Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิว ชีวิตแลกเปลี่ยนโรงเรียนอเมริกา(มีรูป มีวีดีโอ มีทุกอย่างที่เธอต้องการ...) ไม่ได้ไปแลกเปลี่ยนยิ่งต้องอ่าน!!

ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีทุกคน 

  **ก่อนอื่นเราต้องบอกก่อนว่าเราไม่เคยเขียนกระทู้เล่าเรื่องยาวขนาดนี้ ถ้าผิดพลาดยังไงก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยเน้อ**

      พูดถึงนักเรียนเเลกเปลี่ยนเเล้ว ในความเห็นเราก่อนเราได้ไปเเลกเปลี่ยนคือ คงเป็นเด็กที่เก่งอังกฤษมากกกกกก ไปอยู่เเล้วต้องสบายยิ่งกว่าอยู่ไทยเหมือนที่ดูในหนังเเน่นอน ชีวิตมันต้องดีงามเหมือนที่รุ่นพี่ถ่ายรูปลงเฟสเเน่ๆ เเต่พอได้ไปเเล้วจะบอกว่าไม่ดีก็ไม่ใช่ เเต่มันคือความหลากหลายทางประสบการณ์ที่เราจะได้รู้เเละได้รับ เเละก็เปลี่ยนชีวิตเราไปได้เยอะเลย มาดูกันเลยดีกว่าเราเจออะไรบ้าง

ช่วงสัปดาห์เเรกที่ไปถึง 
     จำได้ว่าพอไปถึงคือตื่นเต้นมาก เหมือนฝันเลยเพราะทุกอย่างคือแปลกตา คนรอบข้างเราหน้าเหมือนในทีวีกันมาก มีหลายสีผิว หลายความสูง เเละที่สำคัญคือหลายความมึนงงของเรา ทั้งเรื่องมึนในภาษาที่เขาใช้พูดกัน เเละมึนกับสมองตัวเองจาก jet lag 


                                  อันนี้เป็นรูปที่สนามบิน เสื้อชมพูนี่สุดๆสำหรับวันนั้นของเราเเล้ว  

วันเเรกๆก็เข้าค่ายปฐมนิเทศที่ New York เท่าที่จำได้คือ พูดได้เเต่ Yes , No , Ok , Thank you 4 คำนี้จริงๆๆ แกรมม่าที่ได้เกรดสี่มานั้นไม่รู้ว่าตกหล่นลงทะเลตอนเดินทางไปรึป่าว ?? 


                                                    ความเป็น Empire State ที่มีดอกไม้อยู่หน้าตึก


                                      ความเป็น NewYork ที่มีเเต่รถ เเละ คนที่เดินอย่างเร็ว

                                                                    เชื่อยังว่า NewYork


ข้ามมาตอน...

ที่มาเรียนที่ High School เลยดีกว่า 

    ก่อนวันที่เราไปเรียนเนี่ยโฮสพาเราไปเลือกวิชาที่เรียน จะบอกว่าเป็นการเปิดมุมมองชีวิตที่คิดเเค่ว่าชาตินี้ก็คงเรียนได้เเต่ คณิต วิทย์ พละ ไทย สังคม อังกฤษ เเต่พอมาเห็นใบเลือกวิชาถึงกับ งง  ตื่นเต้น นี่เราเลือกวิชาหรือเลือกชุมนุมเรียนเนี่ยทำไมมันน่าสนไปหมด 
วิชาที่น่าสนใจที่เปิดสอนเช่น 
      พละ    มีวิชา    พละเเบบเรียนกีฬาที่ใช้ไม้อย่างเดียว 
                             พละเเบบผจญภัย ได้เรียนตั้งเเคมป์ พายเรือ ยิงธนู เล่นเกมเเก้ปัญหา ฯลฯ
                             พละกีฬาหลากหลาย 
(เหมือนจะมีแบบอื่นอีกนะเเต่เราจำได้เเค่นี้)
**มีห้องFitnessด้วยสาวๆชอบเดินผ่านเพราะ เด็กม.ปลายที่มีSix Pack อยู่นี่ทั้งน้านนนน cool

      ดนตรี   มีวิชา Orchestra ก็พวกไวโอลิน เชลโล วิโอลา ดับเบิลเบส
                           Band มีเครื่องดนตรีประเภทเป่า เช่น แซกโซโฟน 
                           Percussion คือเรียนพวกเครื่องดนตรีที่ให้จังหวะ เช่นพวกกลอง
                                       เเละเครื่องดนตรีแปลกที่จำชื่อไม่ได้ที่ให้จังหวะ
                           Choir เรียนร้องประสานเสียง 


