Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เมื่อฉันเป็นโรคซึมเศร้า

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เราไม่รู้ว่ากระทู้นี้จะมีคนอ่านมากน้อยแค่ไหน จะเข้าใจเรานั้นมากแค่ไหน หรือจะยังไงไก็ตาม แต่เราก็อยากจะเล่าหรือระบายให้ฟังนะเพราะเราเหลือทางเดียวแล้วจริงๆ

เราไม่รู้ว่าความรู้สึกพวกนี้มันเกิดขึ้นมาตอนไหนแต่มารู้ตัวอีกทีตอนที่เราไม่สามารถทำอะไรกับร่างกายตัวเองได้แล้ว เราเอาแต่นอนบนเตียงแล้วก็มองเพดานห้องในทุกๆวัน ในหัวคิดวนไปว่าวันนี้จะเข้าโรงเรียนดีไหมหรือจะไปสายดี สองทางนี้เลือกยากพอกันเลย เราไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ ทุกครั้งที่เรามาโรงเรียนถ้าไม่นอนฟุบหน้าพร้อมกับร้องไห้ ก็จะมีหูฟังนี้แหละที่อยู่กับเราตลอดเวลา ไม่ว่าจะเรียนหรือกินข้าว กลับบ้าน เราจะใส่มันตลอดเวลา เรารู้สึกเหมือนว่าเราไม่อยากจะเข้าสังคม เราอยากจะออยู่เงียบๆคนเดียว

แต่ถ้าวันไหนเราไม่เข้าโรงเรียน เราจะชอบนั่งรถเล่นไปเรื่อยๆ มองดูผู้คนที่เดินไป เราชอบไปนั่งในวัดหรือนั่งแช่ที่ป้ายรถเมล์หรือที่ไหนก็ได้ที่มันเงียบๆ ไม่ค่อยมีคน ถามว่าทำไปทำไม เข้าเรียนไม่ดีกว่าหรอ? เราว่าความรู้สึกมันต่างกันมากๆ ในโรงเรียนคือสถานที่ที่มันวุ่นวายแล้วเราก็ไม่ชอบ ด้วยอะไรหลายๆอย่าง เราเรียนไม่รู้เรื่อง ไม่มีสมาธิ แต่พอเราอยู่ออกมาข้างนอกเรารู้สึกว่ามันก็ไม่ได้มีความสุขหรอก แต่รู้สึกสบายใจมากกว่า

เราเคยเป็นคนที่คอยสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนรอบข้าง ดูภายนอกก็เป็นคนร่าเริงๆ ไม่มีความทุกข์ เราเป็นคนที่ยิ้มเก่ง กวนตีนเก่ง เอาง่ายๆก็คือเด็กที่มีความสุขกับทุกๆเรื่องไม่ว่าจะร้ายหรือดีก็จะยังเห็นเรายิ้มอยู่ตลอด แต่จุดเปลี่ยนหลายๆอย่าง ทำให้เราเปลี่ยนไป เราเรียนไม่รู้เรื่อง ตามเพื่อนไม่ทัน ไม่เข้าใจเนื้อหา ทะเลาะกับแม่เรื่องอนาคตที่เราไม่ได้อยากจะเป็นเลย และทะเลาะทุกๆวัน พ่อเราทิ้งเรา คนในบ้านเริ่มไม่เห็นเราอยู่ในบ้าน มันเริ่มทำให้เรารู้สึกน้อยใจนิดๆ เสียใจหน่อยๆ ตอนนั้นเรามองทุกอย่างรอบตัวเราในแง่ร้ายไปหมด เริ่มกลัวคนจะเข้ามาทำร้ายจิตใจเราเหมือนกับคนที่ผ่านๆมา เริ่มไม่สนใจการเรียน เราทิ้งทุกอย่างโดยไม่สนใจอะไรแล้ว ในหัวเราคิดว่า ถ้าไม่ส่งมาให้เจอแต่เรื่องดีๆก็ขอให้เอาเราไปสักที

