Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เป็นคนไม่ค่อยฉลาด แต่ต้องเขียนตัวละครที่ค่อนข้างฉลาด ทำยังไงดีคะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตามหัวข้อเลยค่ะ เป็นคนไม่ค่อยฉลาด หมายถึง ทัศนคติ มุมมอง การพลิกแพลงและอื่นๆ ที่คนฉลาดๆ เขามีกัน ตัวเราไม่ค่อยมีน่ะค่ะ จะเขียนยังไงให้ตัวละครออกมาดูฉลาด ไม่เหมือนฉลาดแต่เปลือก ฉลาดแต่บทบรรยายอวยดีคะ

เข้าใจว่าต้องสร้างสถานการณ์ให้ตัวละครแสดงความสามารถ ติดตรงนี้แหละค่ะว่าจะแสดงออกมายังไง

แสดงความคิดเห็น

>

17 ความคิดเห็น

♠Rhapsody♠ 15 เม.ย. 61 เวลา 12:06 น. 1

อันดับแรกต้องเลิกต่อว่าตัวเองก่อนครับ เรามีความฉลาดอยู่ในตัว แค่ต้องกระตุ้นหรือพัฒนากันนิดหน่อย เมื่อคิดอย่างนี้ได้แล้ว (ต้องเชื่อจากใจจริงนะครับ ว่าเราฉลาดพอ) ก็ลองหาหนังสือที่มีชั้นเชิงในการเล่าเรื่องมาอ่านดูครับ นิยายสืบสวน ส่วนใหญ่ก็ช่วยได้ดีนะครับในเรื่องนี้ ลองดูครับ

3
มานีมีม้า 15 เม.ย. 61 เวลา 12:24 น. 1-1

อาจจะต้องแก้ไขข้อเข้าใจผิดก่อน เราไม่ได้ดูถูกตัวเองนะ ไม่คิดว่าตัวเองไม่ดีหรือโง่อะไรในทำนองนั้น แต่เวลาเจอคนที่ฉลาดมากๆ หรือตัวละครที่ฉลาดมากๆ เขาแก้ไขปัญหาอะไรบางอย่าง เราก็จะคิดแบบว่า เฮ้ย คิดได้ไงอะ คิดไม่ถึงเลยนะ หรือเวลาที่พวกเขาแสดงทัศนคติอะไรแบบนี้จะรู้สึกว่า มันแปลกไปจากเรา นั่นคือมุมมองของพวกเขาอย่างนั้นเหรอ ซึ่งเรากับเพื่อนก็อยากให้ตัวละครของพวกเราไปถึงจุดนั้นค่ะ ตอนนี้ก็พยายามอ่านปรัชญา+สืบสวนอยู่เหมือนกัน ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่า

0
♠Rhapsody♠ 15 เม.ย. 61 เวลา 13:13 น. 1-2

ท่านไม่ได้ดูถูกตัวเองครับ แต่บอกว่าตัวเองเป็นคนไม่ค่อยฉลาด ที่ผมบอกไปก็คือให้ท่านเลิกมองว่าตัวเองไม่ค่อยฉลาดเท่านั้นเองครับ

0
G.Tenju 15 เม.ย. 61 เวลา 19:34 น. 1-3

ต่อให้จริงว่าท่านไม่ได้ดูถูกตัวเอง แต่ถ้าท่านมองคนอื่นสูงกว่าตัวเองเกินไป มันก็กดทับความกล้าในการเขียนออกมาแล้วครับ


เชื่อมั่นในตัวเองให้มากกว่านี้

0
กุยแกตามหาโจโฉ V2 15 เม.ย. 61 เวลา 12:51 น. 2

พยายามอย่าเทความฉลาดแบบเหวี่ยงแห ฉลาดครอบจักรวาลค่ะ ลองเจาะลึกว่าตัวละครที่บอก "ฉลาดด้านไหน" พยายามดึงเรื่องที่เด่นตรงนั้นออกมา จากนั้นหาข้อมูลจากบุคคลจริงที่มีความฉลาดด้านนั้น หรือหาข้อมูลจากกูเกิ้ลค่ะ


อย่างนิยายของเรา มักหาจุดที่ตัวละครฉลาดก่อนเอามาเป็นจุดนำค่ะ เช่น หมอที่เก่งด้านศัลยกรรมสมองจะมีคนไข้ที่มีเนื้องอกและอาการซินเนสทีเซีย (เห็นเสียงเป็นสีและรูปร่าง) พอใส่ข้อมูลพวกนี้ลงไปในเรื่อง ว่าหมอรักษาคนไข้คนนี้อยู่นะ(ไม่ใช่พระเอกของเรื่อง) จะทำให้รู้สึกว่าหมอฉลาดได้เก่งได้ โดยไม่ต้องยัดคำบรรยายมากไปเจ้าค่ะ

0
เด็กหญิงจากโลกอดีต 15 เม.ย. 61 เวลา 13:00 น. 3

1. อ่านเยอะๆ ค่ะ อ่านให้หลากหลาย ศึกษาตัวละครหลายๆ แบบ แล้วก็คอยสังเกตวิธีแก้ปัญหาของตัวละครแต่ละแบบ มันจะช่วยเพิ่มประสบการณ์ของเราโดยที่เราอาจจะไม่เคยประสบกับเรื่องนั้นๆ เอง แต่เคยอ่านมาเยอะ ก็จะช่วยเป็นข้อมูลเวลาที่เราต้องมาเขียนเองได้ค่ะ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่คนเราจะรู้เรื่องทุกอย่าง หรือเคยทำทุกอย่าง ต้องอาศัยอ่านช่วยเสริมความรู้ค่ะ


2. ลองขอคำปรึกษาจากเพื่อนหรือคนรู้จัก เรื่องไหนเราไม่ถนัดลองหาคนที่คิดว่าเค้าถนัดกว่า

