ขอคำปรึกษาเรื่องอาชีพ จิตแพทย์ และ นักจิตวิทยาค่ะ
ตั้งกระทู้ใหม่
ทางจขกท.ลังเลในสองอาชีพนี้ค่ะ คือ จิตแพทย์ และ นักจิตวิทยา
หลังจากที่ลองศึกษามาบ้างแล้ว ก็พบว่า
จิตแพทย์-เรียน6ปี+ต่อเฉพาะทาง และต้องมาจากวิทย์คณิต
นักจิตวิทยา-เรียน4ปี มาจากศิลป์คำนวณได้
และแน่นอนว่าทางบ้านของจขกท.ก็ไม่ได้มีเงินมากมายอะไร แถมจขกท.ยังเป็นลูกคนโต(ของทั้งฝั่งพ่อและแม่)อีก เลยต้องการเงินเดือนที่ค่อนข้างมากเพื่อเลี้ยงชีพคนในครอบครัว
และความต้องการนอกจากเงินของจขกท.แล้วยังมีความต้องการที่จะเรียนจิตวิทยาเพื่อไปช่วยเหลือคนอื่นๆ(คนที่เป็นโรคเช่นโรคซึมเศร้า) แต่กังวลว่าถ้าทำด้านนี้จริงๆเงินจะไม่พอต่อการเลี้ยงครอบครัว...
แถมผลการเรียนของจขกท.ก็ไม่ได้สูงและไม่ค่อยเก่งด้วย กลัวจะไม่ติดแพทย์(ที่เงินเดือนสูงกว่า) ส่วนนักจิตวิทยามีเงินเดือนที่น้อยกว่า(จากการศึกษาเงินเดือนเริ่มที่9,000)
จึงอยากถามว่าจขกท.ควรไปทางไหนดีหรือว่าจะเลิกล้มทั้งสองทางเลยดี(ยังพอมีทางอื่นๆอยู่บ้าง แต่ไม่เท่าความต้องการด้านจิตวิทยา)
ขอคุณหลายๆคนล่วงหน้าที่เข้ามาตอบให้จขกท.นะคะ
8 ความคิดเห็น
ตัดสินใจยากตรงไหนเนี้ย ยังไงก็ต้องเลือกสายวิทย์ คณิตไว้ก่อน เพราะถ้าจะต่อจิตวิทยาในทางที่มีใบประกอบโรคศิลป์ ให้เอาขาแหย่สายวิทย์คณิตเลย สาขาอื่นๆ อาจเลือกไม่ได้ (แล้วแต่มหาลัย) แต่ถ้าจบวิทย์คณิตจะไปทางไหนก็ได้ เรื่องสอบหมอ มันสอบและผลออกก่อนทุกปีอยู่แล้ว มันจะรู้อยู่ว่าเราจะสอบได้หรือไม่ได้ ค่อยไปลุ้นเลือกจิตวิทยารอบท้ายสุดยังทันค่ะ เดินหน้าหมอให้เต็มที่ก่อน (ถ้าอยากเป็นหมอมากกว่า) แล้วค่อยเลือกคณะอื่นที่ชอบน้อยกว่าลองๆมาค่ะ
ออ เรียนหมอหกปี ก่อน ใช้ทุน ค่อยต่อเฉพาะทางก็ได้ ทำงานไปก่อน งานหนัก แต่ถ้าชอบก็ลุยไปค่ะ เอาให้เต็มที่ก่อน เก่งไม่มากแต่บวกพยายามยังไงก็ได้ผลค่ะ
ดูจากเงื่อนไขแล้ว เลือกนักจิตวิทยาก็พอนะครับ พอดีตัว ถ้าไม่รังเกียจ ทำงานฝ่ายบุคคลก็ได้นะ
จากที่มีคนรู้จักทำงานฝ่ายบุคคล บริษัทส่วนมากเค้ารับบริหารนะคะ ส่วนจบจิตวิทยาก็จะแบบบริษัทใหญ่ๆจะมีแผนกนี้เฉพาะให้พนักงานให้คำปรึกษาค่ะ
ถ้าเรียนปานกลางแนะนำนักจิตวิทยาดีกว่านะคะเราว่าทำในสิ่งที่ทำได้และถนัดดีกว่าเนอะเพราะบางทีถ้าเราหวังสิ่งที่เกินตัวเราอาจจะท้อและทำมันต่อไปไม่ได้หากเราไม่มีความพยายามที่มากพอ
สวัสดีครับ ขอแนะนำในฐานะที่เรียนด้านจิตวิทยาอยู่ที่รามคำแหงนะครับ
การเรียนด้านจิตวิทยาผมสามารถแนะนำได้ 3 สาย คลินิค , ปรึกษา , IO
