Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แชร์ปสก. อ่าน 9วิชาสามัญ ไทย-Eng-สังคม ภายใน 1 อาทิตย์ [ ฉบับเด็กขี้เกียจ ] ให้ได้คะแนนดี สำหรับเด็ก TCAS

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ
ปกติไม่เคยเขียนกระทู้บอร์ดมีสาระขนาดนี้มาก่อน5555
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มาเขียน ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยน้า

ปล. นี่เป็นแผนการอ่านหนังสือที่เหมาะสำหรับคนที่ไฟลนก้น

อ่านหนังสือไม่ทันแล้ว
ไม่ใช่สำหรับคนที่กำลังวางแผนอ่านหนังสือในระยะยาวนะคะ
แต่เคล็ดลับต่างๆ ใครจะลองเข้ามาอ่านก็ได้จ้า



Background คร่าวๆ (ข้ามได้แต่ไม่อยากให้ข้ามนะจ๊ะ)
ส่วนตัวพี่ (ขอ Assume ว่าแก่กว่าไว้ก่อนเลยแล้วกัน
เพราะคนที่อ่านก็น่าจะมีแต่เด็กรุ่นถัดไปเนอะ blush) เป็น Dek 60
ที่ไปแลกเปลี่ยนมา 1 ปี จึงกลายมาเป็น Dek 61
โดยปริยาย เลยว่าจะขอเล่าย้อนสักนิด


ถามว่าทำไมต้องเล่าย้อนนิดนึง นั่นก็เพราะว่าหลังจากที่พี่ไปแลกเปลี่ยนมา 1 ปี
กลับมาแล้ว "พฤติกรรมการเรียน ใช้ไม่ได้" เลยยยยยย


พี่เป็นเด็กสายวิทย์คณิต ซึ่งที่โรงเรียนก็สอบหนักมาก
แต่พี่สนใจที่จะเข้าคณะสายศิลป์ สายภาษามากกว่า
เพราะพี่ชอบการสื่อสาร ชอบวัฒนธรรม ชอบการเดินทาง
ทำให้เนื้อหาที่ต้องเรียน กับเนื้อหาที่ต้องสอบ สวนทางกันเลย
บวกกับพี่เป็นคนที่ไม่ชอบเรียนพิเศษ (รู้จักดาว้องก์ก็ตอนมอปลายแล้ว)
ทำให้ตอนเตรียมตัวสอบ เป็นตอนที่พี่ค่อนข้างหลงทางกับตัวเองมาก


และขอบอกก่อนเลยว่าพี่เป็นเด็กที่ขี้เกียจมากกกกกกกกกกกกกก(ใช้สีพาสเทลให้ดูมุ้งมิ้ง)
แบบ ทุกคนอาจจะคิดว่าขี้เกียจแล้วไง เด็กขี้เกียจเยอะแยะทำไมต้องพูดถึง
ไม่ค่ะน้อง คือพี่ขี้เกียจแบบ พี่ไม่ทำ ไม่แตะ ไม่หยิบไม่จับ ไม่พูดถึงเลย
จนกว่าจะถึงวันสอบจริงๆ(ห้ามเลียนแบบนะจ๊ะ)
ฉะนั้นพี่เข้าใจเด็กที่ไม่สามารถปรับตัวให้ทันกับสนามสอบที่กำลังจะมาถึงได้ พี่เข้าใจมากๆ

พี่ไม่ชอบอ่านหนังสือ ไม่ชอบเตรียมตัวสอบ ไม่ได้อยากได้คะแนนดีๆ
เลย กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็เอาเวลาไปอ่าน Pat1 Pat7 เสียหมด (เพราะพี่เรียนสายวิทย์ จึงต้องเรียนภาษาต่างประเทศแยกต่างหากอีก)
จนหันไปมองปฏิทินก็เหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่อาทิตย์เท่านั้นเอง
ซึ่งเมื่อหักเวลาที่พี่ต้องไปโรงเรียนและเรียนพิเศษภาษา

มันก็เหลือเวลาอีกแค่ 1 สัปดาห์ ก่อนสอบ 9 วิชาสามัญ


เดี๋ยวให้ดูคะแนนก่อน


คะแนนนี้อาจจะน้อยสำหรับบางคน และอาจจะมากสำหรับบางคน
ซึ่งถ้าถามพี่ ว่าพี่พอใจมั้ย ต้องขอตอบว่าพอใจค่ะ เพราะว่านี่คือคะแนนที่พี่ทำได้
ภายในระยะเวลาประมาณ 1 อาทิตย์เท่านั้นเอง

แต่เดี๋ยวก่อน โกหกรึเปล่า เตรียมตัวแค่ 1 อาทิตย์จะไปทันอะไร?
พี่จะไม่โกหกค่ะว่าแผนการอ่านหนังสือแบบนี้จะใช้ไม่ได้เด็ดขาด
ถ้าน้อง
"ไม่มีพื้นฐานมาเลย"

แต่พี่ขอรับประกันว่าถ้าน้องตั้งใจจริง
แผนการอ่านหนังสือที่พี่จะแนะนำต่อไปนี้

จะใช้ได้ผลภายใน 1 อาทิตย์ และได้คะแนนเป็นที่น่าพอใจแน่นอน


มาวางแผนการอ่านหนังสือให้เหมาะกับตัวเองกัน

การเรียนรู้ทุกศาสตร์บนโลกใบนี้ "มันไม่มีทางลัด" หรอก
น้องอาจจะอยากเข้ามาหาทางลัด ซึ่งพี่ก็บอกก่อนว่าพี่ไม่มีให้
แต่ที่พี่มีให้ คือพี่มีTips หรือคำแนะนำที่น่าจะเป็นประโยชน์มาแชร์กันสนุกๆ
ที่พี่จัดทำขึ้นมาระหว่างที่เตรียมตัวหนึ่งสัปดาห์ก่อนสนามสอบนี้

ก่อนที่จะวางแผน ขอให้ลองทำ 3 ข้อนี้ให้เสร็จก่อน
ใช้เวลาแปปเดียวเท่านั้นเอง

1. รู้ตัวเองว่าถนัดอะไร ไม่ถนัดอะไร
- ข้อนี้สำคัญมาก อย่างพี่ พี่รู้ว่าตัวเองถนัดภาษาอังกฤษ
แต่เดี๋ยวก่อน เรารู้แค่นั้นไม่ได้
เรายังต้องรู้อีกด้วยว่า แล้วในวิชานั้นนั้น
เราเก่งด้านไหนบ้าง และเราอ่อนตรงไหนบ้าง

2. รู้จักข้อสอบให้ดี เหมือนดาราที่เราชื่นชอบ
- ถ้าไปสอบโดยไม่รู้จักข้อสอบมาก่อนเลย
ก็ไม่ต่างอะไรกับเดินลงไปเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนโดยไม่เปิดไฟ
(เปรียบเทียบให้เห็นภาพดีมั้ย55555)
มันคงจะงงๆ ชนโน้นชนนี้ กว่าจะไปถึง

หลายๆคนอาจจะรู้สึกว่า 9 วิชาสามัญคือสนามที่ยากที่สุด
เทียบกับสนามอื่นๆ เช่นโอเน็ต หรือแกทแพท
ซึ่งพี่ก็ไม่ปฏิเสธหรอกว่ามันยากจริง

แต่มันไม่ได้ยากเกินความสามารถเลย แถมบางพาร์ท ยังง่ายกว่าโอเนตอีกด้วย!

