Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

คนรอบข้างบอกเสียดายความสามารถในการวาดรูป แต่ทำไงได้ ก็ใจมันรักในการเขียนนิยายมากกว่า

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
จะหาว่าตั้งกระทู้อวดรูปก็ได้นะ แต่แค่อยากหาเพื่อนคุยบ้าง 555+

คือส่วนตัวเป็นคนนึงที่พอจะมีความสามารถในการวาดรูปอยู่บ้าง
ตอนเด็กๆ เคยฝันว่าโตขึ้นอยากเป็นนักวาดการ์ตูน

แต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่างที่ผ่านมาเลยทำให้ไปไม่ถึงจุดนั้น
เอาจริงๆ ก็ไม่ได้โทษอะไรหรอก เพราะรู้ตัวเองดีว่าขี้เกียจด้วยล่ะ 555555+

จนมีเพื่อนรอบข้าง ทั้งในชีวิตจริงและในโซเชี่ยลต่างก็เคยบอกนะว่าเสียดายความสามารถ
จริงๆ ถ้าหันไปเอาดีด้านการวาดรูปแล้วพัฒนาจริงๆ ก็น่าจะไปได้ไกล

ตย. ก็




ก็เข้าใจนะว่าเขาพูดเพราะหวังดี และเห็นศักยภาพของเรา
แต่ยอมรับเลยว่าไม่เอาอะ ขี้เกียจ 555+
เพราะรู้ตัวดีว่าเป็นคนไม่มีความอดทนมากพอที่จะวาดรูป
สติชอบแตก ชอบหาย บางทีมีไฟแท้ๆ แต่พอวาดไปได้แป๊บๆ ก็จะแบบ พอละ ไม่เอาละ เลิกๆ ขี้เกียจ
แล้วก็ดองงานต่อไป

เคยคิดวาดการ์ตูนเรื่องด้วย ร่างแบบ อะไรไปได้เยอะแล้ว สุดท้าย ขี้เกียจ เทกลางคันซะงั้น


ในขณะที่นิยาย กลับรู้สึกว่า มีสมาธิกับมันได้มากกว่า
และรู้สึกมีความสุขในการเล่าเรื่องผ่านทางตัวอักษรมากกว่า (ถึงแม้จะมีคนอ่านแบบโหลงเหลงก็ตามที เอิ๊กๆ)
โอเค จริงอยู่ ถึงแม้ว่าอาจจะมีว่อกแว่กไปทำนู่นทำนั่นทำนี่บ้าง
แต่มันก็กลับมาเขียนต่อได้เมื่อฟีลลิ่งมันกลับมา ต่างจากการวาดรูป

แล้วมีใครบาง ที่มีความสามารถในด้านอื่น จนคนบ่นเสียดาย
แต่กลับเลือกที่จะเขียนนิยายเพราะใจมันรัก มันชอบมากกว่ามั่ง ?

แสดงความคิดเห็น

>

16 ความคิดเห็น

Nostalgear 15 ต.ค. 61 เวลา 22:41 น. 1

ก็ดีนะครับ เวลาจะวาดตัวละครก็วาดเองได้เลย

ถ้าฝึกลงสีเพิ่มไปอีก อาจจะทำสามารถปกเองก็ได้นะ 55+

1
SayWindy 15 ต.ค. 61 เวลา 23:01 น. 2

ทำพร้อมกันไปเลยค่ะ แต่เลือกเอาเด่นๆไปให้สุดสักทางแล้วค่อยกลับมาอีกทีก็ได้ ถ้าคิดจะให้เป็นงานหลักนะ

เพราะบางทีชีวิตก็อาจจะไม่ได้ใช้ในสิ่งที่เราถนัดเพื่อหาเงินก็ได้นี่สิ

1
จิ๊บคุง จิบุจิบุ 15 ต.ค. 61 เวลา 23:44 น. 2-1

ตอนนี้เป็นมนุษย์เงินเดือนแบบเต็มตัวละ

ก็ได้แต่อาศัยแต่งนิยาย กับวาดรูปบ้างนี่ล่ะ คอยหล่อเลี้ยงจิตใจเวลาเครียดๆ ฮา~~~~


แต่ก็คิดไว้เหมือนกันว่าคงเก็บเลเวลด้านนิยายก่อน

แล้วค่อยกลับมาอัปเลเวลด้านการวาดต่อเมื่อนิยายไปถึงจุดสำเร็จในระดับที่ตั้งเป้าเอาไว้

0
A.p.Alis(ทาสแมวที่ว่างงาน) 15 ต.ค. 61 เวลา 23:24 น. 4

เราก็ชอบทั้งสองอย่างเหมือนกันค่ะ แต่ตอนนี้ด้วยเหตุสุดวิสัยบางประการทำให้ไม่สามารถวาดรูปได้เหมือนเดิมแล้วhttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-13.png

3
A.p.Alis(ทาสแมวที่ว่างงาน) 15 ต.ค. 61 เวลา 23:48 น. 4-2

อุบัติเหตุเล็กน้อยทำให้ไหล่หลุดและเส้นเอ็นข้อมือขวาอักเสบค่ะ ตอนนี้ก็ได้แต่ทำกายภาพบำบัดไป ส่วนเรื่องวาดรูปนี่เรียกได้ว่าห่วยลงเรื่อย ๆhttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-07.png

0
จิ๊บคุง จิบุจิบุ 15 ต.ค. 61 เวลา 23:54 น. 4-3

ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ


เคยเกือบจะทำให้วาดรูปไม่ได้ไปแล้วเหมือนกัน (อุบัติเหตุรถชน)

ก็มีอาการปวดๆ บ้าง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นร้ายแรง

0
Death With Love 15 ต.ค. 61 เวลา 23:40 น. 5

เอาที่ตัวเองสบายใจเถอะครับ


การวาดรูปอาจไม่สิ่งที่จขกท.ชอบที่สุด แต่มีสกิลติดตัวไว้ก็ไม่เสียหาย

หากจขกท.ตั้งใจไปสายนิยาย แล้ววาดรูปประกอบเองได้ ก็ช่วยส่งเสริมกันได้ครับ


อนาคตไม่แน่นอน เก็บความสามารถทางด้านอื่นๆ เป็นตัวเลือกเผื่อไว้บ้างก็ดีนะครับ (ฮา)



1
จิ๊บคุง จิบุจิบุ 15 ต.ค. 61 เวลา 23:46 น. 5-1

ก็คิดๆ ไว้เหมือนกันครับ

ก็ยังไม่ได้ทิ้งงานวาดไปโดยสิ้นเชิง

แต่ตอนนี้ขอเบนเข็มมาทางสายนิยายให้ไปได้ไกลกว่านี้ให้ถึงเป้าหมายก่อน

แล้วค่อยกลับมาเก็บเลเวลด้านการวาดต่อ

0
White Frangipani 16 ต.ค. 61 เวลา 01:08 น. 6

สวัสดีค่ะ


เป็นงานวาดที่สวยงาม เยี่ยมมากค่ะ


ชอบบบบบบบลายเส้นค่ะ


คุณมีศิลป์...มีฝีมือ...เป็นธรรมชาติเลยด้วย


ตามที่คุณบอกว่า...คนรอบข้างบอกเสียดายความสามารถในการวาดรูป แต่ทำไงได้ ก็ใจมันรักในการเขียนนิยายมากกว่า...


