Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ทำไงดี ไม่รู้โตขึ้นอยากเป็นอะไร

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คืองี้ อยากจะบอกว่าหนูอายุแค่ 13 ปีเองค่ะ แต่พอมีคนถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร เราก็ดันตอบไม่ได้
มีลูกพี่ลูกน้องอยู่ 1 คน อายุ 14 อยู่ม.3 พี่เค้ามีความมุ่งมั่นมากว่าจะเป็นดีไซน์เนอร์ แฟชั่นลิส
ด้วยความที่เราอยากเป็นตำรวจ แต่พอความจริงเรากลับไม่ชอบมัน เราชอบ วิทย์ คณิต ภาษาต่างประเทศ
แต่ด้วยความที่ไม่เก่งเอามากๆ พอถูไถได้ั ก็รู้ว่าอายุยังน้อย ยังเด็กน้อยไป แต่พอมีคนถามดันไม่ได้
พอบอกไม่รู้ เขาก็บอกว่าหืม เตรียมตัวได้แล้วน่ะ ม.1 แล้ว พอเราบอกสิ่งที่พอมีทางได้ เขาก็บอกใช่หรอ
นึกดีๆน่ะ มันใช่ทางที่เราเรียนอยู่รึเปล่า

แสดงความคิดเห็น

>

17 ความคิดเห็น

Marie_Antoinette 11 ต.ค. 61 เวลา 17:53 น. 1

ค่อนข้างพูดยาก...ทุกคนมีความฝันที่จะเรียนแล้วออกมาทำในสิ่งที่ตัวเองชอบกันทั้งนั้น ตอนวัยประถมเราอยากเป็น พขร. คนขับรถไฟ โตขึ้นผู้ปกครองเห็นชอบอยากให้เราทำงานไปรษณีย์ เดิมทีเราไม่สนใจ แต่เดี๋ยวนี้เราเริ่มอยากทำอาชีพนี้แล้ว



0
17020048 11 ต.ค. 61 เวลา 21:58 น. 2

เราอายุ13เหมือนกัน เราเคยมีความฝันที่อยากจะเป็นเอามากๆ คือความรู้สึกคิดว่ากำลังมุ่งมั่นตั้งใจกับอาชีพนี้จริงๆเเต่โดนทำลายเอาซะพังเเหงฺๆ เหมือนกับคนที่ยืนบนตกสูงๆเเล้วโดนดึงให้ตกมา เเล้วหลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะเดินทางไหน เเบบชีวิตมืดมนมากเลย เเบบไม่มีเป้าหมายไรเลย ครูให้เเต่งกลอนเกี่ยวกับอาชีพในฝันนี่หลายวันกว่าจะเเต่งได้

1
Bongnahungg 22 ก.พ. 63 เวลา 19:23 น. 2-1

เป็นเหมือนดันเลยค่ะ เราอยากเป็นนักร้องเราชอบร้องเพลง พอพ่อกับแม่ถามเราว่านี้อยากเป็นอะไรหรอลูก เราบอกว่าอยากเป็นนักร้อง พ่อกับแม่เราบอกว่า แม่ว่าลูกทำไม่ได้หรอกอย่าทำเลยทำหางานอย่างอื่นที่ดูมะ่นคงกว่านี้หน่อย พ่อกับแม่ถามเราแบบนี้กลายครั้งเราตอบแบบเดิม แต่พอมาตอนนี้คิดไม่ได้แล้วค่ะว่าอยากทำอะไรเพราะพ่อกับแม่ไม่สนับสนุนเราสักทางเลย อยากให้เราเป็นแอร์อย่างเดียวบังคับให้เราเป็น พอเราบอกว่าเป็นแอร์ให้ก็ได้ แม่บอกกับเราว่าแม่ไม่ได้บังคับนะ ปล.ตกลงแม่อยากจะให้เราตอบอะไรกันแน่