ลองเล่าปัญหาที่ตัวละครเผชิญในเรื่องให้เค้าฟัง ถามหลายๆ คนว่าแต่ละคนจะทำยังไง

อาจจะได้มุมมองที่แปลกใหม่มาปรับใช้ได้ค่ะ


3. ดูว่าตัวละครต้องเก่งด้านไหนบ้าง ไปศึกษาข้อมูลในเรื่องนั้นมาเยอะๆ เวลาเขียนจะได้สมเหตุสมผลค่ะ


สู้ๆ ค่ะ https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-01.png



0
Seesor [COS] 15 เม.ย. 61 เวลา 13:36 น. 4

1. อย่าเขียนอวยตัวละครไปก่อนเลยว่า A เป็นคนฉลาด A เป็นคนอัจฉริยะ ฯลฯ อันนี้แม้จะสร้างความรับรู้ให้คนอ่าน แต่ถ้าตัวละคร A ไม่เคยแสดงความฉลาดออกมาเลย คนอ่านก็จะไม่มีทางเข้าถึงค่ะ


2. ฝึกตัวละครให้ช่างสังเกตและวิเคราะห์ให้เป็น อาจไม่ต้องแสดงความฉลาดอะไรออกมามาก แต่แค่ทำให้คนอ่านรู้สึกขึ้นมาได้บ้างก็น่าจะได้ในระดับหนึ่งแล้ว เช่น ถ้าถูกจับตัวมาก็ให้สังเกตทางหนีทีไล่ วิเคราะห์ความเป็นไปได้ อะไรประมาณนั้น


3. อย่าสร้างคู่ต่อสู้ของตัวละครให้ดูโง่เพื่อยกระดับความฉลาดของตัวละคร บ่อยครั้งที่คนเขียนไม่รู้จะทำยังไงดี เลยให้คู่ต่อสู้ทำอะไรลงไปแบบโง่ ๆ แล้วพอตัวละครที่ฉลาดมาแก้เกม คนอ่านจะได้มองว่าเขาฉลาด ซึ่งวิธีนี้ไม่ดีเลย


4. ในการสร้างสถานการณ์ แนะนำให้อาจจะเขียนในกระดาษ ทำเป็นแผนผัง เขียนเป็นไทม์ไลน์ วาดรูป อะไรก็ว่าไป แล้วสังเกตรูโหว่ของสถานการณ์เหล่านั้นว่าจะหยิบอะไรมาใช้ได้บ้าง


5. ฉลาดมาตั้งแต่แรกก็ต้องฉลาดต่อไปจนจบ จริงอยู่ที่คนเราย่อมมีวันพลาด แต่การพลาดของคนฉลาดก็ต้องเป็นการพลาดแบบยอมรับได้ ไม่ใช่พลาดแบบที่คนอื่นมองแล้ว โห ไรเนี่ย แค่ทำแบบนี้ก็ไม่พลาดแล้ว ฯลฯ

แล้วผลสุดท้าย โดยไม่ต้องบอกอะไรแต่แสดงผ่านการกระทำและความคิดของตัวละครเองทั้งหมด คนอ่านก็จะกล่าวออกมาเองค่ะว่าตัวละครฉลาด

0
slimebox 15 เม.ย. 61 เวลา 16:38 น. 5

เราประสบปัญหาเดียวกัับจขกท. 5555+

ปกติเราไม่เขียนอวยตัวเอกว่าฉลาดหรือเก่ง (เพราะตัวเอกส่วนใหญ่มันไม่ได้เก่งขนาดนั้น- -)

แต่มันจะมีตัวละครอื่น ที่ตัวเอกเคารพ และตัวเอกคิดว่าคนคนนั้นเก่ง

ไอตัวพวกนี้แหละปััญหา เพราะว่าพวกตัวเอกมันจะมอง+คิด+พูด ชมตัวพวกนั้นออกมาเองเลย(เป็นการอวยโดยไม่ได้ตั้งใจ) orz เวลาจะคิดอะไรให้พวกมันนี่ยากแสนยาก

ต้องคิดแล้วคิดอีก หรือไม่ก็ต้องทำสถานการณ์ที่มันเหมาะกับตััวนั้นเอาไว้โดยเฉพาะ


เอาล่ะ วิธีการโดยมาตรฐานอย่างอ่านเยอะศึกษาเยอะ เหมือนใคร ๆ ก็รู้น่ะนะ เราก็ไม่แน่ใจว่ามีวิธีอื่นอีกไหม แต่เรื่องของเราตัวที่ฉลาดส่วนใหญ่เราจะวางให้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้มากกว่า เวลาเขียนก็อาจใช้เทคนิคที่แบบ ลิสส่วนประกอบของปัญหา วิธีการแก้ไขเอาไว้เยอะ ๆ แล้วหาทางที่สมกับเป็นตัวละครตัวนั้น จากนั้นค่อย ๆ ปูเรื่องไปในทางที่คนอื่นจะนึกถึงทางนี้ไม่ได้ นึกไม่ออก หรือมีปัจจัยอื่นครอบงำความคิด แล้วให้ตััวที่ฉลาดทำได้ขึ้นมา (หวัังว่ามันจะฉลาดอะนะ 5555+) อะไรแบบนี้


แต่ส่วนมากจะแสดงออกในเรื่องของการวางแผน อ่านใจคน หลอกถามเอาข้อมูล พูดให้อีกคนไปทำอะไรที่ตัวเองต้องการให้ทำได้อะ


เราใช้วิธีอ่านพวกแนวทางจิตวิทยา (บางทีก็ต้องหาหนังสือวิชาการอ่านอะนะ อ่านแต่นิยายตัวอย่างมันได้แต่ดูตัวอย่าง บางทีดูตัวอย่างแล้วว้าว เจ๋ง แต่พอกลับมานึกเองทำไม่ได้) แล้วก็ต้องเข้าใจความคิดของตัวละครให้ลึกหน่อยว่าเป็นคนแบบนี้ นิสัยยังงี้ จะคิดยังงี้...มั้ง