คือส่วนตัวเป็นคนนึงที่พอจะมีความสามารถในการวาดรูปอยู่บ้าง

ตอนเด็กๆ เคยฝันว่าโตขึ้นอยากเป็นนักวาดการ์ตูน


คุณเกิดมามีธรรมชาติซึ่งเป็นศิลป์...ในแขนงจิตรกรจริงด้วยค่ะ สวยงาม น่ารักทุกภาพเลยด้วยยยยย


แบบนี้แล้ว คุณก็เขียนบ้าง และวาดบ้างสลับกันไปตามอารมณ์ก็ได้นี่คะ


ที่ว่าคุณว่อกแว่กเกี่ยวกับงานวาด อาจจะเป็นเพราะว่าคุณสามารถทำได้ดีมากแล้วในขั้นหนึ่่ง...ในส่วนลึกๆของคุณมันรู้ได้...มันจึงอยากที่จะพักศิลปะด้านนั้นไว้ก่อน...คืออาจจะเป็นเพราะว่าคุณเกิดมาก็มีศิลปะในด้านนี้ติดตัวมา การที่จะวาดนั้นอาจจะง่ายสำหรับคุณ...หากแต่งานเขียนอาจจะเป็นอะไรที่ท้าทายคุณ...ซึ่งคุณอยากลองที่จะค้นหาศักยภาพในศิลปะด้านนี้ในตัวคุณเอง...คือในส่วนลึกๆของคุณ...คุณเป็นคนรักความท้าทาย...แบบนั้นใช่ไหมคะ???(หมอดู???ใช่ไหมนี่555...จริงแล้วคือเดาเอานะคะ555)


หากใช่...นะคะ เจ้าของเม้นต์นี้เชื่อว่าวันหนึ่ง คุณจะสามารถเป็นได้ทั้งนักวาด และนักเขียน...ที่เยี่ยมยอดมากๆเลยด้วยค่ะ


ขอเพียงคุณทำในสิ่งที่คุณรู้สึกว่ารัก...หรือต้องการที่จะทำ...ในขณะนี้...ให้ดีที่สุด และทำแล้วเป็นสุข...และแล้ว...ทั้งสองแขนงแห่งศิลปะที่คุณมีอยู่ หรือคุณกำลังที่จะสร้างสรรค์เพิ่ม(คืองานเขียนนะคะ) จะเป็นผลงานที่ดีเยี่ยมอย่างแน่นอนค่ะ


คือเข้าใจว่า...หากคุณสามารถวาดลายเส้นได้ละเอียดสวยงามได้แบบนี้...คุณก็จะสามารถที่จะเขียน...นิยาย ให้เป็นเรื่อง เป็นพล็อต เป็นปม...ผ่านงานเขียนของคุณได้สนุกสนาน ตื่นเต้น ชัดเจนได้ไม่ต่างจากงานวาดค่ะ


เจ้าของเม้นต์ ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ


แล้วมีใครบาง ที่มีความสามารถในด้านอื่น จนคนบ่นเสียดาย"....55555 มีค่ะ เป็นนักการเมือง...หลายๆคนอยากให้เป็น ตั้งแต่เป็นวัยรุ่นเลยด้วย (สาเหตุอาจจะเป็นคนที่หัวรุนแรงในสายตาของเขาทั้งหลายมั้งนะ5555) มีโอกาสหลายๆครั้งแต่ก็ไม่เลือก หลายคนบอกว่าน่าเสียดาย


เป็นนักเขียน...หลายๆๆๆคนบอกว่าน่าจะเป็นนักเขียน...แต่ก็ไม่สามารถเป็นได้จนทุกวันนี้ เพราะความขี้เกียจค่ะฮื้ออ (ติดเล่นเด็กดีด้วย เล่นเด็กดีสนุกกว่าเขียนนิยาย รู้สึกแบบนั้นค่ะ555)


เป็นนักวาด...ชอบวาดเช่นกันค่ะ แต่ก็ขี้เกียจ555


เป็นตากล้อง เป็นช่างภาพ...หลายๆคนบอกว่าเป็นช่างภาพที่มีศิลป์ถ่ายภาพให้ใครๆเขานะ ทุกๆภาพของทุกคนออกมาสวยงามหมด(ทุกคนพอใจ55 แต่จริงแล้วสาเหตุที่เป็นแบบนั้น เพราะทุกคนยิ้มสวยให้กับคนที่อยู่หลังกล้องทุกครั้ง...ภาพของเขาจึงออกมาสวย555) หรือชอบถ่ายภาพธรรมชาติ ซึ่งหลายคนก็บอกว่าเสียดายที่ไม่จริงจัง แต่ก็ไม่ยึดเป็นหลักได้ค่ะ ขี้เกียจนะ แล้วแต่อารมณ์


คือมาวันนี้นั่งๆนอนๆ เท่านั้นเอง555 รู้สึกติดความขี้เกียจค่ะ


ติดเล่นเด็กดีหล่ะ55555


เล่นเด็กดีสนุก ได้เห็นภาพวาดสวยงาม..มีเพื่อนๆวาดให้ดู มีนิยายดีๆที่เพื่อนๆเขียนให้อ่านมากมายอีกด้วยเนาะ (ยิ่งขี้เกียจอยู่ด้วย เข้ามาเสพความสุขอย่างเดียวเลยด้วยค่ะ 555)


เล่นเด็กดีมีความสุขก็ไม่อยากทำไรมากกว่านี้แล้วค่ะ55555


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-02.pnghttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.png



คุยกันในหัวข้อ...ช่างน่าเสียดาย...คุยกันเล่นสนุกๆนะคะ อารมณ์ดีค่ะ


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.pnghttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.pnghttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.png











2
จิ๊บคุง จิบุจิบุ 16 ต.ค. 61 เวลา 03:44 น. 6-1

หากแต่งานเขียนอาจจะเป็นอะไรที่ที่ท้าทายคุณ...ซึ่งคุณอยากลองที่จะค้นหาศักยภาพในศิลปะด้านนี้ในตัวคุณเอง...คือในส่วนลึกๆของคุณ...คุณเป็นคนรักความท้าทาย...แบบนั้นใช่ไหมคะ?


