Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อยากติดแพทย์ กสพท. ควรศึกษาหลักเกณฑ์ให้ละเอียดก่อน และวางเป้าหมายไว้

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ใครอยากเข้าเรียนแพทย์ ควรศึกษาว่า กฏกติกา ระเบียบ หลักเกณฑ์ในการรับสมัคร ของสถาบันแพทย์ต่างๆ ว่า ใช้คะแนนวิชาอะไรบ้าง อัตราส่วนหรือสัดส่วนคะแนนแต่ละวิชาเป็นอย่างไร

ปัจจุบันนี้มีหน่วยงานกลางคือ กสพท.ที่คัดเลือกเด็กเข้าเรียนแพทย์ แบบรับทั่วประเทศ มีจำนวนรับมากที่สุด และมีสถาบันแพทย์เข้าร่วมมากที่สุด ถ้าได้คะแนนรวมดีๆ ก็เลือกสถาบันแพทย์ที่ต้องการได้สบาย เลือกได้ 4 อันดับ รู้คะแนนก่อนเลือก แต่ถ้าได้คะแนนรวมไม่ดีมาก ก็ยังสามารถเลือกทันตะ แพทย์เอกชนท้ายตาราง เภสัช และสัตวแพทย์ สถาบันที่คะแนนรองๆลงไปได้อีกด้วย ควรศึกษารายละเอียดจากประกาศ กสพท.ฉบับที่ 1 ฉบับล่าสุด มีกำหนดหลักเกณฑ์ และรายละเอียดไว้ สรุปได้ ดังนี้

1.วิชาเฉพาะ 30%
2.วิชา 7 วิชาสามัญ 70% และแต่ละวิชาต้องได้ไม่น้อยกว่า 30% ถ้ามีวิชาใดวิชาหนึ่งน้อยกว่า 30% หลุดเลย
สัดส่วนคะแนนรายวิชา (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ)เป็น 1 วิทย์ 40% คณิต1/ 20% อังกฤษ 20% ไทย 20% สังคม 20% ปรับเป็น 70% จะได้ (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ)เป็น 1 วิทย์ 28% คณิต1/ 14% อังกฤษ 14% ไทย 7% สังคม 7%
3.โอเน็ตคะแนนรวม ไม่น้อยกว่า 60% ถ้าได้น้อยกว่า หลุดเลย ไม่ใช้กับเด็กซิ่ว
ที่มา http://www9.si.mahidol.ac.th/pdf/cotmes61_01_25600713.pdf

เมื่อดูหลักเกณฑ์แล้ว เด็กควรเก่งทุกวิชา แต่ถ้าจะเน้น ควรเน้นวิชาที่ได้เปอร์เซ็นต์สูงๆ เช่น วิชาเฉพาะ 30% คณิต1/14% อังกฤษ 14% วิทย์ 28% (ฟิสิกส์ 9.33% เคมี 9.33% ชีวะ 9.33%) ส่วนไทย7% สังคม7%ได้สัดส่วนน้อย วิชาละ 7% 2 วิชารวมกันแค่ 14% เท่ากับคณิตหรืออังกฤษ
ตามประสบการณ์ที่เห็นๆมา เด็กที่เก่งคณิต อังกฤษมากๆ จะมีโอกาสสอบติดแพทย์ได้มากที่สุด

เป้าหมายสูง(ไม่บอกต่ำ)ที่ควรทำคะแนนให้ได้ ถึงจะมีโอกาสลุ้นติดแพทย์ กสพท.
1.คะแนนวิชาเฉพาะ 20% ตุนไว้ก่อน (17%-19% ก็มีลุ้น)
2.คะแนน 7 วิชาสามัญ แยกรายวิชา
2.1.-ไทย 80%
2.2.-สังคม 60%
2.3.-อังกฤษ 70%
2.4.-คณิต 60%
2.5.-ฟิสิกส์ 60%
2.6.-เคมี 60%
2.7.-ชีวะ 60%
พวกเด็กที่สอบ 7 วิชาได้คะแนนใกล้เคียงแบบนี้ หรือได้คะแนนน้อยกว่านี้เล็กน้อย จะมีโอกาสติดแพทย์มาก
เด็กกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ส่วนมาก จะสอบผ่านโอเน็ต 60% แน่นอน เด็กธรรมดาส่วนใหญ่จะตกโอเน็ต 60% หรือตกวิชาสามัญ 30% ที่ตกมากที่สุด คือ คณิต รองลงมาคือ อังกฤษ วิทย์ สังคม แต่ถ้าเกิน 30% แต่มีบางวิชาไม่ถึงคะแนนเป้าหมาย เช่น คณิต หรือ อังกฤษ ได้ 30% -40% กว่าๆ ก็มีโอกาสหลุดแพทย์แน่นอน

ที่มา สถิติช่วงคะแนน 7 วิชาสามัญ และจำนวนคนได้คะแนนปี 61 กับปี 60
7 วิชาสามัญปี 61 ช่วงคะแนน เทียบกับปี 60
ภาษาไทย60 ช่วงคะแนน 80.01 – 90.00 3,619 คน/ 90.01 – 100.00 70 คน
ภาษาไทย61 ช่วงคะแนน 80.01 – 90.00 4,695 คน/ 90.01 – 100.00 160 คน ขึ้น
สังคม60 60.01-70.00 1,159 คน/ 70.01-80.00 134 คน/ 80.01-90.00 3 คน
สังคม61 60.01-70.00 4,011 คน/ 70.01-80.00 591 คน/ 80.01-90.00 31 คน ขึ้น
อังกฤษ60 70.01-80.00 3,317 คน/ 80.01-90.00 1,421/ คน 90.01-1000 164 คน
อังกฤษ61 70.01-80.00 3,256 คน/ 80.01-90.00 914 คน/ 90.01-1000 69 คน ลง
คณิต60 60.01-70.00 800 คน/ 70.01-80.00 431 คน/ 80.01-90.00 196 คน 90.01-100 92 คน
คณิต61 60.01-70.00 1,429 คน/ 70.01-80.00 774 คน/ 80.01-90.00 379 คน/ 90.01-100 210 คน ขึ้น
ฟิสิกส์60 60.01-70.00 1,300 คน/ 70.01-80.00 1,288 คน/ 80.01-90.00 568 คน/ 90.01-100 437 คน
ฟิสิกส์61 60.01-70.00 1,021 คน/ 70.01-80.00 877 คน/ 80.01-90.00 258 คน/ 90.01-100 83 คน ลง
เคมี60 60.01-70.00 1,273 คน/ 70.01-80.00 671 คน/ 80.01-90.00 295 คน/ 90.01-100 47 คน
เคมี61 60.01-70.00 1,076 คน/ 70.01-80.00 483 คน/ 80.01-90.00 146 คน/ 90.01-100 15 คน ลง
ชีวะ60 60.01-70.00 2,020 คน/ 70.01-80.00 910 คน/ 80.01-90.00 219 คน/ 90.01-100 7 คน
ชีวะ61 60.01-70.00 1,522 คน/ 70.01-80.00 606 คน/ 80.01-90.00 144 คน/ 90.01-100 7 คน ลง

