Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

สุดยอดอิทธิฤทธิ์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
พระพุทธเจ้าถ่ายทอดเคล็ดวิชาว่า ทุกอย่างเกิดดับเป็นธรรมดา เกิดทันทีดับทันที เกิดที่ไหนดับที่นั่น เกิดที่ตาก็ดับที่ตา เกิดที่ใจก็ดับที่ใจ ไม่มีขีดขั้นระหว่าง เป็นไปไวกว่าแสง เปลี่ยนแปลงเป็นอณู คือ นามธรรม 

รู้ทันจะคิดหนอๆ  ก็จะเห็นการเชื่อมต่อแห่งจิตเก่าไปสู่จิตใหม่ จากความคิดเข้าสู่ความฝัน จากการตื่นไปสู่การหลับ จากสิ่งที่มีไปสู่ความไม่มี จากดีสู่ชั่ว กลัวสู่กล้า 

ถ้ารู้ทันได้ไวกว่าความเป็นจริงที่ว่าเกิดปั๊บดับปุ๊บ ก็เป็นสุดยอดแห่งฤทธิ์อิทธิบาทแห่งความสำเร็จ อายุจะยืน อานุภาพจะไร้ขีดจำกัด จะมีความสามารถฉลาดเก่งทุกเรื่อง แค่จะคิดหนอๆ ก็หมดสงสัย

จากสายสืบนิสัยศาสตร์

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

White Frangipani 12 ก.ย. 60 เวลา 14:35 น. 1


สุดยอดอิทธิฤทธิ์



สวัสดีค่ะเจ้าของระทู้




คำว่า...สุดยอดอิทธิฤทธิ์...นี้จริงแล้วใช้ได้กับ...การแสดงธรรม...ของพระพุทธเจ้า...หรือไม่คะ???


สมควรหรือ?ไม่...ที่จะนำคำว่า...สุดยอดอิทธิฤทธิ์ ...นี้มาใช้กับการสื่่อ หรือการอิงพุทธศาสนา...???


อยากให้คุณตอบด้วยค่ะ ตอบแบบที่คนปรกติ...จะสามารถตอบมาได้นะคะ นั้นคือต้องมีเหตุผล ต้องมีที่ไปที่มาเป็นปัจจัย...แห่งเหตุที่มาค่ะ


และประโยคนี้ของคุณ...พระพุทธเจ้าถ่ายทอดเคล็ดวิชาว่า...ประโยคของคุณนี้...บอกได้ว่า...คุณนะคะมีอาการไม่ดีอย่างยิ่งแล้วค่ะ คุณมีอาการเบลอและเพ้อเจ้อ เลอะเลือนไปกันใหญ่ ชนิดเอาไว้ไม่อยู่ หรือเบรคไม่อยู่แล้วนะคะนี่...


รู้สึกว่าอาการความรู้สึกของคุณเลอะเลือน...ไม่รู้ผิด ถูก ชอบ ชั่ว ดีอีกต่อไปแล้วค่ะ...ช่างน่าสงสารคุณมากมายเลย เจ้าของเม้นต์นี้เฝ้าตามอ่านๆกระทู้ของคุณ...อยู่เป็นเพื่อนคุณ ให้ความอบอุ่น เป็นกำลังใจให้กับคุณ...บนถนนในเส้นทางของเพื่อนธรรม...เพราะสงสาร เมตตา คุณนะคะ แต่ดูจะไม่ช่วยอะไรคุณได้เลยค่ะ


จากที่อ่านๆมานี้...รู้ได้แล้วว่า...อาการของคุณหนักมากเกินกว่าที่เจ้าของกระเม้นต์จะสามารถทำอะไรได้ต่อไปค่ะ...บนโลกนี้...ดูจะมีเหตุ...อันดับไปได้จริงๆสินะ...เห็นทีจะต้องปล่อยคุณไปตามทางของคุณเสียแล้วค่ะ


ด้วยเหตุที่เชื่อว่า...กรรมเวรเป็นของใครก็ของเขา...ต่างคน ต่างมีวาระที่ต้องเดินไปตามวาระนั้นๆ