แต่ก็ไม่น่าเชื่อเวลาผ่านไปไม่นาน หลังจากที่เราหนีสังคมต่างๆทั้งในบ้านและที่โรงเรียน เริ่มออกไปเปิดหูเปิดตากับเพื่อนบ้างเป็นบางครั้ง ก็เริ่มทำให้เรากลับมายิ้ม  เริ่มทำให้เรากลับมาปกติเหมือนเดิม เริ่มมีความรู้สึกซึ่งจากเดิมเราไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากความว่างเปล่า แต่ยังไงโรคนี้ถ้าไม่หาหมอ ก็คงจะไม่หายจริงไหม มันก็ต้องมีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนเราไปจริงๆ 

เหตุการณ์เกิดขึ้นไม่นานหรอก ประมาณ2-3วันที่แล้ว วันนั้นเรากลับจากที่ๆนึง ซึ่งเราบอกแม่แล้วว่ากลับช้านะ แต่วันนั้นเรากลับช้าเกินประมาณ2ทุ่มมั้ง เราเจอหน้าแม่ แม่ไม่ฟังไม่พูดอะไร ยกร่มในมือตีเรา เราก็เดินหนีเข้าไปในห้อง แม่ก็เดินตามมาตีถึงในห้อง ตีจนร่มหัก แม่หันไปหยิบไม้ถูพื้นมาตีเราต่อ เราเถียงแม่จนพี่เราเริ่มหมดความอดทน เดินเข้ามาในห้อง บีบคอเรา กระชากคอเสื้อ แล้วก็ตบหน้าเรา แล้วจะเอากรรไกรแทงเรา เราไม่รู้ว่าครอบครัวอื่นจะะตีเด็กแบบนี้ไหมนะ แต่เราว่ามันมากเกินไป สิ่งแรกที่วนอยู่ในหัวตอนนั้นคือ หน้าพ่อเรา เราคิดว่าถ้าเขายังอยู่กับเราตอนนี้ เขาคงจะห้ามเราไว้ แต่ตอนนั้นไม่มีใครช่วยเราเลย แม่ก็ยืนดูพี่ทำเราอยู่ข้างหลัง 

แต่น่าแปลกอย่าง เรากลับไม่รู้สึกเสียใจหรืออะไรเลย ในหัวมันจะว่างๆ โล่งๆ เหมือนคิดอะไรไม่ออก เหมือนอะไรรอบๆตัวมันดูช้าไปหมดเลย มันเหมือนจะร้องไห้ออกมาตลอดเวลา แต่ก็ร้องออกไม่ได้ มันรู้สึกอึดอัดแล้วก็ทรมานมาก ถ้ามีคนถามว่าตอนนี้เรารู้สึกยังไง มีความสุขไหม? เราคงตอบได้แค่เราไม่รู้... 
โรคนี้เป็นง่ายแต่หายยากกว่าที่คิด แล้วมันก็ใช่สิ่งที่คนเราจะสร้างขึ้นมาได้ เป็นแล้วคือเป็น..
เราอยากจะหายนะ แต่ไม่รู้จะช่วยตัวเองยังไง
ก็ขอให้พวกคุณที่มาอ่าน มีความสุขกับชีวิต อย่าเป็นแบบเรานะ.. :)

แสดงความคิดเห็น

>

19 ความคิดเห็น

kwprdqz♡ 6 ต.ค. 60 เวลา 23:05 น. 1

สู้ๆนะคะ ถ้าคิดว่าไม่มีใครอยู่ข้างๆจขกท.คิดผิดแล้ว เราจะอยู่ข้างๆจขกท.เอง! 5555555555555555 สู้ๆนะคะ เราจะเป็นคนหนึ่งที่เป็นกำลังใจให้จขกท.เอง


จริงๆอยากให้จขกท.ปรึกษาคุณหมอก็ดีนะหรืออีกทางคือโทรไปสายด่วนสุขภาพจิตนะคะเห็นมีคนมารีวิวแล้วดีอยู่นะคะ รักตัวเองให้มากๆนะคะ ที่มาตั้งกระทู้เราว่าจขกท.คงสุดๆแล้วใช่มั้ย


