชั้น ม.4 จะจัดค่ายให้กับน้อง ม.3 ที่สอบผ่านรอบแรกเข้ามาได้ เพื่อเป็นการแนะนำโรงเรียนและยังเป็นการส่งต่อความรู้สึกดี ๆ จากรุ่นพี่ถึงรุ่นน้องอีกด้วย







 







โอกาสในการเป็นวัยรุ่นที่จะมีเพียงครั้งเดียวในชีวิต







          ข้อดีอย่างหนึ่งสำหรับการอยู่หอพักในความคิดของพี่ คือ ทำให้เราสนิทกันมากขึ้น เจอหน้ากันเกือบ 24 ชั่วโมง ขณะที่ในรุ่นก็มีเพียง 240 คน ทั้งโรงเรียนมี 720 คน ทำให้เรารู้จักและสนิทกัน เมื่อมีปัญหาก็ไปปรึกษาเพื่อนได้ อย่างเช่นหากเรียนไม่เก่ง ก็เพียงแค่เดินไปเคาะห้องเพื่อนข้าง ๆ ซึ่งเพื่อนคนนี้อาจจะเป็นระดับผู้แทนประเทศโอลิมปิกเลยก็ได้







          ขณะที่รุ่นพี่รุ่นน้องก็ให้ความช่วยเหลือกัน มีระบบสายรหัสในแต่ละสายห้องที่ส่งต่อสิ่ง ๆ ดี ภายในสายรหัส มีการจัดกิจกรรมให้รุ่นน้องที่พึ่งเข้ามา เช่น ค่ายอุดมการณ์ การรับน้อง ขณะเดียวกันรุ่นน้องตอบแทนในวันนัยความทรงจำ ที่เป็นวันสุดท้ายก่อนจบ เพื่อที่จะส่งต่อความรู้สึกให้กับรุ่นน้องรุ่นต่อ ๆ ไป







          เวลาที่เรามีเรื่องเครียด คุณครูก็จะคอยช่วยเหลือให้คำปรึกษา อย่างเช่น ครูประจำชั้นที่จะอยู่กับเราไปตลอด 3 ปี หรือครูหอพักที่คอยดูแลเราบนหอ ดูแลความเป็นอยู่ ความปลอดภัย ทุกอย่างตลอดช่วงชีวิตที่อยู่ที่หอ















          นี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของสิ่งดี ๆ ที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์แห่งนี้ยังมีอะไรมากมายที่รอน้องเข้าไปสัมผัส มันคือโอกาสที่น้องจะได้รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ รู้จักอาจารย์ โอกาสที่จะได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ กับประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่น และได้รับโอกาสที่จะทำให้ชีวิตของน้องไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป







 







          เมื่อมีโอกาสเราก็ต้องคว้ามันไว้







          แล้วน้อง ๆ หล่ะครับ พร้อมที่จะคว้าโอกาสนั้นแล้วหรือยัง








 







 







 







1 ถึง 31 สิงหาคมนี้ เริ่มต้นคว้าโอกาสไปด้วยกัน






www.mwit.ac.th

แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

เด็กมหิดลศาลายา 10 ก.ค. 60 เวลา 21:28 น. 1

พี่ก็เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนนี้ด้วยครับพี่ขอบอกเลยว่า โรงเรียนนี้มอบอะไรหลายๆอย่างให้พี่ แน่นอน อย่างแรกคือความรู้ ความรู้ที่มากมายขนาดว่า ตอนเรียนพี่ยังบ่นว่า เรียนไปทำไม แต่มันได้ใช้ประโยชน์ครับน้อง อย่างที่สองคือโอกาสครับน้อง ในโรงเรียนนี้มอบโอกาสให้พี่มากมาย จนเรียกได้ว่า ที่พี่เป็นอยู่ทุกวันนี้เพราะมหิดลวิทยานุสรณ์สร้างพี่มา พี่เรียนหมอครับ พี่ยอมรับว่าพี่อาจจะผิดจุดประสงค์ในการสร้างนักวิจัยของโรงเรียน แต่พี่มั้นใจว่า พี่มีอุดมการณ์ในการช่วยเหลือผู้อื่น พัฒนาและตอบแทนสังคมด้วยใจจริงครับ

0
TheGreatManatee 11 ก.ค. 60 เวลา 00:53 น. 2

ถ้าน้องคนไหนติดรอบแรกแนะนำให้ลองไปเข้ากิจกรรม pre-mwit ดู

อย่ากลัวว่าจะไม่ติด ถ้าไปแล้วอยากเข้าแล้วจะเสียใจ ยังไงโรงเรียนเรียกสำรองอีกเป็นร้อยคนครับ แค่ติดรอบแรกก็เหมือนติด mwits แล้ว

กิจกรรมสันทนาการที่พี่ๆเขาจัดก็ส่วนหนึ่ง

แต่ที่สำคัญคือการไปดูกฏระเบียบและชีวิตภายในของเด็กมหิดลจริงๆ

หอเป็นไง ห้องใหญ่แค่ไหน ประตูปิดตอนเช้ากี่โมง เตียงแข็งไหม

แอร์ตัดกลางคืนนอนได้ไหม ในสหกรณ์มีอะไรขายบ้าง อาหารที่มีให้ซื้อเป็นไง

ออกไปนอกโรงเรียนได้ตามโอกาสอะไรบ้าง กีฬามีอะไรบ้าง ห้องเรียนหน้าตายังไง มีfacilityอะไรในโรงเรียนบ้าง ฯลฯ

ทั้งหมดนี้จะช่วยให้เราได้รู้ว่า mwits เป็นที่ๆเหมาะกับเราไหม

0
06143 11 ก.ค. 60 เวลา 09:28 น. 3-2

พี่เป็น mwits รุ่น 21 ค่ะ สมัยพี่ มีน้องหมาค่ะ รวมทั้งน้องแมวใต้ศูนย์กีฬา ที่พอมันออกลูก บรรดาแม่บ้านและรปภ.จะไปขอเลขตามจำนวนลูกมันอ่ะ 555

0