0
Harper01 12 ต.ค. 61 เวลา 00:46 น. 3

ไม่ต้องกังวนหรอกนะ และไม่ต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร

ทุกคนมีดีอยู่ในตัว เพียงแต่ต้องหามันให้เจอ และพี่ก็เชื่อว่าคำตอบที่น้องอยากจะตอบนั้นมันอยู่ในหัวใจน้องนั่นแหละ.. น้องแค่มองไม่เห็นเท่านั้น

ตอนนี้น้องอาจจะยังตอบคำถาม ได้ไม่เต็มปาก แต่มันก็ไม่ได้เป็นตัววัดว่าเรา จะไม่มีอนาคต


ถึงจะรู้ว่าชอบอะไร แต่ก็ยังตอบคำถามไม่ได้ นั่นก็เพราะว่าน้องยังหารูปร่างคาแรคเตอร์ ของตัวเองไม่เจอแค่นั้นเอง


หากน้องอยากรู้ว่าตัวเองจะเป็นอะไรดีในอนาคตและอยากตอบคำถามพวกนั้นอย่างมั่นใจ ด้วยรอยยิ้ม


ในตอนนี้ ในช่วงนี้ ลองตั้งคำถามกับตัวเองดู ว่าเราชอบงาน "เพื่อตัวเอง หรือเพื่อคนอื่น" อันใหนที่ทำให้เรามีความสุข (ต้องใช้ความรู้สึกจริงๆของตัวเองในการตอบนะ) ถ้ามั่นใจแล้ว ก็ลองเอามาเทียบกับสิ่งที่เราถนัดดู ลองดูว่า พอเอามาเทียบแล้วมันจะกลายเป็นอาชีพอะไรได้บ้างในขณะนี้ น้องก็ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาชีพนั้นๆได้


วิธีนี้จะทำให้น้องคนพบแนวทางของตัวเอง แต่จะเจอหรือไม่ก็อยู่ที่ตัวน้องอีกทีละ


หรือไม่จะลองเริ่มจากการดูนิสัยของตัวเองดู แล้วเอามาเทียบกับอาชีพที่มีก็ได้ นิสัยที่พูดถึงนี้ได้หมดทั้การเข้าสังคม น้องเข้าเก่งไหม พูดเก่งไหม โน้มน้ามคนได้หรือเปล่า หรือไม่ก็ชอบเที่ยวหรือออยู่บ้าน ทุกๆนิสัย สามารถเอามาประดิษเป็นอาชีพได้ และแน่นอนว่าเมื่อน้องเจอคำตอบ น้องจะกล้าพูดได้แน่นอนว่า ในอนาคตน้องจะทำสิ่งนี้ เพราะว่า น้องคนพบตัวเองแล้ว และแน่นอนว่าน้องจะมีความสุขกับงาน


ปล.พี่ไม่แน่ใจว่าวิธีพวกนั้นมันจะช่วยน้องได้หรือเปล่าแต่ว่า ถ้ามันพอจะเป็นแนวทางได้ก็จะดีใจมากเลย ไม่ต้องเครียดหลอกนะ ^^ ไม่เก่ง ก็สามารถฝึกได้ ไม่มีความรู้ก็สามารถ ศึกษาเพิ่มเติมได้ โลกนี้ไม่มีคนเก่ง เพียงแต่ พวกเขาแค่รู้วิธีก่อน แค่นั้น เราก็ต้องหาวิธี ก่อนจะจากไป มีคำคมเล็กๆจะฝากเอาไว้ คือ อย่าเกิดมาเป็นบทเรียนให้คนอื่น แต่จงเกิดมาเพื่อสอนคนอื่น.. สู้ๆ

0
Nutt 12 ต.ค. 61 เวลา 08:41 น. 4

น้องอายุแค่นี้ ยังมีเวลาคิดอีกนานนะคะ ยังไม่สาย พี่ม.5แล้วค่ะ ยังไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรเลย

3
Wasita Pss 12 ต.ค. 61 เวลา 12:59 น. 4-2

สู้ๆนะค้าน้องๆทั้งสองคน พี่เป็นเด็ก62 จะแอดเข้ามหาลัยแล้ว T T

0
ฟฟฟฟฟฟฟฟ 12 ต.ค. 61 เวลา 22:31 น. 4-3

ตายแล้วน้อง วิกฤตมาก แบบทดสอบจิตวิทยาตามเว็บต่างๆ รีบทำนะ การสอบ TCAS มันไม่ง่ายเลยนะลูก 555555

0
มาม่าหมูสับต้มยำ 12 ต.ค. 61 เวลา 09:38 น. 5

จริงๆเราตั้งแต่สมัยประถมยันม.ต้นเราอยากเป็นหมอค่ะ แต่พอขึ้นม.ปลายเราก็พบว่าเราไม่ชอบชีวะมากๆ เราก็เลยลองคิดเล่นๆว่าเราชอบอะไรเลยลองหาในเน็ตเกี่ยวกับอาชีพตามที่เราชอบ เราชอบคอม ก็เลยลองหาดู ตอนแรกเราก็ไม่แน่ใจเลยว่าเรามาสายนี้จะดีจริงๆมั้ย แต่ไม่แน่ใจเราเลยต้องลองไง 5555 ก็ลองเข้าค่าย ลองเรียนเขียนโปรแกรมในเน็ตบ้าง แล้วเราก็รู้สึกว่า มันใช่ว่ะ!

ที่อยากจะบอกก็คือ การที่เราจะบอกหรือจะตอบอะไรใครว่าเราอยากจะเป็นอะไร มันต้องอาศัยประสบการณ์จริงๆ เหมือนที่ตอนแรกเราคิดจะเป็นหมอ แล้วพอเจอชีวะเราไม่ไหว ก็เลยเปลี่ยนเส้นทาง ชีวิตคือการลองถูกลองผิดค่ะ อีกอย่างหนึ่ง อย่าพึ่งยัดเยียดตัวเองว่าจะเป็นอะไรนะคะ เพราะถึงคิดว่าจะต้องเป็นแต่ในใจไม่อยากเป็น มันก็ไม่มีแรงสู้หรอกค่ะ 5555

เอาเป็นว่าสู้ๆนะคะ ^^

0
Wasita Pss 12 ต.ค. 61 เวลา 12:57 น. 6

ค่อยๆคิดนะคะ อายุแค่นี้ อย่าเพิ่งไปคิดมากเกินไป ลองสังเกตตัวเองไปเรื่อยๆก่อน แต่ถ้าเจอทางที่ตัวเองชอบจริงๆแล้วเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆจะดีมาก(เตรียมตัวนานกว่ามีสิทธิ์มากกว่า) ส่วนที่เขาบอกว่าให้นึกดีๆคือต้องการความแน่ใจค่ะ เผื่อไปเรียนแล้วเราเกิดไม่ชอบขึ้นมา มันจะลำบาก


//ถ้าน้องกำลังหาข้อมูลอาชีพอยู่ลองเข้าไปทำแบบทดสอบบุคลิกภาพได้นะคะว่าแบบเรานี่เหมาะกับอาชีพอะไรบ้าง ถ้าน้องสนใจอาชีพนั้นก็ลองเข้าไปดูว่างานมันเป็นยังไง ชอบมั้ยงี้อ่ะ


ตั้งใจเรียนนะคะ พี่เป็นกำลังใจให้ https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-11.png

0
อืมมม...... 12 ต.ค. 61 เวลา 15:37 น. 7

พี่อยู่ม.5แล้วยังไม่รู้จะเรียนอะไรเลย สำหรับพี่นะ เก่งไว้ก่อนแล้วเราจะมีสิทธิิ์เลือก อันนี้สำหรับความคิดพี่นะ แต่คนอื่นไม่รู้เค้าคิดไง ยังไงก็สู้ๆน๊าา

