ประเพณีหลั่งเลือด!! วันที่ผู้คนทำร้ายร่างกายตนเอง ธรรมเนียมของลัทธิชีอะห์? [18+]
เมื่อพูดถึงเรื่องศาสนาหรือลัทธิต่างๆ
ก็มักจะมีพิธีกรรม หรือประเพณีของแต่ละความเชื่อแตกต่างกันออกไป และวันนี้เราจะมาดูอีกหนึ่งประเพณีทางความเชื่อของลัทธิชีอะกันนะครับ พิธีกรรมการทรมานตนเองในลัทธิชีอะฮฺ
เรื่องราวของพิธีกรรมการทรมานตนเองในหมู่ผู้นับถือลัทธิธรรมเนียมของชีอะฮฺนั้น ได้ตกเป็นที่สนใจและสร้างความน่าสะพรึงกลัว
แก่ผู้ที่มิใช่มุสลิมเป็นอย่างมาก(หรือกระทั่งมุสลิมเองก็ตาม)
สำหรับคนที่ไม่ชอบอ่านยาวๆ
ดูวีดีโอพร้อมภาพเสียงประกอบ แบบสรุปมาแล้วได้เลยจ้า
อ่านต่อได้เลยจ้า
พื้นของมัสยิส ในอินเดีย ที่นับถือศาสนาอิสลามเต็มไปด้วยเลือด ระหว่างที่ผู้ศรัทธาเข้าร่วมพิธีกรรม Ashura
หรือวันอาชูรอ ศรัทธาสีเลือดของชาวมุสลิม ที่มีการเฆี่ยน และทำร้ายร่างกายตัวเอง
สายเลือดที่ไหลออกจากร่างกายของผู้นับถือนิกายชีอะห์ เพื่อเป็นการไว้อาลัยและระลึกถึงวันที่ ท่านฮุเซน บินอะลีย์ บินอะบีฏอลิบ
หลานชายท่านศาสดานบีมูฮัมหมัด ถูกสังหารอย่างทารุณในสงครามอัฏฏ็อฟ ในอิรัก 10 ตุลาคม พ.ศ. 1223
การต่อสู้ครั้งนี้ ฝ่ายท่านฮุเซนมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นรวม 132 คน ยกเว้นท่านซัยนุลอาบิดีน
ดังนั้นกลุ่มชีอะห์ จะไว้อาลัย ท่านฮุเซนในวันอาชูรอ โดยการจัดพิธีกรรม เช่นการเล่าเรื่องอิมามฮุเซนจากประวัติศาสตร์
ขณะที่ผู้แสวงบุญในชุดดำหลายพันคน ได้มารวมตัวกันเพื่อฟังเรื่องราวของอิหม่ามฮุสเซน และการต่อสู้ของเขาก่อนตาย
ผู้แสวงบุญได้พากันตีศีรษะของตนและร้องให้ เพื่อแสดงถึงการไว้ทุกข์และสำนึกผิด
รำลึกถึงความโหดร้าย และความเจ็บปวดในโศกนาฏกรรมครั้งนั้น
ชาวมุสลิมทั้งจากปากีสถาน อัฟกานิสถาน อิรัก อิหร่าน ตุรกี อาเซอไบจาน เลบานอน และบาเรห์น
ต่างจัดกิจกรรมการ กรีดหัว ลุยไฟ เฆี่ยนตัวด้วยใบมีด ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บ
ตามความเชื่อของมุสลิมชีอะห์ อิหม่ามฮุสเซน ตั้งใจที่จะสละชีพของตนเองในการต่อต้านการปกครองที่ไม่ยุติธรรม
และขัดต่อหลักอิสลามของกาหลิบยาซิด เขาท้าทายกองทัพของกาหลิบด้วยผู้ติดตามเพียงไม่กี่สิบคน
การแบ่งแยกจนกลายเป็นผู้นับถือนิกายชีอะห์และสุหนี่ ได้เริ่มขึ้นจากความขัดแย้งของกลุ่มคนที่เฉลิมฉลองความรุ่งโรจน์ของโมฮัมเหม็ด
กับคนที่ยึดมั่นในการตายของอิหม่ามฮุสเซน
ผู้คนหลายหมื่นต้องตายในการสู้รบ ทั้งโดนระเบิดและถูกประหารในอิรัก ตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากความขัดแย้งของทั้งสองนิกาย
กับมุสลิมสุหนี่
สำหรับชาวมุสลิมทั้งหลายนั้นแค่เพียงมองพิธีกรรมดังกล่าวนี้อย่างผิวเผิน ก็สามารถสรุปได้อย่างทันทีว่ามันไม่มีตรงไหนที่เกี่ยวข้อง
กับศาสนาอิสลามอันบริสุทธิ์ของของพวกเขาเลย แต่เราจะปฏิเสธอย่างมีน้ำหนักได้อย่างไรกันเล่า ในเมื่อคนกลุ่มหนึ่งที่แสดงตนว่าเป็นอิสลาม
ไว้เครา ใส่โต๊บดำ สวมฮิญาบ นั้นกลับส่งเสริมให้ทำพิธีกรรมอันบ้าคลั่งเหล่านั้นกันอย่างถ้วนหน้า
อันที่จริง มาถึงตรงนี้แล้วอาจจะมีบางท่านที่ยังสับสนว่า พิธีกรรมดังกล่าวนั้นคืออะไร ก็จะขออธิบายอย่างรวบรัดว่า
พิธีกรรมดังกล่าวมานั้นเรียกว่า “มะต่าม” อันเป็นพิธีกรรมที่มีรูปแบบของการทรมานตนเอง
โดยทางสถาบันชีอะฮฺในไทยตลอดจนเว็บไซต์หนังสือมากมาย ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านการกระทำพิธีกรรมดังกล่าว ของชาวชีอะฮฺทั่วทุกมุมโลกนับล้านคน
ที่อิหร่านไม่มีพิธีกรรมแบบนี้แล้ว ตั้งแต่การปฎิวัติของอิมามโคมัยนี ท่านได้ให้ยกเลิกไปแล้ว ใครปฎิบัติเช่นนี้ตำรวจจับทันที แต่ชีอะห์ในประเทศอื่น
เช่น อิรัค ปากีสถาน อินเดีย ทราบมาว่ายังมีอยู่
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงเรื่องราวและลายละเอียดแบบสรุปสั้นๆเท่านั้น ซึ่งลายละเอียดที่แท้จริงนั้น มีอยูอีกมากมายให้เราได้ศึกษากันต่อไป
ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น เราเอง ก็ต้องใช้วิจรณญาณในการตัดสินเรื่องนี้กันเอาเองนะครับ
เครดิต
http://www.posttoday.com/world/news/459893
https://news.mthai.com/world-news/204796.html
http://oknation.nationtv.tv/blog/sigree/2008/04/27/entry-1
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000127039
http://shiahcode.blogspot.com/2009/05/blog-post.html
ขอบคุณรูปภาพจาก
http://www.google.com
1 ความคิดเห็น
กลัวแล้ว
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?