บทละคร หรือบทนิยายแนวเสนอเรื่องจริงในสังคมใดบ้างครับ ที่แต่ละคนเห็นว่าควรปรับเปลี่ยนเรื่องได้แล้ว
ตั้งกระทู้ใหม่
1.การนำเสนอเกี่ยวกับเพศที่สาม
คือแทบทุกเรื่อง มักจะให้กะเทยเป็นตัวตลก หื่น ทำงานในวงการบันเทิงไม่ก็สถานอโคจร เกย์ ไม่ว่าจะตัวเล็กหุ่นแมนๆ หรือตัวเล็กๆ บทก็จะคล้ายๆกัน คือหื่น ชอบลักลอบมีอะไรกับเด็กในกรณีที่เป็นคนมีฐานะ หรือแอบชอบผู้ชายด้วยกันในเรื่อง แล้วมักจะไม่สมหวังเสียทุกครั้ง
คือเข้าใจนะครับ ว่าเพศที่สามที่เป็นแบบนี้ในสังคมมีจริง แต่แทบทุกเรื่องกลับน้ำเสนอเสียแต่แบบนี้กันแทบทุกเรื่องราวกับเวลาเขียนบทก็ลอกกันมา ทั้งที่ในความเป็นจริง กะเทยที่ทำงานด้านอื่น เช่น หมอ พยาบาล จิตแพทย์ หรืออาชีพอื่นที่นอกเหนือจากการบันเทิง แฟชั่นและด้านอโคจรแล้วทำออกมาได้ดีก็มี เกย์ที่รู้จักวางตัวหักห้ามไม้ให้ทำเรื่องที่ไม่สมควรแม้ว่าฝั่งตรงข้ามจะเป็นผู้ชายที่หล่อน่ารักมากๆก็มี และเกย์ที่สมหวังกับผู้ชายด้วยกันก็มีเยอะ
2.การนำเสนอเกี่ยวกับผู้ป่วยทางจิต
หลายๆเรื่องมักจะชอบใช้วิธีเขียนให้ผู้ป่วยทางจิต ไม่ว่าจะตัวร้ายที่เป็นบ้าเพราะวันๆเอาแต่หาทางเอาชนะนางเอก หรือตัวประกอบต่างๆที่เคยเป็นเหยื่อของตัวร้าย ก็ชอบส่งไปวัดเสียส่วนมาก จบเรื่องคือกลายเป็นพระ เป็นแม่ชีมาเทศนา จบอย่างแฮปปี้ ที่พาไปโรงพยาบาลบ้าก็น้อยมาก เท่าที่มี ก็ชอบสร้างบรรยากาศให้โรงพยาบาลบ้าดูน่าหดหู่และน่ากลัวพาลไม่ให้ทางบ้านที่มีคนในครอบครัวที่มีอาการทางจิตไม่กล้าพาสมาชิกไปรักษา
ซึ่งแนวนี้นอกจากจะซ้ำแล้ว ยังทำให้เกิดความเข้าใจผิด คิดว่าวัดจะเยียวยาทุกสิ่งได้ ทั้งที่ความเป็นจริงควรจะพามาหลังการรักษาโดยแพทย์ไปแล้ว(บางเรื่องก็ดีมากๆ คือพาหาหมอ รักษาดีแล้วพามาหาพระ แต่หลายๆเรื่องคือพามาหาพระเลย ไม่แม้จะเฉียดผ่านหมอ) เพราะอาการทางจิตบางอย่าง เช่น โรคซึมเศร้า ไบโพล่า จะเกิดจากสารเคมีในสมองไม่สมดุล หาใช่ที่การทำใจได้/ไม่ได้ หรือปลงได้/ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
3.การนำเสนอเกี่ยวกับคนหน้าโหด/หน้าดุ
ส่วนมากชอบนำเสนอว่าคนหน้าดุ หน้าโหดๆบุคลิกดุๆจะต้องเป็นคนปากร้าย ชอบพูดจาขวานผ่าซาก พูดจาแรงๆเสียแทบทุกเรื่อง
4.การนำเสนอเกี่ยวกับคนรวย
