Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิวใช้ชีวิตตามฝันนักเคมี วิทย์เคมี มข ภาค 2

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ในตอนนี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากภาคต่อ ของการตามฝันซึ่งต่อจากส่วนแรก https://www.dek-d.com/board/view/3818000/

หลังจากที่ผมได้ตั้งกระทู้แชร์ประสบการณ์ในครั้งแรกไปเมื่อหลายเดือนก่อน ครั้งนี้ก็เช่นเคยครับ ด้วยความปราถนาดีกับน้องๆ ม.6 ที่กำลังรอ TCAS และน้อง ม.6 ที่พึ่งเปิดเทอม

ปีสามเทอมสองที่แปลกๆ
      เปิดเทอมปีสามเทอมสองมาด้วยความมุ่งมั่นเพื่อที่จะก้าวต่อไป อะไรหลายๆอย่างก็เริ่มลงตัว เช่น ตัดสินใจได้แน่นอนแล้วว่าจะเรียนต่อที่ มข ในสาขาเคมีอนินทรีย์ รวมไปถึงการเลือกเรียนวิชาเลือกที่เป็นประโยชน์ในการทำโปรเจคนั่นเอง ตอนแรกผมคิดว่าชิวๆ ง่ายๆ เกร๋ๆอ่ะแกร การเรียนในปีสามเทอมสองนี้ทำให้แทบจะไม่เจอหน้าเพื่อนเลยยยย..... ไม่ใช่ผมไม่ได้เข้าเรียนนะ 555+ แต่เพราะมีวิชาบังคับที่ต้องเรียนแค่ไม่กี่ตัว อย่างวิชาภาคงงี้ ก็มีวิชา สเปคโตร ซึ่งเป็นวิชาที่อยากลองเรียนดูตั้งแต่ปีสองแล้ว วิชานี้ทำให้เราอ่านกราฟเป็นพีคๆ โง่ๆ (ก็ไม่โง่หรอก ยากสุดๆ) อ่านให้ได้ออกมาเป็นโครงสร้างสารประกอบอินทรีย์ (นักเคมีต้องอ่านพีคออกมาให้เป็นโครงสร้างได้นะเว้ย) แม้ว่ามันจะยาก แต่ในความยากยังแอบแฝงไปด้วยความท้าทายเบาๆสำหรับนักเคมีนะ ให้อารมณ์ประมาณว่า สารอะไรก็ไม่รู้กำลังให้เราสืบหาตัวของมันว่ามันเป็นใครกันแน่ (สารอะไรซักอย่าง : เอาสิ เธอจะรู้ตัวจริงของฉันมั้ยเอ่ยยยย) บางครั้งที่ผมเห็นพีค IR พีค H-NMR ก็มีทุ่มชีทบ้างด้วยความหัวร้อน 5555+ โดยวิชานี้จะแบ่งเป็นสามส่วนเช่นเคย ส่วนแรกคือการพิสูจน์เอกลักษณ์ด้วย UV-Visible  
IR  และ Mass spectro. ซึ่งพาร์ทนี้ง่ายมากกกกกกกกกกกก พาร์ทต่อมาเป็นคือ NMR (มีโปรตอนกับคาร์บอน-13) พาร์ทนี้เป็นพาร์ทที่ชวนให้หนักใจ แต่ก็ยังน้อยกว่าพาร์ทสุดท้าย มันเป็นการรวมเอาทุกอย่างมาอยู่ด้วยกันและยังมีเนื้อหาเพิ่มเติมของการพิสูจน์เอกลักษณ์แบบ 2D ผ่านวิชานี้มาด้วยแผลถลอกนิดหน่อย....อีกวิชาที่เป็นวิชาบังคับคือ Instrumental analysis ภาค 2 ในภาคสองนี้เปิดมาด้วยเคมีไฟฟ้าที่ อ. ก็ดุหน่อยๆ (ผมล้อเล่นครับอาจารย์) เป็นไฟฟ้าที่ไปขุดความรู้มาใช้ร่วมไปกับเนื้อหาใหม่ๆในทางเครื่องมือ คำที่ใช้มากที่สุดในวิชานี้คงไม่พ้นคำเหล่านี้ ---> Electrode, ศักย์ไฟฟ้า, ความเข้มข้น และมีอยู่สองคำที่เหมือนโดนสะกดจิตคือ Concentration Gradient และ Diffusion layer ถ้าเราเรียนวิชานี้เข้าใจ เราจะเข้าใจการตรวจวัดสารต่างทางไฟฟ้าเลยนะเออ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่นักเคมีพึงมี... สอบพาร์ทแรก คือตอนทำข้อสอบเครียดมากกก ทำไม่ได้ เว้นไว้เยอะมาก มีความเดากราฟด้วย คะแนนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ถือว่าได้เยอะแหล่ะ (หลบxีนเพื่อนแปป) สอบไฟฟ้าพาร์ทสองหนักกว่ารอบแรกอี๊กกกกกก 5555+ แต่ก็ไม่ได้เครียดกับการสอบมากมายขนาดนั้นเพราะบางทีการเรียนอะไรแบบนี้มาจะสนุกแบบแปลกๆ ลุ้นคะแนนเหมือนลุ้นหวย เรื่องต่อมาที่เรียนในวิชานี้คือเรื่อง Chromatography โดยแบ่งออกเป็นสองอันคือ HPLC ; High Performance Liquid Chromatography และ GC ; Gas Chromatography เห้ยยยยเปิดมาพาร์ทแรกด้วยความเรียนไม่เข้าใจใน HPLC เพราะเข้าเรียนสายตลอด 5555+ (ห้ามลอกเลียนแบบนะครับ) แต่เรียนๆไปก็กลับมาเข้าใจซะงั้น มันไม่ใช่สิ่งที่ยากมาก เป็นความเข้าใจว่าสารจะแยกออกจากกันได้ยังไง แล้วอาจารย์ก็ปิดคลอสไปด้วยการเล่าประสบการณ์การไปเรียนต่อที่ต่างประเทศให้ฟัง แล้วอาจารย์ก็มีแอบแกล้งนักศึกษาด้วย เป็นการแกล้งที่ทำให้เราเข้าใจในเนื้อหาชัดเจนยิ่งขึ้นทำให้เรียนพาร์ทนี้ด้วยความสนุกและตื่นเต้นเบาๆ ต่อมาเรียน GC คล้ายๆกันกับ HPLC เลยแต่ GC เป็นการแยกในสถานะแก๊สแต่ HPLC เป็นการแยกในสถานะของเหลวตามชื่อครับ อาจารย์ที่สอน GC ท่านจะมีสไตล์การพูดเป็นของตัวเองมากๆ 5555+ เหมือนเราเรียนกับ เลขานุการเชียร์ (กลัวอาจารย์มาอ่านจัง) แต่ อ. สอนเข้าใจนะเออ ย้ำตรงที่สำคัญ ผ่านพาร์ทนี้ไปแบบดีงามมากกกก.......