อ่านๆจากที่คุณเขียนๆมาโพสต์ๆมารู้สึกได้ว่าแท้จริง...คุณเวิ้งว้างทุกข์ทรมานเหงาหหงอย...จากภายในค่ะ


อาการความทุกข์ทรมานนั้นทำให้คุณทำ...ในสิ่งที่คุณไม่สามารถรู้ได้ว่าผิด ถูก ชอบ ชั่ว หรือดี...ด้วย(หากเป็นภาษาไทยพื้นบ้านเราเรียกว่าอาการสติแตก...แบบนั้นนะคะ)


ที่ต้องบอกคุณแบบนี้...เพราะอยากให้คุณรู้ตัวตนของคุณนะคะ...เพราะจากที่อ่านๆมานั้น...ตามที่คุณเขียนมามิได้มีอะไรเกี่ยวกับศาสนาเลยแม้แต่น้อย...คุณไม่มีแม้ความรู้สึกเชื่อ ศรัทธา หรือยํ่าเกรง...ค่ะ


แต่ที่อ่านๆมานั้น...รับรู้ได้ว่าเป็นอาการที่เกิดขึ้นจากความทุกข์ทรมานที่แท้จริง...ที่มันล้นเอ่อจนไหลนอง...จากคุณสู่สิ่งแวดล้อม...เท่านั้นเองค่ะ(เพราะดูคุณจะมีมากเกินไปค่ะ ความทุกข์ทรมานนั้นนะ)


แต่ละกระทู้เป็นบทความที่สามารถจับใจความได้ว่า...คุณมีอาการกดดัน...จนคุณอึดอัดคับแคบ...ทรมานจนคุณต้องระบายมันออกมาเพื่อเนื้อที่อากาศที่คุณจะหายใจ...และเพื่อการอยู่กับความทรมาน...นี้ ในทุกวันคืนเท่านั้นค่ะ


ที่บอกได้แบบนี้ในกระทู้นี้...เพราะว่าเจ้าของเม้นต์ได้เห็นอาการ หรือแม้คำ ประโยคต่างๆที่คุณใช้...นั้นมันบอกถึงอาการของคุณตลอดมาค่ะ


ยกตัวอย่าง...เช่นประโยคนี้...ของคุณนะคะ เป็นหลักฐาน...ได้อย่างชัดเจนค่ะ...พระพุทธเจ้าถ่ายทอดเคล็ดวิชาว่า...พระพุทธเจ้ามีเคล็ดวิชา...หรือ??? คุณพยายามทำอะไร??คะ (คุณไม่มีความรู้สึกผิดบาปคะ)


ในที่นี้...ความเป็นจริงคือ...พระพุทธเจ้ามีธรรม ท่านแสดงธรรม ท่านโปรดสัตว์ ท่านต้องการแนะนำชี้แนะ...ให้เพื่อนมนุษยชาติสัตว์โลกผู้มีกรรมเป็นแดนเกิดในครั้งหนึ่งบนโลกนี้ได้มีโอกาสหลบเลี่ยงทุกข์...และพึงที่จะมีโอกาสพบพานความสุขและความดี...ได้บ้าง


...ด้วย...อริยสัจ 4 ซึ่งแปลว่าความจริงอันประเสริฐ


และทั้งหมดนี้เราเรียกว่า...การถึงธรรม(ด้วยพระองค์เอง) และทั้งหมดในลิงค์นั้นเป็นธรรม เป็นธรรมะค่ะ


เราต้องใช้คำว่า...ท่านแสดงธรรม...ค่ะ ไม่ใช่ท่าน...แสดงอิทธิฤทธิ์ หรือท่านมีเคล็ดวิชา...นะคะ ศาสนาเป็นสิ่งสูงสุด...นะคะ


แม้เจ้าของเม้นต์นี้...จะมีความใจกว้างขวางยอมรับความแตกต่างซึ่งเป็นแก่นสาร...ได้ และในที่นี้คุณซึ่งมีความแตกต่างมีอาการที่อาจจะผิดปรกติ...จากหลายๆคนแต่ก็รับความแตกต่างนี้ของคุณได้ค่ะ...และก็อยากจะบอกคุณว่า...คำที่คุณนำมาเป็นอุบาย...เพื่อใช้ในการอิงพุทธศาสนานั้น...ดูจะไม่สมควรค่ะ



