ทะเลาะกับแม่ด้วยเหตุผลที่โคตรจะงี่เง่า
ตั้งกระทู้ใหม่
วันที่1เราต้องตื่นเช้าเพราะว่าไปฉลแงปิดเทอมที่บ้านเพื่อนเมื่อคืนพอเช้ามาก็ต้องเก็บซากสิ่งสร้างต่างๆแล้วก็กลับมาบ้าน พอถึงบ้านเราก็ต้องออกไปทำธุระข้างนอกกับพ่อ ซึ่งแดดร้อนมากกกกกก
วันที่2 ธุระของวันที่1ยังไม่เสร็จเราก็ต้องตื่นเช้าเพื่อนไปของเอกสารนู่นนี่นั่น ขับรถวันไปวนมาอยู่ประมาณ2ชม.สรุปคือไม่ได้อะไรกลับมาเราเลยคิดว่าจะไม่ทำแล้ว
วันที่3 เราก็ตื่นสายค่ะเพราะว่าเราอยากพักผ่อนกายพักผ่อนใจ นี่แหล่ะค่ะวันนี้เลยแม่ของเราด่าเราอย่างกับว่าเราทำผิดอะไรเบอร์นั้น
วันที่4 ก็คือวันนี้แหล่ะค่ะ
แม่ด่าเราประมาณว่าตื่นสายจะไปทำมาหากินอะไรกับคนอื่นเค้าทัน แม่กลับบ้านมาเหนื่อยๆแต่เรายังนอนอยู่เลย งานบ้านก็ไม่ช่วย ตรงนี้แหล่ะค่ะของขยายความนิสนุง คือปรกติเราไม่ใช่คนที่ชอบทำงานบ้านแต่เราไม่ได้ปฎิเสธที่จะทำค่ะ คือถ้าบอกให้เราทำเราก็ทำค่ะ เรารู้ว่าไม่ว่าจะบอกหรือไม่บอกก็ควรทำแต่ก็นั่นแหล่ะค่ะคือเราไม่ชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ต่อนะคะ นางบอกว่ามีผัวผัวก็ทิ้ง เห้ยยยเอาจริงดิจะให้เรามีผัวแล้วอ่อคือถ้าถึงจุดๆนั้นอ่ะเราก็ต้องรู้ว่าอะไรควรทำแล้วป้ะ ไม่ใช่ว่าตอนนี้เราไม่รู้แต่ก็ช่วยกันดิ
คิดว่าหน้าที่เราคือเรียนหนังสือแล้วมันไม่เหนื่อยหรอเรียนหนังสือสมัยนี้มันไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนนะ คือเราก็ไม่รู้ว่าเมื่อก่อนเค้าเรียนกันยังไงแต่จากที่ฟังพ่อเล่ามาว่าเมื่อก่อนไม่เห็นมีอันนี้เลยอันนู้นเลยงั้นก็แสดงว่าการเรียนสมัยนี้มันยากกว่าเมื่อก่อนมาก ซึ่งมันก็ทำหัวเราปั่นเนาะทุกคนก็น่าจะรู้กันอ่ะ พอถึงวันที่จะได้พัก มันก็เป็นแบบนี้หรอ?? แล้ววันไปรร.อ่ะเราก็ต้องตื่นเช้าอยู่แล้วป้ะ ตื่นเช้ามาทั้งปีแต่พอวันหยุดไม่ได้หยุดหรอคืองงใจอ่ะ
เห้อออออออออออ เหนื่อยจริงไรจริง
12 ความคิดเห็น
คือเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ว่าเรียนยากกว่าง่ายกว่านะคะ
น้องควรจะแบ่งเบาภาระพ่อแม่ที่เขาเลี้ยงเรามา ด้วยการหยิบจับทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ที่พอจะช่วยได้บ้าง
ถึงการเรียนมันสำคัญที่สุดก็จริงแต่มันก็ต้องมีบ้างแหละค่ะ เรื่องเล็กน้อยที่ช่วยได้ ล้างจาน เก็บผ้า พับผ้า