- อังกฤษ :
ในบรรดาทุกสนามสอบ
ภาษาอังกฤษของ9วิชาสามัญ มีแพสเสจ (ข้ออ่าน) ที่ยาวและยากที่สุด
พาร์ทที่เราควรจะได้เต็ม ก็คือพาร์ทคอนเวอร์เซชั่น (บทสนทนา)
ภาษาอังกฤษ สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐาน หรือไม่ชอบอ่าน
ถ้าตั้งใจทำจริงๆ ก็สามารถทำได้ 60+ ขึ้นไป


- สังคม :
เป็นวิชาที่ออกรอบโลกมากกก พี่เคยเห็นคนบนวิชานี้ 80+ กันเต็มทวิต เต็มเฟสบุ๊ก
แต่พี่ขอโทษที่จะต้องทำลายความฝัน เพราะคนที่ได้ 80 ขึ้นนี่ นับคนได้
เผลอๆบางปี ท็อปประเทศยังได้ไม่ถึงเลย
ถ้าน้องไม่มีเวลาอ่านแล้ว พี่ขอแนะนำให้ไม่ต้องอ่าน หรืออ่านเฉพาะส่วน
เพราะเชื่อพี่เถอะ ถ้าเหลือเวลาแค่นี้ อ่านไปก็แทบไม่เกิดผลอะไรเลย
เผลอๆ เราอ่านไป อาจจะได้คะแนนน้อยกว่าคนที่ไม่ได้อ่านไปอีกนะ!

ถ้ารู้ตัวว่าจะไม่สามารถจำอะไรได้ในระยะเวลาเพียงเท่านี้
ก็อย่าไปพยายามเติมเต็มส่วนที่เราอาจไม่ได้อะไรเลยจากการอ่านแบบจับฉ่าย
แล้วไปเติมเต็มในวิชาอื่นแทน นั่นก็คือ


- ภาษาไทย :
ภาษาไทย คนชอบประมาท คิดว่ามันง่าย
แต่พี่ว่าเป็นวิชาที่หลุมพรางยั้วะเยี้ยะเต็มไปหมด
และถ้าตามสถิติแล้ว มีคนได้วิชาภาษาอังกฤษ
มากกว่าภาษาไทยเยอะมากเลยนะ!
ซึ่งนั่นหมายความว่าไทยไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
แต่ก็ไม่ได้ยากเลย ถ้ารู้วิธีทำ


3. รู้จักประมาณตน
- ข้อนี้ก็สำคัญไม่แพ้สองข้อด้านบนเลย
เราอาจจะคิดว่าเราเก่งแล้ว แต่จริงๆมันไม่ใช่แบบนั้น
หรือเราอาจจะคิดว่าเราอ่อนวิชานี้ จนล้มเลิก
ไม่อยากอ่านหนังสือแล้ว ไหนๆก็ไม่เก่ง ก็มั่วไปเลยแล้วกัน!

ทำแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด ถ้าจะเท เราต้องเทแบบมีสติ เทให้ถูกวิธี
และวิชาที่เก่งอยู่แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าเก่งมากไปกว่านี้ไม่ได้อีก
ยิ่งคะแนนเยอะ เราก็ยิ่งมีสิทธิ์เลือกเยอะกว่าคนอื่นๆ ท่องไว้!



ทีนี้มาเริ่มวางแผนกัน

สังคม
เริ่มที่สังคมกันก่อน เพราะสังคมเป็นวิชาที่
ยาก เยอะ หิน ลำไย
วิชาสังคม 9วิชาสามัญ จะประกอบไปด้วย
- พาร์ทศาสนา

- พาร์ทเศรษฐศาสตร์
- พาร์ทหน้าที่พลเมือง
- พาร์ทประวัติศาสตร์สากล/ไทย
- พาร์ทภูมิศาสตร์
รวมเป็น 50 ข้อ ข้อละ 2 คะแนน
หมายความว่าถ้าน้องผิด 1 ข้อ ฟิ้ววววว คะแนนหายไปทันที 2 จาก 100

แต่ละพาร์ทจะออกราวๆ 10 ข้อ ต่อ 1 พาร์ท
ซึ่งสมัยก่อน มันเคยเฉลี่ยเท่ากันค่ะ
แต่พอมารุ่นนี้ปุ้บ อูหูวว ทั้งเนื้อหา ทั้งจำนวนข้อ ดูปนๆงงๆมึนๆ ไปหมด


ซึ่งพี่ก็คงแนะนำอะไรไม่ได้มากเพราะพี่ก็ไม่ได้อ่านสังคมไปสอบ5555555
พี่อ่านแค่ 1 วันเท่านั้น และลองทำข้อสอบของปี 59 แค่ฉบับเดียว (ได้แค่สี่สิบกว่าๆเองฉบับนั้น)
ก่อนเช้าที่จะไปสอบพี่ก็อ่านเพิ่มอีกนิดหน่อย
คะแนนที่เห็นก็คือคะแนนการเดา และความรู้รอบตัวที่พี่มีติดตัวไปสอบแค่นั้นเอง

 
เคล็ดลับแบบเร่งรัด (เฉพาะอันที่พี่เห็นว่าควรจะอ่าน)

ศาสนา : ท่องเป็นชุด วันสำคัญ-เกิดอะไรขึ้นบ้าง-คำสอน-พระที่มีบทบาทสำคัญในวันนั้น
ส่วนมากก็จะออกพุทธศาสนาเป็นหลัก แต่ก็จะมีศาสนาอื่นปะปนมาด้วย
พี่แนะนำให้อ่านแค่พุทธ ถ้าจะเก็บคะแนนตรงนี้สักครึ่งนึง ก็ควรจะท่องคำสอนมาเยอะๆ
และรู้จักพระรูปที่สำคัญคร่าวๆ


ประวัติศาสตร์ : ประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่ค่อนข้างตายตัว และเรียนซ้ำๆซากๆมากไม่แพ้
พุทธศาสนา ฉะนั้นจึงเป็นพาร์ทที่เราควรเก็บได้มากที่สุด
ปีก่อนๆเขาจะไม่ค่อยเน้นประวัติศาสตร์ไทย แต่ปีนี้เล่นเอาซะอ่วม
แถมดันเล่นช่วงกรุงรัตนโกสินทร์ จนไปไม่เป็นเลย
ฉะนั้นถ้าจะเก็บประวัติศาสตร์ให้แน่นๆ ภายในไม่กี่วัน
ก็ไปเก็บสงครามโลก สงครามเย็น สงครามครูเสด สงครามศาสนายิบย่อย ประวัติไทยทั้งสี่ยุค
ให้พอรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง
และที่สำคัญ เราต้องจำสิ่งประดิษฐ์และการปกครองที่เกิดขึ้นให้ได้บ้าง เช่น ใครประดิษฐ์ตัวอักษรเป็นคนแรกของโลก เป็นต้น