ส่วนตัวที่เก่งในทัักษะหนึ่ง ๆ อัันนี้เขียนไม่น่าจะยากมาก เพียงแต่คนเขียนต้องทำการบ้านเยอะหน่อย พวกนั้นจะเรียกว่า เชี่ยวชาญ แทนฉลาดอะนะ


ยัังไงก็มาสู้ไปด้วยกััน ย๊ากกกกกกก บางทีแผน 1 แผน ของเราใช้เวลา 3 เดือนในการคิด ตัวละครใช้เวลา 3 นาที อะไรแบบนี้ ฮ่า ๆ ๆ ๆ

https://image.dek-d.com/27/0616/4913/126417867

0
Midoriya 15 เม.ย. 61 เวลา 17:13 น. 6

เเนะนำให้ได้เเค่

การวางเเผนให้ตัวระครเอกที่เราอยากให้ฉลาดเป็นคนช่างสังเกต ชอบคิดวิเคราห์สถานะการณ์ รู้รอบครอบเเละทันคนอื่นเสมอน ต้องนำหน้าตลอด เเละที่สำคัญต้องเเก้เกมเก่งเเละวางกรยุทธ์เอาไว้ล่วงหน้าไว้หลายเเผน โดยนักเขียนต้องคิดคำนวนไว้ล่วงหน้าก่อนจะมาเริ่มเขียน


จะบอกว่าถ้าอยากให้โชว์ฉลาดออกมาเเบบเทพ ๆ ก็ให้นั่งอยู่ในที่เงียบ ๆ เเล้วกินช็อกเเลตพร้อมกล้วยเเล้วคิดให้หนัก ทบทวนเหตุเเละผลถึงความเป็นไปได้ ห้ามตกหลนอะไรไม่งั้นนักอ่านที่ชอบสังเกตจะจับทางได้ อย่างผมเนี่ยเวลาอ่านอะไรพยามจะไม่ตำหนิหรอสังเกตนะ เเต่มันดันคิดไปเอง


สรุปเเล้วก็คือการเขียนให้ผู้อ่านตามไม่ทันนั้นเอง การคาดเดาไว้ล่วงหน้าของเขาจะล้มเหลว เพราะผิดคาดที่ตัวละครคิดได้เเบบที่คนอ่านคิดไม่ถึง

ความคาดไม่ถึงที่จะทำให้คนอ่านทึ่งไปตาม ๆ กัน เเค่เขียนให้คนอ่านคลื่มไปกับการอธิบายของคนฉลาดที่มักจะพูดในสิ่งที่คาดไม่ถึงรวมถึงการกระทำด้วย



0
S.M.ENergY 15 เม.ย. 61 เวลา 17:17 น. 7

ลองหาอ่านนิยาย ดูหนัง หรืออ่านการ์ตูนที่มีตัวละครฉลาดๆ อย่างพวกสืบสวนสอบสวน ลองหาดู เป็นการสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมนะจ้ะ ไม่มีใครเก่งไปเสียหมดหรอก ตันตรงไหนก็หาข้อมูลตรงนั้นค่ะ

สำหรับความฉลาด มีหลายอย่างนะคะ จะเอาแกมโกง หรือแค่ทันคน หรือเป็นประเภทรู้ไปเสียทุกเรื่อง เป็นอัจฉริยะอะไรแบบนี้? ต้องหาตัวอย่างเท่านั้นแหละค่ะ อ่านเยอะๆ แล้วตามพวกเขาให้ทัน จะเขียนคนฉลาดออกมา เราต้องรู้ล่วงหน้าด้วย คือเราต้องฉลาดกว่าเขาอะคะ แต่อย่าเ้ขียนออกมาให้เว่อวังมากนะคะ เดี๋ยวคนอ่านมองบน ปูเรื่องด้วยว่าเขาฉลาดได้ยังไง พรสวรรค์ ความจำดี ช่างสังเกตุ ขี้สงสัย ขยันอ่าน ขยันสืบ พวกนี้เป็นสกิลช่วยให็ฉลาดขึ้น

0
White Frangipani 15 เม.ย. 61 เวลา 18:06 น. 8

เป็นคนไม่ค่อยฉลาด แต่ต้องเขียนตัวละครที่ค่อนข้างฉลาด ทำยังไงดีคะ



สวัสดีค่ะ


ตามหัวข้อเลยค่ะ เป็นคนไม่ค่อยฉลาด หมายถึง ทัศนคติ มุมมอง การพลิกแพลงและอื่นๆ ที่คนฉลาดๆ เขามีกัน ตัวเราไม่ค่อยมีน่ะค่ะ จะเขียนยังไงให้ตัวละครออกมาดูฉลาด ไม่เหมือนฉลาดแต่เปลือก ฉลาดแต่บทบรรยายอวยดีคะ

เข้าใจว่าต้องสร้างสถานการณ์ให้ตัวละครแสดงความสามารถ ติดตรงนี้แหละค่ะว่าจะแสดงออกมายังไง



ตอบ...ว่า ก็เขียนให้เขามีอาการคมในฟัก คือเงียบๆนิ่งๆ ไม่ทำไรมากมายนักค่ะ


หรือมีอาการคล้าย...นํ้านิ่ง...ไหลลึก...ไหลไปทางไหนก็ไม่รู้ได้ด้วย แบบนั้นค่ะ


หรือเป็นคนนิ่งๆ...หากทำได้ก็อาจจะหนักๆคล้ายเขานะเป็นกืก เป็นไบ้ไปเลยยิ่งดีค่ะ ดูเงียบ ดูสงบ ดูเก่ง ดูเท่เลยด้วยค่ะ


