ช่วยเราที เราจะทำยังไงดี เราเครียดไปหมดแล้ว
สวัสดีเราอายุ 16 ปี กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.5 โรงเรียนเราห่างจากบ้านเรา 40 โล เราไปกลับรถเมล์ทุกวัน ตื่นแต่เช้า กลับเย็น (เพราะรถเมล์มาช้า) ตอนเราอยู่ ประถม และ ม.ต้น เราอยู่โรงเรียนใกล้บ้าน ห่างจากบ้านเพียงแค่ 3 โล เองตอนเราอยู่ ม.3 เราอยากเข้าโรงเรียน โรงเรียนนี้มากเเต่เราก็รู้ว่ามันไกลจากบ้านเรามาก เเต่เราคิดว่าไม่ใช่ปัญหา พอเราเข้าได้เราได้เข้าเรียนในสาย ภาษาจีน รร.เก่าเราก็สอนจีนนะเราเลยไม่คิดมาก พอเรียนตอน ม.4 เทอม 1. เราก็เรียนได้ดี แต่เราเป็นคนที่คิดลบ คิดมาก กลัวเพื่อนเบื่อเราบ้าง เเละเราก็เบื่อเพือ่นบ้างเลยอยู่กับใครไม่ค่อยได้ จนเราเปลี่ยนเพื่อนจนครบทุกกลุ่มที่อยู่ภายในห้อง เเละเเล้วจุดพลิกผันก็มาถึง ตอน ม.4 เทอม 2เราได้มีเพื่อนกลุ่มใหม่เเละเราก็คิดว่าเราจะไปกับเขาได้ดี แต่มันไม่ใช่ พออยู่กลุ่มนี้เราเรียนไม่ค่อยรู้เรื่อง การสนใจในการเรียนก็ลดลง พาเราโดดเรียนเอย พาเราไม่ตั้งใจเรียนในห้องเอย จนทำให้เราโง่ภาษาจีนมากกกกก พอเราขึ้น ม.5 เทอม1เราก็เลยย้ายกลุ่มไปอยู่กลุ่มเก่าที่เราเคยอยู่ เพราตอนเราอยู่กลุ่มนั้นเราเรียนได้เก่ง เเต่ที่เราออกมาก็เพราะทะเลาะกับคนในกลุ่มนั้น เเต่ตอนนี้เราดีกันเเล้ว เเต่พออยู่ได้สักพักความคิดมากคิดลบของเราก็กลับมา เพราะเราย้ายกลุ่มมันไม่ได้ทำให้เราเรียนจีนเก่งขึ้นเลยซักนิด ทำให้เราไม่อยากเรียนจีนอีกเลยแถมยังร้องไห้ทึกครั้งที่ได้เรียนภาษาจีน เราไม่อยากใส่ใจจีนด้วยแถมหน่วยกิตยังเยอะสุดด้วย 3.00 แถมเรายังกลัวเพื่อนกลุ่มนี้ทิ้งเราอีก เพราะคนกลุ่มนี้ตัวใครตัวมันอะไม่มีความจริงใจให้กันจริงๆ เฉพาะบางเรื่อง เเละพออาการกลัวเพื่อนทิ้งหายไปเรากลับเบื่อเพื่อนกลุ่มนี้แทน เเละเราก็คิดถึงบ้าน คิดถึงเเต่พ่อแม่ เเละพี่ จนไม่อยากไปโรงเรียนอะ แต่เราก็ไปทุกวัน เเละแถมงาน ม.5เยอะมากเรียนก็หนักจนเราเครียดไปหมด ไม่อยากไปเจอเพื่อน ไม่อยากเรียนภาษาจีน อยากอยู่เเต่บ้านอยากอยู่เเต่กับพ่อแม่และพี่ ทำยังไงดีให้ความคิดนี้หายไปจากตัวเราอะ???? ช่วยเราด้วยน่ะ!!!!
