ปกติเขียนชื่อตอนไหมคะ และเคยตันชื่อตอนไหมเอ่ย
ตั้งกระทู้ใหม่
แล้วตอนนี้คิดชื่อตอนไม่ออกซะงั้น ขีดๆ ลบๆ หลายเที่ยวแล้วก็ยังไม่ได้ชื่อตอนใหม่ ฮา
เลยอยากทราบว่าปกติเขียนชื่อตอนกันไหมคะ และเคยตันกันบ้างไหมคะ เหอๆ==!
พอจะมีคำแนะนำแก้อาการตันชื่อตอนไหมคะ น้อมรับคำชี้แนะค่ะ //ยกน้ำชาคารวะ
20 ความคิดเห็น
เขียนค่ะ ไม่ตันนะเพราะเราจะใช้ชื่อที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเนื้อหาของตอนนั้น ๆ
ของเราบางทีก็คิดชื่อตอนนานเกือบเท่าๆเขียนเลยอ่ะ
เราเขียนไปคิดไปค่ะ ถ้าเจอประโยคเด็ด ๆ โดนก็จะตัดมาเป็นชื่อตอนทันที (ฮ่า)
ขอก๊อปแนวทางนี้ 55555
เชิญตามสบายค่ะไม่หวง 555
ดีจังค่ะที่ไม่ตัน ปกติก็ใช้วิธีเจอประโยคเด็ดตัดมาเหมือนกันค่ะ แม้จะไม่ใช่ประเด็นทั้งตอน บางทีประโยคเดียวเท่านั้นด้วยซ้ำ แต่คำนั้นมันโดนไรงี้ อิอิ
บางที่เราก็เอาประโยคที่ธรรมดามากอย่าง 'หมอนข้างและผ้าห่ม' มาใช้ ดูแล้วเหมือนจะธรรมด๊าธรรมดาเนอะ เพียงแต่เนีื้อหานั้นช่างชวนให้คิดลึก 555
เด่วๆ ท่าน มันคิดได้หลายแง่เลยนะนั่น 555 เป็นประโยคที่ไม่ธรรมดาเสียเลย555
โอ๊ะ!! เสียงสูง5555555
เราเขียนชื่อตอนค่ะ
เพราะเราคิดเองว่าชื่อตอนเป็นตัวดึงดูดความน่าอ่านตัวหนึ่ง
จากที่ตัวเองในบทบาทนักอ่าน เรายังชอบเรื่องที่มีชื่อตอนมากกว่าไม่มีเลย
ส่วนชื่อตอนของเราจะเป็นตัวสรุปประเด็นในตอนนั้นๆค่ะ
หรือไม่ก็เกี่ยวกับช่วงที่เราอยากเน้น
บางทีก็ใช้คุมเนื้อหาของตอนนั้นๆไม่ให้ออกทะเลค่ะ
เวลาเป็นนักอ่านก็ชอบชื่อตอนเหมือนกันค่ะ พอเขียนเองเลยใส่ชื่อตอนเสียเลย ฮา
ขอยืมวิธีไปใช้บ้างนะคะ การมีชื่อตอนช่วยไม่ออกทะเลได้เยอะจริงๆ ค่ะ^^
ยินดีค่าาา
ปกติตั้งชื่อบทด้วยครับ (ส่วนใหญ่แต่ไม่ทุกเรื่อง)
อาการตัน มีเป็นปกติเลยครับ พอดีคิดชื่อไม่เก่งอยู่แล้ว ตอนลงมือเขียนก็ยังไม่แน่อีกว่าบทนี้จะไปจบลงตรงไหน บางทีตั้งไว้ก่อนแล้วก็ต้องเปลี่ยน
เรื่องล่าสุดนี่ เขียนแบบไม่มีชื่อบทไปจนถึงไหนๆ แล้วค่อยกลับมาคิดชื่อทีหลังครับ เหนื่อยมากกกกกก
งั้น..