                                 ที่เเสดงคอรเสิร์ตของโรงเรียนมีอีกชั้นด้วยนะนี่เเค่ 2ใน3ของห้อง


         อันนี้คอนเสิร์ตประสานเสียง คนที่ร้องเพลงเป็นจะได้รับคัดเลือกไปเล่น The Musicalด้วย

                                              วิชาPercussion ดูเหมือนเเค่เคาะๆ เเต่มีโน้ตด้วยนะ 

        ทำอาหาร  เราไม่ได้เรียนเเต่เพื่อนจะถ่ายวีดีโอมาให้ตัดต่อลงทีวีโรงเรียนจึงรู้สึกว่าอาหารไทยน่ากินสุดเเล้ววว ที่เห็นเขาเรียนกันเเบบเรียนทำOmelette ทำอะไรสักอย่างจำได้ว่าใส่ชีทเยอะมากกกกก อ่ะให้ดูภาพเลย


                   คือไข่เจียวใส่นม ทาเนย เเละใส่ชีท อะไรจะมีความเลี่ยนขนาดนี้ คิดถึงส้มตำเลยยยheart

           วิชาสุขศึกษา อันนี้ไม่ได้เรียนนะเเต่เห็นเพื่อนต้องเลี้ยงตุ๊กตาที่มีเซ็นเซอร์ให้คะเเนนอยู่ ขนาดซ้อมกีฬาอยู่ถ้าเจ้าตุ๊กตาเด็กร้องไห้ต้องรีบวิ่งมาให้นมอุ้มเเละจับให้ถูกท่าเมื่องั้นถูกหักคะเเนน เพื่อนบางคนบอกว่าเเทบจะไม่ได้นอนเลย


                             เด็กคนนี้นี่เเหละ หลอนๆหน่อย เเต่ถ้าคะเเนนไม่ดีนี่หลอนกว่า crying

           วิชา Bio tech ที่ได้ทำ PCR อย่างจริงจัง


                                                        เอียงคอดูภาพหน่อยนะ :)

                                    น่ากินมั้ย เหมือนสตรอเบอรี่โซดาเลย จริงๆคือ DNA

              วิชา Anatomy เป็นวิชาที่สนุกนะ จำกระดูก กล้ามเนื้อ อวัยวะ หน้าที่ ทุกส่วนในร่างกาย สอบทุกวันเลย 
              วิชาธุรกิจ เรียนการตลาดต่างๆ นาๆ 
              วิชาภาษาสเปน ก็เรียนภาษาไทย เอ้ย เรียนภาษาสเปนสิเนอะ
              วิชาภาษาเยอรมัน เรียนภาษาเยอรมันเเต่ประเด็นอยู่ที่เพื่อนที่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเป็นคนเยอรมันเเล้วตอนเช้าเกือบทุกอาทิตย์เขาจะมีชุมนุมเยอรมันเลี้ยงอาหารเช้าเพื่อนในชมรม เเล้วคือเเบบอยากกินบ้าง ได้เเต่รอให้มีเปิดชมรมภาษาไทย ก็เลยต้องกิน PopTartsต่อไป
ปล.ถึงเเม้เพื่อนเมกาจะรู้จักเยอรมันเเต่พอเราพูดถึงประเทศของเรากลายเป็นว่าภูมิใจสุดๆๆ เพราะความเป็นไทยไม่เหมือนชาติใดในโลก ทุกคนให้ความสนใจดีมากกก
              วิชาโลกศึกษา เรียนเกี่ยวกับประเทศต่างๆ เเล้วเเต่ว่าเทอมนั้นเรียนประเทศอะไรจะเรียนลึกมากเเละไปเที่ยวหลังเรียนจบ เเต่เสียเงินเองนะจาา 