หรือเป็นคนที่ไม่พูดมาก เพราะหากให้เขานะพูดมากไปนะคะ เขาจะดูเก่งแต่ปาก ให้เขาพูดมากไม่ได้ค่ะ


และต้องไม่แสดงอาการเก่ง หรือเทพใดๆทั้งสิ้นค่ะ

อาการคาแร็คเต่อร์...ตัวละครเหล่านี้...คือเอมมิจ...ของตัวละครฉลาดค่ะ


และหากเขาแสดงอาการเก่ง เทพนะคะ เขาจะกลายเป็นตัวละครโง่...ขึ้นมาทันทีเลยด้วยค่ะ



จากที่อ่านๆ และเฝ้าศึกษา เรียนรู้มาหลายๆปี...ที่นี่ ได้มีโอกาสรู้ได้ว่า...อาการคาแร็คเต่อร์แบบที่ยกมานี้ คืออาการของตัวละครที่ฉลาดค่ะ


เม้นต์นี้เป็นเม้นต์ของนักเรียนหัดเขียน... เข้ามาเม้นต์ให้คุณ เพื่อให้กำลังใจคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ


สู้สู้นะคะ https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-01.png



https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-big-13.png






0
G.Tenju 15 เม.ย. 61 เวลา 18:26 น. 9

ทุกความฉลาด/อัจฉริยะ/รู้ บนโลกนี้เป็นจริงในสายตาเราได้ เพราะเรา 'เชื่อ'


จะเขียนตัวละครฉลาด เราไม่จำเป็นต้องฉลาดขนาดนั้นครับ แค่ต้องรู้วิธีเล่า/พูด/ทำออกมาให้มันดูฉลาด


วิธีที่ 1 เสริมด้วยคำพูดหรือการกระทำที่ดูเหมือนผู้เชียวชาญ

ยกตัวอย่างเทคนิคของคนขายอาหารเสริม เวลาลูกค้าเขาขอซื้ออะไร นอกจากคนขายจะแนะนำให้กินตัวอื่นเพิ่มแล้ว (ความรู้ปกติของเขา) เขาจะมีคำพูดแถมที่ทำให้ดู ฉลาด น่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นมาด้วย เช่น


ปกติแพ้ยาอะไรไหม?

ออกกำลังกายบ้างหรือเปล่า?

ทานตัวไหนอยู่หรือเปล่า?


บางคนอาจจะมีทำการตรวจวัดบางอย่าง เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ลูกค้าด้วย การกระทำพวกนี้บางทีไม่มีความจำเป็น หรือไม่ได้รู้ข้อมูลจริงๆเลยก็ได้ แต่คนพูดเขาต้องการสร้างความน่าเชื่อถือให้ลูกค้าเชื่อว่าเขา 'ฉลาด' ในเรื่องอาหารเสริมเฉยๆ


วิธีที่ 2 ศึกษาพฤติกรรมของคนฉลาดของจริง

ดูวิธีการพูด การทำตัว วิธีคิดต่างๆ ตัวอย่างมีหลายคนมากบนโลก แต่ผมขอยกตัวอย่างเป็นบทความหนึ่งของเว็บไซท์ dlitemag ที่พูดถึงไหวพริบในการโต้เถียงของมหาตมะคานธีแล้วกัน


สมัยที่คานธีกำลังศึกษาวิชากฎหมายอยู่ที่มหาวิทยาลัยลอนดอน มีอาจารย์ผิวขาวคนหนึ่งชื่อปีเตอร์ ซึ่งเกลียดคานธีมาก ทั้งเหยียดผิวและแสดงอาการไม่เป็นมิตรในทุกโอกาส การที่คานธีไม่ก้มศีรษะในขณะที่อาจารย์คุยด้วย ก็มีส่วนทำให้เกิดการปะทะคารมระหว่างกันบ่อย ๆ


วันหนึ่ง ในขณะที่อาจารย์กำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ในโรงอาหารของมหาวิทยาลัย คานธีเดินถือถาดอาหารผ่านมา และนั่งลงข้าง ๆ อาจารย์ อาจารย์จึงพูดว่า...


“คุณคานธี คุณไม่เข้าใจเลยนะ หมูกับนกจะนั่งกินอาหารด้วยกันไม่ได้หรอก”


คานธีมองอาจารย์แบบผู้ใหญ่มองเด็กดื้อแล้วตอบว่า...


“ไม่มีปัญหา ผมบินไปให้พ้นก็ได้ครับ”


ว่าแล้วคานธีก็ยกถาดเดินไปนั่งที่โต๊ะอื่นอาจารย์โกรธจนหน้าแดง และตั้งใจว่าสอบคราวหน้า จะหาทางเอาคืนให้ได้ แต่ปรากฏว่าคานธีตอบถูกหมดทุกข้อ อาจารย์ไม่พอใจและหงุดหงิด จึงถามคานธีว่า...


“คุณเจอกล่อง ๒ ใบ ใบนึงมีความรู้ และอีกใบนึงมีเงินจำนวนมาก คุณจะเลือกใบไหน”


คานธีตอบโดยไม่ลังเลว่า จะเลือกใบที่มีเงินจำนวนมาก อาจารย์ยิ้มเยาะและพูดประชดประชันว่า...


“ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะเลือกใบที่มีความรู้ น่าจะเหมาะสมมากกว่านะ”


คานธียักไหล่ และตอบอาจารย์ว่า...