อะไรง่ายๆ ที่ช่วยเขาได้โดยไม่เสียเวลาทำการบ้านหรืออ่านหนังสือมากนัก
คนเป็นแม่เป็นพ่อเขาไม่ได้อยากให้ลูกมาทำงานบ้านให้ทั้งหมดหรอกค่ะ
แค่อยากให้เราช่วยเขาบ้าง เขาก็เหนื่อยๆ ทำงานกลับมา
ดันมาเห็นเรานอนกินบ้านกินเมือง เขายังไม่ทันถามหรอกค่ะ คนมันเหนื่อยๆ มันก็อารมณ์เสีย
ก้ต้องมารับภาระทางอารมณ์ของพ่อแม่ด้วยเนาะ อืมๆ
ไม่ตีกันนะคะะะะะ
ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมานั่งรองรับอารมณ์เขานี่คะ
เราเองเป็นคนนอกก็ไม่รู้ว่า อารมณืที่ว่าเขาแสดงออกเท่าไหน
เขาอาจจะแค่พูดเล็กน้อย หรือว่ากล่าวในแบบที่ทุกคนรับไหวอยู่ก็ได้
คนเมื่อก่อนโดนว่าหนักกว่านี้อีกเพราะเราอยู่กับย่ามา โดนด่ายันพ่อยันแม่
แต่ก็นั่นอีกล้ะค่ะ ไม่ได้ความว่าจะต้องไปตามแบบโบราณอะไร เราแค่กล่าวแนะนำ
จขกท.ในส่วนที่เขาน่าจะทำได้เท่านั้น จะให้เราไปบอกว่าไปสอนพ่อแม่ให้อย่าใส่อารมณ์ อย่านั้นคงไม่ได้ใช่มั้ยล้ะ
บ้านเราพ่อทำงานต่างจังหวัด แม่ทำงานกลับบ้านเย็นถ้าช่วงวันหยุดเราจะตื่นมาช่วยล้างจาน เตรียมข้าวให้แม่ แม่เราออกไปทำงานช่วงเจ็ดโมงพอแม่ก้าวออกจากบ้านไปปุ้บเราก็วิ่งกลับเข้าไปนอน ช่วงเก้าโมงก็ออกมาทำงานบ้านพวกซักผ้า. กรอกน้ำ แล้วก็งานที่แม่สั่งให้ทำไว้เป็นพิเศษพวกไปจ่ายบิลหรือซื้อของช่วงบ่ายก็ชิลๆแล้ว ถ้าตารางชีวิตพ่อกับแม่เป็นแบบนี้ทำแบบเราก็ได้นะวินๆทั้งสองฝ่าย
เป็นเหมือนกัน..เเบบตอน9โมง...เดินเข้ามาในห้องเเล้วก็เเบบเมื่อไหร่-จะตื่น...นอนกินบ้านกินเมืองอยู่นั่นเเหละ...เจริญชีวิต-เจริญเเน่ๆ...ประมาณเนี่ย.....เเต่งานบ้านเราทำทุกอย่างนะ...เเต่เค้าก็หาเรื่องด่าอยู่ดี
อันนี้น่าเห็นใจค่ะ ถ้าทำแล้วยังด่าอยู่แต่ก็นั่นแหล่ะค่ะ5555
มันเป็นคำด่าเบสิคเลยนะ พ่อแม่ส่วนใหญ่ก็ไม่อยากเห็นลูกตื่นสายหรอก
และแม่เขาเหนื่อย ก็คงด่าลูกไปโดยตามประสาแม่อะ แม่ของ จขกท. เอง จขกท.จะรู้นิสัยแม่ตัวเองดีสุด
ว่าตอนแม่เหนื่อย แม่จะเป็นคนยังไง
ถ้าไม่คิดมาก ก็แค่ไม่เก็บมาคิด แต่ถ้ามีสำนึกอีกนิด ก็ช่วยแม่ทำงานบ้านเพิ่มเท่านั้นเอง
ก็เพิ่งปิดเทอมมาได้ 4 วันเองนี่ เหลืออีกตั้งหลายวันกว่าจะเปิดเทอม ก็ได้พักผ่อนอยู่แล้ว ใจเย็น ๆ เด้อ
ถ้าแม่หัวร้อน เราต้องเป็นน้ำเย็น ก็แถ ๆ ไปว่าเดี๋ยวจะทำก็ได้ แล้วไปทำเป็นหยิบจับสักหน่อยไรเนี่ย 555
