Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[เล่าประสบการณ์] เอาตัวรอด PAT4 150+ (เตรียมตัวแค่สองวัน!!)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีครับ พอดีว่าช่วงนี้ว่าง อยู่ในระหว่างรอดำเนินการกับทางมหาวิทยาลัย จึงอยากมาแชร์ประสบการณ์การสอบ PAT4 ให้ได้ 150+ กันครับ
ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกก่อนเลยครับว่ายังหาสิ่งที่อยากเรียนจริง ๆ ไม่เจอ เลยลองสอบ PAT4 เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ เพราะว่าส่วนตัวก็เห็นว่าพวกสถาปัตย์ก็น่าสนใจดี แต่ด้วยเพราะไม่ได้พุ่งเป้ามาทางนี้ตรง ๆ เลยไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก แต่ด้วยที่ว่า PAT4 เขาสอบไม่เหมือนเพื่อนเพราะต้องวาดรูปด้วยเลยมาศึกษาเกี่ยวกับวิธีการทำข้อสอบ (ซึ่งอีก 2 วันจะสอบ) ในปี 61 สัดส่วนคะแนนจะแบ่งเป็นข้อกา 90 คะแนน และวาดรูปอีก 210 คะแนน ( วาดรูปตาม Pattern สองข้อ ข้อละ 30 คะแนน - วาดโลโก้ 4 ข้อ ข้อละ 15 คะแนน - วาด Perspective หนึ่งข้อ 60 คะแนน และ วาด Isometric หนึ่งข้อ 3 คะแนน)
เท่าที่จำไม่ผิดข้อสอบจะแบ่งเป็น 5 ส่วน ส่วนแรกเป็นข้อกากบาทเกี่ยวกับความรู้ทางฟิสิกส์กับสถาปัตย์ทั่วไป ฟิสิกส์มีแค่ไม่กี่ข้อเองครับ เป็นแบบง่าย ๆ ส่วนมากเดาคำตอบได้เลยครับ ไม่ต้องคิดให้เสียเวลา (แต่ถ้ากลัวพลาดก็คิดเผื่อก็ได้) พวกนับลูกบาศก์ที่หายไปนี่เทคนิคใครเทคนิคมันเลยครับ แต่ส่วนมากผมมักใช้วิธีคิดลูกบาศก์เต็มก่อนแล้วค่อยลบลูกบาศก์ที่หายไป เช่น ลูกบาศก์ขนาด 4x5x5 แสดงว่ามีลูกบาศก์ทั้งหมด 100 ลูกบาศก์ แล้วค่อยลบลูกบาศก์ที่หายไปเหลือ 56 ลูกบาศก์ อะไรทำนองนี้ครับ ส่วนที่ 2 - 5 นั้นวาดรูปหมดเลยยยยย มาเจอกันกับการวาดรูปในส่วนแรก เขาจะมีช่องประหลาด ๆ มาให้ฝนระบายเป็นรูปตามที่เขาสั่ง (ต้องวาด 2 รูปที่สื่อความหมายเดียวกัน) หัวข้อในปี 61 นี้คือ " ยื่นแก้วให้วานร " ซึ่งถือว่าคล้าย ๆ กับของปีที่แล้วในหัวข้อ " ลิงตกต้นไม้ " คนที่ศึกษามาก่อนก็จะค่อนข้างสบายครับ ลิงเหมือนกัน55555 ผมก็เริ่มจากร่างคร่าว ๆ พอเห็นภาพแล้วค่อยแรเงาครับ ตอนแรเงาผมใช้ดินสอไม้ 2B ครับ แต่มันมีเสียง แกร่กๆๆ เลยเกรงใจคนข้าง ๆ เลยเปลี่ยนเป็นดินสอกดแทนครับ 5555 ตอนแรเงาพยายามแรเงาจากอ่อนก่อนแล้วค่อยเข้มนะครับ เพราะถ้าลบทีนึงนี่เลอะเลย รูปแรกผ่านไปด้วยความมั่นใจมากครับ และออกมาดูดีมาก55555 แต่อย่างที่เขาว่างานดีมีได้ครั้งเดียว รูปที่สองแรเงาไม่ออกครับ มองไม่เห็นภาพเลย555 ก็เลยทำไว้ประมาณ 70% แล้วไปทำในส่วนถัดไป ส่วนต่อมาเป็นการออกแบบโลโก้โรงพยาบาลสัตว์ครับ ตอนอ่านหัวข้อครั้งแรกอึ้งไปเลยครับ เพราะวาดสัตว์ไม่เป็นนนนน เขามีช่องเล็ก ๆ ให้ 4 ช่องครับ สองช่องแรกมีแค่วงกลมจุดนึง เลยแปลงเป็นไหมพรมที่แมวเล่น กับรถพยาบาลสัตว์ครับ5555 อีกสองช่องที่เหลือเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็ก ๆ คล้ายไม้กระบองครับ สองรูปนี่แหละที่คิดไม่ออก5555 คิดไม่ออกก็รออะไร ข้ามครับ ข้ามมาเจอกับ Perspective หัวข้อปีนี้ง่ายมากครับ ถ้าเทียบกับปีที่แล้ว (ปีที่แล้ววาดวัง ปีนี้วาดทะเล) เห็นว่าพาร์ทนี้วาดรูปนานเลยข้ามไปทำส่วนสุดท้ายคือ Isometric คือจะมีมุมมองต่าง ๆ ให้มาแล้วให้เราวาดเป็น 3 มิติพร้อมแรเงา ดูเผิน ๆ อาจจะง่ายครับแต่พอลองทำดูไปไม่เป็นเลยครับ กลายเป็นว่า Iso ยากกว่าวาดตีฟ (สำหรับผมนะ555) เลยกลับมาตายรังที่ Perspective ที่ให้วาดชายทะเล ภาพวาดในวัยเด็กผุดขึ้นมาเลยครับ5555 แต่ส่วนของตีฟนี้เขาให้เน้นรายละเอียดที่เขากำหนดมาให้ คือ เขาจะบรรยายว่าที่นี่มีอันนั้น อันนี้ เราก็ต้องวาดให้ครบครับแล้วค่อยมาตกแต่งหรือใส่รายละเอียดอื่น ๆ เท่าที่จำได้โจทย์บอกว่ามีต้นไม้นานาชนิด เลยจัดโกงกางไปเลยครับ5555 ต้นไม้หนาร่มรื่นตาสุด ๆ คนก็วาดเล็ก ๆ ดำ ๆ พอให้รู้ว่าเป็นคนก็พอละ พอวาดตีฟเสร็จก็มาตรวจสอบสิ่งที่คั่งค้าง (เหลือเวลาอีกประมาณ 30 นาที) ก็เหลือรูปวานรนิดหน่อย โลโก้ 2 รูป แล้วก็ Iso ที่ว่างเปล่า ตอนนั้นคือสติต้องมาครับไม่งั้นวาดไม่ออก นั่งคิดเลยครับว่าจะทำยังไงต่อไปดี สุดท้ายเลือกทำโลโก้ก่อนครับ เพราะมี 4 รูป รูปละ 15 คะแนน รวมก็เป็น 60 คะแนน ส่วน Iso นั้นถ้าคนที่ถนัดก็ถือว่าเป็นข้อเก็บคะแนนเลยครับ ( 30 คะแนน) ในระหว่างนั้นก็วนข้อวานรกับตีฟไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเหลือ 5 นาทีสุดท้าย ในนาทีนั้นคือเท Iso เลยครับ เพราะไม่ทันแล้วจริง ๆ แถมโลโก้ก็ยังวาดไม่ออกเลยใช้เฮือกสุดท้ายวาดอะไรก็ไม่รู้ไปครับ55555 ยึดคติที่ว่าไม่ควรเว้นว่าง แต่อย่างน้อยก็ขอให้มีอะไรที่มันสอดคล้องกับโจทย์ที่เขาให้มา จนกระทั่งหมดเวลา พอดีว่านั่งหน้าสุดครับ ตอนเก็บข้อสอบผมเลยโดนเก็บคนแรก แล้วประเด็นคือกระดาษคำตอบบางแผ่นมันใช้ 2 ด้านไงครับ ตอนเก็บไปนี่เห็นเลยครับว่าพาร์ทสุดท้าย ( Iso ) ผมไม่ได้ทำ โล่งเลยครับ5555 บวกกับโลโก้ที่วาดอะไรไปก็ไม่รู้ แอบอายคนเก็บข้อสอบกับคนในห้องเหมือนกันครับ5555 สุดท้ายก็ถือว่าการสอบผ่านไปได้ค่อนข้างดีครับ
วันคะแนนออกผมได้ 162 คะแนนครับ ถือว่าดีสำหรับผมเลยครับสำหรับการเตรียมตัวแค่ไม่กี่วัน สิ่งที่ผมได้จากการสอบครั้งนี้คือ " ความมั่นใจ " ครับ ไม่ใช่มั่นใจตอนคะแนนออกนะครับ แต่เป็นความมั่นใจในขณะสอบครับ ถึงผมอาจจะไม่ได้เตรียมตัวเยอะมาก แต่ก็พกความมั่นใจไปค่อนข้างมาก และถ้าไม่อยากผิดหวัง เราก็ไม่ต้องหวังครับ บางครั้งเวลาสอบมันอาจจะกดดันและเครียด แต่ความกดดันและความเครียดนี่แหละครับที่จะลดประสิทธิภาพในการทำข้อสอบของเราลง ยังไงเองผมก็เป็นกำลังใจให้คนที่จะสอบหรือสอบไปแล้วด้วยนะครับ ^_^


