เป็นคนไม่ค่อยฉลาด แต่ต้องเขียนตัวละครที่ค่อนข้างฉลาด ทำยังไงดีคะ
ตั้งกระทู้ใหม่
เข้าใจว่าต้องสร้างสถานการณ์ให้ตัวละครแสดงความสามารถ ติดตรงนี้แหละค่ะว่าจะแสดงออกมายังไง
17 ความคิดเห็น
อันดับแรกต้องเลิกต่อว่าตัวเองก่อนครับ เรามีความฉลาดอยู่ในตัว แค่ต้องกระตุ้นหรือพัฒนากันนิดหน่อย เมื่อคิดอย่างนี้ได้แล้ว (ต้องเชื่อจากใจจริงนะครับ ว่าเราฉลาดพอ) ก็ลองหาหนังสือที่มีชั้นเชิงในการเล่าเรื่องมาอ่านดูครับ นิยายสืบสวน ส่วนใหญ่ก็ช่วยได้ดีนะครับในเรื่องนี้ ลองดูครับ
อาจจะต้องแก้ไขข้อเข้าใจผิดก่อน เราไม่ได้ดูถูกตัวเองนะ ไม่คิดว่าตัวเองไม่ดีหรือโง่อะไรในทำนองนั้น แต่เวลาเจอคนที่ฉลาดมากๆ หรือตัวละครที่ฉลาดมากๆ เขาแก้ไขปัญหาอะไรบางอย่าง เราก็จะคิดแบบว่า เฮ้ย คิดได้ไงอะ คิดไม่ถึงเลยนะ หรือเวลาที่พวกเขาแสดงทัศนคติอะไรแบบนี้จะรู้สึกว่า มันแปลกไปจากเรา นั่นคือมุมมองของพวกเขาอย่างนั้นเหรอ ซึ่งเรากับเพื่อนก็อยากให้ตัวละครของพวกเราไปถึงจุดนั้นค่ะ ตอนนี้ก็พยายามอ่านปรัชญา+สืบสวนอยู่เหมือนกัน ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่า
ท่านไม่ได้ดูถูกตัวเองครับ แต่บอกว่าตัวเองเป็นคนไม่ค่อยฉลาด ที่ผมบอกไปก็คือให้ท่านเลิกมองว่าตัวเองไม่ค่อยฉลาดเท่านั้นเองครับ
ต่อให้จริงว่าท่านไม่ได้ดูถูกตัวเอง แต่ถ้าท่านมองคนอื่นสูงกว่าตัวเองเกินไป มันก็กดทับความกล้าในการเขียนออกมาแล้วครับ
เชื่อมั่นในตัวเองให้มากกว่านี้
พยายามอย่าเทความฉลาดแบบเหวี่ยงแห ฉลาดครอบจักรวาลค่ะ ลองเจาะลึกว่าตัวละครที่บอก "ฉลาดด้านไหน" พยายามดึงเรื่องที่เด่นตรงนั้นออกมา จากนั้นหาข้อมูลจากบุคคลจริงที่มีความฉลาดด้านนั้น หรือหาข้อมูลจากกูเกิ้ลค่ะ
อย่างนิยายของเรา มักหาจุดที่ตัวละครฉลาดก่อนเอามาเป็นจุดนำค่ะ เช่น หมอที่เก่งด้านศัลยกรรมสมองจะมีคนไข้ที่มีเนื้องอกและอาการซินเนสทีเซีย (เห็นเสียงเป็นสีและรูปร่าง) พอใส่ข้อมูลพวกนี้ลงไปในเรื่อง ว่าหมอรักษาคนไข้คนนี้อยู่นะ(ไม่ใช่พระเอกของเรื่อง) จะทำให้รู้สึกว่าหมอฉลาดได้เก่งได้ โดยไม่ต้องยัดคำบรรยายมากไปเจ้าค่ะ
1. อ่านเยอะๆ ค่ะ อ่านให้หลากหลาย ศึกษาตัวละครหลายๆ แบบ แล้วก็คอยสังเกตวิธีแก้ปัญหาของตัวละครแต่ละแบบ มันจะช่วยเพิ่มประสบการณ์ของเราโดยที่เราอาจจะไม่เคยประสบกับเรื่องนั้นๆ เอง แต่เคยอ่านมาเยอะ ก็จะช่วยเป็นข้อมูลเวลาที่เราต้องมาเขียนเองได้ค่ะ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่คนเราจะรู้เรื่องทุกอย่าง หรือเคยทำทุกอย่าง ต้องอาศัยอ่านช่วยเสริมความรู้ค่ะ
2. ลองขอคำปรึกษาจากเพื่อนหรือคนรู้จัก เรื่องไหนเราไม่ถนัดลองหาคนที่คิดว่าเค้าถนัดกว่า
ลองเล่าปัญหาที่ตัวละครเผชิญในเรื่องให้เค้าฟัง ถามหลายๆ คนว่าแต่ละคนจะทำยังไง
อาจจะได้มุมมองที่แปลกใหม่มาปรับใช้ได้ค่ะ
3. ดูว่าตัวละครต้องเก่งด้านไหนบ้าง ไปศึกษาข้อมูลในเรื่องนั้นมาเยอะๆ เวลาเขียนจะได้สมเหตุสมผลค่ะ
สู้ๆ ค่ะ
