ราชภัฏ ทำไมอาจารย์ทำแบบนี้
ตั้งกระทู้ใหม่
อาจารย์คนนี้เข้ามาสอนได้ ผ่านการประเมินมาได้ไงอะ
แย่ๆเราเลยบอกเพื่อนทนๆเรียนไปก่อนปีหน้าซิ่วมาอยู่
มอ เดียวกะเราดีกว่า อาจารย์ดีสอนลึก แต่ละท่านก็เป็นนักวิจัยชั้นนำของไทย ฝากน้องๆที่จะเข้าราชภัฏก็ให้คิดดูดีๆเลือกเข้า ม.ที่มีมาตรฐานที่ดีกว่านี้เถอะจะได้ไม่ต้องรอซิ่วแบบเพื่อนเรา
จามจุรี
11 พ.ค. 61 เวลา 05:29 น.
6,019
views
21 ความคิดเห็น
โห้! แย่เลยอะ เจอแบบนี้บอกเพื่อนเธอซิ่วมาเรียนที่มหิดลก็ได้นะ ที่นี้ก็ดีสอนเนื้อหาเข้มข้นมาก เข้มจนจะอ้วก5555 คณะวิทยาศาสตร์มหิดลยินดีต้อนรับจ้าาา
ไหนหลักฐาน อย่าเชื่อเเต่ข้อความ ควรตั้งประเด็น ก่อนมั้ย ว่าตอนนั้นเขาสอนปรับพื้นฐาน ป่าว ทำไมคุณเรียนม.สีชมพู เขาสอนให้คุณว่าเเต่คนอื่นหรือไง ควรพิจารณาตัวเองซะบ้าง
อยากไปเรียนที่ม.สีชมพูจัง แต่คงได้แค่ฝันนน T^T
ม.น้ำเงินแถวศาลายาก็น่าเรียนนะน้อง การเรียนการสอนงานวิจัยเด่นไม่แพ้กันเลย
ม.น้ำเงินก็อยากติดค่ะ แต่คณะสินสาด อิ้ง หนูคะแนนไม่น่าถึงอ่าค่ะ แถมยังอยู่นครปฐม ไม่รู้จะไปอยู่ยังไง แงงงง
มหาวิทยาลัยการกีฬาเเห่งชาติ เท่านั้นค่า
เนี่ยล่ะครับคือสาเหตุที่บางหน่วยงานไม่รับพนักงานที่จบจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ต้องแก้ไขในหลายๆ เรื่องเลยตั้งแต่หลักสูตร ทรัพยากรบุคคล และการสร้างภาพและความเชื่อมั่นในหลักสูตร ซึ่งจะต้องแก้ไขในระยะยาวเลยทีเดียว
เอาราชภัฎไปเรียนยากเท่าจุฬา มหิดลก็ได้รีไทร์กันครึ่งมหาลัยพอดี
มีคนเก่งไม่เก่ง ปนกันไป เหมือนคนชั่ว คนดี
คนเก่งใช้ความรู้ในทางที่ชั่ว ทุจริต เเหมๆ บอกคนอื่นให้สุจริต ตัวเอง ท ทหาร มาเเทน ส เถอะ