Ps. ตอนนี้เล็ง ๆ ภูมิสภาปัตย์ฯ จุฬาฯ อยู่ครับ

แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

สู้เขาเราทำด้ายย 19 มิ.ย. 61 เวลา 19:16 น. 2

เล็งที่เดียวกันกับจขกท.เลย แต่ทางเราเน้นจริงจังกับแพท4มากเพราะคะแนนวิชาการอยู่กลางๆสู้ชาวบ้านไม่ค่อยได้ YvY


แต่ตีฟปีนี้เทียบกับแก่อนได้เลยค่ะว่าง่ายลงมาก เปิดทวิตย้อนหลังข้อสอบเก่านี่เจอวังอัดหน้าเลย


สำหรับเราเองก็ถือว่าน่าพอใจค่ะได้มา 200+ ^_^

0
pachunpeum 12 ม.ค. 62 เวลา 11:47 น. 3

ขอบคุณที่มาแบ่งปันประสบการณ์ดีๆนะคะ เราไม่เคยสอบpat4มาก่อนเลยย ต้องพกความมั่นใจเหมือนจขกท.บ้างแล้วววววhttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-big-09.png

0
FLOKEDS 9 มิ.ย. 62 เวลา 21:26 น. 4

ขอบคุณพี่มากจริงๆครับผมติดสถาปัตย์ จุฬาแล้วครับ ถ้าไม่อ่านกระทู้นี้คงทำpat4ไม่ได้ใน2วันแน่ๆ

0