ภูมิศาสตร์ : อ่านชนิดแผนที่และอัตราของแผนที่ ภูมิประเทศของประเทศเรา เครื่องมือต่างๆ ดาวเทียมก็จำๆไปบ้าง การกำเนิดหินและภูเขา ภัยธรรมชาติก็ควรรู้ไว้

สามพาร์ทนี้เป็นสามพาร์ทที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่เล็กจนโต เชื่อว่าถ้าพอมีความรู้ติดหัวอยู่บ้าง การจะได้สัก 50 ใน 100 ก็ไม่ใช่เรื่องยาก

ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ถ้าข้อสอบไม่ได้ถามในสิ่งที่น้องจำไป มันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาอยู่ดี
สังคมจึงเป็นวิชาที่เร่งเก็บในระยะเวลาสั้นไม่ได้
ถ้าน้องอยากได้เกิน 60+ เป็นต้นไป
ก็ควรจะเริ่มอ่านก่อน 1 สัปดาห์ หรือภาวนาให้เดาถูกข้อเพียงเท่านั้น

 


Items ที่ควรมี

- เล่มแดงในตำนานของพี่บอล ไปซื้อค่ะน้อง ถ้าน้องเห็นตอนนี้ ก็ซื้อมาตั้งแต่ตอนนี้มันซะเลย
เพราะเชื่อมั้ยว่าพี่ซื้อเล่มนี้ แค่ 1 วันก่อนสอบเท่านั้นเอง
เด็กดีอย่าทำตามนะคะ55555 เป็นไปได้ก็เอามาสักหนึ่งสัปดาห์
เล่มบางๆนิดเดียว ถ้าตั้งใจอ่าน สองสามวันก็อ่านจบแล้ว พี่อ่านแค่ 1 วัน
ยังอ่านได้เกือบจบเล่มเลย
อ่านเพลินๆ พี่ว่าเขาก็จำกัดเนื้อหาได้คลอบคลุมดี ไม่เยอะเกินไม่น้อยเกิน
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะออก 100% หรอกนะ เพราะรุ่นนี้ออกหลบหนังสือ/สถาบันกวดวิชาเก่งมาก
ออกแบบที่แค่จำไปสอบ น้องยังตอบไม่ได้ เพราะต้องมีการวิเคราะห์ด้วย
แต่ถ้าอ่านเล่มนี้ไป อย่างน้อยๆต้องได้สัก 10 ข้อจากทั้งหมดบ้างล่ะ

*ระวังพาร์ทกฎหมายนะ เพราะกฎหมายอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในทุกๆปี
ควรติดตามข่าวสารอยู่เนืองๆ ถ้าไม่อยากพลาด*




- คอร์สฮอตฮิตในตำนานอีกเช่นกัน
กับ
Turbo ไทยสังคม ของดาว้องก์

พี่ลงเรียนคอร์สนี้ไป แต่เรียนไม่จบหรอก
เรียนไปได้แค่ราวๆ 10 เทปเท่านั้น (แถมข้ามช่วงแบบฝึกหัดด้วย เลวววว55555)
แต่พี่ว่าเนื้อหาสังคมช่วงศาสนา ประวัติฯ เขาย่อมาให้แบบสำเร็จรูป
พร้อมใช้งานมากๆ จำไปสอบได้ง่ายๆ เลย ละเอียดแต่ไม่ยาวจนเกินไป

ถ้าใครที่ไม่ได้ลงเรียน ลองหาซื้อต่อตามอินเตอร์เน็ตดู
หรือลองยืมของเพื่อนมาอ่าน
ทำเป็นมายแมพคร่าวๆก็ได้


สำหรับสังคม
ด้วยความที่พี่ไม่รู้สึกว่ามันคุ้มค่าแก่การอ่าน (เพราะตอนพี่สอบ พี่เหลือเวลาไม่กี่วัน)
พี่รู้สึกว่าแค่สองเล่มนี้ก็คุ้มค่ามากแล้ว ถ้าอ่านทันใน 1 อาทิตย์
และมีความรู้รอบตัวอยู่บ้าง
60+ ก็ไม่ได้ไกลตัวมากนะเออ!


ไทย
วิชานี้พี่ทุ่มเทมากที่สุด
ถ้าเวลาเหลือ 1 อาทิตย์ พี่ก็ให้ภาษาไทยไปราวๆ 4 วัน
คงงงล่ะสิ ว่าทำไมถึงอ่านวิชาง่ายๆ แบบนี้นานนัก


เพราะพี่คิดว่าเราควรทำคะแนนวิชาที่ง่ายที่สุด ให้ได้เยอะที่สุด
เพื่อไปกลบวิชาที่เราน่าจะ Push คะแนนขึ้นยาก อย่างสังคม


ขอเล่าสักนิด พี่เคยสงสัยว่าทำไม ทั้งๆที่ไทยเก้าวิชาสามัญขึ้นชื่อว่าง่าย
แต่กลับมีคนได้เก้าสิบบวก น้อยกว่าภาษาอังกฤษเสียอีก

พอลองไปทำข้อสอบปีเก่าๆ ก็อูหู ยูเรก้า เข้าใจแล้ว
เพราะเป็นข้อสอบที่ บทจะนานาจิตตัง ก็นานาจิตตังจริงๆ
เป็นข้อสอบที่
แล้ว แต่ คน ออก ข้อ สอบ เลยจ้า


พี่ทำข้อสอบภาษาไทยครบทุกปีที่มีอยู่บนอินเทอร์เน็ต
น่าจะตั้งแต่ปี 54 ยัน 60
พาร์ทที่เป็นจุดอ่อนมากที่สุดก็คือพาร์ท
"ข้อใดคือจุดประสงค์?"
"ข้อใดคือปัญหาของเรื่องนี้?"
"ข้อใดคือเป้าหมายของผู้เขียน?"
พี่พยายามที่จะเอาชนะพาร์ทนี้ แต่พี่ก็ทำไม่ได้เลย55555
พี่รู้สึกว่าในแต่ละปี คนออกข้อสอบมีตรรกะในการเฉลยพาร์ทพวกนี้ คนละมุมมอง

ฉะนั้นพาร์ทอื่นๆ เช่นพาร์ทสำนวนสุภาษิต คำผิด คำสองความหมาย ราชาศัพท์
ข้อสรุป/สนับสนุน พวกอ่านจับใจความง่ายๆ เราควรทำให้ได้เต็ม เพื่อเอาไปกลบพาร์ทพวกนี้
ซึ่งเป็นปัจจัยที่เราควบคุมได้ยากแทน

 
เคล็ดลับฉบับรวบตึง
- ทำข้อสอบ ยังไม่ต้องอ่านหนังสือ แต่ทำข้อสอบไปก่อน สักสองฉบับ แล้วลองเปรียบเทียบดูว่า
ทั้งสองฉบับนี้ เราผิดพลาดพาร์ทไหนมากที่สุด แล้วพยายามจับสังเกต ว่าอะไรคือเทคนิคของพาร์ทนั้นๆ
- คำผิดจะชอบใส่คำจำพวก กระปรี้กระเปร่า กระ-ระสน อะไรแบบนี้มา ถ้าเป็นไปได้ก็ลองไปหาอ่านดู
- คำสองความหมาย
ระวังตัวหลอก จำพวกคำที่เอาคำกริยา มาวางไว้กับคำนาม
เช่น แม่ยก แม่ยกมีเพียงความหมายเดียวเท่านั้น บางคนอาจจะคิดว่า อ้อ แม่ยก หมายถึงคนที่คอยอุปถัมภ์ศิลปินโปรด และหมายถึง แม่ ที่กำลังยกอะไรบางอย่าง