ได้ราชภัฎได้ทรัพยากรผู้เรียนที่ไม่เก่งครับ หลักสูตรจะเข้มข้นเหมือนมหาลัยดังไม่ได้หัวเด็กไม่รับเเน่ๆ หัวสมองของเด็กโอลิมปิกหรือเด็กท็อปๆของโรงเรียนสามารถรับความยากของวิชาทางวิทย์ต่างกับห้องบ๊วยอยู่เเล้วครับเขาต้องปรับหลักสูตรให้เด็กสามารถเรียนผ่านให้ได้ ดังนั้นเกรดของราชภัฎต่อให้3.5+ก็ไม่ความหมายรับ มันเทียบกับ2.5+ของมหาลัยท็อปๆไม่ได้หรอก
อ.ราชภัฎเองจำนวนมากก็ไก่กา จบแค่ ปอตรี หลายแห่งก็รับเข้ามาสอนได้ไงก็ไม่รู้ จริงๆจะเอาอะไรมากเพราะว่าที่จริงราชภัฎไม่ได้เป็นมหาวิทยาลัย จริงๆราชภัฎเป็นวิทยาลัย แต่ต่อมามีการเปลี่ยนชื่อเพื่อยกระดับเป็นมหาวิทยาลัย แต่เนื้อแท้ยังเป็นวิทยาลัย ราชภัฎไหนที่พัฒนาได้ ก็จะเทียบเท่ามหาวิทยาลัยได้จริงๆ อันไหนทำไม่ได้ก็ป๋อมแป๋มไก่กาเหมือนเดิม ก็ต้องให้เวลาพัฒนาไป
ม.การกีฬาค่าา
รั้วชมพู กับ ราช... มันคนละชั้นกันเลยนะครับ ไม่เห็นแปลก อย่าโลกสวยเลย
เเล้วเเต่คนจิไปเรียนที่ไหน ก็ไป คนเรียน ราชฯ ขยัน เก่ง กะมี ไม่ใช่วัดกันเเค่ชื่อ มโนไปไกลสามโลกเเละ
คะเเนนเเอดต่ำสุด วัสดุศาสตร์ 15K เองหรือ
คะแนนแอดสูงต่ำเราไม่รู้ว่าแต่ละปีได้เท่าไรเราไม่ได้สนใจเพราะเราเข้า มหาลัยนี้ได้เพราะโควต้าโอลิมปิกวิชาการของค่าย สอวน จ้าา
มาจากรับตรงอิอิ
หลักสูตร และความเข้มข้นของเนื้อหา ปรับปรุงและพัฒนาเกณฑ์ตามมาตรฐานของผู้เรียน
โดยผู้เรียนเป็นศูนย์กลางไงครับ จบแล้ว ถ้าได้ทำงาน ก็ไปฝึกเฉพาะส่วนที่จำเป็นต่อไป
ดีกว่าปล่อยให้นักศึกษาไม่มีที่เรียน แล้วไปเป็นแว้นไงครับ
บัณฑิตจบมาไม่คุณภาพ สุดท้ายก็หางานดีดีเงินเดือนเเพงๆทำยากอีก สู้ไปสนับสนุนสายอาชีพดีกว่าดีกว่าจบปริญญาเเบบไม่รู้อะไร
เคยเห็นบัณฑิตจากสถาบันกลุ่มนี้เข้าไปเป็นครู ร.ร.เอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งระดับ ม.ปลาย อยู่ได้เกือบไม่ครบเทอม ลาออกแทบไม่ทันเลย โดนนักเรียนต้อนเละเทะ ก็ไม่ได้อยากจะว่าเขานะครับ
แต่....
ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยไหนก็ตาม หลักสูตรที่ต้องมีความแม่นยำเชิงวิชาการ หรือ หลักสูตรที่มีสภาวิชาชีพควบคุมที่มีเนื้อหาทางวิชาการค่อยข้างยากมากๆ หากผู้เรียนศักยภาพไม่ถึง ก็ไม่ควรเปิดสอนครับ
อาจารย์เขาสอยเบสิคให้เข้าใจ ก่อนจะไปพลิกแพลงข้อสอบอีกทีนะส่วนมาก แต่เด็กยุคนี้ไปกวดวิชาพลิกแพลงเป็นเรื่องๆมาจำสูตรทางลัดชีทสรุปมาจากนอกโรงเรียน พอเจอเบสิคก็บ่นกันว่าครูช้าไม่เก่ง ไม่ใช่ครูไม่เก่งหรอกครับ ไปถามครูเรื่องทางลัดสรุปไวๆแต่เจอโจทย์ผิดที่ติวมาก็โต้ครูและไม่สนใจเบสิค สมาธิสั้น ชอบรวบรัดแต่หลงลืมได้ครับ แต่แนวทางการสอนเขาปูแนวคิด แนวสอบ จากง่ายไปยาก แบบนี้มาตั้งนานแล้ว รุ่นผมก็แบบนี้ พอเข้ใจเบสิคก็ไปหาโจทย์ทำเยอะๆก็ติดมหาลัยชั้นนำกันทั้งนั้น สอบแข่งขันบรรจุครูได้จากทุกมหาลัยก็ย่อมไม่ธรรมดาอยู่แล้วครับ ใจเย็นกันหน่อยเด็กทั้งหลายเบสิคดีต่อยอดไม่ยากเลยครับ
ใช่ๆ ครูเขาสอนเเบบเบสิค เเต่เด็กไปเรียนกวดวิชามาเถียงกะครูนั่นหรือ ปรับเถอะ ถ้าใครเรียนเก่งเเล้ว คิดว่าเก่งเเล้ว เอาเเบบฝึกทำอย่างเดียวเลย คิดว่าเก่ง คุณธรรมก็ไม่มี เอาไม่ได้จริงๆ เด็กพวกนี้
ก็นะราชภัฏคงจะสอนให้ดีเท่า จุฬา กับ มหิดล
เป็นไปไม่ได้หรอก สมองเด็กคงรับไม่ไหว
อย่าเพิ่งไปถึง2ม.นั้นเลยครับ ที่ รร ผมก็เห็นความต่างระหว่างครูบูรพากับครูรชภ แล้วครับ ครูที่จบจากบูรพาเก่งมากๆ พยายามทำโจทย์ หาความรู้อยู่ตลอดเพื่อมาสอน นร และเป็นคนที่ค่อนข้างตามโลกตามเด็กทันด้วยครับ ต่างจาก รชภ ที่เข้ามาส่วนมากจะมาเน้นด่าเด็ก อวดภูมิเรื่องกฎระเบียบการแต่งกายไปเรื่อย เด็กคนไหนผมยาวหน่อยก็เรียกมาตีแล้วก็เอากรรไกรมาเล็มรอบหัวเลย(มีจริงๆนะครับ ผปคถึงขั้นมา รร) ความรู้ก็ไม่แน่น (หลายๆครั้งก็สอนมั่วครับ) และอีกมากมายเลยครับ (เจอดีสุดก็ครูที่จบจากรชภ สวนสุนัน)
ปล. แต่เอาจริงๆ ครูรามคำแหงที่ รร ผมยังความรู้เยอะ และสอนดีสอนเก่งมากกว่าครูจาก รชภ ด้วยซ้ำครับ
แรงอะ แต่ก็จริง
อยู่ที่บุคคลเเหละ