เมื่อมีวิชาเลคเชอร์แล้วก็ต้องมีแลปตามมาเหมือนทุกครั้ง แลปแรกที่เจอเลยคือ Photoluminescent ต่อมาก็เป็น Atomic Absorption ต่อด้วย UV-Visible มี Ion Exchange ด้วยยยยย แลปนี้เลยยยยยย โดนอาจารย์แกล้งให้ไทเทรตไปเรื่อยๆ 555+ จริงๆอาจารย์อยากให้เรารู้เอง สังเกตผลแลปเองเลยให้เราไทเทรตไป ถือเป็นเรื่องขำๆ เฮฮาในแลปมากกก หลังๆก็มีแลปไฟฟ้าเคมีเขียนผลแลปอย่างมันส์ ครั้งแรกภูมิใจมากส่งผลแลปแล้วไม่โดนแก้ หลังจากแลปนั้นไปไม่ต้องพูดถึง นอกจากนั้นแน่นอนว่าต้องมีแลป HPLC และ GC เครื่องมืออย่างหรูและแพงมากกกกกกก  ..... วิชาศึกษาทั่วไปเทอมนี้มีตัวนึงคือ การคิดเชิงสร้างสรรค์ ได้ทำโครงงานโดยให้คิดของเล่นแหล่ะ แต่ละคนในกลุ่มนี่มองหน้ากันด้วยความคิดสร้างสรรค์ติดลบ ศิลปะก็แย่อีก กว่าจะคิดงานออกก็นาน พอเริ่มทำก็แก้แบบทุกวัน เป็นการทำงานก่อนสงกรานต์ที่ส่งหลังสงกรานต์ ก็ดีเหมือนกันผมไม่ค่อยคิดอะไรสร้างสรรค์มานานแล้ว (เอ้าาา มือลั่น) .......
     มาดูวิชาเลือกภาคที่เคยพูดไปแล้วดีกว่าาาาาาา เริ่มต้นที่ Supramolecular Chemistry ซึ่งเป็นวิชาสายเคมีอนินทรีย์ที่คิดจะขอให้อาจารย์เปิดสอน แล้วมันก็เปิดได้จริงๆเว้ย ส่วนมันจะเรียนยังไงน่ะหรอ ตามชื่อมันเลยยยยยยคือ เคมีของโมเลกุลขนาดใหญ่ จะเรียนการจับกันของโมเลกุลต่างๆด้วยอันตรกริยา(Interaction) ต่างๆ วิชานี้อาจารย์คนที่สอนค่อนข้างดุ แต่พอไปเรียนจริงๆแล้วก็ไม่ค่อยดุเลย เรียนสนุกด้วยทำให้รู้จักกับโมเลกุลที่เค้าใช้ไปจับโมเลกุลอื่น การเรียนวิชานี้เริ่มต้นด้วยความหวังว่าความรู้ที่ได้จะถูกนำไปใช้โปรเจคหรือแลปที่ตัวเองทำ แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ อิอิ (สำหรับน้องๆที่มีโอกาสได้มาอ่าน พี่แนะนำวิชานี้).......ต่อด้วยวิชาสายเคมีอนินทรีย์เช่นกันคือ Advance Inorganic Chemistry แอดวานซ์ตามชื่อเลยครับวิชานี้ พาร์ทแรกเรียนพวกการโคออร์ดิเนชันของโลหะกับลิแกนด์ลึกมากพอตัว พาร์ทที่สองเรียน Bioinorganic หรือก็เคมีเคมีอนินทรีย์ในทางชีวภาพ ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกถึงฮีโมโกลบินที่มีเหล็กเป็นองค์ประกอบ พาร์ทที่ 3 คือสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เรียนมันคือ เคมีของโลหะแลนทาไนด์ แอคทีไนด์ เหมือนจะยากแต่มันไม่ยากเลยเว้ยยยยย และพาร์ทสุดท้ายเป็นวัสดุนาโน เนื้อหาแบบไม่ถนัดเลยยย แต่ภาพรวมวิชานี้ก็สนุกดีได้ความรู้ไปใช้ต่อด้วยเยอะเลยยยยย และมาถึงตัวสุดท้ายของสายเคมีอนินทรีย์คือ วิชา"หัวข้อที่เลือกสรรทางเคมีอนินทรีย์" เป็นวิชาที่ให้อะไรเยอะมากอยู่ วิชานี้ทำให้เรารู้ว่าตอนนี้ในสายนี้เค้าทำอะไรกันอยู่ ทำยังไง แล้วมันเป็นยังไงบ้าง ก่อนที่จะผ่านอนินทรีย์ต้องกล่าวถึงการอ่านงานวิจัยนานาชาติรัวๆ เพราะงานที่อาจารย์สั่งนั้นต้องสืบค้นงานเป็นจำนวนมาก ซึ้นล้วนแต่ฝึกให้เรามีความชำนาญเพื่อไปใช้ต่อในวิชาสัมมนาในปี 4 เทอมหนึ่งนั่นเอง ถ้าอยากเรียนรู้การสืบค้นและการนำเสนอเเนะนำสายอนินทรีย์เลยครับ 555+ (ขายของอีกละ) มาเจอเคมีเชิงฟิสิกส์บ้าง ผมลงไปตัวหนึ่งนั่นคือ Surface Chem. หรือเคมีพื้นผิว นั่นเองตามชื่อเลยครับ เรียนพวกสารลดแรงตึงผิว การเกิดไมเซล (น้องมาอ่านต้องงงชัวร์) เอาเป็นว่าเรียนแล้วอธิบายการทำงานของสบู่ ผงซักฟอกได้ เรียนแล้วไปเล่าให้แม่ฟังตอนแม่ซักผ้าดูนะ อิอิ เอ้ออออ จริงสิวิชานี้เรียน 8 โมงนะ หึหึหึหึ...... 
.
.