- เหมือนรู้ใจผมจริงๆ ผมอยากหันมาด้านงานเขียนนิยายเพราะอยากพัฒนาศักยภาพตัวเองในด้านนี้

ตอนนี้ผมยอมรับเลยว่า ด้านงานเขียน ผมยังสู้คนอื่นไม่ได้ และต้องการฟี้ดแบคมากๆ

เพราะมีเป้าหมายคืออยากร่วมเล่ม (จริงๆ คิดไปไกลกว่านั้น แต่ตอนนี้ขอตั้งเป้าที่รวมเล่มก่อน)

ลึกๆ ต้องการความท้าทาย ก็ถือว่าค่อนข้างใช่ครับ ผมคิดว่า พอหันมาเขียนนิยาย มันเป็นอะไรที่ท้าทายความสามารถมากๆ

เวลาเห็นคนอื่นเขาประสบความสำเร็จ แล้วเรารู้สึกว่า เฮ้ย วันนึงเราจะเป็นแบบนั้นได้มั้ย เราจะไปถึงจุดนั้นได้มั้ย

แล้วถ้าเราอยากจะไปถึงจุดนั้นให้ได้ เราต้องทำยังไงล่ะ บลาๆๆๆ


ส่วนในด้านงานวาดนั้น จริงๆ ผมก็ยังไม่ได้เก่งอะไรมาก เพียงแต่ อาจจะเพราะด้วยความที่ผมหัดวาดมาตั้งแต่ ป.2 แล้วด้วยล่ะมั้ง มันเลยกลายเป็นความเบื่อไปด้วยส่วนหนึ่งก็เป็นได้

และส่วนหนึ่งคือ ผมอยาก เล่าเรื่อง ด้วยล่ะมั้ง
ซึ่งการเล่าเรื่อง นอกจากการเขียนการ์ตูนเป็นเรื่องแล้ว นิยาย ก็ถือเป็นการเล่าเรื่องอีกทางหนึ่งเช่นกัน

ในเมื่อผมอยากเล่าเรื่อง แต่ไม่มีความอดทนมากพอที่จะวาด ก็เลยกลายเป็นเบนเข็มมาเขียนนิยายแทนก็เป็นไปได้


แต่กระนั้น ก็ยังไม่ได้ทิ้งด้านวาดรูปไปโดยสิ้นเชิง ก็มีเขียนๆ เขี่ยๆ บ้างถ้ามีโอกาส

แต่ไม่ถึงขั้นตัดเส้นจริงๆ จังๆ อะไรขนาดนั้นน่ะครับ



หากใช่...นะคะ เจ้าของเม้นต์นี้เชื่อว่าวันหนึ่ง คุณจะสามารถเป็นได้ทั้งนักวาด และนักเขียน...ที่เยี่ยมยอดมากๆเลยด้วยค่ะ

ขอเพียงคุณทำในสิ่งที่คุณรู้สึกว่ารัก...หรือต้องการที่จะทำ...ในขณะนี้...ให้ดีที่สุด และทำแล้วเป็นสุข...และแล้ว...ทั้งสองแขนงแห่งศิลปะที่คุณมีอยู่ หรือคุณกำลังที่จะสร้างสรรค์เพิ่ม(คืองานเขียนนะคะ) จะเป็นผลงานที่ดีเยี่ยมอย่างแน่นอนค่ะ

คือเข้าใจว่า...หากคุณสามารถวาดลายเส้นได้ละเอียดสวยงามได้แบบนี้...คุณก็จะสามารถที่จะเขียน...นิยาย ให้เป็นเรื่อง เป็นพล็อต เป็นปม...ผ่านงานเขียนของคุณได้สนุกสนาน ตื่นเต้น ชัดเจนได้ไม่ต่างจากงานวาดค่ะ


- ขอบคุณมากๆ ครับ ตอนนี้ก็พยายามฝึกเขียนอยู่

แต่ผมยอมรับว่า ผมยังไม่สันทัดแนวซับซ้อน ไม่เก่งแนวใหม่ๆ บางทีเห็นพล็อตคนอื่นแล้วยังแบบ เฮ้ย เจ๋งแฮะ คิดได้ไงเนี่ย

ผมเลยกลับมาคิดในส่วนของงานตัวเองว่า ในความธรรมดาของงานเรา ณ ตอนนี้นั้น เราจะทำอย่างไรให้มันกลมกล่อมให้ได้มากที่สุด

ทำตรงนี้ให้ดีก่อน แล้วค่อยต่อยอดมากขึ้นไปเรื่อยๆ (จริงๆ ก็มีพล็อตต่อจากเรื่องที่เขียน ณ ปัจจุบันอยู่บ้างแล้ว แต่ขอทำเรื่องนี้ให้ดีที่สุดก่อน)


55555 มีค่ะ เป็นนักการเมือง... ผมว่าน่าสนใจนะครับ ดูจากลักษณะการพิมพ์แล้ว รู้สึกได้ถึงสำเนียง นำเสียงการพูดขึ้นมาในหัวเลยจริงๆ


เป็นนักเขียน ด้านนิยาย ผมยังไม่เคยอ่าน แต่ถ้าเขียนบทความนี่ จากที่อ่าน ณ ตอนนี้ชวนให้ติดตามจริงๆ ครับ


เป็นตากล้อง เป็นช่างภาพ ผมก็ชื่นชอบการถ่ายภาพอยู่บ้างนะครับ แต่ไม่ได้เก่งอะไรเลยสักนิดจริงๆ

บางทีก็รู้สึกชื่นชมคนที่มีความสามารถด้านนี้ ว่าเขาเก่ง ที่สามารถเล่าเรื่องราวต่างๆ ผ่านออกมาจากการถ่ายภาพได้
หลายครั้ง องค์ประกอบเดียวกัน สถานที่เดียวกัน คนทั่วไปที่ถ่ายออกมาแบบธรรมดาๆ
แต่คนที่มีความสามารถในการถ่ายภาพนั้น สามารถเล่าเรื่องราวโดยไม่ต้องใช้คำพูดอะไรเลย แต่เราสามารถสัมผัสได้ถึงเรื่องราวที่อยู่ในรูปนั้นได้อย่างน่าแปลกใจ

