Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ประสบการณ์รักในวัยเรียน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ ก็นะคะ วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ความรักในวัยเรียนของจขกท. เป็นความรักใสๆที่ให้ประสบการณ์กับจขกท.มากจริงๆ เป็นความรักที่ทำให้จขกท.โตขึ้นไปอีกหนึ่งขั้น

เตือนค่ะ กระทู้นี้ยาวมากกก ฮาาา

จะแทนชื่อของคนที่ จขกท.ชอบว่า K นะคะ

K กับเราเรียนที่เดียวกันมาตั้งแต่ อนุบาลยันประถม จนถึงม.ต้น เป็นเวลา 11ปีนะจ้ะ

แรกๆเราก็ไม่ได้สนใจ Kเท่าไหร่เลย เพราะมันชอบแกล้งคนอื่นไปทั่ว แกล้งเราด้วย แต่นานๆครั้ง ตอนเด็กๆเราเป็นคนที่ถูกแกล้งแล้วจะร้องไห้ แล้วโดนเพื่อนในห้องแกล้งบ่อยมากกกก (เพิ่งมารู้ตอนโตว่าผู้ชายแกล้งเพราะผู้ชายรัก อิอิ // อันนี้คิดไปเอง)

เรื่องเกิดขึ้นเมื่อตอน ป.6 (เด็กมากใช่ไหมล่ะ ใช่เลย) เรายังไม่ได้ชอบ K นะ เรื่องมันมีอยู่ว่า เราเอากระเป๋าพี่ชายมาสะพาย ในห้องนี่คือแบบ กระเป๋าเราเท่มากอ่า แบบเห้ย /ชั้นรู้สึกว่ากระเป๋าชั้นเป็นของ limited นะเออ ตอนสะพายแบบเท่อ่ะ ชั้นเท่ ไม่ใช่กระป๋าเจ้าหญิงไรงี้อ่ะ คือของผู้ชายจริงๆ

ด้วยความที่ถึงเวลาพักเที่ยง เราก็ไปกินข้าวอะไรตามปกติ แล้วพอกลับมา เห้ยยยย!! กระเป๋าของเราตรงที่ถือมันถูกกรรไกรตัดค่ะ!!!! ทุกคน เราเพิ่งเอามาวันแรกเอง

อธิบายนิดนึงกระเป๋ามันก็เป็นกระเป๋าสะพายทั่วไปที่จะมีสายสะพายแล้วจะที่ถืออีกอัน แต่ที่เท่คือ ข้างหน้ามันจะเป็นแบบซิปที่รูดขึ้นใหญ่ๆอ่า อธิบายไม่ถูกรูปก็ไม่มีให้แล้วแฮะ //กราบขอโทษอย่างสูง

เรา ณ ตอนนั้นคือโกรธมากกกกก สีหน้าเอาเรื่องที่สุด เพื่อนที่รู้เห็นเหตุการณ์ก็มาบอก
เพื่อน : รู้ไหมใครทำ
เรา : ใครๆ /เสียงเอาเรื่องมาก ชั้นจะไปฆ่ามัน
เพื่อน : ไอ่ K
เรา : สงบลงทันที ด้วยตวามที่เราไม่อยากไปฟ้องครู แล้ว K เป็นแบบ ประมาณ Bad boy อ่ะนะ จะไปเอาเรื่องก็กลัวโดนเอาเรื่องกลับ

ตั้งแต่นั้นมา เราก็แค้นนางเรื่อยมา สังเกตทุกอย่าง รอทุกความผิดพลาด เตรียมจะซ้ำเติม

ต่อให้นายจะร้ายกาจแค่ไหน แต่ในชั้นเรียนฉันเก่งสุดย่ะ ครูก็รักฉันสุด เตรียมตัวไว้เลย หึๆ// ฝากถึง K แล้วยิ้มชั่วร้าย

พอขึ้นมา ม.๑ ครูจัดกลุ่มโครงงาน คือกลุ่มนี้อยู่ด้วยกันทั้งปี แล้วครูเป็นครูประจำชั้น คือส่วนใหญ่จะเอกลุ่มนี้เป็นหลัก กลุ่มในวิชาวิทยาศาสตร์ครูก็จะเอากลุ่มนี้ด้วย รวมถึงเวรประจำห้องด้วย แล้ว K ก็ได้อยู่กับเราค่ะ ตามคาดเป๊ะ เราเตรียมข่มเหงเรียบร้อย คือประมาณว่า จะใช้งาน K ให้หนักๆไปเลย ด้วยความที่เป็นหัวหน้ากลุ่ม

