Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เคล็ดลับในการตั้งเป้าหมายโดยที่คุณจะไม่มีวันล้มเลิกกลางคันอย่างเด็ดขาด

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ในนี้มีใครบ้างที่ตั้งใจจะทำอะไรซักอย่างหรือตั้งเป้าหมายเอาไว้ในชีวิตแต่สุดท้ายกลับทำไม่ได้ ผมบอกเลยเมื่อก่อนผมเองก็เป็นคนแบบนี้เหมือนกัน แต่หลังจากที่ผมได้อ่านแล้วก็ทำความเข้าใจมากขึ้น ผมกลับพบว่าจริงๆแล้วตัวการสำคัญไม่ใช่เพียงเพราะเรามีความพยายามไม่มากพอ แต่มันมีปัจจัยอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้องอีก ซึ่งผมจะสรุปออกมาเป็นหัวข้อ 3 หัวข้อด้วยกัน แต่ก่อนจะเริ่มผมขอแบ่งปันข้อมูลดีดีอีกอย่างหนึ่งให้กับทุกคน

ผู้คนส่วนใหญ่จะเริ่มตั้งเป้าหมายกันทุกวันปีใหม่ของทุกปี มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า " New Year's Resolution " ไม่ว่าจะเป็น ฉันจะลดน้ำหนักให้ได้ ฉันจะกินแต่อาหารคลีน บรา...บรา...บรา... แต่คุณรู้หรือไม่ว่าทุกวันที่ 17 มกราคม ของทุกปีจะมีอีกวันนึงชื่อว่า " วันล้มเลิกปณิธานแห่งปีใหม่ ( Ditch New Year's Resolution Day. ) " นั่นก็หมายความว่าคนส่วนใหญ่จะเลิกทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ภายในเวลาไม่เกิน 3 สัปดาห์ และเรื่องนี้มีผลการวิจัยออกมายืนยันอีกด้วย แต่เมื่อมีปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ ซึ่งผมได้แบ่งวิธีจัดการและทำให้เราพิชิตเป้าหมายของเราได้สำเร็จออกเป็น 3 หัวข้อด้วยกันดังนี้

1.) เขียนเป้าหมายและวิธีการให้ชัดเจน - วิธีนี้คือการเตือนตัวเราเองอยู่เสมอเพราะมันจะทำให้เราเห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยวิธีการก็คือเขียนเป้าหมายที่เราอยากทำลงไป จากนั้นก็แยกเป็นหัวข้อว่าเราจะพิชิตเป้าหมายนั้นๆได้อย่างไรยิ่งละเอียดเท่าไหร่ยิ่งดี จากนั้นก็ทำยังไงก็ได้ให้เป้าหมายที่เราเขียนลงผ่านสายตาของเรามากที่สุด เช่น ติดไว้กับตู้เย็น ไว้บนโต๊ะทำงาน หรือหน้าประตู แบบนี้เป็นต้น

2.) แต่ละเพศมีวิธีการเพื่อให้พิชิตเป้าหมายได้ไม่เหมือนกัน - เป็ฯความจริงที่เกิดจากการทดลองของ " ศาสตราจารย์ Richard Wiseman " ซึ่งเขาได้ทำการทดลองกับกลุ่มผู้ทดลองจำนวน 3,000 คน เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี ผลปรากฎว่ามีผู้ที่สามารถพิชิตเป้าหมายของตัวเองได้เพียง 12% หรือ 360 คน เท่านั้นเอง นี่เป็นความจริงที่น่าตกใจมาก จากนั้นเขาก็ได้สอบถามและแบ่งแยกวิธีการของกลุ่มผู้ทดลองออกมาจนสรุปได้ดังนี้

เพศชาย - จะทำตามเป้าหมายได้สำเร็จเมื่อพวกเขาถูกย้ำเตือนด้วยของรางวัล ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากคุณออกกำลังกายและไม่กินอาหารขยะคุณก็จะมี Six Pack แบบนี้เป็นต้น เพราะเมื่อคุณรู้ว่าคุณจะมี Six Pack เมื่อออกกำลังกายและควบคุมวิธีการกิน ภาพของคุณตอนมี Six Pack และมีสาวๆมากรี๊ดก็จะคอยย้ำเตือนและช่วยทำให้โอกาสในการล้มเลิกความตั้งใจลดน้อยลงด้วย

เพศหญิง - ให้ประกาศเป้าหมายของตัวเองให้กับญาติหรือเพื่อนสนิทได้รับรู้ เพื่อคอยให้กำลังใจและเตือนสติเมื่อตัวเราต้องการจะล้มเลิกความตั้งใจกลางคัน ( ผมหมายถึงคนที่จะคอยเตือนเราจริงๆแล้วก็ไม่พากันลงเหวและอีกอย่างหนึ่งก็คือประกาศเป้าหมายผ่านสื่อโซเชียลต่างๆแบบนี้ถือว่าไม่นับนะจ๊ะ ) ที่ต้องทำแบบนี้ศาตราจารย์ Richard Wiseman ให้เหตุผลว่า " ผู้หญิงนั้นมักห่วงภาพลักษณ์ของตัวเองมากกว่าผู้ชาย เพราะฉนั้นหากพวกเธอทำไม่ได้ตามที่ตั้งใจเอาไว้ก็อาจถูกเอาไปนินทาลับหลังหรือมีคนนับถือหรือเชื่อใจตนเองน้อยลง " นั่นเอง