1. อย่าเขียนอวยตัวละครไปก่อนเลยว่า A เป็นคนฉลาด A เป็นคนอัจฉริยะ ฯลฯ อันนี้แม้จะสร้างความรับรู้ให้คนอ่าน แต่ถ้าตัวละคร A ไม่เคยแสดงความฉลาดออกมาเลย คนอ่านก็จะไม่มีทางเข้าถึงค่ะ
2. ฝึกตัวละครให้ช่างสังเกตและวิเคราะห์ให้เป็น อาจไม่ต้องแสดงความฉลาดอะไรออกมามาก แต่แค่ทำให้คนอ่านรู้สึกขึ้นมาได้บ้างก็น่าจะได้ในระดับหนึ่งแล้ว เช่น ถ้าถูกจับตัวมาก็ให้สังเกตทางหนีทีไล่ วิเคราะห์ความเป็นไปได้ อะไรประมาณนั้น
3. อย่าสร้างคู่ต่อสู้ของตัวละครให้ดูโง่เพื่อยกระดับความฉลาดของตัวละคร บ่อยครั้งที่คนเขียนไม่รู้จะทำยังไงดี เลยให้คู่ต่อสู้ทำอะไรลงไปแบบโง่ ๆ แล้วพอตัวละครที่ฉลาดมาแก้เกม คนอ่านจะได้มองว่าเขาฉลาด ซึ่งวิธีนี้ไม่ดีเลย
4. ในการสร้างสถานการณ์ แนะนำให้อาจจะเขียนในกระดาษ ทำเป็นแผนผัง เขียนเป็นไทม์ไลน์ วาดรูป อะไรก็ว่าไป แล้วสังเกตรูโหว่ของสถานการณ์เหล่านั้นว่าจะหยิบอะไรมาใช้ได้บ้าง
5. ฉลาดมาตั้งแต่แรกก็ต้องฉลาดต่อไปจนจบ จริงอยู่ที่คนเราย่อมมีวันพลาด แต่การพลาดของคนฉลาดก็ต้องเป็นการพลาดแบบยอมรับได้ ไม่ใช่พลาดแบบที่คนอื่นมองแล้ว โห ไรเนี่ย แค่ทำแบบนี้ก็ไม่พลาดแล้ว ฯลฯ
แล้วผลสุดท้าย โดยไม่ต้องบอกอะไรแต่แสดงผ่านการกระทำและความคิดของตัวละครเองทั้งหมด คนอ่านก็จะกล่าวออกมาเองค่ะว่าตัวละครฉลาด
เราประสบปัญหาเดียวกัับจขกท. 5555+
ปกติเราไม่เขียนอวยตัวเอกว่าฉลาดหรือเก่ง (เพราะตัวเอกส่วนใหญ่มันไม่ได้เก่งขนาดนั้น- -)
แต่มันจะมีตัวละครอื่น ที่ตัวเอกเคารพ และตัวเอกคิดว่าคนคนนั้นเก่ง
ไอตัวพวกนี้แหละปััญหา เพราะว่าพวกตัวเอกมันจะมอง+คิด+พูด ชมตัวพวกนั้นออกมาเองเลย(เป็นการอวยโดยไม่ได้ตั้งใจ) orz เวลาจะคิดอะไรให้พวกมันนี่ยากแสนยาก
ต้องคิดแล้วคิดอีก หรือไม่ก็ต้องทำสถานการณ์ที่มันเหมาะกับตััวนั้นเอาไว้โดยเฉพาะ
เอาล่ะ วิธีการโดยมาตรฐานอย่างอ่านเยอะศึกษาเยอะ เหมือนใคร ๆ ก็รู้น่ะนะ เราก็ไม่แน่ใจว่ามีวิธีอื่นอีกไหม แต่เรื่องของเราตัวที่ฉลาดส่วนใหญ่เราจะวางให้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้มากกว่า เวลาเขียนก็อาจใช้เทคนิคที่แบบ ลิสส่วนประกอบของปัญหา วิธีการแก้ไขเอาไว้เยอะ ๆ แล้วหาทางที่สมกับเป็นตัวละครตัวนั้น จากนั้นค่อย ๆ ปูเรื่องไปในทางที่คนอื่นจะนึกถึงทางนี้ไม่ได้ นึกไม่ออก หรือมีปัจจัยอื่นครอบงำความคิด แล้วให้ตััวที่ฉลาดทำได้ขึ้นมา (หวัังว่ามันจะฉลาดอะนะ 5555+) อะไรแบบนี้
แต่ส่วนมากจะแสดงออกในเรื่องของการวางแผน อ่านใจคน หลอกถามเอาข้อมูล พูดให้อีกคนไปทำอะไรที่ตัวเองต้องการให้ทำได้อะ
เราใช้วิธีอ่านพวกแนวทางจิตวิทยา (บางทีก็ต้องหาหนังสือวิชาการอ่านอะนะ อ่านแต่นิยายตัวอย่างมันได้แต่ดูตัวอย่าง บางทีดูตัวอย่างแล้วว้าว เจ๋ง แต่พอกลับมานึกเองทำไม่ได้) แล้วก็ต้องเข้าใจความคิดของตัวละครให้ลึกหน่อยว่าเป็นคนแบบนี้ นิสัยยังงี้ จะคิดยังงี้...มั้ง
