โรคกระดูกสันหลังคด ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
ตั้งกระทู้ใหม่
ก่อนอื่นเริ่มที่ ประมาณปลายเดือนปีที่แล้ว เพื่อนทักว่า ทำไมสะโพกไม่เท่ากัน เราก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก ช่วงแรก ๆ เพราะว่าเพื่อนชอบทักแบบนี้มาตั้งแต่ม.ต้นแล้ว(ตอนนี้เราม.6) แต่ครั้งนี้เราเริ่มบ่นให้แม่ฟังว่า แม่เพื่อนชอบมักว่าสะโพกไม่เท่ากัน แม่เราเลยเอ๊ะใจ ว่าทำไมบ่นบ่อยจัง แม่เลยไปปรึกษานักกายภาพ เราเลยมาตรวจ ซึ่งผลที่ออกมาคือ กระดูกสันหลังคด คดเป็นตัว c ยังไม่ถึงตัว s นักกายภาพ พี่เขาก็บอกว่า ทำกายภาพไปเรื่อย ๆ ก็สามารถกลับมาตรงได้ เราก็ทำค่ะ เพราะว่าช่วงนั้นเอาตรง ๆ คือ ช็อก ไม่คิดว่าจะเป็น เราก็ทำได้ประมาณเดือนกว่า ๆ พี่นักกายภาพก็บอกเราว่าให้ไปทำเสริมส้น กายอุปกรณ์อะค่ะ เพื่อนที่ว่าจะทำให้สะโพกกลับมาเท่ากัน ขาเราไม่เท่ากัน ห่างกันประมาณ 2.5 ซม. เราก็เลยมาทำกับอีก รพ.หนึ่ง แต่ว่านักกายภาพที่นี้เขาบอกว่า ถ้าทำเสริมส้นอีกจะเป็นการไปดันให้กระดูกสันหลังคดมากกว่าเดิม อื้ม เราก็เชื่อ เขาบอกว่าให้ใส่เสื้อเกราะ เพื่อที่จะดันกระดูกให้มันเขา เหมือนว่านักกายภาพแต่ละรพ.ที่เราไปตรวจเขาโฟกัสคนละจุด รพ.แรกที่ตรวจคือโฟกัสที่ ทำยังไงให้สะโพกเท่ากัน แต่อีกรพ.หนึ่งคือ โฟกัสที่กระดูกข้างใน โอเคเราเชื่อรพ.หลัง เพราะว่าถ้ากระดูกมันตรงมันก็จะดันลงมาทำให้สะโพกเรากลับมาตรง เขาเลยให้เราทำเสื้อเกราะ เราก็ทำ ใส่มาจนถึงปัจจุบัน(ประมาณ6เดือน) หลังซัมเมอร์สักพัก เกราะเรามีปัญหาเลยให้เขาปรับแก้ให้นิดหนึ่ง พอมาสักพักเราเริ่มมือขวาชา แม่เลยพาเรามาตรวจที่รพ.ศรี ที่ขอนแก่น ซึ่งผลสรุปนะค่ะ คือ 1.หลังคดที่เราเป็นไม่เกี่ยวกับอาการมือชา เพราะว่า เสื้อเกราะ ของเราไม่ได้เป็นแบบทั้งตัว
2.หลังคดเราไม่สามารถหายได้ค่ะ เพราะว่า เราเริ่มรักษาช้าไป จนกระดูกมันเจริญเติบที่ไม่สามารถขยับเขยิบมันได้อีกแล้ว ถึงใส่เกราะไปก็ไม่ช่วย แต่ว่าในข่าวร้ายยังมีข่าวดีค่ะ คือ หลังคด(คดประมาณ27องศา)ของเราไม่รุนแรง เราไม่มีอาการปวดหลัง ไม่มีอาการอะไรเลยค่ะ นอกจากสะโพกไม่เท่ากัน ซึ่งถ้าการใส่เกราะสามารถช่วยได้ค่ในเรื่องของอาการปวด(ถ้าหากมีอาการปวด เเนะนำให้ไปหาหมอกระดูกเลยค่ะ ไม่ต้องไปหานักกายภาพ) เราอดทนใส่มา6เดือน และนักกายภาพบอกเราเสมอค่ะ ว่า ดีขึ้นนะ แต่ว่า มันไม่จริงเลยค่ะ เซงมาก ซึ่งหลังคดเราไม่สามารถหายได้แต่มีวิธีเดียวที่อยากกลับมาหลังตรง คือ การผ่าตัด หมอไม่แนะนำให้เราผ่าค่ะ เพราะเป็นไม่มาก มันไม่คุ้มที่จะผ่าค่ะ