แต่มันผิดคาดมากกกก เราคิดว่า K ที่ ออกแนวไม่สนใจการเรียนเนี่ยคงจะเบื่องานกลุ่มมากๆๆๆๆ แต่ใครจะไปคิดกันละคะว่าไอ่ K จะช่วยงานกลุ่มได้ดีมากกก เวลาครูแจกอุปกรณ์สำหรับทำงานกลุ่มนะ ไอ่ K จะถามเราว่าอยากได้อะไรบ้าง แล้วหามาให้จนได้ครบทุกอันอ่ะ แล้วเวลาจัดบอร์ดนี่ไม่มีใครกล้ายุ่งกับบอร์ดเราอ่ะ ไอ่ k จะไปจัดการ นี่ก็เป็นหนึ่งเหตุผลค่ะที่เราตกหลุมรักเขา เพราะเขาเป็นคนที่แคร์คนรอบข้างมากจริงๆ

ต่อจากนั้นคือเราก็แอบดูเขาอย่างห่างๆ โดยในใจยังมีคำว่าแค้นอยู่มากมาย จนกระทั่งมาถึงช่วงกีฬาสีค่ะ ตอนนั้น เราไม่มีหน้าที่ใดๆในกิจกรรมเลย คือเราเป็นพวก เก่งแต่เรียนอย่างอื่นไม่ดีอ่ะค่ะ พอช่วงพักเที่ยงเราขึ้นมาอยู่บนตึกค่ะ อยู่บนชั้นสอง มองตรงไปที่สนามฟุตบอลเห็น K นางเล่นฟุตบอลอยู่ จำไม่ได้ว่าคิดอะไรอยู่แต่ตอนนั้นเรามองเขานานมากกกก จนเพื่อนมาถามว่ามองอะไร ชอบดูบอลเหรอ??


//ตอนนั้นแหล่ะค่ะ เขาถึงเริ่มรู้ว่า นี่ฉันชอบเขาหรอ? /เป็นไปไม่ด้ายยยยย กรีดร้องในใจ

ช่วงม.หนึ่งนี่คือไม่ค่อยมีอะไร แต่ตั้งแต่ช่วงม.สองนี่แหล่ะค่ะ

อย่างที่บอกนะคะ เราโดนเพื่อนแกล้งบ่อยมาก ออกแนวแซวๆด้วยอ่ะค่ะ แต่ครั้งนี้เพื่อนรวมหัวกับครูค่ะ เอาใหญ่เลย

วันนั้นเป็นชม.แรกที่ต้องเรียน ครูก็บอกคร่าวๆว่าวิชานี้ จะเก็บคะแนนยังไง ใช้อะไรบ้าง (วิชาศิลปะ) พอครูพูดจบแต่ยังเหลือเวลาอยู่ครูเลยคุยไปเรื่อยแล้วเพื่อนในห้องก็ตะโกนบอกประมานว่า

- J อ่ะชอบ V นะ(Vคือเรา) จานั้นทั้งห้องก็แซวใหญ่เลย (แทรกนิดนึง คือไอ่ J มันชอบเราตั้งแต่ป.4 แล้วค่ะ เรารู้แต่พยายามบอกว่าไม่ชอบ) พอเพื่อนในห้องมันก็แซวครูก็แซว แล้ว K มันก็ลุกมาแซวประมาน -ก็ชอบ J ใช่ไหมล่ะ เท่านั้นแหล่ะน้ำตาคลอเลยหน้าก็แดงด้วย /อยากจะตะโกนใส่หูมันแล้วบอกว่า ตูชอบ-ตะหาก!!

อีกหลายวันต่อมาคือ เมื่อเพื่อนเราตั้งวงนินทาผู้ชายในห้องค่ะ ก็จะพูดถึงผู้ชายแต่ละคนในห้องค่ะ ประมาน 22 คน ว่าแต่ละมีนิสัยอะไรยังไงบ้าง เราเรียกว่าแลกเปลี่ยนความคิดเห็นค่ะ จนมาถึงไอ่ K ค่ะ

เพื่อน1 : รู้ม่ะ ไอ่ k นะแฟนมันโคตรสวย เรียน...(รร.ชื่อดัง)
เพื่อน2 : รวยด้วย ตูไปส่องเฟสมาล่ะ หุ่นเหมือนเน็ตไอดอลอ่ะ
เพื่อน3: ขาวด้วย แต่ตูว่านิสัยมันก็ดี ได้แฟนดีด้วย
เรา : เนอะ นิสัยมันก็ดี แฟนมันคงรักอ่ะ //ปาดน้ำตาในใจแอบอิจเล็กๆ
เพื่อน : ใช่ๆ ตูเห็นถ่ายรูปกันอ่ะ

บทสนทนายังมีต่อไปค่ะ แต่เราไม่สนอีกแล้วคือเพิ่งรู้ว่า k มีแฟนอ่ะ ตอนนั้นเราไม่มีเฟสไง ที่บ้านไม่ให้เล่น แล้วพอรู้นี่อารมณ์ประมานปาดน้ำตาแล้วถามว่า อีนั่นเป็นใคร?! I จะฆ่ามัน

