Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แชร์ประสบการณ์สอบติดหมอแบบไม่ง้อเรียนพิเศษ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีครับ พี่ชื่อมาร์คนะครับ หลังจากสอบเสร็จแล้วก็อยากเล่าประสบการณ์ที่ผ่านมาในการเตรียมตัวสอบให้น้อง ๆรุ่นต่อไปในแบบฉบับของเด็กเอกชนหัวกลางๆที่ไม่ได้เรียนพิเศษข้างนอก เผื่อน้องจะนำข้อคิดเล็กๆน้อยๆหรือทริคจากกระทู้นี้ไปใช้ได้บ้าง พี่จะเริ่มจากตอนเริ่มวางแผนการอ่านหนังสือ และแนะนำบทที่ควรต้องเน้นเป็นพิเศษสำหรับน้องที่มีเวลาเหลือไม่มาก
 
               อย่างที่บอกครับพี่ไม่ใช่เด็กติว ดังนั้นทริคต่าง ๆที่อยู่ในกระทู้นี้พี่ได้มาจากการอ่านเอง ฝึกทำโจทย์บ่อย ๆ จนได้เป็นวิธีลัดของตัวเอง จริง ๆแล้วพี่ออกจะเป็นเด็กกิจกรรมมากกว่า ที่โรงเรียนพี่เป็นสมาชิกวงดนตรีไทยและวงเครื่องสายสากล ก็เลยจะใช้เวลาส่วนหนึ่ง[ส่วนใหญ่ 55555] ซ้อมดนตรี ช่วงม.4 พี่ยังเรียนแบบสบายๆอยู่ คือตั้งใจเรียนในห้องกับทบทวนนิดหน่อย อีกอย่าง ความตั้งใจเดิมของพี่คือจะเป็นวิศวะ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้พี่เปลี่ยนใจมาสอบแพทย์ในช่วงขึ้นม.5 ช่วงต้นเทอมพี่ก็วางแผนการอ่านไว้ แล้วมาตั้งใจอ่านช่วงปิดเทอมขึ้นม.6 ในช่วงนั้นพี่แบ่งเวลาอ่านคร่าวๆคือเช้า บ่าย และกลางคืน โดยไล่เก็บเนื้อหาทีละวิชา และสลับวิชาท่องกับคำนวณ คือ เช้าคำนวณ บ่ายท่อง เย็นคำนวณ ประมาณนี้ครับ ช่วงกลางคืนพี่ก็ทบทวนที่อ่านมาทั้งหมด ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ครับ [ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับน้องด้วยนะว่าจะแบ่งเวลาการอ่านให้เหมาะสมกับตัวเองอย่างไร] พอเริ่มแม่นเนื้อหาแล้วก็ทำโจทย์ในหนังสือ [จะมาแนะนำหนังสือที่พี่อ่านในกระทู้ถัดๆไปนะครับ] โดยพี่จะเอาข้อที่ผิดมาดูว่าผิดตรงไหน [ตรงนี้สำคัญมากนะครับ  เพราะว่าเราจะได้รู้ข้อผิดพลาด และแก้ไขมันได้ ถ้าเจอโจทย์แบบเดียวกันอีกจะได้ไม่พลาด] ส่วนในช่วงที่พี่ไม่ได้อ่าน พี่ก็เล่นเปียโนไม่ก็เอากีต้าร์มาเล่นเพลินๆจะได้ไม่เครียดมาก พอเปิดเทอมพี่ก็เริ่มทำโจทย์เลย ไม่ว่าจะเป็นเอนท์เก่า โอเน็ต แกทแพท กสพท วิชาสามัญ TOEFL SAT BMAT พี่ทำหมดครับ [พี่ลงสอบรอบพอร์ทไว้ด้วย เลยต้องใช้คะแนนสอบทั้งสามตัว อันนี้พี่จะแยกไว้อีกกระทู้นะ] โดยเริ่มทำจากง่ายไปยาก ส่วนการแบ่งเวลาช่วงเปิดเทอม พี่ลดกิจกรรมลงและให้ความสำคัญกับการเรียนในห้องมากขึ้น แล้วก็พยายามเคลียร์การบ้านกับงานอื่นๆให้เสร็จที่โรงเรียน พอกลับบ้านจะได้มีเวลาทำโจทย์ ถ้าวันไหนมีเวลาเยอะก็ทำสองชุด วันไหนงานเยอะก็ทำชุดเดียว พอทำจนคล่องแล้วก็จับเวลาจริงครับ [พี่ขอเน้นนะครับว่าการจับเวลามีความสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้น้องบริหารเวลาการทำข้อสอบได้ดียิ่งขึ้นในสภาพที่กดดันหรือถูกบีบด้วยเวลา]พอช่วงหลังเดือนตุลาพี่ก็ตระเวนสอบพวกภาษาอังกฤษอย่างเดียว เลยแทบไม่มีเวลาดูวิชาอื่นก็เลยใช้เวลาว่างทบทวนกับทำโจทย์นิดหน่อย แล้วพอถึงเวลาสอบก็ไปสอบ