3.อาการมือชาของเราเกิดจากเส้นประสาทผิดปกติค่ะ ซึ่งตอนนี้ยังไม่แน่ใจ เดียวมีนัดไปตรวจกับหมออีกทีค่ะ (ถ้าอยากรู้ ถ้าตรวจเสร็จเรียบร้อย รู้ผลเดี้ยวมาอัปเดตอีกทีค่ะ)
ถ้าที่สุดนี้คืออยากจะบอกว่า ถ้าใครเพิ่งสังเกตเหมือนเราแล้วอายุประมาณ 16-18ปี(เรา17กำลังจะ18ค่ะ) อับดับแรกคือ แนะนำให้ไหาหมอกระดูกโดยตรงเน้นนะค่ะ ว่า "หมอกระดูกโดยตรง" แล้วก็เรื่องกระดูกสันหลังคดนะค่ะ ไม่มีผลต่อการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยค่ะ เขาจะตรวจพบแน่นอนว่าเราเป็น แต่ว่าเขาก็จะส่งให้หมอกระดูกดูว่า คดเท่านี้ มีผลอะไรกับการทำงานในภาายภาคหน้ามั้ย ซึ่งหมอบอกเรา ขนาดนักศึกษาแพทย์เรายังมีคนเป็นหลังคดเลย เพราะงั้นไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สามารถเข้ามหาลัยได้เลยค่ะ
ถ้าสำหรับพ่อแม่ที่มีลูกที่อายุยังน้อยอยู่ให้สำรวจลูกเลยนะค่ะ ว่าสะโพกน้องไม่เท่ากันหรือป่าว ไหล่น้องเท่ากันมั้ย เพราะว่าช่วงประมาณ10 ขวบประมาณนี้เป็นช่วงที่กระดูกเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง อย่าให้น้องสะพายกระเป๋าหนักเกินไปนะค่ะ อย่าสะพายข้างเดียว เพราะที่เราเป็น เราไม่ได้เป็นจากกรรมพันธ์นะค่ะ น่าจะมาจากพฤติกรรมมากกว่า ประถมเราสะพายกระเป๋าหนักมาก เราสังเกตตัวเองว่าสโพกเราไม่เท่ากันได้ตั้งแต่ประถมแต่เราไม่ได้คิดถึงจุด ๆ นี้ เพราะเราชอบยืนย่อเข่าแล้วสะโพกข้างหนึ่งมันจะยก เราเลยนึกว่าเพราะเรายืนแบบนั้นเลยไม่ใส่ใจ ผลเลยมาแบบนี้ แนะนำให้พาน้องไปตรวจเถอะค่ะ
ถ้ามีอะไรสงสัยถามได้เลยนะค่ะ เราอยากให้เรื่องของเราเป็นแนวทางให้หลายๆคน ถ้าใครที่ได้ใส่เกราะไม่ต้องอาายที่จะใส่นะค่ะ เพื่อตัวเราเอง ส่วนเรื่องมือชาถ้ายังไงเดี้ยวจะมาอัปเดตให้อีกทีนะค่ะ
ปล.เราอยากให้ดูรูปเกราะ รูปหลังเรา แต่เราไม่แน่ใจว่าสามารถลงได้เลยมั้ย TT
ขอบคุณค่ะ
unicorn_waterhoure
12 มิ.ย. 61 เวลา 20:35 น.