0
วา ริ น 12 ต.ค. 61 เวลา 17:18 น. 8

พี่ว่าเด็กไทยแทบทุกคนเคยรู้สึกเหมือนน้อง

ไม่รู้ว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร

สิ่งที่อยากเป็นมาจากสิ่งที่ชอบ หรือจำเป็นต้องอยากเพราะสังคมคาดหวัง


ขอแชร์ประสบการณ์นะคะ น่าจะเป็นประโยชน์


พี่ไม่เคยตอบความจริงสักครั้ง เวลามีคนถามว่าอยากเป็นอะไร จริงๆ คือไม่รู้ก็ตอบปัดๆ ไปว่าหมอ

พอเราตอบแบบนี้ก็จะมี 2 รีแอคชั่น


แบบแรก อย่าง-เนี่ยนะจะเรียนหมอ ยากนะ (คนที่พูดแบบนี้คือคนที่เขาไม่ได้รู้จริงหรอก)

กับอีกแบบคือไปเรียนอันนี้ดีกว่า บลาๆ (พวกนี้ก็หวังดี...แต่พี่ไม่ต้องการ)


คนอื่นอาจมีมากกว่านี้นะ อันนี้ยกตัวอย่าง


สับสนอยู่หลายปี

ช่วงนั้นก็ลองไปค่าย อ่านหนังแชร์ประสบการณ์ แล้วที่อยากแนะนำคือลองสมัครคอร์สเรียนในอินเตอร์เน็ตดู

ดูยูทูปก็ได้ แล้วลองทำ ลองฝึกไป เราจะเริ่มรู้ว่าอะไรที่เราทำได้


สุดท้ายสิ่งที่ชอบมันอาจไม่มีในระบบการศึกษา หรือไม่มีใครทำเป็นอาชีพในโลก


แต่อยากให้น้องเชื่อในตัวเอง ว่าทุกอย่างมีเวลาของมัน วันนี้น้องอาจยังไม่รู้ บางคนกว่าจะรู้ตัวก็อายุเยอะแล้ว


เราทำได้แต่ตามหาว่าอยากเป็นอะไร

แล้วคำตอบก็อยู่ในตัวน้องเอง


น้องอาจลองถามตัวเองว่า

เรามีความสุขกับอะไร เราสามารถอยู่กับสิ่งนั้นได้ทั้งวันรึเปล่า


ทำเยอะๆแล้วสั่งสมมันไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่ง สิ่งที่น้องโดนว่าให้เตรียมตัวได้แล้ว มันใช่ทางที่เรียนรึเปล่า

อยากจะบอกว่า สิ่งที่เราเป็นในวันนี้มันไม่ได้หมายความว่าอีก 10 20 ปีเราจะยังคงเป็นอยู่ เมื่อเวลาที่เหมาะกับเรามาถึง เราพร้อมอยู่แล้ว เราก็เลือกอยู่กับสิ่งนั้นไปได้


เอาใจช่วยนะคะ

0
Anonnin 12 ต.ค. 61 เวลา 20:10 น. 9

ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ เราอายุแค่ 13. ปีมีเวลาให้คิดอีกเยอะ ค่อยๆคิด และลองสังเกตุตัวเองว่าสิ่งใดที่ทำแล้วมีความสุข สิ่งไหนที่เราถนัด และสิ่งนั้นสามารถทำอาชีพอะไรได้บ้าง

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-01.png สู้สู้ค่ะเป็นกำลังใจให้

0
DrStranger 12 ต.ค. 61 เวลา 22:03 น. 10

ค่อยๆหาไปนะ ไม่ต้องกดดันตัวเองหรอก สิ่งที่ใช่ ซักวันมันจะมาหาเรา และเราจะตอบได้เอง

พี่แนะนำนิดนึงว่าให้ลองทำหลายๆอย่าง เวลาเรียน ลองเปิดใจกับทุกๆวิชา อย่าแอนตี้ อย่าเอาปัจจัยอื่นๆมาคิด

