รีวิวสอบพยาบาลกองทัพบกกันนน

[Weivsti]

สวัสดีจ้า วันนี้จะมารีวิวการสอบเข้าพยาบาลเหล่าทัพ ที่เราไปสอบมาคือกองทัพบกนะ จะยากกว่าเหล่าอื่นๆตรงที่มีวิ่งด้วย เริ่มแรกเลยก็สมัครทางเว็บไซต์ อ่านระเบียบการให้ละเอียดด้วยนะ แนะนำให้สมัครและจ่ายเงินวันแรกๆนะ เพราะเวลาประกาศผล ชื่อจะอยู่ลำดับบนๆ เวลาทดสอบจะได้ทดสอบก่อน ไม่ต้องมานั่งรอ พอเราสมัครเสร็จแล้วก็ติดตามหน้าเว็บดีๆ เพราะมักจะมีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการต่างๆ พอประกาศผลแล้วก็ให้เตรียมพวกเอกสารวันนั้นเลย เพราะประมาณ 3 วันถัดไปก็ต้องไปสอบที่วิทยาลัยเลย
Day 1 (บุคลิกภาพ + Speed Test)
วันแรกปีนี้จะไม่เหมือนปีก่อนๆคือ ทุกๆอย่างเปลี่ยนหมดจ้า ที่เหมือนเดิมก็มีพวกเกณฑ์พวกข้อสอบ วันแรกแป็นการทดสอบบุคลิกภาพ เป็นข้อสอบเชิงจิตวิทยา ให้ตอบใช่ หรือ ไม่ เช่น ฉันอยากเป็นคนขายดอกไม้ ก็ให้ฝนว่าใช่ หรือ ไม่ มีทั้งหมด 567 ข้อ เมื่อยมือมากกก แล้วพอทำอันนี้เสร็จก็จะมีพาร์ทที่ 2 คือ ให้วาดรูป เขาจะกำหนดมาให้ว่าให้วาดอะไร แล้วเราก็วาดเลยจ้ะ ห้ามใช้ไม้บรรทัด ใช้ได้แค่ดินสอ กับยางลบ พอวาดเสร็จก็จะมีให้บรรยายข้างล่าง ว่าเราวาดอะไร มีความหมายยังไง พาร์ทที่ 3 คือ ให้ประโยคมาแล้วให้เรามองประโยคนั้น มองเสร็จเราคิดถึงอะไรก็ให้ตอบลงไปทันที คือไม่ต้องคิดเยอะ อันนี้ซอฟๆ เวลาทั้งหมดประมาณ 2 ชม.
ช่วงบ่าย ก็จะให้เราทำ Speed Test อันนี้ไม่ยากเลย แต่วุ่นวายมาก หนึ่งชุดประมาณ 5 – 8 นาที มีทั้งหมด 4 พาร์ท แต่ละพาร์ทเวลาที่ทำจะไม่เท่ากัน
พาร์ทแรก คือพาร์ทข้อสอบตาราง เราต้องทำให้เร็วและแม่นยำที่สุด มีหลายข้อมาก แต่ทำไม่ทัน ชุดแรกมันจะมึนๆหน่อยๆ
พาร์ทที่สอง คือพาร์ทการเข้าใจภาษา อันนี้ไม่ยาก น่าจะง่ายที่สุดแล้ว
พาร์ทที่สาม คือการใช้ภาษา อันนี้ยากนะ ทำเอาเรามึนเลย มันเกี่ยวกับระดับของภาษาและพูดยังไงจึงจะเหมาะสม
พาร์ทสุดท้าย คือพาร์ทความจำ อห.อันนี้บังเทิงเลยจ้า เขาจะให้กระดาษมาสองแผ่น มีกระดาษที่เป็นโจทย์กับกระดาษที่มีสัญลักษณ์ที่เราต้องจำ มีราวๆ เกือบร้อยสัญลักษณ์ได้มั้ง เช่น @ = ขนม เราก็ต้องจำไปว่าตัวอะไรคืออะไร พาร์ทนี้เวลาจะเยอะอยู่ ให้เราจำสัญลักษณ์ 1 นาที แล้วก็ 5 นาทีทำข้อสอบ
***** ลองทำก่อนดีกว่าแล้วจะรู้ว่าเวลาเกือบ 10 นาที มันไม่เยอะเลย*****

