Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ถามนักเขียนสายเทพทรู ท่านมีวิธีจัดการกับขอบเขตพลังตัวเอกอย่างไร(ไม่ให้ออกทะเล)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

เนื่องจากจขกทตอนนี้กำลังคิดไม่ตกกับขอบเขตพลังของตัวเอกที่กว้างจนต้องหรี่ตาดู และเริ่มกังวลถึงปัญหาในอนาคตเลยอยาจะถามนักเขียนที่แขียนแนวตัวเอกมีขอบเขตพลังกว้างเช่นสามารถสร้างนู่นนี่หรือมีพนังเหนือมนุษย์ ฯลฯ

จึงลิสมาเป็นข้อๆดังนี้
1.การสร้างข้อจำกัดหรือเงื่อนไขการใช้พลังคือคำตอบของปัญหาเหล่านี้หรือไม่

2.มุขที่ตัวเอกขยันสร้างความOMG!ให้ตัวละครอื่นให้ตื่นตะลึงพอนานเข้าจะกลายเป็นน่าเบื่อหรือไม่

ปล.อันนี้เป็นคำถามสำหรับนักเขียนมือใหม่อย่างข้าพเจ้าที่ประสบปัญหาเวลาแต่งตอนใหม่มักจะจดลงสมุดก่อนทว่าพอพิมพ์ลงตอนนิยายจริงๆกลับไม่ค่อยตรงตามที่จดไว้ตอนแรก (ออกทะเล)ต้องแก้อย่างไรดี ไม่อยากเขียนนิยายแบบลวกๆอยากให้เกียรติคนอ่านแต่กลัวตัวเองจะตันเสียก่อน
ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าค่ะ

//โดดหนีลงทะเล

 

แสดงความคิดเห็น

>

8 ความคิดเห็น

White Frangipani 19 ส.ค. 61 เวลา 16:12 น. 1-1

นอนแผ่หลาเลยด้วย5555555 ท่าจะสบายดีมีความสุขเนาะ5555


โอยยยยย น่ารักมากเลยด้วยยยยยยย


เห็นแล้วอยากเกาพุงงงงงให้นะ55555



0
SilverPlus 19 ส.ค. 61 เวลา 12:47 น. 2

1. ตัวโกง หรือ อุปสรรค์ จะต้องมีระดับเทียบเท่าความ OP (over power) ของตัวเอก ประมาณ ถ้าตัวเอกพลังพระเจ้า ตัวโกงก็ต้องมีพลังพระเจ้าด้วย จึงจะพอสูสีสนุก


โกคูที่ว่าเทพ ๆ ศัตรูที่โผล่มาแต่ละตัวเทพกว่าทั้งนั้น อย่าง ฟรีสเซอร์ จอมมารบูล


2. การทำให้ตะลึงสนุกเสมอ ไม่มีคำว่าน่าเบื่อ แต่ปัญหามันอยู่ที่ ยิ่งท้าย ๆ เรื่อง การทำให้ตะลึงจะงานยากขึ้นมาก เพราะตัวเอกปล่อยของไปหมดแล้วนั่นเอง วิธีแก้มี ก็คือพยายามแก้โจทย์ยาก ๆ ให้ได้ ซึ่งมันต้องใช้พลังมหาศาล แถมบางครั้งก็คิดไม่ออกง่าย ๆ ด้วย ด้วยเหตุนี้ จึงควรบริหารความตกตะลึง ไม่ให้ปล่อยออกมามากเกินไป และต้องให้แน่ใจว่าแต่ละครั้ง ตึ่นตะลึงจริง ๆ ไม่ใช่โผล่มาธรรมดา ๆ ไม่มีอะไรพิเศษ


3. จดลงสมุดแล้วลงคอม พล็อตเพี้ยน อันนี้ไม่ทราบว่านำมาลงยังไง เพราะถ้าแค่คัดลอกมา พล็อตมันจะไม่เพี้ยน จะแตกต่างกันแค่การบรรยายเท่านั้น ที่บางครั้งเราเปลี่ยนแปลงไปจากที่ดราฟไว้ ที่แนะนำคือ พิมพ์ลงคอมไปเลย ไม่จำเป็นต้องดราฟ

1
Somaki@ 19 ส.ค. 61 เวลา 13:04 น. 2-1

โอ้...ขอบคุณค่ะเป็นประโยชน์มากเลยต้องจดเรื่องพลังที่สูสีของตัวร้ายซะแล้ว! ส่วนเรื่องจนลงสมุกที่เพียนอาจจะเป็นการจดเฉพาะหัวข้อหลักที่จะนำเสนอในตอนนั้นๆของจขกท.เองด้วยล่ะค่ะ เลยทำให้เวลาพิมพ์ลงคอมมันอาจจะเพี้ยนไปไกลสักหน่อย ขอบคุณในคำแนะนำดีๆนะคะ