เห็นกระทู้นานแล้วแต่อยากตอบเพื่อมมีเด็กรุ่นหลังมาอ่านจะได้ตัดสินใจได้ ของบอกเลยว่าะราชภัฎคือ มหาลัยชั้น3 การเรียนการสอนอ่อนกว่า ม.รัฐ ชื่อดังมาก อาจารย์ไม่สามารถออกข้อสอบที่มีมาตรฐานเท่า ม.รัฐ ชื่อดังได้เพราะเด็กจะติดFหมด อุปกรณ์การเรียนก็ไม่ได้ดีเท่ามหาลัยดัง เช่น ห้องแลปเคมี สารก็ไม่ครบ อุปกรณ์ก็เก่าขึ้นสนิม ที่รู้เพราะมีเพื่อนเรียนอยู่ราชภัฏซึ่งตอนนี้ซิ่วมา ม.สีน้ำเงิน แถวศาลายา ซึ่งเราก็อยู่ ม.สีน้ำเงินด้วย แต่อยู่ชั้นปีสูงกว่าเพราะเพื่อนพึ่งซิ่วมา มันบอกว่า ที่ ม.น้ำเงิน เรียนเนื้อหาลึกกว่ามากจนมันตามแทบไม่ทัน ต่างกับราชภัฏซึ่งสอนง่าย ข้อสอบออกง่าย แล้วอีกอย่างโรงงานที่แม่เราทำ HR จะเขี้ยใบสมัครของราชภัฎทิ้งทันที่ไม่อ่าน (โรงงานชื่อดังแถวระยอง ผู้บริหารส่วนใหญ่เลือดสีชมพู) แต่ถ้าเป็น ม.รัฐดังๆก็รับแต่โอกาสไม่เท่า ม.ชมพู ทีนี้ก็น่าจะรู้นะว่าต่างยังไง
สร้างผลงาน หาประสบการณ์ ก็พวกเดียวกันใครก็รับ พวกเส้นขนมจีน ทั้งหลาย
นั่งอ่านดูเมนท์แบบกลางๆ ผมไม่ได้จบทั้ง สีชมภู หรือ มรภ. นะครับ แตสงสัยว่ากระทู้นี้ตั้งมาเพื่ออะไรหรือครับ ไม่ต้องสงสัยอะไรเลยว่าทำไมสอนไม่ลึกเท่าสีชมภู ก็ดูคะแนนสอบเข้ามหาลัย หรือ เพื่อนที่เรียนมัธยมมาด้วยกันที่เรียนทั้งสองแห่งก็รู้แล้วว่าต่างกัน เหมือนความคิดและวุฒิภาวะเจ้าของกระทู้นี้ยังเด็กคิดหาเหตุผลไม่ได้ และพูดตรงๆเอาสีชมภู ไปเรียนรวมกับมอรัฐอื่นๆโดยเฉพาะที่คะแนนต่ำๆ ก็จะเจอคำถามเดียวกันแหละครับว่าทำไมสอนไม่ลึก เปรียบมวยคนละชั้นเลย ที่จริงแล้วปัจจุบันนี้ มรภ.หลายแห่งพัฒนาไปไกลมากแล้ว ออกนอกระบบแล้วก็มี หลายคณะ หลายสาขา โดดเด่นกว่า มอรัฐดังๆด้วย ยกเว้นสีชมภูไว้เขาจะจบไปวิจัยระดับโลก และจุดยืน มรภ.เขาเป็น มหาลัยเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ส่งเสริมชุมชนอาชีพด้วยความรู้ที่ปฎิบัติได้ จึงไม่ต้องเรียนลึกอะไรปานนั้น ส่วนใครชอบเก่งจะเรียนต่อลึกแค่ไหนก็ไปต่ออีกทีหนึ่ง น่าจะลำดับความคิดกระทู้นี้ใหม่นะ มีอาชีพมากมายระดับปริญญาตรีในเมืองไทย ที่ต้องการคนทำงานได้ไม่ต้องคิดลึกอะไรมาก เช่นด้านภาษา การบริการ การท่องเที่ยว พยาบาล ..... หลายอาชีพที่มหาลัยดังลงมาทำไม่ได้เพราะอะไรก็ตาม ก็ทางใครทางมันอย่าเทียบแบบคนละเป้าหมายกันเลย ผมมีลูกหลานเรียนมหาลัยแทบทุกสีจึงเห็นและเข้าใจกฎธรรมชาติจัดการตัวเองให้เหมาะสมได้นะ