         วิชาอื่นก็มีนะ เเต่พวกวิชาที่โรงเรียนไทยมีเช่น คณิต ประวัติศาสตร์ เราชอบเเนวการสอนมาก คือคุณครูจะทำตารางในห้องเเล้วเขียนแผนเลยว่าอาทิตย์นี้เเต่ละวันเราจะเรียนเรื่องอะไรบ้าง จึงทำให้เราสามารถเตรียมตัวเเละวางเเผนอ่านหนังสือก่อนถึงวันสอบได้  ที่ชอบมากกว่านั้นคือจะเน้นชีท เน้นเเค่เนื้อหาที่จะสอนหรือให้เราอ่าน มีเเบบฝึกเเละการบ้านท้ายบท ไม่ต้องมานั่งลอกตามกระดานให้เสียเวลา ภายใน 45 นาทีจบTopicนึงได้ เเต่เด็กนักเรียนคือเงียบตั้งใจฟังมาก  บางวิชาจะมี Kahoot ให้เล่นท้ายคาบใครชนะรับโดนัทปายย เราว่าวิชานึงที่น่าสนใจคือประวัติศาสตร์ คุณครูเตรียมเนื้อหามาดีมากคือเน้นหัวเรื่องใหญ่ เเล้วมีวีดีโอให้เราดูประกอบ พร้อมชีท พอเรียนเสร็จจะให้เราตอบคำถามในชีทเเล้วส่งเลย ถึงเเม้เราจะไม่รู้เรื่องเท่าไหร่เเต่พอได้ศึกษาจากวีดีโอมันเหมือนทำให้เราเข้าใจมากขึ้นไม่น่าเบื่อ ไม่ได้สอนเเบบให้เราลอกหรือฟังจากครูอย่างเดียว  พวกวิชาดนตรีก็น่าสนนะเราเล่นดนตรีอย่างมีเป้าหมายเเละจริงจัง พอเรียนจบเทอมนึงเราต้องเเสดงคอนเสิร์ต จริงๆจังๆมาก ทั้งการเเต่งตัว ตั๋วเข้าชม เเสง สี เสียง เต็มทุกอย่างจนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย เอาเป็นว่าเราไปดู A Day In Life @ American High School กันเลยดีกว่า


A Day In Life @ American High School

ตื่น!!! ก็ตื่นนอนทั่วๆไปเหมือนคนปกติอ่าเนอะ เเต่เเค่กังวลตลอดเรื่องเวลา เพราะคำว่าเเค่ช้า 1 นาทีคือจะโดนมองเเรงเหมือนเราไปเหยียบเท้าเขาเเล้วขยี้ซ้ำอ่ะ อาบน้ำ แปรงฟัน เเต่งตัว เรียบร้อย ถ้าอยู่ไทยก็คงลงมามีข้าวเเละกับวางรอกินพร้อมหน้าพร้อมตากับพ่อเเม่ เเต่ที่นี่คือตัวใครตัวมันเลย หยิบอะไรได้รีบหยิบเเละรีบขึ้นรถ อย่างเราก็จะกินสิ่งที่เบื่อมากเพราะกินทุกวันนั่นคือ PopTarts


เหมือนจะน่ากินเนอะ มันก็น่ากินจริงเเหละเเต่ลองกินทุกวัน ทุกเดือน สิจะรู้สึกว่าโชคดีที่เกิดมาในเมืองไทยมีอาหารทุกที่

7.00 โมง ล้อหมุนจ้า พร้อมฟังเพลงเเละร้องเพลงในใจในรถ ที่ร้องในใจไม่ใช่ว่ากลัวโฮสSis จะรู้สึกชอบในเสียงเรา เเต่เพราะเราดำน้ำจนจะจมเลยไม่กล้าร้องเสียงดังอายเเทนคนไทยคนอื่นๆ 555 ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็มาถึงโรงเรียนที่ลานจอดนี่จะมีเเต่รถนักเรียนทั้งนั้น ด้วยที่ราคามันถูกเเล้วก็จำเป็นเพราะเด็กส่วนใหญ่ก็เริ่มทำงานหลังเลิกเรียนกันเยอะ 

เวลาประมาณ 7.20 มาถึงโรงเรียน เเล้วเเต่วันเลย บางวันก็ไปซ้อมไวโอลินเพราะเพลงที่เล่นนึกว่าโน้ตเล่นในงานGrammy บางวันก็ไปนั่งตัดต่อวีดีโอเพราะเราเป็นสมาชิกรายการทีวีโรงเรียนจ้า บางวันก็เข้าประชุมชุมนุม(ชุมนุมปกติชอบให้ประชุม 7.00 คือให้นอนโรงเรียนรอเลยมะ) 

7.50 น. เข้าเรียนเเล้วจ้า ประตูหลักจะล็อกหมด มีประตูนึงเข้าได้ถึง 8.00 เเล้วเราต้องมาขอใบอนุญาตเข้าโรงเรียน ในใบจะเขียนว่าทำไมเรามาโรงเรียนช้าเอาไปให้ครูที่ห้องเรียน 

