Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

นักเรียนเเลกเปลี่ยนรัฐ Montana, USA (ตอนที่ 1)

ตั้งกระทู้ใหม่
 ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยิ้ม, กำลังยืน และ สถานที่กลางแจ้ง
          สวัสดี เราชื่อมิน อยู่ม.5 รร.สามัคคีวิทยาคม เชียงราย ตอนนี้มาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่รร. Fort Benton high school, Montana, USA เราอยู่ที่นี่ได้ 1 เดือนละ วันนี้ก็จะมาเล่าประสบการณ์ เผื่อคนที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะมาดีมั๊ย หรือคุ้มมั๊ย กับการเสียเวลาไป 1 ปี เมื่อก่อนเราไม่เคยคิดอยากมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเลย (ยอมรับว่าเป็นคนติดบ้าน555) แต่เมื่อ 2 ปีที่แล้วเราเห็นรุ่นน้องไปแลกเปลี่ยนระยะสั้นตอนปิดเทอมที่อังกฤษ เราเลยคิดว่าจะลองบ้างดีมั๊ยนะ แต่สุดท้ายเราก็ตัดสินใจไป เราไปแลกเปลี่ยนระยะสั้นที่อังกฤษตอนปิดเทอม 3 สัปดาห์
ในภาพอาจจะมี 1 คน, สถานที่ในร่ม
ตอนนั้นภาษาอังกฤษของเราเเบบเเย่มาก แต่ก็ดีที่มาเป็นกลุ่มเลยมีเพื่อนคอยช่วย เรารู้สึกว่าสำหรับเรา 3 สัปดาห์ตอนนั้นมันไม่คุ้มกับที่เสียไปเลย ภาษาอังกฤษเราไม่ได้ดีขึ้นเลย แต่สิ่งที่เราได้กลับมามันเปลี่ยนเราหลายๆอย่าง 
ในภาพอาจจะมี 1 คน, สถานที่กลางแจ้ง
เมื่อก่อนเราค่อนข้างเป็นคนเอาแต่ใจ(ไม่มากเท่าไหร่555) แล้วก็ค่อนข้างเป็นเด็กเรียน(ก็การเเข่งขันมันสูงนิ555) เรียนพิเศษอย่างเดียว ไม่ค่อยมีเวลาให้ครอบครัวหรือน้อง แต่พอกลับมามันทำให้เราเห็นความสำคัญของครอบครัวมากขึ้น เวลาว่างก็จะหากิจกรรมทำกับครอบครัว ไปออกกำลังกายหรือเล่นกีฬากับน้อง หาเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น แล้วการไปแลกเปลี่ยนครั้งนั้นมันทำให้เราเห็นมุมมองใหม่ๆที่ไม่ได้มีแค่การเรียน มันทำให้เราอยากทำอะไรใหม่ๆที่เราไม่เคยได้ทำ มันทำให้เราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น แล้วก็เป็นตัวจุดประกายความคิดที่อยากจะมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน 1 ปี 
เราสอบที่จะมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนตอนม.4 เราคิดนานมากว่าจะไปดีมั้ย คิดจนถึงวันสุดท้ายที่ต้องยืนยันสิทธิ์555 แล้วพ่อก็พูดกับเรา เรายังจำได้ว่า " ถ้าเราตัดสินใจไม่ไปแล้วเห็นเพื่อนเขากลับมาแล้วภาษาเขาดีขึ้น เราจะเสียใจมั๊ยที่เราตัดสินใจไม่ไปตอนนั้น ถ้าเราต้องมาเสียใจทีหลังก็ไปซะ" เราก็เลยคิดว่าเราไม่อยากเสียใจที่หลัง แล้วก็บอกกับตัวเองว่า "ไม่น่าเลย" ก็เลยตัดสินใจไป เราขอบอกตรงนี้เลยก็ละกันว่าที่ตัดสินใจมาแลกเปลี่ยนแล้วคุ้มมั๊ยกับที่ต้องเสียเวลาไป 1 ปี สำหรับเรามันคุ้มมาก สิ่งที่เราจะได้กลับไปแน่ๆคือภาษา เราจะมีครอบครัวอีกครอบครัวหนึ่งที่ต่างประเทศ มีเพื่อนจากอีกประเทศหนึ่ง ได้เรียนรู้อีกวัฒนธรรมหนึ่งที่แตกต่างจากบ้านเราค่อนข้างมาก ได้ลองทำในสิ่งใหม่ๆที่ไม่เคยได้ทำ ได้เห็นโลกที่กว้างขึ้น เป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆให้กับชีวิต ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวเอง ตอนเเรกเราคิดว่าการไปอยู่ต่างประเทศคงเหมือนกับการไปอยู่หอที่ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ แต่มันไม่ใช่เลย มันเหมือนอยู่ท่ามกลางสถานที่ที่ทุกอย่างใหม่หมดทั้งวัฒนธรรม ภาษา ครอบครัว เป็นจุดที่เราต้องเรียนรู้ เข้มแข็ง แล้วต้องผ่านไปให้ได้ เราว่าถ้าผ่านจุดนี้ไปได้ ในอนาคตคงไม่มีอะไรยากไปกว่านี้ละ มันไม่ใช่เเค่หนึ่งปีในชีวิต  แต่มันคืออีกหนึ่งชีวิตในหนึ่งปี ถ้าใครอ่านถึงตรงนี้คงมีคำตอบให้กับตัวเองเกี่ยวกับการไปแลกเปลี่ยนละ แต่ถ้าใครอยากรู้ประสบการณ์ของเราก็อ่านต่อนะ
 Image result for exchange it not the year in your life but it a life in a year
เราได้ครอบครัวอุปถัมภ์ที่เมือง Fort Benton รัฐ Montana ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ผู้คนรู้จักกันหมด เป็นเมืองที่ปลอดภัย แต่หนาว555
 