ส่วนตัวที่เก่งในทัักษะหนึ่ง ๆ อัันนี้เขียนไม่น่าจะยากมาก เพียงแต่คนเขียนต้องทำการบ้านเยอะหน่อย พวกนั้นจะเรียกว่า เชี่ยวชาญ แทนฉลาดอะนะ
ยัังไงก็มาสู้ไปด้วยกััน ย๊ากกกกกกก บางทีแผน 1 แผน ของเราใช้เวลา 3 เดือนในการคิด ตัวละครใช้เวลา 3 นาที อะไรแบบนี้ ฮ่า ๆ ๆ ๆ
เเนะนำให้ได้เเค่
การวางเเผนให้ตัวระครเอกที่เราอยากให้ฉลาดเป็นคนช่างสังเกต ชอบคิดวิเคราห์สถานะการณ์ รู้รอบครอบเเละทันคนอื่นเสมอน ต้องนำหน้าตลอด เเละที่สำคัญต้องเเก้เกมเก่งเเละวางกรยุทธ์เอาไว้ล่วงหน้าไว้หลายเเผน โดยนักเขียนต้องคิดคำนวนไว้ล่วงหน้าก่อนจะมาเริ่มเขียน
จะบอกว่าถ้าอยากให้โชว์ฉลาดออกมาเเบบเทพ ๆ ก็ให้นั่งอยู่ในที่เงียบ ๆ เเล้วกินช็อกเเลตพร้อมกล้วยเเล้วคิดให้หนัก ทบทวนเหตุเเละผลถึงความเป็นไปได้ ห้ามตกหลนอะไรไม่งั้นนักอ่านที่ชอบสังเกตจะจับทางได้ อย่างผมเนี่ยเวลาอ่านอะไรพยามจะไม่ตำหนิหรอสังเกตนะ เเต่มันดันคิดไปเอง
สรุปเเล้วก็คือการเขียนให้ผู้อ่านตามไม่ทันนั้นเอง การคาดเดาไว้ล่วงหน้าของเขาจะล้มเหลว เพราะผิดคาดที่ตัวละครคิดได้เเบบที่คนอ่านคิดไม่ถึง
ความคาดไม่ถึงที่จะทำให้คนอ่านทึ่งไปตาม ๆ กัน เเค่เขียนให้คนอ่านคลื่มไปกับการอธิบายของคนฉลาดที่มักจะพูดในสิ่งที่คาดไม่ถึงรวมถึงการกระทำด้วย
ลองหาอ่านนิยาย ดูหนัง หรืออ่านการ์ตูนที่มีตัวละครฉลาดๆ อย่างพวกสืบสวนสอบสวน ลองหาดู เป็นการสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมนะจ้ะ ไม่มีใครเก่งไปเสียหมดหรอก ตันตรงไหนก็หาข้อมูลตรงนั้นค่ะ
สำหรับความฉลาด มีหลายอย่างนะคะ จะเอาแกมโกง หรือแค่ทันคน หรือเป็นประเภทรู้ไปเสียทุกเรื่อง เป็นอัจฉริยะอะไรแบบนี้? ต้องหาตัวอย่างเท่านั้นแหละค่ะ อ่านเยอะๆ แล้วตามพวกเขาให้ทัน จะเขียนคนฉลาดออกมา เราต้องรู้ล่วงหน้าด้วย คือเราต้องฉลาดกว่าเขาอะคะ แต่อย่าเ้ขียนออกมาให้เว่อวังมากนะคะ เดี๋ยวคนอ่านมองบน ปูเรื่องด้วยว่าเขาฉลาดได้ยังไง พรสวรรค์ ความจำดี ช่างสังเกตุ ขี้สงสัย ขยันอ่าน ขยันสืบ พวกนี้เป็นสกิลช่วยให็ฉลาดขึ้น
เป็นคนไม่ค่อยฉลาด แต่ต้องเขียนตัวละครที่ค่อนข้างฉลาด ทำยังไงดีคะ
สวัสดีค่ะ
ตามหัวข้อเลยค่ะ เป็นคนไม่ค่อยฉลาด หมายถึง ทัศนคติ มุมมอง การพลิกแพลงและอื่นๆ ที่คนฉลาดๆ เขามีกัน ตัวเราไม่ค่อยมีน่ะค่ะ จะเขียนยังไงให้ตัวละครออกมาดูฉลาด ไม่เหมือนฉลาดแต่เปลือก ฉลาดแต่บทบรรยายอวยดีคะ
เข้าใจว่าต้องสร้างสถานการณ์ให้ตัวละครแสดงความสามารถ ติดตรงนี้แหละค่ะว่าจะแสดงออกมายังไง
ตอบ...ว่า ก็เขียนให้เขามีอาการคมในฟัก คือเงียบๆนิ่งๆ ไม่ทำไรมากมายนักค่ะ
หรือมีอาการคล้าย...นํ้านิ่ง...ไหลลึก...ไหลไปทางไหนก็ไม่รู้ได้ด้วย แบบนั้นค่ะ
หรือเป็นคนนิ่งๆ...หากทำได้ก็อาจจะหนักๆคล้ายเขานะเป็นกืก เป็นไบ้ไปเลยยิ่งดีค่ะ ดูเงียบ ดูสงบ ดูเก่ง ดูเท่เลยด้วยค่ะ
หรือเป็นคนที่ไม่พูดมาก เพราะหากให้เขานะพูดมากไปนะคะ เขาจะดูเก่งแต่ปาก ให้เขาพูดมากไม่ได้ค่ะ
และต้องไม่แสดงอาการเก่ง หรือเทพใดๆทั้งสิ้นค่ะ
อาการคาแร็คเต่อร์...ตัวละครเหล่านี้...คือเอมมิจ...ของตัวละครฉลาดค่ะ
