[How To] มาแบ่งปันวิธีเขียนและลงนิยายผ่านทางโทรศัพท์ของเราค่ะ
สืบเนื่องมาจากเราเป็นคนที่ไม่ค่อยได้แตะคอม และคอมที่มีมันก็กากมากๆ ด้วย (มาแอบว่ามันลับหลังแบบนี้ กลับไปใช้อีกทีจะเจ๊งเลยมั้ยนะ5555) แต่ด้วยความที่ไฟในการเขียนมันมีมาก พอโตขึ้นเขียนในสมุดมันก็ไม่พอแล้ว อยากเอามาลงเว็บอ่ะ! เราก็เลยคิดค้นวิธีเขียนในโทรศัพท์มาจนได้ รวมทั้งดั้นด้นเอาลงเว็บ dek-d ด้วย ก็เลยอยากจะมาแชร์วิธีของเราค่ะ เพราะแอบเห็นบางคนก็มีเขียนในมือถือกันบ้างแล้วค่อยก็อปไปลงเวิร์ดกันทีหลังอะไรแบบนี้ คิดว่าวิธีของเราน่าจะมีประโยชน์กับทุกคนบ้างค่ะ
เราใช้วิธีนี้มานานแล้ว เรื่องปัจจุบันเป็นเรื่องที่สามแล้วค่ะ รวมทั้งเรื่องที่แล้วก็ส่งให้สนพ.พิจารณาไปแล้วเรียบร้อย กำลังรอผลอยู่ #ตื่นเต้นสุดๆ55555 เคยคิดว่าจะมาแชร์วิธีนานแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำซะทีเพราะไม่รู้จะเขียนอธิบายยังไงให้เห็นภาพง่ายๆ พอดีพึ่งเปิดแชแนลเราก็เลยทำเป็นคลิปซะเลย55555 อาจจะพูดไม่รู้เรื่องนิดหน่อยแต่ก็หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ >< คลิกดูได้เลยค่า~
2 ความคิดเห็น
เข้ามาฝากถึงนักเขียนที่เขียนนิยาย และอัพนิยายทางโทรศัพท์นิดนึง เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวเท่านั้น จขกท.แนะนำดีแล้วที่ใช้แอพกูเก้งดอคค่ะ อย่างน้อยมันคงลดปัญหาที่ว่าด้นสดเซฟดราฟแล้วหาย
เราเข้าใจว่านักเขียนบางคนเวลาเปิดหน้านิยายเช็คคงเปิดจากแอพ แต่บางคนถนัดอ่านจากคอมเช่นเราเป็นต้น เราเคยเจอนิยายที่จัดหน้าได้ลายตาคือ ไม่มีย่อหน้า (อันนี้เข้าใจบางทีการย่อหน้ามันยาก บางทีก็อบมาแล้วย่อหน้าเลื่อน) ถ้าย่อไม่ได้ช่วยเคาะบรรทัดแยกย่อหน้าให้ทีเถอะค่ะ ตัวอักษรติดกันเป็นพรืดมันอ่านยาก
และที่เจอล่าสุดจนพูดกับตัวเองว่า ขออนุญาตปิดนะคะ คือนอกจากไม่เคาะบรรทัด คุณตั้งตัวอักษรน่าจะราวๆ 20-22 pt แถมใส่ตัวหนา คือเข้าใจว่าอยากให้อ่านง่าย แต่ใหญ่ไปใส่ตัวหนามันให้อารมณ์ 'แข็ง' มากจนไม่อยากอ่านเลยค่ะ ถึงจะมีฟังก์ชั่นลดขนาดตัวอักษรก็ตาม ตอนแรกเห็นตั้งแต่เข้าหน้านิยายแล้ว แต่หน้านั้นใส่ตัวใหญ่เข้าใจว่าเพื่อเรียกความสนใจ เลยลองเปิดตอนแรกแล้วก็สตั้นค่ะ จึงต้องขออนุญาตปิดทันที
ถ้าอย่างไรเวลาลงแล้วรบกวนลองเปิดเช็คดู (ผ่านเบาว์เซอร์) กันนิดนึงนะคะ มันจะทำให้นิยายคุณน่าสนใจขึ้นมากเลยค่ะ
เร็วๆ นี้เราเพิ่งได้รับคอมเมนท์มาเกี่ยวกับการจัดหน้านิยายนี่แหละค่ะ นักอ่านใหม่บอกว่าอ่านในมือถือมันเลยหน้าต้องเลื่อนไปเลื่อนมา แต่ปัญหานี้เราลองเปิดจากแอพไม่เป็น แต่ถ้าเปิดจากเบาว์เซอร์จะเป็น เปิดในคอมก็ปกติ มันจึงเป็นปัญหาที่เราเองก็แก้ไม่ถูกเช่นกัน ที่อยากฝากก็มีเท่านี้ค่ะ ขอบคุณสำหรับพื้นที่ ขออภัยจขกท.หากรบกวน
ใช่ค่ะ เราเห็นด้วยกับการเช็คในคอมมาก เพราะเคยพลาดมาแล้วตอนเรื่องแรก555555 พอรู้ก็เลยเช็คดูในคอมไว้ว่าตัวไหนเท่าไหร่จะเว้นจากตรงนี้เท่าไหร่แล้วจดเอาไว้ พอตอนลงในโทรศัพท์จะได้ไม่พัง การจัดย่อหน้านี่เราว่ามีผลมากจริงๆ
ตอบผิดคห.ง่ะ ขอโทษนะคะ >__<
คำแนะนำส่วนตัวค่ะ...