ประเด็นนี้ ก็มีอยู่ในนิยายผมเหมือนกัน เพราะพระเอกเป็นคนชอบถ่ายภาพ

ผมก็เลยถ่ายรูปตามสถานที่ต่างๆ แทรกเข้าไปในนิยายบ้าง ไม่มากก็น้อย ถือว่าสร้างบรรยากาศให้กับการอ่านเพิ่มมากขึ้น


ขอบคุณที่แสดงความคิดเห็นครับ ^^

0
White Frangipani 17 ต.ค. 61 เวลา 04:39 น. 6-2

สวัสดีค่ะ


เดาถูกด้วยยยย เป็นหมอเดาาาาา...ได้จริงด้วยนะนี่5555


เป็นตากล้อง เป็นช่างภาพ ผมก็ชื่นชอบการถ่ายภาพอยู่บ้างนะครับ แต่ไม่ได้เก่งอะไรเลยสักนิดจริงๆ

บางทีก็รู้สึกชื่นชมคนที่มีความสามารถด้านนี้ ว่าเขาเก่ง ที่สามารถเล่าเรื่องราวต่างๆ ผ่านออกมาจากการถ่ายภาพได้

หลายครั้ง องค์ประกอบเดียวกัน สถานที่เดียวกัน คนทั่วไปที่ถ่ายออกมาแบบธรรมดาๆ

แต่คนที่มีความสามารถในการถ่ายภาพนั้น สามารถเล่าเรื่องราวโดยไม่ต้องใช้คำพูดอะไรเลย แต่เราสามารถสัมผัสได้ถึงเรื่องราวที่อยู่ในรูปนั้นได้อย่างน่าแปลกใจ

ประเด็นนี้


ทั้งหมดนี้...เกี่ยวกับคุณสมบัติของช่างภาพที่ดีเยี่ยม ที่คุณบรรยายมานี้นะคะ ก็บอกได้อีกว่า...คุณมีความเข้าใจในศิลป์...หรือศิลปะในด้านจับภาพ หรือถ่ายภาพด้วยค่ะ


จริงแล้วเป็นปรกติของคนเกิดมามีศิลป์นะคะ บ่อยๆที่ศิลปะหลายๆแขนง...ในตัวตนของเขามันจะฉายแสงพร้อมๆกัน หรือที่ว่ามันจะสามารถแตกแขนง...ออกมาได้หลายๆด้าน...นั้นก็เป็นธรรมชาติค่ะ


ยกตัวอย่าง เช่นนักร้องนะคะ ส่วนมากเขาทั้งหลายก็จะสามารถเต้น รำ เก่งด้วยเป็นต้นค่ะ


คือศิลป์นะ มันจะมีอาการต่อเนื่องหรือแตกแขนง...ได้เป็นธรรมดาค่ะ(หรือว่านั้นที่เป็นธรรมชาติของคนที่มีศิลป์)

 

ก็มีอยู่ในนิยายผมเหมือนกัน เพราะพระเอกเป็นคนชอบถ่ายภาพ

ผมก็เลยถ่ายรูปตามสถานที่ต่างๆ แทรกเข้าไปในนิยายบ้าง ไม่มากก็น้อย ถือว่าสร้างบรรยากาศให้กับการอ่านเพิ่มมากขึ้น


พระเอกเป็นตากล้องหรอ...ทำการส่งสิ่งนี้...มาให้คุณดูเล่นๆ เป็นแรงบันดาลใจ...เพื่องานเขียนนะคะ5555(จริงแล้วคุณวาดปกเองให้คลาสสิคไปเลยนะคะ:)

(จะกดติดตามนิยายของคุณค่ะ)


https://image.dek-d.com/27/0330/6082/127673974



สู้สู้นะคะ เป็นกำลังใจ...ให้กับงานเขียน และงานวาด...ของคุณค่ะ


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-01.png


0
B 13 s.t 16 ต.ค. 61 เวลา 04:47 น. 7

ผมทำทั้งสองทางเลยครับ และได้เงินมันจากทั้งสองทางด้วย

แต่เหนื่อยครับ สุดท้ายก็ต้องจับอันหนึ่งเป็นหลักก่อน ส่วนอีกอันทำเป็นพักๆ แต่ก็ปล่อยไม่ได้จริงๆ เช่นกัน ต้องวกไปทำ และหาลู่ทางทำเสมอ เช่นตอนนี้ผมเขียนนนิยายเป็นหลัก แล้ววาดการ์ตูนเป็นลอง(เพราะนิยายนี่ สนพ.รออยู่)


สมัยก่อนผมวาดกับการ์ตูนไทยสตูดิโอครับพร้อมกับเขียนนิยายไปด้วย จนมาถึงช่วงคุณพ่อป่วย ผมจำเป็นต้องพักสักอย่างไป เลยเลือกพักการ์ตูน เพราะพาร์ทไทม์ และมันเป็นงานเรื่องสั้น พอเขียนจบเรื่องล่าสุดก็พักไป(แต่ทางนั้นเขาก็ติดต่อให้วาดให้เรื่อยๆ นะ ซึ่งช่วงไหนพอว่างก็วาดให้ครับ) ส่วนนิยายไม่พักเพราะเป็นเรื่องยาวที่สนพ.รออยู่ 2 เรื่องเลย แต่ช่วงนั้นกว่าจะเขียนแต่ละตอนได้แทบไม่มีเวลา เพราะดูแลพ่อ และต้องเข้าออกโรงบาลแทบไม่เว้นวัน


