#ซ้อมเชียร์ขาช้ำ สาขาเอกปฐมวัย มรภ.โคคาโคล่า ตบตักจนขาช้ำไม่ได้ก็สมควรตาย!! เสียชื่อสถาบัน!!
สวัสดีค่ะชาวเด็กดีทุกๆท่านในช่วงเดือนกรกฎาคมและจนถึงตุลาคมในมหาลัยก็มักจะมีการซ้อมเชียร์ของมหาวิทยาลัยหรือที่เรียกว่ากีฬาสีของมหาลัยนั่นเองค่ะ แต่ก็มีบางมหาลัยในโคราชที่รุ่นน้องบางคนเข้าห้องซ้อมประชุมเชียร์เพื่อเตรียมกิจกรรมต่างๆแบบต้องเจ็บตัวโดยเกินความจำเป็น และมีคนก็ได้แผลฝกช้ำมาทั้งๆที่เข้ากิจกรรมได้2วันเท่านั้นเองค่ะ
เพจ ANTI SOTUS ได้เผยแพร่ภาพแช็ตจากพี่สาวของนักศึกษาปี 1 มหาวิทยาลัยราชภัฎแห่งหนึ่ง ภาคอีสาน ซึ่งระบุว่า เกิดรอยช้ำเป็นจ้ำใหญ่ที่บริเวณต้นขา เนื่องมาจากการเข้าห้องเชียร์ ซึ่งพบว่า จะมีกิจกรรมการตบตักเชียร์ให้เกิดเสียงดัง จึงนำภาพดังกล่าวมาแชร์ให้สังคมได้รับทราบ
ขอบคุณข้อมูลจากข่าวสดออนไลน์ https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_439495
แผลจากตรงนี้รุ่นพี่ไม่ได้เป็นคนทำนะคะ และที่ต้องทำนี่คือการเข้าระเบียบค่ะ ทุกคนต้องทำ แต่ก็ไม่ทราบค่ะว่ามหาวิทยาลัยมีกฎให้รุ่นน้องต้องเข้ากิจกรรมมั้ยนะ ยังไงก็ตามเมื่อมีเรื่องราวแบบนี้ออกมาแล้วนี่คือสิ่งที่รุ่นพี่ออกมาตอบโต้ค่ะ
รุ่นพี่บอกมาด้วยค่ะว่าการตบตักจนเขียวช้ำแบบนี้ทำให้คนทำงานเป็นและรับกับแรงต้านทานต่างๆได้นั่นเองค่ะ
ถ้ามันทำให้เกิดความอดทน สามัคคคีจริงๆนะคะ ทุกวันนี้ก็ไม่เข้าใจค่ะว่าทำไมที่เป็นข่าวทุกวันนี้คือครูยังมีการลงโทษเด็กแบบวิปริตก็ไม่รู้ค่ะ หรือว่าการด่าทอกันระหว่างครูในองค์กร อย่างเช่น ครูลงโทษให้เพื่อนๆในห้องเรียนรุมตบกบาลเด็กคนๆเดียว หรือว่าฟาดเด็กนักเรียนจนหลังลายเยี่ยงสัตว์ ไม่ก็แอบไปไถหัวนักเรียนที่ทรงผมผิดระเบียบ เอ๊ะ! หรือว่าที่นี่ผลิตครูให้ป่าเถื่อนไว้เวลาเจอกับสิ่งเร้าต่างๆจากนักเรียนจะได้ตอบโต้แบบป่าเถื่อนไม่แพ้กัน??? ถ้าเป็นงั้นจริง
สมแล้วค่ะที่ผลิตแต่แม่พิมพ์ด้อยพัฒนาของชาติ
นี่ไม่ใช่แค่นั้นนะคะ รุ่นพี่ในคณะนั้นเค้าแสดงความเห็นผ่านแชร์สาธารณะมาอีก เท่าที่พอจะจับใจความได้คือ
.
.
.
.
คนที่ไม่เห็นด้วย = พวกลูกคุณหนู/พวกมีความอดทนต่ำ!