ส่วนใหญ่ชอบนำเสนอว่าคนที่ฐานะร่ำรวย(ยกเว้นตัวเอก) ไม่ว่าจะญาติ พ่อแม่ หรือพี่น้อง จะต้องเป็นคนเลวออกแนวปากปราศรัยใจเชือดคอหรือมือถือสากปากถือศีล ทำดีเพราะแค่รักษาหน้าตา เห็นแก่ได้คนอื่นจะเป็นยังไงก็ช่าง โดยเฉพาะผู้หญิงที่ร่ำรวยแล้วชอบแต่งตัวหรูหรา ใส่เครื่องประดับแบบไฟกระพริบ แต่งหน้าจัดๆจะโดนบทนี้บ่อย เช่น บทคุณนายบ้าอำนาจ บทเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบสุดโหด บทเจ้าที่จอมขูดรีดคนจน ถ้าเป็นผู้ชายก็เป็นพวกเจ้าชู้หลายใจ อยากได้อะไรก็ต้องได้ แต่เรื่องที่นำเสนอคนรวยที่จิตใจดีนั้นกลับมีน้อยมากจนน่าใจหาย
5.การนำเสนอเกี่ยวกับคนจน
มักจะนำเสนอให้น่าสงสารและแสนดีแบบสุดขั้ว กรณีคนที่บ้านอยู่ริมสลัมที่รุกล้ำพื้นที่ หรือขายของบนฟุตบาท ซึ่งชีวิตจริงถือว่าผิดกฏหมาย แล้วหลวงจะยึด-จัดระเบียบ ก็ออกมาประท้วง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือนางเอกด้วย พระเอกตอนแรกทำงานให้หลวง แต่สงสารนางเอก จบเรื่องหลวงยอมแพ้แล้วปล่อยให้มีสลัมที่รุกล้ำพื้นที่ต่อไป(บางเรื่องพระเอกลาออกจากการทำงานให้หลวงมาเป็นพ่อค้าแผงลอยคู่กับนางเอก) กลายเป็นว่าการรุกล้ำพื้นที่ หรือการขายของในที่ห้ามขายกลายเป็นเรื่องที่ถูกต้อง คนที่มาจัดระเบียบกลายเป็นคนเลวเต็มประตู
6.การนำเสนอเกี่ยวกับคนที่ถูกเลี้ยงดูอย่างรุนแรง และคนที่ถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจ
ในกรณีคนที่ถูกเลี้ยงดูอย่างรุนแรง เช่น พ่อแม่ทะเลาะกันต่อหน้าบ่อยๆ โดนผู้ปกครองทำร้ายร่างกายหรือทารุณกรรม จะถูกสร้างให้มีจิตเมตตา ขี้สงสาร รักทุกคน ตอนจบได้เป็นเจ้าคนนายคน ได้ดูแลผู้ปกครองที่ทำร้ายตัวเองมาตั้งแต่เด็กๆ ตรงข้ามกับคนที่ถูกเลี้ยงดูมาแบบตามใจ ที่มักจะถูกสร้างให้เป็นคนเลว อยากได้อะไรก็ต้องได้ ร้ายทุกอย่างแบบไม่มีที่มาที่ไป หรือถึงมีก็ไม่ Make Sent เหตุผลอ่อนมากๆ ถึงขั้นทำร้ายผู้มีพระคุณไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจก็มีมาแล้ว ตอนจบไม่โดนฆ่าตายก็เป็นบ้าแล้วเข้า รพ.ศรีธัญญา ซึ่งบรรยากาศโคตรน่ากลัว
ซึ่งความเห็นส่วนตัวกับกรณีข้อ6 นี้ อาจจะ Make Sent ในส่วนของคนที่ถูกเลี้ยงดูตามใจในส่วนที่เป็นพวกอยากได้อะไรก็ต้องได้ แต่ส่วนใหญ่ เรื่องมักจะใส่ให้ร้ายแบบสุดๆผิดมนุษย์ไปเลย ทั้งๆที่ในความเป็นจริง คนกลุ่มนี้ยังพอจะมีพื้นฐานของความรักอยู่บ้างเพราะจากการที่ตนได้รับความรักแบบมากล้นสมัยเด็กๆ แต่กับกลุ่มคนที่ถูกทารุณกรรมแล้วสร้างภาพให้เป็นคนดีดุจนางฟ้าเทวดา แถมบางเรื่องคือไม่ใช่แบบดวงใจพิสุทธิ์ที่มีคนมาช่วยจากผู้ใหญ่ใจร้ายนะ อยู่แบบนั้นมาตั้งแต่เด็กยันโตเลย ทั้งที่ในความเป็นจริง