แต่สุดท้ายพอนิยายจบไปเรื่องหนึ่ง ผมก็กลับไปวาดการ์ตูนใหม่ แต่ไม่ได้ลงกับสนพ. แต่ลงกับเว็บการ์ตูนแทน เพราะมันเป็นการลงแบบลงเว็บเด็กดีเนี่ยแหละ ไม่มีจำกัดเวลา อยากลงก็ลง ขณะที่จะมีเงินนิดหน่อยจากระบบของเขาที่นับจำนวนคนเข้าอ่าน แฟนคลับ คอมเม้นท์ การลงงาน จิปาถะมารวมกัน แล้วจะจ่ายเงินจากการนับจำนวนเหล่านั้นให้เรา เอาว่าง่ายๆ ระบบเดียวกับยูธูป และช่วงหนึ่งปีหลังที่คุณพ่อเสียแล้ว ผมถึงมีเวลามากขึ้นอีกหน่อยเลยเริ่มลงการ์ตูนเพิ่มอีกเรื่อง แต่ก็ยังแอบมีภาระด้านอื่นมาแทนบ้าง(แต่ตอนนี้รู้สึกเว็บตูนที่ว่าจะไม่จ่ายเงินตามระบบเก่าแล้ว แต่ให้เราติดเหรียญแทน กำลังลังเลว่าจะติดรึเปล่า หรือถ้าจะติดก็คงแบบ ติดแค่ 2 บทล่าสุด พอลงตอนใหม่ ก็เอาเหรียญของบทก่อนล่าสุดออก เปิดอ่านฟรี ให้ติดเหรียญอยู่แค่ 2 บทล่าสุดไปเรื่อยๆ เอาแค่นั้น แต่คงไม่ติดเหรียญยาวเป็นพืดทุกตอน สงสารนักอ่านเด็กๆ ที่ไม่มีเงินจ่าย ฮา)


ซึ่งผมก็โชคดีหน่อย คนค่อนข้างตามอ่านเยอะ ก็เลยได้เงินเข้ามาบ้าง แต่ไม่มาก หากที่ชอบที่สุด คือความสุขที่ได้ทำ เพราะเอาจริงๆ ผมเป็นคนชอบวาดมากกว่าชอบเขียน และที่ได้มาเขียนนิยายก็เพราะอยากเขียนการ์ตูนเรื่องยาว แต่ตอนนั้นยังเด็ก ยังเรียนอยู่ แถมอยู่ในช่วงกำลังเรียนหนัก และงานเยอะ เลยเอาการ์ตูนที่คิดไว้มาเขียนนิยายลงเว็บเอง และมันได้ตีพิมพ์ซะด้วยนะ แล้วก็เขียนนิยายยาวมาตลอด ทว่าขณะเดียวกันก็ยังกลับไปหาการ์ตูนเสมอ ทิ้งไม่ได้จริงๆ ไม่ได้วาดรูปแล้วใจจะขาด


สุดท้ายก็คิดเป็นระบบไปว่า นิยายคือการแต่งเรื่องไว้รอท่า ส่วนการ์ตูนคือตัวงานภาพในอนาคตของนิยายเรื่องนั้นๆ เพราะผมมีแผนจะเขียนนิยายตัวเองเป็นการ์ตูนอยู่ เอามาเขียนเป็นเรื่องสั้นประปรายไปแล้วด้วย และมีเรื่องยาวต่อยอดจากนิยายที่ตีพิมพ์แล้วอีกเรื่องหนึ่งด้วย


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมเป็นพวกสายวาดหรือศิลป์โดยตรงมาตลอดชีวิตครับ ชอบวาดรูปมาตั้งแต่จำความได้ ไม่เคยเป๋ไปทางอื่น สู้รบกับคนรอบข้างเพื่อวาดรูปมาครึ่งชีวิต(แม่ผมเขาไม่สนับสนุนเท่าไหร่ ขนาดประกวดวาดการ์ตูนเรื่องสั้นตอนม.ต้น ผมยังต้องแอบทำเลย กว่าทางบ้านจะรู้ก็ตอนที่ทางสนพ.เข้าโทรมาว่าการ์ตูนเราชนะนั่นแหละ)กว่าจะพิสูจน์ได้ว่าเราหาเงินจากมันได้ก็เสียน้ำตาไปหลายลิตร จบก็จบด้านเพรียวอาร์ตมา ดังนั้นเรื่องวาดมันขาดไม่ได้แน่นอนอยู่แล้ว

2
P-ITEM 16 ต.ค. 61 เวลา 17:21 น. 7-1

รู้สึกคล้ายๆกันเลยค่ะ ไม่ว่างเลยต้องนักเขียนนิยายไปก่อนแล้วค่อยทำการ์ตูนต่อในอนาคต 555+

0
จิ๊บคุง จิบุจิบุ 16 ต.ค. 61 เวลา 22:53 น. 7-2

อ่านแล้วนับถือมากจริงๆ ครับ


อ่านเจอตรง "การ์ตูนไทยสตูดิโอ"

ตอนผมเด็กๆ สัก ม.3 ผมก็เคยส่งต้นฉบับทางไปรษณีย์ให้เขาพิจารณาเหมือนกัน

แต่กว่าจะถึงคิวก็นู่น ปลายๆ ปวช. ปี 1 แล้วแน่ะ

ซึ่งผลก็คือ ไม่ผ่าน 555+ ได้ 69 คะแนน (จำได้ว่าตอนนั้นตัดผ่านได้ตีพิมพ์ที่ 75 คะแนน)


สัก 18-19 ผมก็เคยเอาต้นฉบับไปให้เขาพิจารณาอีกรอบเหมือนกัน

ตอนนั้นลงทุนนั่งรถไฟจากสุราษฯ เข้า กทม. แบบตัวคนเดียวเลย มีเงินติดตัวไปตอนนั้นไม่ถึง 2,000 ด้วยซ้ำ

เป็นครั้งแรกที่เข้า กทม. แบบคนเดียวจริงๆ ไปไหนมาไหน ก็อาศัยถามคนแถวนั้นตลอด ว่าต้องขึ้นรถสายไหนอะไรยังไง

พอถึงวันนัด ก็โดนสับไปไม่น้อยเหมือนกัน และก็ยังไม่ผ่านอีกตามเคย

แต่ก็นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีและสนุกอย่างนึงเลยก็ว่าได้ครับ


จะว่าไป ค่ายการ์ตูนไทยฯ เป็นค่ายที่ผมตามซื้อเยอะที่สุดแล้วก็ได้ (ในบรรดาหมวดการ์ตูนไทย)

เพราะรู้สึกว่าค่ายนี้ค่อนข้างให้อิสระนักวาดในระดับนึง (จากมุมมองของคนอ่านนะครับ)

มีอะไรนำเสนอให้กับคนอ่านตลอดเวลา


ขอบคุณที่ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ครับ

0
peiNing Zheng 16 ต.ค. 61 เวลา 05:17 น. 8

พอโตขึ้นมีอะไรหลายอย่างที่ต้องทิ้งกลางทางค่ะ (แต่ไม่ใช่เพื่อนิยายหรอก) ทรัพยากรมีจำกัด (เวลา) ต้องเลือกใช้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆ เพราะไม่มีกำลังพอจะคว้าทุกอย่างในมือ