“คนเรามักจะเลือกในสิ่งที่ตนเองไม่มี”


มาถึงตอนนี้อาจารย์หงุดหงิดเต็มทีและอารมณ์เสียมาก จึงเขียนคำว่า “-โง่” ลงบนกระดาษข้อสอบของคานธี คานธีนำกลับไปอ่านที่โต๊ะ และสงบสติอารมณ์คิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป ไม่กี่นาทีต่อมา คานธีลุกขึ้นและเดินไปที่โต๊ะอาจารย์ เขาพูดอย่างมีศักดิ์ศรี แต่แอบประชดอย่างสุภาพว่า


“อาจารย์ครับ อาจารย์เซ็นซื่อแล้ว แต่ยังไม่ได้ให้คะแนนผมครับ”


วิธีที่ 3 เชื่อให้ได้ก่อนว่าตัวเองฉลาด แล้วเลียนแบบคนฉลาดซะเอง

ตรงนี้จะเกี่ยวข้องกับทัศนคติล้วนๆ คนเรานิสัยเสีย ชอบเปรียบเทียบบทที่ 1 ของตัวเองกับบทที่ 20 ของคนอื่น ไอน์สไตน์ไม่ได้เกิดมาก็ฉลาดเลย เขาต้องเรียนรู้เหมือนมนุษย์คนอื่นทุกคน เขาอาจจะฉลาดในเรื่องวิทยาศาสตร์ แต่อาจจะไม่รู้อะไรเลยเรื่องการเต้นแอโรบิคเลยก็ได้ แล้วเราจะไปเทียบว่าไอน์สไตน์ฉลาดกว่าครูสอนเต้นแอโรบิค? ตลกแล้ว...


ให้ทำความเข้าใจก่อนว่าคำว่า 'ฉลาด' ในนิยามของตัวละครนั้นมันคืออะไร?


ฉลาดด้านวิธีคิดหรือแค่ข้อมูลเยอะ?

ฉลาดแบบยึดมั่นกับความยุติธรรมหรือฉลาดแกมโกง?

ฉลาดแบบพรสวรรค์หรือฉลาดเพราะขวนขวายมาเอง?


แล้วทีนี้ให้เพิ่มรายละเอียด/มิติ/เหตุผลรองรับเข้าไป...


วิธีคิด VS ข้อมูลเยอะ

วิธีคิด: "ขอโทษนะ แกจะแย่งหน้าที่คอมพิวเตอร์ไปทำไมวะ?"

ข้อมูล: "ผ่าตัดสมองคน ถ้าแกจำไม่ได้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน แกจะทำได้ไหมวะ?"


ยุติธรรม VS แกมโกง

ยุติธรรม: "แกมันไร้ความยุติธรรมไม่เห็นแก่ส่วนรวม"

แกมโกง: "แกมันโลกสวยมองไม่เห็นความจริง"


พรสวรรค์ VS ขวนขวาย

พรสวรรค์: "ของง่ายๆแค่นี้ ฉันหลับตายังทำได้ แล้วทำไมทำแกไม่ได้?"

ขวนขวาย: "แกทำตามความรู้สึก เป็นสาเหตุให้แกสอนคนอื่นไม่เป็น"


แล้วจะบอกว่าข้อ 3 ที่ผมมั่วมาทั้งหมดนี้ ผมทำได้เพราะเชื่อว่าตัวเองฉลาดครับ...

(ไม่ใช่สักแต่ว่าเชื่อ ต้องทำตัวให้เหมือนคนฉลาดด้วย ศึกษาเพิ่ม เปิดใจรับฟัง สังเกตแล้วคิดวิเคราะห์)

5
White Frangipani 15 เม.ย. 61 เวลา 18:47 น. 9-1

ทุกความฉลาด/อัจฉริยะ/รู้ บนโลกนี้เป็นจริงในสายตาเราได้ เพราะเรา 'เชื่อ'




คิด ทำ เป็น เชื่อ ในรูปแบบที่คุณว่ามานี้...มันจะฉลาดได้จริงนะค๊าา


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-09.png



ความที่เราเพียงมีความเชื่อ...ว่าฉลาด ดังที่คุณอธิบายมานี้...คืออาการที่ฉลาดได้จริงหรือคะ????


เช่น เชื่อในครั้งหนึ่งว่า...โลกที่เราอาศัยอยู่นี้...มันแบนเป็นเช่นแพนเค้ก...แบบนั้นนะคะ???


ซึ่งในเวลาต่อมา...ชาวโลกก็รู้ได้ถึงความจริงดังที่ว่า...ความเชื่อ...ดังกล่าวแท้จริงคือผิดเต็มๆ...คือแท้จริง...เป็นเหตุที่เป็นความเชื่อที่งมงาย...ในสิ่งที่ผิดไปจากความจริงนะคะนั้น


จริงแล้วคนที่ฉลาดจะไม่เชื่อในสิ่งที่ผิดๆนะคะ คือธรรมชาติของคนฉลาด...ค่ะ


เพราะจริงแล้วโลกที่เราอาศัยอยู่นี้น้าค้ามันกลมอ่าาาา



คือในความเป็นจริงแล้วโลกเป็นแบบนี้...ค่ะ






แบบนี้แล้ว...ความที่เชื่อ...แบบไม่มีเหตุผล...ซึ่งไม่สามารถเป็นหลักฐาน...แห่งการรู้ถึงความเป็นจริงได้...ก็คงไม่ใช่อาการของความฉลาด...นะคะ คุณเจ้าของเม้นต์ที่9(หรือคุณว่าไงคะ?)




