Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

Review การสมัครตั้งแต่ต้นจนจบของ EBA CU! #dek61

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
---เพื่อนฝากลงนะค้าบบ ---
สวัสดีค่ะเพื่อนและน้อง ๆ ที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ ตอนแรกเราก็ไม่ได้ตั้งใจจะเขียนกระทู้รีวิวตั้งแต่แรก แต่เพื่อนเราเขียนรีวิวไปแล้วของ BBA CU ก็เลยมาลองเขียนตามบ้าง ผิดพลาดประการใดก็ขอโทษไว้ตรงนี้เลยนะ มีคำผิดหรือข้อมูลผิดก็บอกให้แก้ได้เลยน้าาาา
เริ่มจากคะแนนก่อนเลย ในปีนี้ทาง EBA แบ่งรับเป็น 2 รอบนะ ถ้านับตาม TCAS จะเป็นรอบ 1/2 & รอบ 3 ซึ่งต่างกันที่รอบแรกจะรับคนเยอะกว่ามาก ประมาณ140 ส่วนรอบต่อไปก็รับทบของรอบที่แล้วบวกกับ10 คนที่เขากำหนดไว้ (แว่ว ๆมาว่าปีนี้รอบสองจะรับได้เพิ่มอีกประมาณ 55 คนนะคะ) แน่นอนว่าเราขอแนะนำให้ทุกคนตั้งใจพยายามทำให้ถึงเกณฑ์ของรอบแรกไว้เลย สำหรับน้อง ๆ ม.4-5 ก็รีบเตรียมตัวกันด้วยนะ
มากันที่เกณฑ์คะแนนรอบ 1/2 กันก่อนเลย ทางคณะจะคิดคะแนนแบบใช้น้ำหนักเป็นpercentนะ
1. GPAX 3.5+ 25%
2. English Proficiency 35% 
 IELTS 6.5+
 TOEFL 83+
 CUTEP (+SPK) 104+
 NEW SAT 450+/ Old SAT 400+ (แต่ถ้ารอบอื่นคือใข้old SAT ไม่ได้แล้วนะคะ)
3. Math 40%
 SAT Math New 700+/ Old 670+
 CU-AAT Math 650+
 SAT subject test Math level 2 700+
 A in A-Level Math or Math of Australian Entrance Exam or other Math test approved by EBA
เราสามารถเลือกยื่นได้เลยนะ SAT Math ไม่จำเป็นต้องยื่นคู่verbalน้า ส่วนวิธีคำนวณคะแนนแบบง่าย ๆ เลยก็ให้ลองตั้งคะแนนที่เราได้ส่วนคะแนนเต็มและคูณน้ำหนักนะ
สำหรับคะแนนที่เรายื่นไปคือ เกรด 3.93 IELTS 6.5 SAT Math 770 คิดเป็น 88.34% 
ส่วนวิธีการส่งคะแนนก็ไม่ยุ่งยากเลย คะแนนSAT แค่ปริ้นท์ใบคะแนนไปจากบนเว็บ แล้วก็เขียนusername+passwordไปตอนยื่น จนท.จะเอาไปเปิดดูเฉย ๆ ว่าเป็นคะแนนเราจริงมั้ย ส่วน IELTS ก็เอาสำเนาไป ให้เขาพร้อมตัวจริง เดี๋ยวเขาคืนตัวจริงให้ แต่เราก็ส่งตัวจริงให้เขาไปทางไปรษณีย์ที่เราไปขอมาจากทาง IDP เกรดก็ใช้ใบปพ.1 ขอเป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็มีหนังสือรับรองว่าสถานภาพการเป็นนักเรียนอะไรประมาณนี้เป็นภาษาอังกฤษ ส่วนคะแนน cutep ต้องไปขอกับศูนย์สอบเองนะ ปริ้นท์ไปไม่ได้จ้า เท่าที่จำได้ก็มีประมาณนี้ แต่สิ่งที่คิดว่ายากจริงคือการกรอก online application กับพวก sop เล็ก ๆ น้อย ๆ 5555 คือมันยาวมากกกก จำได้ว่ามี6หน้า ต้องไปหายันวันที่เข้าเรียนเลย555 พอกรอกเสร็จก็พิมพ์ใบสมัครไป มันจะมีให้เราโหลด2ชุด ก็ต้องโหลดทั้ง2อัน 2 copies ด้วยนะ ตอนไปยื่นเราก็ไม่ได้ปริ้นท์ไปอันนึงเลยต้องไปซีรอกซ์เอา พร้อมเงิน 1000บาทด้วยนะ
พอยื่นแล้วเราก็รอเขาประกาศ interview partนี้คือตื่นเต้นสุด เพราะเรามีประสบการณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่เกี่ยวกับการสัมฯ ชอบแนว public speakingมากกว่า ถ้าจะให้เลือกอ่ะนะ เราก็เลยเตรียมตัวไปเยอะมาก ส่ิ่งที่กังวลสุดเลยคือคำถามง่าย ๆ ที่ตอบยังไงถึงจะดูดี เช่น ทำไมถึงอยากเรียน จบไปอยากทำอะไร ถ้าไม่ติดจะทำยังไง บลา ๆ ไม่ได้ห่วงพวก specific questions มาก เพราะเราอ่านข่าวอยู่แล้ว แค่ไปอ่านเพิ่มมา (ปล. ได้จากtwitterเยอะมาก แนะนำให้ลองกดfollow acc.