               ทั้งหมดนี้คือวิธีการอ่านและการจัดตารางเวลาคร่าวๆของพี่ครับ ต่อไปพี่จะแนะนำเนื้อหาแต่ละวิชาที่ควรเน้นหรือควรดูเป็นพิเศษถ้าน้องเหลือเวลาเตรียมตัวไม่มาก พี่จะไล่ทีละวิชาเลยนะครับ

คณิต
 
               เนื่องจากน้องจะเจอวิชานี้ทั้งใน ONET PAT1 PAT3 และวิชาสามัญ ฉะนั้นการเตรียมตัวสำหรับแต่ละสนามจะแตกต่างกันออกไป แต่ในส่วนนี้พี่จะพูดถึงภาพโดยรวมที่ข้อสอบนิยมนำมาออกนะครับ โดยเรื่องที่น้องควรเน้นเป็นพิเศษได้แก่ เรื่องเซต จำนวนจริง ฟังก์ชัน ตรีโกณมิติ สถิติ กับลำดับอนุกรม เนื่องจากมีสัดส่วนคะแนนค่อนข้างมาก รวมถึงน้องจะเจอหลายข้อที่นำเรื่องเหล่านี้ไปผสมกับเรื่องอื่นเช่น Expo-Log จำนวนเชิงซ้อน และความน่าจะเป็น พี่จึงอยากให้น้องเก็บเนื้อหาส่วนนี้และทำโจทย์ให้แม่นๆ นะครับ อีกอย่างที่พี่อยากจะเน้นคือ เรื่องการทดเลข น้องอาจจะเคยชินกับการใช้พื้นที่สำหรับทดเลขในแต่ละข้อค่อนข้างมาก แต่ในการสอบจริงไม่มีกระดาษทดให้นะ น้องต้องบริหารพื้นที่ว่างในข้อสอบให้ได้ อาจจะเริ่มจากตั้งลิมิตว่าจะใช้กระดาษไม่เกินหนึ่งหรือสองหน้า เป็นต้น แล้วค่อย ๆฝึกการคิดเลขในใจ เช่นบวกลบคูณหาร ถอดรูท กำลังสอง ตัดตัวแปร วิธีนี้จะทำให้น้องทำข้อสอบได้เร็วขึ้นครับ