ความจริง...ซึ่งเป็นอาการของความฉลาด...แท้จริงนะคะมันเป็นอย่างไร????กันแน่น๊าาาาาา อยากได้ อยากรู๊...อาการความฉลาด...เพื่อนำมาสร้าง...คาแร็คเต่อร์...ให้คุณพระเอก...ในนิยายที่ตั้งใจเขียนจริงนะคะ


จนมุม...ฮื้ออออ เกิดมาโง่นี้หนา...อาการจนมุม จนปัญญามันก็เกิดขึ้นได้บ่อยๆจริงด้วยสิน๊าาาา ฮื้ออ


ขอร่วมเป็นทุกข์...เอ่ยไม่ใช่ ร่วมคิด เพื่อค้นหาการสร้างคาแร็คเต่อร์...ให้ตัวละครฉลาดได้ด้วยคนค่ะ


หรือว่าการที่จะเขียนให้คุณพระเอกโง่...น่าจะง่ายดีกว่ามั้งเนาะ ฮื้อออ


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-10.png


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-big-04.png



0
G.Tenju 15 เม.ย. 61 เวลา 19:17 น. 9-2

ผมพูดในฐานะนักเขียนครับ ไม่ใช่ความรู้สากล


เคยมีน้องคนนึงมาปรึกษาผมว่า อยากจะเขียนนิยายเรื่องเกี่ยวกับแฮกเกอร์ แต่ไม่มีความรู้ด้านโปรแกรมมิ่งเลย ด้วยความที่ผมก็เคยเรียนสาขานี้มาก่อน เลยพอจะสอนได้นิดๆ หน่อยๆ


แต่สิ่งที่น้องคนนั้นพลาดจริงๆ คือทัศนคติครับ น้องเขาเชื่อว่า เราต้องเอาข้อมูลจริง ของจริงเท่านั้นมาเขียนนิยายไม่งั้นจะผิดจรรยาบรรณ... ผมเลยต้องอธิบายให้น้องเขาเข้าใจว่า...


เราแค่ต้องทำให้คนอ่านเชื่อตามตรรกะของท้องเรื่อง ไม่ใช่เอาข้อมูลจริงมาใช้(ซึ่งถ้าทำได้ก็ดี) เพราะไม่งั้นน้องเขาต้องใช้เวลาถึง 3 ปีในการไปเรียนรู้โครงสร้างตั้งแต่พื้นฐานของโปรแกรมมิ่ง เรียนเรื่องระบบเครื่อข่ายเน็ทเวิร์ค เรียนการเขียนโปรแกรม จนจบออกมาเป็นแฮกเกอร์แล้วค่อยมาเขียนนิยาย...มันไม่ใช่แล้ว


น้องเขาแค่อยากให้เป็นรสชาติในพล็อตนิยายรัก ไม่ได้จะเขียนหนังสือ How to hack


ส่วนในเชิงความรู้สากล สำหรับผมอันไหนก็ไม่เป็นจริงทั้งนั้นแหละครับ


เมื่อก่อนเราบอกว่าโลกแบน...

ต่อมาเราบอกว่าโลกกลม...

ต่อมาเราบอกว่าโลกทรงเหมือนลูกฝรั่ง...

ในอณาคตถ้าน้ำบนโลกแห้งไปก็คงเหมือนลูกทุเรียน...


คนเมื่อก่อนกล่าวว่า "อย่าฝืนชะตาฟ้าลิขิต"

ต่อมากล่าวว่า "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"

ต่อมากล่าวว่า "ใครดีใครได้"

ปัจจุบันกล่าวว่า "อ่อนแอก็แพ้ไป"


เหรียญเองก็ไม่ได้มีแค่สองด้านหัวกับก้อย

ยังมีด้านข้างแนวนอนที่ไม่รู้ว่าจะเรียกยังไง

ไหนจะเหรียญจีนที่มีรู 4 เหลี่ยมอยู่ตรงกลางอีก


ทุกอย่างเราค้นพบพัฒนาไปเรื่อยๆ แล้วก็ประกาศให้คนส่วนมากเชื่อไปเรื่อยๆเป็นวังวนไม่สิ้นสุด ซึ่งมันไม่มีใครผิดอยู่แล้ว ถ้าจะผิดก็คงจะเป็นคนที่ไปกล่าวหาคนอื่นว่า คิดไม่เหมือนฉัน = ผิด นั่นแหละครับ ผมก็ได้แค่เสนอทางออกให้ จขกท. ในรูปแบบที่ผมเชื่อเท่านั้นเอง

0
White Frangipani 15 เม.ย. 61 เวลา 19:31 น. 9-3

5555555


ผมพูดในฐานะนักเขียนครับ ไม่ใช่ความรู้สากล"...คุณหลุดประเด็นไหมคะนี่????


หรือคุณพยายามต่อกิ่ง ก้าน สาขา...ประเด็น ให้เกิดเป็นไอเดีย...ที่แตกต่างคะ


สำหรับ...หัวข้อเดิม...ซึ่งมีอยู่ว่า...เป็นคนไม่ค่อยฉลาด แต่ต้องเขียนตัวละครที่ค่อนข้างฉลาด ทำยังไงดีคะ "...ของเจ้าของกระทู้ค่ะ


จริงแล้วในกระทู้นี้...น่าจะมีการสนทนา...เกี่ยวกับ...อาการความที่จะฉลาดได้...หรือไม่ อย่างไร...นะคะ


ซึ่งเจ้าของเม้นต์เข้าใจว่า...หากคนเขาฉลาดได้นะคะ เขาก็จะฉลาดได้...แม้ในเรื่องที่เขาจะต้องแสดงออกมาเป็นบทบาทต่างๆ...


เช่นในนิยาย ในที่นี้...เราสนทนากัน...เรื่องความความที่ว่าฉลาดได้...เป็นแบบไหน หรือจะทำอย่างไร...ต่อให้เป็นตัวละคร เป็นการแสดงอาการความฉลาดก็จะสามารถเกิดขึ้นได้ด้วยนะคะ


คือจริงแล้ว...จากเม้นต์แรกของคุณ...นะคะ คุณก็พยายามที่จะอธิบาย...ถึง...อาการที่ว่าจะสามารถฉลาด...ได้...โดยความเชื่อนี่คะ


รู้สึกว่า...เม้นต์ต่อมาของคุณนี้...ดูคุณจะหลุดประเด็นไปนะคะ


ผลของการหลุดประเด็น...จะเป็นสาเหตุที่จักทำให้เราคุยกันต่อไป...ไม่รู้เรื่อง...นะคะ


คุณหลุดประเด็นไหมคะนี่...????