หลักๆ คือ เราทิ้งการวาดรูป อีกอย่างที่ทิ้งคือกีฬาค่ะ


แต่เอาเข้าจริง นิยายก็ไม่ใช่เป้าหมายในชีวิตเหมือนกัน เป็นงานอดิเรกหนึ่งเท่านั้น ได้ตังค์ซดกาแฟแก้วสองแก้วต่อเดือนแบบขำๆ ให้อ่านฟรีเสียเยอะค่ะ


ถึงเวลาจริง เชื่อว่านิยายจะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทิ้งเหมือนกับสองอย่างแรกหากว่ามีสิ่งอื่นที่ทำให้เราต้องใช้เวลากับมัน แต่เผอิญตอนนี้ยังไม่มี

3
จิ๊บคุง จิบุจิบุ 16 ต.ค. 61 เวลา 22:59 น. 8-1

อ่านความเห็นนี้แล้วบอกตามตรงเลยว่า ค่อนข้างแทงใจจริงๆ


พอโตขึ้นแล้วได้พบเจออะไรๆ มากขึ้น บางครั้งก็จำเป็นต้องทิ้งบางอย่างไปจริงๆ


ของผมเอง หลังจากที่เข้าไปเสนอต้นฉบับกับค่ายการ์ตูนไทยฯ (ในความเห็นที่ 7-2)แล้วไม่ผ่าน


หลังจากนั้นชีวิตผมก็ค่อนข้างเจอจุดเปลี่ยนอะไรเยอะมากพอสมควร


ชีวิตค่อนข้างเป๋ไปเกือบๆ 10 ปีเลยก็ว่าได้



ตอนนี้จากความฝันที่เคยคิดเอาไว้เมื่อสมัยเด็กๆ สุดท้าย พอรู้ตัวอีกที

ตัวเองก็กลายเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ คนนึงไปเสียแล้ว


แต่ก็ไม่ได้โทษใครหรอกครับ อะไรที่มันผ่านไปแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไป ชีวิตเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ


ตอนนี้ก็คงเหมือนกัน


ผมมีงานประจำทำ ถึงแม้มันจะเครียดไปไม่น้อย


แต่การแต่งนิยาย การวาดรูป ก็ยังช่วยประโลมจิตใจเราได้ไม่น้อยเช่นเดียวกัน


ก็คงเขียนนิยายเป็นงานอดิเรก แต่ก็มีเป้าหมายในงานอดิเรกนี้อยู่เหมือนกัน


ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ

0
peiNing Zheng 17 ต.ค. 61 เวลา 09:58 น. 8-2

พูดถึงตอนเขียนการ์ตูน สมัยนั้น สักยี่สิบกว่าปีมาแล้ว หนังสือสอนวาดการ์ตูนหลักๆ มีสองเล่มที่ใช้กัน ไม่เยอะเท่าสมัยนี้ เล่มหนึ่งของอาจารย์โทริยามะ (ดราก้อนบอล) กับไซโต จิโฮ (นักวาดการ์ตูนผู้หญิง) เป็นไพเรท


จีเพ็นหายากมาก แพงมาก หัวกลมก็หาไม่ง่ายนัก พอดีมีเพื่อนชาวญี่ปุ่น ส่งจดหมายโต้ตอบกันไปมา วันดีคืนดีก็ส่งจีเพ็น กับกระดาษวาดการ์ตูนซึ่งมีกรอบกระดาษจางๆ สีฟ้ามาให้ (ยังเก็บจนทุกวันนี้) บนโต๊ะเราจะมีแต่คราบหมึกดำๆ ส่วนสีขาวที่ดูเนื้อทึบสุดที่มีคือ สีโปสเตอร์ (ถ้าไม่นับลิควิดแบบป้าย ซึ่งแพง) ยี่ห้อซากุระค่ะ


เคยส่งงานไปให้เขาช่วยวิจารณ์ด้วย จำไม่ได้แล้วว่า C-Kids หรือ Boom นี่แหละ ตอนนั้นเด็กน้อยมาก 555


จากความพยายามตอนนั้น ตอนนี้เรายังคงควบคุมมือได้ดีพอสมควร หัดวาดด้วยคอแร้งมันทำให้มือนิ่งทีเดียวค่ะ ^^”


ปล. คนแก่ระลึกความหลัง

0
Miran/Licht 16 ต.ค. 61 เวลา 07:17 น. 9

มาร่วมเมาท์มอย แต่คิดว่าน่าจะยาว


เราวาดรูปตั้งแต่อนุบาล 2 ค่ะ ก็วาดมาเรื่อยๆ จนประถมปลายเราก็ตัดสินใจเองแหละว่า เราจะวาดเป็นงานอดิเรกไม่เอาจริงจังไปกว่านี้ เราอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ พอเข้าม.ต้นเคยมีความคิดอยากเป็นครูอยู่นะ แต่เป็นครูสายวิทย์


จนตอนนี้ก็เรียนวิทย์จบวิทย์ก็ยังวาดอยู่ค่ะ ม.ปลายก็เขียนนิยาย วาดการ์ตูนลงหนังสือพิมพ์รร. เรียนมหาลัยแรกๆ ก็เขียนนิยายต่อเนื่อง จนหยุดเขียนนิยายไปเกือบ 10 ปี เพราะเรียนหนัก พอเรียนจบก็ทำงานเป็นพนักงานรอเงินเดือน ที่ยังหาเรียนวันเสาร์ จนหยุดเรียนถึงกลับมาเขียนนิยายต่อ แต่วาดรูปนี่ไม่เคยหยุดเลย