ผมก็คิดหาเหตุผลไม่ได้เหมือนกันครับว่าทำไม อาจารย์มรภ ถึงทำแบบที่ จขกท บอกอะครับ ถ้าเนื้อหาการเรียนเหมือนตอน ม.ปลาย แบบนี้จะต่อป.ตรีไปเพื่ออะไรเหรอครับ? และก็ช่วยยกตัวอย่าง มรภหลายๆแห่งที่คุณบอกว่าพัฒนาและโดดเด่นแซงม.รัฐ ดังๆให้หน่อยครับ
แล้วไอที่ว่า "จุดยืน มรภ.เขาเป็น มหาลัยเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ส่งเสริมชุมชนอาชีพด้วยความรู้ที่ปฎิบัติได้ จึงไม่ต้องเรียนลึกอะไรปานนั้น"
ประโยคนี้มันทำให้ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมครูที่จบจากที่นี่แล้วมาสอนที่รรผม ถึงความรู้น้อย ไม่รู้จักหาความรู้ใส่ตัว เพราะมีแต่อะไรพื้นๆ คิดอะไรยากๆไม่ได้ วิเคราะห์ไม่เป็น หลายๆครั้งเด็กต้องมานั่งเถียงเพราะความรู้ผิดๆ และการเรียนการสอนที่เป็นการอ่านตามหนังสือให้เด็กฟังเป๊ะทุกตัวอักษร :) และถ้าไม่นับการเรียน การทำตัวก็ไม่น่าเคารพ(จริงอยู่ว่าการกระทำมันไม่ได้ขึ้นกับสถาบันมันอยู่ที่ตัวคน แต่ส่วนใหญ่ก็เจอกับคนที่จบจากที่นี่อะครับ) อยากให้เด็กไหว้แต่ทำตัวไม่น่าเคารพ เลยต้องมาทำตัวดุโหดๆ เอะอะก็ด่า ตะโกนเสียงดังๆเพื่อให้เด็กกลัว เจอต้องไหว้ เหอะๆ ครูที่จบจาก ม.รัฐอื่นที่ไม่ได้ดังเท่า ชมพู อย่างบูรพายังดีกว่าเลย ครูที่จบจากบูรพาของ รร ผม ปั้นเด็กแข่งโอลิมปิกด้วยซ้ำ (แกเก่งเทียบเท่าครูที่จบ ฬ เลย) คงเป็นเพราะม.บูรพา (หรือว่า ม.รัฐเกือบทุกมอ ?) สอนให้นักศึกษารู้จักใช้สมองใชช้ความคิด ยิ่งโจทย์ยาก เนื้อหายาก นักศึกษาก็ยิ่งได้วิเคราะห์ คิดแบบมีเหตุผล และอื่นๆอีกมาก เพราะแบบนี้ ม.รัฐหลายๆมอที่ไม่ใช่ มรภ เขาถึงมีคุณภาพที่สมควรเรียกว่าเป็นมหาลัยจริงๆ แล้ว มรภ ล่ะครับ ? ยังจะสร้างครูปลอมๆแบบนี้ต่อไปจริงๆหรือ ?
เอ้า ดิ้นๆๆๆ
แนะนำจขกท.ไปตั้งในพันทิปด้วยครับ มันส์เเน่นอน
https://pantip.com/topic/37680009 มีคนมาตั้งแล้วววว
อยู่ที่บุคคลที่จะพัฒนามากกว่า ครูคือผู้ให้ ความรู้เเละๆๆๆๆคุณธรรม
นี่ถ้า มหาลัย ของรัฐบาล มี 12 แห่งเท่าเดิมกับสมัยก่อน ไมมีวิทยาเขต จำนวนรับก็น้อยในแต่ละคณะ และ คณะทางครูก็มีแต่ มรภ.เป็นผู้ผลิตออกมาสอนตามโรงเรียนทั้งดังและไม่ดังทุกวิชา ใครหัวดีก็ไปต่อปริญญาตรีที่ มศว เท่านั้น นอกจากนี้ต้องเรียนรามอย่างเดียว คิดว่าคงมีเด็กในกระทู้และเมนท์ มาเรียนที่ มรภ.