ปล.แอบตามอ่านผลงานคุณมาสักพักเขียนสนุกมากๆเลยค่ะ

0
เที่ยงแล้วอยากกินมาม่าต้มยำกุ้ง 19 ส.ค. 61 เวลา 13:03 น. 3

เราไม่ใช่นักเขียนสายเทพทรูนะคะ แต่ก็เคยเอานิยายเก่าๆ ของตัวเองที่พระเอกเทพทรูมากมารีไรท์ใหม่ให้ดูสมเหตุสมผลขึ้น ค่อนข้างงานหนักเลยล่ะค่ะเพราะเมื่อก่อนสร้างให้ตัวเอกทรูราคาแพงใช่ย่อยเลย อันนี้คือคำตอบจากวิธีการที่เราเลือกใช้นะคะ อันที่จริงถ้าจะอธิบายจริงๆ มันยาว จะพยายามสรุปให้สั้นนะคะ


1.การสร้างข้อจำกัดหรือเงื่อนไขการใช้พลังคือคำตอบของปัญหาเหล่านี้หรือไม่

- ก่อนอื่นขอพูดถึงองค์ประกอบของตัวละครเก่งเทพก่อน เราจะแบ่งองค์ประกอบหลักๆ ในการสร้างความสามารถของตัวละครทุกชนิดออกเป็น 2 อย่างใหญ่ๆ คือพลังกาย และ เวทมนตร์


ถ้าเป็นตัวละครที่มีแค่พลังกาย นั่นก็จะเหมือนคนทั่วไป มีกำลังกายทั่วไป ถ้าออกกำลังหรือฝึกฝนเพิ่มก็อาจจะเก่งขึ้น มีแรงเพิ่มมากขึ้น ในที่นี้ถ้าดูด้านการต่อสู้ คนพลังกายแบบนี้ทำอะไรได้บ้าง? ชกก็อาจจะทำให้หน้าหัน ตาบวม กระดูกที่บางๆ อย่างกระดูกที่บางๆ ไม่ค่อยทนนักหักได้ แต่คงไม่อาจทำให้ตัวแหลกกลายเป็นผุยผงได้ ใช้ดาบเหรอ? เราอาจติดภาพตัวละครใช้ดาบแล้วปล่อยพลังใส่กัน แต่ความจริงแล้วถ้ามองดูดีๆ ดาบมันก็คือแท่งเหล็กแหลมๆ ที่เอามาตีให้คมและง่ายต่อการถือ แล้วคนเราก็แค่เอาแท่งเหล็กหนักๆ นั่นมาเหวี่ยงฟาดกัน ถามว่ามันฟันทะลุร่างได้ไหม? ถ้ามีแรงมากๆ ก็ย่อมทำได้ แต่อาจจะติดอยู่ในตัวคนและดึงออกยาก ถ้าแรงน้อยก็อาจจะต้องพึ่งน้ำหนักของดาบ ดาบหนักเท่าไหน ยิ่งดาบหนักมากเท่าไรก็ยิ่งมีแรงในการทะลุร่างมากเท่านั้น แล้วถ้าเอาดาบไปฟันประตูไม้ล่ะ? แน่นอนว่าประตูไม้แข็งกว่าร่างกายมนุษย์ ต้องใช้แรงมากขึ้นในการฟันเพื่อให้ทะลุออกไป อาจจะฟันไม่เข้าเลยด้วยซ้ำถ้าเป็นดาบเหล็ก ใช้ขวานดีกว่าไหม? หรือถ้าใช้ปืนก็ต้องดูพวกสมรรถภาพของปืน ปืนเก่าปืนใหม่ ถ้าปืนเก่ามันจะมีข้อจำกัดของการสร้างอยู่อย่างมันสร้างขึ้นมาได้ไม่ค่อยดีนัก เวลายิงแล้วตัวปืนจะร้อนมาก ยิงแค่นัดเดียวอาจทำให้ปืนใช้การไม่ได้อีกเลย หรือถ้าเป็นปืนทั่วไปก็อาจเป็นข้อจำกัดเรื่องการใส่กระสุน ปืนมีอยู่กระบอกแค่นั้น รังปืนก็คงมีไม่มาก ใส่กระสุนได้เต็มที่กี่นัด? วิธีการใส่กระสุนล่ะเป็นยังไง ถ้าต้องใส่กระสุนในสนามรบจะเสียเวลาไปแค่ไหน


