Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ชีวิตที่ไร้เพื่อนสนิท…ไม่ได้แย่เสมอไป

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
      เรื่องราวทั้งหมดนี้ทุกคนอ่านได้ แต่อาจจะเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องเพื่อน พี่เป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาเรื่องการคบเพื่อนมาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันนี้พี่ก็ยังไม่มีเพื่อนสนิทเป็นตัวเป็นตนสักคน พี่เป็นพูดน้อย พูดไม่เก่ง ค่อนข้างมีโลกส่วนตัวแต่ถ้าเมื่อก่อนโลกส่วนตัวสูงกว่านี้เยอะ เวลาพี่รู้สึกเหงา พี่จะชอบถ่ายรูปกับตุ๊กตา ซึ่งอย่างน้อยตุ๊กตามันไม่เคยทิ้งพี่ไปเหมือนคนอื่นๆที่พอเราหมดค่าสำหรับพวกเขา พวกเขาก็พร้อมเทเราได้ทุกเมื่อ ปัญหาของพี่เริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนประถม ไม่มีเพื่อนเล่นกับพี่เลย แถมพี่ยังถูกแกล้งทุกวัน ร้องไห้กลับบ้านทุกวันจนพ่อกับยายรำคาญ ครูก็ไม่ได้สนใจอะไรพี่เลย แถมครูยังพูดเหยียดด้วยซ้ำว่าครอบครัวพี่จน เด็กอย่างพี่ไม่มีปัญญาเรียนได้หรอก


และปัญหานี้ก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆจนพี่จบป.6 ในช่วงประถมนี้พี่ก็มีเพื่อนที่แม่ให้มาสนิทกันแต่เมื่อเรียนชั้นป.4 พี่ก็ได้รู้ว่าที่ผ่านมาเพื่อนไม่เคยจริงใจกับพี่เลย เพื่อนเห็นเหมือนพี่เป็นคู่แข่ง ทั้งๆที่เพื่อนพี่คนนั้นเป็นลูกรักของครู ครูสนับสนุนให้เขาได้ทำกิจกรรมทุกอย่าง ตรงกันข้ามกับพี่ พี่อยากจะทำกิจกรรมแต่มักจะถูกคัดออกเสมอ ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘ครูมีคนของครูอยู่แล้ว’


     เมื่อพี่เข้าเรียนมัธยมต้นพี่ตั้งใจเรียนมากและพยายามไม่คิดถึงเรื่องเพื่อน แต่แล้วพี่ก็ยังอยู่กับกลุ่มเพื่อนไม่ได้และยังโดนใส่ร้ายว่าพี่นินทาเพื่อนคนอื่นแบบเสียๆหายๆ พี่โดนไล่ออกจากกลุ่ม ในร.ร.นี้นะ ถ้าไม่มีกลุ่มก็เรียนอยู่ที่นี่ไม่ได้ พี่กลับบ้านไปร้องไห้ทุกวัน พี่เคยไม่รู้จะระบายยังไง มันคับแค้นใจพี่เลยกรี๊ดออกมาลั่นบ้าน พี่สงสารแม่มาก แม่มองพี่แบบหมดหนทางแก้ไข แม่เคยขอให้ครูที่ปรึกษาช่วย ครูเขาก็ไม่ช่วยพี่ พี่อยากย้ายโรงเรียน แม่ก็ไม่ให้ย้าย ด้วยเหตุผลที่ว่า บ้านเราไม่มีเงิน แม่ไม่มีปัญญาส่งลูกเรียนโรงเรียนอื่นหรอกนะ