ก่อนที่เราจะมารุ่นพี่ก็บอกว่าเสื้อผ้าไปซื้อที่นู่นเอา เอาไปไม่ต้องเยอะ แต่ด้วยความที่เรากลัวไม่พอ ก็เลยเอามาเยอะ555 แต่มันก็ถือว่าดี เพราะอยู่ที่นี่แทบไม่มีร้านเสื้อผ้า ถ้าจะเข้าไปซื้อในเมืองทีก็ขับรถเป็นชม.(ซึ่งก็ไม่ได้ไปบ่อย) ก็เลยอยากจะฝากคนที่จะมาว่าควรถามโฮสหรือหาข้อมูลก่อนมาว่าเมืองเป็นยังไง จะได้เตรียมเสื้อผ้ามาถูก เราได้มาอยู่ในครอบครัวที่ดี เค้าดูแลเอาใจใส่เราดีมาก แล้วเราก็อายุเท่าลูกสาวเขา ก็เลยอยู่ชั้นเดียวกัน
ถ้าจะถามความรู้สึกแรกๆที่มาอยู่ในครอบครัวใหม่ บอกได้เลยว่ารู้สึกอึดอัด เกรงใจเขา ตอนไปโบสถ์ครั้งแรกเราอึดอัดมากแบบเราไม่รู้จักใครแถมต้องมานั่งเรียนอีก555 แต่จะบอกว่าจะรู้สึกแบบนี้เเค่ช่วงแรกๆ อยู่ๆไปก็จะรู้สึกดีขึ้นเอง ช่วงนี้ต้องเข้มแข็งหน่อย ถ้าจะถามว่าภาษาเป็นยังไงบ้าง ก็จะบอกว่าอยู่มาเดือนกว่า พอฟังเขาพูดรู้เรื่องขึ้น สามารถสนทนาโต้ตอบได้ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ถึงขึ้นพูดคล่องอะไรหรอกนะ มันต้องใช้เวลา555 เเต่เพื่อนก็ดีพยายามจะเข้าใจในสิ่งที่เราพูด แล้วก็เฟรนลี่มากๆ ช่วยเราในหลายๆเรื่อง โดยเฉพาะในช่วงวันเเรกๆ เเล้วถ้าจะถามว่าเป็นโฮมซิกมั๊ย มันก็แล้วแต่คน บางคนก็เป็น บางคนก็ไม่เป็น เรายอมรับว่าเราเป็น เป็นตอนอาทิตย์แรก ตอนที่เราเริ่มเขียนไดอารี่บวกกับฟังเพลงไทย แบบมันจะร้องไห้ไม่หยุด คือไม่ได้ร้องไห้หนักนะเเต่มันหยุดไม่ได้555 ยิ่งมองไปทึ่ของที่เอามาจากไทยยิ่งร้องหนัก55 เราตัดสินใจโทรกลับบ้าน แล้วเราก็ร้องไห้หนักมาก แต่พอได้คุยมันก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้น เราเป็นครั้งเดียว555 เราเลยอยากเเนะนำว่าถ้าโฮมซิกก็โทรกลับบ้านซะ ร้องไห้ให้มันหมดไปครั้งเดียวเลย เปลี่ยนมาพูดถึงเรื่องโรงเรียนกัน โรงเรียนเราเป็นโรงเรียนเล็กๆ มีนักเรียนร้อยกว่าคน รู้จักกันหมด 