นักข่าว นักวิเคราะห์ หรือผู้ใหญ่ที่ทวีตเรื่องน่าสนใจ อย่างน้อยการไถทวิตครั้งนึงก็จะได้ประโยชน์เด้อ555) แต่พอถึงวันสัมฯจริง ๆ คือที่เตรียมมาแทบไม่ได้ใช้เลย อ.ที่สัมใจดีมาก nice สุด คือทำให้เราหายกังวลไปเยอะ แต่ก็ตื่นเต้นอยู่นะ555 เขาถามแค่เบสิค ๆ เช่น ทำไมอยากเรียน อยากทำอะไร ทำไมถึงไม่เลือกเรียนตามพ่อแม่ล่ะ (เขาคิดว่าeconดูฉีกไปจากอาชีพพ่อแม่ที่ไปทางวิทย์ ๆ ) แล้วก็ถามถึงเรื่องโรงเรียนนิดหน่อย ที่สำคัญมากคือเขาจะถามว่า any questions? อันนี้คือต้องตอบนะ ไปเตรียมมาดี ๆ อย่าไปตอบว่าไม่มี มันจะทำให้ดูแย่ เราก็ถามเขาไปเรื่อง environment activities ไรประมาณนี้ หลังจากนั้นก็รอประกาศผล
เล่าถึงตอนประกาศผลนิดนึง คือเพื่อนเราเดินมาหา แล้วก็สะกิดให้ดูโทรศัพท์ก็เห็นชื่่อตัวเองอยุู๋ในประกาศ ซึ่งวันนั้นเป็นวันสอบปลายภาคที่รร.พอดี ละคือกรี๊ดเลย ด่ีใจมากกกก แล้วแบบเพื่อนนั่งกันเต็ม555 แอบเขินนิดหน่อยฮ่า ๆ
เดี๋ยวก่อนนน ยังไม่จบนะ ไม่ใช่แค่เราติดแล้วก็ติดเลยนะจ๊ะ ด้วยระบบ TCAS ทำให้เราต้องเข้าไป Clearing House เหมือนภาคไทยด้วย ซึ่งมันจะตรงกันทุกคณะ ทุกมหาลัยในรอบ 1/2 เลย อันนี้สำคัญมาก ห้ามลืมไปยืนยันสิทธิ์เด็ดขาด!!! ต่อให้ติดแต่ไม่ยืนยัน ทปอ.ก็ตัดชื่อเราออกเลยนะ แล้วตัดสิทธิ์ไปรอบต่อ ๆ ไปด้วย อันตรายมาก มันจะมีวนนึงที่คณะจะเรียกเราไปรับรหัสยืนยัน เราต้องเก็บให้ดีด้วย แล้วเอาอันนั้นไปเข้าระบบ กดยืนยันได้เลย ถ้าใครสงสัยเรื่องยืนยันก็ลองเข้าไปดูในเว็บทปอ.ได้ มันมีคู่มืออยู่จ้า
หลังจากจบ clearing house คณะก็จะประกาศ official announcement มา แล้วก็นัดไปจ่ายเงินยืนยันอีกทีนึง เป็นอันว่ามีที่เรียนแล้ววว!!!
อันนี้ถือว่าเล่าตั้งแต่ต้นจนจบจริง ๆ เพราะเราอยากให้น้อง ๆ รุ่นต่อ ๆ ไปมีแหล่งข้อมูลเวลาจะสอบเข้า เพราะตอนเราจะทำพวกยื่นคะแนนก็หาข้อมูลยากมาก เลยอยากมาแบ่งปันให้คนอื่น ๆ ด้วย หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะ ขอบคุณที่อ่านกันจนจบ อาจจะยาวไปหน่อย แต่ตั้งใจเขียนมา
ปล. เรายืมแอคเพื่อนมาตั้งกระทู้นะคะ ถ้าอยากถามอะไร สงสัยตรงไหน อยากปรึกษาก็ไปที่ ask.fm/jkABCs ได้เลย ยินดีตอบทุกคำถามค่ะ ถามไร้สาระก็ได้ ถ้าไม่กล้าask ก็askทิ้งไลน์ไว้ได้เหมือนกันน้า 
สุดท้ายจริงๆแล้ว ขอให้ทุกคนสมหวังกับคณะที่อยากได้ ประสบความสำเร็จ หวังว่าจะได้เจอเพื่อน ๆ EBA17 ไม่ก็รุ่นน้อง EBA รุ่นต่อ ๆ ไปด้วยนะ รัก<3

แสดงความคิดเห็น

>

7 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

Dewnkm 1 เม.ย. 61 เวลา 19:39 น. 1-2

สมมุติคะแนน SAT math พี่ได้ 770 ใช่มั้ยคะ เอา 770 คูณกับ weight ของพาร์ทนี้ซึ่งก็คือ 40% แล้วหารด้วยคะแนนเต็ม คำนวณแบบนี้ค่ะ 770*40 หารด้วย 800 จะได้ 38.5 ทำแบบนี้ไปทุกพาร์ทแล้วเอามาบวกกันค่ะ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

Dewnkm 1 เม.ย. 61 เวลา 20:59 น. 2-2

อันนี้พี่ก็ไม่แน่ใจน้า เพราะน้ำหนักมันไม่เท่ากันน

0
khao 1 เม.ย. 61 เวลา 22:31 น. 3

เราก็ติดeba เหมือนกันนน อยากทำความรู้จัก แอดไลน์กลับมาหน่อยค่า khao0343

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

skippermj 7 พ.ค. 61 เวลา 07:56 น. 6-1

เราว่าประมาณ80น่าจะชัวร์ค่ะว่าติดแน่ๆ

0