คณะที่น่าสงสารที่สุดเเละไม่ควรเลือกเรียนถ้าไม่จำเป็น
ตั้งกระทู้ใหม่
คณะที่จบมาเเล้วหางานทำยากที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งงานตรงสาย ก็คือ
-คณะรัฐศาสตร์
เหตุผล : เป็นคณะที่คนเรียนมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศอาจเป็นรองก็เเค่นิติเท่านั้น จำนวนบัณฑิตที่จบปีนึงจำนวนมากขณะที่ตำแหน่งงานตรงสายนั้นน้อยเหลือเกิน เช่นปลัดอำเภอซึ่งโดยหลักเปิด4ปีครั้งเปิดครั้งละเเค่หลักร้อยอัตราเท่านั้น ขณะที่คนจบรัฐศาสตร์ปีนึงประมาณ2หมื่นคน (สำคัญที่สุดคือนิติศาสตร์บัณฑิตสามารเเย่งงานรัฐศาสตร์บัณฑิตได้ทุกงาน)
สำคัญที่สุดคือรัฐศาสตร์ไม่ใช่คณะวิชาชีพ ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ ไม่มีงานที่สงวนไว้เฉพาะรัฐศาสตร์บัณฑิต(น่าสงสารชะมัด) บัณฑิตรัฐศาสตร์จึงต้องไปเเย่งงานกับบัณฑิตในสายวิชาชีพอื่นนั่นก็เท่ากับว่าเป็นการเพิ่มคู่เเข่งเข้าไปอีก จะสอบข้าราชการก็เบือกได้เเต่เฉพาะตำแหน่งทั่วไปที่รับทุกวุฒิซึ่งคู่เเข่งเยอะมากเปิดรับ1อัตราคนสมัครหลัก1000+ เป็นเรื่องปกติ(นี่ยังไม่นับเด็กเส้นเพราะบางหน่วยงานบางครั้งรับ1อัตราจริงเเต่เขามีคนอยู่เเล้วซึ่งอัตราที่เปิดนั่นเเหละที่คนในจะได้พวกที่มาสอบถ้าผ่าน60%ก็ได้ขึ้นบัญชีไว้สองปีรอเรียก)มาถึงตรงนี้หลายคนอาจเถียงว่าอักษรศาสตร์ก็ไม่ใช่วิชาชีพนะเเต่คุณอย่าลืมว่าอักษรศาสตร์เเม้จะไม่ใช่คณะวิชาชีพก็จริงเเต่หากคุณจบสายภาษาคุณเป็นล่ามได้ เป็นนักเเปลได้ เป็นติวเตอร์ได้เเถมงานด้านภาษาเงินค่าตอบเเทนสูงมากอยู่เเล้ว เเล้วรัฐศาสตร์ซึ่งเป็นคณะสายสังคมศาสตร์จะเอาอะไรไปเทียบ?
ประการต่อมารัฐศาสตร์ไม่ใช่สาขาที่จะต่อรองเงินเดือนได้ ไม่เหมือนวิศวะคุณเก่งในวิชาชีพวิศวกรคุณ
ต่อรองเงินเดือนได้ ทนายความถ้าคุณว่าความเก่งคุณต่อรองเงินค่าจ้างได้ เเต่รัฐศาสตร์ในเมื่อคุณไม่ใช่วิชาชีพที่เอกชนต้องการคุณจะเอาอะไรไปต่อรองเงินเดือนเขา? จริงมั้ย
ปัจจุบันประเทศไทยไม่ได้ต้องการบัณฑิตสายสังคมศาสตร์เพราะจบกันล้นเหลือมากมายมหาศาลในเเต่ละปี เเต่ตอนนี้ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุค4.0ซึ่งเป็นยุคที่ต้องการนวัตกรรมดังนั้นสายวิศวะ วิทยาศาสตร์ เเละไอทีกำลังเป็นที่ต้องการมากกว่า ดังนั้นรัฐศาสตร์นอกจากไม่ใช่สาขาวิชาชีพไม่มีงานสงวนไว้ให้โดยเฉพาะจึงทำให้โดนเเย่งงานง่ายมากเเละยังไม่ใช่สาขาที่ประเทศชาติต้องการอีกด้วย ฉะนั้นก่อนเลือกเรียนต้องคิดให้ดี จบมาไม่มีงานทำหรือต้องทำงานเงินเดือนต่ำๆโดนกดเงินเดือนจะขำไม่ออกนะครับ