โชคชะตา: อยากรู้ใช่ไหม จัดให้

และแล้วเราก็ได้ไปแข่งงานวิชาการที่รร.ของแฟน k ค่ะ คือมั่นใจมากว่าเราจะเกลียดแฟน k แต่คดีพลิกจ้า แฟน K เป็นคนดีมากกกก คือพอไปถึงนะ ด้วยความที่แฟน K โตกว่าเรา 3 ปี เลี้ยงนุ้นนี่นั่นถ่ายรูปด้วยกัน แล้วถามว่า K ขยันมั้ย เป็นไงบ้าง ฟ้องพี่ได้นะ //น่ารักและนิสัยดีจนเกลียดไม่ลง

และงานวิชาการครั้งนั้นรร.เราก็ได้ที่หนึ่งทุกรายการจ้า /ไม่เกี่ยวแต่อวดเฉยๆ คือเป็นงานเกี่ยวกับอาเซียนไรงี้อ่ะค่ะ

พอถึงรร.เพื่อนกับเราก็ไปเล่าให้ k ตลอดเวลาที่พูดถึงแฟนเค้า K ยิ้มตลอดแววตาของคนมีความรักเลย //ส่วนเราเช็ดน้ำตาค่ะ

และก็มาถึงวิชาคอมพิวเตอร์ค่ะ ครูให้จับคู่แล้วจะสอนเขียนเว็บค่ะ เราได้คู่กับ K อันนี้ครูไม่ได้จับให้ เราถามมันเองว่า-จะอยู่กับตูไหม มันก็อยู่ค่ะ!

เราชอบวิชานี้มากกก เพราะ
1.ได้นั่งชิดกับ K 2ชม.
2.เวลานั่ง K ชอบเอามือมาวางที่เก้าอี้เราดูเหมือน K โอบไหล่เราไว้
3.ครูจะนั่งอยู่ใกล้ตลอด ทำให้คู่ของเรา ได้รับการปรับปรุงเป็นคู่แรกและแก้งานได้เร็วกว่า
4.วิชานี้ครูสอนเก่ง
5.เราได้ข้อมูลส่วนตัว kค่ะ เช่นรหัสอีเมล เพราะใช้อีเมลk ส่งงาน เผื่อบางวันไม่มาเรียน
6.งานเดินหน้าเร็วมากค่ะ เพราะ K จะลงมือปฏิบัต ส่วนเราจดงาน สิ้นเทอมปุปเราส่งทันทั้งสมุดและงานในคอม

คือวิชานี้ค้นพบว่า K เป็นคนเก่งคนหนึ่งเลย ปกติเวลาทำงานคู่กันเราเป็นคนดึงเขาขึ้นมา แต่วิชานี้เขาดึงเราขึ้นค่ะ และนี่ก็เป็นหนึ่งเหตุผลค่ะที่เราชอบเขา เราได้เห็นว่าเวลาเขาตั้งใจเขาจะทำงานออกมาได้ดีมาก

พอวิชาอื่นๆเราชอบเอาเขามาอยู่คู่ด้วยค่ะ เพราะเวลาคู่กับเขาเราสบายใจค่ะ ไม่เถียงเรื่องงานแต่ทำตามอย่างดี มันลดเวลาที่จะเถียงกันแล้วเพิ่มเวลาลงมือทำได้มากขึ้นค่ะ

จนครูถามว่าเรากับ k เป็นแฟนกันหรอ ต้องรีบปฏิเสธใหญ่เลยค่ะ //ใจจริงอยากตอบครูว่าอยากเป็นมากค่ะ และไม่ใช่คนเดียวค่ะ คือครูแทบจะทั้งรร.ถามแบบนี้

เวลาผ่านมา ถึงม.2 เทอม 2
เราชอบเทอมนี้มากค่ะ คือเทอมนี้เป็นแห่งความรักเลยก็ว่าได้เป็นช่วงเวลาที่เรามีความสุขกับม.ต้นช่วงหนึ่ง เทอมมีการจับกลุ่มกีฬาสีใหม่เราได้อยู่สีเดียวกับ K ค่ะ ดีใจมากเว่อ

คือจะบอกนิดนึง K ชอบโดดกิจกรรม มีสูบบุหรี่บ้าง คือเป็นเด็กเกเร ที่จะให้ความร่วมมืกับงานกลุ่ม แต่งานเดี่ยวไม่เอาไหน และอีกอย่าง K อายุมากกว่าเรา 2-3 ปีค่ะ

คือเป็นเทอมที่ K มันเลิกกับแฟน แล้วเหมือนจะรู้ว่า เขาชอบมัน และมันก็แสดงออกว่าชอบเราค่ะ ประมานรู้กันสองคนว่าต่างคนต่างชอบแค่ไม่พูด //มองตาก็รู้ใจ

