รบกวนเพื่อนๆ ช่วยสอนวิธีการบรรยายสถาปัตยกรรมอย่างละเอียดให้หน่อยซิค่ะ ประมาณว่าละเอียดจนถึงขั้นให้สถาปนิกอ่านแล้วร่างภาพขึ้นมาได้ทันที!
ตั้งกระทู้ใหม่
ปรกติแล้วดิฉันเป็นคนคิดมากเรื่องการแต่งฟิคเพราะไม่รู้ว่าจะแต่งยังไงให้คนอ่านเห็นภาพได้
อีกอย่างหนึ่งก็คือดิฉันชอบความละเอียดลออในการบรรยาย
ไม่ว่าจะเป็นความละเอียดบนพื้นฐานรูปร่างหน้าตาของตัวละคร แล้วฉันเองก็ชอบบรรยายแบบให้สามารถเสก็ตภาพเหมือนออกมาได้อะไรแบบนี้เลยน่ะค่ะ
บางคนบอกว่า ตามจริงแล้วนิยายไม่ควรละเอียดขนาดนั้น แต่ดิฉันเป็นคนเจ้าระเบียบค่ะ ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ เพราะถ้ามีอะไรผิดพลาดไปนิดเดียวก็ไม่เพอร์เฟคในผลงานเสียแล้ว
เราเพิ่งไปเจอกระทู้ของนักเขียนที่ชอบปรากฎขึ้นมาให้เห็น ได้เข้าไปอ่านเลยเพิ่งนึกออกว่าเราเองก็มีปัญหาเรื่องการบรรยายสถาปัตยกรรมเหมือนกัน เราไม่รู้เลยว่าจะบรรยายอย่างไรให้สามารถดึงคนอ่านไปอยู่ในเรื่องได้
ขอคำตอบจากคำถามตามที่หัวกระทู้ตั้งไว้เลยคะ
มิตรสหายท่านไหนที่สอนดิฉันและนักเขียนมือใหม่ท่านอื่นได้ โปรดขอความกรุณาช่วนสอนอย่างละเอียดด้วยนะคะ
ว่าจะบรรยายสถาปัตยกรรมและรูปแบบเคหะสถานอย่างไร ให้เห้นภาพได้ละเอียดชัดเจนที่สุด
และทำยังไงถึงจะบรรยายได้ละเอียดถึงขั้นที่ว่า "หากเอางานเขียนไปให้สถาปนิกอ่านก็สามารถร่างภาพสถาปัตยกรรมขึ้นมาได้ในทันทีเพียงแค่อ่านจากคำบรรยายของเราเท่านั้นเอง"
ขอบคุณค่ะที่ช่วยเหลือกัน
11 ความคิดเห็น
รบกวนเพื่อนๆ ช่วยสอนวิธีการบรรยายสถาปัตยกรรมอย่างละเอียดให้หน่อยซิค่ะ ประมาณว่าละเอียดจนถึงขั้นให้สถาปนิกอ่านแล้วร่างภาพขึ้นมาได้ทันที!
สวัสดีค่ะ
เม้นต์นี้เป็นนักเรียนหัดเขียน...นะคะ
เข้ามาคอยเก็บความรู้ด้วยคนค่ะ
ในบอร์ดแห่งนี้...นะมีทั้งวิศวะ มีทั้งสถาปนิก ก็หวังว่าเจ้าของกระทู้จะได้รับคำตอบโดยละเอียดตามที่คุณต้องการความช่วยเหลือ...นะคะ
เป็นกำลังใจทั้งคุณเจ้าของกระทู้
และเพื่อนๆ...ผู้ัมีประสบการณ์ที่จะเข้ามาแนะนำเป็นคำตอบค่ะ
เด็กนักเรียนหัดเขียนจะคอยเก็บคำตอบไว้...เป็นความรู้ เป็นข้อมูล เพื่อเขียนนิยาย...ด้วยอีกคนค่ะ
ทีขอความช่วยเหลือ...เพื่อเป็นประโยชน์...เป็นข้อมูล...นี้นะ ไม่มีคำตอบเลยด้วยเนาะ (บ่นๆ เลยด้วย)
หรือว่าจะมีนะ...คอยดูไปก่อนนะคะเจ้าของกระทู้ (แต่ดูช้าจังเนอะ คำตอบนะไม่ยอมปรากฎ)