ถ้าสร้างตัวละครที่เน้นพลังกาย เราต้องคำนึงถึงอะไรแบบนี้ให้มากๆ ทีนี้ก็มาอีกส่วนประกอบหนึ่ง เวทมนตร์


พูดถึงเวทมนต์อาจคิดว่ามันเป็นพลังที่ต้องใช้การร่ายหรืออะไรแบบนั้น แต่คำจำกัดความเวทมนตร์ของเราก็คือ "พลังพิเศษทุกอย่างที่ขวางหน้า" ทุกอย่างที่โอเวอร์เกินกว่าพลังกาย มีพลังกายแค่อย่างเดียวทำไม่ได้ นั่นคือเวทมนตร์ ในนิยายเราอาจไม่ได้บรรยายว่ามันคือเวทมนตร์ เราอาจบอกว่ามันคือพลังพิเศษ หรืออาจจะใช้ชื่อเฉพาะอะไรก็ตามที่ทำให้คนอ่านคิดว่านั่นไม่ใช่เวทมนตร์นะ แต่ตราบใดที่มันเป็นสิ่งพิเศษที่อยู่เหนือกฏธรรมชาติ มันก็คือเวทมนตร์ ในกรณีที่เราอยากสร้างตัวละครเทพทรู องค์ประกอบมีอะไรบ้าง? มันก็คือการเอาคนธรรมดาทั่วไปมา + กับเวทมนตร์นั่นแหละค่ะ เป็นคนธรรมดาทั่วไป แต่มีความสามารถที่ไม่ธรรมดา คำถาม ผสมแบบไหนที่ทำให้ดูดีไม่เทพทรูเกินไป อันนี้เราก็ต้องกะส่วนผสมกันเอาเองว่าอยากได้แบบไหน หรือกระทั่งคำนึงว่าถ้าใส่ส่วนผสมเช่นนี้มันจะส่งผลกับเนื้อเรื่องอย่างไรบ้าง


นอกจากเรื่องส่วนผสมพวกนี้ ตัวละครจะเทพทรูได้หรือไม่ก็ต้องดูเอาจากคนรอบตัวด้วย ถ้าคนรอบตัวก็เทพเหมือนกัน งั้นตัวเอกคงไม่เทพทรู อาจแค่มีความสามารถที่แตกต่าง แต่ก็ไม่ได้เก่งกว่าคนอื่นมากมาย เปรียบเทียบนี้แน่นอนว่าต้องเทียบกับตัวละครตัวอื่นในเนื้อเรื่อง ไม่ใช่เทียบกับมนุษย์ทั่วไปอย่างพวกเรา พวกเราไม่ได้ไปอยู่ในเนื้อเรื่องของคุณ ถ้าในเรื่องของคุณเป็นเรื่องของผู้พิเศษ มีผู้พิเศษอยู่เต็มโลก ตัดสามัญสำนึกของคนทั่วไปทิ้งไปซะ แล้วสร้างสามัญสำนึกที่มนุษย์พิเศษที่คุณสร้างขึ้นมาเท่านั้นจะมีได้ แต่ขอบเขตคือแค่ไหน? อันนี้ก็เหมือนเดิมคือต้องดูที่ความเหมาะสม ความเหมาะสมคืออะไร? คุณสร้างกฏฟิสิกข์ของเนื้อเรื่องคุณขึ้นมาว่าอย่างไร เขียนตามนั้นไป ถ้าคุณไม่ได้สร้างกฏฟิสิกส์ในเนื้อเรื่องเป็นพิเศษ คุณอาจต้องยึดเอากฏฟิสิกส์ของคนธรรมดาหรือโลกธรรมดาไว้ก่อน ก่อนเขียนสักเรื่องก็กำหนดเอาไว้ว่าโลกในเนื้อเรื่องเรามีอะไรพิเศษบ้าง อาจเอาโลกเราเป็นตัวตั้งต้นแล้วเพิ่ม "เวทมนตร์" เข้าไปเรื่อยๆ เพิ่มเข้าไปจนกระทั่งคิดว่าอืม นี่แหละ โลกในเรื่องของเรา (ที่เหลือก็อาจจะกำหนดวัฒนธรรม สังคม ศาสนา การแต่งกาย หรืออะไรก็ว่ากันไป แต่มันต้องคล้องกับกฏฟิสิกส์ของโลกที่เราสร้างขึ้นมา)