8,565
views
6 ความคิดเห็น
เกี่ยวกับนั่งหลังค่อมไหมอ่า
ไม่แน่ใจเหมือนกัน ลองส่องกรจกแล้วดูสโพกตัวเองดูนะค่ะ ว่าเท่ากันหรือป่าว
เราเป็นตรงที่ สบักสูงไม่เท่ากัน สบักข้างนึงยื่นไปข้างหน้ามากกว่าอีกข้างนึงด้วย เราจะเห็นได้ชัดเพราะว่าเราผอมมาก เราเป็นนักกีฬาแบดโรงเรียน เราก็วอมอัพไปส่งๆ ไม่ได้ยืดกล้ามเนื้อจริงจัง แล้วเราค่อนข้างผอม แรงไม่ค่อยมีจะตีลูก เราเลยยกน้ำหนักข้างเดียว ออกกำลังแขนข้างเดียว เพราะเราใช้ข้างเดียวตี เลยออกกำลังมันข้างเดียว(ดูซิ๊ดู)
แขนเราใหญ่กว่าข้างเดียวอย่างเห็นได้ชัด ไหล่ตกอีกต่างหาก เราพึ่งมาสังเกตุได้ไม่กี่เดือนเอง เรารู้สึกเหมือนขาขวายาวกว่าขาซ้าย ทั้งๆที่เราก็ยืนตรง แต่พักหลังๆเรามีเรื่องเครียดเยอะ ยิ่งผอม ยิ่งทำให้เท้ารับน้ำหนักมาก ยืนนานๆเรารู้สึกเจ็บเท้าขวา ทั้งๆที่ทิ้งน้ำหนักเท่ากัน บางทียังทิ้งน้ำหนักไปขาซ้ายด้วยซ้ำ ร่างกายเรามันไม่เพอเฟคหรอก จขกท.อย่าคิดมากเน้อ ถ้ามันไม่ได้เป็นอุปสรรคกับชีวิตจริงๆ อย่าพึ่งผ่าตัด
เราเป็นคนหนึ่งที่ผ่านการผ่าตัดเสริมเหล็กในกระดูกสันหลังและอยากแบ่งปันประสบการณ์เหมือนกันค่า
กระดูกสันหลังคดสามารถเกิดได้จากพฤติกรรมที่ทำเป็นประจำบ่อยๆ หรือพันธุกรรม แต่บางทีก็สรุปสาเหตุไม่ได้ค่ะ... คุณพ่อคุณแม่ที่สงสัยว่าลูกท่านเป็นหรือไม่ ลองสังเกตลูกดูนะคะ เพราะบางทีอาจเป็นตั้งแต่เด็กๆ(ส่วนมาก)และอาจไม่รู้ตัวได้
เริ่มจากตอนเด็กๆเราเป็นคนที่ชอบนั่งหลังค่อมแบบเหมือนคนไหล่ตกเลยค่ะ พอตอนประมาณ 12 ขวบเราชอบปวดเมื่อยที่หลังค่ะ คุณพ่อเลยมานวดๆให้ และพ่อของเรามีความรู้เรื่องกายวิภาคจึงรู้สึกว่ารูปกกระดูกเราผิดปกติ พ่อเลยพาเราไปตรวจก่อนค่ะที่ศูนย์แพทย์ เมื่อทำการเอ็กซ์เรย์ก็พบว่ากระดูกสันหลังคดแและแนะนำให้เราผ่าตัด (เราคดเยอะมากค่ะ เป็นตัว S เลย) คุณหมอที่ศูนย์แพทย์เลยแนะนำให้ไปที่โรงพยาบาลใหญ่ค่ะ
สุดท้ายหวยมาออกที่โรงพยาบาลรัฐชื่อดังแห่งหนึ่ง เรารู้สึกว่าโชคดีมากๆเลยค่ะ พอไปเช็คก็ได้คิวผ่าตัดแต่ก็ถูกเลื่อนไปครั้งหนึ่งค่ะ (ยากมากค่ะที่จะไม่ถูกเลื่อนคิวผ่าเลย เพราะคุณหมออาจมีธุระอื่นหรือต้องไปต่างประเทศในบางครั้งค่ะ ซึ่งของเราเป็นกรณีที่ 2) เราถูกเช็คอวัยวะภายใน เช่น ปอด เพราะมีโอกาสที่กระดูกจะเบียดปอดทำให้ความสามารถในการทำงานลดลงได้ค่ะ (เท่าที่ฟังมาแล้วจำได้นะคะ)
ตอนนั้นพ่อกับแม่เราเครียดกันมากๆเลย เพราะมันเป็นผ่าตัดใหญ่ที่ค่อนข้างเสี่ยงค่ะ ตอนผ่าตัดเราอายุ 14 ค่ะ ถือว่าเด็กมากที่ต้องมาเข้ารับการผ่าตัดใหญ่แบบนี้ ถ้าถามว่ากลัวไหม เราได้รู้สึกกลัวมากขนาดที่ว่าไม่อยากผ่า เพราะไม่รู้ว่าความเจ็บปปวดมันประมาณไหน5555555