และหากเขาแสดงอาการเก่ง เทพนะคะ เขาจะกลายเป็นตัวละครโง่...ขึ้นมาทันทีเลยด้วยค่ะ
จากที่อ่านๆ และเฝ้าศึกษา เรียนรู้มาหลายๆปี...ที่นี่ ได้มีโอกาสรู้ได้ว่า...อาการคาแร็คเต่อร์แบบที่ยกมานี้ คืออาการของตัวละครที่ฉลาดค่ะ
เม้นต์นี้เป็นเม้นต์ของนักเรียนหัดเขียน... เข้ามาเม้นต์ให้คุณ เพื่อให้กำลังใจคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ
สู้สู้นะคะ
ทุกความฉลาด/อัจฉริยะ/รู้ บนโลกนี้เป็นจริงในสายตาเราได้ เพราะเรา 'เชื่อ'
จะเขียนตัวละครฉลาด เราไม่จำเป็นต้องฉลาดขนาดนั้นครับ แค่ต้องรู้วิธีเล่า/พูด/ทำออกมาให้มันดูฉลาด
วิธีที่ 1 เสริมด้วยคำพูดหรือการกระทำที่ดูเหมือนผู้เชียวชาญ
ยกตัวอย่างเทคนิคของคนขายอาหารเสริม เวลาลูกค้าเขาขอซื้ออะไร นอกจากคนขายจะแนะนำให้กินตัวอื่นเพิ่มแล้ว (ความรู้ปกติของเขา) เขาจะมีคำพูดแถมที่ทำให้ดู ฉลาด น่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นมาด้วย เช่น
ปกติแพ้ยาอะไรไหม?
ออกกำลังกายบ้างหรือเปล่า?
ทานตัวไหนอยู่หรือเปล่า?
บางคนอาจจะมีทำการตรวจวัดบางอย่าง เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ลูกค้าด้วย การกระทำพวกนี้บางทีไม่มีความจำเป็น หรือไม่ได้รู้ข้อมูลจริงๆเลยก็ได้ แต่คนพูดเขาต้องการสร้างความน่าเชื่อถือให้ลูกค้าเชื่อว่าเขา 'ฉลาด' ในเรื่องอาหารเสริมเฉยๆ
วิธีที่ 2 ศึกษาพฤติกรรมของคนฉลาดของจริง
ดูวิธีการพูด การทำตัว วิธีคิดต่างๆ ตัวอย่างมีหลายคนมากบนโลก แต่ผมขอยกตัวอย่างเป็นบทความหนึ่งของเว็บไซท์ dlitemag ที่พูดถึงไหวพริบในการโต้เถียงของมหาตมะคานธีแล้วกัน
สมัยที่คานธีกำลังศึกษาวิชากฎหมายอยู่ที่มหาวิทยาลัยลอนดอน มีอาจารย์ผิวขาวคนหนึ่งชื่อปีเตอร์ ซึ่งเกลียดคานธีมาก ทั้งเหยียดผิวและแสดงอาการไม่เป็นมิตรในทุกโอกาส การที่คานธีไม่ก้มศีรษะในขณะที่อาจารย์คุยด้วย ก็มีส่วนทำให้เกิดการปะทะคารมระหว่างกันบ่อย ๆ
วันหนึ่ง ในขณะที่อาจารย์กำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ในโรงอาหารของมหาวิทยาลัย คานธีเดินถือถาดอาหารผ่านมา และนั่งลงข้าง ๆ อาจารย์ อาจารย์จึงพูดว่า...
“คุณคานธี คุณไม่เข้าใจเลยนะ หมูกับนกจะนั่งกินอาหารด้วยกันไม่ได้หรอก”
คานธีมองอาจารย์แบบผู้ใหญ่มองเด็กดื้อแล้วตอบว่า...
“ไม่มีปัญหา ผมบินไปให้พ้นก็ได้ครับ”
ว่าแล้วคานธีก็ยกถาดเดินไปนั่งที่โต๊ะอื่นอาจารย์โกรธจนหน้าแดง และตั้งใจว่าสอบคราวหน้า จะหาทางเอาคืนให้ได้ แต่ปรากฏว่าคานธีตอบถูกหมดทุกข้อ อาจารย์ไม่พอใจและหงุดหงิด จึงถามคานธีว่า...
“คุณเจอกล่อง ๒ ใบ ใบนึงมีความรู้ และอีกใบนึงมีเงินจำนวนมาก คุณจะเลือกใบไหน”
คานธีตอบโดยไม่ลังเลว่า จะเลือกใบที่มีเงินจำนวนมาก อาจารย์ยิ้มเยาะและพูดประชดประชันว่า...
“ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะเลือกใบที่มีความรู้ น่าจะเหมาะสมมากกว่านะ”
คานธียักไหล่ และตอบอาจารย์ว่า...