อันนี้ก็มาตอบคำถามแล้ว ถ้าสมมติมีตัวละครเทพทรูอยู่แล้วใส่จุดด้อยเข้าไปมันจะทำให้ตัวละครดูดีขึ้นไหม จุดด้อยนั้นคืออะไร หลายครั้งที่จุดด้อยไม่ได้ช่วยลดความเก่งให้ตัวละครเลยหรือไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพลังของตัวเอกเลย บางทีใส่มาก็ยังทำให้ตัวเอกดูดีและเก่งเทพเหมือนเดิม แต่บางทีมันก็ทำให้เนื้อเรื่องมีสีสันต์ขึ้นมาได้ อย่างเช่นตัวเอกเก่งเทพแต่กลัวหนอน มันอาจเป็นจุดด้อยใหญ่ แต่ถ้ามองในเชิงกลไกอย่างเดียว ไม่ได้มองในเชิงของศิลปะหรือความน่าสนใจ มันจำเป็นหรือเปล่า? ความเก่งของตัวเอกทำให้ตัวเอกกลายเป็นคนกลัวหนอนงั้นเหรอ? ถ้าไม่มีเหตุผลอธิบายเสริมมากกว่านี้มันก็ดูแปลกๆ นะ จริงอยู่ว่าตัวเอกเก่งเทพแต่กลัวหนอนมันดูน่ารักมากๆ (อยากแกล้งเอาหนอนไปเขวี้ยงใส่//ไม่เอา ไม่บูลลี่ย์) แต่มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพลังของตัวเอกเลย ใส่มาคือมันโอเคแหละ น่ารักดี แต่ถ้าดูในเชิงกลไกมันไม่จำเป็น (พูดแบบนี้อาจทำให้งงหรือเปล่านะ? สรุปง่ายๆ คือบางทีจุดอ่อนมันก็ทำให้ตัวละครดูดีขึ้นนั่นแหละค่ะ แต่ก็ไม่เสมอไป เรานึกตัวอย่างกรณีที่ไม่เสมอไปไม่ออกด้วยแหละค่ะ ขอโทษที)


พูดถึงจุดด้อย แน่นอนทุกอย่างย่อมมีจุดด้อยหรือข้อจำกัด แต่ไม่ใช่ว่าเราจะใส่จุดด้อยอะไรลงไปในตัวละครก็ได้ บางทีมันอาจเข้ากันก็จริงอยู่ แต่บางทีอาจจะไม่เข้า มองจุดด้อยที่เราใส่เพิ่มเข้าไปเป็นจุดด้อยเสริมก็แล้วกัน เราจะใส่หรือไม่ก็ได้เพื่อเพิ่มสีสันต์ให้เรื่อง แต่เราอยากจะให้มุ่งเน้นที่จุดด้อยสำคัญก่อน จุดด้อยสำคัญเป็นยังไง? จุดด้อยสำคัญมักจะต้องล้อกับความสามารถของตัวละครเสมอ ตัวละครมีความสามารถอย่างนั้นอย่างนี้ จะเป็นความสามารถยังไงก็ได้ ถามก่อนเลย ถ้าตัวละครมีความสามารถระดับนี้ อ่อนด้อยระดับนี้ เก่งระดับนี้ ตัวละครจะได้อะไรดีๆ หรือต้องประสบปัญหาอะไรจากความสามารถเหล่านี้บ้าง?


ขอยกตัวอย่างจากตัวละครของเราตัวหนึ่งก็แล้วกัน เป็นตัวละครที่มีพื้นมาจากคนธรรมดาทั่วไป+พลังพิเศษคือเก่งดาบ เก่งดาบในที่นี้คือมันเหมือนเป็นเวทมนตร์ ฟันอะไรก็ฟันเข้า กระทั่งฟันเหล็กยังตัดขาด ไม่มีปัญหาทั่วไปที่มักจะพบคือฟันไม่เข้าหรือติด แต่นอกจากนั้นล่ะ? เขาก็เป็นแค่มนุษย์ทั่วไป กระโดดก็ได้แค่ระดับคนทั่วไป จะขึ้นหลังคาบ้านก็ต้องหากล่องปีนหรือไต่ขึ้นไป ตกจากที่สูงก็ตายได้เหมือนกัน แล้วถ้าโดนเวทแรงๆ ใส่หรือโดนโจมตีเข้าแรงๆ แน่นอนว่าเขาไม่มีเวทมนตร์ที่ใช้ป้องกันตัวเอง ถ้าเขาไม่ใช่ดาบของตัวเองรับการโจมตี โดนโจมตีเข้าตัวตรงๆ ก็ตายได้เหมือนคนทั่วไปเลย ที่พูดนี้คือจุดแข็งและจุดอ่อนจากการล้อกัน จุดสำคัญก็คือถ้าตัวละครของเราไม่ได้มีความสามารถไหนๆ ขีดจำกัดตัวละครนั้นจะต้องเท่ากับมนุษย์ทั่วไปเท่านั้น หรืออาจจะน้อยกว่ามนุษย์ทั่วไปบ้างตามความเหมาะสม ถ้าตัวละครปล่อยพลังตู้มต้ามทำลายโลกได้ แต่สมมติร่างกายตัวละครก็แข็งแกร่งเท่าคนทั่วไปล่ะ? เขาจะรับพลังโจมตีของตัวเองได้หรือเปล่า? เขาใช้พลังที่แข็งแกร่งของตัวเองแล้วร่างกายจะแหลกสลายไปหรือเปล่า? มนุษย์คนหนึ่งอาจมีพลังที่มากมาย แต่ภาชนะหรือร่างกายของพวกเขาแข็งแกร่งพอหรือเปล่า?


