Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[Review] นศพ. เค้าเรียนยังไงกันนะ!?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีทุกคน! เรามาจาก STUDYGRAM: bj.medstudies นะ
ตอนนี้เราเรียนแพทย์อยู่ชั้นปีที่ 3 ไม่รู้ว่าลมอะไรดลใจให้เราอยากเขียนกระทู้นี้ขึ้นมา
อาจจะเป็นแนวทางให้น้องๆชั้น ม.6 หรือใครก็ตาม ที่กำลังจะเตรียมสอบ
หรือน้องๆ ม.4 – ม.5 ที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกเรียนคณะอะไรนี้ ก็ลองมาดูชีวิตของเราก่อนแล้วกันนะ
ถือว่าเป็นแนวทางอีกคณะหนึ่ง ให้ตัดสินใจก็แล้วกัน
เราไปดูด้านล่างกันเลยดีกว่า

===========================================================
              ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า การเรียนแพทย์ในชั้นปีที่ 1-3 นี่เป็นการเรียนในชั้น พรีคลินิก (Pre-clinic) เป็นการเรียนเก็บเกี่ยวความรู้วิทยาศาสตร์การแพทย์ไว้ ก่อนที่จะขึ้นชั้นคลินิกในปี 4-5-6 ดังนั้นการเรียนจะเน้นเลคเชอร์เป็นส่วนใหญ่
             ในคณะแพทย์ เราก็จะเรียนกันตั้งแต่ 08.00 น. จนถึง 16.00 น. เลย แต่ระหว่างวันก็จะมีว่างบ้าง ตามตารางของรายวิชานั้นๆ พอหลังจาก 16.00 น.ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับที่พักของตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่หลังจากกลับที่พักไป ก็ต้องอ่านหนังสือทบทวนอยู่ดี เนื่องจากคณะแพทย์เป็นคณะที่สอบบ่อยมาก (มากกกกกก)

              ตารางเวลาในชีวิตเราหลังจาก 16.00 น.ไปก็จะพักผ่อนก่อนสักเล็กน้อย หรือไม่ก็ นั่งแกะเทปที่อัดเสียงอาจารย์มาจากในคาบ ตรงที่จดตามไม่ทันในวันนั้นๆ แต่ขอบอกไว้เลยว่า อาจารย์ใช้เวลาสอนเพียงแค่ 1 ชั่วโมง แต่เมื่อเรามาแกะเทปนั้น เราต้องใช้เวลาถึง 1.30 – 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว ยิ่งถ้าคาบไหนหลับทั้งคาบละก็ แกะเทปนานกว่า 2 ชั่วโมงแน่ๆจ้า
อันนี้คือโต๊ะอ่านหนังสือประจำของเราเอง :)
              หลังจากทานข้าวเย็นเสร็จ เราก็จะมาเริ่มอ่านหนังสือกัน โดยเฉลี่ยจะเริ่มเวลาประมาณ 1 ทุ่มครึ่ง และยาวไปจนถึงดึกเลย (ประมาณตี 1 แต่ถ้าช่วงใกล้สอบก็อาจจะเป็นตี 3-4 แล้วแต่ความ severe ของช่วงนั้นๆนะ) หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้อาจจะงงว่า เราทำไปได้ไง อ่านหนังสือนานขนาดนี้ ป่าวเลย เราอ่านนานๆไม่ได้หรอก แต่เราอาศัยว่าเราอ่านถี่ๆ อาจจะเป็น อ่าน 45 นาที พัก 15 นาที ในช่วงแรกๆ แต่หลังๆมาเราก็เริ่มมีสมาธิอ่านได้นานขึ้นนะ ซึ่งตรงนี้จะช่วยให้เราฝึกมีสมาธินานๆได้ด้วยนะ เป็นประโยชน์ต่อตัวเองในห้องสอบมากๆเลย (ใครที่อ่านอยู่ก็ลองฝึกดูได้นะ)
===========================================================
        
      อะ อะ มาเข้าเรื่องของเราสักที (อ้าว) ที่พูดมาทั้งหมดมันไม่ตรงกับหัวข้อกระทู้เลยเห็นมั้ย (ฮา) ก่อนจะขึ้นประเด็นนี้เนี่ย เราขอบอกก่อนว่า การเรียนมันมีหลายวิธีเลยนะ เราต้องหาวิธีที่เราถนัดที่สุดสำหรับตัวเองนะ เหมือนเพื่อนเราบางคนชอบที่จะแกะเทปอาจารย์ซ้ำๆ ก็จำเสียงที่อาจารย์พูดได้ บางคนชอบอ่านหนังสืออย่างเดียว บางคนชอบทำ Shortnote สวยงามมากมาย