แสดงความคิดเห็น

>

15 ความคิดเห็น

welcomeeeee 24 ก.ค. 61 เวลา 15:10 น. 1

ปีที่แล้วผมเป็นคนหนึ่งที่ได้ คณิต 30 พอดีเป๊ะๆๆ(เดาทุกข้อ)และฟิสิกส์ 36 (เดาทุกข้อ) นอกนั้น ไทย 82 สังคม 68 เคมี 60 ชีวะ 61.25 อังกฤษ 53.75 ติด เภสัช กสพท ทางภาคเหนือครับ แต่เป้าหมายจริงๆ คืออยากเรียนคณะแพทย์ นี่คือบทเรียนครั้งใหญ่ในชีวิตเลยที่ชะล่าใจคิดว่าอ่านทัน สุดท้ายต้องตัดวิชาที่คิดว่าทำไม่ได้แน่ๆ ออก ผลที่ออกมาก็เป็นแบบนี้ครับ ถ้าผมทำคณิตกับฟิสิกส์ได้ประมาณ 50 คะแนนผมก็ติดแพทย์แล้ว(นี่มันก็แค่ข้ออ้างว่า ถ้า...) สุดท้ายผมตัดสินใจสละสิทธิ์เภสัช เพื่อมาแก้ไขวิชาที่ตัวเองทำไม่ได้และจะปรับปรุงวิชาอื่นๆ ให้ดีขึ้น อยากฝากบอกทุกคนว่า ทุกวิชาสำคัญครับ อย่าทิ้งเด็ดขาด เป้าหมายขอให้มีชัดเจนและตั้งเป้าหมายไว้สูงๆ เลย นะครับ เจอกันคณะแพทย์ ขอนแก่นนะครับ

1
กัลย์ 24 ก.ค. 61 เวลา 18:51 น. 1-1

ขอบคุณมาก ที่เข้ามาบอกเป็นเคสตัวอย่าง 

ปีนี้พลาดไปแล้ว ถือว่าเป็นประสบการณ์ เพราะหลายคนกว่าจะสอบติดแพทย์ กสพท.ไม่ใช่สอบแค่ครั้งเดียวแล้วจะติด บางคนสอบ 2 ครั้งติดแพทย์ บางคน 3 ครั้งติดแพทย์ก็มี 


ปีหน้าไม่มีข้ออ้าง ไม่มีข้อแก้ตัวแล้ว เพราะได้เตรียมตัวเต็มที่ อยู่บ้านอ่านหนังสืออย่างเดียวแล้ว มีเวลามากพอ ตอนนี้มีประสบการณ์มากแล้ว พยายามปิดจุดอ่อน แก้ไขข้อบกพร่อง ขยันมากๆ ใช้เวลาที่มีค่า ให้เป็นประโยชน์ ขยันเสมอต้น เสมอปลาย ถ้าทำเต็มที่แล้ว รับรองประสบความสำเร็จ แน่นอน

0
กัลย์ 24 ก.ค. 61 เวลา 18:38 น. 2

ขออนุญาต ยกตัวอย่างจริงอีกเคสหนึ่ง ตอนแนะนำให้สมัครแพทย์แม่ฟ้าหลวง รอบ 5 ปีนี้ ปี 61


ผู้ถาม สงสัยตรงที่เขาบอกรวมขั้นต่ำวิทย์ 30% เหมือน กสพท.หรือไม่

ผู้ถามได้ ฟิสิกส์ 88 เคมี 92 ชีวะ 24 แบบนี้เรายังสมัครแพทย์แม่ฟ้าหลวงรอบ 5 ได้หรือไม่


ได้ตอบไปว่า กลุ่มสาระวิชา วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ รวมเป็น 1 วิทย์)ไม่ต่ำกว่า 30% เหมือน กสพท.

ฟิสิกส์ 88 เคมี 92 ชีวะ 24 รวมแล้วได้ เกิน 30% แน่นอน แม้ชีวะได้ 24 ต่ำกว่า 30% ก็ไม่เป็นไร

คุณสมบัติผ่านอยู่แล้ว สมัครแพทย์แม่ฟ้าหลวงรอบ 5 ได้อยู่แล้ว


เกิดความสงสัย จึงได้สอบถามไปว่า ถ้าได้คะแนนแบบนี้ ฟิสิกส์ 88 เคมี 92 ชีวะ 24 ทำไม่ถึงหลุด กสพท.ได้อย่างไร


ผู้ถามตอบว่า ตอนเลือก 4 อันดับ กสพท.61 ได้เลือกแพทย์ top3 ไป 3 อันดับ แล้วปิดท้ายอันดับ 4 ด้วยแพทย์ มช. ผลก็คือ หลุดหมดทั้ง 4 อันดับเลย รอบแรกแพทย์ มช.คะแนนต่ำสุด 62.64 ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะมีรอบ 3/2 จึงได้ยืนยันรอบ 3/1 คณะอื่นไปแล้ว จึงไม่ได้ยื่นรอบ 3/2 แพทย์ มช.ทั้งๆที่ คะแนนรวมได้มากกว่าคะแนนสูงสุดที่ แพทย์ มช.เรียกไปสัมภาษณ์ รอบ 3/2 (คะแนนสูงสุดแพทย์ มช.60.83 คะแนนต่ำสุด 59.62) เพราะใจผู้ถามอยู่ที่จุฬา แล้วอยากจะซิ่วให้ได้ เลยบอกกรรมการว่าช่วยปรับให้ตกสัมภาษณ์ไปเลย อยากจะซิ่วสอบแพทย์ กสพท.ใหม่ ท่านกรรมการก็เมตตาปรับให้ตกสัมภาษณ์จริงๆ ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่า ควรยื่นแพทย์แม่ฟ้าหลวงรอบ 5 ดีหรือไม่ เพราะใจลึกๆ อยากได้แพทย์จุฬามาก ผู้ถามบอกว่า ถ้าซิ่วใหม่คิดว่าได้แน่นอน แต่ที่บ้านดูไม่เห็นชอบด้วย อยากให้ติดๆไปตั้งแต่ปีนี้เลย แล้วสอบถามว่า ควรยื่นแพทย์แม่ฟ้าหลวงรอบ 5 ดีหรือไม่ หรือซิ่ว ยอมทนแรงกดดันจากทางบ้าน เครียดมากเลยตอนนี้


ได้ตอบไปว่า ความเห็นส่วนตัวเห็นว่า ถ้าได้คะแนนฟิสิกส์ 88 เดาว่า คณิตก็น่าจะได้คะแนนดีด้วย เคมีก็ดีมาก

ส่วนวิชาท่องจำ เช่น อังกฤษ ไทย สังคม ไม่น่าจะดี ถ้าเก่งคณิตย่อมได้เปรียบ มีโอกาสติด กสพท.มาก

วิชาท่องจำ น่าจะเป็นจุดอ่อน ถ้าซิ่วสอบใหม่ ยังมีระยะเวลา ปรับปรุง แก้ไข ปิดจุดอ่อนได้ ฝึกทำข้อสอบเก่ามากๆ ก็มีโอกาสติดแพทย์จุฬา กสพท.ปีหน้าตามที่ต้องการ