ตอนที่ 1 เหนื่อยมาก
ตอนที่ 2 เหนื่อยมากกก
ตอนที่ 3 เหนื่อยมากกกกกก
หลบแพร๊บบ 55555
กำลังจิบชาถึงกับพุ่งเลย5555
มายกมือว่าคิดชื่อไม่เก่งเหมือนกันค่ะ ชื่อเรื่องกว่าจะได้บางทีกินเวลาหลายวันก็มีค่ะ ฮา ส่วนชื่อตอน ตอนนี้เกือบหมดวันแล้วยังไม่ได้ ฮา
ปล. 3-1ตอนสุดท้ายนี่คงเป็นเหนื่อยมากก.ไก่ล้านล้านตัว ฮา
3-2 เลื่อนมาเจอคห.นี้ชาในถ้วยเกือบหกเหมือนกันค่ะ55555
เห็นชื่อ "เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกก" แบบนี้ ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนเลย ว่าลงเด็กดีไม่ได้แน่ๆ
//เผ่น
3-4 เผ่นด้วยคนค่ะ5555555
ปล.เห็นรูปตัวแทนคุณพีททีไร นึกถึงรูปสลัดลุงโจนส์ทุกทีสิพับผ่า!!555555
ทำให้ถึงกับต้องไปหาดู!
มันก็ไม่คล้ายเท่าไรหรอคะ แหะๆ แต่นึกถึงจริงๆ 555
เป็นค่ะ จะเห็นว่าชื่อตอนบ้านๆ บางตอนซ้ำกับเรื่องอื่น ....แฮร่
บางทีเราก็คิดคำเวอร์วังอลังการไม่ออกเหมือนกันค่ะ5555
เคยตันขนาดที่ว่า คิดจนเลยวันลงนิยาย ต้องลงเนื้อหาไปก่อนแล้ววงเล็บชื่อตอนว่า (คิดชื่อตอนไม่ออก) กลายเป็นว่านักอ่านมาช่วยกันตั้งให้ซะอย่างนั้น
แบบนี้ก็ได้หรา
อันนี้เคยเห็นบางคนทำค่ะ ตอนนั้นก้แอบอึ่งนิดนึงเหมือนกัน55555
มายกมือว่าเคยเจอค่ะ เวลาเข้าแล้วมันแจ้งเตือนนิยยอัพเดตจะขึ้นว่าตอนที่ XX (ชื่อตอนยังคิดไม่ออก)
เคยเจออยู่สองสามเรื่องที่ตามอยู่ค่ะ หรือจะใช้วิธีนี้บ้างดี ฮา แต่บางเรื่องตอนอัพเดท พิมพ์ไว้แบบนั้น พอกดเข้าไปก็มีชื่อตอนเรียบร้อยแล้ว ทำให้รู้ว่ามีวิธีนี้อยู่ ;)
มาจับมือ เราก็เคย
หลังจากทำอะไรแบบนั้น กลับมาคิดอีกทีก็ตลกตัวเองเหมือนกัน ทำไปได้นะเธอเนี่ย
กลายเป็นกิจกรรมประจำนิยายไปช่วงนึงเลยบางรอบแจกของเล็กๆ น้อยๆ ด้วย ได้คุยกับนักอ่านสนุกดีค่ะ หลายคนจากที่ไม่เคยคอมเมนต์ก็ออกมาร่วมสนุกกันก็มี เอ๊ะ กลายเป็นยุทธการหลอกให้คอมเมนต์ไปซะแล้ว
(;゚Д゚)
ที่เด็กดีใส่แต่เลขตอน มีที่ reawrite ที่ใส่ชื่อตอนด้วย
บางทีนึกชื่อตอนไม่ออกก็เอามาจากชื่อเพลงนั่นแหละค่ะ สิ้นคิดมาก
คล้องใจ คล้องไมตรี เหมือนจะมาจากบทกวีเก่าของจีน เงื่อนคล้องใจมอบให้ชายที่รัก คล้องใจคล้องไมตรี อยู่เคียงคู่รวมทิวาราตรีจวบจนผมขาวโพลน
มีอันหนึ่งเซิร์ทมาจากอากู๋ค่ะ ยืมไหล่ซบ ลบแผลใจ // เน่ามาก
แด่ความฝันอันลำพองของพวกเรา ดื่มหมดแล้วเหลือแก้วเปล่า เอ้า! คว่ำลง เป็นบทจบของรุไบยาต ที่แปลโดยแคน สังคีต
ชื่อตอน นายพรานกับกวางงาม ชวนให้เกิดพล็อตโรแมนติก