ต่อไปนี้อยากให้จขกท.ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกๆวันนะคะ เราเข้าใจดีว่าความรู้สึกของจขกท.มันเป็นยังไงนะ อยากให้สู้ เราหวังว่าจขกท.จะอ่านข้อความของเราแล้วจะมีกำลังใจขึ้นมาบ้างนะคะ แม้จะไม่เคยรู้จักกันแต่เราอยากให้กำลังใจจขกท.จริงๆ


เราว่าจขกท.ยังมีเพื่อนดีๆนะ ไปโรงเรียนเถอะ คิดว่าทำเพื่อตัวเอง แฮปปี้ๆไว้ เวลาเรียนก็พยายามมีสมาธิกับการเรียนนะคะ เราเชื่อว่าจขกท.ทำได้ ไฟติ้งน้า~

2
kAew Dek-D Columnist 6 ต.ค. 60 เวลา 23:19 น. 2

ไปหาคุณหมอเถอะค่ะ ไม่น่ากลัวนะ แล้วก็ถ้าไปโรงพยาบาลรัฐราคาไม่แพงด้วย แนะนำให้ไปจริงๆ ค่ะ ด้วยความเป็นห่วงนะ ส่วนอีกเรื่องคือ น้องได้บอกญาติๆหรือคนรอบข้างมั้ยว่าที่บ้านมีปัญหาเรื่องการทำร้ายร่างกาย แบบนี้จริงๆ มันค่อนข้างเกินไป สามารถออกมาอยู่บ้านญาติก่อนได้มั้ย หรือถ้ายังไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ลองปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 โทรฟรี 24 ชั่วโมงได้เลยค่ะ

1
เจ้าแมวสามสี 9 ต.ค. 60 เวลา 20:34 น. 2-1

คือหนูยังไม่ได้บอกทางบ้านอ้ะค่ะ คือเรื่องทีบ้านมันก็เยอะมากพออยู่แล้ว หนุคิดว่าจะลองรักษาด้วยตัวเองก่อนอ้ะค่ะ บ้านญาติหนูเขาก็อยู่ต่างจังหวัดกันหมดเลย ก็คงทำได้แค่ทนแบบนี้ไปเรื่อยๆอ้ะค่ะ


