อยากซิ่ว!!!! เรียนถาปัตย์แต่ไม่ชอบวิชา Basic Design
ตั้งกระทู้ใหม่
ตอนมัธยมก็คิดว่าตัวเองเหมาะกับถาปัตย์ ก็ฝึกทำข้อสอบเองหาความรู้ต่างๆให้ตัวเองชอบถาปัตย์ จนสอบ pat4 รอบแรกได้ 210 แต่ก็ไปสอบอีก ที่เน้นไปทางศิลปะกว่าถาปัตย์ เลยไปสอบประยุคต์ศิลป์ มศก. จนติด แต่ก็ไม่ได้เรียน ครอบครัวไม่สนับสนุนไกลด้วย เลยได้เรียนมหาลัยแถวๆอีสาน
ตอนนี้เรียนถาปัตย์ปี 1 เทอม2 ซึ่งในกลุ่มเพื่อนๆมองว่าเราเก่งมากครับ โดยเฉพาวิชาpresent และทุกวิชา ยกเว้นอังกฤษ เราก็อยู่ต้นๆครับ เทอมแรกวิชาหลักการออกแบบงานที่ส่งแต่ละสัปดาห์ก็ได้ A B ตลอด แต่มาพลาดตอนไฟนอลซึงเป็นงานคู่ ส่งไม่ทันครับ โดนหักไปเกือบครึ่งของคะแนนไฟนอลทั้งหมด ตั้งแต่นั้นมามันก็ทำให้เราหมดกำลังใจ แต่ก็คิดว่าจะต้องไม่พลาดในเทอมสอง
พอเรียนเทอมสองวิชา basic ซึ่งเป็นวิชาหลักหน่วยกิตเยอะกว่าวิชาอื่น ให้ออกแบบบ้านชั้นเดียว ซึ่งเน้นคิดอย่างเดียว หาข้อมูลต่างๆมากมาย ที่จะนำมาใช้ออกแบบบ้าน เราต้องส่ง ทำใหม่ ส่ง ทำใหม่ อันเก่าอันเดิมเหมือนไม่สิ้นสุดสักที ความรู้สึกผมคือต้องทำอีกแล้วหรอส่งอันนี้อีกแล้วหรอ คือบรรยากาศตอนเรียน ผมก็ไม่ค่อยชอบด้วยซึ่งไม่มีความเป็นศิลปะหรือความสวยงามของงานที่ส่งเลย วิชานี้เหมือนทุกคนเริ่มใหม่หมด และก็เทอมนี้ไม่มีวิชาที่เน้นการวาด อารมณ์ผมเหมือน ไม่มีแรงจูงใจให้อยากเรียนคณะนี้อีกเลย
เลยอยากจะซิ่วไปเรียนจิตรกรรม ที่พัฒนาฝีมือและอยากทำชิ้นงานที่เรามีแรงจูงใจอยากทำออกมาให้สวยให้ดีมากกว่านี้อะครับ
#อยากได้คำแนะนำอะครับว่าควรเรียนถาปัตต่อที่ต้องทนอยู่กับมันอีก5ปีหรือไปอันที่เราอยากเรียนจริงๆ แต่เสียเวลาไปสองปี
#อยากทราบความต่างกันจริงๆของการเรียนถาปัตและจิตรกรรม
#อยากทราบโอกาสตอนจบออกไป ว่าสังคมคิดกับสองคณะนี้ไปในแนวไหนบ้างและให้ความสำคัญต่างกันอย่างไร
และจบแล้วอันไหนโอกาสทำงานมากกว่ากัน #อันนี้ไม่ค่อยอยากถามเพราะก่อนเรียนทุกคนรู้จุดมุ่งหมาย
17 ความคิดเห็น
# แนะนำให้ซิ่วนะครับ วิชา basic design ตอนปี 1 แค่เริ่มต้นครับ ในชั้นปีสูงๆงานจะยิ่งยากขึ้นและจะใช้ความรู้ด้านศิลปะน้อยลง จะมีทั้งเรื่อง ข้อมูล, โครงสร้าง, งานระบบ, การคำนวณ ฯลฯ ที่จะมีผลต่อการออกแบบอาคารมากกว่าด้านความสวยงาม ครับ เช่น ในโปรเจคชั้นปีสูงๆ ถ้าอาคารที่เราออกแบบ งานระบบดี โครงสร้างแข็งแรง ข้อมูลแน่น ก็มีโอกาสได้คะแนนสูง มากกว่า คนที่งานสวย แต่อ่อนเรื่องพวกข้างต้นครับ
# ความต่างของ สถาปัตย์กับจิตรกรรม ต่างกันอย่างมากครับ พี่คิดว่า การเรียนสถาปัตย์น่าจะใกล้เคียงกับวิศวะ มากกว่า จิตกรรมด้วยซ้ำ อย่างในบางประเทศ สถาปัตย์กับวิศวะจะถูกนับเป็นคณะเดียวกัน
#โอกาศตอนจบไป ไม่รู้ว่าทางจิตกรรมเป็นยยังไงนะครับ แต่สถาปัตย์ค่อนข้างจะมีงานรองรับ พอสมควร มีทั้งไปทำงานออฟฟิส ทำงานกับรัฐบาล เช่น กรมผังเมือง หรือ จะเป็นฟรีแลนซ์เอง ได้หมดครับ