เช่น ครูสอน เคยเจอคนอาชีพนั้นปฏิบัติไม่ดี ให้มองแบบกลางๆ

พยายามหากิจกรรมทำ หนูยังเด็ก ทำกิจกรรมหลากหลายไปเลย แล้วเอามาชั่งดู ชอบมั้ย ไม่ชอบ หรือกลางๆ เหมาะหรือไม่เหมาะกับเรา

มันมีคำถามนึงที่น่าสนใจคือ 'ถ้าไม่ต้องสนเรื่องเงิน คุณอยากทำอาชีพอะไร'

น้องลองถามตัวเองดู อยากใช้ชีวิตยังไง เรียบง่าย หรูหรา มีบทบาทกับสังคม หรือทำงานที่เป็นอิสระ อยากทำงานแบบออฟฟิศ หรืออยากเป็นเจ้านายตัวเอง

งานอดิเรกชอบทำอะไร ชอบอ่านหนังสือแนวไหน ชอบดูหนังแนวไหน

มีซักด้านที่โดดเด่นจากเพื่อนๆมั้ย (สิ่งที่เรามักเรียนรู้ได้ไวกว่าคนอื่น = ความถนัด)

เอาแค่กรอบชีวิตก่อน แล้วค่อยโยงลึกไปถึงอาชีพ

พอชักเริ่มสนใจซักอาชีพนึงก็ลองหาข้อมูลอาชีพนั้นๆมา ตัดที่ไม่ใช่ไปทีละอย่าง ซักพักน้องจะตอบได้เอง

สู้ๆนะคะ ขอให้ใช้ชีวิตด้วยความสุข เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพนะ เอาใจช่วย

0
เนตรราชันย์มังกร ซาจิ 12 ต.ค. 61 เวลา 22:24 น. 11

ริ่มต้นดูจากสิ่งที่ชอบและงานอดิเรกสิขอรับ แล้วลองคิดดูว่างานอดิเรกและความชอบของเราสามารถนำไปต่อยอดทางด้านไหนได้บ้าง ค่อยๆเลือกไปไม่ต้องรีบนะขอรับเพราะตอนอายุ13ข้าน้อยก็เปลี่ยนอาชีพที่อยากเป็นไปมาบ่อยครั้งเหมือนกัน

0
tfghfgj 13 ต.ค. 61 เวลา 22:06 น. 13

เอาตามจริงนะคะเราก็เจอปัญหาเรื่องนี้เช่นกัน แต่ก่อนมีความมุ่งมั่นมากว่าอยากเรียนโบราณคดีแต่พอโตขึ้นครอบครัวก็เริ่มกดดันว่าต้องไปเป็นอาชีพที่มั่นคงทางการงานการเงินมากกว่านี้ ซึ่งสารภาพว่าเราก็แอบคล้อยตามไปบ้างจนเครียด ทำอะไรอย่างที่อยากทำสุดท้ายก็กลายเป็นแค่งานอดิเรก พ่อเราสนับสนุนให้เป็นเรียนสถาปัตถ์แต่เรากากคณิตแบบเบอร์แรงเรียกได้ว่าต่ำตมไม่หยุด พอเกรดห่วยกำลังใจในการค้นหาตัวเองมันก็เริ่มเหือดๆแห้งๆ น้องยังมีเวลาคิดเวลาค้นหาตัวเองอีกสองปี พี่เหลืออีกเทอมเดียวก็ต้องเลือกสายแล้ว อ้ากกกกกก กรูจะไปไหนดี สู้ๆนะคะขอให้หาตัวเองเจอไวๆอย่ามาลังเลจังก้าแบบพี่

0
Kaserez 14 ต.ค. 61 เวลา 00:24 น. 14

สวัสดีครับลูก


ขอให้คำแนะนำจากคนแก่ๆคนนึงที่อยู่ในวัยทำงานแล้วนะลูกนะ


ตอนนี้หนูกำลังโดนกดดันอยู่ ไม่ว่าจะจากพี่ เพื่อน ครูที่โรงเรียน หรือแม้กระทั่งตัวเอง