พอเรื่องเครียดๆมาดูเรื่องกิจกรรมบ้างดีกว่า เช่นเคยเหมือนปีก่อนๆ เปิดมาก็เจอกีฬาสีโดยผู้จัดคือน้องปีสองนั่นเอง สนุกมากๆ เป็นพี่แรกที่ผมได้ไปดึงเชือกชักคะเย่อ เหนื่อยมาก มันจะมีสีนึงเว้ยใช้มวลเข้าสู้ ก็ชนะไป 555+ สู้สีนั้นไม่ได้เลย ขบวนของแต่ละสีก็นำมาโดยน้องปีหนึ่ง คนที่ไม่คิดว่าจะแต่งตัวแบบนั้นก็แต่ง ถ้าเป็นน้องคนนั้นต้องพูดว่า "น่าอายมากเลย" ชัวร์!!! หรือไม่ก็ "น่าเกลียดมากเลย" แหงๆ (ถ้าน้องได้มาอ่านก็อย่าพึ่งโกรธพี่นะ รักหรอกถึงหยอกเล่น จุ้บ") ต่อมาเข้าเดือนเมษาก็มาเจอกับเทศกาลสงกรานต์ภาคเคมี คือแบบ...... ไม่คิดเลยว่าจะโดนน้องปีหนึ่งแกล้ง คือโดนอุ้มอ่าาาาา แล้วลากไปจับกดกลางสนามหญ้า - -* เละสิครับคุณ ผ่านเมษาไปแบบรวดเร็วแบบไม่ทันตั้งตัว ก็ผ่านพ้นไฟนอลไป เริ่มการเดินทางสู่จังหวัดสกลนครด้วยโครงการ ค่ายเคมีครั้งที่ 20 โดยกิจกรรมนี้ถูกเตรียมขึ้นตั้งแต่จบค่ายเคมีครั้งที่ 19 โดยปี 3 เป็นแกนนำ การเตรียมค่ายวันแรก วันที่ 25 พ.ค. เดินทางออกจากคณะวิทย์สู่โรงเรียนหนองหลวงศึกษา อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร โดยวันแรกเราได้ไปเตรียมสถานที่ทำค่าย และเตรียมการเฉลิมฉลอง 2 ทศวรรษ ค่ายเคมี ด้วยการทำตารางธาตุที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดสกลนครนั่นเอง ผมได้ไปปีนนั่งร้านซึ่งชีวิตนี้ยังไม่เคยปีนมาก่อนเลย ขึ้นไปชั้นบนสุดครั้งแรกสั่นมากกกก กว่าจะหาทางลงมาได้ 555+ วันแรกเราต้องขัดผนังเพื่อเอาสีเก่าออกก่อน เหนื่อยมากกกกกกจนกินข้าวเย็นไม่อร่อย วันต่อๆมาก็เริ่มลงสี จนกระทั่งวันค่ายมาถึง วันที่น้องค่ายมาถึงโรงเรียนหนองหลวง ผมก็ได้ผันตัวกลับไปสู่ฝ่ายเดิมนั่นคือฝ่ายวิชาการโดยผมได้เป็นหัวหน้าวิชาโครงสร้างอะตอม การสอนครั้งแรกในค่ายนี้ก็สนุกเหมือนครั้งก่อน ที่แตกต่างจากค่ายก่อนคือ สอนรู้เรื่องกว่าค่ายที่แล้ว แต่สอนดุกว่าค่ายที่แล้ว ในสวนของตอนเย็นแต่ละวันนั้นจะมีการติว น้องปีหนึ่งบางคนก็โดนดุบ้างเหมือนกัน (พี่ไม่ได้ดุขนาดนั้นซะหน่อย) และอีกกิจกรรมที่สำคัญมากๆเลยคือร้องเพลงค่ายร่วมกันนั่นเองเป็นยังไงนั้นต้องไปสัมผัสเองนะ อิอิ จนตอนนี้ที่ได้นั่งพิมพ์กระทู้นี้ขึ้นมาก็ได้จบค่ายลงแล้วววววด้วยความสำเร็จ ความสนุกและความผูกพัน สำหรับค่ายนี้คำกล่าวที่ว่า "ค่ายสร้างคน คนสร้างค่าย ค่ายสร้างคู่" ก็ยังเป็นจริงอยู่เช่น น้องเทคๆผมเอง ตอนแรกก็คิดว่าน้องไปทำอะไรแถวๆโต๊ะทะเบียนกับฝ่ายพยาบาลจนวันเกือบจบค่ายเท่านั้นแหล่ะ หึหึหึ....หมั่นไส้!! ส่วนตัวผมนั้นสร้างคู่มั้ย ก็คงไม่หรอก แต่มันทำให้เรากับคนที่(แอบมั้ง)ชอบอยู่ได้อยู่ด้วยกันเฉยๆ อิอิ