การเรียนคลินิคจะคล้ายกันกับการเรียนหมอ มีภาษาอังกฤษค่อนข้างเยอะ นึกซะว่าเรียนวิทยาศาสตร์ได้เลยครับ ค่อนข้างยากมากๆ จะยากสุดในสายที่พูดทั้งหมดเลย ผมอาจจะลงรายละเอียดลึกให้มากไม่ได้นะครับ คิดว่าถ้าใจไม่รักจริงและขยันจริงๆไปยากครับ
การเรียนจิตวิทยาการปรึกษาจะค่อนข้างง่ายกว่าการเรียนคลินิค แต่การเรียนจิตวิทยานั้นก็ยังค่อนข้างยากครับ ไม่ต้องมีการจำชื่อยาหรือไปทำแบบทดสอบโรคมากเท่าจิตคลินิค และการเรียนจิตปรึกษานั้นจบมาได้เงินค่อนข้างเยอะที่สุดใน 3 สายที่พูดมาครับ (อันนี้อาจาร์ยพี่พูดมานะครับ ไม่รู้แน่ชัด)
ส่วน IO นั้นเป็นสายโรงงาน อาจเป็น HR รับคนเข้าทำงานตามโรงงาน อะไรแบบนี้ครับ
ลองไปศึกษาเพิ่มเติมดูนะครับ ทุกสายมีทางไปค่อนข้างมาก และการทำงานอะไรนั้นเราจะได้เงินเยอะหรือน้อยขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของเราด้วยครับ ขอให้เราตั้งใจจริง เชื่อมั่นในทางแล้วทำให้ดีที่สุด ผลตอบแทนก็จะออกมาดีกว่าการเลือกเรียนไปเพื่อหวังเงินสูงๆแต่ไม่เก่งอยู่แล้วครับ
การช่วยเหลือโรคซึมเศร้าที่น้องอยากจะทำลองเป็นนักจิตปรึกษาดูก็ดีครับ จะช่วยพูดคุยกับเค้า ช่วยเหลือเค้า ให้มุมมองใหม่ๆกับคนที่เป็นโรคซึมเศร้า
ยาวหน่อยแต่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์นะครับ
เท่าที่อ่านเราพอจะเข้าใจจขกทนะคะ แล้วก็ชื่นชมด้วยที่พยายามหาข้อมูลตั้งแต่ตอนนี้ จากนี้จะเป็นข้อมูลที่เราพอรู้นะคะ
นักจิตวิทยา
- ถ้าต้องการช่วยเหลือคนที่เป็นโรค สาขาที่ตรงกับความสนใจคือจิตวิทยาการปรึกษากับจิตวิทยาคลินิก ซึ่งแต่ละมหาลัยก็จะเปิดสอนไม่เหมือนกัน แนะนำให้ไปหาข้อมูลประกอบการเลือกสายนะคะ
- หลักสูตรจบ 4 ปีก็จริง แต่การจะลงไปทำงานกับผู้รับบริการที่มีปัญหาทางจิตใจได้ต้องผ่านrequirementเยอะนะคะ อย่างเก็บชั่วโมงฝึก หรือต่อป.โท (แล้วแต่ที่) มันก็จะไม่ใช่สี่ปีแล้วจบเลย
- เงินเดือนstart 15000+ นะคะเท่าที่ทราบ ยังไงก็ยังเป็นขั้นต่ำวุฒิป.ตรีค่ะ แต่อาจไม่ได้มีทางเพิ่มไปได้มากนักเพราะไม่ใช่สายงานในองค์กร อาจารย์ก็บอกว่าอยู่ได้แต่ถ้าอยากรวยสายนี้อาจไม่ใช่ทาง
จิตแพทย์
อันนี้เราอาจจะไม่ทราบรายละเอียดมากกว่าจขกทเท่าไหร่ แต่เห็นว่าบางแห่งยกเว้นการใช้ทุนของแพทย์ที่จะต่อเฉพาะทางจิตเวชนะคะ เพราะเป็นสาขาที่ขาดแคลน