0
นักจิตวิเคราะห์ 7 ต.ค. 60 เวลา 05:01 น. 3

ไปหาหมดดีที่สุดแล้วครับ ผม

ติดใจเรื่องความคิดมันโล่งๆ

ชึ่งเท่าอ่าน และ จับใจความว่า

ชีวิตของผมเหมือนว่างเปล่า

หัวมันโล่ง น่าจะเป็นสภาวะฉับ

พลัน หมายความว่าต้องมีเหตุ

การณ์บ่างอย่างทำให้คุณ นึก

ไม่ออก ทำให้คุณติดอยู่กับจุด

นี้ คุณรีบไปหาหมอ หรือ ไม่ก็

ใช้วิธีสะกดจิตตนเอง โดยต้อง

รีบหาข้อมูลในอดีต ว่าคุณเป็น

ใคร ต้องทำตัวอย่างไร มีเป้า

หมายหรือไม่ ผมลองคำนวน

ว่า 1 คุณอาจเจอกับเหตุบ่าง

อย่างที่เสียความรู้สึกฉับพลัน

จนทำให้เกิด เป็นอย่างนี้

2 คุณอาจโดนการสะกดจิต

จากคนอืน ไม่รู้ตัว จึงทำให้เป็น

อย่างนี้ อาการแบบนี้ คล้ายกับ

คนซึมเศร้ามากกว่า ซึมเศร้าทัว

ไป ชึ่งพวกนักสะกดจิตช่วยได้

แต่ลองไปปรึกษาจิตแพทย์ ดู

ก่อน ว่าเขาพอมีวิธีช่วยได้มาก

น้อยแค่ไหน อีกวิธีคุณเคยชอบ

หรือ มีความรู้สึกมีความสุข กับ

อะไร ลองไปอยู่กับตรงนั้นบ่อย

และ ก็อย่างที่พี่ คสต ข้างบน

บอกถ้าคุณมีความสุขกับอะไร

บ่างอย่างมันช่วยทำให้คุณกับ

มาได้ดีจริงๆ และ รักษาโดยจิต

แพทย์ ของผมเป็นฝ่ายวิเคาะ

ห์ แต่ช่วงนี้ สัญญาณไม่ดีหรือ

เครื่องผมมีปัญหา ไม่แน่ใจนะ

1
เจ้าแมวสามสี 9 ต.ค. 60 เวลา 20:36 น. 3-1

มันก็เป็นแบบนี้มาได้สักพักแล้วล่ะค่ะ คือเหมือนเจอแต่เรื่องเครียดๆ ให้คิดมากเข้าทุกวันๆจนมันเก็บไว้ คือถ้าเราไม่ไหวเราจะระเบิด อะลาวาดออกมาไรแบบนี้ แต่ช่วงนี้พอเรื่อยอดทนไม่ได้ก็จะปล่อยโฮออกมา พอนานๆไปก็เปลี่ยนเป็นไม่รู้สึก เริ่มคิดว่าแบบ ระเบิดไปเพื่ออะไรแบบนี้อ้ะค่ะ


0
นักจิตวิเคราะห์ 7 ต.ค. 60 เวลา 05:12 น. 4

รีบหาข้อมูลกับของที่คุณอยู่

แล้วมีความสุข และ รีบไปบ้าน

ญาติ หรือ ทึ่พักอย่างปลอดภัย

ผมเคยเห็นคนป่วยมาหลายรูป

แบบ ชึ่งพวกเขาส่วนใหญ่มัก

ถูกคนรอบข้างไกล้ตัวกดดัน

ให้เป็นตามที่หวัง ในกรณีของ

จกทข รีบไปพบแพทย์ให้ไว้

บอกทุกอย่าง และ อาจได้ทั้ง

ยาและคู่มือวิธีปฎิบัติตัวมาด้วย

อาจเป็นแผ่นพับบ่างๆ แต่มีข้อ

มูลดีดีเพียบอย่าไปตีกรอบตน

ละ.... ในกรณีของคุณน่าเป็น

ห่วงจริงๆ ครับ

1
เจ้าแมวสามสี 9 ต.ค. 60 เวลา 20:37 น. 4-1

ตอนแรกเราก็คิดว่า เราน่าจะคิดไปเองนะว่าอาการพวกนี้เราสร้างขึ้นมาให้ดูเหมือนว่าเราอ่อนแอ แต่พอนานๆไปก็เริ่มเข้าใจตัวเองมากขึ้น แต่มันก้สายไปที่ดึงตัวเองขึ้นมาอ้้ะค่ะ

0
Fortdo123 7 ต.ค. 60 เวลา 18:51 น. 5

ลองยิ้มให้กับวันข้างหน้าดูสิ แล้วจะมีความสุข ลองคิดถึงเรื่องอนาคตที่สดใสดูสิ แล้วโลกของคุณจะมีสีสัน

สู้สู้นะครับ เราเป็นหนึ่งในนี้ที่ช่วยให้กำลังใจเล็กๆน้อยๆ แต่ขอให้คุณมีความหวังในการใช้ชีวิตต่อไปนะครับ ^_^


1
เจ้าแมวสามสี 9 ต.ค. 60 เวลา 20:38 น. 5-1

เรายิ้มไม่เป็นนะ55555555555555 คือหน้าจะนิ่งๆตลอดเวลา เวลาถ่ายรูปก็ไม่ยิ้มไม่รู้เป็นไร เราจะพยายามยิ้มเยอะๆนะ55


0
SomYing 7 ต.ค. 60 เวลา 19:09 น. 6

อยากให้น้องเริ่มจากโทร "สายด่วนสุขภาพจิต 1323"

จากที่เคยได้ฟังมา คนที่รับฟังของสายนี้เขาดีมากค่ะ รับฟังและแนะนำดีค่ะ

อย่างน้อยมันง่ายกว่าจะไปหาหมอ ไม่ต้องเสียตัง ไม่ต้องอาย เพราะเขาไม่เห็นหน้าเรา ไม่รู้จักเรา