อีกปัญหาหนึ่งที่ตัวเอกประเภทเก่งเทพมักประสบและคนมักจะมองข้ามไม่ค่อยชอบใส่มันเข้ามาในเรื่องเพราะจะทำให้เรื่องดาร์กก็คือความน่าหมั่นไส้ มนุษย์เราชอบความเท่าเทียมเสมอภาคกันค่ะ เห็นคนเก่งกว่าแบบแค่เกิดมาก็เก่งเทพแล้วมันน่าหมั่นไส้ไหม? เราจะเห็นได้ว่าผู้คนนิยมชมชอบคนที่ไม่ได้เก่งแต่พยายามจนเก่งมากกว่า รู้สึกว่าพวกเขาเทพ แต่คนที่ไม่ได้พยายามอะไรเลย เกิดมาก็เก่งแล้วล่ะ? โถ่ -ขี้โกง นายเป็นบ้าอะไรถึงได้ขี้โกงคนอื่นได้ถึงขนาดนี้ อยากเด่นเหรอ? คิดว่าตัวเองเก่งแล้วเทพเหรอ? คนอื่นพยายามกันมากมายแต่นายกลับได้มันมาเลย ทำไมถึงขี้โกงขนาดนี้ คนรวยก็เหมือนกัน แค่เกิดก็เกิดมาบนกองเงินกองทองแล้ว ไม่รู้ล่ะสิคนจนเป็นยังไง ความจริงแล้วพวกคนรวยก็แค่โลเซอร์ที่เกิดบนกองเงินกองทอง หลายคนคิดแบบนี้กันจริงๆ นะคะ (มองอีกด้านคนที่มองแบบนี้ก็คือโลเซอร์นั่นแหละ แต่มันก็คือธรรมชาติของมนุษย์ บางคนอาจไม่ได้แสดงออกตรงไปตรงมาแบบโลเซอร์ แต่ถ้าเราเห็นใครเขามีสิ่งที่ตัวเองอยากได้ เรารู้สึกไม่ดีกับเขาไหม? เรายังรู้สึกดีกับเขาอีกเหรอ? ยกตัวอย่างง่ายๆ กดกาช่า เพื่อนได้ ssr เราไม่ได้ ทำไมเราไม่ดีใจกับเพื่อนล่ะ? ทำไมถึงห้ามไม่ให้เพื่อนอวดกาช่าของตัวเอง ก็เพราะคุณอยากได้ไม่ใช่เหรอ? คุณอาจจะพยายามทำตัวดีไม่ขี้อิจฉา แต่ลึกๆ ก็คืออยากได้และรู้สึกไม่ดีกับคนอื่นใช่ไหมล่ะ? คุณกล้าแสดงความยินดีกับพวกเขาที่ได้ ssr ไวฟุ หรือฮัสแบนโดะที่คุณอยากได้ไหม?)


ความจริงคือแม้เขาจะโชคดีและเขาก็มีความสุขที่ตัวเองโชคดี แต่เขาไม่ได้เลือกเกิด ถ้าโดนอิจฉาเขาก็เสียใจได้เหมือนกัน ความเสียใจหรือปัญหานี้ก็ใช้มาทำให้ตัวละครเทพทรูดูเหมือนคนธรรมดามากขึ้นได้เช่นกัน แล้วนี่ก็คืออีกจุดด้อยของตัวเอกเก่งเทพที่คนไม่ค่อยใส่เข้ามาในนิยายเพราะจะทำให้นิยายดาร์ก พอใส่จุดนี้เข้ามาไม่ได้ก็ต้องไปหาจุดอ่อนอื่นใส่เข้าไปแทน ซึ่งก็แน่นอนว่ามันคือการตัดความสมจริงออกไปอย่างหนึ่ง แล้วเราก็ต้องหาอะไรมาเพิ่มเพื่อความสมจริงนั่น แต่จะเพิ่มอะไรเข้าไปให้สมจริงขึ้นนั่นก็อีกเรื่อง ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ เพราะเนื้อเรื่องแนวสดใสที่ตัวละครทุกตัวไม่คิดมากหรือไม่ขี้อิจฉาก็มี แต่เราก็ต้องหาคอนฟลิกในเรื่องที่จะดึงดูดคนอ่านให้ได้