หรือว่าจะตั้งกระทู้ถามว่า...อยากออกแบบตั้งโรงานผลิตดราม่า เอ่ย ไม่ใช่ ออกแบบโรงงานผลิตมาม่า ...สงสัยจะมีคำตอบเร็วๆไหมนะ ตั้งทู้แวบๆเดียวน๊าา มีวิวขึ้นให้เห็นเป็นหลายๆร้อย...มีคำตอบ...ยาวๆเป็นหางว่าว...เลยด้วย(บ่นต่ออีก..ด้วย)
การเขียนข้อมูลนี้...นี้นะสงสัยเป็นอะไรที่ไม่สนุกแน่ๆเลยมั้งเนาะ ไม่มีใครเข้ามาช่วยแนะนำเลยด้วย
หากไม่มีใครเข้ามาช่วยตอบ...นะคะ พรุ้งนี้นักเรียนหัดเขียนจะกลับเข้ามาช่วย...จินตนาการร่าย...เป็นคำตอบให้คุณค่ะ จะผิด จะถูกก็ช่างเถอะเนาะ (ฝึกๆเขียนให้เป็นนิยายไปเลย ผิดช่างมันเนาะ ก็ไม่มีความรู้นี่นะ ฮื้อ)
แต่วันนี้...น๊าาา ง่วงงงงงแว๊วต้องไปนอนก่อนแล้วค่ะ
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ สู้สู้ คอยคำตอบต่อไปนะคะ เอาใจช่วยค่ะ
ปกติเราร่างภาพสถานที่ลวกๆแล้วค่อยบรรยายทีละส่วนเอา
เช่นลักษณะสถานที่ที่อยากให้เห็น วัสดุทีใช้คร่าวๆ ความรู้สึกตัวละครที่สื่อออกมา
เปรียบให้เหมือนกับอะไรก็ว่ากันไป เราคิดว่าวิธีดึงความรู้สึกให้เหมือนสถานที่จริงต้องทำตัวละครของเรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ ให้ได้ก่อน
เอาตรงๆ นะคะ
เวลาสถาปนิกร่างภาพตามคำว่าจ้างก็ใช้แค่คำง่ายๆ เนี่ยแหละค่ะ (จากประสบการณ์ที่เคยเห็น)
อยากได้ห้องกี่ห้อง ตรงไหนสีอะไรให้ความรู้สึกแบบนั้นก็พอ
แล้วสถาปนิกก็ร่างภาพในหัวของเขาออกมาเองค่ะ
หรือไม่ถ้าท่านอยากได้ละเอียดยิบจริงๆ คิดว่าให้ลองศึกษาพวกสถาปัตยกรรมเก่าๆ ดู
มันจะมีพวกที่บอกลักษณะโครงสร้างสถานที่อะไรทำนองนี้อยู่ ลองปรับใช้ได้
เราไม่ได้เก่งอะไรหรอก แค่บอกเล่าจากประสบการณ์เท่านั้นเอง
เอาจริงๆ เรื่องนี้ค่อนข้างน่าสนใจนะครับ อีกอย่างเรื่องการบรรยาย ถ้าเราใส่ใจมากก็จะทำให้คนอ่านเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น เข้าถึงเนื้อหาได้มากขึ้นด้วย ทว่า เนื่องด้วยภาษาไม่ใช่เครื่องมือที่จะกำหนดภาพให้แก่คนอ่านได้ตายตัวจริงๆ อันนี้ลองดูการบรรยายแบบของผมก่อนดีกว่า:
"นภารัตน์เดินไปในตรอกมืด แสงไฟสลัวทำให้ภาพเบื้องหน้าถนนดูราวกับจะห่างไกลเธอไปเรื่อยๆ ... ภาพเริ่มเปลี่ยนไป จากถนนเส้นตรงเริ่มมีเส้นทางแยกสองท้าง ซ้ายเป็นถนนโอบล้อมไปด้วยป่ามืด ขวาเป็นถนนที่โอบล้อมไปด้วยหลอดไฟที่สูงเด่น คงนิ่ง พร้อมบ้านเรืองเก่าคร่ำที่ดูจะไม่น่าเชื่อว่าสามารถอยู่มาได้จนถึงปีนี้...และตรงหน้าเธอนั้น --- ประจันหน้าของเธอพอดี มีบ้านไม้เก่าผุสองชั้นยืนเด่นอยู่ แสงไฟสลัวทำให้บ้านนั้นดูยิ่งน่ากลัว หลังคานั้นเทาที่เห็นเป็นสีแดงราวกับเลือดสด หน้าต่างมีสี่บาน --- ชั้นแรกสองบานอยู่ขนาบประตู อีกสองบานอยู่ที่ชั้นลอง คงเหลือแต่เพียงกรอบหน้าต่างและกระจกบางส่วนที่หมองไปด้วยฝุ่น เพราะบางส่วนก็แตกเป็นช่องโหว่เผยให้เห็นความดำมืดภายใน"