เราไม่มีอะไรจะต้องเสีย และเผื่อจะช่วยเราได้ค่ะ

สู้ๆ นะคะ <3

1
เจ้าแมวสามสี 9 ต.ค. 60 เวลา 20:39 น. 6-1

หนูเคยโทรไปแล้วค่ะ รอนานมากก สงสัยคนดทรไปเยอะอ่ะค่ะ555 แต่ก็ไม่เป็นไร หนูลองหาวิธีทำให้จิตใจตัวเองสดใสขึ้นจากเว็บอื่นๆตลอดเวลาๆ หนูจะสู้ไปเรื่อยๆนะคะ

0
saorimaKung 7 ต.ค. 60 เวลา 22:01 น. 7

ผมแนะนำไปหาหมอนะครับ ผมเองก็เป็นคนที่เป็นโรคซึมเศร้าเหมือยกันครับ ของผมถึงขั้นทำร้ายร่างกายตัวเองมันอันตรายมากๆ ถ้ารักษาทันมันจะดีต่อตัวเองนะครับ อย่าเหมือนผมที่เป็นแบบเรื่้อรังมา 4 เดือน แล้วไม่ยอมปรึกษาใคร มันอาจถึงตายได้นะครับ

2

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

เจ้าแมวสามสี 9 ต.ค. 60 เวลา 20:40 น. 7-2

เราว่าเราเลยขั้นทำร้ายร่างกายตัวเองจนเบื่อแล้วนะ555555 คือตอนนี้มันไม่รู้สึกอะไรแล้วอ้ะ เรายอมรักว่าเรากินยาฆ่าตัวตายมามากกว่า10ครั้งแล้ว แล้วแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า20เม็ดไรงี้ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย นอกจากทำให้เรานอนหลับได้

0
เจ้าแมวสามสี 9 ต.ค. 60 เวลา 20:41 น. 9-1

ขอบคุณนะคะ :) ช่วงนี้ก็พยายามทำทุกอย่างที่หนูคิดว่าสบายใจแล้ว มันก็เหมือนจะดีขึ้นมานิดนึง55555