โนค่ะ ไม่ใช่นะ!
ห้ามถูกหลอกเด็ดขาด

- ข้อสรุป /สนับสนุน
สนับสนุน =
เหตุ
สรุป = ผล
ผลคือผลที่เกิดขึ้น/เหตุคือเหตุที่ทำให้เกิดผล ลองค่อยๆ อ่านตัวเลือกดีๆ พี่เชื่อว่าข้อพวกนี้ไม่ได้อยากเกินความสามารถ ส่วนมากจะมีข้อสรุปเดียว และสนับสนุนสอง

- ระดับภาษา
พิธีการ : พิธีการใหญ่โต เป็นทางการ มีบรรยากาศที่เป็นเกียรติ ผู้พูดตำแหน่งใหญ่โตและสำคัญ
ทางการ : ใช้ในที่ประชุม พิธีการในคอมมิวนิตี้เล็กๆ การพูดต่อหน้าคนหมู่มาก
กึ่งทางการ : คือภาษาทางการที่มีภาษาพูดหลุดมาด้วย เช่น ประมาณนี้ แล้ว อาจจะ
ภาษาพูด : คือภาษาพูด จะมีคำที่คนไม่นิยมใช้ในการเขียนเยอะมาก และชัดเจน เช่น แล้วไง ยังไง เมื่อไร อันไหน  ประมาณ (ตัวเลข)กว่าๆ เป็นต้น

- อ่านจับใจความ
พยายามอิมเมจิ้นเสียงผู้พูดเวลาเราอ่านบทความ หรืออะไรก็ตามที่เขาให้มา
พี่อ่านแล้วนึกเสียงได้จากคำพูดที่เขาเลือกใช้
ข้อพวกนี้ไม่ยากเลย ถ้าเราไม่ได้คิดไปเอง

ภาษาไทยพี่ว่าใครๆก็สามารถทำได้เกิน 80+ ถ้าไม่ประมาทและตั้งใจอ่านจริงๆ
พี่ประมาทและพลาดข้อหยุมหยิมจำพวกสำนวนสุภาษิต คำสองความหมายไป
(ทั้งๆที่รู้เทคนิคแล้วก็ยังพลาด แอบเจ็บใจ) จึงได้แค่นี้ หวังว่าทุกคนจะได้เยอะกว่านี้

 
Items ที่ควรมี
- ไม่มี
(ภาษาไทยพี่ว่าทำข้อสอบเก่าๆ ก็พอแล้ว
พี่ไม่ได้อ่านภาษาไทยจากหนังสือเล่มไหน
ส่วนคอร์ส Turbo ไทยสังคม
พี่ก็ไม่ได้อ่าน เพราะพี่อ่านไม่ทันค่ะ 555555)

ขอขยายความเล็กน้อย พี่เป็นคนไม่ชอบเรียนกับคอม
และด้วยความที่บ้านอยู่ไกล ก็เลยทำให้ไปเรียนแค่อาทิตย์ละหนนึง
จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เรียนไม่ทันบ้าง เรียนไม่รู้เรื่องบ้าง
พี่เลยไม่ได้อินกับการเรียนดาว้องก์เสียเท่าไหร่
(ไม่ได้บอกว่าไม่ดีนะ แต่มันไม่เหมาะกับพี่)

ปล. การไปลงคอร์สเรียนพิเศษโดยที่ตัวเองไม่ตั้งใจเรียน
และไม่กลับมาอ่านทบทวนที่บ้าน ก็เท่ากับเทเงินลงน้ำไปเปล่าๆ
ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองคิดจะลงเรียนตามเพื่อนไปงั้นๆ ก็อย่าลงเลยค่ะ

พี่เชื่อว่าถ้าเราตั้งใจจะทำจริงๆ วิชาพวกนี้สามารถอ่านได้ด้วยตัวเอง
แถมเนื้อหาไทยเก้าวิชา มีอยู่กระจึ๋งเดียวเท่านั้นเอง (โอเนตยังเนื้อหาเยอะกว่าเลย)
ฝึกๆทำโจทย์ไป ก็เก่งแล้วค่ะ


 
อังกฤษ
มาแล้วววววว วิชาที่ทุกคนน่าจะตื่นเต้นที่สุด (หรอ5555)
อังกฤษเป็นวิชาที่พี่ชอบ และถนัด พี่เลยไม่ค่อยอ่านเท่าไหร่
พี่ใช้เวลาคลุกอยู่กับอิงเก้าวิชาประมาณสองวัน
แต่เป็นสองวันที่พี่ทุ่มเทกับมันวิชาเดียวเลย ตื่นมาก็อ่าน สายก็อ่าน เย็นก็ยังมีทบทวนบ้าง


60% คือการอ่าน 20% คือการวิเคราะห์ 20% คือการสื่อสาร
รวมกัน 100 มี 80 ข้อ ข้อละ 1.25 คะแนน
เป็นวิชาที่พลาดได้เยอะที่สุด เพราะจำนวนข้อเยอะ


ใครที่ไม่มีพื้นฐานมาก่อนเลย แบบ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันมาก่อนเลย
ใช้แผนการอ่านหนังสือต่อไปนี้ไม่ได้แน่ๆ

แต่ถ้าใครที่พอได้ หรือพอถูไถ ไปจนถึงขั้นเก่ง
เชื่อว่าน่าจะได้ 60+ ไม่ยาก (อ่ะ ให้ 70+ เลยเอ้า!)

สารภาพตามตรง พอมาเริ่มอ่าน
ตอนใกล้ๆจะสอบพี่ก็กดดัน และแพนิคพอสมควร
พี่มีโอกาสได้ทำข้อสอบปี 58,59 แค่สองปีเท่านั้น (เวลามีทำได้แค่นั้น)
ซึ่งเป็นปีที่พี่ว่าแพสเสจโหดมาก
มันไม่ได้ยาก ในส่วนของเนื้อหา แต่ยากตรงคำถาม
มีคำถามเชิงปรัชญาข้อนึง ที่พี่ใช้เวลานั่งจ้องมันสามสิบนาทีได้
แบบ ต้องการอะไรจาก*ู 55555555555555 จะร้อง
ช้อยส์ยากมากไม่รู้จะตอบอะไรดี มันดูถูกไปหมด

ฉะนั้นใครที่อยากลองทำข้อสอบครั้งแรก ลองทำชุดอื่นที่ไม่ใช่สองปีนี้ก่อนนะ

โอเค หยุดการเวิ่นเว้อแล้วมาชำแหละข้อสอบอังกฤษกันดีกว่า!