เอาจริงๆ การบรรยายแบบนี้ถือว่ายังไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่ แต่ว่าคือถ้าจะบรรยายให้ละเอียดจริงๆ ก็ทำได้นะครับ คือให้ลองลำดับดูว่าจะบรรยายจากตรงไหนก่อน วิธีที่ง่ายที่สุดคือ จากซ้ายไปขวา หรือขวาไปซ้าย จากภาพรวมเข้ามาภาพใกล้ๆ ละเอียดขึ้น ซึ่งถ้าจะบรรยายสถาปัจตยกรรมที่ค่อนข้างยาก ดังเช่นคฤหาสน์หรู ทำเนียบขาว สภา ฯลฯ อาจต้องใช้ความรู้หรือคำเฉพาะเข้ามาอีก
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมว่าสำคัญที่สุด คือ "การเปิดโอกาสให้คนอ่านเข้ามามีส่วนร่วม" ในที่นี้คือเปิดโอกาสให้เขาคิดเองครับ ฉากที่ไม่ยากหรือไม่ง่าย ที่คิดว่าผู้อ่านน่าจะเข้าใจได้ง่าย แะไม่ได้ส่งผลต่อเนื้อเรื่องมากนักก็ไม่จำเป็นต้องบรรยายให้ละเอียดยิบก็ได้ เพราะนั่นจะทำให้คนอ่านรู้สึกว่าเหมือนถูกบังคับให้อ่านมากเกินไปครับ แต่ถ้าจะเขียนจริงๆ ให้ใส่อารมณ์ ความรู้สึก หรือบรรยายประหนึ่งว่าเราเล่าให้ผู้อ่านฟัง ก็จะทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่ามันเข้าใจได้ง่ายขึ้นครับ
อ่านแล้วเห็นภาพตามได้ง่ายๆ เลยครับ
ปกติไม่บรรยายอะไรแบบนี้ไงครับ เพราะขี้เกียจ 555 พอลองเขียนดูก็รู้สึกว่ายากจริงนั่นแหละ เลยปัดความรับผิดชอบให้ไปที่ตัวคนเขียนว่าจะเขียนยังไงก็เชิญเลยครับ คนอ่านรู้เรื่องก็พอ
เพราะต้นทุนของแต่ละคนไม่เท่ากัน อันนี้อยู่ที่ประสบการณ์คนอ่านและคนเขียนแล้วล่ะครับว่าจะตีความอย่างไร
กระผมเขียนเอาตามที่ตัวละครควรเห็นขอรับ
อย่างเช่นเข้าไปในห้องที่ไม่เคยไปไม่มาก่อน อย่างแรกที่ควรบรรยายคือความรู้สึกของตัวละครที่มีต่อห้องนั้น จากนั้นบรรยายตามลำดับที่สายตาของตัวละครกวาดผ่าน ไม่ใช่บรรยายจนละเอียดละออราวกับว่าตัวละครเห็นทุกซอกทุกมุมของห้องนั้น ประหนึ่งเป็นคนสร้างก็ไม่ปาน
แต่ถ้านักเขียนใช้การเขียนบรรยายแบบมุมมองของพระเจ้า นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง จะเอาละเอียดยันโครงสร้างเหล็กภายใน มุมไหนซุกซ่อนช่องลับไว้ ก็ได้หมดเลยขอรับ
นี่เป็นเทคนิคของกระผม อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด อย่างไรก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ตามความเหมาะสมนะขอรับ