เพราะภาษาที่เราจะสมควรใช้กับศาสนา หรือเป็นอุบายเพื่อแสดงธรรม...สมควรที่จะให้ดำเนินต่อไป เราต้องรักษาทำนุบำรุงไว้ด้วยการใช้ให้ถูกต้อง...เกี่ยวกับศาสนา เพราะแท้จริงแล้วการใช้คำต่างๆนั้นมีอยู่เฉพาะตัว ลงตัว และดีแล้ว และถูกต้องแล้วนะคะ


อยากจะบอกคุณว่าผู้ที่มีจิตปรกติ...เขาจะรู้ว่า ผิด ถูก ชอบ ชั่ว ดี เหมาะสม สมควร หรือไม่...นั้นเป็นเช่นไร...นะคะ และอาการรู้ได้ถึงเหตุนี้ของสติ...จะทำให้คนเรามีเหตุ มีผล และไม่เลอะเลือนค่ะ


และยังจะทำให้เราๆรับรู้ได้ถึง...กรรม...ที่ไม่สมควรกระทำ เพราะการสร้างกรรมนั้นมีผลที่ไม่ดีต่อตัวเราเองและสิ่งแวดล้อมค่ะ


แต่เขาจะเฝ้ากระทำความดี...เพราะความดี...นั้นมีผลที่จะนำความสุขมาสู่ตัวเขาเองและสิ่งแวดล้อม...ค่ะ


และจากที่เห็นๆคุณโพสต์อะไรมากมายนั้น...แท้จริงเป็นอาการที่สะท้อน...จากการแลเงา...จากอาการของคุณเองนะคะ (จากที่อ่านๆมาที่คุณต้องกระทู้ทั้งหมดนั้น...ดูจะไม่มีสาเหตุเกี่ยวเนื่อง...จากอาการที่คุณศรัทธาในพุทธแต่ประการใดค่ะ)


พระพุทธเจ้าท่านได้ทำไว้ดีแล้ว...ขอคุณจงหยุดสร้าง...เหตุ...ที่จะพาความทุกข์ทรมานมาสู่ภายในใจคุณด้วยการมัวเมาเพ้อเจ้อ...กับจิตที่เลอะเลือนของคุณให้มากกว่านี้เลยค่ะ


อาการเลอะเลือนของคุณ...คุณสามารถพยายามหยุด...และมันสามารถฟั่งก์ชั่นให้เป็นปรกติ...ได้นะคะหากคุณต้องการ...


อยากบอกคุณว่า...เม้นต์นี้...ส่งเข้ามาเพราะสงสาร ห่วงใย และเมตตา คุณนะคะ


อยากบอกคุณด้วยว่า...คุณต้องพยายามช่วยตัวเหลือคุณเองก่อน..นะคะในขณะนี้...ช่วยให้คุณเองสงบ และสามารถสัมผัสให้ได้...ถึงอาการ และภาคปฎิบัติที่ว่า...คิดดี ทำดี พูดดี...ให้ได้ก่อนค่ะ เพียงคุณทำได้เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถมีความสุขสงบได้บ้างแล้วค่ะ


และความสุข สงบนั้น...จะเป็นฐานพลัง...ที่ดียิ่งที่คุณจะสามารถศึกษาธรรม...คำสั่งสอน ของศาสดา...ต่อไปได้ในที่สุดเป็นอย่างดียิ่งค่ะ


การศึกษาธรรมะให้เข้าใจ...นั้นต้องเริ่มต้น..ที่ตัวเราเองก่อนนะคะเจ้าของกระทู้...หากคุณมีสติที่สับสน...คุณจะไม่มีวัน...ศึกษาธรรมะได้เลยค่ะ


หากคุณทำได้พยายามรักตัวคุณเองให้มากๆ และพยายามใฝ่ความสงบเข้าไว้นะคะ ความฟุ้งซ่าน สับสน เลอะเลือน...จะลดน้อยลงไปตามลำดับค่ะ


ก่อนออกจากกระทู้...เจ้าของเม้นต์ขอแนะคำให้คุณลองๆพยายามฟังคำสั่งสอน...ต่างๆซึ่งเป็นคำสั่งสอนซึ่งถูกนำมาใช้หรือนำมาจรรโลง...สังคมอยู่ตลอดเวลาจากศิษยานุศิษย์ที่แท้จริงของศาสดา...เช่นธรรมะคำสั่งสอนในคลิปข้างล่างนี้...คุณพยายามสละเวลา และตั้งใจฟังบ่อยๆ เพื่อตัวคุณเองนะคะ



นี่ค่ะ...