(ข้อสอบพาร์ทคอนเวอร์และ cloze test จะพูดถึงในส่วนเคล็ดลับด้านล่างแล้ว)
ข้อสอบพาร์ทรีดดิ้ง จะถามไม่เกินนี้
เคล็ดลับเคร่งครัดสุดๆ !ทำตามทุกข้อ!
(ข้อเขียนเป็นข้อๆนะ อยากให้ทำเป็นลำดับตามนี้)
1. ทำข้อสอบ
- ทำไปก่อน คะแนนจะเละเทะยังไงก็อย่าไปสนใจ ทำๆไปให้เรารู้ว่า อ้อ ข้อสอบมันประมาณนี้นะ สักฉบับสองฉบับ
2. พาร์ทคอนเวอร์ ท่องไว้ต้องได้เต็ม
- พี่ดูหนังบ่อยมาก ฉะนั้นสำนวนการพูด เป็นอะไรที่พี่ไม่ต้องอ่าน แต่พี่มีวิธีสำหรับคนที่ไม่ชิน
>>
http://www.talkenglish.com/speaking/regular/greetings1.aspx พี่สอนน้องสาวให้ลองใช้เว็บนี้
มันดีมากเพราะมีสำนวนการพูดต่างๆ หลากหลายให้เราได้ลองใช้ จิ้มไปจิ้มมาก็อ่านครบแล้ว!
ใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงเลย ถ้ามีเวลา ก็ลองคลิ๊กไปดูพาร์ท 2 3 4 ดูได้ สนุกดีนะ แถมฝึกทักษะการอ่านไปในตัวด้วย ศัพท์ไม่ยาก ถ้าไม่เข้าใจ กูเกิ้ลทรานสเลทช่วยได้จ้า

3. พาร์ท ad,Letter,Poem(เพิ่มมาใหม่รุ่นนี้) ศัพทย์ง่าย แจกคะแนน
- พาร์ทนี้ศัพท์ไม่ค่อยยาก ลองมองหาคำตอบดีๆ ทำได้เต็มได้ง่ายๆ ถ้าไม่รู้จริงๆ ลองเอาช้อยส์ไปหาดูว่าอยู่ส่วนไหนของกระดาษ (อาจมีการใช้ศัพท์คนละคำแต่ความหมายคล้ายๆทำให้เราหาไม่เจอ) แล้วเทียบว่าใช่สิ่งทีคำถามต้องการมั้ย ถ้ามันดูแปร่งๆแสดงว่าไม่ใช่แล้ว พาร์ทนี้ฝึกทำโจทย์บ่อยๆจะจับจุดได้เอง สักรอบสองรอบก็น่าจะทำได้แล้ว
4. โหลดแอพ Gat ก่อนเข้าสู่ช่วง Reading
- เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งงงว่าทำไมถึงให้โหลดแอพเกทตอนสอบ 9 วิชาสามัญ
1 วันของเรา เวลาเดินทางหรือทานข้าว จะให้มาแบกหนังสือ หรือแบกคอมแบกชีท ทำข้อสอบมันก็ลำบากลำบน แต่ถ้าเป็นแอพพลิเคชั่นจะดีกว่ามั้ย?

         พี่ก็จำชื่อแอพตายตัวไม่ได้แล้ว (ลองเสิร์ชว่า Gat eng ได้เลย) แต่เป็นแอพของแกทอิ้ง จะมีมินิเกมสองสามโหมด ให้เราลองเล่น แอพพวกนี้จะรวมคำศัพท์ในข้อสอบเก่าๆ และเก็งคำศัพท์หลายๆหมวด มาให้เราลองทายความหมาย พี่ว่ามันมีประโยชน์มากๆ เพราะบางคำเราเจอบ่อย แต่เราก็ไม่รู้ว่ามันมีความหมายแฝงอื่นๆอีกด้วย ซึ่งข้อสอบมักจะเอาจุดนี้มาเล่นงานเรา พี่เล่นแอพนี้ไปแค่วันเดียว พี่ก็รู้สึกว่าเปิดคลังศัพท์เราได้ไกลขึ้นเยอะ โดยเฉพาะศัพท์ที่เราไม่ค่อยใช้ในชีวิตประจำวัน (แต่ไปโผล่ในข้อสอบแทน :( )


5. พาร์ท Reading ที่ห้ามเท!
- พาร์ทนี้มีจำนวนเยอะมากสุด ถึง 40 ข้อ หมายความว่าถ้าน้องคิดจะเทพาร์ทนี้ คะแนนก็จะหายไปครึ่งนึง ฉะนั้น เทไม่ได้จ้า

          อยากให้ทำความเข้าใจกันก่อน พี่รู้ว่ามันยาก ยาว เยอะ ยั้วะเยี้ยะน่ารำคาญ แต่ถ้าเราไม่อคติ ตั้งใจอ่านจริงๆ มันไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงเลย
          สิ่งที่ควรเตรียมตัวก่อนเริ่มทำพาร์ทนี้ คือ
1. เล่นแอพด้านบนไปสักพักจนเริ่มวนเจอแต่ศัพท์เดิมๆแล้ว (นั่นหมายความว่าน้องเริ่มรู้ศัพท์เยอะขึ้นแล้ว)
2. อย่าล่อกแล่ก หรือทำอย่างอื่นอยู่ หาที่สงบๆให้ตัวเองแล้วตั้งใจ
3. หากมีข้อที่คิดว่าตัดสินใจไม่ได้ตอนนี้ ลังเล ให้ข้ามได้ แต่ต้องติ๊กช้อยส์ที่คิดว่าน่าจะถูกไว้ (ถ้ามีข้อที่คิดว่าน่าจะถูกเกิน 1 ข้อ ก็ติ๊กไป พี่ยังเคยติ๊กตั้ง 3 ข้อ จากในทั้งหมด 5 ข้อ)
4. พาร์ทนี้เป็นพาร์ทที่ทำแล้วไม่มีวันหวนกลับ น้องจะมาแบบ เก็บไว้ทำทีหลังแล้วกัน ไม่ได้ เพราะทันทีที่น้องอ่านไปแล้ว นั่นหมายถึงน้องเสียเวลาให้กับมันไปแล้ว ฉะนั้นต้องทำเลย อย่าลีลา ไม่งั้นก็จะทำไม่ทัน


เทคนิคเล็กๆ
- หาหัวข้อให้เจอก่อน เพราะส่วนมากมันจะถามอยู่แล้ว การหาหัวข้อของแพสเสจง่าย และเบสิคมาก ถ้าน้องเจอศัพท์ไหนถูกพูดถึงบ่อยๆปุ้บ เวลาน้องไปอ่านช้อยส์ แล้วช้อยส์ไม่มีคำศัพท์นั้น (หรือคำพ้อง) ตัดทิ้งได้เลย 100%

ทีนี้ ช้อยส์ที่เหลือ มาดูว่าอันไหนเป็นประเด็นสำคัญที่เขาพูดถึง และจำเป็นจะต้องเกี่ยวข้องกับบทสรุปของเนื้อเรื่องด้วย (พารากราฟแรกไม่จำเป็นจะต้องเกี่ยวข้องกับหัวข้อ แต่พารากราฟสุดท้ายจำเป็น
เสมอ)

- ถ้าไม่เข้าใจคำถามจริงๆ เดาไปก่อน อย่าดันทุรังทำ เพราะจะเสียเวลา แพสเสจยังรอน้องอยู่อีกเป็นล้าน ถ้ามัวแต่นั่งคิดคำถามข้อเดียว คะแนนหายหมดพอดี