ซึ่งพี่แนะนำว่า ถ้าอยากรู้จริงๆ ลองขอฝึกงานบริษัทซักที่ก็ได้ครับ จะได้รรู้ว่าการทำงานจริงๆเป็นยังไง
ปล.ถ้าอยากรู้รายละเอียดกว่านี้ มาถามพี่กับตัวได้นะพี่อยู่ปี 5 ที่ studioปี5 พี่คิดว่าเราน่าจะอยู่ มหาลัยเดียวกันนี่แหละในภาคอีสาน 5555
เครครับ ขอบคุณข้อมูลจากพี่มากๆ ว่าจะให้จบเทอมนี้ก่อน เลยจะหาข้อมูลให้แน่ชัดว่า ซิ่วไปคิดถูกแล้ว
เรียนมข รึป่าวเนี่ย
ครับผม
พี่คิดว่าถ้าอะไรที่ต้องทนกับมันแล้วไม่มีความสุขก็ไม่ควรจะไปทนนะ เราต้องทนกับมันไปตั้งหลายปี สู้ว่าถ้าเสียเวลาไปอีก2ปี แต่ได้เรียนในสิ่งที่เรารู้สึกโอเคด้วยจริงๆก็คงจะดีกว่า อย่างที่บอกคนวาดรูปสวยก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้ดีในทางถาปัตย์ทุกคนหรอกนะ พอปีสูงขึ้นก็ตัดสินกันที่แนวคิด โครงสร้าง งานระบบต่างๆมากกว่า อย่างที่พี่เม้นแรกบอกนั้นล่ะ ถ้าคิดจะไปจริงๆก็คิดดูดีๆ หาข้อมูลตัดสินใจให้รอบคอบ
ถ้าถามว่าทางไหนจะไปได้ดีกว่า พี่ว่าขึ้นอยู่กับตัวเรานะ ถ้าเราเก่งด้านจิตรกรรมแล้วมันออกมาดี ก็มีคนมาจ้างไม่ขาดมือหรอก สุดท้ายมันก็แล้วเเต่เรานะ คิดดูดีๆแล้วกันพี่เป็นกำลังใจให้
เครครับ ขอบคุณคำแนะนำจากพี่มากๆครับ คงต้องหาข้อมูลจนแน่ชัดล่ะครับ ว่าตัวเองตัดสินใจถูกแล้ว
ส่วนตัวคิดว่าไม่มีคณะไหนที่ได้เรียนแต่สิ่งที่ชอบหรอกค่ะ ถ้าเราไม่ถนัดไม่ชอบแค่วิชาเดียว แต่รวมๆแล้วมันดี สำหรับเรา เราจะถือว่ามันดีค่ะ ทุกคนต้องมีสิ่งที่ต้องฝืนกันบ้าง แต่ถ้าจขกทไม่ชอบจริงๆก็ซิ่วเลยค่ะ นี่เห็นผลงานจขกทแล้วเสียดายความสามารถเลยอยากมาคอมเมนท์แนะนำให้เป็นอีกทางเลือก
มันเป็นวิชาที่จะใช้ประกอบอาชีพเลยอะครับ วิชา Basic design arch ผมเกรงว่าถ้าฝืนไปโดยแบบไม่ชอบ จบไปก็กลัวจบแบบงูๆปลาๆไม่ได้มีความสามารถมากมายเท่าไหร่เพราะตัวเราไม่ได้มีความอยากรู้หรือแรงจูงใจที่อยากทำออกมาให้มันดีที่สุด เลยอยากจะไปพัฒนาตัวเองให้ไปได้เต็มที่และดีที่สุดในเรื่องที่ตัวเองสนใจ และคิดว่าจะทำออกมาได้ดีและให้ความสำคัญมันมากกว่านี้อะครับ
ส่วนตัวพี่คิดว่าถ้ารู้ตัวแล้วว่าไม่ชอบทางนี้จริงๆ ก็ซิ่วไปเลยดีกว่า อันนี้ตอบในฐานะคนที่ทนเรียนจนจบ 5 ปีแบบที่ชีวิตไม่มีความสุขมากๆ เพราะไม่ชอบวิชาดีไซน์มาตั้งแต่ปี 1