ไม่ควรยื่นสมัครแพทย์ มฟล.กสพท.รอบ 5 ควรอยู่บ้านอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบ ยอมเสียเวลา 1 ปี ถ้าติดแพทย์ตามที่ต้องการ ก็ถือว่าคุ้มค่ามากแล้ว


และปีนี้การเลือก 4 อันดับ กสพท. รู้คะแนนก่อนเลือก ก็ไม่น่าจะเกิดความผิดพลาดมาก ถ้าได้คะแนนรวม 62.กว่าๆ น่าจะเลือกแพทย์จุฬา อันดับ 1 เสี่ยงวัดดวงได้เพียงอันดับเดียว อันดับ 2 เลือกสถาบันที่ชอบรองลงมา ส่วนอันดับ 3-4 ต้องหวังผลติด ปีนี้มีประสบการณ์มากพอแล้ว ปีหน้าสอบใหม่ ไม่น่ามีปัญหาเรื่องนี้ เพราะเป็นเด็กเก่งมีความสามารถมากอยู่แล้ว เด็กเก่งเลือกได้


ควรอธิบายให้ทางบ้านเข้าใจว่า เรามีความมั่นใจ มีความตั้งใจจริงๆ ขยันอ่านหนังสือ เมื่อทางบ้านเห็นด้วย ก็จะเป็นแรงใจ กำลังใจ สนับสนุนการซิ่วสอบใหม่ ให้ประสบความสำเร็จได้ คิดว่าทางบ้านต้องให้การสนับสนุนอยู่แล้ว


ผู้ถามได้ตอบว่า ขอบคุณที่ชี้แนะจริงๆ เป็นประโยชน์มากเลย และไปได้คุยปรึกษากับทางบ้านแล้ว กว่าจะคุยได้ซิ่วสมใจ ต้องใช้เวลานาน ตอนนี้ทางบ้านให้ซิ่วแล้ว


ตอนท้ายได้บอกให้เป็นข้อเตือนใจให้ระมัดระวังทุกวิชา ผู้ถามที่ไม่ติดแพทย์ กสพท.ทั้ง 4 อันดับเลย เพราะได้คะแนนวิชาเฉพาะต่ำมากๆๆ ผลถึงเป็นแบบนี้


ส่วนตัวพบเคสตัวอย่างแบบนี้มาเยอะ ขอทำนายว่า กสพท.62 เด็กเก่งมากคนนี้สอบติดแพทย์ ท๊อป 3 อย่างแน่นอน เพราะมีประสบการณ์มากขึ้นแล้ว


ที่มา https://www.dek-d.com/board/view/3861618/

0
กัลย์ 24 ก.ค. 61 เวลา 19:53 น. 3

แถมให้ น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่รู้จักใช้ จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาค้นหาอีก


ค่าเฉลี่ย / ค่า SD ของ 7 วิชาสามัญ ปี 60 กับปี 61

ภาษาไทย เฉลี่ย /sdปี60 58.19 / 13.52 / เฉลี่ย /sdปี61 56.52 / 14.09 / ขึ้น

สังคม เฉลี่ย sd60 33.77 / 9.60 / เฉลี่ย sd61 36.59 / 11.86 / ขึ้น

อังกฤษ เฉลี่ย sd60 35.70 / 14.77 /เฉลี่ย sd61 34.14 / 14.75 / ลดลงน้อย

คณิต เฉลี่ย sd60 24.04 / 11.28 /เฉลี่ย sd61 26.96 / 12.76 / ขึ้น

ฟิสิกส์ เฉลี่ย sd60 29.44 / 14.56 /เฉลี่ย sd61 26.95 / 12.60 / ลดลง

เคมี เฉลี่ย sd60 27.34 / 12.34 / เฉลี่ย sd61 27.43 / 11.25 / ลดลง

ชีวะ เฉลี่ย sd60 31.17 / 12.04 / เฉลี่ย sd61 28.80 / 11.16 / ลดลง


สรุป ปี 61 เทียบกับปี 60 ไทย สังคม คณิต ขึ้น ส่วนอังกฤษ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ลง


ลองเปรียบเทียบ ค่าเฉลี่ย/ค่า SD ก็จะรู้ว่า ปี61 คะแนนวิชาเฉพาะลดลงน้อยกว่า ปี60 มาก

.......ปี 58 เฉลี่ย/SD....ปี 59 เฉลี่ย/SD.....ปี 60 เฉลี่ย/SD.....ปี 61 เฉลี่ย/SD

ฉบับ1 38.72/11.01.......32.90/10.34........ 46.72/12.80........38.26/11.31

ฉบับ2 48.39/ 9.15........44.67/7.88...........41.13/ 8.04..........36.71/ 7.38

ฉบับ3 72.07/23.65.......80.15/15.91........72.61/23.15..........83.44/13.06

รวม....15.91/36.13....15.76/26.29......16.04/35.36.......15.82/23.51

ตัวเลขหน้าทับ คือค่าเฉลี่ย ส่วนตัวเลขหลังทับ คือค่า SD


ถ้าดูปีนี้ปี 61 เปรียบเทียบกับปีที่แล้วปี 60 ค่าเฉลี่ยวิชาเฉพาะปี 61 ลดลง จากปี 60 16.04 เหลือ 15.82

ค่า SD วิชาเฉพาะก็ลดลง จากปี 60 35.36 เหลือ 23.51

แสดงว่า คนส่วนใหญ่ได้คะแนนวิชาเฉพาะปี 61 เกาะกลุ่มกันอยู่ในช่วง 14/15/16/17 ซึ่งน้อยกว่าปี 60 มาก


ฉะนั้น ปี 61 คนที่ได้คะแนนวิชาเฉพาะตั้งแต่ 18 ขึ้นไป จะได้เปรียบมากกว่าคนส่วนใหญ่ ถ้าได้คะแนน 7 วิชาดีๆ ก็มีโอกาสติดแพทย์มากกว่าคนอื่นๆ แต่ปี 62 ก็ต้องดูใหม่อีก ไม่แน่นอน แล้วแต่ข้อสอบวิชาเฉพาะจะออกง่ายหรือยาก เช่น ปี60 ออกง่าย คะแนนเลยเฟ้อ คะแนนรวม 63.0 ไม่ติดแพทย์ ม.รัฐรอบแรก 

พอปี61 ออกยาก คะแนนลดลง คะแนนรวม 60.07(มทส.) ติดแพทย์ ม.รัฐ รอบแรก พอรอบ 2 คะแนนรวม 59.43 ยังติดแพทย์ ม.รัฐ(วพม.ช.)