เซ็งได้ เครียดได้ มันห้ามกันไม่ได้หรอก แต่อย่าจมกับมันมากเกินไปนะ เดี๋ยวหน้าเหี่ยวเร็ว 55555



วิธีแก้ปัญหามันไม่มีตายตัว เพราะการใช้ชีวิตไม่ได้มีรูปแบบเดียว ที่ถ้าทำตามสูตรนี้เเล้วจะสำเร็จ (พูดลึกซึ้งเกินไปปะหว่า)

จะเล่าสิ่งที่พี่ (น่าจะยังใช้คำว่า พี่ ได้อยู่เเหละเนอะ) ผ่านมาให้ฟังแล้วกัน


ตั้งแต่เด็กจนถึงม.ต้น พี่ไม่เคยรู้อย่างแท้จริงเลยว่า "โตขึ้นอยากเป็นอะไร ?" พอใครถามก็ตอบไปเท่ๆ

1. สถาปนิก

2. เภสัชกร

3. ครู

บลาๆๆๆ พอวิชาแนะแนวมาถึง (สมัยนี้ยังมีอยู่ปะน่ะ 5555) แล้วจะต้องเจอกับคำถามถึงเป้าหมายอนาคตทุกครั้ง ก็ได้แต่เขียนๆๆลงในใบงานเพื่อให้มีส่ง และได้คะแนน ทั้งที่จริงๆในใจมันว่างเปล่ามาก ไม่ได้มีความ "อยาก (passion)" ในแต่ละอย่างที่เขียนลงไปเลย


แต่ก็ไม่ได้คิดว่ามันผิด หรือล้มเหลว หรือย่ำแย่ อะไรนะ เพราะไม่ค่อยสนใจอนาคตด้วยมั้ง


ใช้ชีวิตโง่ๆ เรียนไปวันๆ ทำกิจกรรมไปเรื่อยๆ (ไม่ได้หมายความว่าให้ทิ้งการเรียนนะ ที่เขียนว่าทำอะไรโง่ๆคือ ทำไปงั้นๆ ไม่ต้องออกมาดีที่สุด แต่ต้องไม่แย่)


สนุกกับการใช้ชีวิตในโรงเรียนไปกับ การทำกิจกรรม ซะมากกว่าการเรียน


จนมาถึง ม.6 เส้นสุดท้ายที่ต้องตัดสินใจจริงๆ ว่าจะเดินต่อยังไง

ระบบการสอบก็มีเยอะเหลือเกิน ONET GAT PAT สอบตรง สอบ 7 วิชาสามัญ สอบบ้าบอคอแตก

ก็แค่สอบๆไป คะแนนออกมาดีนะ ได้สูงเลยแหละ แต่มันก็เกิดจากการแค่สอบๆไป เอาให้มันผ่าน เอาให้มันเยอะไว้ก่อน เพราะยังไม่มีเป้าหมายเลย


สิ่งที่เด็กทุกคนทำและพี่ก็ทำคือ เลือกคณะที่จะเรียนต่อ โดยคัดเอาจากวิชาที่ชอบและวิชาที่ไม่ชอบ


พี่เก่งอังกฤษ พี่ชอบชีวะ เคมีพอได้ คณิตย่ำแย่ ฟิสิกส์ห่วยแตก

เลยอ่ะ เอาคณะวิทยาศาสตร์ สาขาจุลชีววิทยา ละกัน

ที่เลือกอันนี้ก็อย่างที่บอก มันน่าจะมีแต่ชีวะ ไม่มีวิชาที่ไม่ชอบ (ซึ่งพอเข้ามาเรียนแล้วไอที่ไม่ยอมมันก็ยังโผล่มาอยู่ดี บ้าจริง!) แต่บวกกับ "ชอบไอที่เค้าเรียกว่า นักวิทยาศาสตร์ มันเท่ดี" แค่นี้เลย ความคิดที่โผล่ปุ๊บขึ้นมา ความคิดแบบเด็กๆ ที่มันก็ชีทางให้เราเดินไปตามนั้น จะหาว่าติงต๊องก็ได้