“คนเรามักจะเลือกในสิ่งที่ตนเองไม่มี”
มาถึงตอนนี้อาจารย์หงุดหงิดเต็มทีและอารมณ์เสียมาก จึงเขียนคำว่า “-โง่” ลงบนกระดาษข้อสอบของคานธี คานธีนำกลับไปอ่านที่โต๊ะ และสงบสติอารมณ์คิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป ไม่กี่นาทีต่อมา คานธีลุกขึ้นและเดินไปที่โต๊ะอาจารย์ เขาพูดอย่างมีศักดิ์ศรี แต่แอบประชดอย่างสุภาพว่า
“อาจารย์ครับ อาจารย์เซ็นซื่อแล้ว แต่ยังไม่ได้ให้คะแนนผมครับ”
วิธีที่ 3 เชื่อให้ได้ก่อนว่าตัวเองฉลาด แล้วเลียนแบบคนฉลาดซะเอง
ตรงนี้จะเกี่ยวข้องกับทัศนคติล้วนๆ คนเรานิสัยเสีย ชอบเปรียบเทียบบทที่ 1 ของตัวเองกับบทที่ 20 ของคนอื่น ไอน์สไตน์ไม่ได้เกิดมาก็ฉลาดเลย เขาต้องเรียนรู้เหมือนมนุษย์คนอื่นทุกคน เขาอาจจะฉลาดในเรื่องวิทยาศาสตร์ แต่อาจจะไม่รู้อะไรเลยเรื่องการเต้นแอโรบิคเลยก็ได้ แล้วเราจะไปเทียบว่าไอน์สไตน์ฉลาดกว่าครูสอนเต้นแอโรบิค? ตลกแล้ว...
ให้ทำความเข้าใจก่อนว่าคำว่า 'ฉลาด' ในนิยามของตัวละครนั้นมันคืออะไร?
ฉลาดด้านวิธีคิดหรือแค่ข้อมูลเยอะ?
ฉลาดแบบยึดมั่นกับความยุติธรรมหรือฉลาดแกมโกง?
ฉลาดแบบพรสวรรค์หรือฉลาดเพราะขวนขวายมาเอง?
แล้วทีนี้ให้เพิ่มรายละเอียด/มิติ/เหตุผลรองรับเข้าไป...
วิธีคิด VS ข้อมูลเยอะ
วิธีคิด: "ขอโทษนะ แกจะแย่งหน้าที่คอมพิวเตอร์ไปทำไมวะ?"
ข้อมูล: "ผ่าตัดสมองคน ถ้าแกจำไม่ได้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน แกจะทำได้ไหมวะ?"
ยุติธรรม VS แกมโกง
ยุติธรรม: "แกมันไร้ความยุติธรรมไม่เห็นแก่ส่วนรวม"
แกมโกง: "แกมันโลกสวยมองไม่เห็นความจริง"
พรสวรรค์ VS ขวนขวาย
พรสวรรค์: "ของง่ายๆแค่นี้ ฉันหลับตายังทำได้ แล้วทำไมทำแกไม่ได้?"
ขวนขวาย: "แกทำตามความรู้สึก เป็นสาเหตุให้แกสอนคนอื่นไม่เป็น"
แล้วจะบอกว่าข้อ 3 ที่ผมมั่วมาทั้งหมดนี้ ผมทำได้เพราะเชื่อว่าตัวเองฉลาดครับ...
(ไม่ใช่สักแต่ว่าเชื่อ ต้องทำตัวให้เหมือนคนฉลาดด้วย ศึกษาเพิ่ม เปิดใจรับฟัง สังเกตแล้วคิดวิเคราะห์)
ทุกความฉลาด/อัจฉริยะ/รู้ บนโลกนี้เป็นจริงในสายตาเราได้ เพราะเรา 'เชื่อ'
คิด ทำ เป็น เชื่อ ในรูปแบบที่คุณว่ามานี้...มันจะฉลาดได้จริงนะค๊าา
ความที่เราเพียงมีความเชื่อ...ว่าฉลาด ดังที่คุณอธิบายมานี้...คืออาการที่ฉลาดได้จริงหรือคะ????
เช่น เชื่อในครั้งหนึ่งว่า...โลกที่เราอาศัยอยู่นี้...มันแบนเป็นเช่นแพนเค้ก...แบบนั้นนะคะ???
ซึ่งในเวลาต่อมา...ชาวโลกก็รู้ได้ถึงความจริงดังที่ว่า...ความเชื่อ...ดังกล่าวแท้จริงคือผิดเต็มๆ...คือแท้จริง...เป็นเหตุที่เป็นความเชื่อที่งมงาย...ในสิ่งที่ผิดไปจากความจริงนะคะนั้น
จริงแล้วคนที่ฉลาดจะไม่เชื่อในสิ่งที่ผิดๆนะคะ คือธรรมชาติของคนฉลาด...ค่ะ
เพราะจริงแล้วโลกที่เราอาศัยอยู่นี้น้าค้ามันกลมอ่าาาา
คือในความเป็นจริงแล้วโลกเป็นแบบนี้...ค่ะ
แบบนี้แล้ว...ความที่เชื่อ...แบบไม่มีเหตุผล...ซึ่งไม่สามารถเป็นหลักฐาน...แห่งการรู้ถึงความเป็นจริงได้...ก็คงไม่ใช่อาการของความฉลาด...นะคะ คุณเจ้าของเม้นต์ที่9(หรือคุณว่าไงคะ?)