ที่น้องเจอตอนนี้ (basic design) มันเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่น้องจะเจออีกหลายปีนับจากนี้
การดีไซน์บ้านเป็นอะไรที่ไม่ยากที่สุดแล้ว น้องยังบอกว่าไม่ชอบเลย อีกหน่อยน้องจะเจอโปรเจคที่ใหญ่ขึ้นไปอีก เช่น คอนโด โรงเรียน อาคารออฟฟิศให้เช่า ห้างสรรพสินค้า โรงละคร โรงพยาบาล ฯลฯ ซึ่งพวกนี้ยิ่งต้องเน้นรีเสิร์จ/การวิเคราะห์มากขึ้นไปอีก ยังไม่รวมกฎหมายและโครงสร้างที่น้องต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้จริง และยังมีทีสิสตอนปี 5 อีก มันหนักมากจริงๆ สำหรับคนที่ไม่ชอบ
เรียนถาปัตย์เสียสุขภาพนะ ต้องโหมงาน ถ่างตาอดนอน ต้องลองชั่งใจดูว่าน้องชอบมันพอที่จะทนทำอะไรพวกนี้ไหวมั้ย
ถ้าน้องชอบวาดรูปชอบสร้างงานศิลป์ น้องไปเรียนจิตรกรรม/ศิลปกรรมน่าจะเหมาะกับน้องมากกว่า ดูจากผลงานของน้องสำหรับพี่มันสวยมากเลยล่ะ ถ้าชอบทางนี้จริงๆอย่าไปเสียดายเวลา 2 ปีเลย เพราะถ้าน้องทนต่อไปแล้วมันไม่ใช่ เราต้องทนกับมันไปอีกทั้งชีวิตเลยนะ หรือถ้าเปลี่ยนสายตอนเรียนจบมันก็เท่ากับเราเสียไป 5 ปี
แต่ว่าอย่างที่ คห. บนๆพูดนะ ไม่ว่าเราจะเรียนอะไร ยังไงมันก็ย่อมมีสิ่งที่เราไม่ชอบทำเสมอ ต้องอดทนไปเนอะ หรือถ้าลังเลลองหาบริษัทไปฝึกงานดูว่าสายถาปัตย์ทำงานยังไง อาร์ตทำงานยังไง อาจจะช่วยในการตัดสินใจได้ดีขึ้น
ยังไงก็สู้ๆ นะน้อง เป็นกำลังไงให้
ขอบคุณพี่มากครับ ผมก็คิดว่า ถ้าเรียนไป ใจเรามันก็ไม่อยากอยู่แล้ว เหมือนฝืนตัวเอง เพราะก็อยากไปเรียนอีกอัน ซึ่งก่อนมาเรียนถาปัตย์ จิตรกรรมก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของผม แค่ผมยังไม่มั่นใจว่าตัวเองชอบหรืออยากทำอะไรกันแน่ แต่ตอนนี้เริ่มรู้ละครับ เราไม่ได้อยากทำมันจริงๆ เหมือนโกหกตัวเองว่าชอบถาปัตย์มาตลอด ยังไงก็ขอบคุณพี่มากจริงๆนะครับ
ถ้ารู้สึกไม่ชอบจริงๆ แนะนำให้ซิ่วเลบครับ จากประสบการส่วนตัวเริ่มที่จะเลือกเรียนสถาปัตย์จากการชอบวาดรูป เริ่มเทอมแรกก็สนุกดีครับ เพราะยังไม่ได้เริ่มออกแบอาคารจริงๆ พอเทอมสองเริ่มได้โปรเคนเป็นบ้านเริ่มรู้สึกว่าไม่ถนัดเลย ทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ในหนึ่งโปรเจสิ่งที่รู้สึกสนุกในการคือการนั่งตัดโมอย่างเดียวเลย555 เทอมนั้นเกรดตกมานิดหน่อย เริ่มคิดว่าอยากซิ่วเหมือนกัน คุยๆกับที่บ้านเเล้วที่บ้านก็โอเค แต่เราเองนี่แหละ แบบ ลองให้จบเทอมก่อนเผื่อมันจะโอเคเป็นไงล่ะยาวยัน ปโทแล้วตอนนี้ แต่ก็ไม่ได้ได้อยู่ในจุดที่มีความสุขเท่าไหร่ คือตอนแรกจะเลือกต่อด้านออกแบบศิลป์ แต่ที่บ้านว่าต่อถาปัตย์แหละมันต่อยอดความรู้ที่เรียนมาได้ ตัวเราก็เอางั้นก็ได้ /// ถ้าไม่ชอบให้รีบเปลี่ยนเลยเดี๋ยวมันจะยาว