พิมพ์ในโทรศัพท์บ่อยจนตอนนี้มีปัญหาเรื่องเอ็นอักเสบ (ระวังแต่นิ้วล็อก แต่พลาดที่เอ็นตรงเส้นนิ้วโป้งลากยาวไปถึงข้อมือ) และมันไม่หายขาดค่ะ พอทุเลาแล้วกลับไปทำแบบเดิม แต่น้อยลง ถึงอย่างนั้นเอ็นก็ยังมีปัญหา ตอนนี้ผ่านมาจะครึ่งปีแล้วก็ยังคงเป็นอยู่ เกิดกับเอ็นแล้วไม่หายง่ายๆ
หมอก็ด่าว่าเป้นโรคที่เกิดจากพฤติกรรม ถ้าไม่เปลี่ยนพฤติกรรมก็อย่าหวังว่าจะหายเลย สุดท้าย พฤติกรรมที่ต้องพิมพ์มือถือเลยต้องลด ละ เลิกค่ะ ตอนนี้ถืออ่านธรรมดายังแปล๊บเลย
ถ้ายังไม่เป็นโรคนี้ แนะนำว่าไปพิมพ์ในคอมเถอะ (ไม่ได้แช่งนะ ตอนนี้ไม่เป็นแต่ในอนาคตก็ไม่แน่) พอได้เป็นแล้ว ก็คงติดตัวไปอีกกาลนาน แล้วมันจะตามมาหลอกหลอนอีกเรื่อยๆ พิมพ์ในคอมก็ไม่ถนััด พิมพ์ในมือถือยิ่งไม่ได้ เสียแล้วเสียเลย
ด้วยความปรารถนาดีค่ะ
ขอบคุณที่เตือนค่ะ เราคงต้องปรับพฤติกรรมที่พิมพ์ลงโทรศัพท์เวลาอยู่นอกบ้านเป็นเขียนแทนแล้ว คือตอนแรกคิดว่าพิมพ์เวลากลับบ้านจะได้ถ่านใส่คอมมาไม่ต้องพิมพ์ใหม่สะดวกแท้ เจอแบบนี้คงต้องปรับเปลี่ยนแล้วค่ะ
ดีแล้วล่ะค่ะ อย่าเป็นเหมือนเราเลย เราไปหมดเลยค่ะ หลายอย่างมาก เราพิมพ์มือถือเยอะ บางทีวางไว้กับโต๊ะพิมพ์ (ไม่อยากถือ เอ็นอักเสบ) ผลที่ได้ ตรงต้นคอพังผืดขึ้นง่ะ
เวลาพิมพ์เราจะยื่นคอไปดูหน้าจอโดยไม่ได้ตั้งใจ คือ ถ้าวางบนโต๊ะจะต้องยืดคอไปมอง ต้นคอรับน้ำหนักกะโหลกไปสิ คือคอตั้งตรงก็สำหรับรับน้ำหนักกะโหลกตรงๆ ในแนวดิ่ง มีร่างกายช่วยเฉลี่ยน้ำหนัก แต่ถ้ากะโหลกยื่นออกมา ก็เหมือนต้นคอต้องรับน้ำหนักอย่างเดียว หนักเกินไปสำหรับต้นคอบางๆ
(คิดว่ามาจากหลายสาเหตุ แต่เชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมการใช้มือถือค่ะ)
จะเหลือก็นิ้วล็อกนี่แหละที่ยังไม่เป็น และหวังว่าจะไม่เป็น ^^"
เจ้าของความคิดที่สอง peiNing Zheng
ผมขอแนะนำว่า อย่าพิมพ์งานต่อเนื่อง ให้พักทุกๆ 15 - 20 นาที ซึ่งเวลาช่วงที่พักนี้ เอาไปออกกำลังกาย ยืดเส้นยืดสาย แกว่งแขน หมุนคอ ก้มหน้า หงายหลัง เอาเป็นว่าทำยังไงก็ได้ให้ร่างกายขยับให้มากที่สุดทุกส่วน ไม่งั้นเส้นยึด อาการหนักอาจทำให้ปวด ขอบอกตามตรงถ้าไปหาหมอนวดจะเป็นฝันร้ายที่สุด ผมเคยมาแล้ว หมอนวดเอาเสียร้องไม่เป็นภาษาเลย กว่าจะทำให้กลับมาขยับได้ปกติ
แล้วถ้าเป็นไปได้ ต้องเปลี่ยนสถานที่ทำงานด้วย อย่างเช่น ครึ่งชั่วโมงแรก นั่งเขียนงาน ครึ่งชั่วโมงต่อมา ยืนเขียนงาน ครึ่งชั่วโมงต่อมาอีก นอนเขียนงาน เพื่อให้ร่างกายได้เปลี่ยนท่วงท่า แต่อันนี้ไม่รู้ว่าคุณจะทำได้หรือเปล่า พอดีตัวผมใช้โทรศัพท์เชื่อมต่อกับคีย์บอร์ดไร้สายเขียนนิยาย จึงสามารถย้ายมุมต่างๆ ไปเขียนตรงไหนก็ได้ที่มีให้วางอุปกรณ์ อาจจะเป็นโต๊ะคอม ,ชั้นวางทีวี ,เตียงนอนเล่น เป็นต้น