.
.
.
.

แม้ว่าเทอมนี้จะเรียนหนักบ้าง
......สิ่งที่รู้สึกว่าเปลี่ยนไปมากสำหรับชีวิตปีสามคือ ทักษะภาษาอังกฤษที่สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดเนื่องจากการอื่นงานวิจัย แต่ทุกอย่างก็ผ่านมาได้ด้วยดีมากพร้อมๆกับประสบการณ์ใหม่ๆ ประสบการณ์สอบแบบมาราธอน การเป็นพี่ใหญ่ในค่าย การเป็นพี่ค่ายครั้งสุดท้ายของค่ายเคมี การเป็นหัวหน้าวิชาที่ใช้ทั้งเพื่อนทั้งน้องช่วยทำงานเยอะมาก การทำตารางธาตุ การค้นงานนานาชาติ ทุกอย่างล้วนเป็นการฝึกฝนให้เราเป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพและเป็นไปตามลักษณะที่พึงมี ที่ขาดไม่ได้เลยทุกๆอย่างล้วนทำให้เรากลายเป็นนักเคมีอย่างที่เราฝันไว้

#ขออนุญาตแนบรู้ภาพจากโครงการค่ายเคมีครั้งที่ 20 สาขาวิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น


เพจค่าย : https://www.facebook.com/CHEM-CAMP-20-381018542369487/

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น