อ่านไปๆมาๆทำไมรู้สึกว่าเหมือนพวกรุ่นพี่ด่าตัวเองยังไงก็ไม่รู้นะคะ ทั้งๆที่ตัวเองบอกมาเองว่าผ่านนั่นนี่มาแล้วโดยเฉพาะการฝึกความอดทนจากการเข้าระเบียบ แต่พอมีกระแสแบบนี้ออกมากดดันทำไมกลับรับไม่ได้ออกมาด่าเพจด่านั่นนี่เหมือนกินปูนร้อนท้องอะไรขนาดนั้นคะ?? ถ้ารุ่นพี่ความจำสั้นแบบนี้ลืมสิ่งที่ตัวเองบอกไปก่อนหน้าว่าตัวเองผ่านเรื่องนี้มาแล้วก็ไม่สมควรเป็นครูเช่นกันหรอกค่ะ เพราะทำงานไปก็คงลืมความรู้ ลืมกฎระเบียบที่ตัวเองรับมา สอนเด็กที่ไหนไม่ได้นั่นเองนะ แม้แต่จะสอนรุ่นน้องเองก็ไม่ควรไปสอนหรอก สอนให้ตัวเองไม่ลืมตัวก่อนเถอะค่ะ
นี่ก็ไล่ให้รุ่นน้องที่เห็นต่างไปตายซะนะคะ
หรือไม่ก็ไล่ให้ลาออกไป
สุดท้ายนี้ขอเชิญพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาให้คนในกระทู้ได้อ่านกันนะคะ รวมทั้งให้รุ่นพี่ที่เข้ามาอ่านได้คิดด้วยค่ะว่าทำอะไรที่เข้ากับพระราชดำรัสของพระองค์ท่านมั้ย ในฐานะว่าที่ครูทั้งหลายค่ะ
ถ้ารุ่นพี่คิดว่ารู้ดีที่สุดกับสิ่งที่ทำลงไปและมีหลักฐานที่จะแย้งได้ว่านี่คือสิ่งที่ถูกต้องจริงๆก็สมควรมาแสดงความเห็นโต้แย้งแบบอารยะชนต่อกันค่ะ เพราะมนุษย์เราคือสัตว์ใช้เหตุผลโดยทุนเดิมอยู่แล้ว สำหรับในครั้งนี้ก็หมดโควต้าของกระทู้แล้วต้องลาไปก่อนค่ะ สวัสดีค่ะ
ประชาสัมพันธ์สำหรับคนที่ติดตามแฟนเพจANTI SOTUSนะคะ ตอนนี้ทางเพจมีเว็บแชทdiscordสำหรับคุยกันแบบใกล้ชิดกันมากขึ้นแล้วค่ะ สามารถมาปรึกษาเรื่องปัญหาการรับน้องต่างๆได้ที่นี่เลยค่ะ
>>>>> https://discordapp.com/79mbUCR
ส่วนวิธีการใช้งานนะคะ
>>>>> https://www.facebook.com/pg/AntiSOTUSPage/photos/?tab=album&album_id=1379302508790134
9 ความคิดเห็น
รับน้องเลวร้ายขึ้นทุกวันๆ #นี่หรือปัญญาชน
ลองทำงานมาแล้วมันไม่เห็นจำเป็นต้องทำแบบนี้เลย หรือจะไปนักมวยหรอถึงต้องทำแบบนี้ เรียน มหาลัยกันแล้วคิดได้แค่นี้? สงสารคนที่ตั้งใจมาเรียนจริงๆ จะทำเค้ารักกันถามรึยังว่าเค้าอยากมั้ย?
หัวร้อนแทนเลยครับๆ มี มหาลัยนึงรับน้องรุนแรงน้องๆออกเกือบหมดเหลือแต่พวกคลั่ง sotus จน HR เริ่มแบนล่ะ (HR คือ ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ มีหน้าที่ประมาณคัดสรรบุคคลเข้ามาทำงาน)
สงสารเด็กรุ่นหลังนะคะที่ต้องมาเจอว่าที่ครูบาอาจารย์แบบนี้ในอนาคต
พออ่านชื่อสาขาวิชาแล้ว
สงสารเด็กอนุบาลค่ะ
อดทนเพื่อไปทำงาน อาชีพอะไรคะ? เป็นครูแล้วไปว้ากใส่นักเรียนงี้หรอ เด็กร้องไห้แงๆกลับบ้าน จะไล่เด็กออกเลยไหมคะ
พี่มาเต้นเองสิคะ จะให้น้องเต้นเพื่ออะไรถ้าไม่ได้ดั่งใจตัวเอง หึ
แค่นี้พี่ยังทนรับแรงกดดันจากสังคมไม่ได้เลย โตไปจะทำอะไรกินคะ ?