ผมก็หาข้อมูลเยอะพอควรนะครับก่อนมาเรียน ใครถามข้อสอบ ถามเกี่ยวกับการเรียนถาปัตย์นิตอบได้หมดแต่พอมาเลยจริงๆให้ออกแบบ้าน ซึ่งต้องทิ้งการวาดที่เราชอบมากๆไป มันก็เสียดายอะ คิดว่าใจจริงๆเราอยากวาดภาพอยากแสดงงานภาพวาดให้ออกมาสวย ออกมาดีมากกว่างานออกแบบบ้าน เหมือนเราโกหกตัวเองมาตลอดวาเหมาะกับถาปัตย์ แต่ตอนนี้ก็คงต้องซิ่วอะครับ ไปทำที่ตัวเองอยากทำจริงๆ ก่อนมันจะยาวไปกว่านี้เหมือนพี่ว่าอะครับ ขอบคุณพี่มากนะครับ
เกือบจะหนึ่งปีผ่านไม่แล้วเป็นยังไงบ้าง
ถามว่าจิตรกรรมมีงานรับรองไหมมันก็มี แค่ต้องเข้าไปคลุกกับวงการนั้นหน่อย ก็จะรู้เองมีงานที่ไหนบ้าง ในไทยเราวงการนี้มันแคบมากๆ และเหล่าผู้ใหญ่ที่ไม่ได้เห็นความสำคัญด้วย แนะนำให้ฝึกฝีมือเยอะ ๆ เข้าไปหาสายสัมพันธ์จากวงการจิตรกรรมเยอะ ๆ ก็จะรู้เอง จากนั้นก็โกอินเตอร์ไปเลยดีกว่า ไปหาโอกาศจากเมืองนอกจะได้มากกว่า ไม่ว่าจะอาชีพไหนๆ ก็มีงานได้ทั้งนั้นแหละ อยู่ที่เราว่าจะเลือกมองและทำมันยังไง
คือถ้าเรียนจิตรกรรมแล้ว ใจมันก็อยากทุ่มเทให้งานพวกนั้นมากกว่า อยากทำออกมาให้ดีมากกว่า ซึ่งเราจะภูมิใจมากกว่า งานออกแบบบ้านที่เราเริ่มไม่ค่อยชอบหรือไม่ใช่ตัวเราอะครับ เพราะก่อนมาเรียนก็คิดไว้แล้วสองตัวเลือกนี้ แต่ไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับอะไร พอเรียนถาปัตย์จริงๆ ก้เริ่มรู้ละครับว่า ไม่ใช่ #คงต้องทำอันที่ตัวเองจะทำแล้วทุ่มเทให้มันมากกว่าอะครับ ขอบคุณพี่มากนะครับ
เก็ทๆๆ เราก็รุ่นเดียวกะนายอะ ซิ่วจากถาปัตม.นึงแต่ไม่ใช่ถาปัตหลักนะ เป็นออกแบบไรงี้มากกว่าซึ่งพอมาเรียนออกแบบจริงๆละไม่ชอบเลยเหมือนแค่ชอบวาดรูปอะแต่ไม่ชอบออกแบบ เข้าใจฟีล เราก็ซิ่ว ไม่ต้องฝืน สู้ๆ
เครๆ ขอบคุณมาก เเรกๆก็ดีหลังๆเริ่มไม่ใช่หล่ะ เพื่อนๆก็รอดูงานตลอด ทั้งๆที่เทอมนี้ไม่มีความอยากทำหรือแรงจูงใจหล่ะ ว
สวัสดีค่ะ พี่เป็นรุ่นพี่คณะและมหาลัยเดียวกันกับน้องนั่นแหละ ก่อนอื่นเลยพี่อยากให้น้องถามตัวเองก่อนว่าชอบสถาปัตย์เพราะอะไร ถ้าน้องตอบว่าวาดรูป พี่ว่าน้องควรซิ่ว เพราะเท่าที่น้องผ่านวิชา Basic design มาแล้วไม่ชอบ อาจจะเพราะไม่ถนัดหรือทำได้ไม่ดีก็แล้วแต่ การฝืนต่อไปจะทำให้ตัวเองรู้สึกแย่ กดดันตัวเอง จนสุขภาพจิตเสียหาย อยากจะบอกว่าตอนปี 1 ตั้งแต่แรกเลยคือวิชา Principle of design งานพี่ห่วยมาก ไม่เคยได้ A ส่วนใหญ่ได้แต่ D-C+เลย จนมีแค่งานสุดท้ายที่ออกแบบห้องนี่แหละ ถึงได้ A 5555 แล้วเทอมสองที่เรียน Basic Design พลังใจพี่ถึงมามากขึ้น อะไรก็เหมือนจะโอเคมากขึ้น จนเราเหลิงคิดว่ามันง่าย จนขึ้นปี2 ถึงได้รู้ว่าที่เคยเจอมาทั้งหมดมันเทียบกันไม่ได้เลย จิตใจพี่ท้อมาก ร้องไห้ตั้งหลายครั้ง แต่ก็สู้จนถึงตอนนี้แม้สภาพจิตใจแทบไม่ไหวก็เหอะ
