รีวิว การเรียนในมหาวิทยาลัย APU ณ ญี่ปุ่น (part 1)
สวัสดีค่าเพื่อนๆชาวเด็กดี หลังจากที่เมื่อวานเราได้ลงรีวิวเกี่ยวกับอพาร์ทเม้นท์ในญี่ปุ่นของเราไป วันนี้เลยอยากจะมาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการมาเรียนที่ญี่ปุ่น โดยจะแนะนำมหาวิทยาลัย พูดถึงทุน เล่าเรื่องประสบการณ์การเรียนและชีวิตใน APU ค่ะ เรากำลังเรียนอยู่ English base คณะ APS ปีสองกำลังจะขึ้นเทอมสองค่ะ ได้ทุน 80%
มหาวิทยาลัย Ritsumeikan Asia Pacific University หรือ APU ตั้งอยู่บนเขาในเมืองเบปปุ จังหวัดโออิตะในทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนนานาชาติที่มีนักศึกษาต่างชาติกับนักศึกษาญี่ปุ่นครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว จัดการเรียนการสอนทั้งภาษาอังกฤษ(English base)และญี่ปุ่น(Japanese base) โดยเปิดสอนสองคณะ คือ
College of International Management (APM)
แบ่งเป็น4สาขา ได้แก่
Accounting and Finance
Marketing
Strategic Management and Organization
Innovation and Economics
College of Asia Pacific Studies (APS)
แบ่งเป็น4สาขา ได้แก่
Environment and Development
Hospitality and Tourism
International Relations and Peace Studies
Culture, Society and Media
มหาวิทยาลัย APU แจกทุนค่าเล่าเรียนให้เปล่ากับนักศึกษาต่างชาติในทุกๆปี ตั้งแต่ 30%, 50%, 65%, 80% และ 100%
โดยจะไม่มีการสอบข้อเขียน (วิธีการสมัครจะขอเขียนคร่าวๆนะคะ เพราะเว็ปเด็กดีลงไว้ทุกปีเลย)
1)ยื่นคะแนนภาษา (เรายื่นไป 2 อย่างคือ IELTS 6.5/ TOEIC 820 )
ถ้าอยากจะเรียน English Base ให้ยื่น
ภาษาอังกฤษ TOEIC 700 คะแนนขึ้นไป หรือ TOEFL iBT ุ61 คะแนนขึ้นไป หรือ IELTS 5.5 คะแนนขึ้นไป
ถ้าอยากจะเรียน Japanese Base ให้ยื่น
ภาษาญี่ปุ่น JLPT N1 90 คะแนน หรือ JLPT N2 100 คะแนน หรือ EJU (Japanese) 220 คะแนน
2)เขียน essay สมัครมหาวิทยาลัยและ essay ขอทุน
3)กรอกใบสมัคร
4)ถ้าหากผ่านรอบแรกก็จะมีคณะกรรมการมาทำการสอสัมภาษณ์ที่กรุงเทพฯ
รายละเอียดสิ่งที่ต้องใช้ + ใบสมัครสามารถดาวน์โหลดได้ตามเว็ปนี้เลยค่า
https://admissions.apu.ac.jp/
มหาวิทยาลัยAPUเปิดรับนักศึกษาใหม่ปีละ 2 รอบ คือ
เทอม Spring จะเริ่มในต้นเดือนเมษายนและจบต้นเดือนสิงหาคม
เทอม Fall จะเริ่มในต้นเดือนตุลาคมและจบต้นเดือนต้นกุมภาพันธ์
ในปีแรกจะยังไม่มีการเลือกสาขา (Major) จะเริ่มเลือกได้ตอนปีสองเป็นต้นไป หรือจะไม่เลือกก็ได้ค่ะตอนจบก็เขียนว่าจบคณะ Social Science ไม่พ่วงท้ายชื่อสาขา เพราะนอกจากวิชาบังคับในปีหนึ่งแล้วหลังจากนั้นวิชาทั้งหมดที่จะเรียนต้องเลือกและลงเองทั้งหมด โดยจะกำหนดหน่วยกิตที่ต้องเก็บเพื่อที่จะเรียนจบมาให้ (ใครอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมของหน่วยกิตที่ต้องเก็บติดตามได้ในกระทู้ต่อๆไปนะคะ)
สิ่งที่แตกต่างจากมหาวิทยาลัยในไทยอีกอย่างหนึ่งก็คือ ที่นี่จะแบ่งแต่ละเทอมออกเป็น ควอเตอร์ (Quarter) ซึ่งจะใช้กับบางวิชาจะเรียน วิชาบางวิชาจะเรียนว่า วิชาควอเตอร์ คือ เรียนจบสอบไฟนอลภายใน1ควอเตอร์ (ฉะนั้น 1 เทอมอาจจะต้องสอบไฟนอล 2 ครั้ง ) หลังจากจบควอเตอร์แล้วก็จะมีวันหยุด (Quarter break) ประมาณ 3-7วัน ขึ้นอยู่กับวิชาที่เลือกลงมาจะสอบเสร็จช่วงไหน ข้อดีของการเรียนแบบนี้คือ ถ้าลงวิชาเต็มๆในควอเตอร์แรก ควอเตอร์หลังก็จะว่างมากถึงมากที่สุดค่ะ! ข้อเสียคือถ้าไม่บาลานซ์เวลาลงเรียนดีๆอาจจะหืดขึ้นคอได้
เดี๋ยวกระทู้หน้าจะมาต่อเรื่อง วิชาบังคับ วิชาที่ต้องลงในเทอม 1 พร้อมเล่าเรื่องที่เราเจอช่วงปีแรกค่า
ตอนนี้กำลังทยอยเขียน/ลงรีวิววิชาเรียนใน note ของเพจ อาจจะช้าหน่อยเพราะเราไม่มีแป้นพิมพ์ไทยค่า นี่พิมพ์สัมพัสล้วนๆเลย 5555
ใครสนใจเพิ่มเติมติดตามได้ที่เพจนะคะ
https://www.facebook.com/rainydiaryinjapan/
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
‘6 รีวิวห้อง(อพาร์ทเม้นท์)ในญี่ปุ่น (นักศึกษา)’ ตามลิ้งค์นี้: https://www.dek-d.com/board/view/3787317/
1 ความคิดเห็น
กระทู้นี้ดีมากเลยค่ะ!ทำให้มีแรงบันดาลใจอยากไปเรียนที่ญี่ปุ่นมหาวิทยาลัยนี้น่าสนใจและน่าไปศึกษาต่อมาก
ขอบคุณค่าา ดีใจที่ชอบนะคะ มีคำถามอะไรเพิ่มเติมจากที่เขียน message fb page ได้นะคะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?