              แต่สำหรับแล้ววิธีที่เราทำอยู่ตอนนี้ ก็คือ
1.ถ้าในวันนั้นเรารู้สึกว่าเราเรียนไม่รู้เรื่องเลย จดที่อาจารย์พูดก็ไม่ทัน เราจะกลับมานั่งแกะเทปที่เรียนในวันนั้นทันทีเลย จะทำให้เรารู้เรื่องขึ้น เพราะถ้าเราไม่รู้เรื่องตั้งแต่แรก อาจจะทำให้การเรียนเลคเชอร์หลังจากนี้ยากขึ้นได้นะ

2.หลังจากนั้น เราก็จะมานั่งทบทวนเนื้อหาในสไลด์ที่เรียนไปในวันนี้ พร้อมทั้งเปิดเอกสารประกอบคำสอน อาจจะเป็นหนังสือที่อาจารย์เขียน textbook หรือ Google สิ่งที่ไม่เข้าใจไปเรื่อยๆ และอ่านควบคู่ไปกับสไลด์ สิ่งไหนที่น่าสนใจเพิ่มเติมจากในสไลด์ก็จดเข้าไปในสไลด์นั่นแหละ ถ้าในสไลด์ยังไม่พอก็แปะ Post-it ทับลงไปอีกทีหนึ่งก็ได้

อันนี้คือสิ่งที่เราจดลงไปในสไลด์เพิ่มเติมนะ (เยอะมาก TT)
3.เราจะทำแบบนี้ทุกวันเลย อ่านแล้วดูเหมือนจะง่ายใช่มั้ย แค่กลับมาทบทวนสิ่งที่เรียนวันต่อวัน No no ! ผิดแล้วจ้ะ เพราะเราจะบอกว่า 1เลคเชอร์ของเรานั้น ถ้าหากแค่อ่านในขั้นตอนที่ 2 อย่างเดียว เฉลี่ยจะอยู่ที่ 5-6 ชั่วโมงแล้ว(รวมพักด้วยนะจ้ะ) เนื่องจากเนื้อหาของคณะนี้ค่อนข้างละเอียด และเยอะมากๆ อีกทั้ง ใน 1 วันเราไม่ได้เรียนแค่ 1 เลคเชอร์ ดังนั้นเราก็จะอ่านที่เรียนมาทั้งหมดไม่จบในวันต่อวันแน่ๆ สำหรับเรา เราจะอ่านเนื้อหาส่วนที่ใกล้เคียงกันก่อน หรือส่วนที่เข้าใจยากและเป็นพื้นฐานขึ้นมาอ่านก่อน ส่วนเนื้อหาส่วนที่เหลือเราจะอ่านในวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งจะมีเวลาเยอะกว่าวันจันทร์-ศุกร์ แทน (แต่พักก็เยอะขึ้นด้วยเช่นกัน TT)

4. พอครบ 1 อาทิตย์เราจะพยายามเก็บเนื้อหาในอาทิตย์นั้นให้หมด และถ้าเนื้อหาในอาทิตย์นั้นหมดแล้ว เราก็จะมาอ่านทวนเนื้อหาในอาทิตย์นั้นกัน แน่นอนว่ามันเป็นการทวนเนื้อหาที่เรียนมาในอาทิตย์นั้นๆ ทำให้เราจะสามารถทวนได้เร็ว แต่ก็สามารถลืมได้เร็วเช่นกัน ดังนั้น ในรอบที่อ่านทวนนี้ เราจะมาทำ short note ด้วย โดยเราจะเขียนแค่ key point สำคัญเท่านั้น ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะไม่เขียนลงไป เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว ก็จะกลายเป็นว่า เราลอกสไลด์ลงไปอีกครั้งหนึ่งนั่นเอง ซึ่งการทำ short note นี้เราจะไม่ได้ทำทุก lecture นะ จะทำแค่ lecture ที่คิดว่าได้ใช้ต่อจริงๆ เท่านั้น (แต่ทางที่ดีก็ทำทุก lecture ได้ก็ดีนะ ถ้ามีเวลาเหลือ)

อันนี้เป็นตัวอย่างสรุปของเรานะ เกี่ยวกับเรื่อง Molecular genetics
5.พอช่วงใกล้สอบ เราก็จะนำแค่ short note มาทวนเท่านั้น แต่เนื่องจากเราจดเป็นแค่ keyword สำคัญไว้ ดังนั้นในรอบอ่านทวนนี้ เราจะต้องอธิบายตัวเองถึง keyword ในสรุปของเราให้ได้ หากเราอธิบายไม่ได้ นั่นแสดงว่าเรายังไม่เข้าใจจริงๆ ต้องกลับไปเปิดอ่านใหม่อีกครั้งนะ
 