รุ่นพี่ไม่ใช่คนออกหลักสูตร ไม่ใช่คนมีสิทธิ์ตีความให้คนอื่นว่าอะไรควรหรือไม่ควร อะไรต้องมีหรือไม่ต้องมี
หลักสูตรบอกว่าแค่ไหนก็คือแค่นั้นแหละที่จบแล้วทำงานหรือเรียนต่อได้ เพราะถูกกำกับด้วยกระทรวงศึกษาอยู่แล้ว
เห็นรับน้องแย่ๆทีไรก็มีชื่อต้นสถาบันชื่อนี้ทุกที
แก้ไขห้องแชทdiscordของแฟนเพจANTI SOTUSนะคะ เป็นห้องนี้ค่ะ
https://discordapp.com/invite/79mbUCR
ขอชี้แจงนะคะ คนที่คอมเม้นต์กันคือคนที่ไม่ได้เรียนอยู่ที่นั่น แต่ฟังความมาจากเพจเท่านั้น
เราเรียนอยู่ที่นั่นและคณะที่เป็นข่าว และเราก็รู้อะไรที่มากกว่าที่เพจเอามาลงด้วย
จากที่รู้มาจะเหมือนจะพลิกแต่ก็ไม่เชิง คนที่แชร์ๆ แล้วเพจเอามาลงนั้น เราว่าเขาโกรธเพราะทำคณะเสียหายมากกว่า เลยพูดไปแบบนั้น ทั้งๆ ที่มันไม่ได้เลวร้ายแบบที่เพจลงเลย...
นอกจากนี้คือทางคณะเราไม่ให้มีการว้าก และน้องๆ ก็ทำตาม (แต่ก็อาจจะมีใช้เสียงดังบ้าง)
เราแอบเดินไปดูก็ไม่มีการว้ากจริงๆ การประชุมเชียร์มีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ยังไงนั้น ไม่ขอพูดถึง เพราะมีทั้งคนเห็นประโยชน์และไม่เห็นประโยชน์ พูดไปก็เสียเวลาเปล่าๆ
หลังจากมีข่าวออกไปทางคณะไม่ให้มีการตีขาอีกแล้ว เปลี่ยนเป็นปรบมือแทน
รอยช้ำมันน่ากลัว แต่มันไม่เจ็บหรือปวดอะไรหรือที่เราโดนอะไรกระแทกแล้วช้ำแบบนั้้น มันจะหายไปเอง
แล้วคนที่บอกว่า "เห็นรับน้องแย่ๆทีไรก็มีชื่อต้นสถาบันชื่อนี้ทุกที" มอเรา 98% รับน้องไม่โหดเลย
ว้ากก็แทบจะไม่มีแล้ว เหลือแค่ไม่กี่สาขาแล้ว แต่ก็มีเปื้อนแป้งบ้าง เปียกน้ำบ้าง (น้ำที่ใช้เป็นน้ำสะอาดและก่อนเล่นก็มีการสอบถามน้องก่อนว่าแพ้อะไรหรือไม่ อย่างที่รุ่นพี่มหา'ลัยอื่นๆ ทำกันและจะเปื้อนแค่วันพี่น้องสัมพันธ์เท่านั้น) ส่วนการประชุมเชียร์และกิจกรรมอื่นๆ ของปี 1 ทางมหา'ลัยให้กิจกรรมทั้งหมดเสร็จสิ้นก่อนปิดเทอม เพื่อที่จะไม่ให้รบกวนเวลาเรียนของน้องๆ แต่ก็จะมีอาจจะมีกิจกรรมอื่นๆ เล็กน้อย เช่น กิจกรรมของทางคณะที่น้องๆ สังกัด หรือ การอบรมต่างๆ
คณะเราไม่มีคำว่า "เอาคืน" นะคะ ไม่ใช่ว่าพี่ทำกับเราแบบไหน เราต้องทำแบบนั้น รุ่นพี่สาขาเรายังสอนเลยค่ะ "เราอยากให้รุ่นพี่เราทำกับเราแบบไหน เราก็ทำกับน้องเขานะ ใจเขาใจเรา"