2.มุขที่ตัวเอกขยันสร้างความOMG!ให้ตัวละครอื่นให้ตื่นตะลึงพอนานเข้าจะกลายเป็นน่าเบื่อหรือไม่


อันที่จริงเราเองก็ชอบอะไรแนวเทพทรูหรือพิเศษกว่าชาวบ้านนะคะ (ยอมรับเลยว่ามันทำให้เรารู้สึกดี เพราะโดยทั่วไปเราก็คงไม่ได้เกิดมาโชคดีแบบตัวเอกนั่น เนื้อเรื่องแนวตัวเอกมีพลังพิเศษและยังมีเพื่อนพ้องอยู่มากมายก็ค่อนข้างมีสีสันต์และน่าสนใจอยู่) ช่วงหลังๆ นี้ติดเกม Trails of Cold Steel ตัวเอกก็เทพทรูพอตัว มีอะไรดีกว่าชาวบ้านเขาทุกอย่าง (แล้วไม่โดนอิจฉาด้วยนะ มีเพื่อนดีเต็มไปหมดเลย) ไม่ค่อยอยากจะลิสต์ว่าตัวเอกมีอะไรบ้าง เกมนี้ถ้าเล่นแบบไม่รู้อะไรเลยมันมีอะไรสปอยร์ให้ตกใจอยู่เรื่อยๆ เลยจริงๆ ตัวเอกก็อารมณ์แบบนี้เลย ขยันสร้างความ OMG แต่ที่ขยันสร้างไม่ใช่แค่ตัวเอกนี่สิ ทุกคนเลย เนื้อเรื่องก็ขยันสร้างความ OMG เสียจริงๆ


โดยสรุปเราคิดว่าถ้าเราใช้ตัวเอกแค่ตัวเดียวขยันสร้างความ OMG เราก็จะมองว่า เฮ้ย เมิงเอาอีกแล้วเหรอ? เว้นที่ให้คนอื่นบ้างไหม? แต่ถ้าเราร่วมกันกับเพื่อน ขยันสร้างความ OMG ด้วยกัน เราก็จะเป็นกลุ่มคนที่ไร้เทียมทาน ขยันสร้างความ OMG ให้ทุกคน (ล้อเล่นนะคะ แต่สรุปก็คือยังไงนิยายหรือเรื่องราวมันก็ต้องมีเรื่องสร้างความ OMG บ้างแหละ แต่ใช้อยู่มุกเดียวมันก็น่าเบื่อจริงไหม? กระจายมุกหรือกระจายตัวละครบ้าง บางทีเราอาจใช้ตัวละครสร้างความ OMG มาเยอะแล้ว ใช้โครงเรื่องสร้างความ OMG บ้าง แล้วมันจะไม่น่าเบื่อค่ะ)

3
Somaki@ 19 ส.ค. 61 เวลา 13:09 น. 3-1

น่าสนใจมากๆเลยค่ะเรื่องหัวข้ององค์ประกอบของตัวละครรอบๆตัวเอกที่เก่งและส่งเสริมกัน อาจะช่วยเพิ่มสันถ้ามีพวกพ้องสินะคะ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ไว้จะนำไปปรับใช้แน่นอนค่ะ

0
no one know 19 ส.ค. 61 เวลา 16:26 น. 4

นิยายที่เคยเขียนและพระเอกเก่งสุดคือนิยายเกม ออนไลน์ ซึ่งเอาจริง ๆ ก็เขียนมาเป็นกึ่งพาโรดี้ล้อเลียนนิยายจำพวกเดียวกันนี้ตามสมัยนิยมซึ่งพระเอกจะเทพมากกกกกกก! ก็ไปหยิบคาแรกเตอร์ตรงนั้นมาแล้วทำให้มันสุดโต่งเข้าไปอีกคือเก่งขนาดที่ตบศัตรูทีพลังทำลายหลักล้าน+ เก่งขนาดไม่มีใครสู้ได้แต่มีจุดด้อยคือมันเป็นพวกชอบหลงทางครับ (ฮา) เลยไม่ยอมเดินทางไปไหนเกินกว่าเมืองเริ่มต้น เพราะกลัวว่าจะกลับมาไม่ได้ 555+


1. การสร้างข้อจำกัด - ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ดีกว่านั้นคือสร้างจุดอ่อนหรือศัตรูที่เทพกว่ามาต่อกรครับ...


