ประสบการณ์ตอนไปจีน
ตั้งกระทู้ใหม่
จุ๊กกรู๊!! คิดถึงจังเลย….. หลังจากห่างหายไปนาน คันปากยิบๆพิมพ์ออกมาเป็นตัวหนังสือแทบไม่ทัน มีเรื่องจะเล่าเยอะแยะเต็มไปหมด เอาทีละเรื่องละกันเนาะ ว่าด้วยเรื่องของโอกาส “โอกาสก็เหมือนไอติม ถ้าไม่รีบกินก็น่าเสียดาย” หืมม พูดแล้วก็อยากขึ้นมาทันที โอเคเราจะไม่ออกนอกเรื่องละ เราเชื่อว่าหลายๆคนมักมีโอกาสดีๆเข้ามาในชีวิตหลายครั้งแหละแต่ก็คว้าเอาไว้ไม่ได้สักที เราเองก็เป็นอีกคนนึงที่พลาดโอกาสดีๆไปหลายครั้ง แต่ถ้าครั้งไหนคว้าไว้ได้ละก็ พูดเลยบันเทิง ฮ่าๆๆ
เมื่อไม่นานมานี้เราได้มีโอกาสทำโปรเจคนึง ร่วมกับนักศึกษาจีน หลังจากนั้นเราก็ได้มีโอกาสเดินทางไปร่วมงาน CHINA-ASEAN VOCATIONAL EDUCATION EXHIBITION AND FORUM ในฐานะตัวแทนคณะนิเทศศาสตร์ เพื่อนำเสนอ cross country activity base project ตั้งแต่วันที่ 9-14 กันยายน 2017 ซึ่งเราไม่มีพื้นฐานภาษาจีนเลย ความมันส์มันบังเกิดตอนนี้นี่แหละ ครั้งนี้ขอบรรยายความรู้สึกล้วนๆ น้ำเน้นๆไม่เอาเนื้อผสม แฮ่!! วันนี้แรกที่เราได้ลิ่มลองอาหารของประเทศจีนโอ้โห้!!! ลวกปาก ร้อนยันลิ้นไก่ งานเข้าต่อมรับรสเหมือนพังไปชั่วขณะ แต่ก็ไม่วายกินต่อได้อยู่ทุกครั้งที่อาหารลงเรากับรุ่นพี่อีกคนนึงตาจะลุกวาวๆ อุทานในใจ ป๊าดดดดด นี่กับข้าวหรอ? นึกว่าพายุฝนลูกเห็บ เรียกได้ว่าอืดตั้งแต่วันแรก
เราโคตรแฮปปี้อะเพราะเพื่อนๆนักศึกษาจีนดูแลเทคแคร์เราอย่างดี มารับเราออกไปเที่ยวชมเมืองพาเรากินๆๆตั้งแต่ตะวันยันไม่ตกดิน กินจนต้องร้องขอชีวิต เรียกได้ว่ากวาดสายตาไปทางไหนได้กินทุกอย่าง บางคนอาจจะสงสัยว่าแล้วเรากับเพื่อนชาวจีนสื่อสารกันยังไง ภาษามือล้วนๆ อูๆยูๆก่าก๋า ฮ่าๆๆ นี่แหละที่เขาเรียกว่าเสน่ห์ของภาษา จบไปอีกหนึ่งวันเป็นช่วงเวลาที่ไม่อยากให้ผ่านไปเลย โคตรมีความสุข พอตกอีกวันเราก็ได้มีโอกาสไปร้องคาราโอเกะกับเพื่อนชาวจีน งานงอกกกก จะร้องอะไรยังไงดี เนียนกินถั่วกับน้ำชาก็ได้วะ ฮ่าๆๆ
ซึ่งรุ่นพี่ของเรามีความทำการบ้านหัดร้องเพลงจีน ห่าวเสียงหนี่ เห็นร้องตั้งแต่เริ่มทำโปรเจคตั้งแต่ไทยจนจะหลับไทยอีกรอบก็ยังร้องได้แต่ ห่าวเสียงหนี่ ห่าวเสียงหนี่ หาวเสี่ยงหนี่ ห่าวเสียงหนี่ ไอเราก็เหมือนฟังเพลงคุกกี้เสี่ยงทายแรกๆอะ สักพักมันเริ่มเข้ามาในสมองละ สักพักเริ่มร้องตามมมมม นานๆเข้าใครก็ได้เอามันออกไปจากฉันหัวที…………ก็ติดเพลงนี้อยู่พักใหญ่กว่าจะหาย
บางคนอาจจะตั้งคำถามว่าเราได้ประโยชน์อะไรกลับมาบ้าง ตอบเลยได้ดิ ได้มิตรภาพที่ดีกลับมา คุณรู้ไหมว่าคำว่าเพื่อนไม่เคยแบ่งชนชาติ ศาสนา ภาษา หรือว่าสีผิวใดๆมันอยู่ที่ใจล้วนๆ พอถึงเวลาที่เราจะได้กลับไทย ใครหลายคนอาจจะมองว่าเราน้ำเน่าแต่เราโคตรอยากร้องไห้ มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากสำหรับเรา เวลาที่ผ่านไปแต่ละวัน มันผ่านไปเร็วจนเราอยากจะหมุนนาฬิกาให้กลับมาวันแรกที่เราอยู่ที่นั่นทุกวัน เราได้เรียนรู้ภาษาจีนพื้นฐานกลับมา เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศจีน และนอกจากนี้ ดร.กิตติพัฒน์ สุวรรณชิน อธิการบดีพร้อมตัวแทนคณะผู้บริหารและนักศึกษา ขึ้นรับการสนับสนุนในด้าน Hardware และ softwarebe-commerce จากกลุ่มผู้บริหาร Beijing Botao ซึ่งเป็นบริษัท e-commerce ที่ใหญ่ที่สุดในปักกิ่ง ณ เมืองหนานหนิง ประเทศจีน เพื่อกำหนดรูปแบบการจัดตั้งศูนย์ธุรกิจ e-commerce ร่วมกันมูลค่า 5,000,000 CHY ซึ่งเป็นแห่งแรกในเมืองไทยที่ดำเนินการศูนย์ e-commerce โดยผนวกเข้ากับการเรียนการสอนของนักศึกษาบนความร่วมมือของสองประเทศ อีกไม่นานเราจะเป็นมหาวิทยาลัยที่ไม่ใช่แค่สอน แต่จะสามารถพัฒนาทักษะผู้เรียนให้เข้าสู่โลกแห่งการประกอบการเต็มรูปแบบ เห็นมะ บอกแล้วว่าได้ดิ ได้มาเยอะด้วย
สุดท้าย ขอบคุณที่ทนอ่านจนจบ ความรู้สึกดีๆไม่อยากเก็บเอาไว้คนเดียวหรอกมันอึดอัด พูดแล้วเดี๋ยวหาว่าโม้อะเอาไปดูกัน (รอคลิปสักครู่นะคะ)
นางสาวกิตติมา มณฑาทอง
นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์
มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น
นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์
มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น
2 ความคิดเห็น
น่าสนุกดีนะค่ะ
มาเรียนด้วยกันสิ จะได้ไปจีนด้วยกัน ^^
อยากไปจััง
อยากให้ไปด้วยกันนนนนน ไว้มาเรียนที่ม.ฟาร์ด้วยกันน๊าาา จิได้ไปด้วยกัน
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?