คนที่ถูกทารุณกรรมแล้วไม่มีที่พึ่งแล้วจะเป็นคนดีแบบนี้ได้นั้นมีไม่ถึง 1% เสียด้วยซ้ำ ประกอบกับการขาดความรักมาตั้งแต่เด็ก การถูกทารุณกรรม ก็จะทำให้เด็กไม่รู้ถึงความรัก และมีโอกาสที่จะเป็นฆาตกรโรคจิตหากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันเวลาแบบปุ๊กกี้เรื่องดวงใจพิสุทธิ์(เรื่องนี้ขนาดปุ๊กกี้โดนไม่นานยังอาการร่อแร่แทบจะไม่รอด ถ้าโดนนานกว่านี้ไม่กล้าคิดต่อเลยจริงๆ)
7.การนำเสนอเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเพศ
ในส่วนของการข่มขืนแล้วรัก อาจจะหายๆไปเยอะแล้วจากกระแสต่อต้านการข่มขืน แต่จะเป็นมากในนิยายตามเว็ป ไม่ว่าจะนิยายแนวชายหญิงหรือแนววาย
โดยเหยื่อข่มขืน หากถูกคนที่ไม่หล่อ หน้าตาไม่ดีกระทำก็จะแจ้งความ เห็นความสำคัญของกฏหมายขึ้นมาทันที หากแต่คนที่ข่มขืนเป็นคนหล่อ ก็จะทำราวกฏหมายหรือตำรวจไม่มีตัวตน แล้วก็รักกับคนที่ข่มขืน ภาคเสริมมีกรณีตัวประกอบโดนข่มขืนโดยตนของพระเอก นางเอก/นายเอกที่ได้เป็นนายหญิงสั่งการให้รับผิดชอบโดยการแต่งงาน
2 ความคิดเห็น
ความไม่ยุติธรรมของคนดูบางกลุ่มที่เข้าข้างและอวยนางเอกมากเกินไป
แต่กลับซ้ำเติมนางร้ายที่พยายามจะทวงพระเอกกลับคืนมาและสาปแช่งให้นางร้ายตายตั้งแต่ตอนแรกๆ
นางร้ายที่เป็นแฟน/คู่หมั้น/ภรรยาของพระเอกและเป็นคนดีมาตั้งแต่แรกต้องกลายเป็นคนเลวทันที
เพราะนางเอกเข้ามาแย่งชิงพระเอกไป
ผู้หญิงที่ปากบอกว่าตัวเองเป็นคนดีมีศีลธรรม เป็นคนธรรมะธัมโม ไม่เคยทำผิดศีลธรรม
โดยเฉพาะการไปแย่งชิงผู้ชายที่มีแฟนแล้ว ทั้งๆที่รู้ว่าพวกเขาทั้งสองยังไม่ได้เลิกรากันเลย
แต่กลับไปแย่งพระเอกมาจากนางร้าย = นางเอกผู้แสนดี
ผู้หญิงบางคนที่ชอบทำตัวเป็นนางเอกผู้แสนดีและชอบทำตัวเรียบร้อยหน้าตาแอ๊บแบ๊วใสซื่อ
ที่บอกว่าตัวเองเป็นคนดีไม่เคยทำสิ่งเลวๆนี่ตัวดีเลยค่ะ
ต่อหน้าคนอื่นบอกว่าตัวเองเป็นคนดี แต่ลับหลังเลวได้โล่ เห็นนางเงียบๆฟาดเรียบนะคะ
ผู้หญิงที่มาทีหลังและเสียบเป็นมือที่สามไม่ได้เป็นคนดีและไม่ได้เป็นนางเอกเสมอไปนะคะ
นางเอกที่มาทีหลังและแย่งชิงพระเอกมาจากนางร้ายมาเป็นของตัวเอง คือ นางร้ายดีๆนี่เอง
ผู้หญิงที่แสนดีเรียบร้อยคนหนึ่งต้องกลายเป็นนางมารร้าย
เพราะถูกนางเอกที่มาจากไหนก็ไม่รู้และไม่มีหัวนอนปลายเท้าเข้ามาแย่งพระเอกไป
และครองรักกันในตอนจบ ส่วนางร้ายที่พยายามจะทวงความยุติธรรมกลับคืนมา
แต่กลับมีจุดจบวนเวียนไปมาซ้ำซาก คือ ตาย เป็นบ้า หน้าตาเสียโฉม ติดคุก = นางร้าย
