Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เด็กศิลป์ภาษาที่อยากสอบเข้าแพทย์ #dek63

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ ตอนนี้เราอยู่มอห้าเทอมหนึ่ง พึ่งมารู้ตัวตอนมอสี่มอห้า ตอนเลือกสายผิดไปแล้วว่าอยากเข้าแพทย์;__; แล้วมีทางเลือกทางระหว่างซิ่วไปมอสี่ใหม่กับสอบกสพท. เราคิดว่าเราจะเลือกสอบแต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี ถ้าเรียนเอง อ่านหนังสือมากๆ หรือเรียนพิเศษ เราควรเลือกทางไหนดีคะ ตอนนี้เครียดระดับนึงเลย มีพี่ๆ เคยสอบหรือเคยประสบปัญหาแบบนี้บ้างไหมคะ ขอคำปรึกษาหน่อยนะคะ เครียดมากจริงๆ

แสดงความคิดเห็น

>

5 ความคิดเห็น

oppak2 23 มิ.ย. 61 เวลา 17:46 น. 1

ตอนนี้ม.5เตรียมตัวดีๆยังทันนะสำหรับกสพท เราอาจเสียเปรียบตรงที่ไม่ได้เรียนวิชาสายวิทย์ลึกและละเอียดเท่าเด็กสายวิทย์ พี่แนะนำให้น้องไปเรียนพิเศษและซื้อหนังสืออ่านเอง ลองหาเพื่อนสายวิทย์มาปรึกษาดูถึงวิชาที่เรียนต่างๆ สายภาษาอาจเรียนไม่หนักเท่าสายวิทย์(รึเปล่าไม่แน่ใจ555) ถ้าเรียนไม่หนักแสดงว่าเรากมีเวลามากกว่าเด็กวิทย์ ตั้งใจเรียนเก็บภาษาอังกฤษ ไทย สังคม ในห้องเรียนให้ได้มากที่สุด แล้วฟิตเพิ่มในส่วนของวิทย์คณิต มีรุ่นพี่สายศิลป์ที่ติดแพทย์เยอะแยะ เป็นกำลังใจจ้า

1
aug. 23 มิ.ย. 61 เวลา 18:57 น. 1-1

ขอบคุณมากนะคะ หนูจะพยายามค่ะ ฮื่อออ

0
ช่วยลุ้น 23 มิ.ย. 61 เวลา 21:32 น. 2

หมอที่มาจากสายศิลป์มีน้อยมากครับ แต่ถ้าน้องมุ่งมั่นจริงๆ คงไม่เกินความสามารถครับ เริ่มเรียนกวดวิชา แล้วทำโจทย์เยอะๆ คงได้มีเฮครับ

0
hotamaru 23 มิ.ย. 61 เวลา 23:28 น. 3

ตอนนี้ก็น่าจะบริหารเวลาเอาไว้ไปอ่านเนื้อหาวิทย์คณิตแล้วก็เรียนพิเศษสัก 2 วิชา จากวิชาที่จะเพิ่มเข้ามา 4 ตัว คิดในแง่ดีว่ายังไงคนส่วนใหญ่ก็เรียนเอนท์คอร์สเดียวกับเรา แต่ปัญหาคือเนื้อหาคณิตกับเคมีค่อนข้างต้องใช้พื้นฐานม.4 เยอะ น่าจะต้องย้อนไปเรียน เรียนเสร็จกลับมาทำการบ้าน ถ้าไม่มีเวลาวิธีส่วนตัวของผมคืออ่านในรถครับ พวกชีวะ ท่องศัพท์ ดูส่วนที่ไม่เข้าใจ กลับบ้านก็ทำโจทย์ ส่วนพักเที่ยงก็เจียดเวลามาเคลียร์การบ้านหรืออ่านเนื้อหาเอาครับ ถ้าเริ่มตอนนี้วันละ 10 นาทีกว่าจะสอบก็สะสมได้เยอะมากแล้ว

0
กานต์ 23 มิ.ย. 61 เวลา 23:44 น. 4

บอกตามตรง ตอบแบบไม่ใช่โลกสวยนะ คนที่เรียนสาย ศิลป์-ภาษา แล้วมาสอบหมอ ที่สอบได้ จะถึง 1 % หรือไม่เคยมีหรือเปล่าเลย เพราะ