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-03.png






0
G.Tenju 15 เม.ย. 61 เวลา 19:35 น. 9-4

โอเคครับผม 'ยอม' ถ้าคุณจะมองแบบนั้น

0
White Frangipani 15 เม.ย. 61 เวลา 19:41 น. 9-5

โอเคครับผม 'ยอม' ถ้าคุณจะมองแบบนั้น"....หากคุณคิดว่าคุณไม่หลุดประเด็น...และคุณมีสาเหตุที่จะสามารถอธิบายต่อ...ได้...ชัดเจนนะคะ


คุณก็อธิบายมาค่ะ


รับฟัง คือคอยอ่านด้วยความตั้งใจด้วยค่ะ


เราคุย สนทนา แลกเปลี่ยนกัน...ในเรื่องความฉลาดที่จะสามารถเกิดขึ้นได้...เพื่อที่เราจะนำไปใช้เป็นคาแร็คเต่อร์...ให้ตัวละครดูฉลาดนะคะ


คุณต้องไม่ยอมอะไรๆง่ายๆสิคะ (หากมีเหตุผลส่งเข้ามาต่อ...นะคะ คอยอ่านอยู่ค่ะ)


เจ้าของเม้นต์เป็นนักเรียนหัดเขียน...ซึ่งอยากที่จะเรียนรู้การสร้างตัวละครฉลาด...ด้วยเช่นกันค่ะ

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-12.pnghttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-12.pnghttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-12.png


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-big-10.png



0
Whiteflower Ri 15 เม.ย. 61 เวลา 19:13 น. 10

อืม...เหมือนกันค่ะ ที่รู้สึกว่า ตัวเองไม่ค่อยฉลาด เลยเขียนแบบที่เป็นตัวเอง ไม่เขียนบทที่ตัวเอกต้องฉลาดเท่าไหร่ แต่ถ้าต้องเขียน เราคิดว่าจะใช้วิธีเลียนแบบ เช่น ดูหนังที่เรารู้สึกว่า ตัวเอกฉลาด แล้วเราก็สร้างเรื่องให้เหมือนหนังที่เราดู มีเหตุการณ์คล้าย ๆ ในหนัง แล้วใช้วิธีเดียวกับที่ตัวเอกแก้ปัญหาอย่างฉลาด เลียนแบบมาทั้งเหตุการณ์และวิธีแก้ปัญหา ประมาณนี้ค่ะ

0
=RAY= 15 เม.ย. 61 เวลา 23:58 น. 11

ส่วนตัวที่เคยลองมา แม้เสียดายว่าจะไม่ได้ลองแบบจัดเต็มในเรื่อง แค่ทดลองแบบส่วนเดียว แต่ก็ถืว่าประสบความสำเร็จดี คือคิดแผนไว้ล่วงหน้า เหมือนทำแผนภูมิเอาไว้หลายๆชั้น แล้วให้ตัวละครเขาคิดนำหน้าตัวละครอื่นๆเป็นต้น เป็นวิธีการแบบหนึ่งที่ลองแล้วออกมาโอเค


ตัวละครจะไม่พูดคำโง่ๆ ไม่แสดงอะไรที่เรารู้สึกโง่อ่ะ (ซึ่งน่าจะเป็นพื้นฐานที่มองได้ง่าย ว่าทำแบบไหนถึงจะรู้สึกโง่ - -*)


ทักษะความคิด การกระทำ จะรอบคอบ สังเกตุคน คิดไกล วิเคราะห์สถานการณ์มากกว่าคนอื่นๆ


คำพูดคำจาก็จะมีชั้นเชิง ไม่ใช่พูดตรงๆ แต่ก็ทราบถึงความหมายที่จะสื่ออย่างชัดเจน

0
แม่มดเวทย์ดำ 16 เม.ย. 61 เวลา 00:50 น. 12

แนะนำให้ไปอ่านฟิคเรื่องนี้ค่ะ ตัวเอกมีการวิเคราะห์รวมถึงการสังเกตุรายละเอียดต่างๆค่อนข้างดีเลย ไม่อวยเกินไปแต่ก้อไม่กดจนรู้สึกว่าตัวละครไม่มีความสาามารถ ป.ล. ไรท์ไม่ดั้ยจ่ายนะจ๊ะ

https://writer.dek-d.com/suwon/story/view.php?id=1538589

0
CorgiCanFly 16 เม.ย. 61 เวลา 02:33 น. 13

ทุกคนมีทักษะการแก้ปัญหาของตัวเองหมดครับ ถ้าเราต้องการจะสร้างความฉลาดของตัวละครตามสเกลระดับสติปัญญาที่เรามี ก็ต้องใช้วิธีแก้ปัญหาตามระดับสติปัญญาของเราเอง แบบนั้นจะดีกว่า แต่ที่สำคัญ สิ่งที่ต้องมีสำหรับตัวละครแนวๆนี้คือ "คิดก่อนทำ"

0
ชนุ่น 16 เม.ย. 61 เวลา 08:30 น. 14

ผมเองก็ไม่ค่อยฉลาดในเรื่องการเข้าสังคมและเรื่องการมองคนเท่าไหร่หรอกครับ แต่ว่าเวลาเขียนนิยายของผม ตัวละครแนวหน้าไหว้หลังหลอกและรู้ทันคนมันมีเยอะ ส่วนใหญ่ผมจะอาศัยเรื่องการอธิบายภาษากายมากกว่า บวกกับประสบการณืส่วนหนึ่ง โดยหาอ่านจากหนังสือจิตวิทยานี่แหละครับ ถ้าเป็นเนื้อหาทางวิชาการก็จะหาหนังสืออ้างอิงมาสักเล่มสองเล่มบ้างครับ