ขอให้โชคดีในการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย
14 ความคิดเห็น
พอมาอ่านแล้วรู้เลยทำไมพี่ถึงซิ่ว
ถ้ารักและสนใจในสาขานี้ก็เรียนไปเถอะค่ะ ไม่มีใครรู้ว่าตลาดแรงงานจะเปลี่ยนไปขนาดไหน ทุกวันนี้ก็เปลี่ยนไปมากแล้ว งานที่คุณคิดว่ามีใบประกอบวิชาชีพ มั่นคง มันไม่มั่นคงอีกแล้ว รวมถึงงานด้านภาษา อีกหน่อยบ็อทแปลภาษาก็จะเข้ามา ถึงตอนนั้นจบอักษรอาจตกงานเป็นเบือมากกว่าก็ได้
บ็อทด้านกฎหมาย บ็อทด้านการแพทย์ก็ทยอยเปิดตัวออกมาเรื่อย ๆ เพราะงั้นแล้วอะไรคืออาชีพที่มั่นคง
คำตอบคือตัวคุณเอง
หาสิ่งที่ตัวเองชอบให้เจอซะ ไม่ว่ามันจะคืออะไร แล้วก็ใช้มันสร้างอาชีพให้ตัวเอง
คนคิดเเบบนี้ตกงานมานั่งบ่นนั่งร้องไห้กับผมมานักต่อนักเเล้วครับ โอเคครับเรียนในสิ่งที่ชอบมันเป็นความคิดที่ดีเเต่บางครั้งต้องดูตลาดเเรงงานด้วย
อีกอย่างก็คือในอนาคตต่อให้ตลาดเเรงงานเปลี่ยนอย่างไรสายรัฐศาสตร์ก็ไม่มีทางบูมครับ คณะสายสังคมศาสตร์มีคณะเดียวที่ยังมีโอกาสบูมคือนิติศาสตร์ เท่านั้น. โลกในอนาคตเเข่งกันที่เทคโนโลยี ประเทศไหนจะร่ำรวยหรือยากจนเเทบจะวัดกันที่ innovation index เลยครับ ไทยเเลนด์4.0ก็เน้นนวัตกรรม ยุทธศาสตร์ชาติ20ก็เน้นนวัตกรรม สภาอุตสาหกรรมหรือเเม้เเต่ประธานทปอ.ก็เคยออกมาบอกว่าประเทศไทยขาดเเคลนบัณฑิตสายวิทย์อย่างมากตรงนี้ก็ predict อนาคตตลาดเเรงงานได้เเล้วว่าต้องการเเรงงานด้านไหน
ส่วนเรื่องการนำหุ่นยนต์มาเเทนคนนั้น ประเทศไทยยังอีกหลายสิบปีกว่าจะถึงจุดนั้น ขนาดประเทศจ้าวนวัตกรรมเช่นญี่ปุ่น อเมริกา เกาหลีใต้ หรือพวกยุโรปตะวันตกยังเอาบ็อตมาเเทนคนไม่ได้เลย อาจมีเอามาใช้อยู่บ้างเเต่ยังน้อยมากๆ ประเทศไทยยิ่งเเล้วใหญ่ยังอีกนานครับ
จริงๆไม่ควรใช้ว่าคณะที่น่าสงสารและไม่จำเป็นอย่าเรียนนะคะ ทุกคณะทุกสายงานทุกอาชีพ เราเลือกได้หมด ถ้ารักที่จะเรียน ถูกค่ะจบรัฐศาสตร์คนเรียนเยอะ เปอร์เซ็นน้อย อาจจะไม่ได้ทำงานตรงสายที่เรียน แต่ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีงานทำถ้าเราคิดจะหา มีทุกคณะแหละค่ะที่จบแล้ววไม่ได้ทำงานตรงกับสายงาน ไม่ควรเปรียบเทียบกับด้านอื่น ทุกอาชีพ ทุกคณะเรียนคนละด้านอยู่แล้ว คงจะเปรียบเทียบไม่ได้ กระทู้ยังดูไม่เป็นกลางนะคะ ดูอคติอยู่
ทุ่งลาเวนเดอร์