1 ไม่ได้เรียน เคมี ฟิสิกส์ ชีวะ และคณิต(สำหรับวิทย์) มาตลอด6เทอม3ปี แล้วต้องมาอ่านเองหรือไปเรียนติวเพิ่มเองนอกเวลาเรียน ในขณะที่ต้องเรียนวิชาของสาย ศิลป์-ภาษาเอง ไม่ว่าจะเป็นสังคม อังกฤษ และ จีน /ญี่ปุ่น /ฝรั่งเสส /เยอรมัน ที่เลือกเรียนอีก ให้ได้เกรดดีๆ มันจะเยอะไปหมด และจะเรียนทั้งหมดให้ดีได้ดีในเวลาเดียวกันได้หรือ

2 สอบเข้าเรียนหมอ ต้องคนที่เก่งระดับท๊อปๆของโรงเรียนจริงๆเท่านั้นที่จะสอบเข้าได้ ขนาดเด็กเรียนวิทย์-คณิต อย่างเดียว ที่ขยันเรียนทั้งในห้อง และกวดวิชานอกห้อง อีกจำนวนมากที่ยังสอบไม่ติดหมอเลย ตรงนี้เราจะสู้เด็กพวกนี้ได้หรือ

3 ข้อสอบวิชา เคมี ฟิสิกส์ ชีวะ คณิต ที่สอบเข้าหมอ เขาจะออกข้อสอบลึกไปกว่าที่เรียนในม.ปลายมากๆ เพื่อที่จะเป็นตัวคัดเด็กที่เก่งมากๆออกจากกลุ่มเด้กที่เก่งเฉยๆ ไม่ใช่ข้อสอบแบบพื้นๆที่สอบในโรงเรียน กว่าจะได้แต่ละคะแนนจะอยากมากๆ

จริงๆยังมีอีกมาก แต่เอาว่าแค่ 3 ข้อนี้ ก็น่าจะเดาออกว่า ตอนนี้เรียน สายศิลป์-ภาษา แล้ว ม.5 เหลืออีกแค่ 4เทอม 2ปี เราจะทำได้หรือ กลัวอย่างเดียวว่า เราจะหลงทาง เอาทั้ง 2 อย่าง สุดท้าย สอบหมอก็ไม่ได้ สอบของสายศิลป์-ภาษาก็ไม่ได้ จะหลงทางไปเปล่าๆ ที่เหลือคิดเอาเองนะ

3
epmarknewman 25 พ.ค. 63 เวลา 00:11 น. 4-2

ขออนุญาตตอบ เป็นคำตอบที่มาจากสองปีข้างหน้าจากที่คุณโพสต์ ตอนนี้ไม่ทราบได้ว่าจขกท. เป็นอย่างไรบ้าง ไม่รู้ว่าจะซิ่วปี 64 ไหม แต่ถ้ายังมีความหวังหรือสอบติดแล้ว ยินดีและสู้ๆต่อไปนะครับ


ผมขอตอบกระทู้นี้อย่างตรงไปตรงมา ผมรู้สึกว่าความคิดเห็นของคุณค่อนข้างที่จะไปในทางที่ไม่ให้กำลังใจอะไรเลย และเป็นการตอบแบบคนภายนอกมองเข้ามามากเกินไป ไม่มีอะไรที่เกินศักยภาพและความสามารถเด็กหรอกครับ ทุกคนสามารถและมีสิทธิ์เข้าได้กันทั้งนั้น มันอยู่ที่ความชอบ เด็กมีความฝัน เขาแน่วแน่ในเส้นทางนี้ แม้จะเดินผิดสาย แต่ก็ดีกว่าไม่รู้ตัวแล้วไปในทางที่ผิดนะครับ


1. สายศิลป์ที่สอบหมอ มีครับ มีติดกันจริงๆ รุ่นก่อนหน้าผมก็มีศิลป์-ฝรั่งเศสสอบติดแพทย์ศิริราชมาแล้ว และในปัจจุบันก็มีการสอบกันให้เห็นเยอะมาก