0
กัลย์ 25 ก.ค. 61 เวลา 09:20 น. 4

ตอนนี้สอบกลางภาค 1 ไปแล้ว บางโรงเรียนใช้เกณฑ์ต่ำกว่า 50% หรือบางโรงเรียนใช้เกณฑ์ต่ำกว่า 60% ให้ตก ต้องสอบซ่อมใหม่ ถ้าเราสอบตกบางวิชาที่โรงเรียน แสดงว่าเราอ่อนวิชานั้นๆ ควรแก้ไขจุดอ่อนโดยไปเรียนพิเศษวิชานั้นเพิ่มเติม เพื่อให้เข้าใจวิชานั้นมากยิ่งขึ้น เพราะขนาดข้อสอบของโรงเรียน(ยกเว้นเตรียมอุดมฯ)ง่ายกว่าข้อสอบ 7 วิชาสามัญ เรายังสอบตก ก็แสดงว่าเราอาจจะทำข้อสอบ 7 วิชาสามัญในวิชานั้นๆได้ไม่ดี ก็ได้  


เพราะถ้าเราได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ต้องได้คะแนนวิชาสามัญ 60% ขึ้นไป ยกเว้นอังกฤษ 70% ไทย 80% ถึงจะมีลุ้นติดแพทย์ได้ การเรียนพิเศษยังเป็นการเพิ่มเกรดที่โรงเรียนได้ด้วย และเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสอบ 7 วิชาสามัญ ตอนปลาย ม.6 ได้ด้วย


ถ้าสนใจรายละเอียด ลองติดตามอ่านบทความเก่า คำแนะนำผู้ปกครองและเด็ก ม.4-5 ที่อยากติดแพทย์ กสพท. ที่เคยเล่าไปแล้ว ตามลิงค์นี้  https://www.dek-d.com/board/view/3644839/


ปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนระบบใหม่แล้ว ไม่มีการตระเวณเดินทางไปสอบตรงแบบทั่วประเทศหลายๆสนามสอบแล้ว มีแต่ระบบ TCAS รอบ1 รอบพอร์ตฯ รอบ2 โควตาพื้นที่ รอบ 3 กสพท. รอบ 4 แอดมิสชั่น 

รอบ5 รับตรงอิสระ ไม่มีการสอบสนามข้างล่างแล้ว

-สนามแรกแพทย์ขอนแก่น

-สนามที่สองแพทย์ ม.บูรพา 2 โครงการ

-สนามที่สามแพทย์จุฬา 4 โครงการ


ส่วนวิชาเฉพาะแพทย์ ถ้าไม่มีเงินก็ไม่จำเป็นต้องเรียนพิเศษก็ได้ แต่ต้องซื้อหนังสือวิชาความถนัดแพทย์ของสำนักพิมพ์ต่างๆ ที่ดีๆ มาอ่านเอง และฝึกทำข้อสอบเก่าเองได้ เช่น สำนักพิมพ์ " The Books "


กสพท.ระบบเดิม "เลือก 4 อันดับก่อนรู้คะแนน" ระบบใหม่ กสพท.61 "รู้คะแนนก่อนเลือก 4 อันดับ"


2
กัลย์ 25 ก.ค. 61 เวลา 10:33 น. 4-1

ใหม่กว่าลิงค์ข้างบน https://www.dek-d.com/board/view/3783454/


ลองพิจารณาเลือกอ่านบทความดีๆ คิดว่าน่าจะ นำความรู้ดังกล่าวมา ปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ในการเตรียมตัวสอบได้


https://www.dek-d.com/board/view/3859077/ จากเด็กติดเกม สู่แพทย์ศิริราช

https://www.dek-d.com/board/view/3845517/ รีวิวเตรียมตัวสอบ+หนังสือ+ที่เรียน สอบเข้ากลุ่มแพทย์ ทำตามนี้จริงไม่ติงนัง!!!

https://www.dek-d.com/board/view/3843802/ ฟิต 1 ปี เข้าหมอได้ [แนะนำการเตรียมตัวสอบ 9 วิชาสามัญ] by Youngdreamer60

https://www.dek-d.com/board/view/3843297/ สอบหมออ่านเอง ไม่เรียนพิเศษ (รีวิววิธีการอ่านและหนังสือ)

https://www.dek-d.com/board/view/3842905/ พิชิต GAT ไทย 150 คะแนนเต็ม!! แบบไม่เรียนพิเศษ

https://www.dek-d.com/board/view/3842206/ รีวิวการเตรียมสอบ 9วิชาสามัญ ได้คะแนนรวมกสพท 80++

https://www.dek-d.com/board/view/3839657/ วิธีท่องศัพท์ให้ได้คะแนน TCAS GAT ENG 110+ ฉบับคนขี้เกียจและติดโทรศัพท์(มาก)

https://www.dek-d.com/board/view/3839818/ อ่านเองยังไงให้ได้ GAT 280+ และ PAT1 220+

https://www.dek-d.com/board/view/3839910/ รีวิวหนังสือ+การเตรียมสอบ GAT ฉบับคนได้ 290/300 คะแนน (เตรียมตัวเองทั้งหมด)

https://www.dek-d.com/board/view/3717344/ รีวิวแบบไม่กั๊ก!!! นส.สอบ+ที่เรียน+วิธีเรียน ให้ติดหมอฬ

https://www.dek-d.com/board/view/3836363/ อยากฝากถึงน้องๆ #dek62 ด้วยความเป็นห่วงจากพี่ #dek61

https://www.dek-d.com/board/view/3835843/ [รีวิว]มหากาพย์การสอบของ#dek61 ที่ #dek62อาจต้องเจอ!

https://www.dek-d.com/board/view/3835781/ ส่องบทความ ENG วิชาสามัญ 61 พิมพ์เหมือนกลัวกระดาษว่าง!

https://www.dek-d.com/board/view/3835715/ รีวิวยื่นหมอรอบ portfolio โดยใช้ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ

https://www.dek-d.com/board/view/3835590/ แชร์คำตอบ สังคม สามัญ มีนา'61 ด่วนๆ!!! อยากรู้จขกท.จะเดาถูกบ้างไหม T_T

https://www.dek-d.com/board/view/3835553/ แชร์คำตอบ ไทย 9 วิชาสามัญ มีนา'61 ด่วนๆ!!! ง่ายยากอึดตะปือนัง!?

https://www.dek-d.com/board/view/3834666/ รวมข้อควรระวังตอนทำข้อสอบวิชาสามัญ (ครบทุกวิชา)

https://www.dek-d.com/board/view/3833743/ (ด้วยความหวังดีถึงอยากให้อ่าน) ถึงเด็ก 62 และเด็กรุ่นต่อ ๆ ไป

https://www.dek-d.com/board/view/3833416/ พาไปทัวร์ข้อสอบวิชาสามัญ "ไทย สังคม อังกฤษ" โค้งสุดท้ายแล้ว!!

https://www.dek-d.com/board/view/3832933/ แชร์ทริกเลือกคำตอบ "พาร์ทจริยธรรม กสพท" ข้อสอบที่ดูเหมือนง่าย แต่มึนตึ้บกัน!

https://www.dek-d.com/board/view/3832204/ ถึงน้องๆ #dek62 กับการเตรียมตัวระยะเผาขน

https://www.dek-d.com/board/view/3832077/ แชร์คำตอบ ONET ไทย มีนา'61 ด่วนๆ!!! ออเจ้าตอบเหมือนข้าหรือไม่?!