เราก็เหมือนกันเลยค่ะ โดนพ่อเสี้ยมตลอดเลย เหมือนแนวเหนื่อยใจประมาณนั้น เราเป็นเหมือนมนุษณ์กลางคืนอ่านหนังสือถึงตี2(แม้จะปิดเทอม)เราก็จะตื่นประมาณ8-9โมง (เหมือนชดเชยคนปกติที่เค้านอนไวตื่นเช้าเราก็นอนช้าตื่นช้าไป) ส่วนเรื่องงานบ้านเราแก้ปัญหาคือตื่นมารู้หน้าที่รีบทำให้หมดให้เสร็จแล้วปิดห้องอ่านหนังสือต่อ
ถ้าจขกท.ไม่อยากทำงานบ้านหรือทุนเดิมที่ไม่ชอบทำงานบ้านอยู่แล้วเรามีวิธีคือเปิดเพลงฟังตลอดระหว่างทำงานบ้านไปเลยค่ะ เราทำแล้วรู้สึกดีขึ้นเหมือนงานบ้านเสร็จไว ไม่หงุดหงิดด้วย สุดท้ายนี้ถ้าจขกท.ทนไม่ไหวจริงๆก็หูทวนลมเลยค่ะ
เราก็โดน แต่เรายิงมุกกลับ แล้วเราก็ทำงานบ้านตลอด มีลืมบ้างแต่ก็พยายามทำ หลังๆแม่ไม่ด่าละ แม่เอือม แอนด์ปลงแลเข้าใจ
ครอบครัวสุขสันต์นะคะเนี่ยยย
ใช่ค่ะ การเรียนสมัยก่อนไม่เหมือนสมัยนี้ สมัยก่อนไม่มีติวเตอร์ ไม่มีหนังสือเตรียมสอบ ไม่มีอินเทอร์เน็ต ไม่มีกูเกิ้ล ไม่มีโทรศัพท์ กระทั่งกล้องหรือเครื่องอัดเสียงใช้อำนวยความสะดวกส่วนตัวก็ไม่มี รุ่นพ่อรุ่นแม่หลายคนไม่มีทุนทรัพย์แต่ก็ต้องกัดฟันถีบตัวเองจนเรียนจบให้ได้ บางคนนอกจากเรียนแล้วยังต้องช่วยพ่อแม่ทำงานทำไร่ทำนาทำสวน อย่าดูถูกว่าพ่อแม่เป็นคนยุคก่อนแล้วจะไม่เข้าใจคนยุคใหม่ ที่พวกเขาไม่เข้าใจคือเทคโนโลยีค่ะ แต่การใช้ชีวิตของพวกเขายังทำได้ดีกว่าหนูมาก อย่างน้อยเขาก็เลี้ยงหนูให้เติบโตอย่างปลอดภัยไร้กังกลมาได้ขนาดนี้ ในฐานะคนที่เพิ่งเรียนจบมาหมาดๆและเพิ่งก้าวเข้าสู่สังคมการทำงาน บอกตรงๆว่าช่วงชีวิตที่สบายที่สุดก็คือวัยเรียน มีหน้าที่เรียนกับทำงานตามครูสั่งเท่านั้น เครียดบ้างเรื่องสอบเรื่องเรียนต่อ แต่มันก็แค่ระยะสั้นๆ แต่การทำงานมันไม่มีให้หยุดพัก เสาร์อาทิตย์ถ้างานไม่เสร็จก็ต้องขนมาทำต่อ สารพัดปัญหาเรื่องงานเรื่องครอบครัว พ่อแม่หนูมีชีวิตอยู่แบบนี้ตั้งหลายสิบปี หนูไม่เห็นใจบ้างเหรอคะ น้องจะรอเปลี่ยนตัวเองตอนมีสามีเหรอคะ อย่างน้อยก็ไม่ควรทะเลาะกับแม่ให้มันเกินเหตุ ถ้ารู้ว่าสาเหตุมันเล็กน้อยก็ควรปล่อยไปบ้าง