/แต่เมื่อเวลาผ่านมา เราถึงรู้ว่า ไอ่ K -ปั่นตูหราาา

คือเทอมนี้เพื่อนเราคนนึง ขอแทนว่า C แล้วกัน มันชอบพูดประมานว่า เออ ถ้า "ตูกับ-เป็นแฟนกันโคตรเข้าอ่ะ (ไม่รู้มันเอาอะไรมาตัดสิน) จริงนะ เดินคู่กันมีแต่ออร่า (ออ-ี่รังแคไหมจ๊ะ)" คือพูดแบบนี้ทุกวันอ่ะ บางครั้งมันก็จะเดินมาโอบไหล่บ้างแหล่ะ แต่เราปัดทิ้งตลอด จนมันบอกว่า เราใจดำ//ตรงไหนฟระ

แต่อย่างหนึ่งคือ C มันจะโดนเพื่อนผช.รุมแกล้งตลอด โดยมี K เป็นแกนนำ คือ c เป็นผช.ผอมๆแต่สูง ในขณะที่ K ทั้งสูงกว่าและร่างใหญ่กว่า

คือวันหนึ่งเราเดินเข้าห้องเรียนมาแล้ว c ก็มาโอบไหล่ แน่นอนเราปัดทิ้ง แล้วไอ่K ด้วยความนักเลงนิดๆ มันก็เลยทำแบบนี้ค่ะ
K: ไอ่ c -มานี่ดิ
C: อะไร
K: มาเหอะน่า /ลุกยืนเก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกง
C:เดินไปหา k แล้ว k อุ้มตัวc ขึ้นมาแล้วทุ่มลง

เรา/หน้าเหวอมากพร้อมกับเพื่อนข้างๆอีกคนหนึ่ง

คือมันไม่ได้แรงมากแต่เสียงค่อนข้างดังและอีกอย่างคือ c มันไม่ได้โมโหนะแต่ด่าเป็นชุดแล้วก็วิ่งไล่ตามประสาผู้ชาย

K ชอบมานั่งใกล้เราบ่อยมาก อยู่กลุ่มเดียวกับเรา อันนี้อาจเพราะเราเรียนเก่งชอบช่วยมันก็ได้

พอกีฬาสีก็ตามสเต็ปจ้ะ ไม่มีหน้าที่ใดๆในกิจกรรมนี้นอกจากมีชื่อเพียงเท่านั้น พอเป็นแบบนี้เราเลยได้เพื่อนกลุ่มใหม่ คือไม่แดนเซอร์ ไม่สต๊าฟ ไม่กีฬา กลุ่มเราจะขึ้นไปหลบบนอาคารเพราะไม่มีที่ให้สำหรับเรา และครูไม่ยอมให้กลับบ้านจนกว่าจะสี่โมง พออยู่ด้วยกันบ่อยๆมันก็สนิทอ่ะนะ เราสามคนจึงบอกว่าจะเล่าให้ฟังถึงคนที่แอบชอบ มี M B และเรา แน่นอนว่าเราก็บอกว่าเราชอบ K ตอนนั้นเพื่อนอึ้ง เพราะพวกมันคิดว่าเราไม่น่าไปชอบคนเกๆแบบนั้นได้ แต่พวกมันก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า K อ่ะดี

//จากเหตุการณ์นี้ทุกคนควรจำไว้นะคะ คำว่า 'ไม่บอกใครหรอก' ไม่มีอยู่จริง

ล่ะมีอยู่ช่วงหนึ่ง เราก็รู้มาว่า เนี่ย - k แฟนเก่ามันมาขอคืนดี

ตอนนั้นในความรู้สึกเราคือ เราควรออกห่าง เพราะเรารู้สึกเขาทั้งสองคู่ควร แฟนเก่าก็ดีมากๆอ่ะ จนเราทำร้ายไม่ลง ด้วยความรู้สึกผิดเราจึงหลบหน้า ประกอบกับที่ไม่มีงานคู่ใดๆที่ค้าง เพราะเราทำเสร็จแล้ว เราจึงห่างเหนไปโดยปริยาย

แต่ที่เราสังเกตุได้คือ K คอยมองเราตลอด คือมองจนรู้ว่ามอง และเพื่อนสนิทมันก็มาบอกเราว่า 'แฟน-k มาขอคืนดีมันยังไม่กลับไปเลยถือตัว ฉห.' คือมาบอกแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เราก็แบบงงๆ แต่เหมือนตอนนั้นกำลังเผาเพื่อนด้วยแหล่ะแต่กำลังพูดถึงอีกคนไงแล้วมาเปลี่ยนเป็นอีกคน