- เวลาเขาโควทประโยค หรือคำศัพท์มา แล้วถามเราว่ามันแปลว่าอะไร ให้ลองอ่านย้อนก่อนหน้าประโยคหรือคำนั้นนั้น มันช่วยได้เยอะมาก โดยไม่จำเป็นจะต้องอ่านเนื้อเรื่องทั้งหมด

- พาร์ท Reading พี่พูดได้อย่างเดียวว่าพยายามโฟกัส มันจะรีดทุกทักษะของน้องในวิชานี้ออกมา ฟังพูดอ่านเขียนวิเคราะห์จับประเด็น มันใช้ทุกทักษะ ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองจะทำช้า อย่าอ่านหมด น้องต้องใช้การ Skimming ไม่ใช่ Scanning อ่านทุกประโยค อ่านได้ แต่อย่าพยายามทำความเข้าใจจนหมด ในโลกของข้อสอบ มันจะมีศัพท์ สำนวน อะไรที่เราไม่เข้าใจโผล่มาตลอด อย่าหลุดโฟกัสเพราะมัน เอาแค่เฉพาะส่วนที่เขาถามก็พอ
 

6. จับเวลาทำข้อสอบ
- หลายคนอาจจะจับแบบทั้งชุด 1.30 ชม
แต่พี่จะแนะนำให้น้องจับแยกเป็นพาร์ทๆ
เพราะมันทำให้น้องรู้ว่า น้องกำลังเปลืองเวลาไปกับส่วนไหน และถนัดส่วนไหนที่สุด

เพราะเราสามารถประหยัดเวลาส่วนที่เราสามารถประหยัด เอาไปทดเวลาบาดเจ็บให้กับพาร์ทที่ยากๆ (ส่วนมากก็คือแพสเสจ)
โดยเฉพาะคอนเวอร์ ลองจับคอนเวอร์เซชั่นแค่ 15 นาที แล้วทำทั้งหมด 20 ข้อดู พี่เชื่อว่าเราทำได้ ถ้าทำจนคล่อง จนเก่ง (แต่ห้ามประมาทนะ) พาร์ทนี้ แค่ 5-10 นาทีเราก็ทำได้

พี่จะจัดสัดส่วนให้สำหรับคนที่ไม่ถนัดรีดดิ้ง
>> คอนเวอร์ : รีดดิ้ง 1 : รีดดิ้ง 2 (แพสเสจ) >> 15 : 15 : 60

คนที่ถนัดรีดดิ้ง
>> 20 : 20 : 50

โดยประมาณ บวกลบไม่เกิน 5


7. พาร์ท Cloze test
- ทบทวนแกรมมาร์เบื้องต้น
- แยกให้ได้ว่าอะไรคือ adv adj n. แล้วค่อยเลือกข้อที่ถูก น้องอาจจะคิดว่าง่าย แต่คนเสียคะแนนให้ตรงนี้เพราะคิดว่ามันง่ายเยอะมาก บางคนทำไม่ถูกเลยก็มี

 

 
Items ที่ควรมี :

- หนังสือภาษาอังกฤษพี่ว่าควรจะเลือกซื้อตามพื้นฐานของน้อง
เพราะเนื้อหาแต่ละสำนักก็เหมือนๆกัน
พี่เคยซื้อเล่มนี้มาอ่านตอนม.3


พี่ว่ามันปูพื้นฐานทั้งหมดใหม่ให้ดีมาก

แต่ถ้าน้องอ่านแล้วน้องไม่ชอบ
หรือรู้สึกว่าเขาอธิบายไม่เข้าใจ
ลองไปหาหนังสือที่เหมาะกับตัวเองดู


ปล. เล่มนี้หนามากกกก พี่ยังอ่านไม่จบเลย
เลยไม่แนะนำถ้าเกิดว่าจะพกไปอ่านตอนก่อนสอบ เวลาน้อยๆคงอ่านไม่ทัน

ถ้าน้องอ่อนโวแคบ ก็ต้องซื้อโวแคบ
อ่อนอ่านก็ต้องซื้ออ่าน
อ่อนแกรมมาร์ ก็ต้องซื้อแกรมมาร์

แอพมากมายต่างๆที่เราโหลดลงมือถือได้ ลองโหลดมาใช้
เพราะมือถืออยู่กับเราเสมอ ไม่เคยห่างมือ
ลองเอาเวลาเล่นโซเชี่ยล มาลองเล่นแอพเหล่านี้
แค่ไม่กี่วัน หรือสัปดาห์ก่อนสอบ มันช่วยให้น้องมีความจำระยะสั้นเพิ่มขึ้น
และช่วยในการทำข้อสอบได้แบบน่าตกใจ

*โดยเฉพาะแอพดิกไทยอิ้ง อิ้งอิ้ง ควรมีติดตัวไว้ทุกคน
เพราะเวลาทำข้อสอบ หรือเราอ่านหนังสือ
แล้วมีอะไรที่ไม่เข้าใจ จะได้ควักมาเปิดได้ทันที*

เว็บไซต์สำหรับคนเตรียมสอบที่แนะนำก็คือ :

http://www.bbc.com/news/business << เอาไว้อ่านข่าว ตื่นมาอ่านวันละข่าวก็ดีแล้ว
https://www.examenglish.com/ << มีข้อสอบให้ลองทำ



สุดท้ายนี้อยากบอกว่า ตัวพี่เองก็ไม่ได้ทำได้ตามแผนการที่วางไว้ทั้งหมด
และเคล็ดลับบางอย่างที่บอกไป พี่ก็จำไม่ได้จนครบเวลาเข้าห้องสอบ
พี่ตั้งเป้าหมายไว้ที่
ไทย 90 สังคม 40 อังกฤษ 90
ทำจริงๆออกมาเป็น 80 54 86 ซึ่งพี่ก็โอเค
ผลลัพธ์ที่พี่ได้ แลกกับค่าเหนื่อยระยะสั้น และความเครียดที่พี่ได้รับ
มันทำให้พี่รู้สึกว่าการได้คะแนนจำนวนเท่านี้ถือว่าคุ้มมากแล้ว

อยากจะฝากถึงน้องๆเด็กรุ่นต่อไปหรือคนที่อยากจะซิ่วว่า
การเตรียมตัวก่อนล่วงหน้ามันดีเสมอ
ลองประยุกต์ใช้วิธีที่มีคนแนะนำ บางอย่างเราอาจจะใช้ได้ บางอย่างก็ไม่ได้
หา The best ของตัวเองให้เจอ
ให้รางวัลตัวเองบ้าง อย่าหักโหมอ่าน การหักโหมอ่านไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น
รักษาสุขภาพให้มากๆ

อย่าละเลยการอ่านหนังสือเลย
เพราะตอนนี้น้องอาจจะสบาย
แต่ถ้าน้องนึกถึงตอนที่สอบไม่ติด
การที่น้องสบายตอนนี้แล้วไปลำบากตอนหน้ามันก็ไม่ดีอยู่ดี

สู้ๆ น้า เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแล้ว อดทนแล้วมองให้มันเป็นเรื่องสนุกเข้าไว้!