ผมว่ารัฐศาสตร์เหมาะสำหรับการพัฒนาประเทศภาพกว้าง และควรเป็นนักการเมืองทุกระดับที่สุดเลย ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะมีภาระกิจตรงยิ่งกว่าคณะใดๆ เนืื้อหา ว่าด้วยการบริหาร การปกครองภาครัฐ การยกระดับความสามารถชุมชนเมือง หรือ ชนบท ด้วยการกระจายอำนาจ และ การมีส่วนร่วม ผมว่าคณะนี้เก่งที่สุด มากกว่า นิติศาสตร์ ทที่ผมมองว่าการพัฒนาประเทศติดขัดเพราะเรื่องข้อกฏหมายและการบังคับใช้นะ และคนจบกฎหมายเมืองไทยเยอะจริงๆ ส่วนนึงก็มาจากคนมีงานทำแล้ว มาเรียนเสริมความร้ให้ปฎิบัติได้ถูกต้องเป็นพลเมืองดี ส่วนที่จะไปได้ดีในสายจริงๆ ชั้น ศาล อัยการ ทนาย ก็ต้องเก่งจริงๆเท่านั้น นอกนั้นก็หางานยากเหมือนกันแหละครับ ผมเองก็เรียนกฎหมายแค่เพื่อรู้ไว้ทำงานเดิมเท่านั้นเอง แล้วแต่คนชอบดีกว่า จบอะไรถ้าชอบมันมีทางไปต่อเองแหละครับ
เตรียมตัวทั้งปีเพื่อเข้ารัฐศาสตร์คืออะไร??
ควรเบนไปทางนิติ?
อักษร?
กระทู้กำจัดคู่แข่งเหรอคะ งานออกจะกว้าง รัฐศาสตร์สอนให้รู้จักการเข้าใจคน การมองคน..มองสังคม ทำงานด้านไหนก็ได้ งานราชการ(ปลัดฯ ฝ่ายปกครอง), งานบริการ(แอร์ฯ), งานฝ่ายบุคคลบริษัทต่าง ๆ .ถ้าคุณไม่เลือกงาน และตั้งใจเรียนจริง ไม่ตกงานหรอกค่ะ คิดแบบ จขกท.ทุกคนคงไปเรียนหมอกันหมดละมัง
ขขอบคุณครับ
รู้สึกอยากกลับมาติดรัฐศาสตร์อีกครั้ง
เขาออกมาเตื่อนดีดี อ่านให้เคลีย เราว่าเขาเขียนเคลียมากเลยนะ
สาขาอะไรที่ มอ รามเค้าเปืด มันก้อเสี่ยงตกงานสูงอยู่แล้ว หมอไม่ได้เข้ากันง่ายๆนะ ถึงอยากเรียนถ้ากึ๋นไม่ถึงก้อได้แค่ฝัน
มุมหนึ่งเท่านั้นครับ ยังไม่รอบด้านหรือเชิงลึกพอที่จะตัดสินเช่นนั้นได้นะ
นึกว่าเข้ามาจะได้อ่านอะไรที่ดีหน่อย สุดท้ายกลับได้อ่านบทความที่เต็มไปด้วยอคติและตรรกะงี่เง่าสิ้นดี
จขกท. ซิ่วจากรัฐศาสตร์มารึเปล่าคะ เรียนถึงเทอมรึเปล่า คงไม่ถึงเทอมใช่ไหมคะเลยไม่ได้เรียนการเขียนที่ดีและมีเหตุผลมาน่ะ
ยอมรับความจริงเถิดเด็กน้อย
งือออออออ
เห็นด้วยครับ ส่วนตัวคิดว่าอักษรศาสตร์เป็นต่อกว่าในหลายเรื่อง
คนจบรัฐศาสต์ปีหนึ่งประมาณ สองหมื่นคน แสดงว่าคนสนใจเรียนรัฐศาสตร์กันมากไม่เบา ถ้าเรียนแล้วหางานยากจริงตามที่บอก แสดงว่าคนเลือกเรียนรัฐศาสต์ ไม่ฉลาดเลยน่าสงสารจริงๆ
รัฐศาสตร์ราม plan c
เป็นสาขาที่เรียนจบง่ายสุด
นั่นคือเหตุผลที่คนแห่กันเรียน