 
ฟิสิกส์
 
               สำหรับวิชานี้ พี่อยากให้น้องเน้นเรื่องความเข้าใจมากกว่าการคำนวณ ในการทำโจทย์ฟิสิกส์ สิ่งที่สำคัญที่สุดอยู่ที่ตัวแปรกับสมการ หลังจากน้องได้สมการแล้ว น้องจะใช้แค่ความรู้ทางคณิตศาสตร์เพื่อหาคำตอบ พูดง่าย ๆคือ ถ้าน้องเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรแล้ว น้องจะสามารถตั้งสมการเพื่อหาคำตอบได้นั่นเองครับ สำหรับเรื่องที่ควรดูเป็นพิเศษคือ การเคลื่อนที่ [แบบแนวตรง แนวโค้ง และวงกลม] แรง กฎของนิวตัน สมดุล งานพลังงาน และไฟฟ้าสถิตกับกระแสตรงครับ อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญคือ ปริมาณครับ บางเรื่องน้องจะเจอปริมาณเวกเตอร์ซึ่งจะใช้วิธีคำนวณไม่เหมือนสเกลาร์ ฉะนั้นพี่อยากให้น้องระวังเรื่องทิศทางกับขนาดของปริมาณด้วยนะ


เคมี       
 
               ที่เน้น ๆเลยสำหรับส่วนทฤษฎีได้แก่ ตารางธาตุ สมบัติสารประกอบ อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี และเคมีอินทรีย์ครับ เรื่องที่พี่อยากให้น้องท่องไว้เลยคือตารางธาตุ โดยท่องควบคู่กับแนวโน้มต่าง ๆเช่นค่า IE EN EA E0 ความเป็นกรดเบส เป็นต้น เรื่องสมบัติสารประกอบ ให้น้องดูเรื่องคุณสมบัติของสารตามหมู่ และลักษณะเด่นของการทำปฏิกิริยาของสารบางชนิดว่ามีจุดเด่นอะไรบ้าง เช่นการละลายน้ำ ตะกอน หรือเกิดสีเกิดกลิ่น ส่วนเรื่องเคมีอินทรีย์ เนื้อหาค่อนข้างกว้าง แต่ที่สำคัญ ๆได้แก่เรื่องสารไฮโดรคาร์บอนกับหมู่ฟังก์ชันครับ ให้น้องทำโจทย์เรื่องนี้เยอะ ๆเลย สำหรับส่วนคำนวณ พี่อยากให้น้องดูเรื่องการเปลี่ยนหน่วยความเข้มข้นในเรื่องปริมาณสารสัมพันธ์ สมดุล และการคำนวณเรื่องกรดเบสครับ ที่ต้องมีระวังเรื่อง pH pOH ค่า K กับการแตกตัว  กรดเบสบางตัวแตกตัวได้มากกว่าหนึ่งครั้ง อย่าลืมนำมาพิจารณาเวลาคำนวณด้วยนะครับ

 

ชีวะ

               พี่ขอแยกเป็นกลุ่ม ๆตามนี้นะครับ
กลุ่มพื้นฐาน        ให้น้องดูเรื่องความแตกต่างระหว่าง prokaryotic กับ eukaryotic cell การแบ่งเซลล์
 
                          การลำเลียงสาร การหายใจแบบ aerobic และ anaerobicโดยเฉพาะเรื่องการหมักกรดแลกติก

กลุ่มคน               เรื่องระบบร่างกาย เน้นเรื่องระบบย่อยอาหาร ขับถ่าย [ไต] หมุนเวียนเลือด ภูมิคุ้มกัน ระบบประสาท                              และระบบสืบพันธุ์ เรื่อง homeostasis และฮอร์โมนกับความผิดปกติ

กลุ่มสัตว์             ดูพวกลักษณะเด่นแต่ละไฟลัม

กลุ่มพืช              เนื้อเยื่อ การจำแนกพืชใบเลี้ยงคู่ใบเลี้ยงเดี่ยว สังเคราะห์แสง ฮอร์โมน