 





 

แสดงความคิดเห็น

>

15 ความคิดเห็น

Coco 9 เม.ย. 61 เวลา 18:42 น. 1

เธออ่านแค่ 1อาทิตย์ยังได้คะแนนเยอะกว่าเราืี่อ่านมาทั้งปีเลยอ่ะT^T

1
GOLGADON 9 เม.ย. 61 เวลา 20:25 น. 1-1

ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัยค่ะ ขอให้ติดคณะที่หวังไว้น้า

0
มาลุ้นดูสิ 9 เม.ย. 61 เวลา 18:55 น. 2

อยากได้คะแนนอิ้งจขกท.มาก ไทยกับสังคมเกินคาดแต่ผิดหวังกับอิ้งอ่ะ ยอมรับว่าไม่สู้กับอิ้งจิงๆ เลยเท เศร้า

1
GOLGADON 9 เม.ย. 61 เวลา 20:26 น. 2-1

ถ้าสังคมดี เอามาแลกกันเลยค่ะ 555555555

อังกฤษเป็นวิชาปราบเซียนจริง ยิ่งปีนี้รู้สึกแพสเสจจะยากขึ้นหน่อยๆ ใครทำไม่ทันนี่ซวยเลย

0
GOLGADON 11 เม.ย. 61 เวลา 16:32 น. 3-2

ถ้าหมายความว่า "ถ้าขี้เกียจจริงๆ ก็คงไม่มาตั้งกระทู้แบบนี้" มันก็ไม่ใช่นะคะ เราขี้เกียจก็จริง แต่ก็ไม่ได้ขี้เกียจกับการทำทุกอย่าง แค่ขี้เกียจอ่านหนังสือค่ะ

0
GOLGADON 11 เม.ย. 61 เวลา 16:38 น. 4

ปล. พี่รับปรึกษาวิธีการอ่านหนังสือฟรีนะคะ

ทุกสนามยกเว้น กสพท(พี่ไม่ได้สอบ)

แล้วก็เร็วๆนี้จะเปิดสอนพิเศษ ภาษาอังกฤษ 9 วิชาสามัญ

รับประกันคะแนน 70+ ขึ้นไป


แต่ต้องรีบตั้งแต่เนิ่นๆ นะ ไม่ใช่มาเริ่มสักหนึ่งเดือนก่อนสอบ

ถ้าแบบนั้นรับประกันคะแนนไม่ได้ 100% จ้ะ

สนใจลองแอดไลน์มาคุยก่อนได้จ้า


Line id : mrusure

5
Fah169 11 เม.ย. 61 เวลา 18:11 น. 4-1

หาไม่เจอค่ะ พี่แอดหนูมาได้ป่าวคะ

0
GOLGADON 11 เม.ย. 61 เวลา 18:24 น. 4-2

หาไม่เจอหรอคะ งือ มีน้องคนอื่นๆแอดมาได้น้า

น้องลองค่อยๆ พิมพ์ดู ไม่มี @ จ้า แค่ mrusure ติดกันเลย

หรือถ้าหาไม่เจอจริงๆ บอกไอดีน้องมาก็ได้เดี๋ยวพี่แอดไปค่ะ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ซื้อขาย / แลกเปลี่ยน คอร์สกวดวิชา กรุณาไปที่ www.dek-d.com/education/tutorcenter

GOLGADON 12 เม.ย. 61 เวลา 21:30 น. 4-5

รับค่ะ ถ้ายังไงแอดไลน์เอาน้า งดถามตรงนี้จ้า

0
เรียกพี่ว่าโอปป้า 12 เม.ย. 61 เวลา 15:06 น. 5

9วิชากับ gatถ้าได้เเกรมม่าช่วยเยอะไหมอะ พวกรีดดิ้งนี้ใช้ศัพท์หรือเเกรมม่าพอดีเราไม่รู้เรื่องเลยอังกฤษต้องฝึกทำโจทย์ไหมถ้าพวกคอนเวอนี้คือรู้เเปลได้ตอบถนอมน้ำใจใช้ไหม

4
GOLGADON 12 เม.ย. 61 เวลา 15:41 น. 5-1

ข้อสอบภาษาอังกฤษทุกชนิด ถ้าเราเก่งแกรมม่าร์ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีค่ะ

แต่ถ้า 9 วิชา จะไม่มีพาร์ทแอร์เรอร์ แต่มีแค่ Cloze test ให้เราตอบ ต่อให้ไม่แม่นแกรมมาร์มาก

บางทีก็ไม่มีผลเท่าไหร่


ต้องฝึกทำโจทย์มั้ย ต้องค่ะ ถ้าอยากได้คะแนนดีๆ คุ้นเคยกับโจทย์ก่อนก็ได้เปรียบกว่า


คอนเวอร์เซชั่น แปลออกไม่ได้หมายความว่าจะตอบได้เสมอไปค่ะ

มีคนที่แปลอ่าน แล้วตอบผิดก็เยอะ


ตอบถนอมน้ำใจมั้ย ต้องดูบริบทของผู้พูดค่ะ และต้องดูด้วยว่าผู้พูดเป็นใคร

ยกตัวอย่างปีนึง เป็นบทสนทนาระหว่างครูกับนักเรียน แต่ผู้พูดที่เป็นนักเรียน

กำลังอยู่ในอารมณ์โมโห คำตอบก็ไม่ได้ถนอมใจผู้ฟังค่ะ

0
เรียกพี่ว่าโอปป้า 12 เม.ย. 61 เวลา 18:41 น. 5-2

อ่อเข้าใจละครับ ขอบคุณนะครับ เเต่สงสัยตรง colze testนี้คือข้อผิดใช่ไหมไม่ต้องเเก้เหมือนใน gat

เเล้ว reading นี้คือต้องเน้นศัพท์อ่านให้เข้าใจทำโจทย์ใช่ไหมครับไม่จำเป็นต้องเเกรมม่ามาก

คือผมโง่อังกฤษจริงๆอะครับ เเบบสงสัยว่าพวก tense ไรพวกนี้มันมีออกตรงไหนหรอครับ

เเล้วศัพท์นี้มีออกเเนวเก่าๆมาไหมครับ

0
GOLGADON 12 เม.ย. 61 เวลา 21:22 น. 5-3

Cloze test คือข้อสอบที่จะเว้นช่องว่างให้เราเติมคำที่ถูกต้องค่ะ

มีทั้งแกททั้งวิชาสามัญ


Reading เรื่องแกรมมาร์ก็พูดยากค่ะ เพราะแกรมมาร์คือพื้นฐานของทุกอย่าง

แล้วขึ้นอยู่กับว่า แกรมมาร์ "อ่อน" นี่ อ่อนระดับไหนในมุมมองของแต่ละคน

คำว่า อ่อน สำหรับเรา คือเข้าใจเทนส์ทั่วไป แต่ไม่รู้รายละเอียดของคำขยายความในประโยค