เมื่อพี่เข้าเรียนมัธยมปลายพี่ก็ยังเจอปัญหาเดิมๆ เพื่อนไม่คบ ถูกใส่ร้าย จนต้องออกไปคุยเปิดใจกับเพื่อนหน้าห้อง พอคุยแล้วเพื่อนก็เข้าใจพี่มากขึ้น แต่เพื่อนก็เพียงแค่เข้าใจไม่ได้มาสนใจอะไรพี่มากเท่าไหร่ และวันเวลาก็ผ่านไปจนกระทั่งพี่เข้ามหาวิทยาลัย พี่เป็นเด็กต่างจังหวัดที่ไม่มีเพื่อนมาด้วย ไปด้วยตัวเองคนเดียว ด้วยความที่พี่มีเป้าหมายอยากได้เกรดดีๆ พี่ตั้งใจเรียนมากจนเพื่อนสังเกตได้แล้วมาชื่นชมพี่ว่า ขยันอะไรเบอร์นี้ แต่แล้วเรื่องนี้ไปถึงหูเจ้าถิ่น(เด็กในพื้นที่นั้น)พี่ไม่เคยไปทำอะไรเขาเลยนะ แถมไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แต่เขามาพูดจาเหน็บแนม กระแทกกระทั้น ไม่ก็พูดเสียงดังแบบจงใจตอนที่พี่กำลังพรีเซ็นต์งาน มากสุดคือเขามาดึงผมพี่ ดึงแบบเจตนา ไม่ใช่แบบเล่นๆ ตอนที่พี่โดนอะไรแบบนี้ พี่ท้อมาก พี่อยากลาออก พ่อแม่พี่รู้เรื่องที่เขามาพูดไม่ดีใส่พี่ แต่พี่ไม่ได้บอกพ่อแม่เรื่องที่เขามาดึงผม พ่อแม่ได้แต่บอกว่าไม่รู้จะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร แล้วยังบอกอีกว่าเบื่อพี่ที่มีปัญหามาโดยตลอด พี่อยากบอกว่าพี่ขอโทษที่ทำให้พ่อแม่หนักใจแต่พี่เองก็เหนื่อยเหลือเกิน พี่ไม่รู้วิธีแก้ไขเหมือนกัน และเจ้าถิ่นนั้นยังคงแกล้งพี่จนจบปี2 พี่ก็ไม่อยากทน พี่ก็เป็นคน มีความรู้สึก โกรธเป็น เจ็บเป็นเหมือนกัน แต่ถ้าพี่ไปตบตีกับเขา พ่อกับแม่กลัวพี่จะถูกไล่ออก ไม่มีเงินจะส่งพี่เรียนในมหาลัยอื่นและที่สำคัญประวัติเราก็จะมีแต่เสียๆหายๆ


      พอขึ้นปี3 พี่ตัดสินใจไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศพร้อมเพื่อนคนไทยอีกจำนวนหนึ่ง และชีวิตพี่ก็เปลี่ยนไป ตอนแรกก็คิดว่าเราคนไทยไม่ทิ้งกัน แต่แล้วก็คิดผิดคนไทยกันเองไม่รู้จักพี่ด้วยซ้ำว่าพี่เป็นคนไทยมาจากกลุ่มเพื่อนคนไทยจำนวนนั้น พี่โดนคนไทยด้วยกันดูถูกว่าพี่โง่ เด็กบ้านนอก และดูถูกความสามารถพี่ เพราะพี่เองก็มีเพื่อนน้อย พอไปทำความรู้จักกับชาวต่างชาติ เขาก็ไม่เป็นมิตรกับพี่สักเท่าไหร่  พี่เสียใจ พี่อยากกลับบ้าน พี่เหมือนจะอยู่ไม่ได้ จนกระทั่งพี่ได้รู้จักเพื่อนสาวต่างชาติคนหนึ่งที่พี่ได้เข้าไปคุยกับเขาก่อน เขาพูดกับพี่ว่า การที่เราอยู่คนเดียวไม่ใช่เรื่องแย่อะไร คนบนโลกนี้มีมากเป็นร้อยล้านคน ถึงแม้ว่าเพื่อนกลุ่มนี้จะไม่ดีกับเรา แต่ยังมีเพื่อนกลุ่มอื่นที่เขายินดีจะเป็นเพื่อนกับคุณนะ แค่คำพูดประโยคนั้นมันทำให้พี่มีความหวังและเข้าใจถึงความเป็นจริงของโลกนี้ว่า บนโลกนี้เราไม่ได้อยู่คนเดียว และการที่พี่ได้มาแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ พี่ได้เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตหลายอย่าง มันทำให้มุมมองโลกของพี่กว้างขึ้น จนพี่เรียนครบ1ปี


     และพี่ก็กลับมาเรียนปี4ที่ไทย พี่กลายเป็นคนใหม่ที่มีเป้าหมายในชีวิต ปัจจุบันนี้พี่เรียนจบป.ตรีแล้ว กำลังหางานทำอยู่เลยค่ะ พี่อยากบอกน้องๆหรือเพื่อนๆที่ประสบปัญหาเดียวกับพี่ว่า อย่าท้อแท้ ไม่ได้มีเพียงน้องที่มีปัญหา คนอื่นทั่วโลกก็เจอปัญหาอย่างนี้เช่นเดียวกัน ขอเพียงแค่น้องเข้าใจว่าการอยู่คนเดียว การไม่มีเพื่อนสนิทไม่ใช่เรื่องแย่และไม่ใช่เรื่องน่าอาย ไม่ว่าคนอื่นจะมองเราอย่างไรขอเพียงแค่ตัวเรารู้ดีว่าเราเป็นคนดี เรามีความสามารถ เราไม่ได้ทำอะไรผิด และเราสามารถสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้คนอื่นเห็นได้