0
ผู้หญิงคนหนึ่ง 8 ต.ค. 60 เวลา 12:03 น. 10

เราเคยเป็นนะ ทุกอย่างที่เกิดกับเจ้าของกระทู้อ่ะ อยากอยู่คนเดียวเงียบๆ ไม่สุงสิงกับใคร ภายนอกดูเป็นคนร่าเริง สร้างเสียงหัวเราะให้เพื่อน เจอเหตุการณ์ที่หนักๆมาจนไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรอีกแล้ว (แต่ภายหลังเราเปลี่ยนเป็นคนที่เข้มแข็งและไม่ย่อท้อต่ออะไรง่ายๆ เอาจุดนั้นมาผลักดันตัวเองให้ดีขึ้น)แต่เรื่องถูกตีนี่ไม่เคยถูกตีหนักขนาดนั้น ตอนเด็กเราเคยนั่งร้องไห้ที่ห้องน้ำทุกวัน ความกดดันต่างๆในครอบครัว แต่เราระบายมันออกมาด้วยการฟังเพลง และร้องเพลงในแต่ละวัน ร้องมันอย่างนั้นล่ะ เราร้องตอนล้างจานทุกวัน คนจะคิดว่า เอ้า ซึมเศร้าแล้วยังจะมีอารมณ์ร้องเพลงได้อยู่เหรอ แต่สำหรับเรา เราคิดว่า การระบายออกมันช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นนะ พลังแห่งเสียงดนตรีนี่ล่ะที่ช่วยเราให้ดีขึ้นมาจนถึงวันนี้ พอรู้ว่าตัวเองเป็น ก็ต้องวิธีการให้ตัวเองหายสิ (เหมือนกับการบำบัดตัวเองอ่ะนะ เพราะตอนนั้นเราไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร ชอบอยู่คนเดียวมากกว่า) หลังจากที่เราได้ร้องเพลงทุกครั้งอารมณ์เราก็ดีขึ้น รู้สึกยิ้มได้คนก็ทักเราตลอดว่าอารมณ์ดีตลอดเวลาจังนะ เราก็ชอบร้องเพลงมาตั้งแต่นั้น ทัศนคติต่างๆ มันเริ่มเปลี่ยนไป ความคิด จิตสำนึก ความรับผิดชอบที่ดี การเห็นใจคนอื่น ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขสิ่งเสพติดต่างๆ และความคิดที่ไม่หลงผิดเหมือนคนอื่น มันอาจจะดูเหมือนเราเป็นคนดีเวอร์ไป แต่จิตใจคนเราเจ้าตัวนี่ละที่รู้ตัวเองดีที่สุด แต่ก่อนเราจบมัธยมยังไม่เคยพูดคุยอะไรกับครอบครัวมากมายนัก แต่พอโตขึ้น มีวุฒิภาวะมากขึ้น มีความเข้าใจอะไรๆมากขึ้น อยากจะขอให้เจ้าของกระทู้เริ่มเปิดใจคุยด้วยคำพูดที่ไม่เคยพูดกับครอบครัว การไต่ถามสารทุกข์สุขดิบเล็กๆน้อยๆ คำสองคำ ก็จะเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ในครอบครัวให้ดีขึ้นได้นะ มันจะมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ตอนนี้เราก็เริ่มกล้าที่พูดหรือเล่าเรื่องราวต่างๆให้ครอบครัวฟังมากขึ้นแล้ว เรารู้ว่าเรื่องครอบครัวเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความรู้สึกที่อยู่ภายในมันละเอียดอ่อนมาก ครอบครัวนี่แหละที่จะทำให้เราหายจากโรคซึมเศร้าได้อย่างแท้จริง สู้ๆนะ อ้อ อย่าทิ้งการเรียนนะ นั่นคือหน้าที่ของเรา จงพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสเสมอ เอาข้อดีมาปรับใช้กับเรา ...จากคนที่ซึมเศร้ามาก่อนเกือบสิบปี แต่ตอนนี้เริ่มหายดีขึ้นเรื่อยๆจากการเข้าใจและบำบัดตัวเองด้วยเสียงเพลง เพราะเราคือเพื่อนกัน

2

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

เจ้าแมวสามสี 9 ต.ค. 60 เวลา 20:43 น. 10-2

เราสัญญาว่าเทอมหน้าเราจะตั้งใจเรียนมากกว่านี้นะ55555 เราก็ชอบฟังเพลง ร้องเพลงนะ เราว่ามันระบายได้ทางนึงเลยละ เราจะพยายามทำสิ่งที่ดี แล้วก็สบายใจเรานะ


0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

krakaew 9 ต.ค. 60 เวลา 16:35 น. 14

ตัวเราเองเคยลองทำแบบสอบถามก่อน แต่กรณีของคุณ เราว่าไปพบหมอเถอะคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