แต่ถ้าอ่อนแบบ ไม่เรียน ไม่เอา ไม่เคยสนใจวิชานี้มาก่อน ก็ยากค่ะ


เพราะแพสเสจ อย่างใน Onet ใน Gat ไม่เท่าไหร่ เราถือว่าง่าย

แต่ถ้า 9 วิชา แพสเสจส่วนมากเอามาจากข่าวต่างประเทศ ไม่ก็นิตยสาร Business

คำศัพท์และเนื้อเรื่องเป็นแบบเฉพาะทาง ยิ่งทำในระยะเวลาที่จำกัด ก็ถือว่ายากค่ะ

เพราะนอกจากจะทำให้ทันแล้วต้องทำให้ถูกด้วย


คำศัพท์ มีออกเก่าๆบ้างค่ะ แต่ถ้าศัพท์ยากๆ แต่ละปีไม่ค่อยซ้ำกัน


Tense ไม่ออกยากมากค่ะ ส่วนมากก็จะมีสี่เทนส์หลัก แล้วก็ Past con, would/could have been ไม่ได้ออกลึกมาก ที่ยากคือคำศัพท์มากกว่า


ถ้าอยากลองปูพื้นใหม่ ลองมาถามเราได้น้า แอดไลน์ตามเม้นบนเลย

ขึ้นอยู่กับว่าจะปูพื้นเอาไว้สอบอะไรด้วย หรือจะปรึกษาวิธีการอ่านหนังสือเฉยๆก็ได้ค่ะ


0
เรียกพี่ว่าโอปป้า 12 เม.ย. 61 เวลา 22:53 น. 5-4

อ่อขอบคุณมากนะครับพอดีผมเเบบยอมรับเลยว่าเกียจอังกฤษสุดๆ เเล้วอ่อนมากไม่รู้ไรเลยครับ

จริงๆครับเเบบความรู้ประถมผมไม่รู้ไรเลยเเกรมม่า ใช้คำว่าไม่เรียน ไม่เอาเลยก็ได้ครับเเต่ตอนนี้เอาครับ

คือ ม.6ผมเรียนรร.วัดธรรมดาๆ เรียนจดตามเเล้วก็หาคำตอบมาเฉลยครูไม่ได้สอนไรเลยครับ

เรียนกับครูต่างชาติเขาก็สอนให้จำบทความมาเเล้วเอามาพูดหน้าห้องมันก็ไม่ได้ไรเลย

คือเรียนeng3 ตัวครูไทยก็สอนตั้งคำถามเเบบเด็กอยู่เลยครับผมก็ยังทำไม่ได้ question tag ไรเนี่ยเเละ

เเล้วก็เรียนตอนม.5ก็นั่งทำงานครูก็ไม่ได้สอนครับเเบบวาดรูปมายเเมพอังกฤษเเกรมม่ามาส่ง

เรียนกับครูต่างชาติก็จำบทสนทนามาพูดมาสอบกับเพื่อน ไม่ได้อะไรเลยครับ

ผมอาการหนักครับ 55555 คะเเนนสอบไปไม่ต้องพูดถึง ความรู้เท่าประถมครับ เเเต่ได้ที่1ของห้องมาเพราะว่าหน่วยกิตวิทย์มันเยอะพอเราได้เยอะสอบได้น้อยเพื่อนมีอยู่คนติดที่ดีมีมหาลัยดีที่เรียนดีมันก็คุยเเบบนี้ที่ 1 หรอ เเบบเเย่ขนาดนี้ มันก็ขำ ก็เลยอยากจะพัฒนาครับเรียนในห้องก็ตกนะครับมันก็รู้เราเเย่ได้ เกรด 2.5

เเต่ที่เหลือก็ 4 เกือบหมดเพราะเรียนง่ายรร.วัดธรรมดา

0
Munich10_10 17 ธ.ค. 61 เวลา 19:22 น. 6

พี่รอดมาได้ไงคะเนี่ย หนูขอคาระวะเป็นศิษย์เลย #Dek62 ที่ไม่มีอะไรติดในหัวเลย #อีก 2เดือนสอบ

1
GALGODON 24 ก.พ. 62 เวลา 19:16 น. 6-1

พี่คือจขกทน้า พอดีพี่ลืมรหัสผ่านไอดี

เลยขออนุญาตตอบแบบนี้แทน


พี่เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนค่ะ เชื่อว่าระยะเวลาที่เหลืออยู่ถ้าเรามีความตั้งใจจริงไม่ว่าจะสนามไหนก็ไม่ยากเกินความสามารถเลย ถึงอย่างนั้นมันก็จะต้องเป็นช่วงที่เราทุ่มเทให้กับมันจริงๆ เช้าสายบ่ายเย็นเราต้องใช้เวลากับวิชาที่เราต้องการboosts up ให้เต็มที่


เป็นกำลังใจให้ค่ะรอฟังข่าวดีน้า

0
ggingnsp 31 ม.ค. 62 เวลา 21:21 น. 7

โหววววว พี่เก่งมากๆเลยค่ะ แนะนำวิธีดีมากกก เราก็เหลือเวลาไม่ถึงเดือนแล้วด้วยยย จะลองวิธีพี่ไปทำดูนะคะะ

1
GOLGADON 24 ก.พ. 62 เวลา 19:17 น. 7-1

ยินดีจ้า สู้ๆน้า ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถเราแน่นอน

0
เด็ก 62 24 ก.พ. 62 เวลา 00:26 น. 8

จขกท ทำข้อสอบย้อนหลังจากไหนหรอคะ หนูหาข้อสอบย้อนหลังไม่ได้เลยค่ะ ช้วยบอกเว็บหน่อยได้มั๊ยคะ ขอบคุณมากค่ะ

1
GOLGADON 24 ก.พ. 62 เวลา 19:18 น. 8-1

เสิร์จตามกูเกิ้ลได้เลยค่ะ เว็บadmissionpremium มนเด็กดีก็มีบางกระทู้รวบรวมไว้นะ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

StlyeMhee 27 ก.พ. 62 เวลา 23:11 น. 10

พี่คะ หนูมีปัญหากับพาร์ทreadingมากเลยค่ะ คือพยายามทำข้อสอบแล้ว ซื้อหนังสือเฉพาะreadingมาอ่านแล้วแต่พอทำแบบทดสอบออกมาผลคะแนนคือต่ำกว่าที่คิดไว้แบบเยอะมากเลยค่ะ TT หนูควรแก้ปัญหาตรงไหนดีคะ อ่านแพสเสจยาวๆ บางทีไม่รู้เลยว่าแพสเสจนี้มันต้องการจะสื่ออะไร ทำให้มีปัญหากับการทำข้อสอบพาร์ทนี้มากกกก ต้องใช้คะแนนอิ้ง9สามัญ 60+ ด้วย ฮือออ

0
sprinkle star 21 มี.ค. 64 เวลา 12:35 น. 14

ขอบคุณที่แชร์เทคนิคดีๆ ให้นะคะ รวมถึงแหล่งฝึกภาษาด้วย ชื่นชมคะแนนมากๆ สูงมากเลยค่ะ พี่เก่งมากๆ เลย

0
กัปตันพิมพ์ 18 ม.ค. 65 เวลา 18:24 น. 15

ขอคารวะอีกคนค่ะ‍️ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ คำแนะนำเหมาะกับการมาปรับใช้ตอนนี้มาก เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนแล้ว;—; พี่สุดยอดมากค่ะ #dek65https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-big-04.png

1
phu201 18 ม.ค. 65 เวลา 21:34 น. 15-1

สู้เค้านะน้อง พี่เป็นกำลังใจให้ #dek64

0