เราไม่ได้พิมพ์นิยายในคอมค่ะ หลักๆ พิมพ์อีเมล ^^" (ต้องเรียกว่าเป็นออฟฟิศซินโดรมมากกว่า แต่ส่วนหนึ่งเป็นจากการใช้มือถือน่ะค่ะ) อีกส่วนหนึ่งคือ เราชอบอ่านนู่นนั่นนี่ในมือถือ เวลาเพลินๆ ท่านั่งไม่ถูกสุขลักษณะเท่าไร เลยแย่เลยค่ะ
ปล. 1 นอนเขียนงานไม่ดีนะคะ ถ้านอนคว่ำ ลงไหล่ ลงหลัง ถ้านอนหงาย ลงแขน ข้อมือ และสายตาค่ะ
ปล. 2 สังเกตตัวเองเวลาปวดด้วยค่ะ การไปหาหมอนวด อาจทำให้สิ่งที่บาดเจ็บอยู่แล้วยิ่งแย่ลงค่ะ ตอนที่เราเจ็บข้อมือก็ไปนวดเหมือนกัน สุดท้ายไปหาหมอ เส้นเอ็นอักเสบค่ะ การนวดไม่ได้ช่วย แต่ไปซ้ำเติมสิ่งที่เป็นอยู่แล้วให้ยิ่งแย่กว่าเดิม
แสดงว่าอยู่ในท่วงท่านั้นนานมาก ถึงเป็นหนักขนาดนั้น ของผมแค่ปวดบ่า มือชา ขาชา ปวดหัวเข่า
ยังไงก็รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ
โอโห ขอบคุณมากนะคะที่เตือน งือ ;---; น่ากลัวมาก แต่ว่าเดี๋ยวนี้เราเชื่อมโทรศัพท์กับคีย์บอร์ดแล้วค่ะ ไม่ได้ถือพิมพ์ แต่ก่อนตอนถือพิมพ์นานๆก็เคยปวดข้อมือมากเลยค่ะ ดีนะที่ไม่ค่อยได้ทำแล้ว ฮือ
เราขอเตือนเพิ่มอีกเรื่องนอกจากเรื่องออฟฟิศซินโดรม ทั้งนิ้วล็อค ทั้งพังพืดที่คอ
เราเป็นเส้นเอ็นคออักเสบเรื้อรังค่ะ ต้องงดใช้กระเป๋าแบบสะพายที่มันกดไหล่ช่วงคอ รวมถึงอะไรหลายๆ อย่าง (เป็นมาตั้งแต่ยังไม่จบมหาลัยเลยค่ะ) ต้องคอยหมุนคอ ขยับคอออกกำลังช่วงคอช่วงไหล่สม่ำเสมอมากไม่งั้นปวดมากเลยล่ะค่ะ
ตอนนี้พออายุมากขึ้นเจออีกโรคค่ะ ปกติทำงานก็ใช้สายตากันมากอยู่แล้วใช่ไหมคะ เขียนนิยายก็ใช้มากขึ้นกว่าเดิมอีก เหตุที่เราพยายามเขียนมือส่วนหนึ่งเพื่อลดการมอง จ้องหน้าจอนานๆ ค่ะ สิ่งหนึ่งที่นักเขียนควรมีติดตัวคือ น้ำตาเทียมค่ะ เวลาจ้องคอมนานๆ พักสายตาบ้าง หลับตาบ้าง แต่พอแก่ตัวต้องพึ่งน้ำตาเทียมช่วยดวยค่ะ หมั่นหยอดบ้างค่ะ เพื่อสุขภาพตา เราใช้แบบเป็นหลอด single use ค่ะ พกไว้เวลาไปข้างนอกเจอฝุ่นเจออะไรก็หยอดล้างตา เดี๋ยวนี้คนเป็นต้อลมเยอะค่ะ นอกจากโรคแพ้แสงคอมฯ แล้ว แถมเราทำงานเกี่ยวกับสารเคมี ถึงจะมียาล้างตาประจำกล่องปฐมพยาบาลแต่คนใช้ไม่รู้กี่คน เราเตรียมของเราไปเองอุ่นใจกว่าค่ะ มีช่วงหนึ่งโดนใช้แปลเอกสารข้อมูลความปลอดภัย 9 ชุดใน 1 อาทิตย์ แปลเสร็จปวดตาเป็นของแถมค่ะ ถนอมสายตากันหน่อยนะคะ
กระทู้นี้กลายเป็นถกปัญหาสุขภาพไปเสียแล้ว ถถถ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?