เยอะแน่นอน เดี๋ยวนี้คะแนนต่ำยังไงก็มีมอรัฐให้เรียนแถมยังมีภาคพิเศษอีก ก็อ้างชื่อ ม.รัฐไว้คุยเรื่องสถาบันกัน แค่เพื่อนผมเป็นอาจารย์มอรัฐหลายแห่งก็บอกว่าเด็กอ่อนงกว่ารั่นเก่ามากคิดเลขง่ายๆก็ไม่ได้ เพราะมักจะติวท่องจำสอบเข้ามาได้ ก็เพียงมองว่า ช้างเผือกมีทุกที่ ตัวคนสำคัญกว่าค่านิยมที่ตั้งกันขึ้นมาเองให้ดูดี ความเพียรพยายามทำให้คนเก่งได้เสมอ แต่ความคิดดีๆต้องปลูกฝังแต่เล็กๆเท่านั้น
ป่านนี้ ม.ดัง เปลี่ยนเป็นธุรกิจการศึกษาไปเเละ เปิดสอนเหมือนๆทุกคณะๆ วิทยาเขตก็เยอะไปหมด เอาชื่อตัวเองเป็นที่ตั้ง เงินเป็นพระเจ้า ก็คือนักศึกษา
ปิดตัวไปเถอะมหาลัยกากๆแบบนี้ อยู่ไปก็ผลิตบัณฑิตที่ไม่ได้เรื่อง ดูอย่างพวกครูฝึกสอนอะ โง่กว่าเราอีกแค่ประจุไออนพื้นฐานก็ไม่รู้ หาประจุของสารเชิงสอนช้ามาก ชีวะก็แบบสอนไปดูโพยไปเหมือนอ่านให้ฟัง ฟิสิกส์หนักเข้าไปอีกจะมาสอนแต่จำไรไม่ได้ยืนเอ๋อๆอยู่หน้ากระดานจนครูพี่เลี้ยงด่าแล้วก็ออกมาสอนแทน เห้อหนักใจปีหน้าขึ้น ม.6 ขอให้อย่ามีพวกครูฝึกสอนจากราชภัฎมาอีกเลยแค่นี้ก็หนักใจพอละ
หนูเอ้ย ครูฝึกสอน ก็ต้องใช้เวลาในการเตรียมการสอนให้เข้ากันกับเด็กซิครับ ไม่ใข่ติวเตอร์เก็บเงินแพง สอนสูตรลัด สรุปชีทเก็งข้อสอบส่วนที่สำคัญ ในห้องก็ต้องปูพื้นฐานแนวคิดวิธีการให้แน่นก่อน เด็กใจร้อนก็จะเอาสูตรลัด สรุปเก็งท่องจำเลย แบบนั้นมันคนละแนวกัน เบสิคแน่นแล้วจะไปติวลัดก็เรื่องของเรา ไม่ใช่เอาชีทสรุปเก็งที่ติวเตอร์ให้มาเถียงกับครู แยกให้ออกนะ จ่ายค่าเทอมนิดเดียวจะให้ทำทุกอย่างเหมือนติวเตอร์คงไม่ได้หรอก ถ้าชอบแบบนั้น ลาออกไปติวแล้วรอสอบเทียบที่บ้านดีกว่านะ
555หัดอ่านนะ จขม.ก็เขียนทนโท่ว่า ดูโพยชีวะ ตอนสอน เหมือนอ่านให้ฟัง? ยืนเอ๋อหน้าห้องมันใช่มั้ยวะ มันต้องเตรียมตัวดิ
ส่วนใหญ่ครูฝึกสอนจะสาวๆขาขาวๆ ผมละชอบ
ครูฝึกสอน ก็คือผู้ไม่ได้เคยสอน ลองผิดลองถูก หากคิดว่าตัวเองเจ๋งเเล้ว ก็ไม่ต้องเรียนสะเเล้ว คุณธรรมก็ไม่มี
เขาเเค่มาฝึกก่อน จะเอาไรหนักหนา ถ้าตัวเองเก่ง ก็อย่าตายสิ #หวิบ
ผมว่าไม่เกี่ยวกับรับเด็กอ่อนๆเข้าไปแล้วจะสอนง่ายๆผ่านๆ ถ้าสอนดีปูพื้นฐานใหม่เด็กก็เรียนเข้าใจได้ เพราะไม่มีเด็กไม่เก่ง มีแต่เด็กที่ไม่ตั้งใจเรียน ไม่สนใจเรียนเท่านั้น...