1
Wanvvan 10 ต.ค. 60 เวลา 16:56 น. 15

เราไม่รุ้ว่าเราเป็นไหมนะ แต่พ่อเราน่ะเป็น ท่านหาหมอและกินยาอยู่ประจำๆ มีช่วงนึงที่สภาพจิตเราแย้มากจากที่เจอเรื่องทุกข์ใจค่อนข้างเยอะ เราเริ่มรู้สึกว่าแปลกๆ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เคยร่าเริงกว่านี้ ปกติยิ้มยากอยู่แล้วตอนนั้นคือเราแทบไม่ยิ้มเลย ความรู้สึกมันว่างๆ ร้องไห้ไปเยอะ จนมันเหมือนไม่รู้สึกอะไรแล้ว เราคิดว่าเราอาจจะเป็นเพราะพันธุกรรมด้วย เราไปบอกแม่แต่เมื่อท่านเหมือนไม่เชื่อว่าเราจะเป็นแต่เราไม่เคยบอกพ่อนะคะแล้วแม่เราก็ไม่พาไปหาหมอค่ะ เราทำแบบสอบถามในหนังสือสุขศึกษาค่ะ เราก็รู้ว่าสภาพตอนนั้นมันไม่ปกติ ของเราสภาพแวดล้อมทุกที่ปกติเหมือนเดิม แค่เราเพิ่งขึ้นม.4ต้องเปลี่ยนเพื่อน ช่วงนั้นเรามีปัญหาเข้ากับเพื่อนไม่ได้เลยทำให้ซึมๆ เราอยากให้จขกท.ออกจากสภาพแวดล้มที่มันทำร้ายจิตใจเราก่อนนะ เรามีปัญหากับเพื่อนเราก็เล่าให้เพื่อนฟังเลยค่ะว่าเราเศร้าตลอดเวลา เพื่อนใหม่เราก็เข้าใจนะ พอเพื่อนรู้ เค้าก็เทคแคร์เราดีขึ้น ถึงจะจำใจทำแต่เค้าก็ทำให้เราสบายใจ พอผ่านไปนานเข้าเนี่ยมันทำให้เราสนิทกับเพื่อนมากขึ้น ด้วย ตอนนี้เราก็รู้สึกว่าโอเคขึ้นแล้วค่ะ จขกท.เอาประสบการณ์เราไปปรับใช้ได้นะ เราก็บอกได้เท่านี้ไม่ค่อยเชี่ยวชาญ ถ้าจขกท.ออกมาจากบ้านได้แล้วลองไปหาหมอจะดีมากเลยนะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

1
เจ้าแมวสามสี 10 ต.ค. 60 เวลา 17:34 น. 15-1

ถ้าสภาพแวดล้อมรอบๆตัวเรามันดี ตัวเราก็อาจจะดีขึ้นนะ เราคิดว่างั้นๆ55555555 เราจะเอาไปปรับใช้กับตัวเองนะะ

0
ผ่านมาเห็น 10 ต.ค. 60 เวลา 17:17 น. 16

อยากให้หาหมอจริงๆนะ โรงพยาบาลของรัฐก็ได้ ค่ารักษาไม่แพง เราก็เป็นโรคซึมเศร้าเนี่ย เราไปหาหมอเองคนเดียว ไม่บอกใครในครอบครัวซักคน เคยพยายามฆ่าตัวตายมาแล้วสามช่วง (ต่างปีกัน) แต่ก็ยังไม่ตาย พอหาหมอได้กินยาไปซักพัก ถึงรู้ว่าโลกนี้ยังมีแสงสว่างยังมีความหวังอยู่ เพียงแต่ตอนที่ป่วยเรามองไม่เห็นแสงนั้นเอง

อยากคุณไปหาหมอนะ

3
ผ่านมาเห็น 10 ต.ค. 60 เวลา 18:22 น. 16-2

เราไม่แน่ใจว่าตอนไปหาหมอเราอายุ 18 รึเปล่านะ เราจำได้ว่าตัวเองค้นกูเกิ้ลแล้วโทรไปสอบถามโรงพยาบาลว่ามีแผนกที่สามารถรักษาอาการของเราได้รึเปล่า (รู้สึกจะเป็นแผนกจิตเวชถ้าจำไม่ผิด)


เราแนะนำให้คุณค้นกูเกิ้ล หาเบอร์โทรโรงพยาบาลใกล้บ้าน แล้วสอบถามรายละเอียดรวมถึงค่ารักษาเลยค่ะ ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย พี่ๆในแผนกที่เราเจอใจดีและยินดีช่วยเหลือมากๆ

0
Ano010 12 ต.ค. 60 เวลา 14:02 น. 17

ไม่รู้จะให้คำแนะนำหรือจะช่วยหรือยังไงนะ คนอื่นมาตอบมาช่วยแทนหมดแล้ว นี้เข้ามากอดมาให้กำลังใจเฉยๆแล้วกันนะ