วิชาที่เราลงก็มี English11, US history(บังคับ+ยาก), AP calculus, Chemistry, food, textile, human anatomy เราเรียนไปได้ 2 สัปดาห์ เราเรียนวิชาภาษาอังกฤษไม่ไหวเลยเปลี่ยนไป English9 เราจะบอกว่าพอมาที่นี่ไม่มีใครรู้จักเรา อยากทำอะไรก็ทำ(ต้องทำในทางที่ถูก) จะได้ไม่ต้องกลับมาเสียใจทีหลัง บางทีเราอาจค้นพบความสามารถพิเศษ หรือความชอบกับการได้ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ซีซั่นนี้เราลงวอลเลย์บอล บอกก่อนเลยว่าอยู่ไทยเราไม่ค่อยเล่นกีฬาทีเป็นทีมหรอก อย่างมากก็วิ่งจ๊อกกิ๊ง เราเล่นวอลเลย์บอลเเค่คาบพละ555 โค้ทถามว่าเล่นได้มั๊ย เราก็บอกได้นิดหน่อย(ด้วยความที่อยากเล่น555) พอเล่นจริงเเค่ท่ารับลูกยังผิด555 เค้าให้เราเล่นกับทีมของม.3 ที่นี่เค้าซ้อมจริงจังมาก บางวันซ้อมตอนเช้า(เริ่มซ้อมตีห้าสี่สิบห้า) ตอนเเรกเกือบถอดใจละ เหมือนเป็นตัวถ่วงของทีม แต่เพื่อนกับโค้ทก็ดีคอยให้กำลังใจตลอด เลยทำให้เรามีเเรงที่จะตั้งใจซ้อมต่อไป เขาให้โอกาสเราได้เล่นในสนามจริงด้วย 
ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป, ผู้คนกำลังเล่นกีฬา และ สนามบาสเก็ตบอล
นอกจากกีฬาเราก็มีเต้นเชียร์ฟุตบอลเกม(เต้นผิดอีกต่างหาก555)
เราจะบอกว่าข้อดีของคนไทยคือเป็นคนยิ้มง่าย เราควรจะรักษาตรงนี้ไว้ ยิ้มไว้ก่อน ฟังรู้เรื่องไม่รู้เรื่องช่างมัน555 แล้วก็มีโฮมคัมมิ่ง มี 1 สัปดาห์ เขาจะมีหัวข้อให้เเต่งตัวตามวัน อย่างเราวันจันทร์ job's day
ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยืน และ สถานที่กลางแจ้ง
วันอังคาร USA day  วันพุธ celebrity day 
ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยิ้ม
วันพฤหัส Hawaiian day วันศุกร์ Longhorn day(เป็นตราของรร) กลางคืนก็จะมีโฮมคัมมิ่งเเดนซ์  โฮสก็พาเราไปเที่ยว yellow stone
ในภาพอาจจะมี ภูเขา, สถานที่กลางแจ้ง และ ธรรมชาติในภาพอาจจะมี ภูเขา, ท้องฟ้า, สถานที่กลางแจ้ง และ ธรรมชาติในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยิ้ม, สถานที่กลางแจ้ง
ไปเที่ยว Glacier เราได้เห็นหิมะครั้งเเรก ตื่นเต้นมาก5555
 