2 ความคิดเห็น
เธอมีความคิดที่ไม่ต่างจากเราเท่าไร เธอต่างกับเราแค่เรื่องเพื่อน
เธอลองไม่โฟกัสเรื่องเพื่อนดูสิ เราว่าเธอสนใจและแคร์เรื่องนั้นมากกว่าตัวเอง
ลองคิดดูว่า ม.5แล้ว จริงจังกับชีวิตได้แล้ว ถ้ามันจะเข้ากับเพื่อนไม่ได้ ก็อยู่กับตัวเองไป
เพราะเธอยังมีเพื่อนเยอะอยู่แต่ไม่สนิท มันก็ไม่ต่างจากเราเลย เวลาเขาเดินด้วยกัน เราก็แค่แยกออกมา
ลองมองโลกในแง่บวกบ้าง เรารู้ว่าถ้ามันเก็บมานาน จะเป็นโรคซึมเศร้า เรารู้ดีว่ามันเป็นยังไง
เราไม่อยากให้เธอเป็นแบบเรา หรือแย่กว่าเรา ตอนนี้เราปรับตัวได้แล้ว แล้วเราก็หวังว่าเธอจะพยายามมองโลกในแง่ดีขึ้น ไม่คิดเองเออเอง มองข้อดีบ้าง แคร์ตัวเองก่อนที่จะแคร์คนอื่นนะ สู้ๆ เราเป็นกำลังใจให้
แล้วไม่มีเพื่อนเธออยู่ได้หรอ
เราอยู่ได้นะ เราไม่เจอเพื่อนสนิทเลย มันมีเส้นกั้นบางๆอยู่ตลอด
มันก็มีบางช่วงที่เหงานะ แต่ก็โอเค
อย่างน้อยก็ยังดีที่คิดจะเเก้ไขนะ วิธีเเก้ที่ง่ายที่สุดคือ "เอาชนะความอยากของตัวเอง"
สรุปง่ายๆจากเท่าที่อ่านมาทั้งหมด
ไม่ต้องกลัวใครพี่ เราก็คิดถึงบ้านนะ คิดถึงเเม่คิดถึงยาย เเละคิดถึงคอมที่บ้าน(ฮา) คิดถึงจนอยากโดดเรียนกลับบ้านไปนอนกลิ้งให้สบายใจ งานบ้าบออะไรก็ไม่รู้ครูก็สั่งมาอยู่ได้ยิ่งช่วงนี้ยิ่งเยอะ เยอะเเบบมหาโหดเลย
เวลาอยู่โรงเรียนเลยเอาเเต่หลับในห้องเรียนเเละไม่คิดจะเเก้ไขไม่สนใจเรื่องเรียนง่ะ
เขาว่ากันว่าปัญหาเหล่านี้เเหละคือบทเรียนชีวิตถ้าไม่สามารถผ่านมันไปเราก็ไม่โตขึ้น พี่ถามชิมะว่า
[ทำยังไงให้ความคิดนี้หายไป] คำตอบง่ายมาก
1.คือ เอาชนะความอยากของตัวเองด้วยความอดทนอย่างเเรงกล้า สร้างระเบียบวินัยให้ตัวเอง เเละขยันให้มากขึ้น4เท่าตัว อย่าอ้างว่าไม่ได้ไม่มีเวลา เเละขี้เกรียจ
2.คือ ถ้าไม่ชอบภาษาจีนก็ไปดูหนังจีนอ่านนิยายจีนซะ ไม่ต้องเอาหนักๆหรือไปเรียนภาษาอื่นเเทน
3.คือ ใช่เรื่องเพื่อนก็มีส่วนตามที่เขาว่ากันไว้ว่า คบคนพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตพาไปหาผล
4 คือ ใช้ชีวิตด้วยตัวเองให้ได้ คนเราจะเกิดเราก็เกิดคนเดียว(หรืออาจมีฝาเเฝด) ตายลงโลงเดียว ไม่มีชาวบ้านอยู่ต้องเข้มเเข็งเเละใช้ชีวิตอยู่ให้ได้ เราเองก็เคยอยู่เองที่โรงเรียน จนกระทั้งดึงดูดพวกนิสัยคล้ายๆกันมาร่วมก๋วนได้ เฉย