1
aum1341 6 พ.ย. 60 เวลา 10:36 น. 18

เราก็เป็นเหมือนจขกท.นะ แต่ของเราเป็นพ่อที่ชอบทำเรา เพราะแม่เราเสียไปแล้ว เราเคยเปิดใจลองเล่นกับเพื่อนดูแต่มันไม่มีอะไรดีขึ้น เราหยุดบ่อยมาก จนเพื่อนคิดว่าเราหนีปัญหา เพื่อนก็เริ่มตีตัวออกห่าง ญาติก็ตีตัวออกห่าง พ่อเราก็เริ่มไม่พูดกับเรา กลายเป็นว่าเราสร้างกำแพงขึ้นมา ต่อให้เป็นพ่อหรือใครเราก็ไม่ฟังเพราะสร้างกำแพง ปิดกั้นตัวเอง เราชอบอยู่คนเดียวไม่เข้าสังคม แต่เราไม่อยากให้จขกท.เป็นแบบนี้ เราแนะนำได้แค่ลองไปปรึกษาหมอดูนะ

0
planktonenteen 6 พ.ย. 60 เวลา 11:21 น. 19

มากอดน้องนะคะ พี่ก็เป็น แต่พี่ไม่ได้เป็น MDD (ซึมเศร้ารุนแรง) พี่เป็นซึมเศร้าแบบเรื้อรังค่ะ

เป็นตั้งแต่อายุ 11 จนตอนนี้ 20 กว่า เป็นมาสิบกว่าปีแล้ว (ไม่อยากพิมบอกอายุเดี๋ยวน้องรู้ว่าพี่แก่แค่ไหน 55555)


เข้าใจอาการน้องมากๆ เพราะเป็นแบบเดียวกันเป๊ะเลย


โรคนี้คนนอกดูไม่ออกหรอก ถึงเราจะยิ้ม ถึงเราจะหัวเราะ แต่ข้างในมันตื้อไปหมดเหมือนร่างกายไร้ความรู้สึกไปแล้ว คนอื่นคิดว่าพี่ตลกและใจดี แต่ข้างในเราคือไม่ใช่ เราแค่ไม่อยากให้คนอื่นต้องมาเสียใจอย่างที่เราเสียใจเท่านั้นเอง


พี่เป็นโรคนี้เพราะว่าเวลาเจอปัญหา (หลักๆคือปัญหาครอบครัวเลย) ซึ่งตั้งแต่เด็ก พี่มัวแต่บอกให้ตัวเองเข้มแข็ง อดทน อย่าร้อง อย่าโวย จนวันหนึ่งถึงพึ่งรู้ตัวว่าไม่ได้ยิ้มสุดๆไปแล้ว เริ่มเครียด เริ่มไม่อยากพบผู้คน เริ่มสมาธิสั้น การเรียนตก นอนไม่หลับ น้ำหนักลด ตัดสินใจผิดพลาด และเคยทำร้ายตัวเอง


เลยขออนุญาตแนะนำให้น้องไปหาหมอนะคะ เพราะว่าตอนที่เป็น ถึงมันจะอื้อ ทรมาน และเจ็บปวดมาก แต่พอเจอคนที่รู้วิธีจัดการกับอาการตรงนั้นได้แล้ว อาการมันดีขึ้นจริงๆนะ ถึงจะช้ามากกกกกก (ก็นะ เป็นมาร่วมสิบ จะให้หายทีเดียวคงเป็นไปไม่ได้ 5555) ตอนนี้พี่ก็ยังไม่หาย แต่อาการค่อยๆดีขึ้นค่ะ และหมอก็ใจดีและมีความรู้มากด้วย ไม่ใช่เป็นแค่ที่ระบาย แต่ยังช่วยให้เราข้ามผ่านอะไรในใจเราได้อย่างช้าๆ


เวลาเราเจ็บมากๆ ให้กอดตัวเองไว้แน่นๆนะ ถึงพี่ไปกอดเราไม่ได้ แต่ให้กำลังใจและพร้อมให้คำแนะนำค่ะ


มีปัญหาในใจ หรืออยากปรึกษาเรื่องพบแพทย์ล่ะก็ ส่งข้อความมาปรึกษาได้นะคะ พี่ไม่อยากให้ใครเจ็บแบบนี้อีกแล้ว มาจับมือกัน แล้วเดินต่อไปด้วยกันนะ กอดคนเก่งแรงๆ ค่ะ

1