2. มุขสร้างความประหลาดใจ - สำหรับผมนี่เป้นจุดขายเลยด้วยซ้ำ (ฮา) เพราะชูโรงมาว่าพระเอกสายเกรียน แต่ไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน ทว่าเรื่องวุ่น ๆ ก็มักจะวิ่งเข้ามาหาตัวมันเรื่อย ๆ จนต้องแก้ปัญหาแบบเกรียน ๆ จนบางทีคนอ่านยังอุทานว่ามันทำไปได้! (ฮา)

1
Somaki@ 19 ส.ค. 61 เวลา 18:21 น. 4-1

ณ ตอนนี้ก็หากินกับมุขสร้างความประหลาดใจอยู่เหมือนกันค่ะ ฮา

0
lilin4646 19 ส.ค. 61 เวลา 16:34 น. 5

เคยเขียนแนวเทพทรูอยู่ครับ ที่ผมทำไม่ใช่เรื่องกำหนดสเกลพลังหรืออะไรงี้นะ แต่เป็นกำหนดแนวทางการพัฒนาของตัวละครและเนื้อเรื่องให้ชัดเจนมากกว่า เพราะถ้าตัวเอกเทพมากๆ แล้วให้พระเอกพัฒนาแต่ความเทพ สุดท้ายก็จะคุมไม่อยู่แล้วก็น่าเบื่อครับ

ตัวละครตัวนึงมีหลายแง่ เราสามารถเขียนได้หลายมุม

1. พัฒนาบุคลิกของตัวเอง เช่น ตอนแรกมีพลังแล้วทำอะไรตามใจ แต่ก็รู้ว่าพลังมันไม่ได้ช่วยแก้ไขทุกอย่าง เลยเติบโตขึ้น 2. พัฒนาความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น เช่น ตัวเทพแรก แต่ไม่มีเพื่อนไม่มีความรัก ค่อยๆ ปรับความสัมพันธุ์หาคนอื่น 3. พัฒนาอย่างอื่น เช่น เมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม อาหาร ประมาณนี้ครับ เพื่อให้นิยายเรามีการพัฒนาไปถึงตอนจบได้ ไม่วนอยู่ในอ่างอะนะ

1
Somaki@ 19 ส.ค. 61 เวลา 18:23 น. 5-1

ตั้งใจอยากให้มีเรื่องความสัมพันธ์พวกพ้องเพิ่มเข้ามาเหมือนกันค่ะ อิงจากหนังสือการ์ตูนดังๆที่ชอบอย่างวันพีช แต่มันยากจริงๆค่ะที่จะเขียน กลัวนำเสนอออกมาไม่ดีพอ

ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะดีๆนะคะ จะไปปรับใช้ค่ะ^^

0
P-ITEM 19 ส.ค. 61 เวลา 18:03 น. 6

ไปดู One Punch Man สิค่ะ

ไม่เห็นต้องไปจำกัดพลังเลยค่ะ 555 ก็เราอยากให้ตัวเองเทพสุดนิมีไรป่ะ ห๊าาาา


จะ OP ก็เอาให้สุดดิเดี๋ยวคนอ่านก็หาว่าแม่งเทพขนาดนี้โดนตัวร้ายตบดับอนาถ ไปเพิ่มพลังมาแล้วพอชนะตัวเดิมได้ก็โดนตัวใหม่ทำร้ายดับอนาถอีกฝึกใหม่อีก วนลูป อะไรว่ะ? ไหนบอก-เทพไงงงง -เทพไม่จริงนี่


มุกสร้างความตะลึง เห็นหลายเรื่องแล้ว และเปลี่ยนคนตะลึงไปเรื่อยๆก็โอเคเหมือนเปลี่ยนคนตะลึงไปทีละกลุ่มๆก็หากินได้เรื่อยๆตามกระแส


แต่การจะให้เทพสุดอยู่คนเดียวนอกจากเป็นนิยายกาวๆกับตลก-ไปวันๆแล้วมันทำยากค่ะ ถ้าเน้นผจญภัยบู๊ๆก็ตามที่คุณคิดนั่นแหละไม่งั้นมันจะจบไวไปไม่น่าตื่นเต้น


นิยายเราตัวเอกจะไปครองโลกค่ะสเกลพลังเลยใหญ่เว่อร์วังมาก เลยคิดว่าไหนๆมันก็เว่อร์มาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดค่ะเอาให้สุด

1
Somaki@ 19 ส.ค. 61 เวลา 18:25 น. 6-1

เป็นแฟนไซตามะเหมือนกันค่ะ คิดอยู่ว่าอยากมีพลังแบบนั้นบ้างจังน้า..แต่ไม่อยากหัวโล้นอ่า สเกลพลังตัวเอกในนิยายจขกท.ก็ค่อนข้างจะเว่อเหมือนกันค่ะเลยเพิ่มข้อจำกัดให้นางไปไม่น้อยเลย แต่เขียนยากชะมัดเลยค่ะ ฮืออ กลัวนำเสนอออกมาไม่ดีพอ

0
white cane 20 ส.ค. 61 เวลา 09:01 น. 7

อยากได้วิธีแก้ปัญหาเหรอ ?