ความจริง...ซึ่งเป็นอาการของความฉลาด...แท้จริงนะคะมันเป็นอย่างไร????กันแน่น๊าาาาาา อยากได้ อยากรู๊...อาการความฉลาด...เพื่อนำมาสร้าง...คาแร็คเต่อร์...ให้คุณพระเอก...ในนิยายที่ตั้งใจเขียนจริงนะคะ
จนมุม...ฮื้ออออ เกิดมาโง่นี้หนา...อาการจนมุม จนปัญญามันก็เกิดขึ้นได้บ่อยๆจริงด้วยสิน๊าาาา ฮื้ออ
ขอร่วมเป็นทุกข์...เอ่ยไม่ใช่ ร่วมคิด เพื่อค้นหาการสร้างคาแร็คเต่อร์...ให้ตัวละครฉลาดได้ด้วยคนค่ะ
หรือว่าการที่จะเขียนให้คุณพระเอกโง่...น่าจะง่ายดีกว่ามั้งเนาะ ฮื้อออ
ผมพูดในฐานะนักเขียนครับ ไม่ใช่ความรู้สากล
เคยมีน้องคนนึงมาปรึกษาผมว่า อยากจะเขียนนิยายเรื่องเกี่ยวกับแฮกเกอร์ แต่ไม่มีความรู้ด้านโปรแกรมมิ่งเลย ด้วยความที่ผมก็เคยเรียนสาขานี้มาก่อน เลยพอจะสอนได้นิดๆ หน่อยๆ
แต่สิ่งที่น้องคนนั้นพลาดจริงๆ คือทัศนคติครับ น้องเขาเชื่อว่า เราต้องเอาข้อมูลจริง ของจริงเท่านั้นมาเขียนนิยายไม่งั้นจะผิดจรรยาบรรณ... ผมเลยต้องอธิบายให้น้องเขาเข้าใจว่า...
เราแค่ต้องทำให้คนอ่านเชื่อตามตรรกะของท้องเรื่อง ไม่ใช่เอาข้อมูลจริงมาใช้(ซึ่งถ้าทำได้ก็ดี) เพราะไม่งั้นน้องเขาต้องใช้เวลาถึง 3 ปีในการไปเรียนรู้โครงสร้างตั้งแต่พื้นฐานของโปรแกรมมิ่ง เรียนเรื่องระบบเครื่อข่ายเน็ทเวิร์ค เรียนการเขียนโปรแกรม จนจบออกมาเป็นแฮกเกอร์แล้วค่อยมาเขียนนิยาย...มันไม่ใช่แล้ว
น้องเขาแค่อยากให้เป็นรสชาติในพล็อตนิยายรัก ไม่ได้จะเขียนหนังสือ How to hack
ส่วนในเชิงความรู้สากล สำหรับผมอันไหนก็ไม่เป็นจริงทั้งนั้นแหละครับ
เมื่อก่อนเราบอกว่าโลกแบน...
ต่อมาเราบอกว่าโลกกลม...
ต่อมาเราบอกว่าโลกทรงเหมือนลูกฝรั่ง...
ในอณาคตถ้าน้ำบนโลกแห้งไปก็คงเหมือนลูกทุเรียน...
คนเมื่อก่อนกล่าวว่า "อย่าฝืนชะตาฟ้าลิขิต"
ต่อมากล่าวว่า "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"
ต่อมากล่าวว่า "ใครดีใครได้"
ปัจจุบันกล่าวว่า "อ่อนแอก็แพ้ไป"
เหรียญเองก็ไม่ได้มีแค่สองด้านหัวกับก้อย
ยังมีด้านข้างแนวนอนที่ไม่รู้ว่าจะเรียกยังไง
ไหนจะเหรียญจีนที่มีรู 4 เหลี่ยมอยู่ตรงกลางอีก
ทุกอย่างเราค้นพบพัฒนาไปเรื่อยๆ แล้วก็ประกาศให้คนส่วนมากเชื่อไปเรื่อยๆเป็นวังวนไม่สิ้นสุด ซึ่งมันไม่มีใครผิดอยู่แล้ว ถ้าจะผิดก็คงจะเป็นคนที่ไปกล่าวหาคนอื่นว่า คิดไม่เหมือนฉัน = ผิด นั่นแหละครับ ผมก็ได้แค่เสนอทางออกให้ จขกท. ในรูปแบบที่ผมเชื่อเท่านั้นเอง
5555555
ผมพูดในฐานะนักเขียนครับ ไม่ใช่ความรู้สากล"...คุณหลุดประเด็นไหมคะนี่????
หรือคุณพยายามต่อกิ่ง ก้าน สาขา...ประเด็น ให้เกิดเป็นไอเดีย...ที่แตกต่างคะ
สำหรับ...หัวข้อเดิม...ซึ่งมีอยู่ว่า...เป็นคนไม่ค่อยฉลาด แต่ต้องเขียนตัวละครที่ค่อนข้างฉลาด ทำยังไงดีคะ "...ของเจ้าของกระทู้ค่ะ
จริงแล้วในกระทู้นี้...น่าจะมีการสนทนา...เกี่ยวกับ...อาการความที่จะฉลาดได้...หรือไม่ อย่างไร...นะคะ
ซึ่งเจ้าของเม้นต์เข้าใจว่า...หากคนเขาฉลาดได้นะคะ เขาก็จะฉลาดได้...แม้ในเรื่องที่เขาจะต้องแสดงออกมาเป็นบทบาทต่างๆ...
เช่นในนิยาย ในที่นี้...เราสนทนากัน...เรื่องความความที่ว่าฉลาดได้...เป็นแบบไหน หรือจะทำอย่างไร...ต่อให้เป็นตัวละคร เป็นการแสดงอาการความฉลาดก็จะสามารถเกิดขึ้นได้ด้วยนะคะ
คือจริงแล้ว...จากเม้นต์แรกของคุณ...นะคะ คุณก็พยายามที่จะอธิบาย...ถึง...อาการที่ว่าจะสามารถฉลาด...ได้...โดยความเชื่อนี่คะ
รู้สึกว่า...เม้นต์ต่อมาของคุณนี้...ดูคุณจะหลุดประเด็นไปนะคะ
ผลของการหลุดประเด็น...จะเป็นสาเหตุที่จักทำให้เราคุยกันต่อไป...ไม่รู้เรื่อง...นะคะ
คุณหลุดประเด็นไหมคะนี่...????