นอกจากนั้นจะมีเรื่องพันธุศาสตร์ ประชากร กับวิวัฒนาการ ดูเรื่องการคำนวณการเปลี่ยนแปลงประชากรด้วยนะครับ
วิชานี้เนื้อหาค่อนข้างมาก พี่แนะนำให้น้องจำเป็นแผนภาพหรือ mind map จะง่ายกว่า เช่นกระบวนการสังเคราะห์แสง น้องลองฝึกวาดแล้วท่องตามนั้นเลยครับ ที่สำคัญอย่าลืมทำโจทย์เพิ่มด้วย โดยเฉพาะเรื่องพันธุศาสตร์ตั้งแต่การแบ่งเซลล์จนถึงพันธุศาสตร์โมเลกุลเลย รูปแบบค่อนข้างมาก ถ้าได้ฝึกโจทย์จะทำให้ชำนาญขึ้นครับ

 

ไทย
 
               โดยรวมวิชานี้ข้อสอบจะเน้นเรื่องหลักภาษากับการอ่าน โดยเรื่องหลักภาษาให้น้องดูตั้งแต่ชนิดของคำ คำสมาส สนธิ สำนวนสุภาษิต ชนิดของประโยค ส่วนการอ่านนี่จะเน้นไปทางบทความ คือจะมีบทความหรือข้อความ แล้วให้น้องตอบคำถามเช่น สรุปได้ว่าอย่างไร ผู้เขียนรู้สึกอย่างไร แล้วก็อาจจะถามถึงข้อมูลในบทความหรือข้อความ เรื่องนี้มีสัดส่วนในข้อสอบค่อนข้างมาก ถ้าทำในส่วนนี้ได้ดี รับรองว่าคะแนนดีแน่นอนครับ

 
สังคม

               เป็นอีกหนึ่งวิชาที่เนื้อหาครอบจักรวาล แต่ก็มีบางเรื่องที่ออกค่อนข้างจะประจำ พี่ขอแยกเป็นส่วนดังนี้ครับ [อย่างไรก็ตาม น้องควรติดตามข่าวสารในปัจจุบันด้วยนะครับ เพราะบางเรื่องอาจนำมาเป็นข้อสอบได้เหมือนกัน]
          ศาสนา เน้นศาสนาพุทธ  หลักธรรมคำสอน เรื่องนี้ท่องเฉพาะตัวที่เห็นบ่อย ๆพอครับ เช่นอริยสัจ 4 ขันธ์ 5 เบญจศีล เบญจธรรม ข้อสอบจะให้สถานการณ์มา แล้วให้วิเคราะห์ว่าสอดคล้องกับหลักธรรมใด ส่วนศาสนาคริสต์กับอิสลามจะเป็นเรื่องหลักธรรมคำสอนหรือข้อปฏิบัติเฉพาะ เช่น การถือศีลอด การสารภาพบาป  
 
               ประวัติศาสตร์ ให้น้องดูลักษณะสำคัญของยุคก่อนประวัติศาสตร์ พวกอารยธรรมต่าง ๆ และเหตุการณ์ที่สำคัญในแต่ละรัชสมัยในยุครัตนโกสินทร์ รวมถึงสงครามโลก โจทย์มักจะถามถึงผลกระทบของแต่ละสงคราม และองค์กรระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นหลังสงคราม           

นิติศาสตร์ ดูเรื่องกฎหมายแพ่งและอาญา การทำนิติกรรม โจทย์มักถามเรื่องอายุ เช่นการบรรลุนิติภาวะ การทำมรดกหรือพินัยกรรม จะมีถามเรื่องผู้สืบสันดาน ให้น้องดูเรื่องลำดับมาคร่าว ๆด้วยนะครับ ระบบการปกครองในปัจจุบัน เป็นต้น
 
               เศรษฐศาสตร์ ส่วนนี้จะอาศัยความเข้าใจประมาณหนึ่ง โจทย์จะให้เราวิเคราะห์จากข้อมูล ให้น้องดูเรื่องรูปแบบของตลาด เงินฝืดเงินเฟ้อ กลไกราคา ค่าเงินแข็ง-อ่อน นโยบายการเงินการคลังต่อวิกฤติเศรษฐกิจ และการค้าระหว่างประเทศ