วิชาเเรกของเราคือ Orchestra วิชาที่มีเเต่เทพดนตรี partner ของเราเป็นเพื่อนนักเรียนเเลกเปลี่ยนชาวเยอรมัน เล่นไวโอลินเก่งมากกกกกกกก คือเล่นตั้งเเต่เด็กน้อยจนป่านนี้ เเต่เราโอเคมากตรงที่ว่าถ้าเราไม่เข้าใจเทคนิคเพิ่มเติมอะไรเพื่อนคนนี้ก็จะคอยเเนะนำเหมือนเป็นครูอีกคนของเรา  ส่วนครูก็ใจดีมากช่วยเหลือทุกเรื่องเลยปรึกษาได้หมด ใจเย็นมาก

             ภาพส่วนนึงจากคอนเสิร์ต นี่ไม่ใช่เพื่อนเรียนในคลาสเรานะ อันนี้คือรวมทุกคลาส

อยากดูคลิปมั้ยละ :  อันนี้เป็นเพลงที่เราเล่นกับเพื่อนในคลาสตื่นเต้นดี
https://youtu.be/TpjLNhaNPpU

อันนี้ห้องที่เราเรียนวิชา Percussion 

พอเรียนครบ 45 นาทีก็เปลี่ยนวิชาอันนี้เราไม่พูดถึงเวลาเนอะเพราะเรา...ลืม  5555
 
วิชาต่อมาคือวิชาธุรกิจ เรียกหรูๆก็ International business class ก็ไม่มีไรมากอ่ะนะ ที่จำได้ก็เรียนจากชีท ดูหนัง เเล้วก็พรีเซ็นงานจ้า

     อันนี้ส่วนหนึ่งของการนำเสนอ ผู้ชายตรงกลางคือครูจ้า

 สาบานว่ามองงาน!! ไอเดียดี ใช้ได้ 

พอจบวิชานี้ก็เรียนประวัติศาสตร์ อย่างที่เขียนไปตอนต้นเเล้ว ไม่มีไรมากกว่านั้นเเล้ว 555 
วิชาต่อมา... วิชาศิลปะ ไม่มีไรมาก เเค่มีสีให้ใช้เยอะ ครูสอนหัวข้อวาดภาพ เเล้วให้เวลา ชอบตรงไม่มีการบ้านเเต่ต้องส่งให้ทันภายในวันที่กำหนด สีฟรี มีสีทุกประเภท กระดาษก็ฟรีเช่นกัน 

         ชอบอันนี้สุดพอทำเสร็จเขาจะเอาไปติดเป็นเพดานห้อง ดังนั้นถ้ามาห้องศิลปะเพดานจะ
ค่อนข้างลายตามาก

กลางวัน 
    มีให้พักสองรอบ ประมาณ 11โมงกับเที่ยง เเล้วเเต่ว่าใครจะได้ตารางเรียนเเบบไหน โรงอาหารจึงมีที่นั่งพอสำหรับทุกคนซึ่งด้วยความมีรถของนักเรียนที่นี่จึงมีบางวันออกไปกินอาหารนอกโรงเรียนถึงเเม้จะเหลือเวลา 30นาทีก่อนเรียนคาบบ่ายก็ตาม ขอบอกว่าเหมือนมาวิดอาหารเข้าปาก ไม่ได้เหมือนมากินอาหารสักเท่าไหร่  ค่าอาหารเราว่าก็เเพงนะไม่ว่าจะในหรือนอกโรงเรียน อาหารโรงเรียนที่ไทยถูกว่าเยอะมากๆๆ หลากหลายกว่าด้วย โชคดีเเล้วเด็กไทย 


  อันนี้อาหารที่โรงเรียนเเต่ละวันก็ไม่เหมือนกัน เเต่ทำไมรู้สึกว่าไก่นักเก็ตประเทศไทยอร่อยกว่าง่ะ 


   น่ากินมั้ยหล่ะ T^T  มาม่าไทยกินเมื่ออยากกินอาหารไทย สรุปทั้งรูป สตรอเบอรี่อร่อยสุดๆ

พอกินข้าวเสร็จ ถ้าไม่ได้ออกไปข้างนอก ก็จะไปทำงานตัดต่อวีดีโอใน Panther Vision หรือ ทีวีโรงเรียน

        ตัดต่อวีดีโอ หาพิธีกร เป็นพิธีกรเอง ถ่ายวีดีโอเอง ดูก็ดูเอง ทำทุกอย่างเลย สนุกมาก