https://www.dek-d.com/board/view/3831883/ แชร์คำตอบ Eng Onet 61

https://www.dek-d.com/board/view/3831909/ มีใครสงสัยกับคำตอบของวิชาสังคมโอเน็ตมั้ยครับ #dek61

https://www.dek-d.com/board/view/3831900/ ขอร้องให้ สทศ. พิจารณาข้อสอบวิชาสังคม ที่ถามว่า "บุคคลใดห้ามบวชเด็ดขาด" และข้อร้องให้ขอนี้ฟรีครับ

https://www.dek-d.com/board/view/3831835/ แชร์คำตอบ ONET สังคม มีนา'61 ด่วนๆ!!! จำคำถามรอหาคำตอบ

https://www.dek-d.com/board/view/3831810/ โน้ตสรุปเนื้อหา ONET และ 9 วิชาสามัญ ก่อนสอบที่ไม่ควรพลาด!

https://www.dek-d.com/board/view/3831138/ เทคนิคพิชิต 100 คะแนน [คณิต] 9 วิชาฯ

https://www.dek-d.com/board/view/3829924/ เตรียมพร้อมสอบเข้าเเพทย์#dek63

https://www.dek-d.com/board/view/3829730/ เด็กซิ่ว กสพท.ไม่จำเป็นต้องเรียนพิเศษวิชาเฉพาะ

https://www.dek-d.com/board/view/3829446/ รีวิวจัดเต็ม การสอบ GAT Eng พร้อมเทคนิคการทำข้อสอบแบบละเอียดทุกพาร์ท

https://www.dek-d.com/board/view/3827686/ เส้นทางการเป็นหมอพิชิตข้อสอบ กสพท.

https://www.dek-d.com/board/view/3827787/ รวมพาร์ทเก็บคะแนน "วิชาเฉพาะแพทย์" มาบอกเพื่อนๆ

https://www.dek-d.com/board/view/3826197/ สอบแพทย์กสพท.สำหรับผู้ที่เรียนจบแล้ว

https://www.dek-d.com/board/view/3823715/ เส้นทางสู่อาชีพหมอ ฉบับพกพา

https://www.dek-d.com/board/view/3786094/ รีวิวชีวิตการเตรียมสอบแพทย์ ที่มีอะไรมากกว่าการนั่งอ่านหนังสือ 5

https://www.dek-d.com/board/view/3786091/ รีวิวชีวิตการเตรียมสอบแพทย์ ที่มีอะไรมากกว่าการนั่งอ่านหนังสือ 4

https://www.dek-d.com/board/view/3786089/รีวิวชีวิตการเตรียมสอบแพทย์ ที่มีอะไรมากกว่าการนั่งอ่านหนังสือ 3

https://www.dek-d.com/board/view/3786087/ รีวิวชีวิตการเตรียมสอบแพทย์ ที่มีอะไรมากกว่าการนั่งอ่านหนังสือ 2

https://www.dek-d.com/board/view/3786084/ รีวิวชีวิตการเตรียมสอบแพทย์ ที่มีอะไรมากกว่าการนั่งอ่านหนังสือ 1

https://www.dek-d.com/board/view/3818089/ แชร์ประสบการณ์การเตรียมตัวสอบกสพท.ฉบับเร่งด่วน

https://www.dek-d.com/board/view/3818105/ ​แนะนำการเตรียมตัวสอบกสพท.

0
กัลย์ 26 ก.ค. 61 เวลา 10:42 น. 4-2

ข้อมูลที่ลิงค์แนะนำมาให้ทั้งหมด เป็นคำแนะนำจากประสบการณ์ของเด็ก กสพท.61 ปีล่าสุด


ข้อมูลต่างๆ จึงทันสมัยมากและเป็นประสบการณ์จริงๆ ซึ่งเป็นปีแรกที่ กสพท.เข้าร่วมกับระบบ TCAS รอบ 3 และเป็นปีแรกที่ กสพท.ใช้ระบบ เลือก 4 อันดับหลังรู้คะแนนแล้ว (เดิมเลือก 4 อันดับก่อนสอบ ก่อนรู้คะแนน) 


เทคนิคและการเตรียมตัวสอบ จึงได้มาจากประสบการณ์จริงของเด็กเก่ง เด็กเก่งมาก ที่สอบติดแพทย์ปี61 ปีล่าสุด คิดว่า หวังว่า เด็กน่าจะนำข้อมูลดีๆ นำมาปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ได้อย่างมาก เพื่อที่จะได้เตรียมตัวสอบเข้าแพทย์ กสพท.62 ให้ได้คะแนนดีๆ ให้ได้คะแนนสูงๆ และประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่หวังไว้

0
บุญน้อย 27 ก.ค. 61 เวลา 10:53 น. 5

นอกจากที่อากัลย์บอกเล่าตามนั้นแล้ว คนที่จะสอบปี62 ตัองหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง การเพิ่มค่าปรับของแพทย์ที่คิดจะหนีทุนด้วย ปี62เขาเพิ่มค่าปรับจาก4แสนเป็นหลักล้านแน่ ยังไม่สรุปแน่นอน แต่เห็นข่าวว่าจะปรับ5ล้าน ดังนั้นถ้าอยากเป็นหมอด้วยใจจริง ไม่คิดหนีทุน ต้องเตรียมพร้อมที่จะใช้ทุนให้ครบ3ปีด้วย อีกอย่างการหาคนคํ้าประกัน คงไม่ง่ายแล้ว ก่อนนี้4แสนนิดๆเอง แต่ต่อไปต้องจ่ายค่าปรับเป็นล้าน คนคํ้าคงลำบากใจมาก เพราะถ้าผู้เรียนหนีทุนขึ้นมา แล้วโดนฟ้องไม่ยอมจ่ายค่าปรับ เขาเรียกเอาจากผู้คํ้าประกันได้โดยตรง เฉกเช่น กรณีตัวอย่างคุณครูวิภา(คํ้าประกันเงินกู้ กยศ.ให้ลูกศิษย์) คนดีที่หายากมาก โดนยึดทรัพย์ปวดหัวอยู่เวลานี้เลย

1
maya 27 ก.ค. 61 เวลา 15:35 น. 5-1

ปัจจุบันคนค้ำประกันสัญญาใช้ทุน เค้ากำหนดให้พ่อแม่หรือ ผปค เป็นคนเซ็นต์ค้ำประกันเองโดยตรงแล้วค่ะ เรียกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นมาพ่อแม่ ผปค ต้องรับผิดชอบลูกเองค่ะ

