แม่ซื้อบ้านใหม่ราคาเกือบ 8 ล้าน ทั้งที่บ้านเก่าก็ยังผ่อนไม่หมด และอีกไม่กี่เดือนผมก็ต้องขึ้นมหาลัย
ตั้งกระทู้ใหม่
เรื่องมีอยู่ว่าผมอยู่บ้านในหมู่บ้านแห่งนึง ซึ่งบ้านที่ผมอยู่นั้นราคา 3 ล้านกว่าๆ ซึ่งพ่อแม่ผมก็ผ่อนมาเกือบ 8 ปีแล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังผ่อนไม่หมด แล้วคราวนี้อยู่ดีๆแม่ก็มาบอกผมว่า แม่ซื้อบ้านใหม่นะ ราคาเกือบ 8 ล้าน ซึ่งตอนนั้นผมอึ้งไปเลยครับ ผมเลยถามคำถามกับแม่ว่าซื้อทำไม ผมอยากรู้เหตุผล แม่ก็ตอบว่า เขาอยากให้ตากับยายมาอยู่ด้วย เพราะท่านอยู่ไกล และไม่มีใครดูแล แม่เลยอยากเอาตากับยายมาอยู่ด้วยกัน ผมก็ยังสงสัยนะครับว่าบ้านที่อยู่ปัจจุบันก็ให้ตากับยายมาอยู่ได้ แต่ทำไมต้องซื้อบ้านใหม่ แค่ทำห้องใหม่ก็ได้ให้ท่านอยู่ก็ได้ ซึ่งบ้านที่ผมอยู่ปัจจุบัน ผมก็ว่ากว้างพอแล้วใหญ่พอแล้วนะครับ
เรื่องนี้พ่อผมยังไม่เห็นด้วยเลยครับ เพราะพ่อเป็นเสาหลักของบ้านด้วย พ่อผมเขาก็เครียดครับ
10 ความคิดเห็น
ก็ต้องดูเงินเดือนว่าผ่อนกี่ปี น่าจะผ่อนสามสิบปี แล้วกะให้เราผ่อนต่อ เรื่องนี้คุยในบ้าน ที่จริงต้องคุยกับพ่อนะ ว่าแม่ซื้อในชื่อใคร ทำไมไม่ปรึกษากะพ่อหรือคุยกันในบ้านก่อน
ในมุมกำลังซื้อเราคงไม่สามารถพูดได้ แต่อยากให้มองมุมนี้ค่ะ ว่าการซื้อบ้านหรือที่ดินไม่เหมือนซื้อรถหรือสินทรัพย์ทั่วไป เพราะมูลค่าของบ้านและที่ดินนั้นไม่สามารถลดลงจนเหลือศูนย์ และหลายๆ กรณีก็มีการปรับตัวขึ้นตามเงินเฟ้อ (และปัจจัยอื่นๆ) อีกด้วย
การซื้อบ้านในอีกมุมหนึ่งจึงเป็นการลงทุนระยะยาว
ดังนั้นถ้าในระยะสั้นครอบครัวไม่ได้มีปัญหา และมีการจัดแผนการเงินที่ดีแล้วก็ไม่ต้องกังวลมากค่ะ
บอกค่าใช้จ่ายที่มหาลัยให้พ่อแม่ทราบ ถ้าท่านโอเคไม่มีปัญหาก็จบ เรื่องซื้อบ้านเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เขาคงคิดดีแล้ว ถ้าไม่ไหวเขาจะซื้อทำไม
ถ้าซื้อแล้วก็ไม่ต้องคิดมากคับ ... เพราะเป็นหนี้อย่างสมบูรณ์แล้ว แต่มันมีองค์ประกอบอีกเยอะ เช่น ยอดกู้เท่าไหร่ ถ้ายอดกู้เต็ม ก็น่าคิด แต่ถ้าไม่เต็ม เช่น ขายบ้านเก่าแล้วเอาเงินที่ได้ไปดาวน์ ทำให้ยอดกู้ลดลง อันนี้ก็น่าจะทำให้ยอดผ่อนชำระลดลงอีกมาก คิดว่าพวกท่านคงจะคิดคำนวณไว้แล้วล่ะ
ตอนนี้ทำใจร่ม ๆ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี จะได้ช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายของคุณพ่อคุณแม่
ขอบคุณนะครับ ตอนนี้ที่ทำได้คือช่วยพ่อแม่ประหยัดครับ
วิถีชีวิตของคนขายประกัน ที่เจอมากับคนใกล้ตัว ขึ้นจุดสูงสุด และกลับมาอยู่จุดที่ตกต่ำที่สุด
ต้องตัังอยู่ในความไม่ประมาท ได้มากต้องเก็บออมมากที่สุดอย่าคิดว่าหาเงินได้มากแล้วจะได้แบบนี้ตลอดไป
การซื้อบ้าน 8 ล้านไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวลถ้าพ่อแม่มีการวางแผน การบริหารจัดการที่ดี คิดวิเคราะห์มาอย่างรอบคอบแล้ว
ทำงานหารายได้ส่งตัวเองค่ะ พ่อแม่ก็ให้ท่านจ่ายค่าบ้านไป ถือว่าเราทำงานเร็วได้ประโยชน์ด้วย พี่จะบอกน้องว่า คนที่มีประสบการณ์ในการทำงานก่อนจบปริญญาตรี มีโอกาสได้งานดีๆสูงกว่าคนที่ไม่มีประสบการณ์อะไรเลยมาก เวลาทำเรซูเม่ไปสมัครงานนี่มีประโยชน์สุดๆ เหตุผลที่เด็กจบใหม่ไม่มีงานนายจ้างไม่รับ หรือสตาร์ทเงินเดือนไม่สูง ก็เพราะไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน เพื่อนพี่ไปเรียน usa เด็กสิบห้าสิบหก ออกทำงานส่งตัวเองเรียนกันแล้วนะ เพราะงั้นมันไม่แปลกเลยที่จะส่งตัวเองเรียน แต่ควบคุมอารมณ์ให้ดี อย่าคิดมาก คิดในแง่บวก ถ้าเหนื่อยก็หาอะไรที่ชอบทำสลับๆ ขอให้น้องโชคดี