ตอนนี้เราก็ไม่อะไรกับการเป็นเป็ดที่เขียนก็ได้ วาดรูปก็ได้

เราเพิ่งตั้งกระทู้สอนวาดสีน้ำง่ายๆ ไป จะเข้าไปชมไปคุยกันก็ได้ค่ะ

https://www.dek-d.com/board/view/3883430/


1
จิ๊บคุง จิบุจิบุ 16 ต.ค. 61 เวลา 23:08 น. 9-1

วาดเป็นงานอดิเรก ไม่จริงจัง

อันนี้ผมพอเข้าใจความรู้สีกนะครับ

เพราะผมเองก็ค่อนข้างคิดแบบนั้นเช่นกัน


หลายคนบอกเสียดาย แต่สำหรับตัวผม ณ ตอนนี้ รู้สึกว่า อยากวาดรูปเพราะอยากวาด

วาดเวลาเครียดๆ ไม่อยากวาดเพื่อหารายได้จากตรงนี้มากนัก


เพราะพอคิดว่าถ้าต้องวาดรูปเพื่อทำเป็นรายได้ มันจะกลายเป็นความเครียดขึ้นมาทันที

ว่าเราจะทำยังไง ต้องเขียนยังไงให้คนตามงานเรา ต้องคิดอะไรมากขึ้น


สุดท้าย มันเลยรู้สึกว่าถ้าทำแบบนั้นแล้ว จะกลายเป็นไม่มีความสุขไป

(แต่น่าแปลก ทีงานหลักก็เครียดออกบ่อย ทำไมทนได้วะ 555+)


ส่วนกระทู้สีน้ำนี้ ผมได้มีโอกาสกดเข้าไปอ่านก่อนหน้านั้นแล้ว

ส่วนตัวเคยเรียนเรื่องสีน้ำตอน ปวช.

ยอมรับเลยว่าสีน้ำเป็นอะไรที่ยากพอสมควร

ลงสีพลาดแล้วพลาดเลยแก้ยาก แต่สีน้ำก็ให้อารมณ์ในแบบที่สีอื่นทำไม่ได้อยู่เหมือนกัน


เวลาเห็นนิยายที่หน้าปกเป็นรูปที่ลงด้วยสีน้ำทีไร จะใจสั่นตลอดเงินในกระเป๋ามันเรียกจะเปย์ให้ได้ 555+

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

Miran/Licht 16 ต.ค. 61 เวลา 08:44 น. 10-1

เห็นด้วยมากค่ะ เราอยู่กับมันจนไม่คิดว่ามันเป็นปัญหาจนเมื่อวันก่อนนี่แหละค่ะ ที่ทำให้รู้สึกว่า 'รูปปก' และ 'ภาพประกอบ' นี่ก็ปัญหาใหญ่ จากสถิติที่เกิดขึ้นอย่างน่าตกใจ ก็กระทู้ที่เราตั้งวันก่อน...ตั้งตอนใกล้เที่ยงคืนที่ปกติจะเงียบเหงา ใช้เวลาวันเดียวยอดวิวแตะไปเกือบพัน ปกติตั้งกระทู้ไม่เคยยอดถึงเท่านั้นค่ะ ออกจะสตั้นอยู่

0
จิ๊บคุง จิบุจิบุ 16 ต.ค. 61 เวลา 23:16 น. 10-2

ก็เคยมีคนพูดเรื่องนี้เหมือนกันนะครับ

มีน้องคนนึง ผมก็เคยชมลายเส้นผมว่าชอบลายเส้นผม อิจฉาลายเส้นผม

(น้องเขาก็เป็นคนวาดรูปเหมือนกัน แต่น้องเขาจะเน้นไปทางแคสเกมมากกว่า งานวาดเป็นเรื่องรอง)


ผมก็รู้สึกดีใจนะ แต่ผมกับน้องเขามีความคิดตรงกันอย่างนึงคือ

วาดเพราะอยากวาด พอวาดเพื่อทำเป็นรายได้ทีไร เครียดทุกที 555+


แต่ยังไงก็ไม่ได้คิดจะทิ้งไปโดยสิ้นเชิงแน่นอนครับ


จริงๆ ก็เคยคิดจะเอานิยายตัวเองมาทำเป็นฉบับการ์ตูนด้วย

แต่ติดด้วยเรื่องเวลา และขี้เกียจ

(แบบบางทีพอเสร็จจากงานประจำแล้ว มันก็แบบโอ้ยยย เหนื่อย ไม่ไหวแล้ว ขอพักเหอะ อะไรแบบนี้น่ะ)


ก็เลยได้แค่ร่างภาพตัวละครเท่านั้น


ยังไงก็ขอบคุฯสำหรับคำแนะนำครับ

0
SilverPlus 16 ต.ค. 61 เวลา 08:15 น. 11

ถ้าพัฒนาการวาดรูปจนสามารถใช้มันเล่าเรื่องได้เหมือนการ์ตูน ก็แนะนำให้ไปทางการ์ตูน เพราะนอกจากจะวาดการ์ตูนลงตามเว็บคอมมิคต่าง ๆ ได้แล้ว ยังสามารถสร้างเพจ ขายสินค้าทำมือได้อีกด้วย เป็นช่องทางที่สามารถทำมาหากินได้หลากหลาย


แต่ถ้าถูกจำกัดด้วยเวลา และเป็นคนที่มีเรื่องเล่าในหัวเยอะ แนะนำให้ไปทางสายนิยาย เพราะสามารถเล่าเรื่องราวในหัวออกมาได้เร็วกว่าวาดการ์ตูนหลายเท่า


แต่ถ้าจะไปทางสายใดสายหนึ่งแบบจริงจัง ส่วนตัวชื่นชอบเรื่องราวที่เล่าโดยภาพมากกว่า และเห็นว่าทักษะวาดภาพใช้ได้มากกว่าแค่วาดการ์ตูน วาด CG วาดสินค้าทำมือได้ จึงแนะว่าให้ทุ่มให้กับการวาดเป็นอย่างแรกจะดีที่สุด


แต่ก็อีกนั้นแหละ แล้วแต่เจ้าของกระทู้เลย จะทำทั้งสองอย่างก็ได้ แต่อย่าลืมว่า นิยายกับวาดภาพ มีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกัน สามารถเข้าถึงได้ทั้งสองสิ่ง แต่ก็จะเปลืองพลังมากด้วยเช่นกัน

1
จิ๊บคุง จิบุจิบุ 16 ต.ค. 61 เวลา 23:22 น. 11-1

อันนี้ผมเห็นด้วยมากๆ เลยครับ


ว่างานด้านการวาด มันพลิกแพลงต่อยอดได้มากกว่าจริงๆ


ผมเป็นแฟนคลับของเจ๊แกะ (ไม่ทราบรู้จักมั้ย 555+)


ผมเปย์สินค้าของเจ๊แกเยอะมาก เจ๊แกทำอะไรออกมา ผมซื้อเกือบจะแทบทุกงานจริงๆ


แต่อย่างที่บอก ด้วยข้อจำกัดทางด้านเวลา แต่กลับมีเรื่องอยากเล่าออกมามากกว่า

การจะวาดการ์ตูนเป็นเรื่องออกได้แต่ละตอน คงไม่ทันการแน่ๆ


ก็เลยมาเน้นที่การเขียนนิยายแทน (ซึ่งก็ยังต้องมีอะไรปรับปรุงอีกเยอะ)