สำหรับเรา เราชอบตัดต่อสุด เพราะเราเลือกเพลงเองได้ พอถึงเวลาเปิดวีดีโอดูทั้งโรงเรียนเรารู้สึกดียังไงไม่รู้ 555

วิชาต่อไปคือ พละ ชอบตรงได้เล่นกีฬาเเปลกๆ ได้กล้าทำอะไรที่ไม่คิดว่าจะได้ทำ

    อนุรักษ์ความเป็นไทยกลางอากาศก็มาจ้าา เป็นไงเหมาะเป็นนักเรียนเเลกเปลี่ยนมะ
 เพื่อน ๆ ในคลาสนี้ ตอนไปนอกสถานที่
 
พอวิชานี้เสร็จก็เข้าสู่ อังกฤษ คณิต ก็ตามที่เราเขียนข้างบน ครูใจดีมาก ไม่มีรูปอ่ะ อยากรู้สึกถึงบรรยากาศให้เปิดหนังสือคณิตเอาเองละกันนะ  ส่วนวิชาอังกฤษอยากได้บรรยากาศให้ไปเปิดดู Video Rap เป็นภาษาอังกฤษเองนะ :)

วิชาAnatomy คือที่เล่าไปมันจำเยอะมากจำทุกวัน ที่ชอบสุดคือผ่าลูกหมูเพราะมันใหญ่กว่ากบ 

น่ากิน เอ้ย น่าสนใจใช่มั้ยละ ^^

พอเรียนเสร็จ เราก็ต้องออกกำลังกาย ทุกเย็นเลิกเรียนเสร็จก็ต้องซ้อมกีฬา
เราเล่น บาส กับ Lacross 
การซ้อมค่อนข้างหนัก โค้ชใจดีนะ เเต่จริงจังมาก บางวันวิ่งจนกว่าโค้ชจะพอใจ เเละทุกวันจะเจอความกดดันคือต้องชูตที่จุดโทษให้เข้าโดยมีเพื่อนๆเเละโค้ชมายืนกดดันถ้าไม่เข้า ทุกคนวิ่งตามจำนวนที่ไม่เข้า โหมาถึงตอนนี้เเล้วก็ไม่ต้องบรรยายอะไรมาก พอซ้อมเสร็จรีบกลับบ้านกินข้าว ทำการบ้านเเละนอน!!   


                                          สนามบาสในโรงเรียนเรามีสามที่ จะเยอะไปไหนเนอะ
**ลืมบอกว่าทุกครั้งที่เราเรียนพละ หรือ เราเล่นกีฬาเราต้องเปลี่ยนชุดทุกครั้งมีห้องเปลี่ยนให้

ส่วนอีกกีฬาคือ Lacroos ไม่เคยได้ยินใช่มั้ยหล่ะ มันเป็นกีฬาที่ควงไม้เเล้ววิ่งรับบอล เเบ่งเขตยืนคล้ายฟุตบอลบ้านเรา 


                                          ภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เเต่บรรยากาศคร่าวๆก็ประมาณนี้

พอเล่นกีฬาก็ต้องมีเรื่องของกิจกรรมอื่น ๆ

 Homecoming หลายคนคงเคยเห็นในชีวิตจริงหรือในหนังฝรั่งเนอะ 
     Homecoming เท่าที่จำได้ก็จะมีกิจกรรมสัปดาห์นึงที่ให้เราเนี่ยเเต่งตัวตามThemeของเเต่ละวัน พอครบอาทิตย์ก็จะมีเดินขบวนรอบเมือง ในขบวนไม่ได้มีการรณรงค์อะไรทั้งนั้น มีเเต่ขบวนเด็กๆ ขบวนProm King Queen, นักเรียนเเลกเปลี่ยน ,ดนตรี เเละอีกหลายอย่าง ตอนเย็นก็มา American Footballซึ่งก็ดูไม่ค่อยเป็นเลย รู้เเต่ว่าอากาศหนาวมากก พออีกวันตอนเย็นจะมี Homecoming เด็กทั้งโรงเรียนมาร่วมได้ ก็มีเต้น เต้นเเละก็เต้น ในความมืด  


เบลอหน่อยเนอะ  American Football หรือเรียกว่า Football 
** ถ้าเตะลูกฟุตบอลเขาเรียกว่า Soccer 