       การอยู่คนเดียวมีข้อดีคือ ได้เอาเวลาไปพัฒนาตัวเอง ไปสนุกกับงานอดิเรก ใช้เวลาเรียนรู้สิ่งที่เราสนใจเป็นพิเศษได้เต็มที่ เช่น พี่สนใจความรู้ด้านจิตวิทยา พี่ก็อ่านหนังสือแนวจิตวิทยาทุกวัน และเรื่องการเขียน พี่ได้เขียนเรื่องสั้นแนว emotion ไปแล้ว2เรื่อง ซึ่งพี่ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ เพราะพี่ขี้กลัว กลัวว่าจะเขียนไปแล้วไม่มีใครอ่าน แต่ด้วยการกำหนดเป้าหมายว่า เราจะต้องเขียนได้สักเรื่องสิ พี่ก็ทำได้ และที่สำคัญได้มีเวลาดูแลตัวเองและดูแลพ่อกับแม่หรือบุพการีที่รักเราอย่างแท้จริง และมันผ่านไปด้วยดี ขอให้เจอแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตนะคะ
ขอบคุณที่อ่านเรื่องนี้จนจบค่ะ
 

แสดงความคิดเห็น

>

26 ความคิดเห็น

amered 23 มิ.ย. 61 เวลา 20:12 น. 1

สตรองมาก พอมองกลับไปจะพบว่ามันแค่เรื่องปะติ๋ว

แต่ถ้ามีเพื่อนดีๆบ้างก็คงจะดีกว่า

0
Rickshaw 24 มิ.ย. 61 เวลา 17:44 น. 3

อยากรู้ว่าจขกท เคยลองถามเพื่อนหรือคนที่รังเเกจขกทมั้ยคะ ว่าทำไมถึงทำเเบบนั้น เเบบลองพูดตรงๆออกไปเลย

เราไม่ได้ว่าจขกทไม่ดีนะคะ เราเข้าใจความรู้สึกของจขกทจริงๆ เพราะเราเองก็เจอปัญหาเหมือนจขกท ที่ว่าไม่มีเพื่อน โดนนินทา โดนใส่ร้าย โดนไล่ออกจากกลุ่ม เพื่อนมองเป็นคู่เเข่ง เราผ่านมาหมดเเล้วค่ะตั้งเเต่ประถมถึงม.ต้น เพิ่งจะมามีกลุ่มเพื่อนสนิทตอนม.ปลายโน่นเเหละ เเต่จนถึงตอนนี้ เราอยู่คนเดียวได้สบายมากค่ะ ไม่มีเพื่อนเลยก็อยู่ได้ ถึงบอกว่าเราเข้าใจความรู้สึกของจขกทค่ะ เเค่สงสัยว่าจขกท เคยลองนึกถึงสาเหตุที่โดนเเบนมาตลอดมั้ยคะ เเบบลองมองจากมุมคนอื่นที่ไม่ใช่เเค่มุมตัวเอง บางทีอาจจะมีอะไรที่คุณพลาดไปก็ได้นะคะ เพราะบางทีเรามองตัวเองด้วยตัวเอง เราจะมองไม่เห็นปัญหาหรอกค่ะ


ยังไงก็สู้ๆนะคะ คุณเก่งมากเลยที่ผ่านมาได้ :))

0
Amnesiaa 24 มิ.ย. 61 เวลา 17:52 น. 4

สุดยอดมากครับ สตอรงจริงครับ โลกความเป็นจริงโหดร้ายครับถ้าพูดในเรื่องของทางโลก แต่ถ้าในทางธรรม อยากให้ลองคิดซะเสียว่าเป็นกรรมของเราชาติปางก่อนครับ ชาติก่อนนั้นเราได้ทำอะไรไว้บ้างในชาตินี้ก็เบยเป็นผลตามมาครับ