ดังนั้นถ้าคิดว่าทำแล้วไม่มีความสุข ก็ซิ่วเพื่อที่จะรักษาสุขภาพจิตตัวเองดีกว่า การทำอะไรที่ตัวเองชอบ มันก็เป็นสิ่งกระตุ้น และเป็นแรงบันดาลใจของเราได้ เหมือนกับที่พี่ชอบสถาปัตย์ เลยสู้ต่อ ถึงจะปางตายก็ตาม
สู้ๆ นะคะน้อง พี่เป็นกำลังใจให้เด้อ ^-^ มีไรก็มาปรึกษารุ่นพี่ทั้งหลายที่คอยน้องๆ อยู่นะคะ
ขอบคุณพี่แนตมากครับ ก่อนมาเรียนแทนก็หาข้อมูลมากพอควรนะ หาแรงบัลดาลใจต่างๆบอกกับตัวเองว่าอยากสร้างบ้าน แต่พอมาเรียนจริงก็ค่อยได้รู้ว่ามันไม่ใช่ตัวเรา ซึ่งต้องทิ้งการาด ที่ชอบและยังลังเลว่าตัวเองเหมาะกับอะไรกันแน่ และเหมือนก็เหมือนโกหกตัวเองมาตลอด ว่าเหมาะกับถาปัตย์ ทั้งๆที่ใจเราก็อยากไปพัฒนาการวาด งานศิลปะจริงๆ
พี่ว่าอาจารย์หลายท่านก็เคยพูดนะว่า "เรียนถาปัตย์ไม่จำเป็นต้องวาดรูปสวย แต่ต้องวาดให้เป็น" ยิ่งเรียนปีสูงๆ ยังไงก็ไม่ได้วาดรูปแบบตอนปี 1 หรอก แล้วก็ใช่ว่าเรียนคณะทางจิตรกรรมจะได้วาดรูปตลอด เขาก็มีเรียนพื้นฐานอื่นๆ เหมือนกัน
สู้ๆ ต่อไปนะเจ้าแทน
ดูจากรูปผลงานด้านศิลป์ถือว่าสวยมากนะ ถ้าให้แนะนำ เราว่าซิ่วคงดีกว่า ขืนดึงดันอยู่ต่อ ก็คงไม่ได้อยู่ในระดับแถวหน้าแบบคนที่มีพฐ.ด้านฟิสิกส์มากกว่า ยิ่งไม่ได้ชอบด้วยแล้ว เรียนไปก็มีแต่เครียดหมดกำลังใจ
แต่ถ้ารักงานศิลป์จริงๆ เวลาเรียนน่าจะสนุกกับงาน ดูทรงแล้วน่าจะพัฒนาฝีมือได้ไกลด้วย
เลือกเอาว่าจะอยู่แบบเป็ดกลางดงหงส์ หรือไปเป็นหงส์ในที่ที่ใช่ 555
เครครับ ขอบคุณพี่มากๆ คงต้องในสิ่งที่อยากทำและคิดว่าอนาคตเราจะทำและจะพัฒนาในสิ่งที่ตนเองเรียนมาให้ไปได้ไกลที่สุด ด้วยความชอบและความถนัดที่ตนมีอยู่อะครับ
ลองมาสอบ ครุฯศิลปะ จุฬาได้นะน่าจะรุ่ง จากอดีตAR27
ครับผม แต่ไม่รู้ความสามารถตัวเองจะเข้าได้ไหม ขอบคุณมากนะครับ
สถาปัตย์ก็คืออาคาร วาดรูปคือวาดรูป ถ้าจะเรียนสถาปัตย์จริงๆคือต้องชอบความงามของสถาปัตกรรมจริงๆถึงจะมีแรงจูงใจเรียน พี่เองก็เคยซิ่วมาก่อน ถ้ามันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ บางคนคิดว่าอยากพยายามดูอีกสักครั้งเผื่ออาจเป็นเพราะแค่ท้อ แต่ถ้าเราเสียเวลา1ปีเพื่อเรียนรู้ตัวเอง ค้นหาตัวเองมันคุ้ม ดีกว่าฝืนทำสิ่งที่ไม่ใช่เรา เสียเวลาแค่1ปี หรือจะเสียทั้งเวลา สุขภาพ สภาพจิตใจ ค่าใช่จ่ายที่ต้องแบกรับไปจนถึงปี5... นี่ก็เคยโดนด่า โดนสบประมาทเรื่องซิ่ว