5.พี่อาจจะมองโลกในเเง่ลบ เเละคิดมาก เเต่ไม่เป็นไรเราก็เป็น ก็ใช่โลกมันเเย่สังคมมันโหดร้ายเเต่ว่าถึงมันจะโหดร้ายยังไงความเป็นจริงทุกสิ่งที่เราขัดใจบนโลกนี้ ก็คือความจริงไม่สามารถหนีได้ ดังนั้นเเล้วเเทนที่จะมีชีวิตด้วยความทุกข์ใจว่า เเย่ ว่าไม่ดีด้วยความทุกข์เเละเสียใจ
ทำไม? ไม่สู้เชื่อในตัวเอง เเละใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเเละมีความสุข
เวลาเราคิดเเย่ๆเราเหนื่อยนะ พี่หละเหนื่อยมะ? ดังนั้นเเล้วเลิกทำร้ายตัวเองด้วยความคิดของตัวเองเถอะนะ
6 อย่าทิ้งความดี
7.คือ ควบคุมตัวเอง พี่อยู่ม.5เเล้วพี่ต้องรู้จักควบคุมสติเเละความคิดของตัวเอง
ถามว่าจะควบคุมตัวเองยังไง? อย่างเเรกพี่ต้องใจเย็นเเละฝึกมีสมาธิ เเละ สติ อยู่กับเนื้อกับตัว
-ความคิดที่พลุดๆโพล่ๆนี้อะ คือ สิ่งที่เราเรียกกันว่า "ความคิดฟุ้งซ่าน" นะ
เราจะหยุดมันได้ด้วย สมาธิ เเละ สติ ให้อยู่กับเนื้อกับตัว
เเละวิธีที่ดีที่สุดคือการนั้งสมาธิเเละจับความคิดฟุ้งซ่าน ส่งจิตออกนอกนั้นออกไปซะ
ให้สติอยู่กับเนื้อกับตัว
เมื่อใดก็ตามที่ทำได้เเล้ว เเม้จะมีอะไรมากระทบให้ตกใจให้กลัว พี่จะเเค่รู้ว่ามีอะไรมากระทบเฉยๆ เเละไม่ตกใจไม่กลัวง่ายๆ
ไม่ต้องกลัว เรารับลองได้เคยทำมาเเล้ว ได้ผลดีเลย
ครั้งนึงเราเคยเจิอปัญหาที่เครียตจนร้องไห้เพระมัวเเต่คิดซ้ำวนไปวนมาจนเเทบบ้า
(เป็นพวกรู้เเล้วเก็บกดจนทไม่ไหว) เลยทำตัวงี่เง่าใส่เพื่อน
จนน่าจะเกือบเป็นซึมเศร้า ตอนนั้น ฟุ้งซ่าน ปวดหัวมาก โมโหหงุดงิด การเรียนเริ่มตกต่ำ เเละ จบลงที่เริ่มรู้สึกอ่อนเเอเริ่มจะไม่สบาย
สุดท้ายราวกลับมีเเสงทออยู่ตรงปากอุโมง เวลานั้นเราได้นั้งสมาธิไป ครู่นึง ช่วงเเรกฟุ้งซ่าน คัน เเละเริ่มกลัวผี
หลังจากนั้นพอข้ามผ่านความรู้สึกพวกนั้นมาได้ก็เริ่มรู้ตัวเเละมีสติ พอออกจากสมาธิ สุดท้ายทุกอย่างก็ดีขึ้นเลย หาย! หายหมดทกอย่าง!!
มันไม่น่าเชื่อนะ เเต่หายจริงๆ หาย!!! หายไปหมด ทั้งที่เริ่มจะไม่สะบายหรือเเม้เเต่ ฟุ้งซ่าน โมโห นั้น! หายหมดเลย!!!
สุดท้ายปัฐหาทุกอย่างเริ่มต้นที่ตัวเอง เเละจบที่ตัวเองจริงๆ
พี่อ่านเม้นนี้ถ้าไม่พอใจไม่เป็นไรเราเเค่บอกตรงๆไป
ก็หวังว่าพี่จะเห็นคุณค่าเเละนำไปพิจารณาลองดู เม้นนี้อาจจะช่วยพี่ได้
สุดท้ายนี้เส้นทางชีวิตพี่ พี่เป็นคนเลือกเอง ตกลงเองเราไม่มีสิทธิมายุ่งกับกรรมของคนอื่น
เเค่หวังช่วยเหลือ เท่านั้น จะนำไปปฎิบัติหรือไม่ก็คือพี่ตัดสินใจเอง
ขอให้วันนี้เเละวันข้างหน้าใช้ชีวิตด้วยสมาธิ สติ เเละมีความสุข
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?