เข้าใจค่ะว่าคนคอมเมนต์ไม่ได้เรียนที่นั่น เป็นคนนอก แต่ว่าคนนอกไม่มีสิทธิ์รู้เรื่องภายในมหาลัยเหรอคะ? แบบนี้แล้วมีมหาลัยไว้ทำไมคะ? ขนาดวัดยังให้ฆาราวาสมาตรวจสอบเรื่องบางเรื่องได้เลย แม้แต่โรงเรียนยังมีคนนอกมาตรวจสอบดูความเรียบร้อยต่างๆเลยนะคะ ส่วนที่คุณบอกว่าคุณรู้อะไรมากกว่านั้นคุณก็ควรแสดงหลักฐานที่ทำให้คนเชื่อในสิ่งที่คุณเล่ามาค่ะ ส่วนตัว จขกท. เองมีหลักฐานของศิษ์เก่าที่จบไปเค้าบอกมานะคะว่ากิจกรรมมันเป็นยังไง ดูแย่ในสายตาของเค้าแค่ไหน ถึงพวกคุณไม่ใช้ความรุนแรงทางร่างกายแต่คุณทำร้ายจิตใจทำร้ายความรู้สึกของรุ่นน้องที่เค้าไม่ยอมเข้ากิจกรรมไม่ยอมรับกับระบบรึเปล่าก็ไม่ทราบได้นะคะเพราะคุณก็ไม่ได้บอกมานี่นา นี่เราเพิ่งรู้นะคะว่าบุคคลากร คณาจารย์ของที่นี่แลดูจะวัวหายล้อมคอกมากค่ะเพราะว่า ต้องให้เป็นข่าวดังๆไปก่อนถึงจะมาตรวจสอบดูแล นี่ถ้ารุ่นน้องโดนข่มขืนคาประชุมเชียร์แล้วข่าวไม่ดังก็คงปิดข่าวรัวๆละมั้งคะคุณ
ไม่ได้มีคำพูดหรือข้อความไหนที่เราสื่อว่าคนนอกไม่มีสิทธิ์รู้เรื่องภายในมหา'ลัยเลยนะคะ สิ่งที่เราอยากจะสื่อ คือ คนนอกนั้นอาจจะรู้เรื่อง จากข่าวที่ออกมา แต่นั่นอาจจะไม่จริงทั้งหมด กลุ่มคนที่เราหมายถึง คือกลุ่มคนที่กล่าวหาว่ารับน้องโหด บีบบังคับให้ทำ เราถึงได้มาชี้แจงไงคะ ส่วนศิษย์เก่านั่นอีกส่วนค่ะ แต่ทำไมถึงเอามารวมเป็นประเด็นเดียวกันล่ะคะ? ส่วนตัวก็ทราบค่ะ เพราะรุ่นพี่หลายๆ คนที่รู้จักก็เรียนที่นี่และก็ผ่านประสบการณ์ซ้อมเชียร์มาเล่าให้ฟัง เพราะก่อนหน้านี้มีการประชุมเชียร์ที่ใช้คำว่าเอาเป็นเอาตายได้เลย เนื่องจากมีการประกวดแข่งขันเชียร์หลีดเดอร์และกองเชียร์ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว รวมถึงการซ้อมเชียร์นอกสถานที่ด้วย ไม่มี 100% ปี 1 ปี 57 เรียกได้ว่าเป็นปีสุดท้ายเลยมั้งที่ซ้อมเชียร์โหด เรื่องหลักฐานอะไรไม่ขอเอามานำเสนอ เพราะเราไม่ได้มีการขออนุญาตจากคนที่มาชี้แจงให้ฟัง เราไม่อยากให้เขาเดือดร้อน นอกจากนี้เรื่องมันก็จบไปแล้ว ไม่อยากเอามาประเด็นเถียงกันอีก เราไม่ได้ฟังความจากเขาแล้วเชื่อนะคะ เราก็มีการแอบไปดูรุ่นน้องซ้อมเหมือนกัน เรื่องการบังคับให้เข้ากิจกรรมก็ไม่มีค่ะ ถ้าไม่สะดวกเข้าสามารถลาได้ โดยการทำจดหมายชี้แจงการขาดกิจกรรมไปทางคณะ หรือแจ้งรุ่นพี่ รุ่นพี่ก็จะบันทึกไว้และแจ้งไปทางคณะให้ ซึ่งวันนี้รุ่นน้องที่รู้จักก็ลาได้ ไม่มีปัญหาอะไร แค่ขอให้แจ้งค่ะ แล้วที่บอกว่าบุคคลากรเพิ่งมาแก้ปัญหาเนื่องจากข่าวดังอันนี้ในส่วนของหน้าขาช้ำนั้นจริง เพราะเพิ่งมาเปลี่ยนเป็นการปรบมือ แต่ในส่วนของประเด็นอื่นๆ นั้น ไม่จริง เพราะทางมหาวิทยาลัยมีการมอบหมายให้ องค์การนักศึกษาและสโมสรนักศึกษาตรวจสอบทุกวัน ทั้งเรื่องการแต่งกาย การใช้ความรุนแรง การว้าก การดูแลน้อง หากมีเรื่องพวกนี้จะมีการบันทึกและส่งไปทางคณะ ซึ่งถ้ามีอันตรายกับรุ่นน้อง คณะและมหาวิทยาลัยสามารถให้ทัณฑ์บนรุ่นพี่ได้ และนอกจากนี้การประชุมเชียร์ของแต่สาขาวิชาจะมีการบันทึกเช่นกันว่าวันนั้นๆ มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งก็โกหกไม่ได้อยู่ดี เพราะสโมสรนักศึกษาก็ส่งคนมาดูแลแต่ละโปรแกรมอยู่แล้ว รุ่นเราก็ช้ำแต่ก็ถามรุ่นพี่ว่ามันจะเจ็บไหม มันจะรุนแรงไหม พี่ก็บอกว่าไม่เป็นไร มันจะช้ำเดี๋ยวมันก็หาย เวลาตีให้ทำมือแบบนี้นะ มันจะไม่ช้ำไปมากกว่านี้ต่างๆ นาๆ คือรุ่นพี่เขาก็แนะนำดี ถ้าคุณได้มาเห็นบรรยากาศจริงๆ ไม่มีคำว่า violence เลยค่ะในคณะเรา ไม่ว้าก หลังกิจกรรมซ้อมเชียร์ก็มีการพูดคุยกับน้อง สันทนาการ แล้วก็ปล่อยน้องกลับบ้านตามเวลาที่มหาวิทยาลัยกำหนด อยากทราบเรื่องอะไรเกี่ยวกับคณะเราสามารถสอบถามได้เลยค่ะ ไม่เข้าข้างแน่นอน ถ้ามีการรับน้องที่รุนแรงอย่างมรภ. มหาสารคาม (ขออนุญาตพาดพิงถึง) ที่เป็นข่าวแบบนั้นจริงเราก็ต่อต้านค่ะ แต่คณะเราไม่มีแบบนั้นไงคะ เมื่อก่อนนั้นมี แต่ทางมหา'ลัยก็แก้ไขกันมาเรื่อยๆ จนตอนนี้มันไม่เป็นแบบนั้นแล้ว เราถึงต้องมีชี้แจงไงคะ
ขอโทษทีค่ะที่มาตอบช้า อยากจะเชื่อที่คุณบอกมานะคะ แต่ว่าเอาตามตรงเลยนะทุกวันนี้เด็กในคณะคุณยังไม่มีทางเลือกในการให้เข้ากิจกรรมอย่างอิสระเลยค่ะ คุณไม่ได้บอกเลยว่าเฟรชชี่มีสิทธิ์เลือกที่จะไม่เข้าได้มั้ยแสดงว่านี่คือการบังคับรึเปล่าคะ? มากไปกว่านั้นคือในมหาลัยคุณยังมีการบังคับให้เด็กทำงานระหว่างเรียนมาเข้ากิจกรรมซ้ำซากอีก เรื่องฉาวแบบนี้คุณยังจะบอกว่ามหาลัยมีการตรวจสอบอีกเหรอคะ? นี่ยังไม่นับถึงการรับน้องรหัสอีกนะคะ รวมทั้งการแอบอ้างกิจกรรมเข้าค่ายธรรมะที่ต้องเข้าให้ผ่าน ไม่ผ่านจะเรียนไม่จบอีก หลังลงกระทู้นี้ไปมีคนมาหลังไมค์ระบายความในใจกับ จขกท. ถึงเรื่องราวในสถาบันนี้เพียบค่ะ