ก่อนอื่นก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นนะคะ ขอบคุณคนที่ช่วยเตือนด้วยตอนที่เขียนกระทู้นี้เราก็อาเราไม่ค่อยดีด้วยเขียนด้วยอารมณ์ด้วยแหล่ะ แต่ขอไขข้อกระจ่างนิดนึง คือตอนแม่เราด่าเราก็ไม่ได้ตอบโต้กลับเลยเราพยายามไม่ให้มี-งกันแต่เหมือนคุณแม่ก็ยังไม่หยุดค่ะอาจจะเพราะโมโหหรืออะไรก็แล้วแต่เราก็ปล่อยให้แม่พูดไปค่ะเดียวแม่ก็หยุดเอง บางคนอาจจะไม่เข้าใจแต่บางคนก็เข้าใจแต่เรายืนอยู่ในคนละจุดกันคงจะไม่มีใครเข้าใจเราได้มากกว่าตัวเราเอง นี่ก็หยุดมาเป็นอาทิตย์แล้วค่ะคือเราผวาตอนแม่กลับมาบ้านมากค่ะคือเราต้องทำเป็นว่าเราตื่นแล้วทั้งๆที่ตาเราแทบจะเปิดขึ้นไม่ไหวอยู่แล้วหรือไม่ก็เปิดยูทูปดังๆเวลาเขาผ่านห้องเราจะได้รู้ว่าเราตื่นแล้ว55555 แอบขำปนเศร้านิดๆ เราก็พยายามปลงแล้วค่ะแต่พอโดนด่าทีไรใจเราก็แป๋วทุกทีเลยอ่ะ บางทีก็คิดว่าจะเป็นโรคซึมเศร้าป้ะวะเนี่ย5555 แต่ก็นั่นแหล่ะค่ะขอบคุณทุกคนมากทั้งที่เห็นด้วยแล้วก็ช่วยเตือนนะคะ
ก็เข้าใจแหละเนอะว่าสมัยนี่กับสมัยก่อนมันต่างกัน...เพราะเห็นพ่อเล่าว่าถึงสมัยก่อนจะเรียนไม่หนักมาก แต่เขาก็ยังต้องมาทำงานหาเงินเรียนนะคะ สมัยนี้สบายในระดับนึงจริงๆแหละเพราะเรียนเสร็จก็แค่มาทำการบ้าน ไม่ต้องออกไปทำงานตากแดด อยู่เฉยๆก็มีเงินใช้
ดูจากการที่พวกผู้ใหญ่เขาทำงานกันเกือบทุกวันตั้งแต่เช้ายั้นเย็นนี่มันก็เหนื่อยนะคะ บางคนก็ใช้แรง บางคนก็ใช้สมอง หยุดแปปๆก็ต้องมาทำงานหามรุ่งหามค่ำ เด็กๆอย่างพวกเราก็แค่เรียน แล้วก็ทำงานส่ง มีปิดเทอม แต่พอเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่มีปิดเทอมด้วยซ้ำ เขาเลยกลัวว่าโตไปจะไม่เอาการเอางานเลยรึเปล่าคะ ถ้าตอนนี้อดทนไม่ได้ แล้วโตไปจะอดทนได้รึเปล่าอะไรประมาณนี้ =-=)?
เป็นเเม่ของลูกชาย อายุ16 ไม่เคยปลุกลูกเลย ปิดเทอมนอนดึกตื่นสาย งานบ้านช่วยบ้างไม่ช่วยบ้าง เเม่จะทำกับข้าวไว้ให้ เช้ากลางวัน ตอนเย็นก็กลับมาทำให้กิน เลี้ยงลูกเหมือนที่ยายเลี้ยงเเม่มานั้นเเหละ ผัวเเม่ไม่เห็นทิ้งเลย ผัวเเม่พ่อของลูกชายก็ไม่ซีเรียสอะไรเลย กลางวันเสาร์ อาทิตย์ พ่อเเม่ลูกก็นอนตื่นสาย เเถมนอนกลางวันด้วย ก็ทำงานหาเงินมีรายได้ปรกติไม่ลำบากนะ บอกเเม่ของหนูเลยว่า อย่าโบราณ อย่าเยอะ รำคาญ
ก็อยากทำค่ะ แต่เก็บไว้ดีกว่ากลัวเรื่องมันจะใหญ่โตเกินไป
ใช่เลยเราเป็นคนชอบตื่นสายนิดเดียวก้ด่าว่าบ่น มันน่าเบื่อก้เเค่2วันเองอะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?