เรียนมาจนจบ ออกมาด้วยความเป็นนักวิทยาศาสตร์จ๋า เริ่มงานแรกด้วยการเป็นผู้ช่วยนักวิจัย อยู่ที่คณะวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ


แต่ไมเชื่อก็ต้องเชื่อ ตอนนี้พี่ทำงาน Design ทำงานเขียน ทำงาน Website ซึ่งมันคนละโลกกับสิ่งที่พี่ทุ่มเท 4 ปีในมหาวิทยาลัยเลย แต่พี่ชอบงาน ณ ปัจจุบันตรงนี้มากนะ สนุกมาก


สุดท้ายแค่จะบอกว่า "ความชอบ" "เป้าหมาย" "Passion" "ชีวิต" มันไม่แน่นอนซักอย่าง มันเปลี่ยนแปลงได้ตลอด มันไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่ที่สุดของชีวิต ดังนั้นอย่าไปจมกับ-ความไม่แน่นอนมาก ใครถามเป้าหมายมาต่อจากนี้ หนูอาจจะตอบไปตามสิ่งที่หนูคิดว่าชอบในตอนนี้ก็ได้ แต่ซักวันนึงมันก็จะเปลี่ยนแปลง ดังนั้น อย่าเพิ่งกดดันตัวเองมากนักนะลูก ไม่ต้องทำให้ดีที่สุด แค่ไม่ให้มันแย่ก็พอ


สู้ๆนะลูกนะ พิมพ์เยอะละ เจ็บมือ

1
tanyarinboonrit 8 พ.ค. 62 เวลา 19:10 น. 14-1

แสดงว่าตอนม.4 พี่เลือกเรียนสายวิทย์ คณิต หรอค่ะ

0
Paphatchakorn 14 ต.ค. 61 เวลา 18:50 น. 15

ตอนพี่ 13 เวลาคนถามงี้พี่ก็ตอบไม่ได้ค่า มีเวลาอีกเยอะมากเลยนะ อย่ารีบร้อนเกินไป อย่ารีบหาคำตอบจนมันไปปิดโอกาสของเรา


เปิดใจกว้างๆ ลองทำอะไรหลายๆอย่าง ลองเรียน ลองอ่าน ลองหาข้อมูล ลองหางานอดิเรก หรือลองไปค่าย หรืองานวันเด็กไรเงี้ย ที่เขาจะให้เด็กลองไปทำนู่นทำนี่ เราก็ลองทำเลย ไม่ชอบก็ตัดออก


ทำจนรู้ว่าสุดท้ายแล้วเราชอบอะไรกันแน่ สู้ๆจ้า

0
OOMM 15 ต.ค. 61 เวลา 18:34 น. 16

"พยายาม" ขอให้คำนี้มันคอยเตือนสติเราตลอดค่ะ พยายามค้นหาว่าตัวเองถนัดอะไร ถ้าไม่มั่นใจลองใช้เวลาอยู่กับมันดู ถ้าอยู่ด้วยแล้วไม่อึดอัด ทำแล้วสบายใจ ทำแล้วมีความสุข แต่อย่าลืมคำนึงถึงความเป็นจริงด้วยค่ะ


หนูลองนึกภาพตัวเองเวลาเราทำสิ่งนั้น ๆ ในอีกสักห้าปีหรือสิบปีข้างหน้าดู ถ้ามันพอเป็นไปได้ ก็พยายามต่อไป เราจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจที่หลังเนอะ


ไม่ก็พอเราโตขึ้นอีกสักหน่อย หาค่ายที่พี่ ๆ มหาลัยจัดดูค่ะ ต้องลองไปหาประสบการณ์ ไปปรึกษากับรุ่นพี่ที่เรียนอยู่จริง ๆ แล้วดูว่าใช่ตัวหรือเปล่า แนะนำให้ไปสักช่วง ม.4 นะคะจะได้มีเวลาตัดสินใจ วางแผนอนาคตเราคร่าว ๆ ก่อน แล้วทำปัจจุบันของเราให้ดี