6.พอทำข้อ 1-5 ไปเรื่อยๆเข้า รู้ตัวอีกทีก็จะถึงวันสอบแล้ว TT ซึ่งเอาจริงๆ นะ ตั้งแต่เราขึ้นปี 2 มา เราก็ยังไม่เคยทำได้ทันทุก lecture เลย T___________________T แต่ยังไงก็ตาม สำหรับเราผลลัพธ์ที่ออกมาก็ค่อนข้างน่าพอใจนะ
 
              จบไปแล้วนะ สำหรับรีวิวการอ่านหนังสือของเรา สำหรับใครก็ตามที่มีข้อสงสัยอะไรก็คอมเมนต์ไว้ในกระทู้ได้เลยนะ ถ้าเราว่างเราจะเข้ามาตอบ หรือถ้าใครอยากติดตามชีวิตการเรียนของเราก็สามารถ follow studygram: bj.medstudies (มีจุด)ของเราได้นะ ถ้าการเรียนของเราสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครสักคนได้ เราจะดีใจมากๆเลย

สำหรับวันนี้ ขอจบกระทู้เพียงแค่นี้ก่อนน้า ผิดพลาดอย่างไรก็คอมเมนต์ไว้ได้นะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้จริงๆ -/\- 

แสดงความคิดเห็น

>

8 ความคิดเห็น

กัลย์ 13 ส.ค. 61 เวลา 10:10 น. 1

เก่งมาก เขียนได้ละเอียดดีมาก 

ถ้าเด็กเรียนแพทย์ปี 1-3 ขยัน ทำได้แบบนี้ จะเข้าใจเนื้อหาที่เรียนไปได้ดีมาก 

ผลการเรียนจะได้ดีมากๆ


อย่าไปขยัน เร่งอ่านหนังสือ เฉพาะตอนใกล้สอบเลย จะอ่านไม่ทัน ต้องนอนดึกมากๆ นอนได้วันละไม่กี่ชั่วโมง

ทำให้เสียสุขภาพ สมองอ่อนล้า จะทำข้อสอบได้ไม่ดีพอ

1
BJ.medstudies 13 ส.ค. 61 เวลา 13:37 น. 1-1

ขอบคุณที่ชอบน้า

จริงๆ เราว่าเราก็ไม่ได้ขยันมากหรอก อาศัยทำแบบนี้จนชิน TT

.

แต่เอาจริงๆ เหนื่อยอยู่นะ ถ้าต้องทำแบบนี้ทุกๆวัน ทุกๆเดือน

แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ถือว่าคุ้มมากๆเลย

0
BJ.medstudies 13 ส.ค. 61 เวลา 13:35 น. 2-1

อันนี้แล้วแต่บางสถาบันด้วยนะ

พอดีที่เราเรียนอยู่ ตึกกรอสเขาจะเปิด-ปิดเป็นเวลา เราต้องหาช่วงว่างๆในเวลาราชการเข้าไปดูเองจ้า

0
นศพ คนนึง 17 ส.ค. 61 เวลา 20:29 น. 2-2

ที่ๆเราเรียนก้เสร็จกันทันเวลาหมดนะ มีส่วนน้อยที่จะเสร็จไม่ทันpost quiz

0
Skyler Henriette 15 ส.ค. 61 เวลา 21:53 น. 3
ตามมาอ่านชีวิตช่วงปีคลินิกของเค้าต่อได้นะ

ปล.ลายมือสวยจุม ลายมือในใบออเดอร์ในอนาคตต้องงามแน่นวน

https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1817268
1
BJ.medstudies 18 ส.ค. 61 เวลา 16:54 น. 3-1

เย้ เอามาแบ่งปันกัน เดี๋ยวว่างๆจะเข้าไปอ่านนะ ปล. เอาจริงๆเราไม่ค่อยลายมือตัวเองอะ 555555555555 รู้สึกว่ามันเขียนไม่เป็นระเบียบเท่าไหร่

0
Mayy 16 ส.ค. 61 เวลา 16:30 น. 4

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะคะ ชอบมากเลยเป็นเป็นเเรงบันดาลใจในการเรียนของหนูเลยค่ะ ทุกวันนี้หนูเรียนเเบบขอไปทีมาก55 กำลังอยากเปลี่ยนเเปลงตัวเองพอดีเลย ขอบคุณนะคะ