0
Ameriey-7993 27 ก.ค. 61 เวลา 12:20 น. 6

ได้ความรู้เยอะเลยค่ะ แต่ถ้าบุคคลไหนอยากเป็น

แพทย์ แต่ไม่สนหลักวิชาการแพทย์พื้นฐาน ก็ไม่

รอด ชึ่งบุคคลที่อยากเป็นจริงๆ ควรไปหาชื้อหนัง

สือแพทย์เฉพาะทาง มีทั้งแบบแปลไทย แนววิชา

เฉพาะสายว่าต้องเรียนอะไร วิชาไหน ทำไมดิฉัน

มักจะแนะนำหนังสือเป็นหลัก เพราะอุปกรณ์มือถือ

สมาร์ทโฟนหรือคอมสามารถเกิดปัญหา เฉพาะ

หน้าขึ้นมาได้ แต่หนังสือมีปัญหาคือต้องดูแลให้ดี

เพราะมันคือวิชาความรู้ของตัวคุณเอง


ป.ล. ความรู้สามารถพลิกแพลงได้ แต่จะมีสักกี่คน

ที่สามารถพลิกแพลงความรู้ ได้เท่าที่ตนต้องการ


0
กัลย์ 27 ก.ค. 61 เวลา 13:07 น. 7

เรื่องน่ารู้สำหรับเด็กที่อยากจะเรียนแพทย์

1. นักศึกษาแพทย์

ทุกอาชีพและทุกวิชาชีพเริ่มต้นจากการเป็นนักเรียนก่อนเสมอ วิชาชีพแพทย์ก็เหมือนกันครับ จุดเริ่มต้นคือการเป็นนักศึกษาแพทย์(นศพ.) ก่อน 6 ปี


ช่วง 3 ปีแรกจะเรียนภาคทฤษฎี มีภาคปฏิบัติน้อยมาก(แต่ขึ้นอยู่กับสถาบันแต่ละแห่ง)

ปีที่ 4 - 6 นั้นจะเริ่มปฏิบัติงานบนหอผู้ป่วยของโรงพยาบาลของรัฐที่ตนสังกัดอยู่เช่น รพ.รามาธิบดี, รพ.ศิริราช, รพ.จุฬาลงกรณ์ หรือรพ.ราชวิถี(นักศึกษาแพทย์ของม.รังสิต) เป็นต้น


จุดสังเกตของน้องๆนักศึกษาแพทย์กลุ่มนี้คือ ดูหน้าก็รู้ว่าเป็นนักศึกษา แต่พวกเขาจะใส่เสื้อกาวน์ยาว

แขนสั้น คลุมชุดนักศึกษาที่อยู่ข้างในอีกทีนึง (ร้อนมาก) กระเป๋าเสื้อจะมีปักคำว่า "นศพ." นำหน้าชื่อ สีของชื่อใช้สีเขียว เนื่องจากเป็นสีสัญลักษณ์ของแพทย์นั่นเอง


เครื่องแบบ นศพ.ปีต่างๆ อาจจะแตกต่างกันตามสถาบัน

นักศึกษาแพทย์ปี 6 จะมีคำเรียกเฉพาะ คือ เอ๊กซ์เทริ์น (Extern) จะใส่เสื้อกาวน์สั้นระดับสะโพกเท่านั้น และจะไม่มีคำว่า นศพ.นำหน้าชื่อแล้ว แต่ก็ไม่มี "นพ. พญ." นำหน้า เพราะยังถือว่าเป็นนักศึกษาอยู่

เสื้อกาวน์สั้นที่จะได้เริ่มใส่ตั้งแต่เป็น Extern


2. แพทย์ใช้ทุน (อินเทริ์น , Intern)

หลังจากที่เรียนจบ ก็ถึงเวลาออกไปทำงานกันแล้ว ใครที่จบจากโรงเรียนแพทย์ของรัฐ ถือว่าติดหนี้ค่าเทอมที่รัฐบาลช่วยเหลือ ต้องออกไปเป็นแพทย์ใช้ทุนที่ต่างจังหวัด คือ เป็นหมอเต็มตัวแล้ว สอบอะไรผ่านหมดแล้ว ได้ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมแล้ว (ไม่ใช่ใบประกอบโรคศิลปะ) เป็นช่วงที่ออกไปฝึกหาประสบการณ์ทำงานแบบบินเดี่ยวมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ยังมีอาจารย์แพทย์ และแพทย์ใช้ทุนรุ่นพี่ คอยดูแล คอยให้คำปรึกษา

โดยทั่วไปการ intern นี้กินเวลา 3 ปี แต่บางคนอาจจะออกมาก่อน น้องๆพวกนี้ที่สังเกตได้ คือ ใส่เสื้อกาวน์สั้น ที่เสื้อมีปักชื่อ นพ. และพญ. กันเรียบร้อย เพราะหน้าตาอาจจะดูเด็ก แต่เขาคือแพทย์เต็มตัวแล้ว มีความรู้ความสามารถและเจตคติความเป็นแพทย์ครบครัน แต่เป็นช่วงฝึกความชำนาญในการตรวจให้มากขึ้น


ระบบการใช้ทุนอีกอย่างหนึ่งก็คือ เป็นใบเบิกทางสู่การเรียนต่อเฉพาะทาง โดยส่วนมากการเรียนต่อเฉพาะทางในแต่ละสาขา ส่วนใหญ่แพทย์ผู้สมัครเรียนจะต้องมีประสบการณ์ใช้ทุนมาก่อนอย่างน้อย 1 ปี บางสาขาต้องใช้ทุนครบ 3 ปี แต่บางสาขาซึ่งเป็นสาขาขาดแคลน ไม่จำเป็นต้องใช้ทุนมาก่อนก็ได้


ส่วนแพทย์ที่จบจากสถาบันเอกชน สมัยก่อนมีม.รังสิตแห่งเดียว ขณะนี้เปิดแล้วอีก 1 แห่ง คือ แพทย์สยาม พวกนี้ไม่ได้ติดหนี้ของรัฐบาล เพราะโดนค่าหน่วยกิตแพงไปเต็มๆ เพราะฉะนั้น เมื่อจบออกมาก็ไม่มีภาระหนี้ที่จะต้องไปใช้ทุนคืน แต่ก็สามารถสมัครเป็นแพทย์เพิ่มพูนทักษะ ร่วมกับแพทย์ ม.รัฐใช้ทุนได้ตามปกติ เพียงแต่จะเรียกว่าโครงการเพิ่มพูนทักษะ ซึ่งเป็นแค่คำที่ต่างกัน แต่ทำหน้าที่เหมือนกับแพทย์ใช้ทุนทุกประการ เพราะ คำว่าแพทย์ใช้ทุนกับแพทย์เพิ่มพูนทักษะ ก็คือ แพทยประเภทเดียวกัน เพียงแต่แพทย์เพิมพูนทักษะ ไม่ได้ถูกบังคับ เป็นด้วยความสมัครใจ เพื่อมีประสบการณ์การทำงานแพทย์ในโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่จะสมัคร เข้าเรียนแพทย์เฉพาะทางได้ ส่วนใหญ่แล้วแพทย์ใช้ทุนจะไปทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลในต่างจังหวัด แต่ก็มีโรงพยาบาลในกรุงเทพบางแห่ง ที่รับสมัครแพทย์ใช้ทุนก็มี


3. แพทย์ประจำบ้าน (เรสซิเด้นท์ , Resident)