โอเคครับผม 'ยอม' ถ้าคุณจะมองแบบนั้น
โอเคครับผม 'ยอม' ถ้าคุณจะมองแบบนั้น"....หากคุณคิดว่าคุณไม่หลุดประเด็น...และคุณมีสาเหตุที่จะสามารถอธิบายต่อ...ได้...ชัดเจนนะคะ
คุณก็อธิบายมาค่ะ
รับฟัง คือคอยอ่านด้วยความตั้งใจด้วยค่ะ
เราคุย สนทนา แลกเปลี่ยนกัน...ในเรื่องความฉลาดที่จะสามารถเกิดขึ้นได้...เพื่อที่เราจะนำไปใช้เป็นคาแร็คเต่อร์...ให้ตัวละครดูฉลาดนะคะ
คุณต้องไม่ยอมอะไรๆง่ายๆสิคะ (หากมีเหตุผลส่งเข้ามาต่อ...นะคะ คอยอ่านอยู่ค่ะ)
เจ้าของเม้นต์เป็นนักเรียนหัดเขียน...ซึ่งอยากที่จะเรียนรู้การสร้างตัวละครฉลาด...ด้วยเช่นกันค่ะ
อืม...เหมือนกันค่ะ ที่รู้สึกว่า ตัวเองไม่ค่อยฉลาด เลยเขียนแบบที่เป็นตัวเอง ไม่เขียนบทที่ตัวเอกต้องฉลาดเท่าไหร่ แต่ถ้าต้องเขียน เราคิดว่าจะใช้วิธีเลียนแบบ เช่น ดูหนังที่เรารู้สึกว่า ตัวเอกฉลาด แล้วเราก็สร้างเรื่องให้เหมือนหนังที่เราดู มีเหตุการณ์คล้าย ๆ ในหนัง แล้วใช้วิธีเดียวกับที่ตัวเอกแก้ปัญหาอย่างฉลาด เลียนแบบมาทั้งเหตุการณ์และวิธีแก้ปัญหา ประมาณนี้ค่ะ
ส่วนตัวที่เคยลองมา แม้เสียดายว่าจะไม่ได้ลองแบบจัดเต็มในเรื่อง แค่ทดลองแบบส่วนเดียว แต่ก็ถืว่าประสบความสำเร็จดี คือคิดแผนไว้ล่วงหน้า เหมือนทำแผนภูมิเอาไว้หลายๆชั้น แล้วให้ตัวละครเขาคิดนำหน้าตัวละครอื่นๆเป็นต้น เป็นวิธีการแบบหนึ่งที่ลองแล้วออกมาโอเค
ตัวละครจะไม่พูดคำโง่ๆ ไม่แสดงอะไรที่เรารู้สึกโง่อ่ะ (ซึ่งน่าจะเป็นพื้นฐานที่มองได้ง่าย ว่าทำแบบไหนถึงจะรู้สึกโง่ - -*)
ทักษะความคิด การกระทำ จะรอบคอบ สังเกตุคน คิดไกล วิเคราะห์สถานการณ์มากกว่าคนอื่นๆ
คำพูดคำจาก็จะมีชั้นเชิง ไม่ใช่พูดตรงๆ แต่ก็ทราบถึงความหมายที่จะสื่ออย่างชัดเจน
แนะนำให้ไปอ่านฟิคเรื่องนี้ค่ะ ตัวเอกมีการวิเคราะห์รวมถึงการสังเกตุรายละเอียดต่างๆค่อนข้างดีเลย ไม่อวยเกินไปแต่ก้อไม่กดจนรู้สึกว่าตัวละครไม่มีความสาามารถ ป.ล. ไรท์ไม่ดั้ยจ่ายนะจ๊ะ
https://writer.dek-d.com/suwon/story/view.php?id=1538589
ทุกคนมีทักษะการแก้ปัญหาของตัวเองหมดครับ ถ้าเราต้องการจะสร้างความฉลาดของตัวละครตามสเกลระดับสติปัญญาที่เรามี ก็ต้องใช้วิธีแก้ปัญหาตามระดับสติปัญญาของเราเอง แบบนั้นจะดีกว่า แต่ที่สำคัญ สิ่งที่ต้องมีสำหรับตัวละครแนวๆนี้คือ "คิดก่อนทำ"
ผมเองก็ไม่ค่อยฉลาดในเรื่องการเข้าสังคมและเรื่องการมองคนเท่าไหร่หรอกครับ แต่ว่าเวลาเขียนนิยายของผม ตัวละครแนวหน้าไหว้หลังหลอกและรู้ทันคนมันมีเยอะ ส่วนใหญ่ผมจะอาศัยเรื่องการอธิบายภาษากายมากกว่า บวกกับประสบการณืส่วนหนึ่ง โดยหาอ่านจากหนังสือจิตวิทยานี่แหละครับ ถ้าเป็นเนื้อหาทางวิชาการก็จะหาหนังสืออ้างอิงมาสักเล่มสองเล่มบ้างครับ
อันนี้แนะนำไว้อย่างหนึ่งเวลาเขียนครับ คือถ้าจะเขียนให้ตัวละครดูน่าเชื่อถือว่าฉลาดจริงๆ ให้พยายามบรรยายละักษณะ ท่าทาง กิจวัตรต่างๆ และในเนื้อเรื่องก็ให้เขาลองผิดพลาดดูบ้าง เพื่อให้มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น ไม่ให้เรื่องง่ายจนเกินไปครับ