เรียนมนุด ได้ภาษาอนาคตไกล ซิ่วมาเรียนถาปัตทำไม... แรกๆก็หวั่นไหวกับคำพูด แต่เชื่อเถอะ เมื่อเวลาผ่านไป ทุกอย่างมันจะสอนเราเอง พี่เคยร้องไห้ทุกวันฝืนอ่านหนังสือ ไปเรียนเหมือนไปรบ พอซิ่วมาได้ทำในสิ่งที่เรารักจริงๆ เหนื่อยกว่าคณะเดิมหลายเท่า อดนอน3วันติด แต่มันมีความสุข แค่นี้ก็คุ้มแล้ว ทุกวันที่ทำงานมันไม่รู้สึกทรมาน ถาปัตมีอะไรที่ต้องเรียนอีกเยอะ ถ้ารู้ตัวเองเร็วจะดีนะ แค่วาดรูปสวย เป็นสถาปนิกไม่ได้หรอก สู้นะ ค้นหาตัวเองแล้วลุยซะ พี่รู้จักน้อง ดูงานน้อง น้องน่าจะไปได้ไกลถ้าอยู่ถูกที่นะ
ขอบคุณพี่มากครับ เทอมแรกก็ทุ่มเทมากนะ ด้วยมีงานที่เปนวิชาวาดและออกแบบที่ยังไม่เข้าสาขามากด้วยแหละครับ พอเทอมสองหาข้อมูลออกแบบบ้านจริงๆก็ไม่มีแรงจูงใจทำ อยากไปทำอันที่ตัวเองอยากทำทุ่มเทกับมันมากกว่าอะครับ พัฒนาและมีคนมาคอยตำหนิในเรื่องที่เราสนใจมากกว่าอะครับ ขอบคุณพี่มากครับ
พี่ตอนนี้ก็ปาเข้าไปปีสี่แล้ว พึ่งมาชอบเรียนคณะนี้ก็ตอนปีสามนะ ใครถามว่าทำไมพี่ไม่ซิ่วพี่ชอบตอบแบบติดตลกว่า เมาจนลืมซิ่ว แต่จริงๆก็คือ เราทนๆไป แต่ที่จะบอกก็คือ เวลาแค่รั้วม.ปลายบอกเราไม่ได้ว่าเราจะชอบอะไร หรืออณาคตจะเรียนคณะไหน และเวลาในรั้วมหาวิทยาลัยก็เช่นกัน บางครั้งเราอาจจะไม่ได้ชอบมันขนาดนั้น แต่อยากให้ลองคิดว่าเราทนอะไรได้ หรือ อยากจะทนทำอะไรดีกว่า เพราะอย่างเราที่เราทนเรียนไปเรื่อยๆ เพราะในวิชาของคณะนี้ยังมีหลายๆวิชาที่ มีความถูกผิดที่ตัดสินได้ง่าย อาจไม่ต้องสวยหรือระบบความคิดดีเลิศแต่มันถูกต้องแข็งแรงปลอดภัย ก็ ถือว่าโอเค เราก็เลยเออ เอาว่ะเรียนไป จนปีสามเราเจอ อ.ท่านหนึ่ง ที่ทำให้รู้ว่า จริงๆงานออกแบบของเรามันไม่ได้แย่ มีคนที่มีความคิดคล้ายๆเรา ความเชื่อในงานสถาปัตยกรรมคล้ายเรา เราก็เลย ชอบคณะนี้ขึ้นมา การแข่งขันมันเริ่มแข่งกับตัวเองแข่งกับการทำให้ อ.ยอมรับความคิดของเรา ที่ร่ายยาวๆก็คือ อยากให้ให้เวลากับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่อีกสักนิด แต่อย่าทิ้งเวลาไปเลยกับทางเลือกอื่นแบ่งเวลาให้ทั้งคู่อย่างมีเหตุผล จะได้ไม่ต้องมาบอกเพื่อนว่า เมาจนลืมซิ่วเหมือนพี่นะครับ
ก่อนมาเรียนผมก็มีสองตัวเลือก คือถาปัตย์ และจิตรกรรมนี่แหละครับ ซึ่งก็ทพตัวเองชอบมาตลอดว่าเหมาะกับถาปัตย์ ใครบอกว่าถาปัตย์ไม่ต้องวาดรูปสวยก็โกรธครับ แต่พอมาเรียนจริงๆ เหมือนตัวเราต้องทิ้งบางอย่างไป สิ่งที่เราชอบมากกว่าจะออกแบบ้านอะครับ มันเลยอยากไปพัฒนาในการวาดมากกว่า และอีกอย่างคิดว่าจะพัฒนาไปได้ไกล ดีกว่าเรียนถาปัตย์แล้วจบแบบงูๆปลาๆที่ไม่มีความสามารถมากที่คนอื่นจะยอมรับงานเรามากพอควรอะครับ