Day 2 (ตรวจสุขภาพ + วิ่ง)
ตอนเช้าก็ให้เราอดอาหารตั้งแต่เที่ยงคืนของเมื่อวาน อย่าลืมเตรียมพวกขนมกับน้ำหวานไปด้วยเผื่อเป็นลม พวกที่ลำดับแรกๆก็จะเสร็จเร็ว ได้กินเร็ว มีตรวจเลือด ดูบุคลิก สายตา(คนที่ใส่คอนแทคเลนส์ต้องถอดนะ ใส่แว่นไป) ผู้หญิงจะมีตรวจสูตินารีด้วย หมอจะกดๆ ถามว่าประจำเดือนล่าสุดเมื่อไหร่ ก็ไม่น่ากลัว แต่ใครที่กลัวเข็มหรือเลือดก็เตรียมใจเลย เพราะเขาเอาเลือดเราไปทั้งหมด 4 หรอก แล้วก็สุดท้ายองเราคือตรวจปัสสาวะ อันนี้ถ้าคนที่มาประจำเดือนอยู่ก็บอกเขาพี่ๆเขาก่อนตรวจด้วยนะ
ภาคบ่าย จะเป็นการวิ่ง คนที่อันดับแรกๆก็จะวิ่งก่อน พวกที่อันดับท้ายๆกว่าจะได้วิ่งนอนรอไปเลยจ้า เขาจะติดหมายเลขให้เรา วิ่งก็จะวิ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 20 คน ไม่เกิน 5 นาที เท่าที่ฟังพี่ๆมา เขาบอกไม่ต้องสนใจเวลามากหรอก วิ่งไม่ได้ตัดสินว่าจะได้ไม่ได้ แต่ถ้าวิ่งเกิน 5 นาทีก็จะไม่ผ่าน เท่าที่ได้ยินมานะ แต่คนที่วิ่งเร็วๆ ประมาณ 3 นาทีกว่า ไม่ติดก็มีนะ อย่าซีเรียส คนที่วิ่งไม่แข้งแรง หรือวิ่งเร็วๆไม่ได้ นี่บอกพี่ๆเขาไว้ก่อนเลยนะ เขาจะวิ่งประกบ ช่วยเราวิ่ง คนที่อยากเป็นจริงๆก็ฝึกฝนไปเลย
Day 3 ( สัมภาษณ์ ) **ปีเรามันไม่ติดกันอะ วันที่วิ่งวันที่ 8 แต่สัมภาษณ์ 17**
สัมภาษณ์ก็จะไม่เหมือนปีอื่นๆเลย ย้ำเลยไม่เหมือนเลย เราอันดับที่ 213 ได้ไปสัมช่วงบ่าย แต่ช่วงเช้าต้องไปพบจิตแพทย์ก่อนทุกคน ย้ำว่าทุกคนนะ ปีก่อนๆ อาจจะสุ่มแต่ปีนี้เข้าทุกคนจ้ะ ไม่ต้องนั่งลุ้นกันอีกต่อไป เขาก็จะเอาข้อสอบที่เราทำวันแรกที่เราวาดรูปมาอ่านแล้วก็ถามเราโน่นนี่ คือคุยเหมือนเพื่อนกันได้เลย (หมอใจดี และหล่อ 5555555)
ภาคบ่ายก็จะเริ่มสัมภาษณ์ เขาจะให้เราเดินไปที่วิทยาลัยแพทย์พระมงกุฎ (อห.นร.แพทย์ทหารน่ารักมาก) มันจะไม่เหมือนปีก่อนๆเพราะปีนี้ไม่ใช้พอร์ตจ้ะ เราก็เพิ่งรู้ตรงนั้นอะว่าไม่ใช้ การสัมภาษณ์ก็จะไม่เหมือนปีก่อนๆ ปีก่อนที่เคยอ่านจะให้เวลาเรา 7 นาที กรรมการสามคน แต่ปีนี้ เปลี่ยนเป็นให้เข้าห้องสามห้อง ในห้องจะมีกรรมการห้องละสองคน ห้องละสามนาที จะมีเจ้าหน้าที่เขาอยู่หน้าห้องคอยบอกเวลาว่าหมดแล้ว
ห้องแรก จะให้เราจับเป็นบัตรคำ แล้วให้อธิบายคำที่เราได้ เราได้คำว่า ความซื่อสัตย์ ก็พูดไปเลย ว่าเราคิดยังไงกับคำนี้ บางคนโชคร้ายหน่อยจะได้พวกที่เป็นมาตรากฎหมาย พวก ม.44 อะไรพวกนี้เขาจะให้เราพูด ถ้าเราไม่มีอะไรจะพูดห้องนี้เขาจะถามเรา อย่าให้เขาถามเลย เชื่อเราสิ