 ในภาพอาจจะมี ต้นไม้, ท้องฟ้า, สถานที่กลางแจ้ง และ ธรรมชาติ
เดี๋ยวอีกสัก 3 เดือนจะมาอัพเดทให้ฟังอีกนะ ถ้ามีอะไรสงสัย หรืออยากรู้เพิ่มเติม ทักมาถามได้  เพจ facebook : Min_in_USA (จะลงรูปให้ดูด้วย)

แสดงความคิดเห็น

>

8 ความคิดเห็น

Miin@Cr 5 ต.ค. 60 เวลา 23:06 น. 2-1

montana เป็นรัฐที่กว้าง แต่มีคนอยู่น้อยเพราะหนาวๆ เลยไม่ค่อยมีนร.แลกเปลี่ยนได้รัฐนี้

0
krunart 5 ต.ค. 60 เวลา 11:38 น. 3

พี่มิลเก่งมากเลยจ้า สู้ ๆ นะ แม่ใหญ่ยินดีด้วยผ่านมาแล้ว 1 เดือนได้เรียนรู้ตั้งมากมาย คิดว่าเวลาที่เหลือขอให้สนุก และสั่งสมประสบการณ์ให้มาก ๆนะคะ โอกาสเป็นของเราแล้ว

1
Miin@Cr 6 ต.ค. 60 เวลา 12:24 น. 4-1

ลองสอบดูค่ะ ถ้าได้ก็ฝึกภาษาให้มากขึ้น ก่อนมาเราก็พูดไม่ค่อยได้หรอก แต่พอมาสภาพแวดล้อมมันบังคับว่าต้องพูด ถ้าไม่พูดก็ไม่ได้ ภาษามันก็จะดีขึ้นเองค่ะ เราเชื่อว่าถ้ามีความตั้งใจ เราก็ทำได้ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

0
JE T'AIME 6 ต.ค. 60 เวลา 22:57 น. 5

รออีก3เดือนเลยหรอ เราอยากฟังต่อตอนนี้เลย อยากรุ้ ว่านนักเรียนแลกเปลี่ยนเปนยังไง เจอกับอะไรบ้าง

2
Miin@Cr 6 ต.ค. 60 เวลา 23:04 น. 5-1

อยากรู้เรื่องอะไรบ้างล่ะ เผื่อว่างๆจะนั่งเขียน

0
TheGreatManatee 12 ต.ค. 60 เวลา 21:29 น. 5-2

พี่อยู่เมกาเหมือนกัน เดะเริ่มหนาวแล้วจะมีอะไรให้เขียนเยอะเลย

โดยเฉพาะช่วงพย.ธค.มีแต๊งสกิฟวิ่งกะคริสมาสต์

0
ริญญดา 7 ต.ค. 60 เวลา 10:56 น. 6

เป็นกำลังใจให้เรียนอย่างเต็มที่นะคะ อ่านแล้วสนุก ได้รู้เรื่องอะไรเพิ่มดี


น้องปรับตัวได้ดีมากเลย ใช้โอกาสและเวลาให้คุ้มนะคะ อย่าเก็บตัว ไปมันให้ได้ทุกที่ที่โรงเรียนเขามีกิจกรรมทำ ได้ออกไปท่องโลกกว้างแล้ว จัดเต็มไปเลยค่ะ


พี่ไม่คุ้นกับการเข้ามาอ่านในบอร์ด

คิดว่าถ้าน้องจะเขียนเป็นเรื่อง ลงเรื่องเป็นตอนๆ ไป คนอ่านก็จะติดตามได้ง่ายขึ้น อยากกด fav. ไว้อ่านที่หลังอีกค่ะ

อาจทำลงเป็นตอนๆ ตามแต่ละเหตุการณ์ ที่น้องคิดว่าน่าจะเขียนไว้เป็นบันทึกความจำของตัวเอง อะไรประมาณนี้ค่ะ


น้องเขียนสำนวนภาษาได้น่าอ่านดีอยู่แล้ว เขียนเป็นไทยบ้าง อังกฤษบ้างก็ดูเข้าท่าดี

ขอเสนอแนะเป็นไอเดียของคนอยากอ่านค่ะ ^^


1
Miin@Cr 7 ต.ค. 60 เวลา 11:21 น. 6-1

ขอบคุณมากๆนะคะ สำหรับข้อเสนอแนะหลายๆอย่าง แล้วก็ขอบคุณมากๆนะคะที่เข้ามาอ่าน https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-01.png

0
Miin@Cr 11 พ.ย. 60 เวลา 08:08 น. 8-1

หนูอยู่ของ AYC ที่ไทย แล้วก็มูลนิธิ ISE ของอเมริกาค่ะ ติดตามได้ทางเพจ facebook: Min_in_USA ค่ะ ถ้าอยากรู้ขอมูลอะไรทักมาถามได้เลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ หนูเองก้อยากจะเเชร์ประสบการณ์เหมือนกันค่ะ น้องเขาอยู่มูลนิธิอะไรเหรอคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ หนูเพิ่งเขียนเป็นกระทู้แรก

0
ลิตเติ้ลมัม 13 พ.ย. 60 เวลา 10:54 น. 8-2

น้องได้ ices จ้า ยังไม่ทราบว่าจะได้รัฐไหนเลย คงต้องรอประมาณมีนาปีหน้าถึงจะทราบ เพื่อนๆของหนูที่ได้ ices ไปรัฐไหนกันบ้างอ่ะค่ะ


หนูเก่งจังปรับตัวได้เร็ว จะคอยติดตามอ่านดูนะคะ ขอให้หนูมีความสุขกับชีวตแลกเปลี่ยนในทุกๆวันเลยนะคะ

0
Miin@Cr 13 พ.ย. 60 เวลา 22:15 น. 8-3

หนูก็ไม่ทราบว่า ices ได้รัฐไหนบ้าง แต่เด็กแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่ได้รัฐ Utah กับ Texas นอกจากนั้นก็กระจายกันไปค่ะ อย่างรัฐ Montana ที่หนูได้ ก็มีเด็กแลกเปลี่ยนจากไทยแค่ 6 คนค่ะ ขอให้น้องได้โฮสเร็วๆนะคะ

0