เรามองว่าเสี่ยงไปนะ บ้านเก่ายังผ่อนไม่หมด กลับหาภาระมาเพิ่ม แถมเป็นภาระก้อนโตซะด้วย ยิ่งใกล้ๆนี้จขกท.กำลังมีค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่พอควรกับการเรียนต่อมหาลัย ต้องมีเงินเก็บหลายล้านพอตัวถึงจะปลอดภัย เผื่อไว้สำหรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉินในเหตุไม่คาดฝันด้วย
และยิ่งช่วงนี้เศรษฐกิจกำลังแย่มากๆๆ ทำอะไรก็เสี่ยงลงทุนไปหมด บวกกับจขกท.บอกว่าพ่อแม่ใกล้เกษียณด้วย ภายในระยะเวลาไม่กี่ปีก่อนออกจากงาน เขาจะมีกำลังหาเงินก้อนได้ขนาดไหนกันเชียว
บอกตรงๆว่าถ้าเหตุผลซื้อบ้านมีเหตุผลอื่นประกอบด้วย ก็อาจจะพอเข้าใจ แต่ต้องการซื้อบ้านราคา 8 ล้าน ให้ตายายโดยเฉพาะ เราว่ามันสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ สู้เอาตายายมาอยู่บ้านเดียวกัน ยังดูแลเขาง่ายกว่า ยิ่งอายุเยอะกันด้วยแล้ว
เพิ่มเติมนะคะ คิดด้วยกับคห.บนๆ ถ้าซื้อไปแล้วก็ทำไรไม่ได้ เป็นหนี้แล้ว ปัจจุบันก็ประหยัดค่าใช้จ่ายช่วยครอบครัวไป และเงินสำหรับเรียนต่อมหาลัย ถ้าติดภาคอินเตอร์และอยู่หอ เซฟๆก็ตีไปว่าล้านนึง แต่ถ้าติดม.รัฐภาคปกติ ค่าใช้จ่ายจะถูกมาก ไม่น่าเดือดร้อนเท่าไร
จริงๆ เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับลูกเท่าไหร่นะ ถั่วว่าน้องอย่าไปเครียดเลย ถั่วว่าแม่ต้องคิดดีแล้วที่จะซื้อหลังใหม่ ส่วนเรื่องเรียนของน้องเค้ารู้อยู่แล้วว่าต้องทำยังไง
การที่แม่จะเอาตายายมาอยู่ด้วยเป็นสิ่งที่ดีนะ ถือว่าแม่เป็นลูกกตัญญูคนหนึ่ง น้องควรดีใจกับแม่
ส่วนเรื่องบ้าน ถั่วว่าแม่อาจจะหาวิธีขายหลังเก่าได้แล้วหรือเปล่า เลยอยากได้หลังใหม่
สมมติน้องเข้ามหาวิทยาลัยภาคอินเตอร์ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องไปอยู่หอนะ อยู่บ้านก็ได้ ไปกลับเอา ถึงมันจะเหนื่อย แต่ก็ประหยัดตังค์ไปเยอะนะ (พูดถึงกรณีอยู่หอคนเดียว ไม่มีรูมเมท)
อย่าเอาเรื่องแบบนี้มาเครียดเลยจ้า ตั้งใจเรียนเป็นสิ่งที่น้องทำได้ สู้ๆ นะ
อันที่จริงอยากให้ไปตั้งกระทู้ถามที่pantipน่าจะดีกว่า จะได้มุมมองของผู้ใหญ่ที่รู้เรื่องเกี่ยวกับบ้านและการเงินโดยเฉพาะ ที่dek-dส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยรุ่น-ผู้ใหญ่วัยทำงานหนุ่มสาว มองปัญหาอาจยังไม่เด็ดขาด
แต่ที่เห็นชัดเลยคือมันเกินตัวไป บ้านไม่ใช่การลงทุนค่ะ แต่ บ้านคือหนี้สินระยะยาว
บ้านจะยังไม่ใช่ทรัพย์สินของคุณ จนกว่าจะผ่อนบ้านหมด
ถ้ากู้ธนาคารมาซื้อ บ้านเป็นชื่อธนาคารนะคะ จนกว่าเราจะใช้หนี้ธนาคารหมดเหมือนกัน
ดูจากอายุแล้วมีโอกาสที่หนี้ผ่อนบ้านจะตกมาที่จขกท.สูงมาก
สำหรับเด็กจบใหม่มันเป็นปัญหาหนักมาก คุณจะถูกตรึงกับการใช้จ่าย และไม่มีอิสระในชีวิตเท่าที่ควร
จขกท.มีสิทธิ์ที่จะถามและรู้รายละเอียดนะคะ เพราะถ้าไม่รู้อะไรเลยนี่แหละปัญหาในอนาคต
จะกตัญญูก็ต้องใช้สมองคิด ทำเท่าที่เรามี ไม่ใช้ลำบากลูกหลาน
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?