ธรรมบทนี้...เป็นเพียงหนึ่งบท...เท่านั้น ซึ่งมีอยู่อีกมากมายที่คุณจะสามารถหาฟัง...และพยายามเรียนรู้ และเข้าใจ...ธรรมะ คำสั่งสอน...ที่แท้จริง...ของศาสดาได้...ซึ่งจะทำให่คุณพบความสุข ความดี ความสงบ ได้ด้วยตัวคุณเองค่ะ


หนึ่งชีวิต...บนโลกที่มีธรรมชาติ(ธรรมะคือธรรมชาติ)ที่สวยงามนี้...ขอคุณอย่าปล่อยประละเลย...ให้จิตใจ ให้จิตวิณญาณ ให้ชีวิตของคุณตกอยู่ในความทุกข์ทรมาน...จนเกิดอาการเพ้อเจ้อ เลอะเลือนไปนะคะ...เสียดาย...เวลาแห่งชีวิต...บนโลกนี้ในภพนี้...ที่คุณสมควรจะมีได้...ค่ะ



สู้สู้ที่จะสงบ...ให้ได้นะคะ


เป็นกำลังใจให้คุณเจ้าของกระทู้ค่ะ





https://image.dek-d.com/27/0330/6082/116607767
0
muisun 13 ก.ย. 60 เวลา 19:42 น. 2

เปรียบเสมือนเด็กไปจับปูขึ้นมาจากหนองน้ำ ริดรอนก้ามขาออกหมดเหลือแต่ตัวกลมๆ ก็ไม่สามารถลงน้ำได้ฉะนั้น


หรือเปรียบเสมือนกาเห็นก้อนศิลาซึ่งสีแดงเหมือนชิ้นเนื้อจึงถลาลงจิกเต็มแรง จงอยปากทิ่มทะลุสมองตายฉะนั้น ข้าพองค์ตามระรานพระธรรมของสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้ามานานแล้วก็ไม่สำเร็จ บัดนี้ หมดขีดความสามารถแล้วต้องขออำลา เพราะว่าพระธรรมที่พระองค์ตรัสไว้เป็นประโยชน์กับชาวโลกทั้งหลาย


ซึ่งพระพุทธพจน์ทรงตรัสว่าผู้ใดเห็นธรรมได้ชื่อว่าผู้นั้นเห็นเรา ผู้ใดเห็นเราได้ชื่อว่าผู้นั้นเห็นธรรม ต่อไปเราล่วงลับดับสังขาร เธอทั้งหลายจงเอาพระธรรมนั้นเป็นครูและอาจารย์เป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย 


รู้ทันจะคิดหนอๆ ก็เป็นสุดยอดแห่งฤทธิ์ได้ทุกอย่าง ที่ไม่เชื่อเพราะไม่เคยรู้ทันเลยสักอย่าง เจริญสุข เจริญธรรม


จากสายสืบนิสัยศาสตร์

1
White Frangipani 13 ก.ย. 60 เวลา 20:51 น. 2-1

"เปรียบเสมือนเด็กไปจับปูขึ้นมาจากหนองน้ำ ริดรอนก้ามขาออกหมดเหลือแต่ตัวกลมๆ ก็ไม่สามารถลงน้ำได้ฉะนั้น"...555 ใช่สินะ หากจะเปรียบเด็กคนนี้เกเร...เหลือขอ...เด็กผู้ที่มีกรรมเวรเป็นที่พึ่ง...ตนหรือทุกข์ทรมาน...จมอยู่ในกองทุกข์ซึ่งไม่สามารถหลุดพ้นได้...ยังไม่พยายามที่จะช่วยเหลือตนให้รอดพ้นจากการตกตํ่า...อยู่รํ่าไป...เพราะแบบนี้หล่ะ...สังคมจึงเกิดเป็นปัญหา...มากมายไม่สิ้นสุด เพราะเด็กที่เหลือขอ ตกตํ่า เกเรแบบนี้ไงคะ