ป.ล.ส่วนตัวเช่นกันครับเชื่อใจเพื่อนไม่ค่อยได้ครับ อยู่คนเดียวส่วนมากครับ

0
Ke xin 24 มิ.ย. 61 เวลา 18:12 น. 5

ขอบคุณพี่มากที่มาแชร์ประสบการณ์เรื่องเพื่อน...ขณะนี้หนูก็เจอปัญหาแบบนี้อยู่เหมือนกันหนูก็อยากให้เพื่อนสนใจหนูบ้างแต่เขาก็เฉยกับหนูทำเหมือนหนูไม่ได้อยู่ในห้องเรียนไม่มีตัวตน หนูกลับมาแล้วก็ร้องไห้แบบที่พี่ทำเหมือนกัน ตอนนี้หนูได้แต่หวังว่าเพื่อนจะสนใจและคุยกับหนูบ้างพอได้อ่านประสบการณ์เรื่องเพื่อนของพี่ทำให้หนูรู้ว่าไม่ได้มีแค่หนูที่เป็นแบบนี้คนเดียว...

0
มันจะผ่านไป 24 มิ.ย. 61 เวลา 18:24 น. 6

เจอกระทู้นี้ตอนกำลังมีปัญหานี้พอดีเลยค่ะ...

สมัยเด็กๆเราเป็นคนมีเพื่อนเยอะมาก มากแบบมากๆจริง สนิทกับคนทุกคน มีแต่คนเข้าหา เรียกว่าเป็นศูนย์กลางของที่นั่นเลยก็ว่าได้

แต่วันนึง โชคชะตาชีวิตก็นำเรามาอยู่ในจุดที่ไม่เหมือนเดิม

ไม่มีใครชายตาแลอีกต่อไป ชีวิตจากร้อยเหมือนติดลบในสิ่งที่เราเลือกเอง เราเกลียดตัวเองมากๆ ไม่เข้าใจถึงเลือกให้ชีวิตมาอยู่ในตาอับแบบนี้

ตอนแรกๆก็ทำใจไม่ได้เลยค่ะ ฟูมฟายเหมือนจะบ้า

พอสักพักนึง พอมีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ให้ประสบการณ์มันสอน ทั้งการอยู่คนเดียว การถูกนินทา ก็คิดในแง่ดีค่ะ ว่าชีวิตคงอยากสอนให้เราเจออะไรที่ยากลำบากบ้าง

เรานับถือใจของคุณเลยค่ะ แข็งแกร่งจริงๆ

และ

เราจะผ่านมันไปด้วยกันนะคะ คนที่ร่วมชะตากรรม :) สู้ๆ!!


0
Stellaris 24 มิ.ย. 61 เวลา 19:22 น. 7

เข้าใจเลยค่ะ เราก็เรียนอยู่ตปท.ตอนนี้ ไม่มีเพื่อนคนไทยเลยตั้งแต่มาอยู่ คือแบบรู้จักแค่ผิวเผิน เหมือนเขากีดกันเราน่ะ เพราะเราพูดภาษาถิ่นเขาไม่ได้เลย มาจากอีสาน เหนือ ใต้กัน มีเรามาจากภาคกลางคนเดียว เขาแบบเหมือนเหยียดๆยังไงไม่รู้ มาจากภาคกลาง ไม่อยากคบ ไฮโซ หยิ่งรึเปล่า ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้ทำอะไรเลย คือเขายังไม่ทันได้รู้จักเรา ตัดสินเราไปซะแล้ว เวลาเราอยู่กลุ่มพวกเขานี่อึดอัดทุกที เพราะเขาพูดภาษาถิ่นกันเอง แล้วเราฟังไม่รู้เรื่องไง แล้วแบบแนวคิดอะไรก็ต่างกัน เลยห่างๆออกมาอยู่คนเดียวดีกว่า สบายใจกว่ากันเยอะ


แต่ของเรายังโชคดี เพื่อนสมัยม.ต้น สนิทๆกันเยอะเลยยังพอคุยระบายปรับทุกข์ได้บ้าง แต่จากที่อ่านมาพี่เข้มแข็งมากค่ะ

0
mmmm17 24 มิ.ย. 61 เวลา 19:32 น. 8

ขอบคุณนะคะที่มาแชร์ประสบการณ์ของพี่ให้อ่าน ได้ข้อคิดดีๆหลายเรื่องเลยค่ะ สู้ๆนะคะพี่หนูเป็นกำลังใจให้

0
กัณฐิกา กองแก้ว 24 มิ.ย. 61 เวลา 20:06 น. 9

นับถือ จขกท. มากๆนะที่อดทน และได้ขนาดนี้

เรามีเพื่อนมรก แต่ถามว่ามีสนิทไหม ไม่มีเลยสักคน... และตอนนี้จะขึ้นปีสองแล้งเป็นคนแคร์สังคม แคร์ความรู้สึกทุกคนมาก แต่น้อยครั้งมากที่จะมีใครมาแคร์ เรายังอดทนและทำตัวให้มีความสุขได้ไม่เท่า จขกท.เลย #เก่งที่สุดแล้ว