ไม่เป็นไรค่ะ ^^ เราไม่ทราบของคณะหรือโปรแกรมอื่นนะคะว่าเป็นยังไงนะ แต่ก็มีน้องๆ ปี 1 หลายคนของโปรแกรมเราไม่เข้าประชุมเชียร์นะ จริงๆ นอกจากการประชุมเชียร์แล้วมันมีกิจกรรมเพียงแค่ 4-5 กิจกรรมเท่านั้นที่เป็นการอบรบให้ความรู้และวันสำคัญต่างๆ เราว่ามันไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงเลยนะคะ ไม่ได้เป็นการทำร้ายด้วย ไม่รู้สิอาจจะเป็นที่หลายๆ คนเลือกมองก็ได้ค่ะ เอาเป็นว่าอิสระในการเข้ากิจกรรมของมหา'ลัยเรายังไม่เต็ม 100% ค่ะ เพราะมีกิจกรรมที่บังคับเข้าอยู่ เช่น พิธีอัญเชิญตราพระราชลัญจกร, การอบรบต่างๆ ที่กล่าวไปข้างต้น, ตักบาตรวันพุธ (ไม่ได้ตักทุกสัปดาห์นะคะ แต่ละคณะและโปรแกรมวิชาจะมีตารางวันของตัวเอง 1 เทอมอาจจะได้ตัก 1 - 2 ครั้งเท่านั้น), วันแม่ (บางคณะให้เข้าแค่ครึ่งเดียวเพราะมีเยอะ แต่ครุศาสตร์มีน้อยค่ะ อาจจะต้องเข้าทั้งหมด 18-19 โปรแกรม แต่ละมีนศ.โปรแกรมละไม่เกิน 30 คน) ทำงานระหว่างเรียนไม่ใช่ทุกคนนะคะ ทำงานระหว่างเรียนนั่นน่าจะเป็นนักศึกษากู้ยืม กยศ./กรอ. ค่ะ เพราะมีการเก็บชั่วโมงกิจกรรม/จิตอาสา อาจจะเป็นการไปออกค่าย ทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ เข้ากิจกรรมของมหา'ลัย บางกิจกรรมจะมีชั่วโมงให้ค่ะ (อันนี้เพื่อนเราทำนะคะ เราไม่แน่ใจว่าคนอื่นๆ ทำยังไง เราก็ได้มานะชั่วโมงกิจกรรม แต่เราก็ให้เพื่อนไปเพราะไมไ่ด้ใช้) หรืออีกอย่างอาจจะเป็นโครงการราชภัฏเสริมโอกาสค่ะ ที่ให้เด็กๆ ที่สนใจตอนว่างเว้นจากการเรียนมาทำงานที่มหา'ลัย ก็ได้ค่าตอบแทนเป็นเงินไป (แต่ก็ไม่ได้มากมายนะคะ อาจจะประมาณเดือนละ 2,000 กว่าบาท) การรับน้องรหัสน่าจะเป็นเรื่องที่ตัวบุคคลค่ะ เพราะเราก็ไม่ได้ให้น้องทำอะไรน่าอายนะ ก็แค่มารายงานตัวบอกชื่อจริงชื่อเล่น ทำความรู้จักเฉยๆ ค่ะ เราก็ไม่รู้ว่านี่คือร้ายแรงหรือเปล่า 555555 ส่วนเรื่องค่ายธรรมะไม่ทราบจริงๆ ค่ะ เพราะไม่เคยเข้าแต่ก็ผ่านมาได้จนถึงทุกวันนี้ พี่ๆ หลายคนก็ไม่เคยเข้าเหมือนกันแต่ก็จบกันนะคะ น่าจะเป็นกิจกรรมของชมรมหรือโปรแกรมมั้งคะ อันนี้เราไม่ทราบจริงๆ จะตามสืบให้ก็คงไม่ได้ ลองถามคนที่มาเล่านะคะ ไม่ทราบรายละเอียดค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?