               ภูมิศาสตร์ ที่ออกข้อสอบบ่อยมากเลยคือเรื่องเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ทิศทางภูมิศาสตร์ทั้งสาม และที่สำคัญคือเรื่องความร่วมมือต่าง ๆ น้องท่องไว้เลยครับ

อังกฤษ

               ที่ควรเน้นสำหรับวิชานี้คือเรื่องการอ่านครับ หลักการคล้าย ๆกับของภาษาไทยเลย เพียงแต่เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น พี่อยากให้น้องฝึกอ่านบทความภาษาอังกฤษครับ ค่อย ๆฝึกไปเรื่อย ๆ สิ่งที่จะได้เพิ่มคือคำศัพท์ และการใช้ภาษาสำหรับสื่อสาร [conversation] ส่วนเรื่องแกรมม่า ข้อสอบมักจะออกมาในรูป error identification มากกว่า ที่เจอบ่อย ๆคือ tense ผิด หรือบางวลีเป็นสำนวน น้องสามารถท่องได้จากหนังสือทั่วไปครับ

 

ทั้งหมดนี้คือเนื้อหาคร่าวๆที่น้องควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษนะครับ แต่อย่างไรก็ตามถ้าน้องมีเวลาก็ควรอ่านให้ได้ทั้งหมดนะ และที่สำคัญคือทำโจทย์บ่อยๆ แล้วแก้ข้อผิดพลาดไปเรื่อยๆ จะได้แม่นครับ

ถ้าน้องมีข้อสงสัยอื่น ๆ หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถถามมาได้เลยนะครับ ในกระทู้หน้าพี่จะมารีวิวสนามสอบแต่ละสนามที่พี่ไปสอบมาทั้งหมด รอติดตามนะครับ สุดท้ายนี้ขอให้น้องๆที่มีความตั้งใจประสบความสำเร็จและสมหวังในสิ่งที่ต้องการนะครับ สวัสดีครับ

 

ปล. พี่สอบติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รอบโควต้าเรียบร้อยแล้วครับ

ลิ้งค์ ep.02 นะครับ
https://www.dek-d.com/board/view/3857862/

แสดงความคิดเห็น

>

5 ความคิดเห็น

nakornmark 2 มิ.ย. 61 เวลา 19:38 น. 1-1

คร่าวๆก็ประมาณนี้ครับ

คณิต เซตของพี่นัฐ พี่ทำ 25พศ CRACK กับ VACCINE

ฟิสิกส์ พี่อ่านฟิสิกส์ขนมหวาน แล้วก็ทำโจทย์ในเล่มติดหมอ

เคมี เซตครูกุ็กครับ [มีวีดีโอสอนในยูทูปด้วยนะ]

ชีวะ เล่มเต่าทองกับปลาหมึก แล้วก็ทำโจทย์ของ Hi-ed ครับ

ไทย เรื่องเนื้อหาส่วนใหญ่พี่ค้นเป็นเรื่องๆในเน็ตนะ ส่วนโจทย์พี่ทำ davance ครับ

สังคม พี่อ่านของ tutorpoint แล้วก็ทำโจทย์ใน davance เหมือนกัน

อังกฤษ พี่อ่านtextของ TOEFL อย่างเดียวเลยครับ

0
Mmewphat 3 มิ.ย. 61 เวลา 14:57 น. 1-2

โจทย์ในเล่มติดหมอ หน้าปกเป็นยังไงคะ

0
deemko 4 มิ.ย. 61 เวลา 20:57 น. 5

โห...หนูนับถือพี่เลยคะ ที่จริงหนูเป็นคนที่เรียนพิเศษเยอะมากนะคะ แต่รู้สึกเหมื่อนไม่ได้อะไรเท่าไร เลยลองมาติว อ่านด้วยตัวเองดูแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง แต่มาเจอพี่พอดีเลย ^-^ ขอบคุณมากคะ!!!https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-11.png

0