ก่อนผ่าสิ่งที่ต้องทำคือทานยาที่พยาบาลเอามาให้ค่ะ คือทานแล้วมึนเลยแหละ เสร็จเขาก็พาไปเอ็กซ์เรย์อีกรอบและพาเราไปที่ห้องผ่าค่ะ เราเดาว่าเป็นวิสัญญีแพทย์(แพทย์ที่เชี่ยวชาญในการให้ยาชาและยาสลบ)ที่มาชวนเราคุยค่ะ ถามชื่อเล่นถามชั้นถามโรงเรียน แล้วก็ฉีดยาเข้าสายน้ำเกลือไปด้วย สุดท้ายคือบอกให้เราหายใจเข้าแรงๆพร้อมกับเอาที่ครอบจมูกมาให้ เราดับวูบเลยค่ะ5555555
วันผ่าตัดใช้เวลาตั้งแต่ 9:00 - 17:00 ซึ่งนานมากๆค่ะ ตื่นอีกทีคือห้อง ICU เราอยู่ที่นั่นประมาณ 2 วันแล้วกลับห้องปกติค่ะ ตอนพักฟื้นมันกระหายยาแก้ปวดมากๆเลย เพราะมันปวดมากกกกกกก ต้องตะแคงตัวด้วยค่ะ ไม่งั้นแผลจะอับชื้นและเน่าได้ เราไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย ตั้งแต่ลุก เดิน เข้าห้องน้ำ อาบน้ำ ทานข้าว นอนตะแคง มีแม่ที่คอยช่วยเราตลอดค่ะ ทำได้อย่างเดียวคือนอน
นอกจากนั้นก็จะมีคุณหมอและนักกายภาพบำบัดมาหาถึงห้องผู้ป่วยเผื่อสอนท่าในการลุก หรือบริหารกายออกกำลังหลังการผ่าตัดด้วยค่ะ และยังต้องเป่าลมบริหารกล้ามเนื้อ ปอด ด้วยค่ะ
ประมาณอาทิตย์กว่าๆคุณหมอก็ให้กลับบ้านมาพักได้ ระบมแผลมากๆค่ะ ต้องฝึกใหม่ตั้งแต่ค่อยๆนอนตะแคงเอง เข้าห้องน้ำ ทานข้าว แม้กระทั่งลุกจากเตียง หรือเดิน คือเราต้องใช้ที่ช่วยเดินแบบคนแก่เลยค่ะ แรกๆก็จะหน้ามืดเวลาลุกเพราะนอนอย่างเดียวมานานมาก
ส่วนเรื่องแผล แรกๆคุณหมดนัดถี่เลยค่ะ 3 วันไปที อาทิตย์หนึ่งไปที สองอาทิตย์ไปที 1 เดือนไปที สามเดือน หกเดือน แล้วตอนนี้เหลือปีละครั้งค่ะ จะมีทั้งคุณหมอกระดูกที่ผ่าตัดเราโดยตรง และคุณหมอกายภาพค่ะ ผ่านไปสักระยะคุณจะมีการวัดความยาวขา ส่วนสูง และติดตามผลเอ็กซ์เรย์กระดูกสันหลังอย่างต่อเนื่องเพื่อสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นค่ะ (อารมณ์แบบ before after เลย) ถ้ากรณีความยาวขาไม่เท่ากันก็จะต้องตัดส้นรองเท้าตามความยาวที่ต่างจากขาอีกข้างโดยผู้เชี่ยวชาญค่ะ แต่โชคดีที่เราขาเท่ากันเหมือนเดิมเลยไม่ต้องตัดเพิ่มค่ะ ส่วนความสูงจะเพิ่มขึ้นฮวบฮาบเลยค่ะ ก่อนผ่าเราสูง 158 หลังผ่าเราสูง 162 ค่ะ แต่บอกก่อนว่าเหล็กที่ดามเข้าไปทำให้สูงขึ้นยากแล้วเพราะมันรั้งกระดูกสันหลังไว้ค่ะ แต่ยังมีโอกาสที่จะสามารถสูงเพิ่มขึ้นได้จากความยาวขาค่ะ (สำหรับคนที่กระดูกเชิงกรานยังไม่ปิดก็จะยังสูงได้อยู่เล็กน้อย)