กินซุปไก่
กิน เปปที*
อยากเป็นหมอว์~
อืืืม การกระทำครับ... อย่างเอาเรื่องที่กำลังเขียน สิรินพ มันเป็นนักฟุตบอลฉลาดแบบกวน- ด้านความฉลาดเราก็ให้สิรินพแสดงออกด้วยความตุกติกกับลูกไม้ของมันในการเล่นฟรีคิกแบบแปลกๆ
โกล กรกฏ เป็นคนฉลาดที่สุดในบรรดานักฟุตบอลของซีรีย์นักฟุตบอล แต่เขาเป็นคนเงียบขรึม แต่ที่บอกว่าโกล ฉลาดคือ เขาเรียนเก่ง มีสมาธิสูงกว่าคนอื่น เป็นที่มีความสามารถในการติดตามความเคลื่อนไหวรอบตัวได้ โดยที่ตัวเองกำลังจดจ่อกับการทำอะไรบาง เช่น อ่านหนังสือ แต่ก็รู้ว่าโป้งกำลังทำอะไรอยู่
โจไฮซี ถูกเรียกว่าเทพยดาแห่งแคริบเบียน ตัวละครเองบุคลิกเป็นคนค่อนข้างสงบ ใจเย็น และดูไม่มีอะไร แต่เขาแสดงออกทางความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นทางการแพทย์ และการวางแผนการรบ
หนังหลายเรื่อง หักมุมตอนจบ คนฉลาดเขียนบท จะทำให้เหตุผลตั้งแต่ต้นยันปลายเหมือนเห็นปลาตัวใส ดูต้นเรื่องงงหนักมาก กลางเรื่องยังเดาไม่ถูก เช่นกัน การจะทำให้ตัวละครฉลาด ต้องสร้างสถานะการณ์ให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นคนพูดมากแล้วก็แสดงความฉลาดน้อยออกมาให้มากในแต่ละบุคคลิก ตัวเอกที่ฉลาดจริงฟังอย่างเดียวแต่คิดในใจสวนทางกับคนที่ขยันพูดแต่ไม่ขยันคิด เมือคนขยันพูดแยกย้ายไปกันหมดแล้ว คนฉลาดมากก็แอคชั่น ในแต่ละเหตุการณ์ที่แตกต่างกันไป เช่น ใครขโมยกินขนมหวานในตู้เย็นกรณีที่ เช่าห้องอยู่กันสี่คนแต่ไม่มีคนยอมรับ ฉะนั้น มีสองคนที่เป็นเจ้าของขนมกับคนขโมยกินขนม มีคนน่าสงสัยสามคนที่ตกเป็นจำเลย มีคนสองคนที่รู้ว่าตัวเองใช่หรือไม่ใช่หัวขโมย คนฉลาดที่ไม่ใช่ขโมยจะเป็นคนหาวิธีการหาตัวขโมยแบบเงียบๆ ด้วยการไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ ในทุกสถานะการณ์ที่เกิดเหตุการณ์ที่มากกว่าสองคนเกี่ยวข้อง สร้างสถานะการณ์ทำนองนี้หลายๆเรื่องโดยเหตุการณ์ที่สร้างนั้น ต้องแตกต่างกันไป การคิดในใจสวนกับคนอืนๆ แบบวิเคราะห์ตลอดเวลาก็เป็นการแสดงออกถึงความฉลาดที่ตั้งสมมุติฐานแบบหลักการ อัลกอลิทึ่ม คือ ถ้าแบบนี้ไม่ใช่ต้องมีเงื่อนไขแบบอื่นๆ มารองรับเพิ่มขึ้น จนสุดท้าย อัลกอลิทึ่มเขียนให้แก้ไขสถานะการณ์เป็นออโตเมติก นึกไม่ออก ลองเสริชหาคำว่า อัลกอลิทึ่ม ในพี่กูเกิ้ลดูค่ะ จะมองภาพออกว่า เราจะสร้างตัวละครให้ฉลาดแก้ไขสถานะการณ์ต่างๆ ได้แยบคายเป็นอย่างไร ดูหนังหลายเรื่อง ของฝรั่งประกอบ ดูบุคคลิกของตัวเอกว่า คนฉลาด คิด พูด ทำ มีลักษณะต่างๆ เป็นอย่างไรแล้วลองดัดแปลง แก้ไขผสมปนบุคคลิกที่เราคิดขึ้นมาใหม่โดยเอาตัวละครพวกนั้นมาเป็นพื้นฐานในการสร้างตัวละคร งานเขียนทุกเล่ม คนเขียนทั้งหมดล้วนจินตนาการเพิ่มจากการอ่าน ดู พบ เจอ จากประสบการตรงและอ้อมทั้งนั้น งานเขียนคือ สร้างมโนให้แรงและคาดเดายากกว่าในชีวิตปกติ อ่านแล้วทำให้คนอ่านคิดตามว่า โห่... แม่มมม คิดได้ยังงัย มันส์มากกก .
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?