อีกงานที่ไม่พูดไม่ได้คือ PROM 
   เรื่องที่ค่อนข้างต้องรู้เกี่ยวกับงานนี้คือ
      - ชุดที่ใส่นี่คือต้องหาซื้อกันจริงจังมากพอถึงเทศกาลหลายร้านจะมีเเต่ชุดPromขาย สวยๆ อย่างต่ำก็ 900กว่า บางคนลงทุนซื้อ 3000บาทขึ้นไป 
      - คนที่ข้อมือมีดอกไม้เนี่ยตอนเเรกเราก็ไม่รู้ว่าใส่ทำไม คิดว่าเพื่อความสวย มารู้ที่หลังตอนซื้อเสร็จเเละ คือต้องเป็นคนที่มากับคู่เดทผู้ชาย เเต่จากภาพก็ดูออกว่าเพื่อนๆ มาเดทกันเอง
      - คนที่มางานนี้ได้ก็เป็นเด็กม.5-ม.6 เว้นเเต่เด็กเหล่านั้นจะไปชวนคนอื่นมาเป็นคู่มางานด้วย 
      - เขาจะมี Prom King กับ Queen เเต่ก่อนเลือกเนี่ยเพื่อนในโรงเรียนจะโหวตว่าให้ใครได้รับชิง ซึ่งเราก็ติด 1 ใน 7 ด้วย ฟังดูเหมือนจะดี นึกภาพเราไปงานยิ้มถ่ายรูป เเต่ความเป็นจริงผู้เข้าชิงต้องมาช่วยตกเเต่งงานโดยพ่อเเม่ก็ต้องมาช่วยด้วย เรียกได้ว่า ทั้งภูมิใจเเละสนุกกันทั้งครอบครัว


    วันงานProm ทุกคนก็จะเเต่งตัวกันสักเที่ยงเป็นต้นไป เเล้วสักเย็นๆ ก็จะมารวมกันถ่ายรูปตามสถานที่ต่างๆ โดยมีเหล่าคุณพ่อคุณเเม่มาขับรถให้ เเละ ถ่ายรูปให้ ถือว่าดีงามสำหรับเรามากเพราะเราselfieคนเดียวเองมาตลอดทั้งปี นานๆๆๆๆทีจะมีคนถ่ายให้ :) พอถ่ายเสร็จก็ไปทานข้าวเย็นที่ร้านอาหารอิตาเลียนหรู ซึ่งถ้าเราได้เลือกร้านเราจะเลือกร้านอาหารไทยจะกินให้ชุดใส่ไม่ได้เลย 555 พอกินเสร็จก็เข้างาน ประกาศผลProm King Queen เเละเต้น เต้น เต้น คล้าย Homecoming เเต่ต่างกันที่Prom จะเป็นdressยาวการเต้นจึงกระโดดน้อยกว่า
เพื่อนๆ เเละเรา ก่อนเข้างาน ปล.วิวสวยเนอะ

 ทั้งหมดก็เป็นกิจกรรมบางส่วนที่เราเข้าร่วม สำหรับเราความคิดที่ว่าไปเเลกเปลี่ยนเเล้วเสียเวลา เราว่าไม่จริง เพราะความลับของความไม่จริงอยู่ที่ประสบการณ์ที่ชาตินี้ใครก็ให้ไม่ได้นอกจากตัวเราไปรับมันด้วยตนเอง ซึ่งปัจจุบันทุนไปเเลกเปลี่ยนมีเยอะมากๆๆๆ เราไม่อยากให้ใครตัดสินบางอย่างทั้งที่ตัวเราเองไม่เคยได้สัมผัสด้วยตัวเอง ทุกวินาทีที่เราใช้ชีวิตบนโลกใบนี้ล้วนมีคุณค่าเเละความหมายเเละส่งผลต่ออนาคต ความคิด การกระทำ หรืออะไรบางอย่างของเราเเน่นอน ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เเละสู้เพื่อความฝันของเรา ใครจะว่าอะไรเราก็ช่างเขา เพราะอย่าให้น้ำลายราคาถูกมาทำลายความฝันราคาเเพงของเรา (จำเขามาอีกที) สู้ๆ นะ ใครมีความฝันอะไรสู้ไปด้วยกันอย่ายอมเเพ้เนอะ 

                          " nothing worth having comes easy ''

ดังนั้นจึงขอจบด้วย รูปชาไทยในเมกา 

555 ไม่ใช่เเละพิมพ์มาตั้งนาน


            โยนหมวกจบการศึกษา ข้อดีคือได้ภาพสวย ขอเสียคือพอโยนเสร็จต้องเดินหาหมวก 

                                           ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้เน้อ หวังว่าจะได้สาระเเละความสนุก