ห้องที่สอง ห้องนี้จะให้เราอธิฐานก่อน แล้วให้เราจับบัตรมาสามใบ จะเป็นบัตรภาพ แล้วอธิบายภาพแต่ละภาพ สุดท้ายเอามาเชื่อมกัน เราได้รูป คนปิดตา คนหัวเราะ แล้วก็นกคู่รัก ไปต่อไม่ถูกเลยจ้ะ ห้องนี้จะไม่ถามอะไรเรา เราต้องพยายามพูดให้ได้มากที่สุด พูดให้เขาสนใจที่สุด ให้ใช้จินตนาการเยอะๆ ไม่งั้นเรื่องจะซ้ำกับคนอื่น คะแนนก็จะเท่าๆกัน พอเราพูดเสร็จ เขาจะถามในสิ่งที่เราอธิฐานไปตอนเริ่ม เพราะฉะนั้นอธิฐานอะไรคิดกันดีๆ
ห้องสุดท้าย ให้เราเข้าไปแล้วเขาจะให้เราอ่านคำถาม ของเราเป็นเกี่ยวกับหากมารุ่นพี่หมอหรือพยาบาลมาชวนเป็นพรีเซนเตอร์ เราจะไปไหม พร้อมเหตุผล เราก็ตอบตามความคิดของเรา ห้องนี้เขาจะไม่กำหนดเวลานะ เขาจะเชิญออกเอง
****เข้าสัมทุกห้องก่อนนั่งต้องรายงานตัว ชื่อ-นามสกุล โรงเรียนก่อนเสมอนะ แล้วก็นั่ง****
ส่วนเรื่องการสมัครจะใช้คะแนนตามนี้นะ
1. เกรด อันนี้ไม่กำหนดขั้นต่ำ แต่ว่าก็จะมาใช้เป็นคะแนนตัดสิน ทำให้เกรดสวยๆจะดีกว่า
2. O-net อันนี้ก็ให้สูงๆไว้ เกือบๆสามร้อย หรือไม่ก็สามร้อยไปเลย เพราะใช้เยอะสุด
3. GAT-PAT อันนี้ก็ไม่ต้องสูงมากหรอก เอาแกทไทยให้เต็มแล้วแกทอิ้งครึ่งนึงก็โอเคแล้วส่วนแพทใช้แค่แพท2 นะ เอาให้ได้ 100 หรือมากกว่าจะดีมากเลย
****คนที่คะแนนน้อยอย่าเพิ่งท้อ ถ้าคะแนนเราน้อยเรามาทำที่เขาเรียกให้มาทดสอบให้ดีๆ ก็พอช่วยได้อยู่นะ****
ปล.ส่วนเอกสารคนที่ลืมเอามาวันแรกหรือเอามาไม่ครบก็ไม่ต้องร้องจนเป็นลมนะ เพราะถ้าบ้านอยู่ตจว.เขาให้เอามาในวันสัมภาษณ์ได้
ปล.2 สิ่งที่ห้ามลืมเด็ดขาดคือ บัตรประชาชน ถ้าลืมบัตรประชาชนวันแรกก็ให้เอาสำเนาใช้แทนได้ แต่ไม่ควรลืมนะ เพราะทุกสนามไม่ว่าจะสัมภาษณ์หรือสอบบุคลิกก็ใช้บัตรยืนยันตัวตนก่อนเข้าสอบ
ปล.3 ไม่ควรไปสายหรือว่าดูกำหนดการไม่ถี่ถ้วนนะ เพราะพลาดวันเดียวคือทุกอย่างทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว

Comments

[Pymai]

ขออนุญาตถามนะคะ พี่ติดไหมเอ่ย

แล้วได้คะแนนgat/pat onet gpaxเท่าไหร่

[Pymai]

พี่ติดไหมเอ่ย

ขออนุญาตถามนะคะ พี่ได้คะแนนgat pat onet gpax เท่าไหร่คะ

[จีระภา]

ขอบคุณมากค่ะ อธิบายได้ชัดเจน เยี่ยมมากค่ะ