2. ตอบประเด็นในข้อที่ 1 ของโพสต์คุณ มันไม่มีอะไรที่เยอะหรอกครับ ผมเองก็เข้าใจถึงประเด็นนั้นได้ดี ผมต้องเรียนบัญชี คอมพิวเตอร์ สารนิเทศ วรรณคดี และต้องอ่านวิทย์เพิ่มเติมไป อีกทั้งคณิตศาสตร์ มันก็สามารถทำได้ครับ ถ้าเรารู้จักบริหารจัดการเวลาในการเรียน วิชาสายศิลป์นี่ก็ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตครับว่าได้เรียน คุณยังไม่รู้ว่าวิชาเหล่านี้หลายอย่างเอื้ออำนวยต่อการอ่านเอง หรือเรียนในห้องได้อยู่แล้ว คุณไม่ต้องคิดแทนเด็กหรอกครับ เด็กเขาจัดการเองได้ ผมเชื่อมั่นแบบนั้น 3. ตอบประเด็นในข้อที่ 2 ของโพสต์คุณ ไม่ใช่เด็กระดับท็อปของโรงเรียนที่จะสอบได้นะครับ ไม่จำเป็นเลย ผมก็ไม่ใช่ด้วยซ้ำ หลายๆคนก็ไม่ใช่ครับ ไม่ได้เป็นคนที่โรงเรียนรู้จัก หรืือยกยอกันบนป้ายมาก่อนเลยก็มี คุณเอาอะไรมาอ้างครับ เด็กที่เป็นตัวท็อปแต่ไม่ได้เตรียมตัวมาก็ตายครับ อีกทั้ง คุณก็ได้ให้กำลังใจเด็กอีกหนึ่งครั้งด้วย ผมอยากจะบอกว่า มันไม่มีอะไรเหนือบ่ากว่าแรงหรอกครับที่จะสู้เด็กวิทย์น่ะครับ ดีเสียอีกที่อ่านหนังสือและทำคะแนนด้วยกัน สอบติดไปด้วยกันจะดีกว่า

4. ตอบประเด็นในข้อที่ 3 ของคุณ ข้อสอบข้อที่ออกเกินมีจริงครับ แต่เป็นของวิชาสังคมเสียมากกว่า วิชาสายวิทยาศาสตร์ถ้าออกเกิน คือออกเน้นศักยภาพการสังเคราะห์ความรู้ของเด็กครับ ถ้าเตรียมตัวมาและคิดวิเคราะห์เป็น ก็สามารถสอบได้และเก็บคะแนนได้สบายๆครับ ข้อสอบไม่ได้ใจร้ายกับเด็กขนาดนั้น อีกทั้งถ้าเราสามารถทำข้อมาตรฐานได้ ข้อที่เน้นการคิดแบบนี้ ก็เพียงออกแรงอีกนิดก็สามารถทำได้ ไม่ได้มีการแบ่งกันเลยครับว่าคนที่ท่องหนังสือมาแรงมากจะตอบได้


สุดท้ายนี้ ในฐานะที่ผมก็ทำสำเร็จมาแล้ว ผมอยากบอกเจ้าของที่ผมก็มิอาจทราบได้ว่าเป็นใคร ว่าเด็กหลายๆคนก็มีความฝันครับ กลับใจ รู้ตัว ดีกว่าลอยไปตามยถากรรมนะครับ อีกทั้งการที่เขามาถามแบบนี้ คุณก็ควรที่จะมีความรู้ในการตอบเพื่อแนะนำ หรือถ้าไม่รู้เลยและจะให้กำลังใจแบบนี้ ก็อย่าเสียเลยดีกว่าครับ


แค่ปีนึง มันก็ยังทันครับ ถ้าใจมันแน่จริง ผมเชื่อว่าทุกคนนั้นทำได้หมด อะไรก็เป็นไปได้ครับ มีเพียงคุณและบางกลุ่มที่ยังมองขีดจำกัดของเด็กสายศิลป์อยู่เท่านั้นเอง


#MarkNewman

0
Fukubid 31 ม.ค. 65 เวลา 00:40 น. 4-3

แล้วหมาที่ไหนจะไปสอบโดยไม่มีความรู้วิดนิดละคะ ก็เรียนพิเศษสิเออ อ่านหนังสือสิ คนพยายามที่จะเก่งทั้งด้านภาษาและวิทยาศาสตร์คือคนที่เก่งและมีความพยายามมากเหมือนกันนะคะ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น