3.) " สมอง " คืออีกหนึ่งตัวการสำคัญ - หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้ ว่าจริงๆแล้วสมองของเรานั้นก็มีพลังงานเป็นของตัวเองแบบเดียวกับที่ร่างกายมีและพลังงานของสมองนั้นก็มีอยู่อย่างจำกัดเหมือนกับร่างกายเช่นเดียวกัน หรือที่เรียกกันว่า " พลังประมวลผล ( Cognitive Load ) ที่จำกัด " เพราะฉนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเวลาเราใช้ความคิดมากๆหรือมีความเครียด เราจึงรู้สึกล้าและคิดอะไรไม่ออก เพราะเราใช้งานสมองโดยไม่มีการพักก็เปรียบได้กับ การที่เราใช้ร่างกายออกกำลังมากๆนั่นเอง มันย่อมหมดย่อมเหนื่อยเป็นธรรมดา และไม่ว่าสมองหรือร่างกายของเราเมื่อมันหมดแรงหรือมันล้าแล้ว พอเราไปใช้งานมันต่อสิ่งที่ได้ก็คือ ความทุกข์นั่นเอง และนี่แหล่ะคือตัวการสำคัญ เพราะมนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงย่อมวิ่งหาสิ่งที่ทำให้ตัวเองมีความสุขเสมอ ไม่เชื่อลองสังเกตุดูให้ดีว่าทำไมบางคนเวลาเครียดกับปัญหาหรือหาทางแก้อะไรไม่ได้มักไปลงกับขวดเหล้า หรือ บางคนก็ไปลงกับขนมหวานเวลาเครียด

เมื่อเรารู้แบบนี้แล้วย่อมรู้วิธีแก้ไข ซึ่งมันก็คือ " ความค่อยเป็นค่อยไปนั่นเอง " ถ้ายังสงสัยอยู่ งั้นผมขออธิบายอีกหน่อย เมื่อเราทำงานหรือใช้สมองคิดนู่นคิดนี่ในชีวิตประจำวัน นั่นคือเรากำลังใช้งานสมองอยู่ แล้วเมื่อเรามีเป้าหมายในชีวิตเพิ่มเข้ามาอีก เป็นธรรมดาอยู่แล้วเมื่อเรามีสิ่งใหม่ที่เรายังไม่เคยชินหรือยังไม่เคยทำ ย่อมมีความกดดันและฝืนใจอยู่บ้าง ยกตัวอย่างเช่น สำหรับผู้หญิงที่ตั้งเป้าหมายว่าจะลดน้ำหนักโดยการออกกำลังกายและกินแต่อาหารคลีน นั่นหมายถึงพวกเธอต้องตัดของหวานและขนมจุกจิกทั้งหลายที่เคยกินในชีวิตออกไป คุณก็น่าจะคิดออกว่ามันจะยากแค่ไหน แบบนี้เป็นต้น เมื่อเราต้องทำอะไรที่เพิ่มมากขึ้นจากชีวิตประจำวัน สิ่งที่ตามมาก็คือ ความทุกข์ และเมื่อเกิดความทุกข์ มนุษย์มักวิ่งเข้าหาความสุขเสมออย่างที่บอก เพราะฉนั้นการที่เราทำแบบค่อยเป็นค่อยไปนั้นเป็นการเปิดโอกาสให้สมองของเราได้ผ่อนคลายและให้มันได้หลั่งสารที่ทำให้เกิดความสุขกับตัวเราเอง ไม่ใช่หักดิบทำในทีเดียวเลยเพราะฉนั้นนี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมมีคนมากมายล้มเลิกความตั้งใจและเป้าหมายของตัวเองไปกลางคันนั่นเอง


สุดท้ายผมยังมีตัวอย่าง " วิธีที่หมอใช้กับคนไข้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ " ซึ่งเป็นวิธีที่ดีมากๆอีกอย่างนึง แต่ผมกลัวว่ามันจะยืดยาวจนเกินไป ยังไงก็ฝากเข้าไปอ่านต่อในบล็อก 13enj1blogger ในชื่อเรื่องว่า " วิธีการตั้งเป้าหมายที่คุณจะไม่มีวันล้มเลิกกลางคันอย่างเด็ดขาด " ของผมด้วยนะครับ ยังมีเรื่องราวดีดีและแรงบันดาลใจพร้อมกับเนื้อหาสาระอีกมากเลย ใครที่สนใจสามารถเข้าไปติดตามและฝากกด Like ในหน้า Facebook Fanpage ตามลิงค์ข้างล่างนี้ด้วยครับ

Website : www.13enj1.com

Facebook Fanpage : @13enj1blogger
 

แสดงความคิดเห็น

>