0
พายงาม 24 มิ.ย. 61 เวลา 21:39 น. 10

พี่เก่งมากคับ ผมรู้สึกคล้ายๆกับพี่ คือ ผมมีเพื่อนเยอะแต่ไม่มรเพื่อนสนิท แม้แต่คนเดียว ยิ่งเปลี่ยนชั้นเรียนเปนมัทยม ตอนกลางวันก้อต้องนึกว่าจะกินข้าวกับใคร บางวันก้อเดินไปกินคนเดียวไม่ให้คนอื้นเหน พอเข้าห้องเรัยนก้อเฮฮา เหมือนเดิม รุ่สึกเหนื่อยมาก ที่ต้องเกบความรุ่สึกแย่ๆ และ ปั้นหน้าว่ามีความสุขทั้งๆที่ กินข้างไม่มีเพื่อนไปกินด้วยคน

0
แมวตัวนึง 24 มิ.ย. 61 เวลา 21:43 น. 11

เราก็ไม่มีเพื่อนสนิท ไปไหนมาไหนอยู่คนเดียวได้แต่ไม่ได้แปลว่าเราอยากอยู่ อ่านแล้วน้ำตาไหล เราก็เป็น

0
เฟย์ 24 มิ.ย. 61 เวลา 21:55 น. 12

เพื่อนสนิทกับเพื่อนแท้มันคนละคนกัน เพื่อนสนิทคือคือที่เราคุยด้วย แต่เล่าอะไรให้มันฟังมันอาจจะเอาไปเล่าต่อก็ได้ไว้ใจได้บ้างไม่ได้บ้างยืมเงินไก้บ้างไม่ได้บ้าง บางทียืมตังเรากะไม่คืนบางทีมีอะไรก็ไม่พูดกับเรา แต่เอาเราไปพูดเสียๆหายๆ เพื่อนแท้ไม่ทำแบบนี้กับเรานะคะ เพื่อนแท้ไม่ทิ้งถ้าเราล้ม มันอาจจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่ก็นั่งข้างๆเราล่ะ การมีเพื่อนสนิทที่ไม่ใช่เพื่อนแท้เหมือนมีงูอยู่ใกล้ตัว ไม่ได้มีประโยชน์แต่แทงข้างหลังเราต่างหาก ดังนั้นถ้าไม่มีเพื่อนก็ช่างมัน ถึงเวลาถ้าเราจะเจอเพื่อนแท้มันก็มาเอง พี่เองก็ไม่มีเพื่อนตั้งแต่เด็กจนเข้ามหาลัยแล้งซิ้วอีกรอบนั่นล่ะถึงเจอเพื่อนแท้ คนหนึ่งคือเพื่อนที่เวลาไม่มีเงินมันลากเราไปทำงาน อีกคนยืมเพื่อนมาเพื่อให้เรายืมต่อ เราจะรู้ว่าใครดีก็เวลาลำบากไม่ใช่เวลาไปสนุกกับมัน

0
โดดเดี่ยวเดียวดาย 24 มิ.ย. 61 เวลา 22:32 น. 14

ตั้งแต่เกิดมาเคยคิดว่ามีเพื่อนสนิทหลายคนซึ่งหักหลังเรากันทุกคนตลอด เอาเราไปนินทาบ้าง ขโมยเงินเราบ้าง ใส่ร้ายเราบ้าง จนถูกเพื่อนทั้งชั้นแบน พอหลุดออกมาได้เพื่อนที่เข้าใจเรา เราก็ดันสำคัญตัวผิดว่าสนิทกับเขา แต่ลืมไปว่าเขามีเพื่อนสนิทอยู่แล้ว ซึ่งพวกเพื่อนของเพื่อนก็จะไม่ชอบเราเหมือนไปแย่งเพื่อนเขา สรุปสุดท้ายเราเลือกจะอยู่คนเดียว คุยได้ทุกคนแต่ไม่มีเพื่อนสนิท (._.)