แต่ก็ไม่ได้ทิ้งงานวาดไปเสียทีเดียว


ขอบคุณมากๆ ครับ

0
Louis Forest 16 ต.ค. 61 เวลา 10:00 น. 12

ส่วนตัวผมมองว่าชีวิตเราไม่จำเป็นต้องให้ใครมาบอกหรอกครับ เพราะไม่มีใครรู้และเข้าใจตัวเราเท่ากับเราเอง


จขกท... คุณตัดสินใจเลยครับ


เพราะจะเขียนนิยาย จะวาดภาพ แบบไหน สไตล์ไหน มันก็ลิมิตที่ความสามารถของเราทั้งนั้น


คุณเชื่อในศักยภาพตัวเองแค่ไหนล่ะ?


ถ้าเชื่อมั่นและแน่วแน่คงไปไกลมากครับ ด้วยพรสวรรค์ที่มี


แต่นั่นแหละ


กว่าจะเป็นโอดะผู้สร้างวันพีซคงต้องผ่านอะไรมาเยอะพอสมควรครับ ที่สำคัญเมื่ออยู่บนจุดสูงสุดจะรักษามาตรฐานและความเป็นที่หนึ่งไว้จนเป็นตำนานได้ก็ต้องทุ่มเทมาก


จขกท พยายามต่อไปครับ อย่าวอกแวก ตั้งใจอะไรก็ทำจริงจัง


ป.ล.


นี่ผมก็บอกตัวเองไปด้วย

1
จิ๊บคุง จิบุจิบุ 16 ต.ค. 61 เวลา 23:24 น. 12-1

ใช่เลยครับ


กว่าจะถึงจุดนั้นได้ ต้องผ่านอะไรไปอีกเยอะจริงๆ

อยากไปถึงจุดนั้นได้อย่างเขา จะมัวแต่มองแล้วตัดพ้อไม่ได้จริงๆ


ขอบคุณมากครับ

0
จิ๊บคุง จิบุจิบุ 16 ต.ค. 61 เวลา 13:22 น. 13

แว่บเข้ามาอ่าน มีคนเข้ามาร่วมตอบเยอะกว่าที่คิดแฮะ

มีหลายความเห็นที่น่าสนใจมากพอสมควร

ยังไงเดี๋ยวผมจะกลับมาตอบ มาคุยอีกทีตอนดึกๆ นะครับ

ตอนนี้ติดงานอยู่ 555+

ขอบคุณมากๆ ครับ

0
ptetsuq 20 ต.ค. 61 เวลา 02:36 น. 14

แบ่งมาให้เราได้นะคะ 55555555555555555


ตอนนี้เราอยากจะจับทั้งงานวาดและงานเขียนเลยค่ะ แต่เรารู้สึกแบบคุณคือตัวเองไปกับงานเขียนได้มากกว่า


ตอนนี้งานวาดเลยเป็นงานอดิเรก ไว้ลงคอมมู วาดเล่นมากกว่า ;();


แต่เราก็อยากวาดเก่งๆนะคะ อยากออกแบบปกนิยายเอง ขี้เกียจคอมมิชค่ะ จนนน 555555555555555

2
จิ๊บคุง จิบุจิบุ 22 ต.ค. 61 เวลา 01:46 น. 14-1

เป็นกำลังใจให้ครับ

ไม่รู้จะแนะนำอะไร นอกจากฝึกฝนอย่างเดียวจริงๆ


ผมเองก็มีไอด้อลด้านการวาดเหมือนกัน ซึ่งก็คือ คุณแกะ

เวลาเห็นงานของคุณแกะทีไร ก็จะแบบ เฮ้ย สวยจัง อยากวาดให้ได้สวยๆ แบบนี้มั่งจัง


(แล้วก็หมดเงินกับการตามเปย์งานคุณแกะตลอด 555+)

0
ptetsuq 22 ต.ค. 61 เวลา 02:42 น. 14-2

เราค่อนข้างหมดไฟง่ายด้วยค่ะ จะวาดเอาตอนที่อยากจะวาดจริง ๆ เลยมีแต่รูปวาดเล่นเต็มไปหมดด


ไอดอลเราค่อนข้างหลายคนเลยค่ะ จริง ๆ เห็นงานใครจะอยากจะจับอมให้หมด ฮืออ ;();

0
จิ๊บคุง จิบุจิบุ 22 ต.ค. 61 เวลา 01:49 น. 15

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์มากๆ ครับ


ตอนแรกกะว่าแค่จะหาเพื่อนคุยเท่านั้น


แต่ไปๆ มาๆ กลับได้แง่คิดอะไรหลายๆ อย่างจริงๆ


ตอนนี้ก็เลย ลองเริ่มต้นจากการวาดหน้าปกนิยายตัวเองดูก่อน


แล้วก็คงต้องหัดใช้เมาส์ปากกา (ที่น้องคนนึงเคยให้ผมมาฟรีๆ เมื่อสองปีที่แล้ว 555+)


กับการลงสีในคอมพ์ฯ ด้วย (ซึ่งผมอ่อนเรื่องลงสีจริงๆ ยอมรับเรื่องนี้สุด)



ขอบคุณมากๆ ครับ


https://image.dek-d.com/27/0335/8591/127711540

1
ptetsuq 22 ต.ค. 61 เวลา 03:02 น. 15-1

เจอปัญหาเดียวกันเลยค่ะ ไม่ถนัดลงสี โดยเฉพาะเงาเสื้อ ตายสนิทจอดตลอด ทุกวันนี้ทำแค่เทเบสสี แล้วปาดเงาลวก ๆ พอ


แต่เวลาเห็นคนลงสีสวย ๆ นุ่ม ๆ แล้วชอบมากค่ะ นี่เล็งงานคนนึงจะไปคอมมิชอยู่ เก็บตังรอเปย์

0
Starslights 23 ต.ค. 61 เวลา 11:46 น. 16

หนูก็วาดรูปนะ แต่วาดคนไม่เก่งเหมือนพี่อ่าค่ะ55 หนูออกแนวน่ารักมากกว่าสวยเหมือนพี่ หนูว่าพี่รักอะไรก็ทำอย่างนั้นเถอะค่ะ เพราะมันเป็นสิ่งที่เรารัก

0