ถ้าอยากเขียนให้สภาปัตย์ฯ รู้เรื่อง ก็เลือกใช้คำพูดจากหนังสือสถาปัตยกรรมสิคะ มีเต็มแผงหนังสือ หาไม่ยากค่ะ น่าจะครอบคลุมสถาปัตยกรรมทุกแขนง
ส่วนตัวผมเข้าใจว่าคนเขียนเขาจะทำให้คนอ่านเข้าใจยุคสมัยและเหตุการณ์บ้านเมืองของสถานที่นั้นๆ แล้วค่อยๆ บรรยายให้คนอ่านจินตนาการภาพตามเอาเอง
เข้าใจว่า จขกท. อยากให้มันเป๊ะ แต่ยังไงก็ระวังไว้ 2 อย่างนะครับ
1. ศัพท์เฉพาะ
คำบางคำคนอ่านทั่วไปไม่รู้จัก ยิ่งเป็นศัพท์เฉพาะของสายอาชีพยิ่งแล้วใหญ่ (ขนาดคำว่า 'ระแนง' ผมยังเพิ่งรู้จักเมื่อเดือนที่แล้วเลย)
2. แต่ละคนมีขนาดของกระดาษทดในหัวไม่เท่ากัน
ของผมถ้าบรรยายง่ายๆ เติมบรรยากาศ + อารมณ์ แปปเดียวก็ฟินแล้ว แต่มีงานนึงที่ผมตามเขาอยู่ดีๆ เฮียแกบรรยายรูปร่างดาบสิบกว่าเล่มพร้อมกัน ผมอ้วกทันที (เป็นดาบที่เอามาประกอบร่างรวมกันได้ทั้งหมด)
เจอกระทู้นี้แล้วเรายอมยกธงขาวเลยค่ะ
..
ปกติแล้วเราเป็นคนเยอะเวลาบรรยายสภาพแวดล้อมในฉาก
โดยเฉพาะสถาปัตยกรรม เพราะเราเขียนนิยายรักบนเส้นทางท่องเที่ยว
ความเป๊ะของรายละเอียดและเนื้อหาจึงสำคัญมาก
แต่ไม่เคยถึงขั้นที่คิดว่า
'ต้องบรรยายยังไงให้สถาปนิกร่างแบบได้ทันทีที่อ่านงานของเรา'
#มันลงลึกในรายละเอียดเกินไป
#และมันอาจทำให้นิยายของเราไม่ใช่นิยายอีกต่อไป
..
โดยส่วนตัวเราจะใช้เทคนิค
บรรยายสิ่งที่ตัวละครเห็น เพราะเน้นบรรยายแบบบุรุษที่ 1
จึงมักเขียนเฉพาะที่คนเล่าเห็นเท่านั้น
ส่วนรายละเอียดที่เน้น คือ 'เฉพาะลักษณะเด่นของสถาปัตยกรรมนั้น'
เช่น เป็นสถาปัตยกรรมสมัยไหน สไตล์ไหน รูปทรงอย่างไร และสีอะไร
บางครั้งที่อยากจะเน้นถึงสถานที่นั้นๆ ในฉากนั้นๆ ก็จะลงรายละเอียดอีกเล็กน้อย
อย่างสร้างขึ้นจากวัสดุประเภทไหน ไม้หรือปูน ตกแต่งภายในแบบไหน
โต๊ะ เก้าอี้ โซฟา บางครั้งถึงขั้นบรรยายวอลเปเปอร์
แต่ไม่ได้ยัดที่เดียวตูม หากจะทยอยเล่าที่อย่างๆ
สนทนากันสองสามประโยค แล้วให้คนเล่าเบนสายตามอง
มองคาวน์เตอร์ก็บรรยายเคาน์เตอร์ มองเพดานก็บรรยายเพดาน
ค่อยๆ ทยอยปล่อย เพราะเรากลัวคนอ่านรับไม่ได้
อ่านแล้วเบื่อ จนพาลข้ามไปอ่านบทสนทนาอย่างเดียว
แล้วทุกสิ่งที่เราพยายามอาจกลายเป็นบทบรรยายที่ไร้ประโยชน์