อย่างไรก็ดีสองอาชีพนี้มองเผินๆอาจจะคล้าย/เกี่ยวข้องกับจิตวิทยาเหมือนกันแต่มีความแตกต่างในทางปฏิบัติค่อนข้างมากนะคะ จิตแพทย์จะดีลกับโรคหรือความอปกติ, ใช้ยา เกี่ยวข้องกับทางชีวภาพค่อนข้างมาก แต่นักจิตวิทยาจะดีลกับความคิดความรู้สึก โดยอิงความรู้จากทฤษฎีและงานวิจัยต่างๆมากกว่า อย่างเช่นว่าถ้าคนเป็นโรคซึมเศร้าจิตแพทย์จะมองเกี่ยวกับสารเคมีในสมองมากกว่า ส่วนนักจิตวิทยาจะจับไปที่patternความคิดที่กระตุ้นให้เกิดอารมณ์ ดังนั้นอยากให้เราลองเอาไปคิดดูนะคะว่าถ้าอยากจะทำจริงๆ แบบไหนที่เป็นเรามากกว่า แล้วก็อย่าลืมคุยกับคนที่บ้านด้วยเพราะทั้งสองทางก็ใช้เวลาไม่น้อยเลย เราเข้าใจความรู้สึกแบกรับของลูกคนโตนะคะ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ ถ้ามีเป้าหมายแล้ว การจะพัฒนาไปให้ถึงตรงนั้นจะมีทิศทางมากขึ้น เลือกได้แล้วก็ทำให้เต็มที่นะคะ :)
ขอถามเจ้าของกระทู้นะคะ ว่าความต้องการจริงๆของเจ้าของกระทู้คืออะไร มองอนาคตตัวเองอย่างไร คือจะไปเส้นทางไหนมันไม่มีถูกไม่ไม่ผิดหรอกนะคะ ที่สำคัญคือชัดเจนให้ได้ก่อน ว่าเราอยากทำงานแบบนั้นจริงๆหรือเป้าหมายคือเงิน มากกว่ากัน ซึ่งก็ไม่เถียงว่าการทำงานก็ต้องการเงินเป็นการตอบแทนอยู่แล้ว ถ้าคุณเลือกที่จะเรียนจิตแพทย์ แน่นอนว่าจะใช้เวลาที่มากกว่าคนอื่นๆ ต้องเรียนแพทย์6ปี ใช่ทุนอย่างต่ำ2 ปี ถึงจะสามารถต่อเฉพาะทางได้ และกว่าจะได้ทำงานตามที่เราหวังไว้ ส่วนนักจิตวิทยา ก็มีหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็น จิตวิทยาคลินิก จิตวิทยาการให้คำปรึกษา หรืออื่นๆอีก ซึ่งใช้เวลาเรียนตามปกติก็4ปี ถ้าเป็นนักจิตวิทยาคลินิกที่ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ คุณต้องไป internship ตามหลักสูตรกระบวนการของสมาคมก่อนจึงจะสามารถสอบใบประกอบวิชาชีพได้และยังไม่พอคุณต้องเรียนจิตวิทยาคลินิกในระดับป.ตรีคุณถึงจะมีสิทธิ์สมัครได้ แน่นอนทุกอย่างมีทั้งของดีและข้อจำกัดในตัว ขึ้นอยู่กับตัวคุณจะเลือกเส้นทางไหนแค่นั้นเองค่ะ
แนะนำให้ทำ SE หรือ Social Enterprise นะ SE คือ ธุรกิจเพื่อสังคม รายรับ รายจ่าย เหมือนทำธุรกิจเลย แต่แค่ทำเพื่อสังคมเท่านั้นเอง มันค่อนข้างมีรูปแบบที่หลากหลายนะ ตัวอย่าง เช่น ค่ายพัฒนาเยาวชน ของ อเล็กซ์ เรนเดล
ไม่น่าตัดสินยากนะคะ
ยังไงก็หมอมาก่อนอยู่แล้ว
จิตวิทยามีตัวตนแค่ในมหาลัยกับสมาคมเท่านั้นแหละ ยังไม่ใครที่เปิดคลินิกเองได้ มีให้การปรึกษาที่ค่อนๆแค่นๆไปมา ลองหาข้อมูลที่อยู่ในชีวิตจริงดู อย่าไปเชื่อที่เขาเขียนๆกันมา ข้อมูลมันบิดเบือนเยอะมาก
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?