ถ้าไม่มีจำกัดขอบเขต หรือเงื่อนไข เอาไว้บ้าง มันจะออกทะเลครับ


หรือจะให้ยกตัวอย่างง่ายๆ...


ตัวโกงทำใบหน้าตกใจ "โอ้ไม่ ! เจ้ามีพลังขนาดนั้นได้ไง เป็นไปไม่ได้ !"


พระเอกสายเทพทรูหัวเราะเสียงดัง "เจ้าเอาชนะข้าไม่ได้หรอก ข้าจะล้างกองโจรของพวกเจ้าให้หมด แล้วเอาเชลยสาวสวยมาอยู่ในฮาเลมของข้าให้หมด ฮ่าๆ ! จงจำเอาไว้ ต่างโลกนี้ข้าใหญ่สุด !"


แต่ทว่าพระเอกหัวเราะไม่นาน ใบหน้าของเขาซีดราวกับกระดาษทิชชู่ จู่ๆ มีเสียงดังสนั่นจากฟ้าเบื้องบน พร้อมปรากฏค่าพลังเกมของเขา


"เจ้าหนุ่ม ! เจ้าบังอาจมาก ข้าในนามแห่งพระเจ้าผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง ข้าจะไม่เติมบัตรทรูให้เจ้าอีกแล้ว !"


พริบตาเดียว เงินที่เติมเข้าสู่ระบบ ลดฮวบๆ อย่างน่าใจหาย จนกระทั่งค่าพลังทุกอย่างลดเหลือศูนย์

0
np2l_studiononma 20 ส.ค. 61 เวลา 10:28 น. 8

มีปัญหาตรงนี้เหมือนกันเลยครับ เพราะกำลังจะเขียนแนวนี้อยู่พอดีครับ คือผมกำลังคิดว่าจะเขียนออกมายังไง ไม่ให้เหมือนเมาคลี ลูกหมาป่า เขาเป็นตัวละครสมทบที่วางไว้ว่าต้องเขียนให้เป็นตัวเอกสักเรื่องครับ เขาเป็นตัวละครที่ผมอยากให้เขาเป็นเพดานของความเป็นที่สุดในโลกน่ะครับ พลังพิเศษของเขาจะสุดทุกด้าน และทำได้ทำทุกอย่างไม่จำกัด แบบควบคุมรูปลักษณ์ของตัวเองได้ สร้างเสื้อผ้าได้ เปลี่ยนความคิดใครก็ได้ อยู่ในอวกาศก็ได้ แหวกว่ายเปลวไฟดวงอาทิตย์ก็ยังได้ หรือข้ามไปกาแล็กซี่ใดๆก็ได้ ไม่มีเหนื่อย ไม่มีกลัว แค่มีปมในใจ เท่าที่คิดเรื่องอุปสรรคของเขา จากที่เขียนไว้ในบทรับเชิญในนิยายกับการ์ตูนเรื่องอื่นๆ คือถูกลอบฆ่าตั้งแต่วันคลอดและรอดมาได้เพราะพวกหมอพยาบาลแอบช่วย พ่อแม่พาไปอยู่ในป่าตั้งแต่จนโตเป็นหนุ่ม เรียนหนังสือจากหนังสือที่พอหามาได้ ความรู้ทางการศึกษาก็จะไม่สูง และพออยู่ในป่านานๆ เขาจะติดภาษาพูดแบบคนสมัยที่เขาเป็นเด็ก อะไรแบบนั้น คนสมัยนี้จะรู้สึกแบบหูกับภาษาที่เขาใช้ อย่างใช้คำแทนตัวว่า "ตู" และเรียกคนอื่นว่า "สู" และเขาจะมีคลังคำพูดในหัวไม่เยอะด้วย ประโยคก็เลยจะห้วนๆ แปลกๆ ผมปั้นเรื่องของเขามา5ปีแล้ว แต่ยังหาบทให้ได้แค่บทสมทบ (ยิ้มอ่อน)

0