"ความพยายามไม่เคยทำร้ายสักคนที่ตั้งใจ ถ้าเราพยายามมากพอ" หาตัวเองให้เจอ พี่เป็นกำลังใจให้น้องนะคะ

0
イヤ 19 ต.ค. 61 เวลา 17:48 น. 17

ปูทางไว่ง้ตั้งแต่ม.ปลาย ทำให้เต็มที่ทุกทาง เผื่อเลือกๆ ทั้งวิชาการ และภาษา อาจจะเข้าวิทคณิต ละเรียนภาษาเพิ่ม ไม่งั้นปิดเทอใ ก็ลองทำงานหลายๆอย่าง

คือเอาจริงๆอ่ะ ต้องลองงานหลายๆสไตล์ทั้งใกล้ไกลก่อร แล้วน้อวจะรู้เว้ยว่าน้องไหวแบบไหน แบบไหนคุ้ม แล้วก็เอาทักษะที่มีมาดู ว่าปูทางไปทางไหนได้บ้าง อยากจะทำอะไร ที่มันตรงกับความต้องการเร

อย่างพี่อ่ะ ไม่คิดจะเป็นไรเลย แต่ได้โควต้าภาษาญี่ปุ่น เรียนแล้วดันชอบ เปนทอปห้องซะงั้น (ถึงจะเป็นโควต้า พี่ก็แอบอ่านหนังสือเตรียมพร้อมอ่ะนะ) ปิดเทอม พี่ก็ทำงานพาร์ทไทม์ไกลๆ วันละ 10 ชม. ก่อน แล้วก็ทำงานคอลเซอร์เวย์ ที่อยู่ไกลมาก ออกเช้า กลับเที่ยงคืนทั้งสองงาน

พี่ถึงได่ตรัสรู้ว่า พี่ต้องหางานใกล้ๆบ้าน ทำวันละ 8-10 ชม. ก็ยังดี พอให้มีเวลาอ่านสือ ทำไรส่วนตัว

แล้วพอโตมาปุ้บ พี่ได้พบสัจธรรมบนโลก คือ อริยสัจ4 เกิดแก่เจ็บตาย พี่มานั่งคิดว่า ถ้าแม่พี่ป่วยพี่จะทำไง ถ้าทำงานเอกชน ได่เงินเยอะก็จริง แต่จ่ายที ครั้งเดียวก็หมด

พี่ก็ต้องการความมั่นคง ความปลอดภัยให้ครอบครัวละ

แล้วพี่ก็คิดว่า เค แล้วถ้่แก่ไป จะเอาเงินที่ไหนใช้ เลี้ยงดูตัวเองยังไง

พี่ก็เลยมาจบความคิดที่ว่า ทำงานราชการดีกว่า แต่แย่เลย พี่ไม่ใช่สายวิทย์คณอต พี่ก็จะลำบาก


พอทำงานราชการพี่ได้ความมั่นคง +เวลาที่มากกส่าชาวบ้าน พี่ก็จะได้ทำงานอดิเรกที่พี่ชอบ ทาวด้านภาษา แล้วก็มีเวลาหาความรู้ด่านอื่นๆทางสังคม ได้หลายๆด้านไม่จำเป็นต้องเฉพาะด้าน


เพราะงั้นนะ งานอะไรมันไม่สำคัญเจาะจงตายตัวหรอก อยู่ที่ว่าตลอดเวลาทุกวินาทีน้องคิดไรได้ พี่เกลียดงานราชการนะ แต่พี่ต้องประเมินตัสเอง วางแผน ว่าถ้าสอบงานราชการไมไ่ด้ ก็ยังมีเอกชน ตามความสามารถของเรา


ไปหัดทำงานซะน้อง จะพบคำตอบ นั่วคืดมันมองภาพไม่ออกหรแก

0