อันนี้แนะนำไว้อย่างหนึ่งเวลาเขียนครับ คือถ้าจะเขียนให้ตัวละครดูน่าเชื่อถือว่าฉลาดจริงๆ ให้พยายามบรรยายละักษณะ ท่าทาง กิจวัตรต่างๆ และในเนื้อเรื่องก็ให้เขาลองผิดพลาดดูบ้าง เพื่อให้มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น ไม่ให้เรื่องง่ายจนเกินไปครับ

0
ตามลม เวียนหรดี 18 เม.ย. 61 เวลา 19:20 น. 16

อืืืม การกระทำครับ... อย่างเอาเรื่องที่กำลังเขียน สิรินพ มันเป็นนักฟุตบอลฉลาดแบบกวน- ด้านความฉลาดเราก็ให้สิรินพแสดงออกด้วยความตุกติกกับลูกไม้ของมันในการเล่นฟรีคิกแบบแปลกๆ


โกล กรกฏ เป็นคนฉลาดที่สุดในบรรดานักฟุตบอลของซีรีย์นักฟุตบอล แต่เขาเป็นคนเงียบขรึม แต่ที่บอกว่าโกล ฉลาดคือ เขาเรียนเก่ง มีสมาธิสูงกว่าคนอื่น เป็นที่มีความสามารถในการติดตามความเคลื่อนไหวรอบตัวได้ โดยที่ตัวเองกำลังจดจ่อกับการทำอะไรบาง เช่น อ่านหนังสือ แต่ก็รู้ว่าโป้งกำลังทำอะไรอยู่


โจไฮซี ถูกเรียกว่าเทพยดาแห่งแคริบเบียน ตัวละครเองบุคลิกเป็นคนค่อนข้างสงบ ใจเย็น และดูไม่มีอะไร แต่เขาแสดงออกทางความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นทางการแพทย์ และการวางแผนการรบ


0
เป๋งบวม 23 มี.ค. 62 เวลา 00:58 น. 17

หนังหลายเรื่อง หักมุมตอนจบ คนฉลาดเขียนบท จะทำให้เหตุผลตั้งแต่ต้นยันปลายเหมือนเห็นปลาตัวใส ดูต้นเรื่องงงหนักมาก กลางเรื่องยังเดาไม่ถูก เช่นกัน การจะทำให้ตัวละครฉลาด ต้องสร้างสถานะการณ์ให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นคนพูดมากแล้วก็แสดงความฉลาดน้อยออกมาให้มากในแต่ละบุคคลิก ตัวเอกที่ฉลาดจริงฟังอย่างเดียวแต่คิดในใจสวนทางกับคนที่ขยันพูดแต่ไม่ขยันคิด เมือคนขยันพูดแยกย้ายไปกันหมดแล้ว คนฉลาดมากก็แอคชั่น ในแต่ละเหตุการณ์ที่แตกต่างกันไป เช่น ใครขโมยกินขนมหวานในตู้เย็นกรณีที่ เช่าห้องอยู่กันสี่คนแต่ไม่มีคนยอมรับ ฉะนั้น มีสองคนที่เป็นเจ้าของขนมกับคนขโมยกินขนม มีคนน่าสงสัยสามคนที่ตกเป็นจำเลย มีคนสองคนที่รู้ว่าตัวเองใช่หรือไม่ใช่หัวขโมย คนฉลาดที่ไม่ใช่ขโมยจะเป็นคนหาวิธีการหาตัวขโมยแบบเงียบๆ ด้วยการไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ ในทุกสถานะการณ์ที่เกิดเหตุการณ์ที่มากกว่าสองคนเกี่ยวข้อง สร้างสถานะการณ์ทำนองนี้หลายๆเรื่องโดยเหตุการณ์ที่สร้างนั้น ต้องแตกต่างกันไป การคิดในใจสวนกับคนอืนๆ แบบวิเคราะห์ตลอดเวลาก็เป็นการแสดงออกถึงความฉลาดที่ตั้งสมมุติฐานแบบหลักการ อัลกอลิทึ่ม คือ ถ้าแบบนี้ไม่ใช่ต้องมีเงื่อนไขแบบอื่นๆ มารองรับเพิ่มขึ้น จนสุดท้าย อัลกอลิทึ่มเขียนให้แก้ไขสถานะการณ์เป็นออโตเมติก นึกไม่ออก ลองเสริชหาคำว่า อัลกอลิทึ่ม ในพี่กูเกิ้ลดูค่ะ จะมองภาพออกว่า เราจะสร้างตัวละครให้ฉลาดแก้ไขสถานะการณ์ต่างๆ ได้แยบคายเป็นอย่างไร ดูหนังหลายเรื่อง ของฝรั่งประกอบ ดูบุคคลิกของตัวเอกว่า คนฉลาด คิด พูด ทำ มีลักษณะต่างๆ เป็นอย่างไรแล้วลองดัดแปลง แก้ไขผสมปนบุคคลิกที่เราคิดขึ้นมาใหม่โดยเอาตัวละครพวกนั้นมาเป็นพื้นฐานในการสร้างตัวละคร งานเขียนทุกเล่ม คนเขียนทั้งหมดล้วนจินตนาการเพิ่มจากการอ่าน ดู พบ เจอ จากประสบการตรงและอ้อมทั้งนั้น งานเขียนคือ สร้างมโนให้แรงและคาดเดายากกว่าในชีวิตปกติ อ่านแล้วทำให้คนอ่านคิดตามว่า โห่... แม่มมม คิดได้ยังงัย มันส์มากกก .

0