คือแพทย์ที่เรียนจบแล้ว และตัดสินใจกลับมาเรียนต่อแพทย์เฉพาะทางในสาขาที่ตนสนใจ หรือเรียกง่ายๆว่ามาเรียนต่อเฉพาะทางนั่นเอง แพทย์กลุ่มนี้คือ แพทย์เต็มตัวเช่นกัน เพียงแต่เขากลับมาสู่ระบบการเรียนอีกครั้งหนึ่ง โดยที่ยังมีความเป็นแพทย์อยู่ครบครัน แต่จะเห็นบ่อยๆว่า ถูกอาจารย์ตำหนิเรื่องความรู้บ้าง อะไรบ้างบ่อยๆ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เก่ง หรือไม่รู้อะไร เพียงแต่มันคือกระบวนการหล่อหลอม เพื่อไปสู่ความเป็นเฉพาะทาง การเรียน การสอนจะเข้มงวดกว่าเป็นนักศึกษาแพทย์มาก จะพบเห็นแพทย์กลุ่มนี้ในโรงเรียนแพทย์ และโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ใส่เสื้อกาวน์สั้น มีตราประจำโรงพยาบาล มีคำว่า "นพ. พญ." นำหน้า โดยทั่วไปการอบรมแพทย์ประจำบ้าน ใช้เวลา 3 - 4 ปี แล้วแต่สาขา


ที่มาที่ไปของคำว่าแพทย์ประจำบ้าน เพราะว่า แพทย์ที่มาเรียนส่วนใหญ่จะต้องใช้ชีวิต 90% อยู่ในบ้าน(โรงพยาบาล)ของตัวเอง เลยถูกเรียกว่า resident หรือแพทย์ประจำบ้าน (อ้างอิงจาก wikipedia)


4. แพทย์ประจำบ้านต่อยอด (เฟลโล่ชิป , Fellowship)

คือแพทย์ประจำบ้านที่จบการเรียนต่อเฉพาะทางแล้วสาขาใดสาขาหนึ่ง แต่ในสาขานั้นๆยังคงมีเจาะลึกลงไปอีกเป็นระบบๆ ตัวอย่างที่เห็นชัดที่สุดคือ สาขาอายุรศาสตร์ มีสาขาต่อยอดขึ้นไปอีก เช่น อายุรศาสตร์โรคหัวใจ อายุรศาสตร์โรคทางเดินอาหาร เป็นต้น การเรียนต่อยอดนี้ เป็นสิ่งที่มีเฉพาะในโรงเรียนแพทย์ทั้งในกรุงเทพ และส่วนภูมิภาคเท่านั้น สุดท้ายแล้วเมื่อจบการเป็น fellowship ก็เรียกว่าเฉพาะทางของเฉพาะทางแล้ว ที่เราเคยได้ยินกันบ่อยๆ เช่น หมอโรคหัวใจ หมอโรคระบบทางเดินอาหาร เป็นต้น อันนี้คือผ่านการเป็น fellowship แล้ว โดยทั่วไปการเป็น fellowship ใช้เวลา 2 - 3 ปีแล้วแต่สาขา


5. อาจารย์แพทย์

คือจุดสูงสุดในวิชาชีพแพทย์แล้ว แต่ต้องเป็นอาจารย์ในโรงเรียนแพทย์ของรัฐบาลเท่านั้น ที่เรียกว่า "อาจารย์จริงๆ"


สรุปก็คือ นักศึกษาแพทย์ --> แพทย์ใช้ทุน --> แพทย์ประจำบ้าน --> แพทย์ประจำบ้านต่อยอด --> อาจารย์แพทย์


กรณีรพ.เอกชน

คุณหมอทุกคนไม่ว่าจะจบใหม่ ใช้ทุนมากี่ปี ไม่ได้เรียนต่อเฉพาะทาง หรือเป็นเฉพาะทางจริงๆ ก็จะถูกเรียกว่า "อาจารย์" ทั้งหมด


ในปัจจุบันนี้มีคุณหมอหลายคนที่เพียงพอกับชีวิตแล้ว และไม่เรียนต่อเฉพาะทาง ก็มาทำงานเป็น"แพทย์ทั่วไป" ตามรพ.ต่างๆ แพทย์ทั่วไปนี้ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า General Practitioner ย่อๆว่า GP แต่ก็ยังมีคนทั่วไปอีกมาก ที่ไม่รู้จักคำคำนี้ หลายคนจะเข้าใจว่า GP นี้คือ "แพทย์อายุรกรรมทั่วไป" ซึ่งไม่ใช่ แพทย์อายุรกรรมทั่วไปต้องจบเฉพาะทางสาขาอายุรศาสตร์มาแล้ว แต่ยังไม่ได้เป็น fellowship ต่อยอดขึ้นไป


คุณหมอ GP เหล่านี้ จะเป็นที่คุ้นเคยกันดีตาม รพ.เอกชนที่รับบัตรทอง และ ประกันสังคม บทบาทของพวกเขาคือ ตรวจรักษาทุกอย่างที่ไม่ซับซ้อนได้ทั้งหมด ส่วนอะไรที่เกินขีดความสามารถ เช่น คนไข้ต้องผ่าตัด


อ่านมาถึงตรงนี้ หลายๆคนอาจจะสังเกตุว่า ผมไม่ได้เอ่ยถึง "แพทย์ฝึกหัด" เพราะในความเป็นจริงแล้ว คำว่าแพทย์ฝึกหัด มันไม่ได้บ่งบอกอะไรเลยว่า คุณหมอคนนั้นอยู่ในขั้นไหน ถ้าจะมองๆ ก็น่าจะอยู่ที่แพทย์ใช้ทุนหรือไม่ก็แพทย์ประจำบ้าน ซึ่งมันก็ไม่สามารถบอกอะไรได้ เพราะงั้นเพื่อความง่าย เลยเสนอว่าถ้าจะหาคำที่ใช้เรียกคุณหมอเหล่านั้น ก็เรียกไปเลยว่า แพทย์ใช้ทุน(intern) หรือแพทย์ประจำบ้าน (resident) ไปเลย มันจะง่ายกว่า


ที่มา http://knowdocth.blogspot.com/p/blog-page_28.html


0
กัลย์ 27 ก.ค. 61 เวลา 13:11 น. 8

ไม่อยากให้กระทู้นี้เป็นกระทู้วันเวย์ อ่านอย่างเดียว อยากให้เป็นกระทู้ไป-กลับ


เด็ก 62 เพิ่งจะขึ้น ม.6 ใหม่ ๆ หรือเด็กซิ่วที่กำลังผิดหวังอยู่ ช่วงนี้จึงไม่กล้าเข้ามาคุย

แต่พอช่วงลุ้น ใกล้ประกาศผล เด็กๆจะเข้ามาให้ความเห็นเต็มกระทู้เลย แต่ละคนเข้ามาสอบถามวันละ หลายๆรอบ


ฉะนั้น กระทู้นี้ใครมีข้อสงสัยอะไร สอบถามได้ ไม่ต้องกลัวอาย ถ้าส่วนตัวตอบไม่ได้ เดี๋ยวจะมีผู้รู้ตอบให้เอง จะมีคนช่วยกันตอบ ให้ข้อมูลอยู่แล้ว


ใครมีประสบการณ์ดีๆ หรือมีข้อมูลดีๆ และเป็นประโยชน์ต่อเด็ก กสพท.62 ขอเชิญแนะนำได้ตามสบายเลย จะเป็นผู้ปกครอง หรือเด็กที่ติดแพทย์ หรือเด็กไม่ติดแพทย์ ก็ได้ เช่น เคสตัวอย่าง 2 เคส หรือเคสอื่นๆ ก็ได้