ในเรื่องไม่โรแมนติกเลยค่ะ คือ ครูสอนเด็กว่าพวกเราเป็นมังกรต้องล่าเหยื่องั้นงี้ แล้วเด็กบอกว่าถ้าให้เปรียบครูคงเหมือนกวางงามที่นายพรานอยากล่า
น้องชายครูบอกว่า พวกนายพรานที่เห็นพี่เป็นกวางน่ะมันเข้าใจผิดหมดนั่นแหละ พี่น่ะเป็นนายพรานที่ห่มหนังกวางเพื่อล่านายพรานอีกที (โคตรเผาพี่ตัวเอง)
ชื่อตอนโรแมนติกมากๆ ค่ะ หวานซึ้งกันทีเดียว อิอิ เราก็ชอบเอาชื่อตอนมาจากเพลงเหมือนกันค่ะ วันนี้เลยพยายามฟังเพลงทั้งวัน เผื่อได้คลังคำ ฮา
อยากได้ชื่อตอนเพราะๆ ลองอ่านบทกลอน บทกวี ไทย จีน ฝรั่ง อินเดีย แล้วลองดึงคำมาใช้ค่ะ
แฟนฟิค
สมองตันตรงชื่อตอน ตั้งได้มั่ว แต่ดันตรงกับเนื้อหา
บางครั้งเราก็พยายามจับคำมายำค่ะ เหมือนตำซั่ว ประมาณมั่วซั่ว ฮา แต่กลายเป็นได้ชื่อแซ่บๆ ซะงั้น5555
เราตั้งชื่อตอนว่า "เห็นแมวดำนั่นไหม" ยังมีคนเข้ามาอ่านเลย
น่าสนใจดีนะคะ ^^
ของคุณนี่เด็ดจริงค่ะ555
ชื่อตอนมีความเชิญชวนค่ะ
อยากเข้าไปหาแมวดำเลย 555
เขียนชื่อตอนทุกตอน
เพราะคิดว่า ถ้าตั้งได้ดี มันจะดูน่าสนใจมาก
โดยเฉพาะ ขาจรที่เข้ามาร่อนแวบ แวบ หากเจอชื่อตอนที่รวมความอิมแพ็คเอาไว้ รับรองได้เข้ามาติดหนึบแน่ ฮา ๆ
เคยตันชื่อตอนไหม
เคย บ่อยด้วย แต่ก็ผ่านมาได้ทุกครั้ง แค่หยิบประเด็นหลักของตอนมาตั้งชื่อ แค่นั้นเอง แต่ก็แลกมาด้วยความธรรมดา ไม่หวือหวาน่าสนใจ
อาจเพราะตั้งชื่อตอนบ่อย มันก็เลยชำนาญ เวลาตันก็เลยทะลวงได้เร็ว เหมือนคนที่แก้โจทย์เลขบ่อย ๆ ตอนแรกอาจยากมาก แต่หลัง ๆ ก็ยังยากมากอยู่ดี (แต่พอรับมือได้) อะไรประมาณนั้น
ชอบประโยคที่ว่าตอนแรกยากมาก แต่ตอนหลังก็ยากมากอยู่ดี แต่พอรับมือได้ เปรียบซะเห็นภาพเลยค่ะ ฮา
//ยกมือว่าเคยตกเลขค่ะ5555
เราเขียนค่ะ ถ้าคิดไม่ออกจริงๆ ก็จะหาเนื้อหาที่อยู่ในตอนนั้น เขียนเป็นชื่อตอนค่ะ แต่ถ้าไม่มีเนื้อหาดึงดูดได้ เราก็เอาประโยคของตัวละครเด็ดๆ คัดลอกมาวางตรงชื่อตอนเลยค่ะ เราทำแบบนี้เสมอค่ะ เวลาที่คิดไม่ออกจริงๆน่ะค่ะ แฮะๆ
ขอบคุณที่แนะนำค่ะ ขอนำวิธีนี้ไปใช้บ้างนะคะ สงสัยเราต้องแต่ตอนนี้ให้จบแล้วค่อยตั้งชื่อตอนมั้งคะ ฮา
ได้อยู่แล้วค่ะ ของเราชอบเขียนให้จบตอนก่อน แล้วค่อยตั้งชื่อตอนค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ^^
ของเราก็เขียนนิยายรักนะ ตั้งแต่เรื่องแรกเลยมั้งที่ไม่เขียนชื่อตอน ฮ่าๆ แต่เขียนเป็น chapter เอา ก็มันคิดไม่ออก ไม่รู้จะตั้งชื่อแต่ละตอนว่าอะไร