แต่สรุปแล้วไม่ต้องกังวลค่ะ ถ้าใครถูกแนะนำให้ผ่าตัด เพราะมันดีจริงๆค่ะ มันดีกว่าที่เราจะปล่อยให้มันเป็นต่อไปโดยที่ไม่ทำอะไรหรือทำแล้วแต่ไม่ได้ช่วยเท่าไหร่ เพราะถ้าไม่ผ่า ตัวจะเบี้ยวผิดรูปไปเรื่อยๆ ตัวจะเอียง สะโพกบิกไหล่ไม่เท่ากัน ซึ่งมันมีผลกับสรีระมากๆค่ะ สำหรับใครที่กังวลผลลัพธ์หลังผ่า เราบอกเลยค่ะว่าไม่ต้องกลัว เพราะตอนนี้เราใช้ชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไปเลย เราแต่งตัว หรือทำนู่นทำนี่ได้ตามปกติค่ะ กีฬาก็เล่นได้ค่ะ ยกเว้นชนิดหนักๆหรือบางประเภทที่ใช้หลัง เช่น ซิทอัพ เราแค่ต้องบริหารกายตามหมอสั่ง ว่ายน้ำเยอะๆค่ะ (เหมือนปลาที่กระดูกเรียงตัวสวยเพราะว่ายน้ำ)
ถ้าถามเราว่าหายดีไหม เราไม่สามารถตอบได้ว่าเราหายดีค่ะ เพราะการดำเนินชีวิตทุกๆวันของเรายังมีเหล็กอยู่ในหลังด้วยเสมอ ซึ่งต้องระวังตัวเอง เราจะรู้ลิมิตของเราว่าเราสามารถยกของได้หนักประมาณไหน ทำอะไรได้บ้าง แต่โดยรวมไม่มีอะไรน่ากังวลค่ะ
สำหรับคนที่สงสัยว่าเอาเหล็กเข้าแล้วเอาออกได้ไหม เอาออกได้ค่ะ แต่เรารู้สึกว่าต้องเสียเงินผ่าใหม่ เจ็บตัวใหม่ แล้วก็มีโอกาสสูงที่จะกลับมาคดเหมือนเดิมเพราะไม่มีเหล็กดามกระดูกแล้ว เราจึงตัดสินใจที่จะเอาไว้ตลอดชีวิตค่ะ
ถ้ามีใครสงสัยตรงไหนตอบกลับเราไว้หรือติดต่อเรามาหลังไมค์ได้นะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่เป็นนะคะ รวมถึงจขกท.ด้วยนะคะ หายไวๆน้าทุกคนนนน
เราอยากผ่าตัดนะ เราอยากมีสรีระที่ดีอะแหละ แต่แม่กับหมอบอกมันไม่คุ้ม ช่วงนี้ต้องเตรียมตัวสอบ เลยไม่ได้ ในอยาคตก็อาจจะผ่ามั้ง ฮือออ อยากยืนตรง
อยากทราบอะค่ะว่า หลังผ่าแล้วมีแผลเป็นไหมคะ ถ้ามีแผลเป็น แผลเป็นจากการผ่าจะหายไหมคะ ตอนนี้เราอยู่ม.6ก็เป็นกระดูกสันหลังคด กลัวการผ่าตัดมาก กลัวว่าจะกระทบต่อการเรียน และอีกอย่างมีค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดไหมคะ
https://m.pantip.com/topic/30243043? กระทู้นี้เลย
ผ่ามากี่ปีแล้วคะ
เราก้เป็นค่ะ เรายุมอห้า เรารู้ตัวตอนปอสี่ ก้เราทำกายภาพตั้งเเต่ตอนนั้น เเต่มันก้เบี้ยวขึ้นเรื่อยๆค่ะ เพระว่าเราโตขึ้น เราเเค่ประคับประคองไม่ให้มันเป็นมากขึ้น ตอนเเรกหมดอาลัยในชีวิตมาก เเต่ตอนนี้เราก้ผ่านมันมาได้ เเต่ต้องกายภาพบำบัดตลอดชีวิต เราดีใจนะคะที่มีคนมาเเบ่งปันประสบการณ์เรื่องนี้ เราไม่คิดว่าจะมีใครเป็นด้วยซ้ำ สู้ๆนะคะทั้งคุณเเละก้ตัวเรา เราจะผ่านมันไปได้เเน่นอนค่ะ
สู้ตายยยย
การตรวจร่างกายเข้าเรียนมหาลัย เป็นอย่างไรบ้างคะ เรากังวลมาก รบกวนช่วยตอบด้วยนะ
จากที่เราตรวจนะ เขาจะมีx-ray ใช่มั้ย แต่เขาจะx-rayแค่ปอดค่ะ ไม่ได้x-ray มาถึงหลังเรา เพราะงั้นกระดูกสันหลังคดไม่เป็นปัญหาค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?