งั้นแนะนำให้ไปให้สุดกับสกิลมือเลยครับ พี่คงแนะนำได้แค่ว่า ให้ สู้ๆ 5555555 ไม่ว่าอณาคตจะเจออะไร
นอกจากจิตรกรรมก็มี มัณฑนศิลป์ นะที่คิดว่าน้องร่าจะชอบ แต่มัณฑนจะมีทางคอมด้วย จะกว้างมากกว่าในด้านสายงานอ่ะ ลองดูๆ หรือจะมาทางอนิเมชั่นกฌได้นะ นี่ก็เรียนอยู่
ใจก็คิดแบบนั้นครับ แต่คือเสียเวลามาสองปีเลยอยากจะไปด้านใดด้านหนึ่งให้มันสุดๆไปเลยอะครับ กลัวแบบมาเสียใจอีกรอบ
อยากให้ลองศึกษาการสอนของแต่ละที่มนคณะที่อยากลองด้วยนะ อันนี้มีผลต่อคนเรียนมากๆเหมือนกัน หลักสูตร หรืองานไรงี้ ทักไปหาคนที่เขาเรียนอยู่อ่ะ น่าจะช่วยได้ดีขึ้น
เครครับ ขอบคุณมากครับผม
แลกเปลี่ยนนะ ตอนปีหนึ่งผมคิดเหมือนคุณทุกอย่างเลย เหมือนโดนหลอกมาเรียนไหนว่าสถาปัตย์ต้องเรียนวาดรูปแต่พอมาเรียนดีไซด์ เหมือนไม่ใช่ตัวเองเองทั้งที่ได้ A นะ พอขึ้นปีสอง ลองตั้งศึกษาจริงๆสิว่าเราจะชอบมันได้หรือเปล่า มันไม่มีจินตนาการหรือเปล่า พอเรียนรู้จริงๆกลับพบว่า งานศิลปะที่เราว่ามันจะสนุกกว่ามากที่มันตอบโจทย์ภายใต้กรอบความยากที่มันจำกัดไว้ให้เรา ทั้งโครงสร้าง งบประมาณ และสนุกที่สุดคือ จิตวิทยาสภาพแวดล้อม และพฤติกรรม มันก็เหมือนเล่นเกมส์ที่เงื่อนไขมันยากขึ้น
สุดท้ายผมจากทนเรียนเป็นหาวิธีการเรียนกับมันอย่างที่มันเป็น สุดท้ายผมจบห้าปี แต่ทำงานด้านชุมชน ผังเมือง งานอนุรักษ์ ออกแบบสภาพแวดล้อมเมือง
ผมมีความเชื่อว่าป้ายแรกถ้าเพิ่งเห็นอย่าพึ่งตัดสินใจรอไปอีกป้ายก่อน หาวิธีเข้าใจมันก่อนที่จะทิ้งมัน
มาทุกวันนี้ผมทำงานกับชุมชนแออัดที่มีโจทย์มากมายท้าทายผมอยู่ งานอนุรักษ์ที่โคตรไม่เคยเหมือนกัน และทำงานกับน้องๆทีมออกแบบคนไร้บ้านที่ขอนแก่น ในมหาลัยที่น้องเรียนนั่นหล่ะ
ผมกลับมามองคิดถ้าย้ายไปเรียนจิตรกรรมตอนนั้นมหาลัยที่ผมเรียนอยู่ในคณะเดียวกันสะด้วย
ผมคงไม่เจอตัวตนและงานที่สนุกแบบนี้
เคือก่อนมาเรียนเราก็หาจ้อมูลมากมายพอควรนะว่าจะมาเจออะไรแบบนี้ ไม่ใช่แค่ชอบวาดรูปเฉยๆแล้วมาเรียน เรารู้เรื่องเกี่ยวกับถาปัตเยอะพอสมควร ทั้งเรีองการสอบการเรียนการทำงานที่คิดไว้แล้วว้าจบไปต้องเจออะไรทำงานแบบไหนหาแรงบัลดาลใจมากมายในเรื่องของสถาปัตย์ แต่พอมาเจอจริงๆไม่มีความอยากทำหรือแรงจูงใจ ยังไม่แนะใจว่าเปนเพราะเบื่อๆเเค่ช่วงแรกๆที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ที่ทุถกคนมาเริ่มปรับพื้นฐานใหม่หมดซึ่งตัวเองทำออกมาไม่ได้เต็มที่เท่าที่ควร หรือว่ามันไม่ใช่เราจริงๆ เลยอยากหาคนที่มีความคิดเห็นเหมือนตัวเองชัดๆว่า เขาคิดแบบไหน ตัดสินใจยังไง ตอนเจอเหตุการแบบนี้อะครับ ซึ่งบางคนมาคอมเม้นเรา ก็แค่คิดว่าเรามาชอบวาดรูปแล้วมาเรียนเฉย ซึ่งเราหาข้อมูลมากมายก่อนมาเรียนด้วยซ้ำ ซึ่งความคิดเรากับเขาไม้ได้คล้ายกัน มันเลยอารมแบบเราต้องการความมั่นใจในการตัดสินใจและคนที่เข้าใจอารมณ์ผมมากกว่านี้อะครับ
