ลูกอ้วนเขาว่าน่ารัก แต่กับมีความเสี่ยงที่คาดไม่ถึง!
สังคมไทยในปัจจุบันกำลังอยู่ในยุคที่ เรียกว่าบริโภคนิยม ที่กำลังมีอิทธิพลอย่างมากต่อวิถีชีวิตของผู้คน และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในทุกด้าน ทั้งกายและจิตใจต่อเด็กและเยาวชนที่จะเติบโตขึ้นไปในอนาคต
การบริโภคนิยมหมายถึงการใช้ชีวิตเกินความจำเป็น เกินฐานะและกำลัง ภาพรูปธรรมที่ปรากฏคือ ภาพของคนอ้วนเต็มสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่เขาเติบโตขึ้นจะเป็นผู้ใหญ่ที่มีปัญหาสุขภาพ
การที่เด็กอ้วนนั้นสาเหตุหลักเกิดจากรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้องตามหลักโภชนาการก็จริง แต่ความจริงแล้วปัจจัยแฝงที่ทำให้เด็กอ้วนก็คือผู้ปกครอง ที่มีทัศนคติที่ไม่ถูกต้องในด้านโภชนาการของเด็ก เช่น การพาลูกไปกินอาหารฟาสต์ฟู้ด การปล่อยปละละเลยและตามใจลูกในการกินขนมหรืออาหารที่ไม่มีประโยชน์มากเกินไป หรืออาจจะมีความรู้แต่ไม่สามารถฝืนใจลูกได้
ผู้ปกครองในหลายบ้านที่กำลังเลี้ยงเด็กเล็กมักจะกังวลกับความอ้วนของลูกหลาน ซึ่งในปัจจุบันภาวะอ้วนในเด็กมีเพิ่มขึ้น และภาวะอ้วนเหล่านั้น
ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเด็ก ๆ ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ หลอดเลือด และปัญหาเกี่ยวกับภาวะข้อและกระดูก ภาวะอ้วนในเด็กนั้น
ส่วนใหญ่เกิดจากการสร้างพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมให้กับเด็ก
ซึ่งพฤติกรรมที่ทำให้ ลูกอ้วน มีดังนี้
1. การส่งเสริมให้ลูกเป็นเด็กติดบ้าน ด้วยการปล่อยให้ลูกเล่นเกมทั้งวันโดยไม่ลุกไปไหน ทำให้ลูกไม่ได้เคลื่อนไหว ขาดการออกกำลัง
2. ติดสินบนลูกด้วยขนมหวาน ด้วยการบอกลูกว่าถ้ายอมทำการบ้าน จะได้ขนมหวานเป็นรางวัล
3. ให้ลูกกินขนมคบเขี้ยว โดยการยอมให้ลูกกินขนมระหว่างมื้ออาหารเพราะไม่เห็นความสำคัญของอาหารมื้อหลัก
4. ให้ลูกดื่มแต่น้ำหวาน ลูกไม่ชอบน้ำเปล่าจึงยอมให้ลูกดื่มน้ำหวาน ๆ ซึ่งมีส่วนประกอบ ของน้ำตาลสูง
5. ให้ลูกกินเค็มจัด หวานจัด ด้วยการให้ลูกกินแต่อาหารที่มีรสชาติอร่อยเท่านั้น ซึ่งอาจมีโซเดียมและน้ำตาลสูง
6. ให้ลูกกินแต่อาหารขยะ อาหารแปรรูป เพราะหาซื้อง่ายดี สะดวก และไม่ค่อยให้กินผักผลไม้สด หรืออาหารปรุงสุกใหม่
7. ไม่สนสัดส่วนอาหารที่เหมาะสม ด้วยการบังคับให้ลูกกินอาหารให้หมด โดยไม่สนว่าลูกกินอิ่มแล้ว
8. ไม่กินอาหารเช้ากับลูก เนื่องจากเร่งรีบ หรือกำลังยุ่ง เลยให้ลูกกินขนมหรือช็อกโกแลตแทน
9. ปล่อยให้ตัวเองอ้วน ซึ่งจากงานศึกษาในต่างประเทศ พบว่าเด็กที่มีพ่อแม่อ้วน จะมีโอกาสอ้วนมากถึง ร้อยละ 80
นอกจากนี้การที่เป็นโรคอ้วนนั้น มักจะนำโรคแทรกซ้อนต่างๆตามมาด้วย ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวต เช่น โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโฃหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคมะเร็งเ ป็นต้น
เมื่อรู้ถึงพฤติกรรมที่จะทำให้ลูกอ้วนและโรคที่จะเกิดตามมาแล้ว ก็ลองกลับไปสังเกตตนเองว่ามีพฤติกรรมไหนที่เราทำกับลูกแล้วเสี่ยงต่อการที่จะทำให้ลูกอ้วนบ้าง
ถ้ามีพฤติกรรมแบบที่กล่าวมานั้น คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง ควรหยุดพฤติกรรมดังกล่าว เพื่อสุขภาพที่ดีของลูก นอกจากนี้ก็ควรเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องของการเลือกรับประทานอาหารและการออกกำลังกายให้ลูก
เพราะหากเรายังมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะอ้วนแล้ว
ลูกจะมีการเลียนแบบได้ และจะทำให้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของลูกยากขึ้นไปอีก ที่สำคัญควรพาลูกออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน เพื่อให้เขาได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว และเป็นการสร้างความผูกผันกันในครอบครัว
แสดงความคิดเห็น