ผู้หญิงแสนดีจากที่เคยเป็นที่หนึ่งมาตลอดต้องเลื่อนสถานะมาเป็นเมียหลวงและกลายเป็นนางร้าย
ส่วนผู้หญิงแอ๊บแบ๊วหน้าตาใสซื่อที่เข้ามาทีหลังเป็นเมียน้อยจะกลายเป็นนางเอกโดยอัตโนมัติ
สมมุติว่าถ้าเรามีแฟนและเจอผู้หญิงที่มีนิสัยเหมือนนางเอกมาแย่งแฟนไปต่อหน้าต่อตา
เราจะกลายร่างจากนางเอกผู้แสนดีมาเป็นนางมารร้ายเหมือนกับนางร้ายเหล่านี้เหมือนกันค่ะ
แต่เราไม่ได้อยู่ในสถานะแบบนี้นะ แต่เจอสถานการณ์แบบนี้ในครอบครัว
พี่สะใภ้คนโตที่เราโดนที่บ้านบังคับให้ยกมือไหว้เคารพตั้งแต่เด็กคนโตไม่ใช่พี่สะใภ้คนโตตัวจริงค่ะ
แต่เป็นเมียน้อยที่เข้ามาแย่งพี่ชายคนโตไปจากพี่สะใภ้คนโตตัวจริง
พี่สะใภ้คนโตตัวจริงเป็นเมียหลวงและเป็นเมียแต่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย
หนีออกจากบ้านหายสาบสูญไป 24 ปีแล้วโดยทิ้งลูกสาวสองคนเอาไว้
ไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว ทุกคนในครอบครัวเชื่อว่าตายไปแล้ว
แต่เราเป็นคนเดียวที่เชื่อว่าพี่สะใภ้คนนี้ยังไม่ตาย
คงจะไปแต่งงานใหม่กับผู้ชายคนอื่นและมีลูกด้วยกันหรือไม่ก็เปลี่ยนชื่อ-นามสกุลไม่ให้ใครจำได้
อันนี้เห็นด้วยอย่างมาก
จริงค่ะ สมัยนี้มีกฏหมาย แต่ความจริงของสภาพสังคมก็ไม่เปลี่ยนไป
การข่มขืนแจ้งความได้ อีกทั้งเป็นอาญา
ถ้าเราจะเขียนบทข่มขืน แล้วเราจะแต่งให้เล่นซัดประเด็นด้านกฏหมายยั้งๆ แบบสุดๆ เอาเป็นว่าธีมหลักของเรื่องคือศาล แย้งประเด็นไปมา จนกระทั่ง ตัวร้ายที่ข่มขืนหรือพระเอกหุบปากไปข้างนึง นี่แหละผู้หญิงยุคใหม่ไฟแรง
อย่างเรื่อง "ดวงใจพิสุทธิ์" ปกติไม่ค่อยดูละครไทย แต่ที่บ้านน้องสาวเปิดไว้เลยเข้าไปดูฉากนึงที่คุยกันในศาล เลยทำให้รู้ว่านี่แหละ ละครที่เราต้องการ
แต่ประเด็นคือเรื่องของเรื่องจบเร็ว นอกจากว่าคนอ่านจะเอาไปสร้างปมต่อ อีกทั้งรสนิยมคนอ่านที่ชอบเรื่องแนวพระเอกข่มขืนนางเอกมาก มากจริงๆนะ
อีกอันนึงค่ะคือ เรื่องเอาพระ-นาง มาแค้นกันเพราะคิดว่าฆ่าคนนั้นคนนี้ เอ่อ...ไม่ make sense เลยจ้า คือหลักฐานก็ไม่มีครบ มันสือถึงระดับสติปัญญานะ ถึงจะรู้ว่าเขาทำแล้วมาคิดแก้แค้นมันส่อจริงๆ ยิ่งสร้างให้กลายเป็นคนไม่มีเหตุผลเลย แล้วพระเอกเอานางเอกมาใช้เป็นทาส ใช้เป็นสนองอารมณ์ตัวเอง ทำร้ายตบตี พอตอนจบดีกันเฉย แถมไม่มีแจ้งความหรือไง!!! ปวดหัว ช็อตนี้ก.ตายหว่ะ//ทำเสียงลูกเกด
คือ เอิ่มไม่รู้จะยังไงนะ แต่เลิกดูไปนานแล้ว เห้อออ
ระบายยยยย (โรคจิตส่วนตัว)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?