มีอยู่ครั้งหนึ่ง คือตอนนั้นเราอยู่ม.2 ครูส่วนใหญ่แห่กันไปติว O-net ให้พี่ม.3 กันหมด ห้องเราเลยไม่มีใครเข้าสอน ตอนนั้นก็แบบปิดประตูห้อง ปิดหน้าต่าง เอาผ้าห่มมานอนกันเลย (ช่วงนั้นหนาว เป็นปีที่หนาวมากด้วย) ผช.ห้องเราคือดีมากนะ คือนอนอีกฝั่งเอาโต๊ะกั้นแล้วให้ผญ.นอน เราก็นอนปกติเอากระเป๋าหนุนหัวแล้วเสื้อกันหนาวปิดกระโปรงแต่พอเรามองไปอีกฝั่ง เราก็เห็นหน้า k พอดี คือเหมือนนอนเอาเท้าชนกันอ่ะ โดยมีขาโต๊ะเลคเชอร์กั้นพร้อมระยะห่างพอประมาน เราอยู่ไม่ได้อ่ะ คือมันจ้องหน้าเราบ่อยไป เราก็ใจสั่นไง เกินไปแล้ววว //อิชั้นจะตายยย

สุดท้ายตัดสินใจลุกไปนอนอีกที่ในช่วงที่มันก้มเล่นมือถือ เป็นที่ๆเรามองมันได้ แต่ถ้ามันจะมองต้องเมื่อยคออ่ะ คือที่ในหลบตาคนอ่ะนอนใกล้เพื่อนที่อ้วนมาก

ตอนนั้นก็เห็นนะว่ามันมองไล่ฝั่งผญ.แต่ละคนจนมาสบตากับเราแปปหนึ่ง แล้วก็หันกลับไปเล่นมือถือต่อ เราตอนนั้นทำไรไม่ถูกใจสั่นมาก แล้วมีคนมาเคาะประตู เพื่อนอีกคนที่นอนอยู่ก็ตะโกนถามประมานว่า "ใครอีกว่ะ" แต่ไม่มีใครตอบจ้า มันก็ลุกไปเปิดประตู แล้วจ๊ะเอ๋กับครูประจำชั้น มันยกมือไหว้แล้วเดินออกไปเลย คนที่เหลือรับกรรมจ้าาา

ตัดมาที่ม.3 เทอมหนึ่ง เป็นเทอมความรักอีกเทอมหนึ่ง เทอมสุดท้าย

เทอมนี้เรามีงานทำทุกเสาร์อาทิตย์ ได้เงินนิดหน่อย รู้สึกว่าตัวเองต้องโตขึ้นอ่ะนะ คือเวลาพักกินข้าวเราชอบไปกินบ้านเพื่อนซึ่งอยู่บ้านใกล้กับ K เราจึงได้รู้อีกมุมหนึ่งของเขา

-ติดเกม
-เลี้ยงหลานวัย 3 ขวบ
-ซักผ้าตากผ้า
-ตอนเย็นๆจะไปนั่งร่วมแก๊ง
-หุงข้าว
-ทำงานบ้าน

คือ- K กลายเป็นคนที่ค่อนข้างดีสำหรับเราอ่ะ เราไม่เคยเห็นมุมนี้ จากที่เคยรู้คือ มีคนพูดถึงแต่ด้านแย่ๆของนาง เรื่องนี้ทำให้เรารู้เลยนะ ว่าการที่มีใครมาบอกเราว่าคนนุ้นคนนั้นไม่ดีอาจไม่จริงเสมอไป
และการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งเราว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ อีกอย่างที่จะบอกคือเพราะวัยรุ่นดีต่อหน้าพ่อแม่แบบนี้พอไปก่อเรื่องพ่อแม่ส่วนใหญ่จะไม่เชื่อว่าลูกตัวเองทำ

เทอมนี้เรามีสมุดสำหรับเขียนไว้เลยนะว่าความรักวสัปดาห์นีเเป็นอย่างไร เราจะเขียนตามไดอารี่ของเรานะ เปลี่ยนชื่อแล้วจะย่อลงนิดนึง อีกอย่างเทอมนี้ Kไม่ได้กลับไปคบกับแฟนนะจ้ะ โสดสนิทแน่นอนจ้า


เรานั่งเขียนงานอยู่แล้ว K จะเล่นอะไรสักอย่าง(ใช้เท้าถไลไปกับพื้นอ่ะ) มันดึงโต๊ะเราจากด้านหลัง โดยที่แขนอีกข้างอยู่หน้าเรา ทำให้รู้เหมือนโดนกอด

นางจะเล่นอะไรสักอย่างล่ะคือเดินรอบห้องเราหาที่นั่งดีๆโดยนั่งมองนางอย่างไม่ขาดสายตา จนนางเขินแล้วถามว่า 'มองไรวะ' //ยิ้มเขินทั้งสองคน