ส่วนตัวมีปัญหากับการบรรยายฉากเหมือนกันค่ะ นอกจากเรื่องความขี้เกียจบรรยายอะไรยาว ๆ แล้ว (?) ปัญหาอีกอย่างคือ คำศัพท์เกี่ยวกับฉากเรามีน้อยอ่ะค่ะ มันทำให้ยิ่งบรรยายให้เห็นภาพไม่ถูก อย่างถ้าให้เราบรรยายบ้านทรงไทยริมแม่น้ำสักหลัง เราก็คงบรรยายได้แค่ เรือนไม้ยกสูง หลังคาหน้าจั่ว เนื้อไม้สีน้ำตาลเข้มมีร่องรอยน้ำกัดเซาะ ซึ่งถ้าเรารู้ศัพท์ว่า -เชิง ๆ บนหลังคา -กระเบื้องที่มุงอยู่ หรือแม้แต่ผ้าที่เอามาเป็นผ้าม่าน มันมีชื่อเรียกอะไร ก็จะใช้ศัพท์ได้ถูก บรรยายได้ง่ายขึ้น ตอนนี้เวลาเห็นพวกนิตยสารตกแต่งบ้าน ก็เลยพยายามอ่านซึมซับคำศัพท์เอาอ่ะค่ะ คิดเอาเองว่าจะช่วย
ในที่สุด...ก็มีเพื่อนๆเข้ามาช่วย...แนะนำ ดีจังเลย
เข้ามาร่วมเก็บความรู้ด้วยค่ะ
ขอบคุณทุกความเม้นต์ และขอแสดงความยินดีกับคุณเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ
เฮ้ออ..เจตนาการบรรยายเพื่อให้คนอ่านเห็นภาพ และเข้าใจถึงจุดมุ่งหมาย ซึ่งคุณผู้ตั้งกระทู้
ต้องการสื่อ เป็นความมุ่งมั่นที่ดีและน่ายกย่องครับ ทว่าก็ไม่ควรกังวลเกินกว่าเหตุกระทั่งก้าว
ข้ามความเหมาะสม อีกทั้งคุณยังเข้าเรื่องที่เกี่ยวกับสถาปนิกผิดพลาดไปบ้าง จึงขออนุญาต
แสดงความคิดเห็นตามแง่คิดและมุมมองส่วนตัว..ดังนี้
สถาปนิกคือผู้ชำนาญการ ซึ่งร่ำเรียนวิชาการออกแบบเคหะสถาน อาคารบ้านเรือน และงาน
ด้านสถาปัตยกรรมต่างๆ มาโดยตรงกระทั่งสำเร็จตามหลักสูตร และล้วนได้รับใบรับรองการ
ประกอบอาชีพ ตามระดับวุฒิการศึกษาตรงตามสาขา ที่แต่ละคนเล่าเรียนมาแล้วทั้งสิ้น ดัง
นั้นคุณเพียงบรรยายถึงสไตล์หรือลักษณะของอาคาร และความต้องการอื่นๆ ด้วยถ้อยคำที่
เรียบง่าย ไม่ต้องใช้ศัพท์แสงทางวิชาการแม้สักคำเดียว สถาปนิกทุกคนก็สามารถร่างภาพ
และรายละเอียดที่คุณต้องการทั้งหมด ออกมาให้คุณได้ชื่นชมทันทีครับ..
ส่วนที่ยากคือจะบรรยายอย่างไรให้คนอ่านนิยายทั่วไป เห็นภาพและเข้าใจถึงจุดมุ่งหมายที่
คุณต้องการสื่อครับ ซึ่งแม้จะยากกว่าแต่หากคุณเข้าใจถึงสิ่งที่มุ่งหมายที่ต้องการสื่อและกำ
หนดไว้อย่างชัดเจน ทั้งสามารถผสมผสานมันด้วยเนื้อหาที่ถูกทิศ ตรงตามจุดมุ่งหมายที่กำ
หนดไว้อย่างเหมาะสมกลมกลืน บริบูรณ์ทั้งเนื้อหาและอรรถรส ไม่มากไม่น้อยเกินความจำ
เป็น ย่อมสามารถสมปรารถนาได้ โชคดีครับ..บาย
ดิฉันต้องขออภัยนะคะที่ไม่ได้เข้ามาตรวจกระทู้เลย ขอบคุณมากค่ะที่ยังมีน้ำใจเข้ามาให้คำแนะนำ และสำหรับทุกความเห็นดิฉันไม่มีอะไรมากกว่าคำว่าขอบคุณอย่างสุดซึ้งกับความรู้อันมีประโยชน์มหาศาล ซึ่งจะสามารถเป็นข้อมูลนำไปพัฒนาและต่อยอดให้เกิดผลงานสร้างสรรค์สังคมในภายภาคหน้าสิบไป เดี๋ยวดิฉันจะตั้งกระทู้ใหม่อีกหนึ่งเื่องค่ะ ไม่มากความนะคะ ขอบคุณค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?