ปล.หนูไม่ได้เรียนหมอนะเรียนวิศวะ เเต่จะเอาวิธีไปปรับใช้นะคะ

1
BJ.medstudies 20 ส.ค. 61 เวลา 17:17 น. 4-1

ยินดีจ้า ดีใจที่ชอบและเอาวิธีการของเราไปปรับใช้น้า

จะดีใจมากกว่านี้ถ้ามันส่งผลดีขึ้นด้วยนะ 555555555

0
inscreen 17 ส.ค. 61 เวลา 20:33 น. 5

น้องขยันแล๊ก สุดๆเลย นักเรียนแพทย์ทำไมไม่ใช่ IPAD Shotnote แล้วส่ง Air Drop ระหว่างเพื่อนด้วยกัน วิธืนี้นสพ แพทย์หลายสถาบันก้อทำกัน เพื่อลดเวลา Shotnote กันได้มาก และได้กระจายความรู้กันได้ในวงกว้างด้วย แต่น้องมีความตั้งใจมากๆนะครับว่าที่คุณหมอในอนาคต ขอให้ได้เกรดสูงๆนะครับ

1
BJ.medstudies 18 ส.ค. 61 เวลา 16:57 น. 5-1

เราก็ใช้ไอแพดในการเรียนนะ แบบพวกเทคบุ๊ค จดเลคเชอร์ในห้อง ถ่ายรูปแลป แล้วก็อัดเทปเราใช้ไอแพดหมดเลยน้า แต่เวลาเรากลับมาอ่าน เราชอบกลับมา back to basic อ่า เราชอบขีดๆเขียนๆในกระดาษมากกว่า ; w;

0
BJ.medstudies 18 ส.ค. 61 เวลา 16:58 น. 6-1

เกรดเฉลี่ยรวม 3.83 จ้าาา วิชาคณะหลุดไป B+ ตัวนึง ส่วนวิชาพวกภาษาอะไรงี้ก็ B+ ประปรายนะ

0
lavender_blue 19 ส.ค. 61 เวลา 11:29 น. 7

ลายมือสวยมากจ้า ยกนิ้วให้เลย พยายามเข้านะ

นานๆทีจะเห็นคนจดใส่กระดาษ สมัยเรียนต่อใช้กระดาษเหมือนกันขณะที่เพื่อนใช้ipadกันหมด

ขอบอกว่าจดใส่กระดาษจำได้ดีกว่า ipadมากค่ะ เหมือนความรู้มันผ่านสมองมากกว่า

ตำราใน ipad มีไว้เวลาเปิดเร่งด่วน แต่ถ้าอ่านเอาจำ คิดว่าหนังสือเป็นเล่มๆกะshortnote ของตัวเอง จำได้ดีกว่ามากค่ะ ในipad เอาไว้จดสูตรสำหรับความจำระยะสั้นก็พอ

แนะนำอีกนิด อะไรที่วาด diagram เองได้ วาดเองดีกว่าเอารูปมาแปะ mapping ตำแหน่งจะจำได้ดีกว่า รวมถึง pathway แนะนำให้เขียนเป็น flow charts เช่น substate ไหน -enzyme-> ได้อะไร

แต้มสะสมมาดี เกียรตินิยมอันดับหนึ่งคงอยู่ไม่ไกลละ

1
BJ.medstudies 20 ส.ค. 61 เวลา 17:20 น. 7-1

ขอบคุณน้า T^T เราเองก็ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ชั้นคลินิกจะต้องเจอกับอะไรอีกบ้าง 555555 ก็แอบหวังไว้เหมือนกันนะ ถ้าได้ก็คงดีไม่น้อยเลย . สำหรับเรื่องไอแพดและกระดาษเราก็ใช้ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์นั้นแหละจ้ะ

บางครั้งก็จำเป็นต้องไอแพด บางครั้งเขียนใส่กระดาษก็สะดวกกว่า

แล้วแต่คนชอบเน้อะ ^^

0
โมจิเค. 14 ต.ค. 61 เวลา 09:49 น. 8

ขอบคุณมากเลยนะคะ เค้าตั้งเฟบกระทู้นี้ไว้้เลย รู้สึกท้อ หมดแรงบันดาลใจเมื่อไหร่ก็มาอ่าน ช่วงมิดเทอมที่ผ่านมาเค้าค่อนข้างประมาท อ่านอัดๆเอา เค้าจะเอาวิธีของตัวเองมาปรับใช้น้า ถึงเค้าจะเรียนวิศวะก็เถอะ 5555555 ขอบคุณนะคะตัวเอง

0