ผมเห็นด้วยกับ จขกท.นะ คือหน่วยงานที่จะมารองรับ สายรัฐศาสตร์ นั้น ก็มีแต่งานราชการซะส่วนใหญ่ แต่ตำแหน่งงานมีน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนคนที่จบออกมา โดยส่วนใหญ่ก็เลยจำยอมหางานที่ไม่ตรงกับวุฒิสักเท่าไหร่ก็ต้องทำ หากเลือกหลีกเลี่ยงได้ก็เลี่ยงเถอะ
ถ้าไม่ได้จบจาก จุฬาฯ ก็ไม่แนะนำให้เรียน
ขอบคุณมากครับจะได้ไม่เลือกรัฐศาสตร์ เคยได้ยินว่าถ้าไม่ได้
เกรียตินิยม และจบ ฬ มธ หางานตรงสายยาก
คือทุกอย่างนี้ stereotype เดียวกันหมดสินะ จะเรียนคณะ ..... ต้อง จุฬาฯ ต้อง มธ. ฯลฯ ตามแต่คณะที่คุณเลือก เป็นกันหมดทุกสายอาชีพ ยึดติดกันจริงค่ะ แล้วแบบนี้คนที่เลือกเรียนทีอื่นคือไม่เก่งเหรอ ไม่มีโอกาสก้าวหน้า? ไม่จบจุฬา ไม่จบ มธ.คือบุคคลชั้นสอง?! แล้วแบบนี้ มช มข มอ กับ อื่นๆเปิดมาเพื่ออะไรกัน????!!!
เขาก็เขียนชัดนะ
ไม่ใช่ทุกคณะทุกสาขาต้องต้องจบจุฬา มธ.
ซักแต่ว่าจะเถียงเอาชนะ ??
คุณมาสรุปอะไรของคุณว่าฉันจะเถียงเพื่อเอาชนะ???
"ด้านตำแหน่งนักการฑูต ถ้าคุณเก่งขนาดจบรัฐศาสตร์จุฬา-ธรรมศาสตร์ในระดับเกียรตินิยมได้ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เเต่ถ้าคุณเรียนรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยอื่นที่ไม่ใช่จุฬา-ธรรมศาสตร์เเล้วอยากเป็นนักการฑูตคุณต้องตื่นจากภวังค์โดยด่วน"
รึว่าคุณอ่านภาษาไทยไม่เข้าใจ? แล้วมัน stereotype เดียวกันมั้ยเล่ากับอาชีพอื่นๆ? ใช่ค่ะ ที่คุณบอกน่ะมันถูกว่าไม่ใช่ทุกคณะหรอกที่ต้องจบ จุฬาฯ จบ มธ. บางคณะที่จุฬาฯ หรือที่อื่นมี มธ.ก็ยังไม่มี เข้าใจดีค่ะ แต่คุณควรจะดูข้อความของ จขกท.ข้างต้นเอาไว้ด้วยว่าเขาพูดถึงสถาบันไหนบ้าง
แล้วคุณเอาข้อสรุปว่าฉันเถียงเอาชนะมาจากไหนกัน? รึว่าคุณเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างข้อความไม่ได้? หาเวลาว่างไปเรียนภาษาไทยใหม่ก็ดีนะคะ
เขาพูดถึงเฉพาะรัฐศาสตร์ต้องจุฬาฯธรรมศาสตร์ถึงจะหางานง่าย
ซึ่งมันคือข้อเท็จจริงของคณะ
จบ มช มข มอ.เป็นบุคคลชั้นสองมาจากไหน??
มีใครบอกจบจากที่อื่นเป็นชนชั้นสอง
เขาบอกว่ารัฐศาสตร์ต้องจุฬา มธ.ถึงจะหางานง่ายกว่าจบที่อื่น
มันคือเรื่องจริง
โยงดราม่าเพื่อ ???
เราเป็นเด็กสายวิทย์นะไม่ค่อยมีความรู้เรื่องข้อแตกต่างของรัฐ นิติ อักษร ในเชิงลึกเท่าไหร่
แต่คิดว่าชื่อหัวกระทู้นี้มันดูรุนแรงไปสำหรับคณะที่ก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น
คิดว่าถ้าได้หลายๆภาษาอาจจะช่วยก็ได้นะ...แบบเป็นความสามารถพิเศษ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?