เราบ่นว่า อยากฟังเพลงกับเพื่อน เพื่อนไม่ยอมเปิดให้ แต่ k พูดขึ้นมาว่า "เราจะเปิดเพลงใครจะฟังบ้าง" พอเรากำลังจะเงยหน้าไปขอบคุณก็เห็นว่ามันมองเราอยู่พอดี //ตอนนั้นคือเขินนะ กลืนคำขอบคุณลงแล้วยิ้มให้

รุ่นน้องคนหนึ่งชอบนาง และนางก็มีท่าทีว่าจะชอบ // ถูกปั่นมากเราอ่ะสุดท้ายนางก็ไม่ได้คบกัน

เราคิดไปเองว่า K ชอบเพื่อนสนิทเรา //คือชอบมองมาหาเพื่อนสนิทเราบ่อยๆอ่ะ

มีอยู่วันหนึ่งเพื่อนเราขอให้ช่วยเขียนรายงานของมันด้วยความขี้เกียจเราก็ไม่ช่วย ล่ะมันก็ขู่ประมาณว่า จะไปบอก- K ว่า-ชอบ เราก็พูดย้ำเสียงดัง "ตูไม่ได้ชอบ k แล้ว" // โกหกคำโต แล้วเพื่อนเราก็ยิ้มๆไปมองด้านหลังคือเห็น K มองมาทางเราแล้วยิ้มอ่ะ //ในใจคิด ตูว่านางได้ยินแน่ๆ

แล้วชอบเห็นหัวเราในวันที่เพื่อนคนอื่นไม่เห็นคือ เราเรียกชื่อเพื่อนคนหนึ่งนานมากแต่นางไม่ได้ยิน แต่K นี่แหล่ะจ้ะ ได้ยินพร้อมกับเข้ามาช่วย

ด้วยความเป็นคนชอบเล่นแรงนิดนึง เราเลยตีเพื่อนไปทีหนึ่งและเพื่อนก็ทำท่าจะตีกลับ K นี่แหล่ะจ้า เข้ามาห้ามแล้วบอกว่า'ตีทำไม' เพื่อนก็เถียงว่าเราอ่ะตีก่อน แต่นางไม่ยอมจ้า ไม่ยอมให้เพื่อนตี //รู้สึกโดนปกป้องคือรู้สึกดีๆจริงๆเด้อ

เราตัดผมทรงใหม่ คือเป็นหน้าม้าแล้วโคตรไม่เข้ากับเรา แล้วเพื่อนสนิทเราก็แบบถาม K ว่า เนี่ย V สวยไหม นางก็ตอบกลับว่า น่ารักมาก //ตอนนั้นคือเขินมากเด้อ เพราะอยู่กลางโรงอาหารอ่ะ แล้วนางตะโกนบอกอ่ะ มีคนหันมามองเราด้วยง่า

ตอนนี้คือเพื่อนผญ.ในห้องเริ่มรู้แล้วว่าเราชอบ k ที่มาของคำว่า ไม่บอกใครหรอกไม่มีอยู่จริงนะจ้ะ

มีเพื่อนคนหนึ่งล้อว่า V ชอบ K ล่ะคือนางมาได้ยินอ่ะ ตัดฝันเราเลยนะ นางบอกว่า 'เป็นแฟนอยู่ได้ไม่นานหรอ เป็นเพื่อนอยู่นานกว่า' //คือเราตอนนั้นเงียบไปเลย เพื่อนตัวดีด้วย แต่คือยังเหมือนพูดเล่นอยู่ไง

จากนั้นก็เหมือนเดิมคือมีงานกลุ่มก็มาอยู่กับเรา พออยู่ด้วยแล้วชอบนั่งใกล้กัน แต่เรานั่งนานๆล่ะเขินไงเลยไปนั่งอีกทีหนึ่ง ด้วยความที่ตอนนั้นนางไป-ับกลุ่มข้างๆอยู่จึงไม่เห็นว่าเราลุกไปแล้ว ล่ะพอนางกลับมาก็ถามหาเราเลย ล่ะพอครูก็ให้แต่ละกลุ่มลงไปเก็บพืชไรงี้มาทดลอง นางก็ให้เพื่อนอีกสองคนในกลุ่มลงไปเอาโดยเอาเราอยู่กับนาง //โอ๊ยคือแบบ ทำไมต้องเป็นชั้นน