0
kulseyjae 24 มิ.ย. 61 เวลา 22:56 น. 15

เป็นกำลังใจให้พี่นะคะ อยากให้เป็นคนทัศนคติดี มองแง่บวกและรู้จักเป็นกำลังใจให้ตัวเองแบบนี้ตลอดไปค่ะ

0
สงคราม 24 มิ.ย. 61 เวลา 23:12 น. 17

ส่วนตัวก็เคยมีปัญหาเรืองเพื่อนนะ แต่ไม่หนักเท่า จขกท คือของเราที่บ้านแม่จับได้ว่าพ่อมีคนใหม่ แล้วก็มีปัญญาเรื่องจะหย่ากัน แล้วที่โรงเรียงก็มีปัญหาที่ว่าเพื่อนทะเลาะกันแล้วกลุ่มแตก นิก็เป็นคนที่ไม่ค่อยคุยกับใคร พอได้เพื่อนกลุ่มใหม่ก็คิดว่าน่าจะดีแล้ว แต่สุดท้ายก็เหมือนเค้าไม่ได้ยอมรับเราจริงๆ เหมือนคบเพื่อผลประโยชน์มากกว่า แต่ก็คิดว่าช่างมันอย่างน้อยก็มีเพื่อนที่สนิทอยู่ที่เป็นเพื่อนกลุ่มใหม่นั้นแหละ แล้วก็เป็นช่วงเข้ามหาลัยพอดี เพื่อนที่สนิทก็เรียนที่เดียวกัน แต่คนละคณะ ก็เอออย่างน้องก็มอเดียวกัน เราก็รู้สึกว่าโชคดีนะที่มีเพื่อนที่รู้จักด้วย แต่พอขึ้นมหาลัยเรากับแฟนที่คบกันตั้งแต่ม.ปลายได้เรียนกันคนละมหาลัย เราก็คิดว่าช่างมันเถอะ ถ้าเราเชื่อใจกันก็ไม่เป็นไรหรอก แล้วเรียนไปจนขึ้นเทอมสอง เพื่อนแฟนโทรมาหาเราว่าเรานอกใจแฟนหรอ คือแบบเห้ยแก เราไม่เคยไปไหนกับคนอื่นเลยนะ ถุงไปก็ลากเอาเพื่อนสนิทไปด้วยตลอด ที่ไปก็มีแต่เพือนสนิทจากม.ปลายนั้นแหละ ไปเอาข่าวมาจากไหน เพื่อนแฟนเลยบอกว่าเพื่อนสนิทแกมันมาบอก ณ จุดนั้นคือแบบจ้าาาา นางเอาเรื่องเรากับรุ่นพี่ที่รู้จักไปเม้าว่าเรานอกใจแฟน แบบพอเลย รวมทั้งแฟนก็มาบอกเลิกด้วย ตอนนั้นแบบอะไรวะ ปัญหาที่บ้านก็ยังไม่จบ เพื่อนสนิทที่ไว้ใจก็เป็นแบบนี้ แฟนก็ทิ้ง คือเลยเลิกคบเพื่อนไปเลยจ้าาาา คือหาเพื่อนแค่คนทำงานด้วยกันก็พอ ไม่อยากสนิทกับใครอีกแล้วเหนื่อยใจ แต่พอเราไม่มีเพื่อนแล้วรู้สึกว่าชีวิตดีขึ้นนะ ไม่ต้องรอใคร ไม่ต้องคอยใคร อิสระ อยากไปห้างก็ไปคนเดียวชิวๆ ไม่ต้องรอให้ว่างพร้อมกัน เราคิดว่าการออกมาอยู่คนเดียวมันก็ไม่ได้แย่นะ ดีออกด้วย555

0
หาแฟนนะจะได้มีคนคอยอยู่ข้างๆ 25 มิ.ย. 61 เวลา 07:21 น. 18

ที่ คุณพูดมามันไม่ใช่ไม่มีเพื่อนสนิทอ่ะมันคือไม่มีเพื่อนมากกว่า ผมเข้าใจความรู้สึกคุณนะผมก็เคยโดนแต่อาจจะไม่หนักเท่า อันนี้ไม่ได้จะว่าอะไร แต่คุณเคยลองคิดเล่นๆไหมว่า ทำไมเพื่อนถึงทำกับเราแบบนี้ เรามีข้อเสียอะไรถึงไม่มีคนคบ

0
monmonmee 25 มิ.ย. 61 เวลา 07:27 น. 19

ขอบคุณมากนะคะ หนูอยากให้พี่เขียยเรื่องไปแลกเปลี่ยนได้มั้ยคะ ว่าไปยังไงเตรียมตัวยังไง ค่าใช้จ่ายกี่บาท พี่เรียนคณะอะไร หนูสนใจมากๆค่ะ

0