ไม่ชอบก็ซิ่วเลยค่ะ ถ้าเรามีใจรักอันไหน ไปลงอันนั้น
อยากหาว่าตอนนี้มันแค่เบื่อช่วงแรกๆที่ต่องมาปรับพื้นฐานอะไรแบบนี้ที่ทุกคนเริ่มจากศูย์ใหม่ หรือว่ามันไม่ใช่เราจริงๆอะไร ตอนนี้ก็ยังไม่มั่นใจ
ลองโหลดโปรแกรมมาฝึกก่อนค่ะ พวก เสก็ตซ์อัพ พ่อบอกให้ลองเล่นดู----------
ย้ายสาขาได้นะครับ ถ้าไม่อยากไปเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด ไปดูว่าอีกสาขาเขาเรียนอะไรยังไง ถ้าชอบ หรือคิดว่าโอเคก็ไปปรึกษาพี่แมวครับ หรืออย่างง่ายๆที่สุดคือ ปรึกษาอาจารที่ปรึกษาครับ
ย้ายได้หรอครับ ปีเเรกเรียนคนละหลักสูตร คนละวิชาเลย
ได้ครับ แต่ต้องลงเรียนใหม่หมด เป็นปี 1 ใหม่
แต่ข้อดีคือไม่ต้องสอบเข้าใหม่(แต่จะมีข้อสอบสำหรับย้ายสาขา)
และวิชานอกกับภาษาอังกฤษ(กรณีที่ได้เกินC+)สามารถโอนได้
ส่วนวิชาอื่นที่เรียนถ้าเกรดดีสามารถโอนเป็นวิชาเสรีได้
อ่อ เกรดเฉลี่ยรวมต้องไปม่ตำกว่า2.5หรือยังไงนี่แหละจำไม่ค่อยได้
ปล.ย้ำอีกครั้งแนะนำว่าไปปรึกษาพี่แมวหรืออาจารที่ปรึกษาไว้ก่อน ไม่จำเป็นต้องตัดสินใจทันทีก็ได้ แค่ไปถามไว้ก่อน บางทีเขาอาจให้เราไปลองเรียนดูก่อนก็ได้ วันสองวันหรือไงนี่แหละ ลองไปถามดู
ปล2.ย้ำอีกครั้งไปถามพี่แมวแต่เนิ่นๆนะ เพราะการทำเรื่องมันต้องใช้เวลา
อ่อ ถ้าย้ายเลย ก็จบพร้อมเพื่อนARนะจ๊ะ ลืมบอก
ครับผมๆ ขอบคุณมากๆครับผม
น้องครับ พี่รุ่นพี่น้องเองก็ว่าทำไมโมเดลมันคุ้นหูคุ้นตา พี่อยากจะบอกว่ามันไม่มีอะไรที่น้องควบคุมได้หมดหรอก
น้องลองถามเพื่อนๆพี่ๆในคณะหรือยัง แต่ละคนไม่ได้เพอเฟค เห็นพวกพี่ๆเพื่อนๆบ่นไหมจะเป็นจะตายในวันส่งโปรเจคกัน มันลำบาก ถ้าน้องทนไม่ไหวพี่แนะนำให้ซิ่วเพราะ ปีสูงขึ้นมาน้องจะรู้ว่าบ้านชั้นเดียวมันง่ายมาก
แล้วมีใครทำงานทันแบบ100เปอเซ็นบ้างไหม งานเละบ้างเผาบ้าง พี่ว่าน้อยคนมากที่จะเสร็จ
มีอาจารย์ในคณะเคยบอกว่า เราทำงานภายใต้ความกดดัน ไม่ใช่อารมณ์ เราเป็นสถาปนิก ไม่ใช่ศิลปิน
แล้วพี่อยากจะฝากอย่างนึงก่อนจะไป มันลำบากมากใครๆก็บ่น ที่ยังอยู่ได้เรามีคนให้แบ่งเบามันหรือยัง เพื่อนๆ พี่ๆ หรือว่าพ่อแม่ ที่จะช่วยแบ่งเบาความรู้สึกกดดัน น้ำตาแทบจะไหล วันไหนจะเป็นจะตายจะสลบ ทุกโปรเจค
พี่มีคำนึงจะให้ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?