Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อุปสรรค์ในงานเขียนกับแนวทางแก้ไข

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
/ / / หลังจากคราวที่แล้ว ผมได้ตั้งกระทู้ในหัวข้อ เรื่อง เทคนิควิธีการสร้างแรงบันดาลใจหรือกำลังใจในการสร้างผลงานเขียน ไปแล้ว ผมก็ได้ลองกลับมาคิดดูว่า จริงๆแล้วกว่านักเขียนคนหนึ่งจะสร้างผลงานเขียนออกมาได้ พวกเขาจะต้องเจออะไรบ้าง ทั้งปัญหาอุปสรรค์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับพวกเขา จนในที่สุดก็เลยเกิดไอเดียนี้ขึ้นมา (ตามหัวข้อกระทู้ข้างต้น) เพราะคือสิ่งที่นักเขียนทุกคนคงจะประสบพบเจอกันบ้าง ไม่มากก็น้อย

/ / / กระทู้นี้ ผมจึงข้อเสนอ เรื่อง อุปสรรค์ในงานเขียนกับแนวทางแก้ไข เพื่อให้ผู้อ่านไม่ว่าจะเป็นนักเขียนหรือไม่ ได้มีความรู้ ความเข้าใจ ถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างสร้างสรรค์งานเขียน ซึ่งผมจะขออธิบายอย่างกระชับสั้นๆ ดังต่อไปนี้

อุปสรรค์
1.ความคิดถึงทางตัน คิดอะไรไม่ออก
/ / / เป็นเรื่องธรรมดาที่นักเขียนทุกคนต่างก็ต้องพบเจอกับปัญหานี้ คือ คิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะไปต่ออย่างไรดี ความคิดต่อยอดไม่ได้ ในที่สุด ก็ถึงทางตัน

วิธีแก้ไขปัญหา
/ / / วิธีแก้ไขปัญหาที่ผมจะมาแนะนำนั้น ไม่ใช่วิธีที่เป็นทางการแม้แต่อย่างใด แต่เป็นวิธีของผมเองในฐานะคนมีประสบการณ์จะมาเล่าให้ฟัง หากวันใดที่เราเขียนงานเขียนของเราอยู่ดีๆแล้วเกิดนึกไม่ออก "โอ้ววว....แย่แล้ว ฉันจะทำยังไงดีเนี่ยยย....ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย.....ซ่าร่าาา มันมืดแปดด้านมากกกก" ไม่ต้องตกใจไป เพราะเป็นเรื่องปกติ แสดงว่าวันนั้น สมองของเราแค่เหนื่อยล้า อาจเกิดได้หลายปัจจัยด้วยกัน หนึ่งในนั้นก็คือ การที่เราจริงจังจนเกินไป สมองของคนเราย่อมมีขีดจำกัดเป็นธรรมดา เมื่อเราไปเค้นสมองมากๆก็ทำให้สมองของเราเหนื่อยและล้าได้มาก วิธีแก้ไข ง่ายๆก็คือ เมื่อคิดไม่ออก ถึงทางตันแล้ว ก็เพียงแค่ หยุดคิด การหยุดคิดไม่ใช่หยุดตลอดไป แต่เป็นการหยุดคิดไปขณะหนึ่ง เพื่อให้สมองได้ผ่อนคลาย ขณะนั้นเราอย่าคิดถึงสิ่งที่เป็นทางตันโดยเด็ดขาด ให้เหมือนลืมไปเลยเหมือนกับว่ายังไม่ได้คิดอะไร แล้วก็ไปนอนพักผ่อน ไปผ่อนคลาย เช่น เล่นเกมส์ หรือ เล่นกีฬา ทำให้สมองของเราได้ผ่อนคลาย จนเรารู้สึกผ่อนคลาย จากนั้นก็ค่อยลุยต่อไป (อย่าฝืนร่างกาย กายพร้อม ใจต้องพร้อมด้วย) ก็พอจะช่วยได้ในระดับหนึ่ง

เพิ่มเติม
/ / / อีกวิธีหนึ่งก็คือ ถ้าหากเราหมดไอเดียดีๆแล้วจริงๆ เราก็เพียงแค่หาไอเดียโดยการเข้าไปอ่านงานเขียนจากเน็ตบ้าง เช่น ในอีบุ๊คหรือบนเว็บไซต์ต่างๆ แต่เพียงแค่อ่านแต่ไม่ใช่การก๊อปมาทั้งหมด เราใช้เพื่อเป็นตัวจุดประกายให้ไอเดียของเราบรรเจิดขึ้นมาอีกครั้ง เท่านั้น ซึ่งการเข้าไปอ่านงานเขียนไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มไอเดียเท่านั้น ยังเป็นการทำให้คนที่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร และจะไปในแนวไหน ได้คิดออก แต่การซื้อหนังสือมาอ่าน ไม่แนะนำ เพราะการซื้อหนังสือมาอ่านเราก็จะได้ไอเดียเพียงแค่คนเดียว ทำให้เราอาจเรียนแบบหนังสือที่เราอ่านก็ได้ เราจึงหาช่องทางที่มีความหลากหลายมากกว่า สำหรับคนที่เริ่มต้นหรือคิดอะไรไม่ออก