เจ้าของกระทู้คะ เจ้าของเม้นต์อยากจะบอกคุณว่า...คุณอย่าเอาเยี่ยงอย่างเด็กเกเรเหลือขอ ตกตํ่าใจบาป...เช่นเด็กคนนั้นนะคะ เสียดายชาติเกิดค่ะ



"หรือเปรียบเสมือนกาเห็นก้อนศิลาซึ่งสีแดงเหมือนชิ้นเนื้อจึงถลาลงจิกเต็มแรง จงอยปากทิ่มทะลุสมองตายฉะนั้น ข้าพองค์ตามระรานพระธรรมของสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้ามานานแล้วก็ไม่สำเร็จ บัดนี้ หมดขีดความสามารถแล้วต้องขออำลา เพราะว่าพระธรรมที่พระองค์ตรัสไว้เป็นประโยชน์กับชาวโลกทั้งหลาย"...ทั้งหมดนี้เป็นคำสารภาพบาป...ของคุณหรือไม่คะนี่...



...หากใช่...นะคะ เจ้าของเม้นต์นี้ขอเป็นกำลังใจให้คุณค่ะ คนเรานะคะแม้จะเคยมืดมนหรือตกตํ่าได้...แต่เมื่อรู้ตัวตน กลับใจได้...ก็สามารถเปลี่ยนแปลงตัวตนหรือแม้อุปนิสัย...ของคุณได้...เหตุนี้สามารถเกิดขึ้นได้จริงนะคะ


"ซึ่งพระพุทธพจน์ทรงตรัสว่าผู้ใดเห็นธรรมได้ชื่อว่าผู้นั้นเห็นเรา ผู้ใดเห็นเราได้ชื่อว่าผู้นั้นเห็นธรรม ต่อไปเราล่วงลับดับสังขาร เธอทั้งหลายจงเอาพระธรรมนั้นเป็นครูและอาจารย์เป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย "...ดูสิคุณก็รู้นี่คะ...แต่เป็นเพราะอะไร...คุณจึงไม่ยึดมั่นตามนั้นได้...คะ


คุณพยายาม...สงบๆนะคะ ความสงบจะทำให้เกิดสมาธิได้ง่ายขึ้น...จะเกิดเป็นปัญญาที่คุณจะสามารถปฎิบัติได้ดั่งคำสั่งสอนนั้นค่ะ




"รู้ทันจะคิดหนอๆ ก็เป็นสุดยอดแห่งฤทธิ์ได้ทุกอย่าง ที่ไม่เชื่อเพราะไม่เคยรู้ทันเลยสักอย่าง


เจริญสุข เจริญธรรม

จากสายสืบนิสัยศาสตร์"...5555คุณมีอาการติด...สำนัก...อะไร...ของคุณนี้...อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ค่ะ จึงทำให้คุณเป็นเช่นที่คุณเป็นอยู่นี้ไง...คะ


คุณลองๆปล่อยๆความเชื่อ...เกี่ยวกับที่คุณจะเป็นผู้ที่ทำเพื่อสำนักอะไร...ของคุณนี้...ด้วยการนำเอาพุทธศาสนามาอิง...แบบนี้...จะทำให้คุณค่ะที่จะเป็นบ้า...หรือแม้สติคุณจะแตกไป หรือเพ้อเจ้อ เลอะเทอะ เลอะเลือนไป เป็นบาปด้วย ไม่ดีนะคะ


หากคุณศรัทธา...ที่จะศึกษาพุทธศาสนาเจ้าของเม้นต์ขอแนะนำให้คุณรับฟังธรรมะ โอวาทคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าบ่อยๆนะคะ




เป็นกำลังใจให้คุณค่ะ สู้สู้นะคะ สาธุค่ะ



~~~ เหนือเวทนา ~~~








https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-big-04.png







0