แต่ก็รู้สึกว่ามันมีปัญหาเวลาไม่มีชื่อตอน ก็คือจำไม่ได้ว่าเหตุการนี้อยู่ในตอนไหน ฮ่าๆ เพราะถ้ามีชื่อตอน ชื่อตอนมันจะเป็นตัวไกด์เนื้อหาของแต่ละตอนให้
เดี๋ยวนี้ก็เลยพยายามเขียนชื่อตอน ถ้าคิดไม่ออกก็ เอาประโยคสุดท้ายของตัวละครที่มันกินใจนั่นแหละมาตั้ง หรือไม่ก็เอาคำที่เป็นแก่นของตอนนั้นๆมาเขียนเป็นชือตอน
แต่ก็นั่นแหละ มันก็ยังมีตันอยู่ดี ฮ่าๆ เพราะพยายามจะเขียนชื่อตอนให้มันสอดคล้องกับเนื้อหาในตอนนั่นแหละ
เหมือนกันเลยค่ะ เมื่อก่อนก็ไม่เขียนชื่อตอน แบบบท1 บท2 ไรงี้ไปเลย แต่อยู่ในไหดองเลยไม่รู้สึกถึงการจำแต่ละตอนไม่ได้ เพราะมันจำไม่ได้ทุกตอนแล้ว 55555
ขอยืมวิธีประโยคสุดท้ายซึ้งๆไปตั้งชื่อตอนด้วยนะคะ ชอบวิธีนี้จังค่ะ^^
เคยเป็นบางตอนคิดไม่ออก มันเป็นตอนแทรกกลางระหว่างตอนสำคัญสองตอน ไม่มีอะไรพิเศษ
เลยไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อว่าอะไรดี เลยปล่อยว่าง ยังไงก็มีเลขตอนที่บอกอยู่แล้ว
ไม่ต้องมีชื่อตอนก็ได้เหรอคะ ตาสว่างเลย55555
ยืมไปใช้บ้างได้ไหมคะ ตอนที่ไม่มีชื่อ 1,2,3...
โอ้ย! เจอคห.คุณมิรัน น้ำเปล่าแทบพุ่งเลยค่ะ55555
เข้าท่า 5555
เราเองก็เคยเขียนตอนที่1ตอนที่2ตอนที่3เช่นกันค่ะ เพราะไม่รู้ว่าจะตั้งชื่ออะไรค่ะ555
แบบนี้ถ้าตอนที่ 1 มีชื่อ , ตอนที่ 2 ไม่มีชื่อ , ตอนที่ 3 มีชื่อ
งั้นตอนที่ 2 ให้ชื่อตอนว่า ต่อจาก 1
หรือไม่ก็ ก่อนหน้า 3
เอาป่ะคะ 55555
เมื่อวานลองลบชื่อตอนออก ก็จะเป็นเช่นนี้
V V V
V V V
นี่สิคนจริง
เอามาแข่งสู้ในความครีเอท คือชื่อตอนเราไม่ได้ใส่ให้โชว์ที่หน้าแรกนิยาย(หน้าสารบัญ) แต่อยู่บรรทัดแรกของเนื้อความ เพราะไม่อยากให้มันสปอยล์อ่ะ แต่พอไปลง Readawrite ลองใส่ดูผลปรากฎว่าโดนนักอ่านกระโดดข้ามไปอ่านกันอย่างสนุกสนาน (สังเกตจากยอดวิว)
หมอบ 5555555555
เดี๋ยวเอาไว้ขี้เกียจเมื่อไหร่จะลองใช้วิธีนี้มั่ง555
ขอคารวะ555+
ตันบ้างไม่ตันบ้าง
คิดว่ามีชื่อตอนดีกว่าไม่มีเขียนเองจะได้จำได้ด้วยเวลาไล่แก้หรือรีไรท์
และบางทีชื่อตอนก็หลอกคนอ่านได้อีกที มีความสะใจลึกๆ 555+
ประโยคสุดท้ายนี้ ไพ่ตายของนักเขียนเลย ฮา
ชชอบตั้งเป็นบทพูดเด่นๆของตอนนั้นๆค่ะ หรือจุดเด่นของตอนเพราะเราวางโครงการนำเสนอแต่ละตอนเอาไว้ เช่นตอนนี้ช่วงต้นจะดำเนินถึงตรงนี้ ช่วงกลาง ช่วงท้ายจะตัดจบเท่านี้ อะไรแบบนี้อ่าค่ะ^^
ว้าว เป็นวิธีน่าสนใจมากๆ ค่ะ:)
เรื่องนึงของเรา เราใช้บทพูดในตอนเป็นตัวนำก่อนเข้าเรื่องค่ะ