2.รู้สึกหงุดหงิด เมื่อเจออากาศร้อน
/ / / อาศที่ร้อน เป็นสาเหตุหนึ่งที่เป็นอุปสรรค์ต่อนักเขียน ซึ่งทำให้นักเขียนสามารถท้อแท้หรือหมดกำลังใจในการสร้างผลงานเขียนได้ โดยฉะเพาะเวลาที่อากาศร้อนอบอ้าวมาก นักเขียนก็เหมือนนักกีฬา สามารถมีผลต่อร่างกายได้ เช่น อาการปวดหัว ร่างกายหมดเรี่ยวแรง อาการหงุดหงิด หรือ อาการท้อแท้ เป็นต้น

วิธีแก้ไขปัญหา
/ / / การแก้ไขปัญหาอาการที่ร้อนนั้น เราไม่สามารถแก้ไขอากาศได้แน่นอน แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้ก็คือ การคลายร้อนหรือการดับร้อน เราจะสามารถทำได้อย่างไร

2.1.การพึ่งแอร์ แอร์หรือเครื่องปรับอากาศ เป็นสวรรค์สำหรับคนที่เผชิญปัญหาอากาศร้อนมาก เพราะเวลาคนเรารู้สึกร้อนหลายๆคนก็มักจะนึกถึงแอร์ขึ้นมา เราไม่ต้องคิดอะไรมาก ถ้าที่บ้านหรือที่พักมีแอร์ก็แค่เปิดแอร์ แล้วเอาตัวเองไปแช่ไว้ให้เย็น แต่ถ้าไม่มีแอร์ล่ะที่นี้จะทำอย่างไร ก็ไม่ยากแค่เดินทางออกจากบ้านหรือที่พักไปหาที่ที่มีแอร์เย็นๆ เพียงเท่านี้ก็สามารถผ่อนคลายร้อนลงไปได้บ้าง 

2.2.การอาบน้ำ การอาบน้ำเป็นเทคนิควิธีการง่ายๆที่เบสิคมากสำหรับคนทั่วไป เพราะใครๆก็สามารถทำได้ การอาน้ำเป็นวิธีการคลายร้อนได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น ถ้าเรามีองค์ประกอบอื่นมาช่วยด้วยก็จะดีไปได้อีก เช่น ใส่น้ำแข็งลงไปในน้ำที่อาบ อาน้ำเสร็จใช้แป้งเย็นทาตัวเอาไว้ เป็นต้น

2.3.การทานของเย็นหรือผลไม้ดับร้อน การทานของเย็นหรือผลไม้ดับร้อน เป็นอีกเทคนิควิธีการหนึ่งที่ช่วยดับความร้อนให้กับร่างกายเราได้ การทานของเย็นในบางทีอาจไม่เป็นผลดีกับร่ายของเราก็ได้ คือ ความเย็นปะทะความร้อน แต่ถ้าสำหรับคนที่ธาตุแข็งอาจไม่เป็นอันตราย ของเย็นที่แนะนำ เช่น ไอศกรีม ที่ไม่เพียงแต่ให้ความเย็นเท่านั้น แต่ยังให้ความหอม ความหวาน จนทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้ สำหรับสายโหดเอาแบบดิบๆเลยก็คือ น้ำแข็ง อันนี้ผมไม่ค่อยแนะนำโดยเฉพาะคนที่ฟันไม่ดี อาจทำให้ฟันหักหรือหลุดได้ แต่มันก็ช่วยคลายร้อนได้บ้างไม่แพ้กัน หรือจะกินน้ำปั่น เช่น น้ำปั่นผลไม้ ก็ช่วยได้ การทานผลไม้คลายร้อน เป็นวิธีที่ปลอดภัยต่อตนเองที่สุด ผลคลายร้อนหรือดับร้อนก็มีให้เลือกอยู่มากมาย (คงไม่ใช่ทุเรียน) เช่น แตงโม สับปะรด มะพร้าว แคนตาลูป แก้วมังกร เป็นต้น

2.4.การเลือกสถานที่คลายร้อน สถานที่ยังคงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเขียนหรือไม่ก็ตาม เพราะสถานที่มีผลต่อจิตใจของเรา เพาะฉะนั้นการเลือกสถานที่จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ สำหรับการคลายร้อนหรือดับร้อน เพราะมันช่วยเราได้มากมาย สถานที่ที่ผ่อนคลายหรือดับร้อนได้ดีมากๆหลักๆเลย คือ น้ำตก ทะเล หรือ ภูเขา แบบย่อยๆ เช่น สวนหลังบ้าน บริเวณที่เป็นป่าไม้ บริโคนต้นไม้ พุ่มไม้ หรือ ใต้ต้นไม้ สนามหญ้าหน้าบ้าน ส่วนหย่อม ส่วนสาธารณะ เป็นต้น