เพื่อนเราคนหนึ่ง นางบอกประมานว่าเนี่ย Vนะไหว้แม่K ตลอดสงสัยอยากเป็นลูกสะใภ้ (มันโม้นะ เราเจอแม่ K แค่ตามงานประชุมผู้ปกครองเอง ล่ะเราก็ไว้พ่อแม่ทุกคนตามมารยาทหัวหน้าห้องที่ต้องให้ผู้ปกครองลงรายมือชื่อหน้าห้อง) ล่ะนี่คือคำตอบนางค่าา "มาสิ มาเป็นเลย" และเพื่อนที่ได้ยินก็ฮิ้ววว เราก็หน้าแดงมากไม่กล้าพูดอ่ะ กลัวเสียงสั่น เพราะนางเห็นนางก็บอกประมานว่า 'อย่าแกล้งเค้าดิ' เพื่อนแซวเข้าไปใหญ่เลยจ้าาาา ประมานว่า มีห่วงๆๆ

ล่ะมีวันหนึ่งเราได้นั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกัน ตรงข้ามกันเลยจ้า ไม่กล้าพูดอะไรทั้งนั้น ต่างคนต่างกินเงียบๆ เพื่อนผช.ที่นั่งด้วยกันพูดขึ้นว่า "- K ทำไมวันนี้- อิ่มเร็วจังว่ะ" เพื่อนสนิทเราก็เสริมเลยจ้า "อิ่มอกอิ่มใจ" //โอ้ยยย ข้าวแทบพุ่งอ่ะ คือแบบเราสองคนพยายามไม่มองหน้ากัน แล้วกลืนข้าวคำสุดท้ายให้ลงคอ

จากวันนั้นเราก็ชอบทักเฟสนางไปคุยดด้วย นานครั้งๆเวลาทวงตังค่ารายงาน55555 คือแอบหยอดไปด้วยแหล่ะ นางก็ชอบหยอดกลับบ้าง มีความสุขดีนะช่วงนั้น

พอตอนปิดเทอมเราก็ทักไปบ่อยหน่อย จริงๆกะว่าจะสารภาพนางตอนวันปัจฉิม แต่รอไม่ไวเลยบอกไปในแชท ตอนนั้นคือ ทุกอย่างพังทลายลงไปมาก คือ เขาปฏิเสธเราไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม

และประโยคนึงที่เราเขียนลงในสมุดคือ
'กูรู้ลืม-มันยาก แต่การที่-จะมารักกูมันยากกว่า"
ประโยคนี้รู้ว่าถ้าไม่รู้สึกเองเขียนออกมาไม่ได้อ่ะ ในความรู้สึกเรา

เทอมสอง ไม่ต้องถามถึงความหวานใดๆไม่มีเลยจ้ะ เหมือนเพื่อนทุกคนจะรู้เรื่องของเราแล้วอ่ะ เพื่อนผญ.เราคนหนึ่งออกแนวทอมๆสนิทกับผช.มันมาเล่าให้ฟัง
เพื่อน : V -ยังชอบ k อยู่ไหม
เรา : ไม่อ่ะ/โกหกคำโตจ้า
เพื่อน :ดีแล้ว มันก็ชอบ-แหล่ะแต่ไม่อยากเสียเพื่อนไง

เพื่อนสนิทของนางมากบอกเรา
เพื่อน : ชอบ k หรอ
เรา : เราส่ายหน้า //โกหกวนไปจ้า
เพื่อน :เป็นเพื่อนกับมันอ่ะดีแล้ว -ยังไม่รู้จักมุมอื่นๆของมัน

ทุกคนรู้ไหมมม การที่อยู่ห้องเดียวกันแต่ไม่คุยกันคือมันอึดอัดมากกก รู้ไหมมีอยู่ตอนหนึ่ง ครูแบ่งกลุ่มให้ พอถึงชื่อ K
ครู : V เอา K เข้ากลุ่มไหม
// K กับเรา มองหน้ากัน คือมันไม่เหมือนเดิมอ่ะทุกคนนน นางก็ไม่มีสีหน้าว่าอยากอยู่กลุ่มเราหรือไม่อยู่ ล่ะเพื่อนในห้องเงียบลงอ่ะ ล่ะบางคนมองเราแบบลุ้นอ่ะ
เรา : ถอนหายใจ// เอาค่ะ
แล้วทุกคนในห้องก็กลับไปคุยเสียงดัง //อยากร้องไห้มากกก ณ ตอนนั้น

และด้วยตอนเทอมหนึ่งเราพยายามอยู่ใกล้ชิดนาง เทอมสองเลยเหมือนรับกรรมอ่ะทุกคน

ชั้นวางหนังอยู่ใกล้กันมาก เวลาจะจะหยิบสมุดหนังสือทีไรโคตรอึดอัด

และด้วยความเป็นหัวหน้าคือได้รับงานผ่านครูเพื่อเอาข้อมูลบางอย่าง เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง แค่จะเดินไปถามว่า น้ำหนักเท่าไหร่ สูงเท่าไหร่ยังไม่กล้าอ่ะ วิธีแก้ก็คือ พูดกลางห้องว่า ทุกคนเราจะถามน้ำหนักกับส่วนสูงเด้อ เพื่อนส่วนใหญ่เดินมาบอก แต่นางนั่งอยู่หลังห้อง เราต้องเดินไปถามเอง
เรา : K
K: อะไร
เรา :น้ำหนัก ส่วนสูง