ในเว็บเด็กดี จะมีผู้ปกครองเข้ามาอ่าน และหาข้อมูลให้ลูก เพื่อเตรียมตัวสอบแพทย์ กสพท.จำนวนมาก ตอนนี้ยังไม่ค่อยปรากฏตัวผู้ปกครอง แสดงตัวหรอก แต่พอใกล้ประกาศผล จะแสดงตัวกันออกมาเยอะแยะเลย


ผู้ปกครองส่วนใหญ่จะร่วมลุ้นไปกับลูก หรืออาจจะลุ้นมากกว่าลูก ดีใจมากกว่าลูก เมื่อลูกประสบความสำเร็จ

พ่อแม่จะดีใจมากที่สุด และพ่อแม่จะมีความสุขไปด้วย ทุกปีจะเป็นแบบนี้

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

Ameriey-7993 27 ก.ค. 61 เวลา 23:11 น. 11

เท่าที่จำได้ติดตรงเชื่อมต่ิออย่างปลอดภัยนะค่ะ

ส่วนเว็บที่ไกล้เคลียงก็ ดิฉันก็ส่งเสริมทางด้านนี้

ด้วยค่ะ


https://m.pantip.com/topic/32432066


เว็บที่ดิฉันให้อาจขัดข้องใน ช่องทางนี้ ถ้าจดแล้วไป

เข้ากูเกิลก็เข้าได้ค่ะ


0
กัลย์ 29 ก.ค. 61 เวลา 20:52 น. 12-1

ไม่รับปรึกษาเฉพาะตัวบุคคล หากอยากสอบถาม ให้สอบถามในเว็บเด็กดีนี้ได้เลย

ถ้าคำถามนั้นเป็นประโยชน์ต่อเด็กคนอื่นๆ ทั่วไป ยินดีตอบให้เสมอ

บางครั้งอาจจะมีผู้รู้มากกว่า ช่วยตอบแทนให้ด้วย แต่ถ้าความเห็นไม่เหมือนกัน

จะตอบแบบให้ความเห็นส่วนตัวว่า คิดเห็นเป็นอย่างไร ความเห็นอาจจะแตกต่างกันได้

แล้วควรใช้วิจารณญาณ พิจารณา วิเคราะห์ ก่อนตัดสินใจเชื่อข้อมูลนั้น

0
กัลย์ 1 ส.ค. 61 เวลา 11:52 น. 13

ผลคะแนนต่ำสุด แพทย์-ทันตะ กสพท.ปี 61 ส่วนใหญ่ลำดับคะแนนต่ำสุด จะเป็นไปตามคาดเดา เช่น ศิริราช ปี 60 อยู่อันดับ 3 ปีนี้ ปี 61 กลับไปอยู่อันดับ 2 ส่วนรามาฯกลับมาอยู่อันดับ 3 ตามเดิม 


ต่อไปนี้จะกล่าวถึงสถาบันที่คะแนนต่ำสุดผิดปกติ การเลือก 4 อันดับ กสพท.62 ต้องระมัด ระวังให้มาก ๆ เช่น


-แพทย์จุฬา(ทอ.) เดาว่าคะแนนต่ำสุดจะอยู่อันดับ 4 หล่นไปผิดปกติ อยู่อันดับ 7

-พระมงกุฎ(ญ) อันดับขึ้นมามากกว่าปกติ อยู่เหนือแพทย์ มช. มข.

-แพทย์ มช. อันดับหล่นไปมาก อยู่อันดับ 11 สมัยก่อนที่ยังไม่มีแพทย์จุฬา(ทอ.)และไม่มีรามาฯ จุฬาภรณ์ อันดับจะอยู่ประมาณ อันดับ 4-7

-แพทย์ มข.อันดับหล่นไปมาก อยู่อันดับ 12 คล้ายกับแพทย์ มช.

-แพทย์ มอ.(สงขลา) อันดับขึ้นมากผิดปกติ ซึ่งปีหลังๆจะอยู่อันดับบ๊วย หรือรองบ๊วยของแพทย์ ม.รัฐ

-ทันตะ มธ.อันดับขึ้นมากผิดปกติ อยู่เหนือแพทย์ ม.รัฐหลายสถาบัน

-แพทย์ มศว อันดับหล่นไปมากผิดปกติ อันดับอยู่ต่ำกว่าทันตะ มธ.

-แพทย์ มน. อันดับหล่นไปมากผิดปกติ อันดับอยู่ต่ำกว่าทันตะ ม.รัฐ หลายสถาบัน

-ทันตะ มข. อันดับหล่นไปมากผิดปกติ โดยปกติจะอยู่เหนือทันตะ มอ.

-ทันตะ มน.เพิ่งเข้าร่วม กสพท.ปีแรก อันดับต่ำ รองบ๊วยทันตะ ม.รัฐ ต่ำกว่าแพทย์เอกชน


การเลือก 4 อันดับ กสพท.62 เด็กต้องระมัด ระวังอย่างมาก อย่าประมาท ตัวเลือกสถาบันตามที่กล่าวข้างต้น คิดว่าน่าจะมีคนจำนวนมากสนใจมากกว่าปกติเช่นกัน เพราะถ้ามีคนรุมเลือกกันมาก/น้อย อันดับอาจจะเปลี่ยนแปลงขึ้น/ลงได้

0
Tppcha 1 ส.ค. 61 เวลา 21:37 น. 14

ผมได้ติดตาม หาข่าว หาข้อมูลต่างๆๆ ให้ลูก โดย พยายามหาข้อมูลต่างๆๆ ให้ลูกชาย ก้ได้ข้องมูล ของคุณ กันย์ นี้แหละ ได้แนวทางต่างๆๆ จากกระทู้ จากผู้ปกครองหลายๆๆท่านมาให้ข้อมูล ดีๆๆเป้นแนวทางในการเลือก จนลูก ได้เลือก และติดแพทย์ ศิริราช ต้องขอขอบคุณ คุณ กันย์ และข้อมูลต่างๆๆจากผู้ปกครอง หลายๆๆท่าน ขอบคุณ ครับ

(ขอแนะนำด้วยเลย ให้ติดตาม คุณ กันย์ หาอ่าน ข้อมูล ต่างๆๆ ทาง ช่องทางนี้ เลยครับ มีข้อมูลดีดี ทุกช่วงเวลา ครับ.. ขอบคุณครับ)

1
กัลย์ 11 ก.ย. 61 เวลา 09:54 น. 14-1

ยินดี และดีใจด้วยที่ลูกติดแพทย์ศิริราชไปแล้ว ลูกเก่งมากๆ

0
กัลย์ 11 ธ.ค. 61 เวลา 11:11 น. 15

สัดส่วนคะแนนรายวิชา (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ)เป็น 1 วิทย์ 40% คณิต1/ 20% อังกฤษ 20% (ขอแก้ไขเป็น ไทย 10% สังคม 10% นอกนั้นคงเดิม) ปรับเป็น 70% จะได้ (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ)เป็น 1 วิทย์ 28%

คณิต1/ 14% อังกฤษ 14% ไทย 7% สังคม 7%

0