ผมจะเล่าจากเรื่องของเพื่อนผมให้ฟัง.....
เพื่อนสมัย ม ปลาย ติด 0 ทั้งคณิต ฟิสิกส์ เกรดก็ สองกว่าๆ
พอจบ ม ปลาย มันไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรเพราะคะแนนแอดมิชชั่นน้อย สุดท้ายไปได้เรียนที่ ม รัฐ แถวชลบุรี
เพื่อนผมเลือกวิศวะ ซึ่งต้องเรียนคณิต ฟิสิกส์เยอะ พอเข้าไปคณิตตัวแรกก็เอฟเลย เพราะพื้นฐานไม่แน่นเลยไม่ไปเรียน แล้วเพื่อนผมก็มาลงเรียนใหม่ แต่คราวนี้เข้าเรียน จด เวลาไม่เข้าใจมันจะโทรถามเพื่อนที่เก่งคณิตให้ช่วยอธิบาย
เชื่อมั้ยครับจากความตั้งใจจากเด็กที่ไม่ชอบวิชาคณิต กลายเป็นได้ เอ ส่วนแคลตัวอื่นก็ไม่ต่ำกว่าบี มันยังบอกเลยว่า รู้แบบนี้ตั้งใจเรียนตอน ม ปลายก็ดี กลายเป็นคนที่สนุกในการแก้โจทย์
สรุป
1 ถ้าหลักสูตรเนื้อหาครบ สอนดี เด็กอ่อนแค่ไหนก็เข้าใจได้ ไม่ควรตัดออกเพียงเพราะคิดว่าเด็กจะติดเอฟ
2 ไม่มีเด็กโง่ มีแค่ไม่ตั้งใจเรียน ไม่หาความรู้เพิ่มเติม
3 หลักสูตร และอาจารย์ที่สอนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
4 หลักสูตรควรจะสอนเนื้อหาเพื่อไปประกอบอาชีพได้ ไม่ใช่แค่เรียนผ่านๆ
ฉะนั้นทำไม บางคนถึงยังยึดติดที่ตัวมหาวิทยาลัย เพราะเวลาเรียกมาสัมภาษณ์ความคิดความอ่านค่อนข้างต่างกัน
ตื่นครับ
คนที่เรียนอ่อนร้อยละ90 คือเด็กที่ไม่มีนิสัยขยันมาเเต่เเรกครับ
ดังนั้น เข็ญให้ตายก็ขึ้นยากครับ เพราะความขี้เกียจมันเป็นสันดาน น้อยคนที่จะหลุดพ้นมาได้
ชอบครับ กำลังเบื่อๆอยู่พอดี
ต้องพัฒนาอาจารย์ ต้องคัดอาจารย์มาสอนเเหละ ฝากถึง ม.ราชภัฏ ด้วยครับ
คงเป็นไอเดียเดียวกับราม ที่ดึง อาจารย์ จาก มธ มาสอน ก็ดีเหมือนกันๆๆ
อาจารย์ก็จบมาจาก มอดังๆ มาสอน ควรคัด อาจารย์สอนที่มีคุณภาพ สิ๊
มหาวิทยาลัยไม่ได้การันตีตัวบุคคลเสมอไป ป่านนี้ ม.ดัง เค้ามีวิทยาเขตเยอะ คงผันตัวเองเป็นธุรกิจการศึกษาไปซะเเล้ว
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?