คือมีอย่างอื่นอีกเยอะมากล่ะมันโคตรอึดอัดอ่ะ จนวันปัจฉิม เราถือปากการอเขียนเสื้อนานมาก นางเดินผ่านไปผ่านมาจนกระทั่งเดินมาเราว่าเดินไปรอต่อคิว

เรา : มากูเขียนเสื้อให้ //ทำเสียงเหมือนไม่เคยบอกรัก
K : แปป จะยกของไปตรงนั้น
รอนางเดินกลับมา
K :จะเขียนใช่ไหม อ่ะ// พร้อมกับนั่งบนเก้าอี้
แล้วก็สลับกันเขียน

นางเขียนให้สั้นๆแค่ว่า โชคดีนะ

ตลอดเวลาที่เราชอบนางเรามีความสุข เราได้รู้อะไรหลายๆอย่าง ด้วย เมื่อเราจบม.3ต้องไปต่อที่อื่น เราพยายามลืมนางด้วยการมีคนใหม่แต่มันเป็นไปไม่ได้ คือทำให้เรารู้อีกอย่างคือ ทุกคนไม่เหมือนกัน และเราเองก็ไม่สามารถรักใครคนหนึ่งโดยใช้เวลาสั้นๆได้

เราจบม.3 มาสองปีแล้ว และยังรู้สึกว่า K เป็นความทรงจำที่ดี โดยหวังว่าวันหนึ่งเราจะสามารถมองหน้าแล้วหัวเราะด้วยกันได้เหมือนเดิม สามารถพูดคุยกันได้เหมือนเดิม และเราเองก็ไม่เคยเสียดายที่เราให้ความรักเค้าไป เราดีใจด้วยซ้ำที่ได้มอบความรู้สึกดีๆให้เค้า เราพร้อมที่ก้าวต่อไปข้างหน้าโดยจะพยายามเอาสิ่งสวยงามในอดีตไปด้วย เรารู้สึกว่าความรักในตอนนั้นคือความบริสุทธิ์ ความรักที่ให้โดยไม่หวังสิ่งใดๆตอบแทน เราแค่อยากรักเค้า และยังไม่ต้องการให้เค้ารักเรา ทุกวันนี้เรายังเชื่อในความรัก แม้ยังไม่เคยได้รับจากใครแม้แต่แฟนเก่าที่เคยคบ (ยกเว้นพ่อแม่นะ) เราก็เชื่อในความรักเพราะเราเคยให้แม้ไม่เคยได้รับ

ยิ่งโตก็ยิ่งได้รู้ ว่าคนที่จะใช้ทั้งชีวิตไปกับเราไม่สามารถใช้ความรักที่เราให้เขาอย่างเดียวมาตัดสิน เราต้องนึกถึงอะไรอีกหลายอย่าง ทั้งความพร้อม ความมั่นคง ความรับผิดชอบที่เขามีต่อเรา ฯลฯ

เราอาจจะยังไม่พร้อมที่จะเริ่มต้นแต่เหตุผลไม่ใช่เพราะK เลย เป็นเพราะตัวเราเองต่างหากที่ไม่พร้อม ทั้งเด็กเกินไป ยังไม่สามารถรับผิดชอบตัวเองได้ ทั้งยังเรียนอยู่ ทั้งยังอยากโสด อยากใช้ชีวิตคนเดียวสักพัก อยากเที่ยวแบบโสดๆ เรายังคงหวังว่าเราจะพบคนๆหนึ่งที่เขาสามารถรักเรา และเราก็หวังว่าหากเราเจอคนๆนั้นจริงๆ เราทั้งสองจะสามรถยืนเคียงคู่บนเส้นทางแห่งชีวิตได้

ปล.ที่มาเล่านี่ไม่ใช่อะไรนะคะ คือแบบเหงามากกกกกก ถ้ามีประสบการณ์ก็มาแชร์กันได้นะคะ
ปล.2 ถ้า-มาอ่านกระทู้นี้แล้วคิดว่าเหตุการณ์เหล่านี้มันคุ้นๆ ได้โปรดให้อภัยตูที่สารภาพมุงด้วยย

ขออภัยอย่างสุงหามีจ้อผิดพลาดประการใด

ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้

ขอให้พบรักดีๆค่ะ


ไม่รู้จะลงแท็กไหนอ่ะขออนุญาตินะคะ

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

_suguskung 24 ก.ค. 64 เวลา 13:24 น. 1

เธอขาเราขออนุญาตินําเรื่องของเธอไปแต่งเป็นนิยายได้ไหมคะพอดีชอบมากเลย

0