3.ปัญหาสภาพแวดล้อมภายนอก (เสียง,กลิ่น,สิ่งรบกวน)
/ / / ปัญหาเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมภายนอก เป็นสิ่งที่เราไม่อาจคาดเดาได้ว่า จะเกิดขึ้นเมื่อใด เวลาใด แต่คิดว่านี่คงเป็นปัญหาส่วนน้อย เพราะจะเกิดแค่เพียงฉะเพาะบางพื้นที่และบางเวลาเท่านั้น แต่ก็ถือได้ว่าเป็นปัญหาอีกเช่นเดียวกัน เราจะมีวิธีการหรือเทคนิคอย่างไรในการรับมือ หากเกิดปัญหานี้ขึ้นกับเรา

วิธีแก้ปัญหา
/ / / ในที่นี้เราจะใช้วิธีการปรับตัว (ในกรณีที่ห้ามสิ่งรบกวนไม่ได้) เพราะเราไม่สามารถห้ามสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เราจึงต้องปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกับสิ่งเหล่านั้น คนที่ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้นั้น ย่อมเป็นคนที่เข้าใจปัญหาเหล่านั้นได้ดี ซึ่งก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับคนที่ปรับตัวได้ไม่ดี จึงจำเป็นต้องพยายามปรับตัวให้ได้ โดยการเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น ว่า คืออะไร แล้วหาทางปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์นั้น เช่น ถ้าภายนอกเสียงดังน่าเบื่อ หรือ น่ารำคาญ เราก็อาจใช้หูฟังเปิดเพลงหรือทำอย่างอื่นแทน ให้เราไม่รู้สึกเบื่อ หรือ รำคาญ ถ้าเป็นเรื่องของกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ เราแค่เพียงย้ายสถานที่ หรือไม่ก็ปรับแต่กลิ่นใหม่โดยการใช้น้ำหอมหรือเครื่องหอมที่เราเองเตรียมไว้ เป็นต้น เพียงเท่านี้ เราก็สามารถปรับตัวให้อยู่ในสถานการณ์ที่มีสิ่งรบกวนได้แล้วนั้นเอง

4.ปัญหาที่ค้างคาอยู่ภายในใจ
/ / / ทุกคนล้วนมีปัญหากันทุกคน เพียงแค่เราแยกให้ได้ว่า ปัญหานั้นเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเป็นปัญหางาน ซึ่งเราเองควรแยกให้ขาด เพื่อไม่ให้มีผลต่องานของเรา และไม่เพียงแต่นักเขียนเท่านั้น คนที่ทำงานอื่นก็เช่นกัน เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมากและมีผลกับอนาคตด้วยถ้าหากเกิดความผิดพลาด

วิธีแก้ไขปัญหา
/ / / ก็อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วในข้างต้นว่า เราควรแยกแยะให้ออกและให้ขาดว่า เรื่องไหนเป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องไหนเป็นเรื่องงาน เราไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง คือ การเอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกับเรื่องงาน เพราะจะทำให้งานเกิดความเสียหายได้ (ควรระงับเรื่องสวนตัวให้ได้)

5.จัดการอารมณ์ที่จะเขียนไม่ได้
/ / / เวลาที่เราจะสร้างผลงานเขียน ซึ่งงานเขียนต่างจากงานทั่วไป คือ ต้องสร้างอารมณ์เพื่อให้เกิดจินตนาการให้ตรงกับคอนเซ็ปต์งานของตัวเอง เพราะฉะนั้นแล้วอารมณ์จึงเป็นเรื่องที่สำครัญ ที่เราในฐานะนักเขียนจะต้องคอนโทรลให้ได้ เพราะหากเราไม่สามารถสร้างอารมณ์สำหรับสร้างผลงานได้แล้ว สุดท้ายเราก็ถึงทางตัน และอาจล้มเหลวไปได้

วิธีแก้ไขปัญหา
/ / / วิธีนั้นก็คือ การจัดการอารมณ์ให้มีความมั่นคง ไม่วอกแวก แปรปรวน ทำได้หลายวิธี ซึ่งก็แล้วแต่เทคนิคความถนัดของแต่ละคน แต่สิ่งที่ดีอันดับแรก ที่จะแนะนำนั่นก็คือ การสร้างสติ โดยการทำสมาธิ สัก 3 - 5 นาที แล้วแต่เราจะกำหนด เราก็จะได้ทั้งสองอย่างเลย ก็คือ สติกับสมาธิ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญสำหรับในการใช้คอนโทรลอารมณ์ของเราให้มั่นคง แน่วแน่
/ / / เทคนิคอีกอย่างหนึ่งก็คือ การสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งก็ได้อธิบายเอาไว้ในกระทู้ เทคนิควิธีการสร้างแรงบันดาลใจหรือกำลังใจในการสร้างผลงานเขียน ไปแล้ว 

แสดงความคิดเห็น

>