ติดตามเราได้นะ เรามีวีดีโอนึงอยากให้ดูมากคือเราได้ ชนะที่ 1 เเต่วีดีโอเราคนเห็นน้อยกว่าวีดีโอคนอื่น เราก็งงนะ
เเต่เราพยายามให้เห็นความทรงจำดีๆของเราลองเข้าไปติดตามได้น้า


เข้าไปดูเลย >>> 
https://youtu.be/ft5M_F2OcPY

ไปคุยกับเราในเพจได้นะ : เด็กไทยในอเมริกา

บ่น :
>> เราไปเเลกเปลี่ยนมาเมื่อสาม-สี่ปีก่อนเเต่พึ่งมีเวลาเลยมาตั้งกระทู้เผื่อเป็นประโยชน์กับคนที่สนใจ
>> กว่าจะหารูปเจอนี่เเบบหาๆอยู่ก็เกิดคำถามว่าเราหารูปอะไรนะ 555 
>> ลืมเล่าว่า ทุกวันใน1 เทอมเรียนเหมือนกันทุกวัน
>> เราชอบตรงที่งานPresentation ที่เราได้รับครูจะให้เราทำไปเลยอาทิตย์นึงในคาบนะไม่ใช่กลับมาทำบ้านไม่มีการให้งานทับซ้อน 

แสดงความคิดเห็น

>

11 ความคิดเห็น

44khwan 22 พ.ค. 61 เวลา 18:06 น. 1

ขอบคุณนะคะ(><) อ่านแล้วอยากไปแลกเปลี่ยนบ้างจัง แต่ภาษาอังกฤษเราไม่ค่อยดีT^T

1
Phatsaraphon 22 พ.ค. 61 เวลา 20:35 น. 1-1

เป็นกำลังใจให้น้า ถ้าอยากไปจริงลองพยายามกับมันดูเนอะ ชนะภาษาอังกฤษให้ได้ สู้ๆ

0
กบภ.สกร.กร.ทบ. 23 พ.ค. 61 เวลา 17:07 น. 2

โครงการฝนหลวงเกิดได้เพราะพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ประชาชนในประเทศไทยที่ประสบกับภาวะฝนแล้ง ก็ได้คลายจากความทุกข์

เพราะพระองค์ท่าน.....ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

Phatsaraphon 5 ก.ค. 61 เวลา 10:34 น. 4-1

พี่ไปกับโครงการ oeg จ้า สอบข้อเขียนก่อนเเล้วไปสัมภาษณ์ สามารถสอบถามรายละเอียดเรื่องการสมัครสอบกับทางพี่ๆoegเเต่ส่วนตัวโรงเรียนพี่ครูหมวดอังกฤษเป็นคนเเนะนำจ้า โครงการนี้มีทุนด้วยเเล้วก็มีให้เลือกไปได้หลายประเทศ. ปีพี่ข้อสอบoegจะเหมือนกับyfu เเต่ถ้าเป็นafsลักษณะข้อสอบจะเน้นไปทางศัพท์ เเกรมม่า. โจทย์อังกฤษเเต่ของoegปีพี่เน้นไปทางการฟังสังเกต. ส่วนการสัมภาษณ์ก็ต่างกันปีพี่ Afsสัม1คนต่อกรรมการ3คนเเละมีรอบเเสดงความสามารถเเละเเสดงรวมกับเพื่อนๆ Oegปีพี่ต้องไปเข้าค่ายสัมภาษณ์. yfuปีพี่สัมที่โรงเรียนที่สอบ เท่าที่รู้มาafsมีทุนเยอะน้าา สงสัยไรถามเพิ่มเติมหรือทักมาในเเชทลับก็ได้จ้า

0
Pongpang 7 พ.ย. 61 เวลา 04:08 น. 6

ประมาณกี่เดือนถึงปรับเรื่องภาษาได้คะ....คือมาที่นี่จะ3เดือนแล้วยังถูๆไถๆอยู่เลย

1
Phatsaraphon 17 พ.ย. 61 เวลา 20:17 น. 6-1

นานพอควรเลย ของพี่ประมาณ6 เดือนเลย ลองดูคลิปนี้ก็ได้น้าพี่เเชร์ประสบการณ์เรื่องเกี่ยวกับกว่าจะปรับภาษาได้ https://m.youtube.com/watch?v=9ik5nZ1EASQ. ยังไงๆก็ขอให้น้องสนุกเเละได้รับประสบการณ์ไปแลกเปลี่ยนอย่างเต็มที่นะ