เขียนคะ
ถ้าคิดไม่ออกยูเมะจะหาอะไรสักอย่างในตอนมาเขียนไปก่อนนะคะ
ขอบคุณที่แนะนำค่ะ ตอนนี้ก็พอจะได้ชื่อมาแล้วค่ะ นั่งฟังเพลงหาคลังคำเพิ่มเป็นวันเลย555
เขียนทุกตอนค่ะ จะเป็นจุดเด้นของตอนนั้นๆ
ถ้าเกิดมันเกี่ยวเนื่องกับตอนต่อไป ก็ใช้ชื่อเดียวกันแยกวงเล็บตัวเลขย่อยลงไปอีกค่ะ
เราก็ใช้วิธีชื่อเดียวกันแล้ววงเล็บเลขไว้เหมือนกันค่ะ แต่ตอนนี้แอบเกรงใจนักอ่าน เพราะใช้ไปหลายครั้งหลายตอนแล้ว55555
พยายามใช้ต่อชื่อตอนแค่สองครั้งค่ะ ตอน 1 กับ ตอน 2 พอละ
ต้งบ้างไม่ตั้งบ้างครับ แต่ส่วนใหญ่ไม่ตั้ง เพราะบางทีบางเรื่องจะซอยหน้าให้เท่า ๆ กันแล้วเรื่องมันต่อยาวไป คือมีธีมแต่ละตอนไม่ชัดเจนเท่าไหร่ก็เลยไม่ตั้ง 555555 แต่ถ้าตั้งก็อาจยกตัวอย่างประโยคหรือสัญลักษณ์มาใช้บ้างครับ
ของเราบางตอนก็หาธีมไม่ได้เหมือนกันค่ะ555
โอ้ววว เราตั้งตลอดค่ะ วิธีตั้งก็คือเอาใจความสำคัญแล้วมาเขียนเป็นภาษาอังกฤษง่าย ๆ ถ้าเป็นฟิคสั้นก็ตั้งตามธีมที่แต่งเลย
ว้าว เป็นวิธีน่าสนใจมากๆ ค่ะ เราก็ชอบชื่อตอนภาษาอังกฤษ แต่ไม่ค่อยได้ตั้งเท่าไร^^
ที่ตั้งเป็นภาษาอังกฤษเพราะมันง่ายดีน่ะค่ะ ถึงผิดไวยากรณ์ไปหน่อยก็เถอะ 55555 แต่ก็พอบอกใจความรวมของเรื่องได้ง่ายอยู่นะคะ
จริงค่ะ^^
ของเราขนาดชื่อคนยังต้องเสิร์ชเว็บเลยค่ะแง ;---;
ทำเหมือนกันเลยค่ะ เข้าเว็บตั้งชื่อไรงี้ แล้วไล่ๆ หาดู5555
เอิ่มเคยนะ แต่ส่วนใหญ่จะคิดชื่อตอนไว้ก่อนแล้วค่อยมาแต่งเนื่อแต่บางที่มันก้มีอะแบบคิดเรื่องออกแต่ไม่รู้จะให้ชื่อตอนว่าอะไรเคยใช้เป็นตอนที่1,2,3ไปแบบนี้อะ
เป็นวิธีแก้ที่น่าสนใจมากๆ ค่ะ^^
555ก็คือคิดชื่อตอนไม่ออกจริงๆละนะ
คือเราขอให้ความเห็น 2 แบบนะคะ แบบความเห็นในมุมมองของคนอ่าน กับมุมมองของคนเขียนนะคะ ในฐานะคนอ่านเราชอบนิยายที่มีชื่อตอนมากค่ะ เพราะเวลาเราชอบเหตุการณ์ไหนแล้วอยากย้อนกลับไปอ่าน เราจะได้หาได้ง่ายๆ โดยเฉพาะชื่อตอนที่เป็นประโยคเด็ดๆของตัวละคร นิยายบางเรื่องตามอ่านเพราะประทับใจจุดๆนี้เลยนะคะ แบบ เขินนนนน แต่ถ้าเป็นในมุมมองของคนแต่งล่ะก็ คือเราเป็นคนที่ไม่ชอบจดพล็อตนิยายค่ะ เพราะเราปรับแก้ตลอดเวลาเรื่อยๆ เราเลยใช้ชื่อตอนเป็นไทม์ไลน์ของที่จะแต่งแทน เพราะฉะนั้นเราพยายามให้ชื่อตอนมันกินเนื้อหาในตอนนั้นมากที่สุดเพื่อที่ตัวเองจะไม่ลืมค่ะ
เราก็ชอบอ่านแบบมีชื่อตอนเหมือนกันค่ะ เป็นมุมมองที่ลึกซึ้งมากค่ะ:)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?