0
qazplm 11 มิ.ย. 62 เวลา 20:28 น. 7

พี่คะมีคำถาม ค่าโครงการรวมทั้งหมดถึง5เเสนไหมคะ เเล้วมีเค้าค่ายที่ New York หรือซานฟราน เหมือนที่คนอื่นบอกกันไหมคะ ถ้ามีเราจ่ายเองหรือรวมค่าโครงการเเล้วคะ? ขอบคุณมากค่ะ

3
Phatsaraphon 30 ส.ค. 62 เวลา 22:12 น. 7-1

มันมีหลายราคาขึ้นกับวีซ่านะ ของโครงการที่พี่ไปถูกสุดเป็นวีซ่า J1 อยู่ได้ 10เดือนเลือกรัฐไม่ได้เริ่มต้น 800,000บาท ค่าเครื่องบินออกเองตังหากนะ เเต่บางโครงการเขามีทุนให้นะ มีทุนเต็มจำนวน หรือไม่ก็ช่วยจ่ายเล็กๆน้อยๆ  

ส่วนพอไปถึงเขาจะให้เราไปปฐมนิเทศก่อนที่Newyorkจ้า เเบบให้ทำกิจกรรมกับเพื่อนที่มาจากประเทศอื่นด้วยเเล้วก็พาทัวร์ เหมือนว่าค่าใช้จ่ายปฐมนิเทศจะรวมในที่เราจ่ายกับโครงการเเล้วนะ

0
lookpla 21 พ.ย. 62 เวลา 19:15 น. 7-2

ขอไลน์ ไอดีหรือเบอร์โทรหน่อยได้ไหมคะ

0
Phatsaraphon 7 ม.ค. 63 เวลา 15:45 น. 7-3

เข้ามาคุยกันในเพจ เด็กไทยในอเมริกา ได้น้า

0
Panyaphat171149 19 ต.ค. 62 เวลา 13:10 น. 8

ขอบคุณสำหรับกระทู้นี้นะค่ะ หนูก็อยากแลกเปลี่ยนเหมือนกันค่ะ แต่กลัวว่าไม่มีทุนฟรีค่ะคือไม่อยากให้พ่อแม่เสียเป็นแสน เอ่ออออมีใครพอทราบข้อมูลช่วยบอกหน่อยค่ะจะเป็นบุญมาก อิๆ 555+เวอร์ไปไหมเนี่ย

1
Phatsaraphon 7 ม.ค. 63 เวลา 15:44 น. 8-1

สมัยเราก็ไม่กี่ปีที่ผ่านมามันมีทุนเต็มจำนวนอยู่นะ เเต่ค่าใช้จ่ายส่วนตัวก็คงต้องจ่ายเองเเหละ ที่รู้ก็ oeg afs ถ้าเป็นafs ลองศึกษาดูนะ เพราะนี่เคยเจอรุ่นพี่ที่ฐานะทางบ้านไม่มีกำลังส่งไปแลกเปลี่ยนเเต่สามารถไปAFS แบบทุนขาดเเคลนคือไปประเทศเเทบเมกาใต้ได้

0
Phatsaraphon 10 พ.ค. 64 เวลา 14:12 น. 10-1

ได้นะ แล้วเเต่เราสนใจเลย อย่างเพื่อนหลายคนที่พี่รู้จักไม่ได้เล่นกีฬา แต่ว่าเค้าทำงานหลังเลิกเรียนแทน(เพื่อนต่างชาตินะไม่ใช่นักเรียนแลกเปลี่ยน) หรือบางคนไปทำกิจกรรมกับบางชมรมหลังเลิกเรียนแทน แต่สำหรับพี่ที่เล่นกีฬาไม่ค่อยเป็น พอได้ลองแล้วอาจเล่นไม่เก่งเหมือนคนอื่นแต่รู้สึกว่าใช้ชีวิตหลังเลิกเรียนคุ้มมาก เพราะถ้าไม่ได้เล่นกีฬาสำหรับพี่ก็คือกลับบ้านอย่างเดียวเลย อีกอย่างพอเล่นกีฬาเลยได้รู้จักเพื่อนมากขึ้นเยอะจริง ๆ เพราะเหมือนลำบาก อดทนกับการฝึกซ้อมมาด้วยกันจนเเบบสนิทกันไปเลยก็มี

0